ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 2
บทที่ 2
“อ๊าย...เธอเป็นใครนะ มารับโทรศัพท์ของฟิล์มได้ยังไงกัน” เสียงกรี๊ดจากปลายโทรศัพท์ดังเข้าสู่หูฉันอย่างจัง ขนาดฉันถือโทรศัพท์ออกห่างจากหูสุดแขนเสียงกรี๊ดของเจ้าหล่อนยังดังแสบแก้วหูอยู่เลย เธอน่าจะโดนตำรวจจับข้อหาใช้เสียงดัง 100 เบซิเบล ซึ่งเป็นอันตรายต่อคนรอบข้างนะ -_-^
“ขอโทษนะค่ะ ครั้งต่อไปที่พูดคุณช่วยลดระดับเสียงลงหน่อยได้ไหม ฉันรู้สึกว่าแก้วหูฉันกำลังจะแตกเพราะเสียงของคุณ อ๋อ แล้วคุณเป็นใคร มาถามฉันแต่ตัวเองยังไม่บอกเลยว่าเป็นใคร” ฉันพูดอย่างสุภาพเมื่อหล่อนเงียบเสียงลงแล้ว
“อ๊าย...แกกล้าสั่งฉันหรอ แกเป็นใคร มาสั่งฉันได้ยังไง ฉันชื่อ เชอร์รี่ ย่ะ จำเอาไว้ซะ เป็นแฟนของฟิล์ม” เจ้าหล่อนยังคงใช้เสียงระดับ 100 เบซิเบล พูดกับฉันเหมือนเดิม
“ฉันไม่ได้สั่งคุณ แต่บอกคุณต่างหาก แล้วก็ฉันเป็นใครตอบไม่ได้ค่ะ ถึงแม้คุณจะบอกแล้วว่าคุณเป็นใคร เพราะคุณแม่สอนไว้ว่าอย่าบอกชื่อกับคนบ้า” ฉันตอบกลับไปแม้เนื้อหาประโยคที่พูดจะไม่ค่อยสุภาพเท่าไหร่ แต่น้ำเสียงฉันยังสุภาพเหมือนเดิมนะ พ่อแม่สอนมาดีไงละ ^_^
“อ๊าย...แกว่าฉันว่าเป็นบ้าหรอ แกมีสิทธิ์อะไรมาว่าฉัน”
“ฉันไม่ได้ว่าคุณ แต่ถ้าคุณรู้ตัวก็ดี จะได้รีบรักษา อ๋อ แล้วก็ถ้าคุณยังทำเสียง อ๊าย แล้วก็ใช้เสียงดังพูดกับฉันต่อละก็ฉันจะว่างสายนะค่ะ” ฉันเรียนแบบเสียงกรี๊ดของเธอ แต่ฉันว่าไม่ค่อยเหมือนนะ ฉันทำแล้วดูดีกว่าเธอตั้งเยอะ ฉันว่างั้นนะ ^_^
“อ๊าย...แกล้อเลียนฉันหรอ” เธอยังคงกรี๊ดใส่ฉันและใช้เสียงระดับเดิม ฉันเตือนแล้วนะว่าฉันจะวางสายน่ะถ้ายังทำอย่างนี้ =_=
“เมื่อฉันเตือนแล้วคุณไม่เชื่อ ก็สวัสดีค่ะ” ฉันพูดแล้วรีบกดวางสายไปทันทีก่อนที่เธอจะได้กรี๊ดใส่ฉันอีกรอบ เป็นไงละ ฉันเตือนแล้วไม่เชื่อ ฉันนะพูดจริงทำจริงนะจะบอกให้
“เซ็กซี่...เซ็กซี่...เซ็กซี่” เสียงโทรศัพท์เรียกเข้าของฉันดังขึ้นอีกแล้ว ฉันกดรับอย่างเบื่อๆ ฉันเดาว่าแม่นั่นต้องโทรมาอีกแน่เลย
“นี่เธอ...จำฉันได้ใช่ไหม คนเมื่อกี้ที่เธอคุยด้วยนะ” ใช่แล้ว เสียงแม่นั่นจริงๆด้วย ฉันจำเสียงเธอได้ เสียงเล็กๆแหลมๆ เหมือนกระบือถูกเชือดนะ แต่คราวนี้ดีนะที่เธอใช้ระดับเสียงปกติพูดกับฉัน ไม่งั้นฉันวางสายแน่
ฉันว่าฉันน่าจะไปเล่นเกมเศรษฐีนะ รับรองฉันได้เงินล้านแน่ เพราะฉันเดาเก่งยังไงละ ^_^
“คะ ฉันจำเสียงคุณได้” ฉันตอบอย่างสุภาพตามแบบฉบับเด็กที่พ่อแม่สอนมาดี ^_^
“เธอมารับโทรศัพท์ฟิล์มได้ยังไงนะ”
“ฟิล์ม? ฟิล์มคือใคร คุณพูดเรื่องอะไรฉันไม่รู้เรื่อง” ฉันถามเธออย่างงงๆ ก็จะไม่ให้งงได้ยังไงกันละ ฟิล์มคือใครฉันยังไม่รู้จักเลย -__-\"
“นี่เธออย่ามาทำไขสือนะ ก็เนี่ยโทรศัพท์ของฟิล์มเขา” ยัยนั่นขึ้นเสียงสูงปรี๊ดทันทีที่ฉันตอบไป เดี๋ยวเถอะ บอกแล้วไงว่าไม่ใช้เสียงแบบนี้ เดี๋ยวแม่ก็วางให้หรอก =_=^
“กรุณาใช้เสียงปกติด้วยค่ะ ไม่งั้นฉันจะวางสาย แล้วนี่โทรศัพท์ฉัน ไม่ใช่โทรศัพท์ของฟิล์ม เฟลิม อะไรของคุณหรอก สงสัยคุณคงโทรผิดมั้งค่ะ” ฉันเตือนหล่อน ฉันเป็นคนดีไหมละให้โอกาสคน แล้วก็ตักเตือนเวลาทำผิด พ่อแม่สอนมาดียังไงละ ^_^
“ฉันไม่ได้โทรผิด เบอร์นี่ใช่ 0-9xxx-xxxx ใช่ไหมละ” เธอลดระดับเสียงลงแล้วถามฉัน ดีมาก สอนแล้วจำ เชื่องดี ^_^
“ไม่ใช่ค่ะ เบอร์ฉันไม่ใช่เบอร์นี้” ฉันตอบ
“แต่เครื่องนี้มันเบอร์ 0-9xxx-xxxx น่ะ” ยัยนั่นแย้ง เอ๊ะ หรือว่าตอนนั่น ใช่แล้ว โทรศัพท์ฉันต้องสลับกับนายมารยาททรามแน่ๆเลย >~< อ้าย ตายแล้ว
“สงสัยเราคงหยิบโทรศัพท์สลับกันตอนที่โทรศัพท์ตกนะคะ งั้นแค่นี้ก่อนนะ สวัสดีค่ะ” ฉันพูดแล้วกดวางสายไป แล้วรีบต่อเบอร์มือถือของฉันทันที
“ตู๊ดๆๆๆๆๆ... เลขหมายที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้...” เสียงตอบรับดังขี้นหลังจากสัญญาณสายไม่ได้รับเงียบลง
ฉันกดปิดโทรศัพท์ทันที นี่...นายบังอาจมาปิดเครื่องโทรศัพท์ฉันหรอ อยากตายหรือไงห๊า นายมารยาททราม ถ้าฉันเจอนายเมื่อไหร่นายตายแน่ ฮึ่ม -_-^^
“ดูม มะ จา แระ ดูม มะ จะ แระ...” เสียงโทรศัพท์เรียกเข้าของฉันดังขึ้น เอ๊ะ ไม่ใช่ซิต้องเสียงโทรศัพท์เรียกเข้าของนายมารยาททรามที่อยู่กับฉันดังขึ้นต่างหาก
“ฮัลโล” ฉันกดรับสาย
“อ๊าย...แกเป็นใคร มารับโทรศัพท์ของฟิล์มได้ยังไง” เสียงผู้หญิงอีกคนแล้ว แม่นี่ก็เสียงดังไม่แพ้คนก่อนเลย แถมลักษณะการพูดยังเหมือนกันอีกแหนะ ถอดแบบกันมาเลย =_=
“กรุณาใช้เสียงปกติพูดด้วยคะ ไม่งั้นฉันจะวางสาย แล้วคุณเป็นใคร ถามฉันแต่ตัวยังไม่บอกเลย” ฉันบอกหล่อนอย่างสุภาพ
“ฉันชื่อ เนเน่ ย่ะ เป็นแฟนของฟิล์ม แล้วหล่อนละเป็นใคร” ยัยนั่นลดเสียงลงพูดกับฉัน ยัยนี่เชื่องดีแหะ บอกครั้งเดียวก็ทำตาม ไม่เหมือนยัยเชอร์รี่เน่าเลย ต้องให้เห็นโรงศพก่อนแล้วจึงค่อยหลั่งน้ำตา
“ฉันบอกไม่ได้ค่ะ คุณแม่สอนไว้ว่าอย่าบอกชื่อกับคนหน้าแปลก เอ้ย แปลกหน้า” ฉันจงใจเน้นคำว่า ‘หน้าแปลก’ ลงไปจังๆเลยละ ^_^
“แล้วเธอมารับโทรศัพท์ของฟิล์มได้ยังไงกัน” ยัยนั่นถามต่อ เอ๊ะ ยัยนี่ตอนเด็กๆท่าจะกินปลาน้อย ฉันหลอกด่ายังไม่รู้อีก น่าสงสารจัง ~_~
“โทรศัพท์เราสลับกัน ตอนมันหล่นนะค่ะ เพราะงั้นก็คงไม่มีอะไรแล้ว สวัสดีค่ะ” ฉันตอบแล้วกดวางสายลง
ฉันจะปิดเครื่องไปเลยดีไหมเนี่ย เพราะถ้าฉันเปิดเครื่องต่อ สงสัยคงต้องมีผู้หญิงอีกหลายสายโทรเข้ามาแน่เลย ฉันละเบื่อผู้หญิงพวกนี้จริงๆ มัวแต่เอาเวลามาโทรหาผู้ชาย แทนที่จะเอาเวลาไปเรียน ฉันสงสารพ่อแม่พวกนี้แทนเลยจริงๆ สงสัยนายมารยาททรามต้องเป็นเพลย์บอยสุดฮอตแน่เลย ถึงมีผู้หญิงมากมายรุมเข้ามาอย่างเนี้ย ฉันตัดสินใจปิดเครื่องดีกว่า ฉันปิดเครื่องแล้วเก็บโทรศัพท์เข้าเป้เหมือนเดิม
“เมื่อตอนขึ้นรถ หนูบอกว่าพ่อแม่อยู่ที่บ้านทิพเกสรหรอ” คุณลุงเจ้าปัญหาถามฉันเมื่อเห็นฉันนั่งเงียบดูทางอยู่ ฉันเดาว่าคุณลุงแกคงตั้งใจจะถามตั้งแต่ตอนเจอกันแล้วละ แต่ดันมีโทรศัพท์เข้ามาแกเลยต้องเงียบ
“ใช่คะ คุณลุงมีอะไรหรอค่ะ” ฉันถามคุณลุงเจ้าปัญหาแล้วยิ้มให้ ^_^
“พ่อแม่หนูทำอะไรที่นั่นหรอ” คุณลุงเจ้าปัญหายิ้มตอบฉันแล้วถามต่อ
“ก็ไม่ได้ทำอะไรนิค่ะ ก็แค่อยู่เฉยๆ แต่ท่านไม่ค่อยได้อยู่หรอก เพราะต้องออกไปทำงานข้างนอกบ่อยๆ” ฉันตอบ คุณลุงเจ้าปัญหาจะถามอะไรกันเนี่ย ?-? อยากรู้จริงๆ
“พ่อแม่หนูเป็นอะไรกับเจ้าของบ้านนั้นหรอ”
ฉันรู้แล้วละว่าคุณลุงเจ้าปัญหาจะถามอะไร ที่แท้ก็อยากรู้ว่าฉันเป็นอะไรกับเจ้าของบ้านนั้นนี่เอง
“ก็ไม่ได้เป็นอะไรนิค่ะ” ฉันตอบ
“แล้วหนูละเป็นอะไรกับเจ้าของบ้านนั้น”
“เป็นลูกค่ะ”
“ลูก หนูเป็นลูกชายของเขาหรอ O-O” คุณลุงเจ้าปัญหาทำตาโตอย่างไม่เชี่อทันทีที่บอกว่าเป็นลูกของพ่อแม่ฉัน
“คะ แต่ไม่ใช่ลูกชายเป็นลูกสาวต่างหาก” ฉันตอบ ฉันไม่ใช่ผู้ชายนะยะ ฉันออกจะสวยอย่างนี้ยังดูไม่ออกอีกหรอ เดี๋ยวแม่ก็จับตบให้เลยนิ =_=
“ไปแปลงเพศมาแล้วหรอ O-O น่าสงสารพ่อแม่หนูจริงๆ ลุงก็ว่าแปลกๆตั้งแต่ตอนแรกแล้วละ เห็นพูดค่ะขา” คุณลุงเจ้าปัญหาถามแล้วทำตาโตเท่าไข่ห่าน ก่อนทำเสียงปลงตก
“หนูไม่ได้ไปแปลงเพศมานะคะ หนูเป็นผู้หญิงเต็มตัวตั้งแต่เกิดเลย วันนี้หนูใส่ชุดผู้ชายคุณลุงเลยมองผิดมั้งคะ” ฉันอธิบาย อ๊าย >-< มาว่าหนูว่าเป็นผู้ชายไปแปลงเพศเป็นผู้หญิงได้ไง หนูเป็นผู้หญิงเต็มตัวตั่งแต่เกิดนะค้า อย่ามาว่าเค้าอย่างนี้นะ เค้าไม่ยอมน้า
(o >~~< o)
“อ่าวหรอ ลุงขอโทษที ถึงบ้านพอดีเลย 190 บาทจ๊ะ” คุณลุงจอดรถหน้าบ้านใหญ่หลังหนึ่ง
ฉันหยิบเงินจากกระเป๋าสตางค์ให้ไป 200 บาท แล้วก็สะพายเป้ลงจากรถทันที แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเสียงคุณลุงเจ้าปัญหาเรียกไว้
“เดี๋ยวหนู เอาเงินทอนก่อน” คุณลุงเรียกแล้วรีบหาเหรียญมาทอนฉัน
“ไม่ต้องทอนหรอกคะ หนูไปก่อนนะค่ะ สวัสดีค่ะ” ฉันบอกแล้วยกมือไหว้คุณลุง
“ขอบใจนะหนู” เสียงคุณลุงดังตามไล่หลังมา
ฉันเดินไปกดกริ่งที่บ้านหลังที่คุณลุงมาจอด บ้านทิพเกสร ใช่แล้วละ บ้านฉันเอง ฉันแทบจะจำไม่ได้แนะว่ามันเคยเป็นยังไง ฉันไม่ได้เห็นบ้านหลังนี้มา 9 ปีแล้วซินะ แต่วันนี้ บ้านจ๋า...ฉันกลับมาแล้ว
******************************************************
^จับแป้นคุย^
เมื่อวานเรากะจะเอามาลงตอนที่ 2 และ 3 แต่ก็ไม่ได้ลง คือว่า พอจะลงปุ๊บมันก็ดันเข้าไม่ได้ สงสัยคนคงเข้าเว็บเด็กดีกันเยอะ เครือข่ายเลยรวนมั้ง ยังไงก็ขอโทษ (-/|\\-) แล้วกันนะงับ ที่ลงให้ไม่ได้ตามที่จะลง แต่วันนี้ก็เอาลงให้แล้วน้า (ยังไม่มีคนอ่านเลย - -\" พูดซะ เหมือนมีคนอ่านมากงั้นแหละ)
“อ๊าย...เธอเป็นใครนะ มารับโทรศัพท์ของฟิล์มได้ยังไงกัน” เสียงกรี๊ดจากปลายโทรศัพท์ดังเข้าสู่หูฉันอย่างจัง ขนาดฉันถือโทรศัพท์ออกห่างจากหูสุดแขนเสียงกรี๊ดของเจ้าหล่อนยังดังแสบแก้วหูอยู่เลย เธอน่าจะโดนตำรวจจับข้อหาใช้เสียงดัง 100 เบซิเบล ซึ่งเป็นอันตรายต่อคนรอบข้างนะ -_-^
“ขอโทษนะค่ะ ครั้งต่อไปที่พูดคุณช่วยลดระดับเสียงลงหน่อยได้ไหม ฉันรู้สึกว่าแก้วหูฉันกำลังจะแตกเพราะเสียงของคุณ อ๋อ แล้วคุณเป็นใคร มาถามฉันแต่ตัวเองยังไม่บอกเลยว่าเป็นใคร” ฉันพูดอย่างสุภาพเมื่อหล่อนเงียบเสียงลงแล้ว
“อ๊าย...แกกล้าสั่งฉันหรอ แกเป็นใคร มาสั่งฉันได้ยังไง ฉันชื่อ เชอร์รี่ ย่ะ จำเอาไว้ซะ เป็นแฟนของฟิล์ม” เจ้าหล่อนยังคงใช้เสียงระดับ 100 เบซิเบล พูดกับฉันเหมือนเดิม
“ฉันไม่ได้สั่งคุณ แต่บอกคุณต่างหาก แล้วก็ฉันเป็นใครตอบไม่ได้ค่ะ ถึงแม้คุณจะบอกแล้วว่าคุณเป็นใคร เพราะคุณแม่สอนไว้ว่าอย่าบอกชื่อกับคนบ้า” ฉันตอบกลับไปแม้เนื้อหาประโยคที่พูดจะไม่ค่อยสุภาพเท่าไหร่ แต่น้ำเสียงฉันยังสุภาพเหมือนเดิมนะ พ่อแม่สอนมาดีไงละ ^_^
“อ๊าย...แกว่าฉันว่าเป็นบ้าหรอ แกมีสิทธิ์อะไรมาว่าฉัน”
“ฉันไม่ได้ว่าคุณ แต่ถ้าคุณรู้ตัวก็ดี จะได้รีบรักษา อ๋อ แล้วก็ถ้าคุณยังทำเสียง อ๊าย แล้วก็ใช้เสียงดังพูดกับฉันต่อละก็ฉันจะว่างสายนะค่ะ” ฉันเรียนแบบเสียงกรี๊ดของเธอ แต่ฉันว่าไม่ค่อยเหมือนนะ ฉันทำแล้วดูดีกว่าเธอตั้งเยอะ ฉันว่างั้นนะ ^_^
“อ๊าย...แกล้อเลียนฉันหรอ” เธอยังคงกรี๊ดใส่ฉันและใช้เสียงระดับเดิม ฉันเตือนแล้วนะว่าฉันจะวางสายน่ะถ้ายังทำอย่างนี้ =_=
“เมื่อฉันเตือนแล้วคุณไม่เชื่อ ก็สวัสดีค่ะ” ฉันพูดแล้วรีบกดวางสายไปทันทีก่อนที่เธอจะได้กรี๊ดใส่ฉันอีกรอบ เป็นไงละ ฉันเตือนแล้วไม่เชื่อ ฉันนะพูดจริงทำจริงนะจะบอกให้
“เซ็กซี่...เซ็กซี่...เซ็กซี่” เสียงโทรศัพท์เรียกเข้าของฉันดังขึ้นอีกแล้ว ฉันกดรับอย่างเบื่อๆ ฉันเดาว่าแม่นั่นต้องโทรมาอีกแน่เลย
“นี่เธอ...จำฉันได้ใช่ไหม คนเมื่อกี้ที่เธอคุยด้วยนะ” ใช่แล้ว เสียงแม่นั่นจริงๆด้วย ฉันจำเสียงเธอได้ เสียงเล็กๆแหลมๆ เหมือนกระบือถูกเชือดนะ แต่คราวนี้ดีนะที่เธอใช้ระดับเสียงปกติพูดกับฉัน ไม่งั้นฉันวางสายแน่
ฉันว่าฉันน่าจะไปเล่นเกมเศรษฐีนะ รับรองฉันได้เงินล้านแน่ เพราะฉันเดาเก่งยังไงละ ^_^
“คะ ฉันจำเสียงคุณได้” ฉันตอบอย่างสุภาพตามแบบฉบับเด็กที่พ่อแม่สอนมาดี ^_^
“เธอมารับโทรศัพท์ฟิล์มได้ยังไงนะ”
“ฟิล์ม? ฟิล์มคือใคร คุณพูดเรื่องอะไรฉันไม่รู้เรื่อง” ฉันถามเธออย่างงงๆ ก็จะไม่ให้งงได้ยังไงกันละ ฟิล์มคือใครฉันยังไม่รู้จักเลย -__-\"
“นี่เธออย่ามาทำไขสือนะ ก็เนี่ยโทรศัพท์ของฟิล์มเขา” ยัยนั่นขึ้นเสียงสูงปรี๊ดทันทีที่ฉันตอบไป เดี๋ยวเถอะ บอกแล้วไงว่าไม่ใช้เสียงแบบนี้ เดี๋ยวแม่ก็วางให้หรอก =_=^
“กรุณาใช้เสียงปกติด้วยค่ะ ไม่งั้นฉันจะวางสาย แล้วนี่โทรศัพท์ฉัน ไม่ใช่โทรศัพท์ของฟิล์ม เฟลิม อะไรของคุณหรอก สงสัยคุณคงโทรผิดมั้งค่ะ” ฉันเตือนหล่อน ฉันเป็นคนดีไหมละให้โอกาสคน แล้วก็ตักเตือนเวลาทำผิด พ่อแม่สอนมาดียังไงละ ^_^
“ฉันไม่ได้โทรผิด เบอร์นี่ใช่ 0-9xxx-xxxx ใช่ไหมละ” เธอลดระดับเสียงลงแล้วถามฉัน ดีมาก สอนแล้วจำ เชื่องดี ^_^
“ไม่ใช่ค่ะ เบอร์ฉันไม่ใช่เบอร์นี้” ฉันตอบ
“แต่เครื่องนี้มันเบอร์ 0-9xxx-xxxx น่ะ” ยัยนั่นแย้ง เอ๊ะ หรือว่าตอนนั่น ใช่แล้ว โทรศัพท์ฉันต้องสลับกับนายมารยาททรามแน่ๆเลย >~< อ้าย ตายแล้ว
“สงสัยเราคงหยิบโทรศัพท์สลับกันตอนที่โทรศัพท์ตกนะคะ งั้นแค่นี้ก่อนนะ สวัสดีค่ะ” ฉันพูดแล้วกดวางสายไป แล้วรีบต่อเบอร์มือถือของฉันทันที
“ตู๊ดๆๆๆๆๆ... เลขหมายที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้...” เสียงตอบรับดังขี้นหลังจากสัญญาณสายไม่ได้รับเงียบลง
ฉันกดปิดโทรศัพท์ทันที นี่...นายบังอาจมาปิดเครื่องโทรศัพท์ฉันหรอ อยากตายหรือไงห๊า นายมารยาททราม ถ้าฉันเจอนายเมื่อไหร่นายตายแน่ ฮึ่ม -_-^^
“ดูม มะ จา แระ ดูม มะ จะ แระ...” เสียงโทรศัพท์เรียกเข้าของฉันดังขึ้น เอ๊ะ ไม่ใช่ซิต้องเสียงโทรศัพท์เรียกเข้าของนายมารยาททรามที่อยู่กับฉันดังขึ้นต่างหาก
“ฮัลโล” ฉันกดรับสาย
“อ๊าย...แกเป็นใคร มารับโทรศัพท์ของฟิล์มได้ยังไง” เสียงผู้หญิงอีกคนแล้ว แม่นี่ก็เสียงดังไม่แพ้คนก่อนเลย แถมลักษณะการพูดยังเหมือนกันอีกแหนะ ถอดแบบกันมาเลย =_=
“กรุณาใช้เสียงปกติพูดด้วยคะ ไม่งั้นฉันจะวางสาย แล้วคุณเป็นใคร ถามฉันแต่ตัวยังไม่บอกเลย” ฉันบอกหล่อนอย่างสุภาพ
“ฉันชื่อ เนเน่ ย่ะ เป็นแฟนของฟิล์ม แล้วหล่อนละเป็นใคร” ยัยนั่นลดเสียงลงพูดกับฉัน ยัยนี่เชื่องดีแหะ บอกครั้งเดียวก็ทำตาม ไม่เหมือนยัยเชอร์รี่เน่าเลย ต้องให้เห็นโรงศพก่อนแล้วจึงค่อยหลั่งน้ำตา
“ฉันบอกไม่ได้ค่ะ คุณแม่สอนไว้ว่าอย่าบอกชื่อกับคนหน้าแปลก เอ้ย แปลกหน้า” ฉันจงใจเน้นคำว่า ‘หน้าแปลก’ ลงไปจังๆเลยละ ^_^
“แล้วเธอมารับโทรศัพท์ของฟิล์มได้ยังไงกัน” ยัยนั่นถามต่อ เอ๊ะ ยัยนี่ตอนเด็กๆท่าจะกินปลาน้อย ฉันหลอกด่ายังไม่รู้อีก น่าสงสารจัง ~_~
“โทรศัพท์เราสลับกัน ตอนมันหล่นนะค่ะ เพราะงั้นก็คงไม่มีอะไรแล้ว สวัสดีค่ะ” ฉันตอบแล้วกดวางสายลง
ฉันจะปิดเครื่องไปเลยดีไหมเนี่ย เพราะถ้าฉันเปิดเครื่องต่อ สงสัยคงต้องมีผู้หญิงอีกหลายสายโทรเข้ามาแน่เลย ฉันละเบื่อผู้หญิงพวกนี้จริงๆ มัวแต่เอาเวลามาโทรหาผู้ชาย แทนที่จะเอาเวลาไปเรียน ฉันสงสารพ่อแม่พวกนี้แทนเลยจริงๆ สงสัยนายมารยาททรามต้องเป็นเพลย์บอยสุดฮอตแน่เลย ถึงมีผู้หญิงมากมายรุมเข้ามาอย่างเนี้ย ฉันตัดสินใจปิดเครื่องดีกว่า ฉันปิดเครื่องแล้วเก็บโทรศัพท์เข้าเป้เหมือนเดิม
“เมื่อตอนขึ้นรถ หนูบอกว่าพ่อแม่อยู่ที่บ้านทิพเกสรหรอ” คุณลุงเจ้าปัญหาถามฉันเมื่อเห็นฉันนั่งเงียบดูทางอยู่ ฉันเดาว่าคุณลุงแกคงตั้งใจจะถามตั้งแต่ตอนเจอกันแล้วละ แต่ดันมีโทรศัพท์เข้ามาแกเลยต้องเงียบ
“ใช่คะ คุณลุงมีอะไรหรอค่ะ” ฉันถามคุณลุงเจ้าปัญหาแล้วยิ้มให้ ^_^
“พ่อแม่หนูทำอะไรที่นั่นหรอ” คุณลุงเจ้าปัญหายิ้มตอบฉันแล้วถามต่อ
“ก็ไม่ได้ทำอะไรนิค่ะ ก็แค่อยู่เฉยๆ แต่ท่านไม่ค่อยได้อยู่หรอก เพราะต้องออกไปทำงานข้างนอกบ่อยๆ” ฉันตอบ คุณลุงเจ้าปัญหาจะถามอะไรกันเนี่ย ?-? อยากรู้จริงๆ
“พ่อแม่หนูเป็นอะไรกับเจ้าของบ้านนั้นหรอ”
ฉันรู้แล้วละว่าคุณลุงเจ้าปัญหาจะถามอะไร ที่แท้ก็อยากรู้ว่าฉันเป็นอะไรกับเจ้าของบ้านนั้นนี่เอง
“ก็ไม่ได้เป็นอะไรนิค่ะ” ฉันตอบ
“แล้วหนูละเป็นอะไรกับเจ้าของบ้านนั้น”
“เป็นลูกค่ะ”
“ลูก หนูเป็นลูกชายของเขาหรอ O-O” คุณลุงเจ้าปัญหาทำตาโตอย่างไม่เชี่อทันทีที่บอกว่าเป็นลูกของพ่อแม่ฉัน
“คะ แต่ไม่ใช่ลูกชายเป็นลูกสาวต่างหาก” ฉันตอบ ฉันไม่ใช่ผู้ชายนะยะ ฉันออกจะสวยอย่างนี้ยังดูไม่ออกอีกหรอ เดี๋ยวแม่ก็จับตบให้เลยนิ =_=
“ไปแปลงเพศมาแล้วหรอ O-O น่าสงสารพ่อแม่หนูจริงๆ ลุงก็ว่าแปลกๆตั้งแต่ตอนแรกแล้วละ เห็นพูดค่ะขา” คุณลุงเจ้าปัญหาถามแล้วทำตาโตเท่าไข่ห่าน ก่อนทำเสียงปลงตก
“หนูไม่ได้ไปแปลงเพศมานะคะ หนูเป็นผู้หญิงเต็มตัวตั้งแต่เกิดเลย วันนี้หนูใส่ชุดผู้ชายคุณลุงเลยมองผิดมั้งคะ” ฉันอธิบาย อ๊าย >-< มาว่าหนูว่าเป็นผู้ชายไปแปลงเพศเป็นผู้หญิงได้ไง หนูเป็นผู้หญิงเต็มตัวตั่งแต่เกิดนะค้า อย่ามาว่าเค้าอย่างนี้นะ เค้าไม่ยอมน้า
(o >~
“อ่าวหรอ ลุงขอโทษที ถึงบ้านพอดีเลย 190 บาทจ๊ะ” คุณลุงจอดรถหน้าบ้านใหญ่หลังหนึ่ง
ฉันหยิบเงินจากกระเป๋าสตางค์ให้ไป 200 บาท แล้วก็สะพายเป้ลงจากรถทันที แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเสียงคุณลุงเจ้าปัญหาเรียกไว้
“เดี๋ยวหนู เอาเงินทอนก่อน” คุณลุงเรียกแล้วรีบหาเหรียญมาทอนฉัน
“ไม่ต้องทอนหรอกคะ หนูไปก่อนนะค่ะ สวัสดีค่ะ” ฉันบอกแล้วยกมือไหว้คุณลุง
“ขอบใจนะหนู” เสียงคุณลุงดังตามไล่หลังมา
ฉันเดินไปกดกริ่งที่บ้านหลังที่คุณลุงมาจอด บ้านทิพเกสร ใช่แล้วละ บ้านฉันเอง ฉันแทบจะจำไม่ได้แนะว่ามันเคยเป็นยังไง ฉันไม่ได้เห็นบ้านหลังนี้มา 9 ปีแล้วซินะ แต่วันนี้ บ้านจ๋า...ฉันกลับมาแล้ว
******************************************************
^จับแป้นคุย^
เมื่อวานเรากะจะเอามาลงตอนที่ 2 และ 3 แต่ก็ไม่ได้ลง คือว่า พอจะลงปุ๊บมันก็ดันเข้าไม่ได้ สงสัยคนคงเข้าเว็บเด็กดีกันเยอะ เครือข่ายเลยรวนมั้ง ยังไงก็ขอโทษ (-/|\\-) แล้วกันนะงับ ที่ลงให้ไม่ได้ตามที่จะลง แต่วันนี้ก็เอาลงให้แล้วน้า (ยังไม่มีคนอ่านเลย - -\" พูดซะ เหมือนมีคนอ่านมากงั้นแหละ)
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น