คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Stubborn people
2
Stubborn people
"นี่ จะยืนเป็นตอไม้อยู่อีกนานไหม นั่งสิฟะ"
"อื้ม รู้แล้วน่า"
ร่างบางจำใจต้องนั่งลงตามคำสั่งของคนหัวร้อน ถ้าขืนเธอวิ่งหนีออกไปตอนนี้
มีแตกตื่นกันทั้งบ้านแน่ ไคยะวางกระเป๋าลงแล้วหยิบรายงานขึ้นมาวางบนโต๊ะทำงานของบาคุโก
"ฉันไม่ระเบิดรายงานเธออีกรอบหรอกน่าไม่ต้องระแวงหรอกยัยดื้อ เออแล้วอีกอย่างถุงมือน่ะ ถอดได้ละ เกะกะลูกตา"
บาคุโกมองถุงมือสีขาวเรียบบนมือเรียวของไคยะ หงุดหงิดลูกตาชะมัด เห็นใส่ตั้งแต่เมื่อวานละนี่ก็ฤดูร้อนนะไม่ใช่ฤดูหนาวจะใส่ทำซากอะไร
"เราแพ้ฝุ่นน่ะ ถอดไม่ได้หรอก"
"แพ้ฝุ่น? มันเข้าถ้าจมูกไม่ใช่รึไง"
"เราแพ้ฝุ่นแบบมือสัมผัสไงบาคุโก"
"เออ ทำไมไม่อธิบายแบบนี้ตั้งแต่แรกละ"
"เราไม่คิดว่าบาคุโกจะฉลาดน้อยหนิ"
ไคยะก้มหน้าบ่นอุบอิบ
"ครั้งนี้ฉันได้ยินนะ ยัยหัวสายไหม!"
โป๊ก!
ด้ามปากกาถูกเคาะลงมาที่หัวเธอหนึ่งที โทษฐานแอบด่าเขา
ไคยะยกมือขึ้นลูบหัวตัวเองปอยๆแล้วจึงก้มหน้าทำงานรายงานต่อโดยไม่สนใจที่จะทะเลาะกับเขา
เกิดความเงียบขึ้นภายในห้อง ทั้งสองคนตั้งใจทำงานโดยไม่สนใจกันและกัน จนกระทั่งตะวันลับขอบฟ้า
ไคยะไม่รู้ว่ามันลับขอบฟ้าไปตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่มันเร็วมากจริงๆ
ต้องยอมรับเลยว่าบาคุโก เป็นคนตั้งใจทำงานมาก รายงานที่เขาเขียนออกมามีคุณภาพไปหมด ขนาดเธอที่เป็นผู้หญิงยังต้องอาย
"หนูไคยะ พักกินขนมก่อนนะลูก"
มิทซุกิเดินเข้ามาในห้องพร้อมถาดขนมเค้กในมือ เธอเดินมาลูบหัวไคยะต่างจากบาคุโกที่มะเหงกให้เพราะหมั่นไส้ในความอวดเก่งของลูกชาย
"ขอบคุณนะคะคุณแม่"
ไคยะละสายตาจากอักษรตัวบรรจง แล้วหันหน้าไปขอบคุณคุณนายบ้านบาคุโกแทน
คนหัวร้อนที่ได้ยินก็รีบวางปากกาเสียงดังตึงตัง หันมาตะคอกใส่เธอ
"นี่ เลิกเรียกยัยป้าว่าแม่ได้แล้วยัยหัวลูกอมเธอไม่มีสิทธิเรียกสักหน่อย!"
ป้าบ!
"ทำไมจะไม่มีสิทธิเรียกหะไอ้ลูกบ้า สิทธิที่จะเรียกฉันว่าอะไรมันก็ต้องขึ้นอยู่กับฉันสิหะ!"
"แล้วตีฉันทำไมเนี่ย ฉันเจ็บนะยัยป้า สองรอบแล้วด้วย!"
"ตีโทษฐานที่แกพูดอะไรไม่ดีนะสิแล้วเสียงตะคอกน่ะ เลิกตะคอกได้นะแล้ว! อย่าลืมพักกินขนมนะหนูไคยะแม่ไปก่อนนะลูก อยู่ตรงนี้แล้วปวดสมอง"
"ชิ ไปได้ก็ดี"
บาคุโกจิปากมองแม่ของตัวเองเดินออกไปจากห้อง คนอะไรนิสัยหัวร้อนชะมัด
"กินขนมซะสิ"
"นายกินก่อนสิ"
"ยัยป้าไม่วางยาอะไรเธอหรอกน่า"
ไม่ได้กลัวถูกวางยาสักหน่อย ก็แค่เจ้าบ้านต้องเปิดกินก่อนไม่ใช่หรอ
"อื้ม กินก็กิน"
ไคยะตักเค้กช็อกโกแลตขึ้นมาทาน เพราะคาดว่าเค้กวนิลาที่อยู่ใกล้ๆกันเป็นของบาคุโก แต่เหมือนเธอจะคิดผิด
"เฮ้! เธอกินของฉันทำไมเนี่ย"
"อ้าว นายไม่บอกเราว่าอยากกินเค้กช็อกโกแลตนี่"
"ก็คิดว่ารู้ไง เธอนี่มันซื่อบื้อจริงๆ"
บาคุโกแย่งช้อนจากมือไคยะ ตักเค้กช็อกโกแลตเข้าปากตัวเองแทน
หมาบ้าหัวร้อนแย่งช้อนคนหน้านิ่ง ไคยะไม่อยากจะยอมรับสักเท่าไหร่ว่าตัวเองเขิน ก็มันเป็นครั้งแรกที่ถูกแย่งช้อนกินหนิ
"เอาช้อนเราไปใช้ทำไม ช้อนนายก็มี"
คนด้านหน้าเริ่มงอแงเหมือนเด็กที่ถูกแย้งของเล่น ถึงจะเขินอยู่บ้าง แต่บาคุโก ก็ต้องใช้ช้อนตัวเองนะ
"ขี้เกียจล้าง หลังจากที่เธอกลับบ้านฉันก็ต้องล้างจานคนเดียวนะเฟ้ย มันไม่ง่ายเลยนะ"
งานบ้านกับผู้ชายไม่ค่อยเข้ากันสักเท่าไหร่ ทฤษฎีนี่คงจะเป็นจริงของใครหลายๆคน
"เดี๋ยวเราล้างให้ก็ได้นี่น่า"
"ยัยป้าก็บ่นฉันตายน่ะสิ"
บาคุโก วางช้อนลง หันหน้าไปสนใจรายงานตรงหน้าต่อ คุยเก่งผิดกับตอนอยู่ในห้องเรียนอีกนะเนี่ย
"บาคุโกส่วนของเราเสร็จแล้วนะ ส่วนของนายเสร็จรึยัง"
ไคยะเลิกกินเค้ก แล้วหันหน้าไปสนใจกับการช่วยบาคุโกทำปกรายงานต่อ ถึงเจ้าตัวจะพยายามกันไม่ให้เธอช่วยก็เถอะ
"อย่ามายุ่ง"
"บาคุโกเรารีบกลับบ้าน ให้เราช่วยทำเถอะ"
"ไม่มีทาง โทรไปบอกคนที่บ้านเธอซะว่าวันนี้เธอจะกลับดึก"
"เห้! เราก็อยากกลับบ้านเป็นเหมือนกันนะบาคุโก"
"ฉันก็ไม่ให้เธอทำอยู่ดี"
"เราอยากช่วย"
"ไม่ให้ช่วย"
"บาคุโก คัตสึกิ!"
"จะทำก็ทำไป"
สุดท้ายคนหัวร้อนก็ต้องยอมให้ไคยะช่วยทำงาน เพราะถ้าไม่ยอมคนดื้อด้านก็จะเถียงเขาจนกว่าเขาจะยอม
30 นาทีผ่านไป
และแล้วเวลาก็ผ่านไป ทั้งสองคนช่วยกันทำรายงานจนเสร็จตั้งแต่ทำปกจนถึงรวมเล่ม
ไคยะบิดขี้เกียจเล็กน้อยก่อนจะทิ้งตัวนอนแผ่บนพื้นพรม
"โอ๊ย เสร็จสักทีรู้สึกดีชะมัด"
"พูดมากน่ารำคาญยัยหัวสายไหม"
"นี่ เรากลับบ้านได้แล้วใช่ไหม!"
"เออ"
ไคยะรีบเด้งตัวขึ้นมาจากพื้น กวาดข้าวของ ของตัวเองเข้ากระเป๋า เช็คดูความเรียบร้อยแล้วลุกขึ้นยืน เตรียมพร้อมออกจากห้อง
ราวกับนักโทษที่พึ่งถูกปลดปล่อยออกจากที่คุมขังก็ไม่ปาน
"ฉันจะไปส่ง"
"โอเค"
บาคุโกเดินนำเธอลงมาจากห้อง ด้วยขนาดบ้านของบาคุโกที่ไม่ได้เล็กมากหรือใหญ่มากจนเกินไป
ทำให้ไคยะรู้สึกอบอุ่น
บาคุโกเป็นผู้ชายที่น่าอิจฉาที่สุดในสายตาของคุณหนูไคยะเป็นอย่างมาก ถึงเธอจะเพียบพร้อมมีเงินมากมายมหาศาล มีอัตราลักษณ์สุดโกง แต่มันก็ไม่เคยทำให้เธอรู้สึกดีและอบอุ่นเลยด้วยซ้ำ แตกต่างจากบ้านบาคุโกที่ดูมีความสุขเหลือล้น
"อ้าว หนูไคยะจะกลับแล้วเหรอลูก"
มิทซุกิที่เห็นทั้งสองลงมาจากบันไดเธอก็รีบเชิญชวนว่าที่ลูกสะใภ้ในอนาคตมานั่งกินข้าวด้วยกันทันที
คนนี้แหละต้องมาเป็นลูกสะใภ้ฉันในอนาคต มิทซุกิ มั่นใจ
"ค่ะ คุณแม่"
"ถ้าไม่ว่าอะไรอยู่กินข้าวกับแม่สักมื้อได้ไหมลูก ถือเป็นการขอบคุณ ที่ทนอยู่กับไอ้ลูกบ้าจนงานเสร็จได้"
"นี่พูดบ้าอะไรออกมาหะยัยป้า"
"ขอรบกวนด้วยนะคะ"
"ห๊าา!"
"แค่นี้ไม่รบกวนหรอกจ๊ะ มาๆ มานั่งด้วยกันเลย แกไอ้ลูกบ้าไปตักข้าวมาให้หนูไคยะสิ"
"ก็ให้ไปตักเองสิ อยากกินเองไม่ใช่รึไง"
"จะตักไม่ตักหะไอ้ลูกบ้า!"
"เออ! ตักก็ตัก"
"นี่ ข้าวเธอ"
มือบางรับจานข้าวจากคนหัวร้อน ไม่คิดเลยว่าชีวิตนี้จะได้มารู้จักกับอันธพาลประจำห้องอย่างเขา
"ขอบคุณนะ"
"รีบๆกินเถอะจะไปส่ง"
"อื้ม!"
ไคยะไม่รอช้ารีบตักข้าวขึ้นมาทานพร้อมบาคุโก
นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของไคยะ ที่ได้นั่งกินข้าวและพูดคุยกันในบ้านของเพื่อนร่วมชั้น ปกติโมเมนต์นี่จะไม่เกิดขึ้นในชีวิตของเธอหรอก
เพราะเป็นลูกคุณหนูที่ถูกชุบเลี้ยงมาอย่างดี สังคมโดยรอบจึงมีแต่พวกขี้อิจฉาและคอยหาเรื่องอยู่ตลอดไคยะ พยายามทำตัวเป็นวิญญาณของห้องให้มากที่สุด
เพราะเธอไม่อยากจะมีเรื่องกับใคร เธอรู้จักเขา เขาไม่รู้จักเธอ
นั่นมันก็ดีต่อชีวิตของเธอมากแล้ว ยิ่งคนรู้จักเธอน้อย ก็ยิ่งดี
-จบตอน-
ปมเบื้องหลังน้อง เยอะมากจ้า กว่าน้องจะมาเป็นน้อง คือ ไรท์นี้คิดเยอะม๊ากกก
ไรท์พึ่งมาเขียนบรรยายอะไรแบบนี้ ผู้อ่านรู้สึกว่ามันเป็นยังไงบ้างค่ะ*0*
ความคิดเห็น