คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : EP.00 💋 Prologue (2)
นับตั้งแต่วันที่ครอบครัวใหม่กลับมา ทั้งแม่และ ‘จาง เหมา’ หรือ คุณมาร์ค พ่อเลี้ยงของฉันก็เอาแต่ทำงานกันหามรุ่งหามค่ำ เพราะ KBB CORPORATE มีแพลว่าจะทำสนามแข่งรถแห่งใหม่ที่ประเทศไทย ทั้ง 2 จึงวุ่นๆไม่มีเวลามาดูแลพวกเรา 2 คน ภาระดูแลเว่ยหลงจึงตกมาเป็นของฉันอย่างเลี่ยงไม่ได้ครั้นจะไม่ดูแลเขาแม่ก็ขู่จะลดค่าขนมฉันลูกเดียว เพราะแบบนั้นสาวแกร่งอย่างฉันจึงต้องยอมจำนนไปรับไปส่งเว่ยหลงที่โรงเรียนอินเตอร์ซึ่งมันก็อยู่ห่างไกลจากบ้าน (มากกกกกก!) ไหนจะต้องไปส่งเขาเรียนดนตรี เรียนสเก็ตบอร์ด เรียนขี่ม้า เรียนขับรถ สารพัดงานอดิเรกที่มนุษย์ปกติเขาไม่ค่อยทำกันอีก!
แต่โอกาสแก้เผ็ดฉันก็มีนะ ด้วยความที่เราอยู่ด้วยกันบ่อยสุดในบ้าน ทั้งเรื่องอาหารหรือของที่ชอบไม่ชอบ ฉันรู้จัก จาง เว่ยหลง ดีในระดับนึงเลยทีเดียว ฉันรู้ว่าเขาไม่กินเผ็ดฉันก็ทำมื้อเย็นเป็นข้าวผัดน้ำพริกเปิดนรกสูตรนางมารให้เขากิน เขาไม่ชอบใส่เสื้อผ้าสีสันฉูดฉาดฉันก็ซื้อทั้งเสื้อนอกชั้นในสีแดงให้เขาใส่จนล้นตู้ เขาไม่ชอบเสียงดัง ฉันก็นัดเพื่อนมาจัดปาร์ตี้ที่บ้านทุกวันหยุดรวมทั้งวันนักขัตฤกษ์ด้วย
ชีวิตประจำวันของฉันกับเว่ยหลงดำเนินไปเหมือนเส้นคู่ขนาดที่ไม่มีวันเวียนมาบรรจบกันได้ จนกระทั่งวันนึง....
ติ๊งติง!
เฟย์ : ว่าไงไอ้นางมาร เจอน้องมึงยัง
‘เฟย์’ 1 ใน 3 เพื่อนสนิทของฉันตั้งแต่สมัยมอปลายทักไลน์มาหาเป็นจังหวะเดียวกับที่ฉันเพิ่งเดินข้ามสะพานมาถึงฝั่งหน้าโรงเรียนอินเตอร์ของเว่ยหลงพอดี
เฌอ : ยัง กูเพิ่งข้ามสะพานมาเองเนี่ย
มายมิ้น : ป่านี้จะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้สุดหล่อของเจ้
เฟย์ : ไอ้เฌอ ไอ้พี่ใจร้าย แทนที่จะโทรบอกให้น้องมึงนั่งรถกลับบ้านไปก่อน รู้ทั้งรู้ว่าวันนี้ห้องเราทำฉากกัน
โมเดล : ใช่ ส่งข้อความบอกสักนิดก็ยังดี
โมเดล : น้องเขาไม่ได้ข้ามน้ำข้ามทะเลมาให้มึงแกล้งนะเว้ย
มายมิ้น : เดินไปสำนึกไปเลยมึง
มายมิ้น : ระวังเหอะมึง น้องมึงยิ่งหล่อๆอยู่ด้วย ถ้าโดนฉุดไปจะทำยังไง คิดสิคิดสิคิดสิคิดสิคิดสิ
เฟย์ : อาอิชิเตรุ
อะไรของพวกมันวะเนี่ย!!!
ฉันถึงกับกรอกตามองบนขณะอ่านแชทไร้สาระนี้จบ แต่ในจังหวะกรอกตานั้นเองฉันก็เหลือบไปเห็นเด็กหนุ่มวัยฮอร์โมนส์คนนึงกำลังยืนคุยอยู่กับชายสวมเสื้อเชิ้ตฮาวายท่าทางไม่น่าไว้ใจคนนึงกำลังยืนคุยกับเขาอยู่
เด็กหนุ่มคนนั้นคือเว่ยหลงอย่างไม่ต้องสืบ แต่ผู้ชายคนนั้นนี่สิ หน้ามันคุ้นๆอยู่นะ...... อ๋อ! จำได้แล้ว! นั่นมันไอ้ ‘นิค’ นี่!
นิค หรือ นิรัช เลิศชูศรี เป็นเพื่อนในห้องสมัยมอปลายของฉัน เท่าที่จำเรื่องราวของหมอนี่ได้ นิคค่อนข้างไม่เอาถ่าน เสเพล ขาดเรียนบ่อยๆ งานกลุ่มก็ไม่ใส่ใจ คบแต่เพื่อนไม่เอาไหนเหมือนกัน ตอน ม.5 นิคลาออกกลางคันเพราะมีปัญหาทางบ้าน ฉันแอบได้ยินเพื่อนๆเม้าส์กันว่าบ้านนิคล้มละลายจากการกู้หนี้นอกระบบ เรื่องของนิคจึงหายไปจากวงโคจรของฉันจนกระทั่งวันที่ฉันเรียนจบมอปลาย
ในวันจบพิธีการศึกษาฉันบังเอิญเห็นนิคยืนคุยบางอย่างกับน้องชายของโมเดลที่ชื่อ ‘ทอย’ ตอนแรกก็ว่าจะไม่สนใจแต่พอเห็นไอ้นิคกำลังจะใช้กำลังบังคับทอยให้ทำอะไรบางอย่างฉันจึงเดินเข้าไปขวางทันที ทอยมีอาการเลิ่กลั่กรีบวิ่งมาหลบหลังฉันแล้วกระซิบบอกฉันเบาๆว่าคนคนนี้กำลังกดดันให้เขาไปรับงานเป็นเด็กเอ็นฯ (เอ็นเตอเทนในงานปาร์ตี้หรืออื่นๆตามที่ผู้ว่าจ้างต้องการ) ดูทรงแล้วฉันก็เดาได้ทันทีว่าไอ้นิคคงมีอาชีพเสริมเป็นพ่อเล้าไปแล้วแหงๆ เด็กโรงเรียนอินเตอร์มีแต่คนหน้าตาดีๆเกรดพรีเมี่ยมทั้งนั้น ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมไอ้นิคถึงต้องมาดักเจอเด็กหนุ่มหล่อๆในโรงเรียนนี้ เมื่อพอรู้เรื่องคร่าวๆจากทอยแล้วฉันจึงขู่ไอ้นิคไปว่า
“กูเตือนมึงไว้ก่อนเลยนะ มึงจะไปทำระยำกับใครก็ได้ยกเว้นคนใกล้ตัวกู วันนี้ลุงกูมาโรงเรียนด้วย อยากไปสวัสดีลุงกูหน่อยไหม?”
แน่นอนว่าพวกที่ทำเรื่องผิดกฎหมายมันไม่ค่อยอยากเจอตำรวจอยู่แล้ว ครั้งนั้นฉันจึงปกป้องทอยจากนิคมาได้ แล้วมาครั้งนี้ มันยังจะมาล่อซื้อเว่ยหลงอีกเหรอ ยังไม่เลิกทำอาชีพบ้าๆนั่นอีกรึไง!
“เว่ยหลง!”
ฉันเดินตะฟัดตะเฟียดไปฉุดแขนเว่ยหลงออกมาจากวงสนทนานั่นอย่างไร้มารยาท
“พี่เฌ...”
“มัวยืนทำหน้าบื้ออยู่ได้ ฉันมารับแล้วยังไม่รีบตามมาอีก”
แม้เว่ยหลงจะยังงงๆกับอาการผีเข้าผีออกของฉันแต่เขาก็ยอมให้ฉันลากเขาออกมาจากตรงนั้นแต่โดยดีโดยไม่หือไม่อืออะไรทั้งสิ้น
“ดะ..เดี๋ยวสิ! นั่นเฌอใช่ไหม!?”
เสียงของไอ้นิคไล่ตามหลังเรามา ฉันรีบหันไปตอบมันอย่างไม่สบอารมณ์ในขณะที่มือก็ยังคงดันหลังเว่ยหลงให้รีบเดินหนีจากเขา
“ใช่แล้วจะทำไม?”
“แหม อย่าร้ายกับเพื่อนเก่านักสิ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะไม่นึกเลยว่ามึงจะมีน้องชายหน้าตาดีขนาดนี้ด้วย เอ๊ะ? หรือว่านี่เด็กมึง?”
“ไม่ใช่ทั้ง 2 อย่างนั้นแหละ เผอิญวันนี้กูรีบ ขอตัว”
“...”
“แท็กซี่!!”
ฉันรีบโบกแท็กซี่แล้วโยนเว่ยหลงเข้ารถโดยไม่แม้แต่จะหันหลังกลับมาบอกลาไอ้นิคเลยสักคำ
และตอนนั้นฉันก็ไม่รับรู้เลยว่าไอ้นิคกำลังมีแผนการชั่วๆอะไรในหัว มันแอบถ่ายรูปเว่ยหลงส่งไปในกลุ่มแชทลูกค้า VIP ของมัน และแน่นอนว่าลูกค้าทุกคนพึงพอใจกับสินค้าตัวใหม่นี้มาก ทุกรายคอนเฟิร์มว่าจะจ่ายค่าตัวเว่ยหลงตามที่ไอ้นิคต้องการหากไอ้นิคสามารถพาเว่ยหลงมาให้พวกหญิงแก่ตันหากลับพวกนี้เฉยชมได้
ช่วงนี้ที่ฉันไปรับเว่ยหลงช้าเพราะที่มหาลัยมีงานประกวดดาวเดือน เด็กปี 2 ได้รับหน้าที่ให้ทำฉากในการจัดประกวดของแต่ละคณะ ซึ่งฉันแทบไม่มีเวลาไปดูแลเด็กยักษ์อย่างเขาได้เหมือนเมื่อก่อน ยอมรับก็ได้ว่ามีบางวันฉันเหนื่อยเลยลืมที่จะไปรับเขาเลยปล่อยให้เขารออยู่หน้าโรงเรียนจนถึง 2 ทุ่ม อย่างน้อยฉันก็ยังไม่ลืมที่จะไปรับเขานะ ฉันเป็นคนมีความรับผิดชอบ ฉันรู้ว่าเขาไม่โกรธฉันหรอกแต่ถ้าฉันไม่ทำงานตรงนี้ให้เสร็จพวกรุ่นพี่ที่ชอบเบ่งใส่รุ่นน้องก็จะมาวุ่นวายกับเราซึ่งฉันออกจะรำคาญมันมากๆ
ฉันปล่อยปละละเลยเว่ยหลงอยู่ 3-4 วันจนในที่สุดงานประกวดดาวเดือนบ้าๆนี่ก็จบลงซะที!
กึก กึก กึก
เสียงร้องเท้าส้นสูงสีแดงยังคงย่ำต่อไปบนทางเท้าข้างรั้วโรงเรียนอินเตอร์ ฉันในฐานะอดีตดาวคณะจำเป็นต้องแต่งสวยหนึ่งวันเพื่อขึ้นไปมอบตำแหน่งให้น้องดาวคณะคนใหม่และต้องอยู่ถ่ายรูปกับเหล่าพี่ๆน้องๆในคณะให้ครบคนก่อนถึงจะปริตัวออกมารับเว่ยหลงได้
“....?”
แต่น่าแปลกแฮะ ปกติเว่ยหลงจะมายืนรอฉันตรงนี้มุมนี้ตั้งแต่ 4 โมงเย็นแล้วไม่ใช่เหรอ? แล้วไหงตรงนี้มันถึงไม่มีใครยืนอยู่เลยเนี่ย?
“หรือเขาจะไปเข้าห้องน้ำในโรงเรียน?”
เมื่อคิดได้ดังนั้นฉันก็คว้าโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเว่ยหลง แต่ปรากฏว่าโทรศัพท์ของหมอนั่นปิดเครื่องซะงั้น? นี่มันแปลกซะยิ่งกว่าแปลก เว่ยหลงไม่มีทางปล่อยให้โทรศัพท์แบตหมดจนฉันติดต่อไม่ได้ ต่อให้เขาต้องยืนรอฉันเป็นชั่วโมงเขาก็จะไม่เอาโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดเพลงฟังหรือเล่นเกมรอให้แบตหมดเด็ดขาด
“เว่ยหลง...”
ฉันเริ่มหน้าชามองซ้ายแลขวาเพื่อหาทางทำอะไรสักอย่าง อย่างน้อยเขาก็เป็นผู้ชายคงไม่ถูกใครฉุดไปง่ายๆอย่างที่มายมิ้นว่าหรอก.... มั้ง? พระเจ้า ขออย่าให้เกิดกรณีเลวร้ายที่สุดกับเขาเลยนะ ไม่งั้นทั้งแม่ทั้งคุณมาร์คฆ่าฉันตายแน่
ฉันเดินวนหน้าโรงเรียน 2-3 รอบ พอแน่ใจแล้วว่าไม่มีเงาเว่ยหลงอยู่แถวนี้ฉันก็ตั้งสติแล้วลองคิดหาวิธีอื่น ปกติแล้วจุดที่เว่ยหลงชอบยืนรอฉันอยู่ติดรั่วเหล็กและข้างๆรั่วก็ยังพอมีเด็กนักเรียนกำลังเล่นฟุตบอลกันอยู่ฉันจึงไม่รอช้ารีบสาวเท้าวิ่งเข้าไปในโรงเรียนเพื่อถามเด็กๆกลุ่มนั้นทันที
“น้องคะ! โทษที พี่ขอถามอะไรหน่อย”
เด็กๆที่กำลังเล่นฟุตบอลอยู่หยุดชะงักไปกลางคัน ไม่รู้ว่าพวกเขาอึ้งที่มีสาวสวยเดินเข้ามาหาหรืออึ้งที่สีหน้าฉันมันแตกตื่นเหมือนไฟกำลังไหม้บ้านอยู่กันแน่
“มีอะไรครับ?” เด็กชายคนนึงเดินเข้ามาถาม
“พวกน้องพอจะเห็นเด็กผู้ชายส่วนสูงเกือบ 180 หน้าตาดีๆขาวๆสวมเสื้อฮู้ดสีดำยืนอยู่แถวๆรั่วข้างนอกนั่นไหม?”
“หน้าตาดีใส่ฮู้ดสีดำเหรอครับ.... หรือพี่จะหมายถึงเว่ยหลง?”
“ใช่! ใช่ๆๆ น้องรู้จักเว่ยหลงด้วยเหรอ!?”
“ทุกคนในทีมรู้จักหมดแหละครับ โค้ชเคยลองให้เขามาคัดตัวเข้าทีมฟุตบอล อันที่จริงมีหลายชมรมเลยที่พยายามแย่งตัวเขาแต่เขาก็ไม่สนใจเข้าชมรมไหนเลยเอาแต่บอกว่าต้องรอพี่มารับตอน 4 โมงเย็น แต่ผมก็เห็นเขายืนรออยู่ตรงนั้นยัน 5 โมง 6 โมงทุกวัน ไม่รู้ว่าเขาไม่อยากเข้าชมรมเลยพูดปฏิเสธอ้อมๆหรือเขาแกล้งเล่นตัวเพื่อให้ทุกชมรมเอาใจเพิ่มขึ้นรึเปล่าก็ไม่รู้”
......... นี่เขา...... ตั้งหน้าตั้งตารอฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?
“แล้ววันนี้เขาไปไหนซะล่ะ ทำไมถึงไม่มารอพี่เขาอย่างทุกวัน”
“อันนี้ผมก็ไม่รู้นะพี่ ผมมัวแต่เล่นบอลอ่ะเลยไม่ได้มอง”
“อ้าว งั้นเหรอ....”
เว่ยหลงเอ๊ย! หลงไปอยู่แถวไหนแล้วเนี่ย!
“ถ้าพี่ถามหาเว่ยหลงอ่ะ ผมเห็นเขานะ”
เด็กหนุ่มนักบอลงานดีคนนึงเดินเข้ามาหาฉัน คำพูดของเขาเมื่อกี้มันคือเสียงจากสวรรค์ชัด!ๆ
“น้องเห็นเว่ยหลงเหรอ! แล้วตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน!”
“ผมเห็นมันเดินไปกับผู้ชายคนนึง แต่ผู้ชายคนนี้อันตรายมากนะพี่ เขาชอบมาทาบทามคนไปทำงานด้วยผมก็เคยโดน ครูที่โรงเรียนเคยแจ้งตำรวจมาจับเขาไปทีนึงแล้ว นี่เขาก็หายไปหลายเดือนแล้วนะจู่ๆมาโผล่แถวนี้อีกได้ไงก็ไม่รู้ผมเห็นเขาไกลๆผมยังผวาเลย”
“ทาบทามเด็กหล่อๆเหรอ? หรือว่าจะเป็น....... ไอ้เวรเอ๊ย!”
ฉันสบถคำอย่างไม่แคร์ภาพลักษณ์ก่อนวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตออกไปเรียกแท็กซี่พร้อมทั้งหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาโมเดลไปด้วย
“ฮัลโหลมึง! กูขอเบอร์ทอยหน่อย กูมีเรื่องจะไปเคลียร์กับไอ้นิคตอนนี้ด่วนเลย”
ความคิดเห็น