ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ☽ Magic Shop ☽ ร้านขายหลอนสารพัดนึก [ มีE-book / มีเล่ม ]

    ลำดับตอนที่ #1 : EP.00 || Prologue

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.21K
      158
      4 พ.ย. 64


    TB
    EP.00
    Prologue





               นี่ มันมีอยู่จริงๆเหรอ ร้าน Magic Shop น่ะ

    ที่เขาลือกันว่าเป็นร้านที่สามารถซื้อได้ทุกอย่างแม้กระทั่งโพยข้อสอบของทุกชั้นปีอ่ะนะ?’

    แค่โพยยังถือว่าเป็นเคสเด็กๆย่ะ ฉันเคยได้ยินพวกพี่ปี 3 เล่ากันว่า มีนักศึกษาคนนึงเคยซื้อชีวิตคืนกลับมาจากความตายด้วย

    สุดยอดเลยชักอยากไปบ้างแล้วสิ แล้วร้านมันตั้งอยู่ที่ไหนเหรอ?’

    เธอไม่มีทางหามันเจอ มันจะปรากฏต่อหน้าคนที่ต้องการความช่วยเหลือจริงๆเท่านั้น และถึงเธอจะมีเงินเป็นล้านเธอก็ไม่สามารถซื้อของชิ้นไหนในร้าน Magic Shop ได้ นั่นเพราะว่าร้านนี้ไม่รับค่าตอบแทนเป็นเงิน แต่รับเป็นวิญญาณ



    กรี๊ดดดดด!!!!!!!!!!!

     

     

    !

    ร่างของหญิงสาวไว้ผมหน้าม้าสีน้ำตาลอ่อนสะดุ้งโหยงเมื่อกลุ่มนักศึกษาสาวในโรงอาหารกลุ่มหนึ่งกำลังเล่าเรื่องหลอนประจำมหาลัยฯกันอย่างออกรสและส่งเสียงกรี๊ดขึ้นมาเพื่อเพิ่มอรรถรสในการเล่า

     

     

    น่ากลัวจังเลย!!!’

     

     

    ใครกันแน่ที่น่ากลัว เมื่อกี้ข้าวเกือบติดคอแน่ะ! ‘นารา’ นักศึกษาในมหาวิทยาลัยXXXคณะศิลปกรรมศาสตร์  ปี 1 ได้แต่บ่นพึมพำให้เพื่อนสาวผมดำยาวที่นั่งอยู่โต๊ะเดียวกันฟังอย่างไม่สบอารมณ์

    ช่วยไม่ได้นี่หน่า เรื่องเล่าร้าน Magic Shop ไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัยก็ยังคงบูมในมหาลัยฯนี้ไม่เปลี่ยน” ‘ปุยฝ้าย’ สาวเนื้อหอมตัวเล็กน่ารักจากคณะนิเทศศาสตร์พยายามปลอบให้เพื่อนใจเย็น เธอเป็นเพื่อนสนิทของนาราตั้งแต่เรียนปรับพื้นฐานก่อนเข้ามหาลัยฯจนถึงตอนนี้

    มันจะมีอยู่จริงๆเหรอ ร้านมหัศจรรย์ที่เสกทุกอย่างได้ตามสั่งแบบนั้น

    อืม.. ฉันว่ามันก็มีเปอร์เซ็นที่จะมีจริงอยู่นะ ไม่งั้นข่าวลือเรื่องนี้คงหายไปนานแล้ว

    นี่เธอเชื่อเรื่องไสยศาสตร์แบบนั้นจริงดิ?

    เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตามนะจ๊ะ ที่นี่เขาเชื่อกันแบบนั้นเราก็ต้องเชื่อด้วย โลกนี้มีอะไรอีกมากมายที่เรายังไม่เคยเห็นนะนารา ใช่ว่าเราไม่เคยเห็นไม่ได้แปลว่ามันไม่มีอยู่จริงซะหน่อย

    “....” นาราเบะปากงอนๆเมื่อเห็นว่าเพื่อนสาวไม่เข้าข้างเธอเลยสักนิด

    ว่าแต่ เธอหางาน Part-Time ได้หรือยัง?

    ยังเลย วันนี้ว่าจะไปเดินดูแถวมหาลัยฯ แถวนี้มีร้านอาหารและคาเฟ่เปิดเยอะน่าจะมีสักร้านที่ยังเหลืองานให้ฉันทำอยู่

    ขอให้เธอเจอร้านที่ถูกใจและเขาก็อ้าแขนรับเธอเข้าทำงานนะ

    เฮ้อ.. เริ่มแล้วสินะชีวิตนักศึกษาทุนอย่างฉัน

    เธอทำได้อยู่แล้ว ทึกๆอย่างเธอทั้งเรียนทั้งทำงานไปด้วยแค่นี้ไม่ทำให้ผมร่วงเหรอ

    จ้า!!!!

    หลังจากที่นาราและปุยฝ้ายกินข้าวเสร็จพวกเธอก็ไปเรียนต่อในคาบบ่ายจนถึง 4 โมงเย็น พอถึงเวลากลับบ้านทั้ง 2 ก็แยกย้ายกันตามปกติ แต่ว่าวันนี้นารามีแผลนที่จะไปหาสมัครงาน Part-Time เธอจึงยังไม่ได้ต่อรถกลับบ้านแต่แวะมาในย่านถนนคนเดินแล้วเร่หาสมัครงานตามร้านอาหารต่างๆ แต่จนแล้วจนรอดกระทั่งพระอาทิตย์ตกดินเธอก็ยังหาสมัครงานไม่ได้เลยสักที

     

     

    แหงล่ะ แถวนี้ติดมหาลัยฯแถมวัยรุ่นก็เยอะ คงมีคนมาสมัครงาน Part-Time จนเกลื่อร้านแน่อยู่แล้ว สงสัยฉันคงต้องไปหางานที่อยู่ไกลมหาลัยฯไกลหออีกสักเขตสองเขตแล้วล่ะ

     

     

    ตื้อ..!!!

    ในระหว่างที่นารากำลังยืนพิงรั้วถนนเพราะเหนื่อยล้าจากการเดินวนทั้งย่านอยู่นั้น จู่ๆแสงไฟหน้าร้านก็สว่างขึ้นจากในซอกตึกตรงข้ามกับที่เธอยืนอยู่ เธอจึงเงยหน้าขึ้นไปมองด้วยความสงสัยและพบเข้ากับร้านค้าเรียบหรูอยู่ด้านในสุดของซอกตึกมืดๆนั่น สาบานได้ว่าตอนเธอเดินผ่านมาหางตาของเธอเห็นแต่เพียงถังขยะใบใหญ่กับกำแพงมืดๆเท่านั้น

     

     

    มีที่แบบนี้อยู่ตรงนี้ด้วยเหรอ?

     

     

    ด้วยความสงสัยที่เพิ่มมากขึ้นเป็นทวีคูณนาราจึงตัดสินใจเดินเข้าไปในซอกตึกจนมาถึงหน้าร้านขายของที่มีป้ายเขียนบอกไว้ว่า ‘Magic Shop

    คุณพระช่วยมีจริงด้วย!

    นาราถึงกับเบิกตาโตด้วยความตกใจแล้วยกมือทั้ง 2 ข้างขึ้นมาปิดปาก

    ต้องถ่ายรูปส่งไปให้ปุยฝ้ายดูแล้ว

    นาราลนลานหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายทุกซอกทุกมุมของร้าน Magic Shop ด้วยความตื่นเต้นจนไม่รู้สึกตัวเลยว่ามีใครบางคนกำลังจ้องมองพฤติกรรมแปลกๆของเธออยู่

    ทำอะไรน่ะ

    !!!!

    นาราใจหายว๊าปตกไปอยู่ที่ตาตุ่มเมื่อหันไปเห็นชายผมบลอนด์ร่างสูงในชุดสูทสีดำแดง ผิวขาวซีด ใบหน้าหล่อเหลาเกินมนุษย์มนาคนหนึ่งกำลังยืนกอดอกพิงประตูร้านจ้องมาที่เธออยู่

    อะ.. เอ่อ.. คือว่า ร้านนี้ดูเป็นสไตล์ฉันดีฉันเลยอยากถ่ายรูปเก็บไว้น่ะค่ะ

    เหรอ..” ชายร่างสูงค่อยๆกวาดสายตามองนาราลงมาตั้งแต่หัวจรดเท้า

    !

    ชอบร้านเราก็ดี แบบนี้ค่อยคุ้มกับค่าต่อเติมหน่อย

    ร้าน Magic Shop นี่เป็นของคุณเหรอ?

    ป่าวหรอก ฉันเป็นแค่ลูกจ้างน่ะ เข้ามาสิอย่าเสียเวลามายืนคุยกันตรงนี้เลย

    เอ๊ะ!? ด.. เดี๋ยวก่อนค่ะ!...

    ชายร่างสูงตรงเข้ามาคว้าแขนนาราเดินเข้าไปในร้านอย่างรวดเร็ว พละกำลังของเขามีเยอะมากจนนาราไปอาจดึงตัวกลับได้

     

     

    ทุกคนวันนี้เรามีลูกค้าแล้ว!!

     

     

    เสียงเรียกของชายร่างสูงทำให้ชายหนุ่มอีก 6 คนที่กำลังพักผ่อนอยู่ในมุมของตัวเองต่างหันมามองที่เขาและนาราเป็นตาเดียว

    มาซะที นึกว่าเดือนนี้เราจะนอนเฉาตายคาร้านกันจริงๆซะละ” หนุ่มหล่อไหล่กว้างที่นั่งดูทีวีอยู่ที่โซฟารีบสำรวมท่าทีพร้อมรับแขกด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มแบบเฟคๆ

    ผมบอกพี่เป็นหมื่นๆครั้งแล้วไงพี่ศิลา ลูกค้าเราชอบมาช่วงฤดูร้อน

    เดาไปเรื่อยแหละแก ครั้งที่แล้วบอกฉันฤดูฝน ก่อนหน้านั้นก็บอกฤดูหนาว

    แหม ความจำดีนะพี่เนี่ย ผมพูดอะไรไปผมยังจำคำพูดของตัวเองไม่ได้เลย ฮ่าๆ

    รีบพาลูกค้ามานั่งได้แล้ว มัวพูดแต่เรื่องไร้สาระอยู่ได้วี

    ครับพี่!.. เชิญนั่งตรงนี้เลยครับ

    ชายร่างสูงที่ดึงแขนนาราเข้ามาในร้านหรือ ‘วี’ ประคองตัวเธอมานั่งที่โซฟาสีแดงก่อนไปรวมตัวกับคนอื่นๆที่นั่งและยืนกันอยู่ที่โซฟาด้านตรงข้าม

    วิลล์..” ชายไหล่กว้างที่นั่งเถียงกับวีหรือ ‘ศิลา’ หันไปหาชายร่างสูงที่นั่งอยู่ตรงกลางเพื่อบอกให้เขาเริ่มทำหน้าที่ผู้จัดการร้านเดี๋ยวนั้น

    สวัสดีครับ ผมชื่อ ‘วิลล์’ เป็นผู้จัดการร้าน Magic Shop ผมจะไล่ชื่อแล้วก็ตำแหน่งของทุกคนตั้งแต่ฝั่งซ้ายมือไปจนถึงขวามือนะครับ คนนั้นชื่อ ‘นาคิน’ เป็นพนักงานต้อนรับ อยู่ฝ่ายบัญชีและประชาสัมพันธ์ ถัดมาชื่อ ‘เจย์’ เป็นธุรการ ช่างซ่อม และอื่นๆ ขอไม่ลงรายละเอียดยิบย่อยละกัน คนถัดมาชื่อ ‘วี’ ‘ลูคัส’ ‘แซค’ เป็นพนักงานประจำ และคนสุดท้ายเป็นเจ้าของร้านนี้ชื่อ ‘ศิลา’ 

    “....” นารานั่งงงในดงคนหล่อ เธอสตั้นไปกับการแนะนำตัวสมาชิกในร้าน Magic Shop ของวิลล์ ดีที่สมองของเธอเป็นเหมือนฟองน้ำที่ดูดซึมทุกอย่างได้อย่างรวดเร็วเธอจึงสามารถจำชื่อของหนุ่มหล่อทั้ง 7 คนนี้ได้อย่างง่ายดาย

    แล้วคุณล่ะครับชื่ออะไร?

    ฉันเหรอคะฉันชื่อ นารา ค่ะ..

    อ๋อ แล้..

    แต่ก่อนที่เราจะถลำไปมากกว่านี้ฉันไม่ได้ตั้งใจจะเข้ามาในร้านนี้นะคะ ฉันแค่เห็นว่าร้านนี้ตกแต่งสวยดีเลยอยากถ่ายรูปเก็บไว้ ละ..แล้วเขาก็ลากฉันเข้ามา!” นาราชี้ไปที่วีราวกับเด็กน้อยกำลังฟ้องครูประจำชั้นอยู่

    !?” วีชี้หน้าตัวเองตอบด้วยความแปลกใจ

    คุณจะบอกว่าคุณไม่ได้ต้องการความช่วยเหลือจากเราเหรอ?” ลูคัสจ้องเขม่งใส่นารา

    นาราพยักหน้ารัวๆแทนคำตอบ

    แปลกมากแล้วเธอเห็นร้านนี้ได้ไง?” ศิลาแสดงสีหน้าสงสัยอย่างเห็นได้ชัด

    มนต์พี่มันคงเสื่อมแล้วมั่ง แก่แล้วก็อย่างนี้แหละ” วีก้มตัวลงมาแหย่ศิลาที่นั่งหัวเสียอยู่

    เงียบน่าคนอย่างฉันยิ่งแก่ยิ่งน่ากลัว ไม่มีทางที่มนต์จะเสื่อมได้

    เธออาจจะมีความต้องการบางอย่าง แต่ตัวเองยังไม่รู้สึกตัวก็ได้นะ” นาคินเสนอแนะ

    ประเภทปากไม่ตรงกับใจน่ะเหรอ?” เจย์ช่วยคิด

    เธอคิดดีแล้วใช่ไหมว่าไม่ต้องการอะไรจากเรา แล้วสิ่งที่เธอต้องการตอนนี้ล่ะคืออะไร?” แซคเลิกสนใจความเห็นไม่เข้าท่าของน้องๆแล้วลองถามนาราไปตรงๆดู

    เอาตอนนี้วินาทีนี้เลยเหรอคะ?

    อื้ม!!!!” ทั้ง 7 พยักหน้าพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย

    ตอนนี้.. ฉันก็แค่อยากหางาน Part-Time ใกล้ๆหอทำ ฉันตระเวนไปทั่วแล้วแต่ร้านไหนๆพนักงานก็เต็มแล้วทั้งนั้น ฉันอยากได้งานทำก่อนปิดเทอมจะได้เป็นงานเร็วๆและมีเงินเก็บเยอะๆก่อนเริ่มเทอม 2 ”

    “....”

    คำตอบของนาราเล่นเอาทั้ง 6 หนุ่มถึงกับอึ้งมองหน้าสลับกันไปมาอย่างงงๆ

    เอ่อ.. ขอโทษนะครับคุณนารา เราขอประชุมแบบส่วนตัวสักครู่

    วิลล์ลากพนักงานทุกคนเข้าไปหลังกำแพงแล้วปรึกษากันด้วยเสียงกระซิบฟังดูอู้อี้แต่นารากลับได้ยินเสียงพวกเขาพูดคุยกันอย่างชัดเจน

     

     

    แซค : แบบนี้ก็มีด้วยเหรอ!?

    ศิลา : แล้วฉันจะไปรู้ไหม อยู่มาเป็นพันๆปีก็เพิ่งจะเคยเจอเคสแบบนี้ครั้งแรกเนี่ยแหละ

    วิลล์ : ไฟหน้าร้านเราเสียรึเปล่า?

    เจย์ : ฉันเช็คทุกวัน ไม่มีทางเป็นแบบนั้นได้หรอกน่า

    วี : ที่แน่ๆคือเธอไม่ใช่คนธรรมดาใช่ไหม

    ลูคัส : แต่ไฟวิญญาณเธอเป็นสีขาวนะ

    วิลล์ : หรือเธอจะเป็นพวกซิกซ์เซนส์ (Sixth sense) ?

    ศิลา : ถึงเป็นซิกซ์เซนส์ (Sixth sense) ก็เข้ามาในร้านนี้ไม่ได้หรอก ก็รู้ๆกันอยู่นิว่าลูกค้าร้านเรามีแต่ประเภทไหน

    นาคิน : ถ้าเป็นแค่มนุษย์ธรรมดาจะฝ่ามนต์ของพี่ศิลาเข้ามาได้ไง

    เจย์ : หรือเธอจะเป็นพวกแม่หมอร่างทรง? หมอผี?

    วิลล์ : เดี๋ยวเราก็รู้

     

     

    !

    นาราขวัญเสียหนักกว่าเดิมเมื่อได้ยินบทสนทนาของเหล่าชายหนุ่มทั้ง 7 โดยไม่ได้ตั้งใจ และทันทีที่พวกเขาเดินออกมาจากกำแพงนาราก็นั่งหลังตรงตัวแข็งทื่อทำเป็นไม่ได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูดทั้งๆที่เสียงของพวกเขามันดังลั่นห้องอย่างเห็นได้ชัดซะขนาดนั้น

    คุณนารา” วิลล์กลับมานั่งที่เดิมของเขาด้วยท่าทางที่นิ่งสงบกว่าตอนแรก

    คะ?

    คุณว่าคุณกำลังหางาน Part-Time ทำใช่ไหม?

    ค่ะ

    งั้นก็ดีเลย ร้านเรากำลังขาดพนักงานใส่ใจความเรียบร้อยภายในร้านอยู่พอดี

    เอ๊ะ?

    แม่บ้านน่ะ” ลูคัสแปลไทยเป็นไทยให้นาราเข้าใจ

    อ๋อ..

    ผมจะจ้างคุณด้วยเงินจำนวนนี้ต่อเดือน คุณคิดว่าไง” วิลล์หยิบเช็คขึ้นมาจากกระเป๋าเสื้อแล้วกดปากกาเขียนตัวเลขที่ตนนึกไว้ลงไปก่อนส่งให้นารา

    ?...” นาราจำใจรับเช็คนั้นมาดูก่อนสีหน้าจะเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ “20,000 บาท!!!!

    ใช่

    นี่มันไม่เยอะเกินไปเหรอคะ!? เป็นแค่แม่บ้านเอง!?

    แม่บ้านในโรงแรม 3 ดาวก็ราคาเท่านี้นิครับ

    ฉันรู้ค่ะ แต่ฉันแค่อยากได้งาน Part-Time ธรรมดาทำ

    นี่ก็ธรรมดานะครับ คุณเขียนตารางเรียนของคุณให้เจย์แล้วเขาจะจัดการเรื่องกะมาทำงานให้คุณเอง

    !? แต่ฉันว่ามัน...

    คิดดีๆก่อนปฎิเสธนะครับ งานดีเงินดีแบบนี้ใช่ว่าจะหาได้ง่ายๆ” นาคินช่วยประเล้าประโลมนารา

    “.... แล้วงานแม่บ้านที่นี่ฉันต้องทำอะไรบ้างคะ?

    ก็ง่ายๆนะครับ แค่ทำตามสิ่งที่แม่บ้านทั่วไปเขาทำกัน แต่ผมมีกฎให้คุณอยู่ 3 ข้อ” วิลล์พูดต่อ

    กฎอะไรคะ?

    หนึ่ง อย่าตกใจถ้าได้ยินเสียงโครมครามในร้านหรือในห้องของพวกเรา สอง อย่าตั้งข้อสงสัยหรือถามเรื่องที่พวกเราไม่อยากจะตอบ สาม.. คุณไม่กลัวอสูรกายใช่ไหม?

    ไม่ค่ะ

    ตอบเร็วงี้แปลว่าเป็นพวกไม่เชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติสินะ” วีแสยงยิ้มอย่างได้ใจ

    แล้วการเป็นแม่บ้านมันเกี่ยวอะไรกับอสูรกายเหรอคะ?

    มันเป็นหลักประกันว่าคุณจะไม่หนีไปไหนหากเจอเรื่องไม่คาดฝันในร้านนี้” วิลล์ตอบ

    เอ๊ะ?

    ไม่กลัวโดนอสูรกายจับกินน่ะ” ลูคัสแปลไทยเป็นไทยอีกรอบ

    “!? อสูรกายไม่มีจริงซะหน่อย ถึงมีก็คงไม่ได้มาเดินเล่นอยู่แถวนี้หรอกค่ะ

    แล้วตกลงว่าคุณจะรับข้อเสนอของเราไหม?” ศิลากลั้นหัวเราะก่อนถามนารา

    ถึงฉันจะไม่กลัวอสูรกายแต่ฉันว่าที่นี่ไม่เหมาะกับฉันหรอกค่ะเงินก็มากเกินไปสำหรับนักศึกษาอย่างฉันด้วย ขอโทษนะคะ แต่ฉันขอไม่รับข้อเสนอนี้ดีกว่า..” ในขณะที่นารากำลังยื่นเช็คคืนวิลล์ข้อศอกของเธอก็บังเอิญไปชนแจกันที่จู่ๆก็มาปรากฏอยู่ข้างตัวทำให้มันล้วงหล่นแตกกระจายเต็มพื้นโดยที่นารายังไม่ทันรู้สึกตัวเลยด้วยซ้ำ

     

    แพล้ง!!!!!!!!!

     

    เอ๊ะ!!!!” นาราก้มลงไปมองเศษแจกันอย่างประหลาดใจ เธอจำไม่ได้สักนิดว่ามีแจกันวางอยู่ข้างตัวเธอตอนไหน เธอนั่งคนเดียวกลางโซฟาขนาด 3 คนนั่ง ไม่มีใครอยู่ใกล้ตัวเธอเลยนอกจากชายหนุ่มทั้ง 7 คนแต่พวกเขาทั้ง 7 ก็นั่งอยู่ตรงข้ามกับเธอ ไม่มีทางที่พวกเขาจะเอาแจกันลายหินอ่อนที่ดูมีราคานี้มาวางข้างตัวเธอได้อย่างแน่นอน

    ว้า!! แจกันยุคเรเนสซองส์ ที่มีมูลค่ากว่า 90,000,000 บาทซะด้วยสิ เล่นแตกยับแบบนี้คงเสียค่าซ่อมไม่น้อยเลย” วีพูดด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์

    ตะ..แต่มันเป็นไปได้ไง!? ฉันไม่เห็นมันวางอยู่ตรงนี้เลยนะ!

    มันก็วางอยู่ตรงนั้นมาตลอดนิ” ลูคัสร่วมเล่นสนุกกับพวกพี่ๆด้วย

    ฉันสาบานได้ตรงนี้มันไม่มีแจกันอะไรวางอยู่เลย!

    แล้วที่แตกไปนั่นคือจานรึไง?” แซคต่อกลับแบบเจ็บๆ

    คุณนารา ของในร้านนี้ทุกชิ้นล้วนแต่เป็นของโบราณหายากทั้งสิ้น กว่าเราจะสะสมกันมาได้มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ” วิลล์พูดจบก็หันไปหาเจย์

    แจกันนี้เป็นของจริงแท้แน่นอน เรามีใบยืนยันจากยูเนสโกด้วยนะครับ ลองเอาไปตรวจสอบได้เลย” ว่าแล้วเจย์ก็ยื่นใบรับประกันที่มีตราป้ำจากองค์กรโลกอย่างถูกต้องตามกฎหมายให้นาราดู

    !!!!

    ตั้ง 90,000,000 บาทเลยนะ ทำงาน Part-Time ในร้านขายไก่ทั้งชาติไม่รู้จะพอไหม?” วีตอกย้ำอีกหน

    ผมว่าคุณลองตัดสินใจใหม่ดีกว่า คราวนี้พูดให้ถูกต้องด้วยนะครับ” วิลล์จ้องแววตาจริงจังใส่นารา

    !!!!

    คุณจะรับข้อเสนอของเราไหม?

    “... ฉัน.. ฉันรับก็ได้ค่ะ

     

     

    และนั่น ก็คือจุดเริ่มต้นเรื่องราวชุลมุนชวนหลอนของฉัน..กับพวกเขา!




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×