คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : † The Vampire Next Door † EP.0 || Prologue
คุณเชื่อในเรื่องมนุษย์ต่างดาวหรือว่าสัตว์ประหลาดบ้างรึเปล่า? เคยลองคิดเล่นๆดูไหมว่าพวกมันมีตัวตนอยู่จริงหรือพวกมันเป็นเพียงจินตนาการเพ้อฝันของคนบางกลุ่มเท่านั้น
แล้วถ้าพวกมันมีตัวตนอยู่จริง พวกมันใช้ชีวิตอยู่ในโลกนี้กันยังไง?
ตุ๊บ! โคร้ม!!!
ค่ำคืนวันอาทิตย์อันเงียบสงบของฉันถูกรบกวนโดยเสียงตุ๊บตั๊บจากการขนข้าวของและเสียงพูดคุยหยอกล้อกันอย่างสนุกสนานของคนข้างบ้านเลขที่
6 ถัดจากบ้านเลขที่ 5 ของฉัน ตั้งแต่ที่ฉันอาศัยอยู่ในทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้นนี้มา บ้านข้างๆฝั่งขวาก็มีคนย้ายเข้าย้ายออกราว 3-4 มือแล้วเห็นจะได้
ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเหตุผลที่ไม่มีใครอยู่บ้านหลังนั้นยืดยาวเลยสักรายเป็นเพราะอะไร
แต่ที่แน่ๆ
เพื่อนบ้านใหม่กลุ่มนี้ทำให้ฉันนอนไม่หลับจนต้องลุกขึ้นมาเปิดหน้าต่างดูว่าเมื่อไรพวกเขาจะขนของกันเสร็จสักที
และพวกเขาหล่อเหลาสมคำล่ำลือตามที่พวกน้าๆในหมู่บ้านพูดไว้รึเปล่า
“...!”
โอ้..มาย..ก็อด!
ฉันได้แต่คิดดังๆในใจพลางเอามือขึ้นมาปิดปากเพราะไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ตัวเองเห็น
เป็นความจริงที่พวกเขาทั้ง 6 คนหล่อมาก! หล่อสไตล์นายแบบสายฝอเลย แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นที่ทำให้ฉันหยุดมองพวกเขาไม่ได้ในตอนนี้
‘ฉันบอกให้รอบริการขนส่งอีกสัก
2 วันแล้วค่อยย้ายเข้ามาก็ไม่มีใครยอมฟัง เห็นใจคนทำงานเช้าหน่อยสิ’
‘เอาน่าพี่เซย์น
ไหนๆก็ขนกันมาครึ่งทางแล้วนิ บ่นไปก็ใช่ว่าของจะลอยเข้าบ้างเองซะเมื่อไร’
ชายตาน้ำข้าวร่างสูงมีหนวดเคราหน่อยๆได้แต่พูดปลอบใจชายร่างสูงแต่งตัวดูดีมีแบรนด์เหมาะกับเรือนร่างสุดเพอร์เฟคของเขาระหว่างที่พวกเขากำลังขนของ
แต่ของที่ว่ามันคือ ตู้เย็น เปียโน
โต๊ะเครื่องแป้ง รูปปั่น โซฟาขนาด 4 คนนั่ง แถมยังยกด้วย มือเปล่า อีกด้วยน่ะสิ! ฉันมั่นใจว่าฉันไม่มีทางดูสิ่งของพวกนั้นผิดแน่แม้ระยะสายตาจะอยู่ไกลพอสมควรก็ตาม
ก็ของพวกนั้นมันเห็นได้ชัดซะขนาดนั้นนิ
ปกติแล้วแรงของผู้ชายที่แข็งแรงมากๆสามารถยกของที่หนักเป็น
100 กิโลฯ ขนาดนั้นได้งั้นเหรอ?
“เฮ้! ระวังหลัง!”
พรึ่บ!
ยังไม่ทันที่ฉันจะหายสงสัยผู้ชาย
2 คนนี้ จู่ๆก็มีเสียงเอะอะโวยวายดังขึ้นจากด้านข้างรถบรรทุกที่จอดอยู่หน้าบ้านเลขที่
6 พอฉันเปลี่ยนทิศทางไปมองดูต้นตอของเสียงโวยวายนั่น ฉันก็เห็นชายร่างสูงลุคดูคุณชายๆอีกคนกำลังหัวเสียใส่เด็กวัยรุ่น
2 คน คนนึงมีผมสีชมพูเด่นสะดุดตามาก อีกคนมีผมสีเงินใบหน้าหล่อเนี๊ยบราวกับรูปปั้นในพิพิธภัณฑ์เดินได้
ดูเหมือนว่าคนผมสีชมพูจะเข้าไปกวนคนผมสีเงินระหว่างที่เขากำลังขนของทำให้ชายมีเคราซึ่งเดินถือของตามหลังมาเบรกฝีเท้าไม่ทันและชนเข้ากับคนผมสีเงินเป็นเหตุให้ตู้เก็บความเย็นในมือเขาตกลงพื้น
ถุงเลือดที่บรรจุอยู่ในนั้นพลอยหล่นกระจายเต็มพื้นไปด้วย
มีบางถุงที่แตก บริเวณนั้นจึงถูกอาบไปด้วยสีแดงฉานของเลือด
คนแบบไหนกันจะหอบถุงเลือดเป็นตู้ไปไหนมาไหนด้วยแบบนี้?
“ให้ตายสิ
พี่บอกนายกี่ครั้งแล้วเลวัสว่าให้เลิกแกล้งน้อง ดูสิเนี่ยกลายเป็นเรื่องจนได้!”
ชายมีเคราเอ็นคนผมสีชมพูก่อนจับหนูเป็นๆในมือคนผมสีชมพูที่ใช้แกล้งคนผมสีเงินไปปล่อยด้วยท่าทีเซ็งๆ
“ผมไม่ได้แกล้งซะหน่อย
ผมแค่สงสารน้องเห็นบ่นหิ้วเลยหาอะไรมารองท้องให้”
“นั่นของกินเหรอ?”
คนผมเงินถามพี่ชายตัวสูงของเขา
“กินไม่ได้!” ชายมีเครารีบเปลี่ยนความคิดของน้องเล็กอย่างทันควันก่อนออกคำสั่งเพื่อเคลียร์เรื่องที่เกิดขึ้น “ลูเซียส ขนของเข้าบ้านไปก่อนนะ ส่วนนาย เลวัส
เก็บกวาดทั้งหมดนี่ให้เกลี้ยงอย่างให้มีคราบแม้แต่หยดเดียว”
“อะไรกัน! ทำไมผมโดนทำโทษคนเดียวล่ะ!? ก็ลูเซียสไม่ใช่เหรอที่เซ่อซ่าถอยหลังไปชนพี่เอง” คนผมสีชมพูมู้หน้าไม่ยอมท่าเดียว
“เฮ้อ.. ดูมัน ยังไม่สำนึกอีก” ชายมีเคราได้แต่ถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย
“?”
ในขณะที่ด้านนอกรั้วกำลังวุ่นวายอยู่นั้นบริเวณลานหน้าบ้านเลขที่
6 ที่มีไว้ใช้จอดรถ ฉันเห็นชายอีกคนใบหน้าหล่อเหลาตามแบบฉบับหนุ่มผู้ดีอังกฤษแต่แต่งตัวจัดจ้านด้านแฟชั่นกว่าใครกำลังเปิดประตูรถแลมโบกินี่สีน้ำเงินเพื่ออุ้มร่างร่างหนึ่งออกมาจากรถ
ร่างนั้นเป็นผู้หญิงเอเชียผมสั้นสีดำใส่ชุดเดรสสายเดี่ยวสีแดง
บริเวณอกไปจนถึงลำคอของเธอถูกอาบไปด้วยเลือด! วินาทีนั้นฉันใจเต้นแรง มือไม้ชา สมองเริ่มมีความคิดแปลกๆโผล่ขึ้นมามากมาย
พวกเขาทำร้ายผู้หญิง? พวกเขาค้ามนุษย์? พวกเขามีโรคประจำตัว? หรือพวกเขาชอบกิน...!!!
“!!!!”
ฟึบ!
ในระหว่างที่ฉันกำลังตีกับความคิดตัวเองอยู่นั้น
จู่ๆผู้ชายผมเงินที่กำลังเดินผ่านลานหน้าบ้านเพื่อเอาของเข้าไปเก็บก็หันหน้ามาสบสายตากับฉันอย่างไม่ทันตั้งตัว
ฉันตกใจมากเลยรีบปิดม่านหน้าต่างแล้วหันหลังพิงกับขอบหน้าต่างด้วยความเร็วแสง เรา
2 คนสบตากันแบบจะๆทำให้ฉันสังเกตเห็นว่าเขามีใบหน้าชวนฝันกว่าที่คิดมากขนาดไหน
ทั้งสูงโปร่ง ผิวขาว ตาสีน้ำเงิน? สีตาขัดกับสีผมและสีผิวราวกับเป็นตุ๊กตากระเบื้องเคลือบเดินได้อย่างไงอย่างงั้น
แต่ความหล่อของเขามันมาพร้อมกับความน่ากลัวบางอย่างที่ฉันสัมผัสได้
เขาจะเห็นเราไหม?.. ไม่ ไม่หรอก เราปิดหน้าต่างทัน.. แล้วถ้าเขาเห็นเราล่ะ? เขาจับเราได้แน่ๆ จะหนีไปไหนได้ก็บ้านอยู่ใกล้กันซะขนาดนี้! โธ่.. ไม่รู้ด้วยแล้ว!!!
ในขณะที่ฉันร้อนรนใจอยู่ภายในบ้านชายผมเงินคนนั้นก็ดูจะงงงวยกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ด้วยเช่นกัน
“ลูเซียส
หลบทางหน่อยฉันจะไปเอาสายยางมาล้างเลือด”
คำพูดของชายผมสีชมพูที่พูดกับชายผมสีเงินไม่มีผลใดๆเพราะเขายังคงเอาแต่ยืนจ้องขึ้นมาบนหน้าต่างราวกับถูกต้องมนต์
“นายมองอะไรอยู่น่ะฮืม?” เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ยอมละสายตาไปง่ายๆ ชายผมสีชมพูจึงเงยหน้าขึ้นมามองที่หน้าต่างด้วยอีกคน
“ของกิน”
“!!!”
คำพูดเพียงไม่กี่คำของชายผมเงินที่ยอมปริปากบอกพี่ชาย ทำเอาชายผมสีชมพูถึงกับชักสีหน้าและขมวดคิ้วจนหน้าหล่อๆเริ่มยับยู่ยี่
เมื่อไม่รู้จะทำยังไงกับความอับอายนี้ดีฉันจึงตัดสินใจกระโดดขึ้นเตียงแล้วเอาผ้าห่มคลุมโปงหวังแค่ให้ช่วงเวลาอันน่าขนหัวลุกนี้ผ่านไปเร็วๆ
แต่กลับไม่ชะล่าใจเลยว่าแสงเงาของพระจันทร์ในคืนนี้นอกจากจะสะท้อนเงาระเบียงในห้องแล้วมันยังสะท้องเงาของคนกลุ่มหนึ่งที่กำลังพากันปีนหน้าต่างขึ้นมาหยั่งระเบียงห้องฉันด้วย...
ความคิดเห็น