ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : STORY >_
                โซตะเฮรุ  มิเร  เด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้ม  ผิวขาวประดุจทารก  มีลักยิ้มข้างเดียว  ขนตางอนยาว
ผมสีดำสนิทนุ่มสลวย ยาวถึงกลางหลัง  ผมถูกซอยด้านหน้าไล่ไปถึงด้านหลัง  เข้ากับดวงตากลมโตสีดำ ของเธอ เธอจึงจัดว่าเป็นหญิงสาวที่น่ารักทีเดียว !! 
                  แต่นิสัยของเธอออกจะดูเปิ่น จนใครๆๆต่างพากันเรียก  เธอว่า ยัยเปิ่น 
   
      \" มิเร!! ๆๆๆ\" หญิงสาวรูปร่างอ้วนท้วมวัยกลางคนนั่นก็คือป้า ยาม่าเครุ    ตะโกนเคาะเรียก มิเร เป็นสิบๆๆครั้ง แต่ก็ยังไม่ได้ยินเสียงตอบรับจากคนที่นอนอยู่ด้านใน  มิเรจึงจัดว่าเป็นเด็กที่ขี้เซาที่สุด!!  ป้ายาม่าจึงใช้แผนเด็ด ซึ่งใช้ได้กับ มิเร คนเดียวเท่านั้น!!
 
            “โซไฮตะ  เอริมิซางงงงงงง .”    สิ้นเสียงตะโกนของป้ายาม่า 
                “ อ๊ายยย  ผผผผผผผผผผผผี”  แล้วแผนของป้ายาม่าก็ได้ผล มันก็ได้ผลกับมิเรสาวน้อยคนนี้นี่แหละ
                แล้วเสียงประตูก็ถูกเปิดอย่างรวดเร็ว  ป้ายาม่าก็เห็นสาวน้อยมิเรวิ่งเข้ามาในอ้อมกอด  ซึ่งป้ายาม่าได้เลี้ยงมิเรมาตั้งแต่ยังแบเบาะ  ส่วนพ่อแม่ของมิเรต้องทำงานหนักไม่มีเวลามาดูแลมิเร  จึงได้ป้ายาม่านี่แหละมาช่วยเลี้ยง  ทั้งป้ายาม่าและมิเรจึงผูกพันธ์กัน  ป้ายาม่าจึงรักมิเรเหมือนลูกสาวของตน ถึงจะไม่ได้เป็นป้าหลานตามเชื้อสาย ก็ตาม    พอมิเรอายุได้  10 ขวบ  พ่อกับแม่มิเรก็สร้างฐานะได้อย่างมั่นคง       
                พ่อของมิเร    โซตะเฮรุ  ซากิ    เป็นเจ้าของโรงงานทอผ้าชื่อดัง ในเมือง  เกียวโตะ  ส่วนแม่ของมิเรได้พักผ่อนอยู่บ้าน  เพราะซากิพ่อของมิเร  สั่งให้ แม่ของมิเร คอยดูแลมิเร ให้ความรักความห่วงใยแก่มิเรให้มากๆเพื่อทดแทนสิ่งที่ขาดหายไปเมื่อหลายปีก่อน    ส่วนเขาจะทำงานเอง  เพราะตั้งแต่มิเรเกิดมาทั้งสองไม่ค่อยมีเวลาดูแลมิเรเลย  แม่ของมิเรรู้ว่าซากิรักมิเรมาก  ไม่แพ้ตน  จึงต้องอยู่บ้าน คอยดูแลมิเร ส่วนงานบ้าน ซากิ ก็ให้เป็นหน้าที่ของป้ายาม่า  แต่ป้ายาม่าขอทำหน้าที่สองอย่าง คือ ดูแล มิเร และทำงานบ้าน  ซากิจึง
อนุญาติเพราะเห็นว่าป้ายาม่าผูกพันธ์กับมิเรมาก   
                “ป้ายาม่าชอบเล่นอย่างนี้อยู่เรื่อยเลยอ่ะ”  มิเรพูดอู้อี้ในขณะที่กอดป้ายาม่าอยู่
                “ก็หนูอยากขี้เซาเองทำไมล่ะ    นี่แค่ผีในนิทานน่ะ“  ป้ายาม่าเอ่ย
                “ป้ายาม่าอ่ะ”    มิเรพูดค้อนทำทีน้อยใจ 
                “เอาล่ะๆ ไปแต่งตัวได้แล้ว  จะสายแล้วน่ะ เดี๋ยวไปโรงเรียนไม่ทันกันพอดี”  ป้ายาม่าเอ่ยแล้วดันหลัง
มิเรเข้าไปในห้อง พร้อมสั่งว่า
                “เร็วๆล่ะ มิเร “
                “คร้าาาาาาา”  มิเรพูดทำหน้าทะเล้น  หันมายิ้มให้ป้ายาม่า  แต่ป้ายาม่ากอดอกทำหน้าดุ 
มิเรจึงรีบวิ่งเข้าห้องไปเพราะกลัวโดนเอ็ด
               
              ไม่กี่นาทีมิเรก็อยู่ในชุดนักเรียน  เสื้อคอปกทหารเรือแขนยาว  ผูกเนคไทสีน้ำเงินเข้มตรงกลาง  กระโปรงถูกจัดเป็นกลีบลายสก๊อตสีน้ำเงินสลับฟ้าน้ำเงินขาวสั้นเลยเข่า  พร้อมถุงเท้าสีขาวเกือบถึงเข่า 
              มิเรเรียนอยู่ที่โรงเรียนไซโฮนาระ  เป็นโรงเรียนชื่อดัง  มิเรอยู่ห้อง  A1 เป็นห้องคิง  นอกจากมิเรจะน่ารัก  แถมเปิ่นจนใครๆๆต่างก็เรียกว่ายัยเปิ่น    ก็เรียนเก่ง  พอๆๆ กับ
 
มิน่าซัง  โครุ   โครุเป็น เป็นคู่แข่งของมิเรตั้งแต่เด็กจนโต ตอนเด็กๆ  มิเรกับโครุก็แข่งขันในเรื่องการเรียนมาตลอดไม่มีใครแพ้ใครชนะ  จนมาอยู่โรงเรียนมัธยม คือ โรงเรียนไซโฮนาระ  ก็มาเจอกันอีก ไม่รู้ว่าโชคชะตาจะให้เธอทั้งสองแข่งกันไปถึงไหน  หรือว่านอกจากเรื่องเรียนแล้ว เธอทั้งสองจะต้องแข่งอะไรกันอีก!!
            มิน่าซัง  โครุ  เป็นเด็กสาวที่ค่อนข้างน่ารักทีเดียว  ผิวขาวอมชมพู  ผมสั้นเหยียดตรงซอยปลาย  มีหน้าม้า ผมสีดำอมน้ำเงินเงาเป็นประกาย  ดวงกลมโตสีน้ำเงินเข้ากับใบหน้า  พอเทียบกับ  มิเรแล้ว  ความสวย ความน่ารัก พอๆๆกัน  ส่วนการเรียนก็สู่สีกันจนแยกไม่ออกว่าใครเก่งกันแน่!!  แต่มาพูดถึงนิสัยของสองคนนี้แล้ว  ต่างกันเป็น 1,000,000 กิโลๆ  เลยก็ว่าได้     
              โครุ  นิสัยภายนอกออกจะเฉยๆ  ผิดกับข้างใน  หน้าขยะแขยงยิ่งนัก  แต่ล่ะอย่างที่เธอคิดนั้นมันเป็นเศษขยะ ดีๆๆนี่เอง  โครุเกลียดมิเรเข้ากระดูกดำ  เพราะมิเรเป็นตัวเปรียบเทียบของเธอในเรื่องต่างๆๆ  ถ้ามีเธอก็ต้องมีมิเร  มันทำให้เธอดูไม่ค่อยโดดเด่นในความคิดของเธอ  เพราะเธออยากเด่นคนเดียว  เวลาจะเด่นก็ต้องมีมิเรเด่นอยู่ด้วย  ซึ่งเป็นสิ่งที่โครุเกลียดเอามากๆๆ  ถ้าคนดูไม่ออกจิงๆๆ ก็จะบอกว่า โครุ เรียบร้อยจัง  เรียบร้อยกว่ามิเรอีกแน่ะ 
                เพราะ มิเร  นิสัยออกจะเปิ่นๆๆ ซุ่มซ่ามเป็นที่หนึ่ง แต่ที่จริงแล้วเธอมีความตั้งใจจริง  ไม่มีอะไรแฝง คิดอะไรก็พูดออกมาอย่างนั้น ไม่เสแสร้ง  และที่สำคัญมีเธอคนเดียวที่ดูโครุออกว่า  โครุคิดจะทำอะไร  เธอจึงเป็นคนที่อ่านใจคนเก่งอีกด้วย    แล้วที่เธอแข่งกับโครุก็เพราะไม่ใช่เพราะเธออยากจะเด่นเหมือนโครุ  แต่เธอทำเต็มความสามารถต่างหากล่ะ  เธอไม่ได้เรียกการเรียนว่าการแข่งขันกัน  แต่เป็นเพียงบันไดที่จะทำให้เธอไต่ไปหาจุดมุ่งหมายที่เธอตั้งไว้  คือ  เธอแข่งกับตัวเอง ไม่ได้แข่งกับใครทั้งนั้น  แต่ความคิดนี้  ไม่ได้อยู่ในจุดใดของเซลล์สมองส่วนไหนของโครุเลยแม้แต่นิดเดียว!! โครุ คิดอยู่อย่างเดียวคือ  ต้องการเอาชนะมิเรให้ได้ แล้วเธอก็ต้องเป็นที่หนึ่งคนเดียวเท่านั้น!!!
      “ ลงมาแล้วเหรอ  ลูก”  แม่ของมิเรพูดในขณะที่มิเรสาวเท้าลงบันใดอย่างรวดเร็ว
      “ ค่ะ แม่  “  มิเรตอบรับ  พร้อมหอมแก้มแม่
  “  วันนี้ หนูไม่ทานข้าวเช้าน่ะค่ะ  นัดเพื่อนไว้ค่ะ  ไปน่ะค่ะ”  สิ้นคำพูดมิเร มิเรก็หอมแก้มแม่  อีกที  แล้วเดินไปหอมแก้ม ป้ายาม่า  แล้วก็หยิบกระเป๋า  นี่ก็เป็นกิจวัตรประจำวันของมิเรก่อนออกจากบ้าน  ส่วนใหญ่มิเรจะไม่ค่อยทานข้าวเช้ามักจะไปทานกับเพื่อนที่โรงเรียน  นั่นก็คือ  ไซโฮนาระ  โกรุ 
        โกรุ  เป็นเพื่อนซี้ของมิเร  และที่สำคัญ เป็นลูกของเจ้าของโรงเรียนที่ มิเรและโกรุ ร่วมทั้ง โครุ  เรียนอยู่ด้วย    โกรุพูดถึงหน้าตา ก็น่ารักน้อยกว่า  มิเร และ โครุ  แต่ก็ไม่ถึงขั้น ขี้เหล่  ผมดำเงาเรียบยาวถึงกลางหลัง  ส่วนโหญ่  โกรุจะปล่อยผมมาโรงเรียนทุกวัน  ผมของโกรุยังไม่เคยผ่านการซอยมาเลยสักนิดเดียว  ผิวขาวแต่ไม่ขาวเท่ามิเร 
          พูดถึงนิสัยของโกรุ  ก็เป็นคนที่รักเพื่อนมากคนหนึ่ง แม้มิเรจะน่ารัก เรียนเก่งกว่า  โกรุก็ไม่เคยแม้แต่จะอิจฉา มีแต่สนับสนุน  และยังเป็นคนคอยจับตามองโครุแทนมิเรอีกด้วย  ทั้งโกรุ  มิเร  ก็รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆๆ  แล้วก็ย้ายตามกันมาอยู่โรงเรียนเดียวกัน  ไม่ซิ  มิเรต่างหากที่ย้ายตามโกรุ  เพราะยังไงโกรุก็ต้องเรียนโรงเรียนนี้อยู่แล้ว  เพราะเป็นโรงเรียนของตระกูลของโซโฮนาระ  ซึ่งโกรุก็เป็นหลานตระกูลนี้  ซึ่งจัดว่าเป็นโรงเรียนชื่อดังโรงเรียนหนึ่ง 
        มิเรเดินไปตามทางเท้าเพราะนัดโกรุไว้ที่ร้าน  Bom  Bom    ร้านนี้เป็นร้านของป้าโกรุ  ซึ่งเป็นร้านเสื้อผ้าวัยรุ่น  มีเด็กที่คอยช่วยขายอยู่ สองคน  ร้านนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากบ้านมิเรเท่าไหร่    โกรุมานอนบ้านป้าได้เกือบเดือนแล้ว  เพราะไม่มี ใครอยู่บ้าน พ่อแม่ของโกรุก็ไปธุระ    สองเดือนกว่าจะกลับ
  “ มิเร  ทางนี้ๆ”  มิเรหันซ้ายแลขวา  ตามเสียงใส  ไม่ผิดที่เธอคิดไว้ นั่นคือ โกรุนั่น เอง  โกรุอยู่ในชุดเดียวกับมิเร
    “มิเร  กินข้าวมายัง  ”  โกรุ พูดเสร็จก็ชี้มือไปทางร้าน ข้าว ใกล้กับร้าน Bom  Bom
    “ยังอ่ะซิ .ไปกัน หิวแล้วว”  มิเรพูดเสร็จก็ลากโกรุมาร้านข้าว
              ทั้งสองสั่งๆๆ  แล้วก็นั่งกินๆๆๆๆ จนอิ่ม  พอจ่ายเงินเสร็จ  ก็ออกจากร้าน
      “ อ๊ายยย    โครม!! “  มิเรเผลอเดินไปชนชั้นหนังสือ  ที่วางอยู่นอกร้าน  สามตู้ที่วางเรียงกัน  ตอนนี้ นอนเรียงราย  สายตาคนทั้งร้าน  จับจ้องที่ทั้งสองคน 
            ทำไมต้องมาเปิ่นตรงนี้ด้วยว่ะเนี่ย  มิเรคิด   
            เอาอีกแล้วเพื่อนเรา  ทุกที เลย!!    โกรุคิดแล้ว ยิ้ม  กับความเปิ่นของเพื่อนคนนี้  เธอเห็นจนชินตาแล้วแหละ
          แล้วทั้งสองก็ต้องช่วยกันเก็บหนังสือ ยัดใส่ตู้เหมือนเดิม 
        “นี่  มิเร  เมื่อไหร่เธอจะหายเปิ่นอย่างนี้น่ะ  ฉันล่ะเซ็งเลย“  โกรุพูดบ่น  พรางเดินออกจากร้าน
        “ อ้าว!! เธอว่าฉันไม่ได้น่ะ ..มันเป็นกรรมพันธ์ .ฮิฮิ”  มิเรยิ้มแห้งๆๆกลบความอายของตัวเอง
        “กี่โมงแล้วอ่ะ มิเร  “  โกรุถามมิเร
              มิเรมองนาฬิกาตัวเอง  พร้อมเงยหน้าขึ้น  แล้วตาโต  บอกสัญญาณว่า
        “ วิ่ง \'  ทั้งสองตะโกนพร้อมกัน
            แล้วทั้งสองก็กระหืดกระหอบเข้าโรงเรียน
           
    “นี่  พวกเธอรู้ไหมว่า  โครุน่ะ  มีแฟนหล่อลากดินเลยแหละเธอ”  หญิงสาวหน้าตาธรรมดาพูดด้วยเสียง
แหลมสูง  ในขณะวางจานข้าวลงบนโต๊ะ
    “ว๊าว  จริงหรอ  แล้วใครกันล่ะ ฉันอยากรู้ บอกหน่อยซี น่ะๆๆ”    หญิงสาวคนที่นั่งอยู่  วางมือจากจานข้าวหันมาสนใจ
    “ก็ ฟูจิยาม่าาาา .”    หญิงสาวลากเสียง
    “ ห๊าาาา .อย่าบอกน่ะ  ธ ธ เธอ เธอ  ม ม  หมาย หมาย  ถ  ถ ถึง  “  หญิงสาวอีกคน ตะโกนด้วยความตกใจ  และพูดสั่นๆๆ
      “ใช่  เธอเข้าใจไม่ผิดหรอก  เค้าก็คือ .ฟูจิยาม่า    เคียวโตะ “  หลังจากสิ้นเสียงหญิงสาวคนนั้น
      “ กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” 
        10นาทีต่อมา
      “ นี่  โกรุ  ยัยพวกนั้นมันกรี๊ดหาพระแสงอะไรอ่ะ “  มิเรถามโกรุ ซึ่งนั่งใกล้ๆๆกับพวกที่กรี๊ดสนั่นโรงอาหาร
      “อ้าว  คิดว่าเธอรู้แล้วซะอีก  “  โกรุพูดแล้ววางช้อนส้อม
        “ก็หนุ่มชื่อดังของ  โรงเรียน เรียวจินยาโนะ  ไง  แต่ .ไอ้ที่เป็นแฟนกับ โครุนี่ซิ  ฉันไม่ค่อยแน่ใจ    เธอนี่ทำเป็นไม่รู้  ใครๆๆเค้าก็รู้จักทั้งนั้นแหล่ะ  ทั้งดัง  ทั้งหล่อ  ทั้งเท่  ใครได้ครอบครองน่ะ  เหมือนขึ้นสวรรค์เลยน่ะ มิเร ”  โกรุร่ายยาว  ทำเอามิเรอ้าปากค้าง
          ฟูจิยาม่า  เคียวโตะ  เป็นชายหนุ่มที่สาวๆๆต่างพากันหลงใหล    เคียวโตะจัดว่าหล่อดังเทพบุตรก็ไม่ปาน  รูปร่างสูงหุ่นนักกีฬา    เคียวโตะ สูง  180กว่า  ผิวขาวอมชมพู  ปากได้รูป  คิ้วเข้ม  จมูกโด่ง  ผมเงาดำซอยประบ่า
          เก่งทั้งด้านการเรียน  กีฬา ร้องเพลงซึ่ง  เสียงของเคียวนั้น  ทำให้สาวๆๆที่ได้ฟังแล้วกรี๊ดสลบไปตามๆๆกัน  แต่ที่แปลก  ก็คือ  มีโมเดลลิ่ง มาติดต่อให้เคียวไปเป็นนักร้อง    ตอนที่มีงานกีฬาสีของโรงเรียนเรียวจินยาโนะ      เคียวได้ขึ้นไปร้องเพลง  ด้วยความจำเป็นเพราะท่านประธานยังไม่มา    แต่เขาปฏิเสธโมเดลลิ่ง  เพราะอะไร  ก็เพราะ  เคียวรำคาญที่ต้องมาเป็นที่สนใจของประชาชีทั้งหลาย  โดยเฉพาะ ผู้หญิงทั้งหลาย  เคียวเกลียดเสียงดัง และเสียงกรี๊ด เป็นชีวิตจิตใจ  มีหญิงหลายคนที่มาเสนอตัวให้กับ เคียว  แต่ก็ถูกเคียวด่ากลับไปทุกคน  จนผู้หญิงพวกนั้นร้องไห้น้ำตาตกกลับบ้าน   
            นิสัยของเคียวโตะ หนุ่มหล่อกระชากใจสาวๆๆคนนี้  ก็คือ  ขี้รำคาญ  พูดตรงไปตรงมา  เป็นคนพูดหวานไม่เป็นโดยกำเนิด  ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ทนเค้าได้  นอกจากเค้าจะเจอ  คนที่ใช่!!  เค้าก็จะเป็นเพียงลูกแมวตัวน้อยที่ไม่มีเคี้ยวดีๆนี่เอง  
       
        “  มิเร  เธออย่าบอกน่ะเธอไม่รู้จักอ่ะ”  โกรุพูดพร้อมกำลังตักข้าวเข้าปาก
        “ ฉันไม่รู้จักอ่ะ “  มิเรพูด    “ เอื๊อก  ค่อกๆๆ”  ทำเอา โกรุสำลักข้าวทันที
        “ยัยเปิ่นเอ้ย  เธอนี่จริงๆ  ชั่งเหอะ”  โกรุพูดพร้อม ตักข้าวเข้าปาก เพราะซื้อมายังไม่ได้กินจนเย็นหมดแล้ว
        “ถึงฉันจะเปิ่นน่ะ ฉันก็ไม่หลงผู้ชายเหมือนกับยัยพวกนั่นหรอกย่ะ”  มิเรทำค้อนใส่โกรุ แล้วเชิดหน้าใส่พวกที่กรี๊ดเมื่อกี้    โกรุจึงขำท่าทางของมิเร 
  เธอนี่น่ะ  มิเร ขนาดฉันคิดว่าเธอทำท่าน่าเกลียดแล้วน่ะ  แต่เธอก็ยังน่ารักแบบตลกๆอีกแฮะ  อิอิ โกรุคิด
..
        “โกรุเธอเห็นโครุบ้างป่ะ “  มิเรถามในขณะมองไปรอบๆๆห้อง
        “แล้วเธอจะถามไปทำไมอ่ะ”  โกรุพูดแล้วเก็บหนังสือเข้ากระเป๋า
          “เธอไม่สังเกตุหรอ  วันนี้ไม่เห็นโครุเลยน่ะ  อยู่ห้องเดียวกันแท้ๆๆ”    มิเรพูดแล้วก็เก็บหนังสือตัวเองบ้าง
          “ไม่รู้ซิ    ไปกันเถอะ “  โกรุพูดแล้วเดินออกห้องไปพร้อมมิเร
           
                ทั้งสองเดินออกจากโรงเรียนไป
    ------------------------------------
    To  be  continus....
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น