ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Subconscious mind

    ลำดับตอนที่ #4 : chapter 4

    • อัปเดตล่าสุด 14 มิ.ย. 55


                      Subconscious mind


    เรื่องโดย
    :A.D.ADAM

    chapter4


                 คุณเคยฝันกันหรือเปล่า แน่นอนทุกคนเคยฝัน แต่คุณรู้ไหมว่าในฝันของเรามันมีความลับบางอย่างซ้อนอยู่ แต่เอาละผมจะยังไม่พูดถึงมัน เอาเป็นว่าตอนนี้คุณกำลังฟังชายคนหนึ่งพูดพร่ำเรื่องไร้สาระฟังดูไม่มีมูล ผมเป็นใครนะเหรอ ... ผมคือพนักงานกินเงินเดือนของ
    บริษัทสุดแสนจะเฮงซวยแห่งหนึ่ง หน้าที่ของผมไม่มีอะไรมากไปกว่าเดินไปเดินมาตามโต๊ะทำงานของเพื่อนรวมงานน่าเบื่อ เพื่อเก็บเอกสารที่กองเป็นตั้งๆจากโต๊ะไปอีกโต๊ะไปอีกโต๊ะ สรุปง่ายๆผมเป็นชนชั้นล่างสุดของพนักงานทั้งหมด ชีวิตวันทำงานสุดแสนจะน่าเบื่อ แย่จริงๆ

    ก็นะเรามาพูดต่อจากเรื่องที่ค้างไว้ตอนต้นดีกว่า คุณเคยฝันถึงเหตุการณ์ซ้ำๆบางไหม คุณเคยฝันเห็นคนที่คุณไม่รู้จักแต่กลับรู้สึกคุ้นเคยหรือเปล่า และคุณเคยสังเกตุไหมว่าชายในชุดสูทสีดำคอยมองคุณอยู่ห่างๆเสมอในฝันของคุณ? และนี่คือสิ่งที่ผมจะเล่า....

              11เดือนก่อน

              เวรแท้ๆทำไมเรื่องราวแบบนี้ต้องเกิดขึ้นกับผมด้วย  ผมคิดขณะยืนต่อหน้าหมอ ผ่าไปแล้วเหรอพูดง่ายฉิบ แล้วผมจะไปเอาเงินที่ไหนมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลกันละ และก็นะมันไม่ดูแปลกๆไปหน่อยเหรอ ที่หมอผ่าตัดเลยเนี่ยตลกร้ายชัดๆ

    “เอาละคุณกลับขึ้นเตียงเถอะร่างกายคุณยังไม่แข็งแรง”

    ผมมองผ่านไหล่หมอไปเห็นชายสองคนในชุดคล้าย รปภ. ยืนอยู่นอกห้องสองคน มันแปลกดีที่ผมซึ่งป่วยขนาดนี้ยังต้องมีการเฝ้าระวัง ผมกลับขึ้นเตียงได้ไม่นานก็มีชายท่าทางดูดีเขาดูมีอายุ น่าจะราวๆ40กว่า เข้าแต่งตัวดีเหมือนกับพวกนักธุรกิจ

    “เอ่อ คุณ..คนนิรนาม ได้โปรดนอนนิ่งๆแล้วฟังผมให้ดี  และแน่นอนนี่ไม่ใช่ความฝัน มันเป็นเรื่องจริงอย่างที่สุด การที่คุณเป็นเนื้องอกนั้นเป็นเรื่องจริงทุกประการ มันเป็นอาการข้างเคียงของผู้ที่ถูกซิงค์ ซึ่งนั่นเรารักษาได้ แล้วเราก็ทำการักษาให้แล้ว ไม่ต้องห่วงเรื่องค่าใช้จ่าย เพราะความสามารถของคุณมีค่ากว่ามาก โอเคคุณอาจจำผมไม่ได้นั่นก็แน่ละเพราะมันอยู่ใน Subconscious ที่ลึกที่สุดของคุณ เอาเป็นว่าเราเคยกันหลายต่อหลายครั้งแล้ว และคุณก็ทำให้ผมประทับใจเสมอ ก็นะเข้าเรื่องเลยดีกว่าอย่าพยายามช่วยเธออีกเลยคุณไม่สามารถทำได้หรอก เราจะไม่ขอให้คุณเลิกยุ่งเพราะคุณเลยสิ่งนั่นมาไกลมากแล้ว แต่เราจะขอให้คุณร่วมมือกับเรา ได้โปรดลองเอาไปคิดดู เอาละผมต้องไปแล้ว พักรักษาตัวก่อนละกันแล้วผมจะมาใหม่  เออเกือบลืมเจอกันในฝันคราวหน้าคุณอย่าพยายามฆ่าผมอีกเลยเพราะผมไม่อยากเสียคุณไปจริงๆ”

    ไอ้หมอนี่มันเป็นใครกัน ทำไมผมถึงจำช่วงเวลาตั้ง6เดือนในฝันไม่ได้เลยสักนิด บางทีเธออาจจะรู้เรื่อง ผมควรหลับเพื่อไปเจอเธอ  แล้วถ้าผมไม่ได้ตื่นขึ้นมาอีกละ บ้าฉิบมัวแต่คิดไร้สาระอยู่ได้ เราควรทำอะไรสักอย่างซิไม่ใช่มัวแต่กลัว ผมหลับตาลง และลืมตาขึ้นเอาละผมอยู่ริมฟุตบาทที่ไหนสักแห่ง ที่นี้ไม่ใช่โรงพยาบาลนั่นแปลว่าผมฝันอยู่ คราวนี้ผมแต่งตัวค่อนข้างดีทีเดียว ผมอยู่ในชุดโค๊ทยาวสีดำ ด้านหลังของผมเป็นร้านอาหารที่ดูหรูหราทีเดียว ผมมองผ่านกระจกหน้าร้านพบเธอกำลังนั่งรออยู่ ผมจึงเดินเข้าไป

    “ว่าไงกว่าจะมาได้นะ”

    “คุณรอผมอยู่เหรอ?

    “ฉันรอคุณประจำล่ะ โอเคฉันพอเข้าใจมันมีบางอย่างผิดพลาด ตอนนี้อนาคตเปลี่ยนแล้ว และตัวคุณสำคัญมาก ในเวลานี้”

    “ผมมีคำถาม ทำไมผมถึงจำเรื่องราวในฝันตลอด6เดือนที่ผมโคม่าไม่ได้เลย”

    “พวกเค้ากลัวคุณ..คุณแข็งแกร่งเกินไป เขาส่งชายคนหนึ่งมา ชายคนนั้นสู้กับคุณอยู่หลายครั้งก่อนคุณจะพลาดท่า เขาจึงขังความทรงจำบางส่วนของคุณ”

    “เขาเป็นใคร?

    “เขาคือคนที่คิดได้เร็วพอๆกับคุณ คุณควรระวังตัวให้มาก ตอนนี้เป้าหมายของพวกเค้าไม่ใช่แค่ฉัน แต่เป็นคุณ”

    “ถ้าแบบนั้นเค้าคงได้ตัวผมไปแล้วล่ะ ในโลกความจริงผมได้เจอชายคนหนึ่งเขาพูดเหมือนเขาเคยเจอผมมาหลายครั้ง แต่ผมจำเขาไม่ได้ ผมไม่แน่ใจว่าเขาคือคนที่ขังความทรงจำหรือเปล่า”

    “ถ้างั้นคุณควรรีบหนีแล้วล่ะ และอีกอย่างควรลองซิงค์ดู ฉันว่าตอนนี้คุณน่าจะทำได้แล้ว”

    หลังจากที่เธอพูดจบตัวผมก็ถูกดึงขึ้นจากภวังค์ แล้วจะยังไงต่อดีล่ะ ร้างกายไม่มีแรงเลยซะด้วยซ้ำไป แล้วผมจะหนียังไงผมพยายามขยับไปมาเพื่อดูว่าผมมีแรงแค่ไหนก่อนพยายามลุกขึ้นนั่งแล้วก้าวขาลงจากเตียงช้า ผมล้มลงทันทีที่ขาถึงพื้น บ้าฉิบผมลุกขึ้นอีกครั้งโดยใช้เสาน้ำเกลือเป็นที่พยุงขา ผมสั่นเป็นเจ้าเข้าผมไถเสาน้ำเกลือไปทางหน้าต่างช้าๆ ก่อนเห็นเงาสะท้อนของตัวเองในกระจก  ให้ตายเถอะผมดูโทรมสุดๆไปเลย พวกเขาโกนหัวผมแถมผมยังมีลอยแผลจากการเย็บที่ข้างศีรษะอีก เอาล่ะหลังดูสารรูปตัวเองเสร็จผมก็เดินต่ออย่างช้าๆไปที่หน้าต่าง แม่จ้าว!นี้มันชั้นที่สิบได้มั้ง เลิกคิดเรื่องจะหนีทางหน้าต่างไปได้เลย ผมเดินกลับมาทางประตูหน้าห้อง ที่ประตูมีช่องสำหรับมองออกไป โอเคผมเห็นชายคนหนึ่งกำลังนั่งเฝ้าอยู่หน้าห้อง ยังดีที่มีแค่คนเดียว แล้วอีกคนไปไหน ก่อนหน้านี้ผมแน่ใจว่าเห็นสองคน เอาล่ะเลิกคิดเรื่องหยุมหยิมก่อน จะทำไงกับไอ้หมอนี่ดี ไม่รู้เพราะโชคช่วยหรืออะไรไอ้หมอนี่มันดันสัปหงก ผมนึกถึงคำของเธอขึ้นมาก่อนจะนั่งลงกลับพื้น แล้วหลับตา ซิงค์งั้นเหรอ คราวนี่มันต่างออกไปผมไม่ได้อยู่ในหัวตัวเอง ผมไม่ได้สร้างมันขึ้น ทุกอย่างมันดูวุ่นวานเสียงพูดคุยดังสับสนปนเปไปหมดผมเห็นภาพของคนนั้นทีคนนี้ทีลอยไปลอยมาเต็มไปหมดมันเหมือนกับว่าผมเข้าไปดูความทรงจำของเขาแล้วทุกอย่างก็จบลง ตัวผมมานั่งอยู่ที่เก้าอี้ในห้องทำงานของceo แต่ไม่ๆผมไม่ได้เป็นceoตอนนี้ผมเป็นพนักงานที่กำลังโดนด่าอย่างยับเยิน ให้ตายไอ้บ้านี่มันฝันได้ไกลความจริงมากเลยทีเดียว แน่นอนไอ้คนที่ด่าผมอยู่ตอนนี้ก็คือไอ้คนที่นั่งเฝ้าผมที่หน้าประตู ตลกดีจริงๆเอาล่ะดูเหมือนมันจะอินกับบทบาทประธานเอามากๆ แต่ผมไม่ได้มาเพื่อให้มันด่า ผมมาเพื่อเก็บมัน ผมลุกขึ้นขณะที่มันกำลังด่าทอผมอยู่ ผมหยิบที่ทับกระดาษรูปร่างเหมือนวัวกระทิงท่าทางหนักน่าดู ก่อนจะกระหน่ำฟาดไม่ยั้งเข้าที่หัวท่านประธานจนเขานอนแน่นิ่งไป แน่นอนตอนนี้สำหรับหมอนั่นมันคือฝันร้ายชัดๆ ยังไงดีละผมควรโยนเขาออกนอกตึกเลยดีไหม แต่เขาก็ไม่ได้ผิดอะไรจนถึงกับต้องตายทั้งเป็น งั้นเอาเป็นผมจะขังเขาไว้ในจิตใต้สำนึกของเขาสักพัก ผมเลยทำการเดินออกจากห้องก่อนล็อคประตูเพื่อขังเขาไว้ข้างในเมื่อถึงเวลา ล็อคจะคลายไปเอง ตรงนี้ล่ะที่แปลกผมรู้ได้ยังไงว่าผมทำสิ่งนี้ได้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ผมทำได้เพียงแค่โยนคนออกนอกหน้าต่างเท่านั้น แต่ก็เอาเถอะผมควรตื่นแล้วหนีออกไปได้แล้ว

              ผมตื่นขึ้นแล้วเดินออกจากห้องตรงไปทางซ้ายซึ่งเป็นทางหนีไฟผมค่อยๆลงบันไดช้าๆจนถึงชั้นล่างสุดมันเป็นชั้นลานจอดรถ ผมควรหารถสักคันแล้วขับหนีไป แบบนี้มันขโมยชัดๆ แต่จะเดินออกทางลานจอดรถเลยก็ไม่ได้เพราะชุดที่ผมใส่อยู่มันเป็นชุดคนไข้ ผมไม่ได้ใส่กางเกงในซะด้วยซ้ำ ยังไม่ทันจะคิดเสร็จเสียงรถคันหนึ่งก็มาจอดตรงหน้าผม ชายคนที่เจอกันให้ห้องครั้งก่อนลงจากรถพร้อมเล็งปืนมาที่ผม

    “นี่ไม่ใช้ฝันนะ..รับรองถ้าผมยิงคุณ คุณได้เจ็บแน่ๆ”

    “คุณไม่ยิงผมหรอก..ผมสำคัญกับงานของพวกคุณ”

    “รู้มากอีกนะ”

    หลังจากพูดจบเขาก็ลดปืนลงก่อนจะมองมาที่ตาของผม พระเจ้า ให้ตายเถอะ เขาพยายามซิงค์ผมในขณะที่ตื่น ร่างกายผมเริ่มอ่อนแรงและทรุดลงกับพื้นก่อนเราทั้งคู่จะหมดสติไปพร้อมๆกัน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×