คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Chapter 1
Subconscious mind
เรื่องโดย:A.D.ADAM
Chapter 1
คุณเคยฝันกันหรือเปล่า แน่นอนทุกคนเคยฝัน แต่คุณรู้ไหมว่าในฝันของเรามันมีความลับบางอย่างซ้อนอยู่ แต่เอาละผมจะยังไม่พูดถึงมัน เอาเป็นว่าตอนนี้คุณกำลังฟังชายคนหนึ่งพูดพร่ำเรื่องไร้สาระฟังดูไม่มีมูล ผมเป็นใครนะเหรอ ... ผมคือพนักงานกินเงินเดือนของบริษัทสุดแสนจะเฮงซวยแห่งหนึ่ง หน้าที่ของผมไม่มีอะไรมากไปกว่าเดินไปเดินมาตามโต๊ะทำงานของเพื่อนรวมงานน่าเบื่อ เพื่อเก็บเอกสารที่กองเป็นตั้งๆจากโต๊ะไปอีกโต๊ะไปอีกโต๊ะ สรุปง่ายๆผมเป็นชนชั้นล่างสุดของพนักงานทั้งหมด ชีวิตวันทำงานสุดแสนจะน่าเบื่อ แย่จริงๆ
ก็นะเรามาพูดต่อจากเรื่องที่ค้างไว้ตอนต้นดีกว่า คุณเคยฝันถึงเหตุการณ์ซ้ำๆบางไหม คุณเคยฝันเห็นคนที่คุณไม่รู้จักแต่กลับรู้สึกคุ้นเคยหรือเปล่า และคุณเคยสังเกตุไหมว่าชายในชุดสูทสีดำคอยมองคุณอยู่ห่างๆเสมอในฝันของคุณ? และนี่คือสิ่งที่ผมจะเล่า....
18เดือนก่อน
วันนี้ฝนตกหนักอีกแล้ว ผมคิดขณะมองออกไปนอกหน้าต่างจากตึกสูงชั้นที่26 “ไม่ได้พกร่มมาด้วยสิเรา”
“เฮ้ยไอ้หนูมัวยืนเหม่ออยู่ได้ งานยังไม่เลิกนะเฮ้ย”
เสียชายอ้วนตะโกนเรียกจากโต๊ะทำงานแถวที่2จากทางซ้าย โต๊ะลำดับที่4นับจากด่านหน้าสุด ผมเดินเข็นรถที่มีตะกร้าใส่เอกสารไปยังโต๊ะของเค้า
“ไอ้หนูเอาเอกสารไปให้ฝ่ายบัญชีชั้นล่างด้วยแล้วขากลับก็เอากาแฟให้ฉันสักแก้วนะ”
ชายอ้วนหน้าตาอุบาทว์ ออกคำสั่งอย่างกับผมเป็นคนใช้ของมันก็ไม่ปาน ไอ้หมอนี่มีเรื่องไม่ดีเยอะแยะไปหมดมีข่าวซุบซิบกันว่าเค้าชอบลวนลามพนักงานหญิงอยู่บ่อยๆแต่ไอ้อ้วนนี่มันคนเก่าคนแก่อยู่มานานเลยไม่มีใครเอาผิดอะไรมันได้ บัดซบจริงๆไอ้ชาติชั่ว
“ไอ้หนูไปสักทีสิวะ แกจะยืนมองหน้าฉันอีกนานไหม?”
ผมเดินออกมาเงียบๆไม่พูดอะไร หลังจากทำธุระให้ไอ้อ้วนนั่นเสร็จ เดินไปเดินมาอีกหลายรอบรู้ตัวอีกทีก็มายืนอยู่ในห้องน้ำแล้ว ผมควักน้ำที่มาจากก๊อกใส่หน้าอยู่สองสามที ก่อนมองกระจกดูหน้าตัวเองที่โทรมเหลือหลาย ทรงผมที่ดูเหมือนจะเรียบร้อย ใบหน้าที่ดูเหมือนสดใส ยิ่งเพ่งมองยิ่งเห็นถึงความอ่อนล้า เมื่อไหร่วันนี้มันจะหมดไปซักทีวะ จริงๆแล้วผมยื่นใบสมัครงานที่อื่นอยู่ หลายที่ซะด้วยแต่ก็อีก ยังไม่มีใครตอบกลับมาสักที่ ผมคงต้องทนทำงานที่นี้ไปอีกสักระยะละมั้ง น่าเบื่อชิบหายผมควักมือถือออกมาดูนาฬิกา พระเจ้าช่วยนี้มันถึงเวลาเลิกงานพอดี ผมเดินออกจากห้องน้ำตรงไปยังโต๊ะทำงานของตัวเอง เก็บข้าวของแล้วตรงไปที่ลิฟท์ ลงมายังชั้นล่างสุดแล้วเดินออกไปหน้าประตูทางเข้า แม่งฝนยังไม่หยุดตกอีก ผมเดินลุยฝนออกไปทางขวาของตึกเพื่อไปยังที่พัก มันเป็นตึกใกล้ๆกันไม่ห่างกันมาก เมื่อมาถึงก็ไม่ต้องคิดอะไรมากนัก อาบน้ำอาบท่าเสร็จก็ตรงไปยังเตียง ของีบหน่อยละกัน ทันทีที่หมดสติหลับลงก็เหมือนว่าถูกกะชากเข้าสู่อีกโลก ผมเห็นสถาณีรถไฟใต้ดินผู้คนแออัด และหญิงสาวที่มองตรงมา เธอหน้าตาดีผมไม่ยาวมาก และไม่สูงเท่าไหรเธอเดินตรงมาหาผมแล้วพูดอะไรบางอย่างแต่ผมไม่ได้ยินมัน อันที่จริงเสียงทุกเสียงมันเงียบสนิดไปหมดไม่มีแม้แต่เสียงผู้คนในสถาณีผมมองดูเธอพยายามอ่านปากเธออย่างตั้งใจแต่แล้วเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นเสียงมันคล้ายเครื่องตัดเหล็กที่ใบมีดไม่คมจนไม่อาจตัดเข้า ผมมองตรงผ่านไหล่ของเธอไปเห็นแสงสว่างวาบที่ปลายสุดของอุโมง เธอจับใบหน้าผมให้จ้องหน้าเธอเธอดูเครียดเธอพูดไม่หยุดแต่ผมฟังเธอไม่ได้ยินสักนิด และสายตาของผมก็ละจากเธออีกครั้งเพราะรถไฟใต้ดินที่กำลังพุ่งตรงเข้ามาหาผม มันพุ่งเข้าชนเสาปูนแล้วเบี่ยงออกข้าง ทำให้โบกี้ถัดมากลิ้งขวางกวาดผู้คนที่กำลังหนีตาย และกลิ้งตรงมาหาผมอย่างรวดเร็ว เธอจับมือผมแล้วกระชากผมลงอย่างแรง ผมลืมตาขึ้นเหงื่อชุมกาย มือที่กำแน่นจนเกร็งยังไม่ครายออก ผมหันมองนาฬิกาหัวเตียงตอนนี้ตีสามสิบห้านาทีโดยประมาน แย่จริงๆยังไม่เช้าอีกเหรอแล้วจะหลับต่อลงไหมเนี่ย เช้าวันถัดมาผมก็ไปทำงานตามปรกติโดยไม่ได้สใส่ใจเรื่องที่ฝันสักกะนิด มันก็แค่เพียงฝันร้ายธรรมดา ผมคิดแบบนั้น ถึงที่ทำงานผมนั่งเอนหลังที่เก้าอี้ตัวเดิมวางของที่ใตัโต๊ะซอมซ้อ
“เฮ้ นายคนเดินเอกสาร หัวหน้าแผนกเรียกพบ”
เรื่องบ้าอะไรอีกวะ พึ่งมาถึงแท้ๆ ผมเดินไปผลางคิดในใจ
“นี่คุณเมื่อวานนี้มีพนักงานมาฟ้องผมว่าคุณทำพฤติกรรมไม่เหมาะสม ถ้าคุณยังอยากทำงานที่นี้ก็ช่วยทำตัวดีๆหน่อย”
ผมได้แต่ก้มหน้าก้มตาตบปากรับคำไป
“ครับ...มันจะไม่เกิดขึ้นอีกแล้วครับ”
หลังจากเหตุการณ์ตอนเช้าทุกๆอย่างก็เหมือนเดิม ผมก็ต้องเอาเอกสารจากโต๊ะนั่นมาโต๊ะนี้จากชั้นนั่นไปชั้นนี่ และก็เหมือนทุกวันเวลาว่างก็ได้แต่นั่งมองพฤติกรรมซั่วๆของไอ้อ้วนโต๊ะ4นับจากด้านหน้า และไอ้แว่นตุ๊ดกับอีสาวร่างอ้วนผมยาวเม้าถึงละครหลังข่าวที่โต๊ะ6ทางซ้ายสุดนับจากด้านบนลงมา ไหนจะยังมีอีแก่ปากหมาจากโต๊ะขวาสุดตัวสุดท้ายที่นั่งบ่นไม่หยุดปาก นี่สินะสถานที่เฮงซวยที่สุดในโลก บัดซบชีวิต ตกเย็นผมก็ออกมาหาอะไรกินวันนี้อากาศร้อนมาก ขนาดฟ้าเริ่มมืดมันก็ไม่มีทีท่าจะเย็นขึ้นมาสักนิด พอกินเสร็จผมก็กลับมายังห้องพักอาบน้ำอาบท่าแล้วก็เข้านอน ผมหลับตาลงโดยไม่ได้คิดอะไร อยู่ๆก็เหมือนถูกกระชากให้เข้าไปสู้อีกโลก เหมือนเดิม แต่คราวนี้ผมอยู่ปากทางลงสถาณีรถไฟใต้ดิน ผมเดินลงมาช้าๆเพราะคนมันเยอะเหลือเกิน และก็อีกครั้งผมยืนตรงจุดเดิมและมองไปรอบๆเห็นหญิงสาวมองมาทางผม เธอเดินตรงเข้ามา และพูดอะไรบางอย่างแต่ผมไม่ได้ยินผมพยายามอ่านปากเธอ คราวนี้ผมจับใจความได้เล็กน้อย ระ....วัง.....ชาย..ในชุด....สูทสีดำ ทันใดนั้นเสียงที่คุ้นหูก็ดังขึ้นพร้อมภาพที่มองผ่านไหล่เธอไป รถไฟที่กำลังหมุนกลิ้งตรงมาทางผม และผมก็สะดุ้งสุดตัวเหงื่อเต็มกาย ผมควานหานาฬิกาตีหนึ่งห้านาที ผมพยายามข่มตาหลับต่อทันที่สติหลุดไปผมก็มายืนอยู่หน้าทางลงรถไฟใต้ดิน ผมวิ่งลงมาเบียดเสียดผู้คนมากมายจนเจอเธอ เธอหันมองมาทางผมเหมือนทุกทีเธอเดินเข้ามาพูดเหมือนทุกครั้ง
“อะ..อะไรนะ ระวังชายในชุดสูทดำใช่ไหม”
ผมพูดกับเธอก่อนที่เธอจะเอ่ยปากซะอีก
“คุณ..คุณได้ยินฉันแล้วใช่ไหม”
ให้ตายเถอะผมได้ยินเสียงเธอแล้ว พระเจ้าช่วยนี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน
“เราอยู่ที่นี้ไม่ได้รถไฟกำลังมา อุบัติเหตุจะเกิดและผมจะตื่นอีกครั้ง”
“เดี๋ยวๆคุณเจอฉันมากี่ครั้งแล้ว”
“สามครั้งนี้ครั้งที่สาม”
ผมพูดพร้อมดึงมือเธอให้วิ่งไปยังบันใดทางออก
”แย่แล้วฉันตายทุกครั้งเลยรึป่าว”
“ผมไม่รู้ ผมตื่นก่อนได้เห็นมันทุกครั้ง”
“แย่แล้วฉันกำลังจะตายได้โปรดทำให้ฉันตื่นด้วยเถอะ”
“ยังไงผมต้องทำยังไง”
เราทั้งสองวิ่งขึ้นมาถึงข้างบนก่อนรถไฟจะตกรางพอดี ผมได้ยินเสียงผู้คนกรีดร้องหนีตาย
“คุณต้องคอนโทรลมันควบคุมความฝันของคุณให้ได้นี่เป็นฝันของคุณ ฉันเป็นแค่คนที่ซิงค์เข้ามา กระตุกฉันให้ฉันตื่นได้โปรดไม่งั้นฉันจะต้องหลับไปตลอดชีวิต”
อยู่ๆก็มีรถยนต์สีดำสนิทจอดล้อมเราเต็มไปหมด ผมมองไปรอบๆมีชายในชุดสูทสีดำเดินลงมาจากรถ พวกเขาเดินตรงเข้ามาหาเราทั้งคู่ ผมกระชากร่างเธออย่างแรงแล้วอยู่ๆเธอก็ถูกดึงขึ้นไปบนฟ้าและหายไปอย่างรวดเร็ว ส่วนตัวผมก็สะดุ้งสุดตัวตื่นขึ้นจากฝัน ผมมองหานาฬิกาเจ็ดโมงกว่าแล้ว ให้ตายมันเป็นฝันที่บ้าสุดๆไปเลยจริงๆก่อนอาบน้ำผมเปิดทีวีไว้เป็นเพื่อนแต่สิ่งผมได้เห็นคือข่าวอุบัติเหตุรถไฟใต้ดินตกราง ฆ่าคนไปกว่า80ชีวิตบ้าชิบอย่างกับความฝัน ...
ความคิดเห็น