ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    }The White Lie{ แก๊งค์หนุ่มหน้าใส...ไว้ลายไม่ใช่เล่น

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 3 เรื่องที่คาดไม่ถึง [The Incredible]

    • อัปเดตล่าสุด 10 ส.ค. 48




        หลังจากที่กลุ่มไว้ลายเดินออกมาจากโรงยิมแล้ว ทั้งหมดก็ตรงไป



    ที่ลานจอดรถทันที จากนั้นรถทั้งสามคัน ที่ไม่ว่าจะขับเคลื่อนไปทางไหน



    ก็เรียกความสนใจจากคนรอบข้างได้เสมอ จึงค่อยๆ ทะยานออกจากประตูรั้ว



    โรงเรียนชูโทคุ โรงเรียนชายล้วนที่เป็นศูนย์รวมของเหล่าทายาทอภิมหาเศรษฐี



    ทั้งหลาย แล้วรถทั้ง 3 คันก็ไปจอดเรียงกันอยู่ที่รั้วของประตูโรงเรียนสตรีชิสึโอกะ



    เพื่อตั้งตารอเจ้าของรถ Misubishi Evolution IX คันสีแดงสด



    ที่เห็นจอดอยู่ในลานจอดรถเมื่อตอนกลางวัน แต่กลายเป็นว่า ทันทีที่หนุ่มๆ ทั้ง 5



    กวาดสายตามองเข้าไปยังลานจอดรถนั้น กลับพบแต่ความว่างเปล่า



    ณ ตรงจุดที่เคยมีรถสีแดงจอดอยู่ บัดนี้กลับมีแต่พื้นปูนโล่งๆ เท่านั้นเอง







    “ดูเหมือนว่าจะล่องหนไปแล้วล่ะนะ” ทาคุยะเอ่ยขึ้นหลังจากที่เขามองไป



    ที่ลานจอดรถ แล้วพบแต่ความว่างเปล่า



    “แต่เชื่อเถอะ ไม่มีทางรอดพ้นสายตาไปได้หรอก ลองสีสดเตะตาแบบนั้นน่ะ”







    “พวกนายว่าไง...” เทปเปถามเพื่อนๆ



    “จะลองลงไปถามสาวๆ พวกนั้นไหมว่ารถคันนั้นไปทางไหน



    หรือว่าจะลองตระเวนตามหาเอาเอง” เขาถาม



    พร้อมกับมองไปยังกลุ่มนักเรียนหญิง







    “ถ้าลงไปถามน่ะ เดี๋ยวเราจัดการให้เอง ขอนาทีนึง” ฮาคุเอบอกแบบนี้



    พร้อมกับเปิดประตูและเดินเข้าไปในโรงเรียนสตรีชิสึโอกะ โดยที่



    สายตาของนักเรียนหญิงเหล่านั้นต่างจับจ้องมาที่เขา ซึ่งจะว่าไปแล้ว



    มาดดิบๆ เถื่อนๆ แบบนี้ บางครั้งก็น่าจะเตะตาเหล่าคุณหนูนั้นก็เป็นได้





        ………………………………………..





        ทันทีที่ฮาคุเอเดินเข้าไปในโรงเรียนสตรีชิสึโอกะ เขาก็กวาดสายตา



    มองเหล่านักเรียนหญิงที่ยืนกันเป็นกลุ่มๆ โดยที่สายตาเหล่านั้นก็จับจ้องมายังเขา



    อย่างสงสัยว่า นักเรียนชายคนนี้ กล้าดียังไงถึงได้เข้ามาเดินในโรงเรียนหญิงล้วน



    อย่างนี้ ซึ่งในเวลานั้น ก็มีนักเรียนหญิงกลุ่มหนึ่งเดินตรงเข้ามาที่เขา



    พร้อมกับยิ้มให้







    “ว่าไงคะ มีธุระอะไรที่นี่เหรอ” นักเรียนหญิงคนนั้นถามขึ้นพร้อมกับยิ้มให้เขา







    “คือผมมาตามหารถของเพื่อนน่ะครับ” ฮาคุเอบอกออกไปแบบนี้



    “คันสีแดงที่เคยจอดอยู่ตรงนั้นน่ะครับ พอจะรู้ไหมว่าเธอไปที่ไหน”



    เขาบอกพร้อมกับส่งยิ้มให้เธอ







    “อ๋อ... ยัยนั่นเองเหรอ คุณเป็นเพื่อนของเธอหรือคะ” เธอถามอีกครั้ง



    จะว่าไปแล้ว เด็กนักเรียนหญิงคนนี้ก็คือคนที่มีเรื่องกับซาคุมะเมื่อเช้านี้เอง



    “ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ายัยนั่นน่ะไปไหน เห็นเลิกเรียนปุ๊บก็รีบลงมาที่นี่



    แล้วขับรถออกไปเลย สงสัยคงไปหาแฟนที่ไหนล่ะมั้งคะ” เธอบอกออกไป



    พร้อมกับรอดูท่าทีของฮาคุเอว่าจะมีสีหน้าอย่างไร







    “อ๋อ... งั้นก็ขอบคุณมากนะครับ เดี๋ยวผมตามหาเธอเองดีกว่า” เขาบอกแบบนี้



    พร้อมกับเดินออกมา







    “คุณเป็นเพื่อนกับซาคุมะเหรอคะ” นักเรียนหญิงคนหนึ่งถามขึ้น







    “ครับ...?!?” ฮาคุเอหันมามองเจ้าของเสียงที่เอ่ยถามกับเขา







    “คือ... ฉันถามว่าคุณเป็นเพื่อนของซาคุมะใช่ไหม” เธอถามกับเขาอีกครั้ง



    ฮาคุเอจึงพยักหน้าตอบ “ฉันก็ว่าคงเป็นอย่างนั้นน่ะค่ะ พอดีว่าฉันเห็นซาคุมะ



    ขับรถไปทางนั้น เธอคงไปรับน้องสาวมั้งคะ”







    “อ๋อ.. มิน่าล่ะครับ เลยคลาดกันซะนี่” ฮาคุเอบอกแบบนี้



    พร้อมกับหันไปยิ้มให้นักเรียนหญิงคนนั้น “ขอบคุณมากนะครับ... คุณ... เอ่อ...”







    “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เพราะถ้าคุณเป็นเพื่อนซาคุมะ คุณก็เหมือนกับ



    เพื่อนของฉันด้วย เราเรียนห้องเดียวกันน่ะค่ะ” นักเรียนหญิงคนนั้นบอก



    พร้อมกับเดินไปขึ้นรถที่จอดรออยู่จากนั้นรถคันนั้นก็ขับออกไป



    เช่นเดียวกับที่ฮาคุเอเดินออกมาหน้าโรงเรียน เพื่อมาสมทบกับเพื่อนๆ



    ที่ออกมายืนรอกัน







    “ว่าไง... ได้เรื่องอะไรบ้าง” เทปเปถาม







    “เธอไปรับน้องสาวน่ะ เห็นเพื่อนเธอว่าขับรถออกไปทางนั้น” ฮาคุเอบอก



    พร้อมกับชี้มือไป โดยที่สายตาของเขานั้นยังคงมองตามรถที่เพิ่งเลี้ยวออก



    จากประตูโรงเรียน ซึ่งตอนนี้ขับพ้นสายตาไปแล้ว





        ……………………………………..





        จากนั้น รถทั้งสามคันก็ทยอยออกโลดแล่นบนท้องถนนอีกครั้ง



    โดยยังไม่รู้ว่า จุดหมายปลายทางนั้นอยู่ที่ใด ตอนนี้จึงได้แค่เพียงขับไปเรื่อยๆ



    ตามทางที่นักเรียนหญิงคนนั้นบอก ไม่นานนักบรรดาหนุ่มๆ ไว้ลายทั้งห้า



    ก็ประจักษ์แก่สายตาว่า Mitsubishi Evolution IX นั้นจอดอยู่ตรงหน้า



    ซึ่งเป็นรั้วประตูของโรงเรียนมัธยมอิชิสึกะนั่นเอง







    “ที่แท้ก็จอดอยู่นี่เอง” เทปเปเอ่ยขึ้น หลังจากที่ทุกคนลงมาพร้อมกัน



    ที่ข้างรถสีแดงสดคันนี้ “เอาไง จะยืนรอเจ้าของรถที่นี่ หรือว่าจะเดินเข้าไป



    ถามหาในโรงเรียนเลย”







    “นี่โรงเรียนมัธยมอิชิสึกะ คนอย่างพวกนายไม่ได้รับอนุญาตให้เหยียบย่างเข้ามา



    กลับไปซะดีๆ” เสียงหนึ่งดังขึ้นด้านหลังของหนุ่มๆ ไว้ลาย



    “อย่างพวกนายคงไม่มีธุระอะไรที่นี่หรอก”







    “พอดีเราตามหาคนอยู่น่ะ เธอมาที่นี่... เนี่ย เธอขับรถคันนี้มา” โยชิกิบอก



    พร้อมกับชี้มือไปที่รถคันสีแดงที่จอดอยู่ “ช่วยบอกเธอได้ไหมว่ามีคนมาหา”



    เขาบอกอีกครั้ง







    “ฮิโซกะ... นายไปทำอะไรกับพวกลูกคุณหนูพวกนั้นน่ะ” หนึ่งในกลุ่มนั้น



    ถามขึ้นพร้อมกับมองหน้าโยชิกิ “แถมยังใส่ชุดเดียวกับพวกนั่นอีก



    ไหงนายว่าจะรีบไปที่ชมรมไม่ใช่เหรอ”







    “ฮารุ... นายมัวทำอะไรอยู่น่ะ” เสียงหนึ่งดังขึ้นจากใต้ตึกเรียน



    “เรากำลังจะไปที่ชมรมกันแล้วนะ มัวชักช้าอยู่ได้” เจ้าของเสียงนั้น



    หยุดมองมาทางที่หนุ่มๆ ไว้ลายยืนอยู่ สักพักจึงเดินเข้ามา





        ……………………………………..





        ทันทีที่ทุกคนตรงนั้นได้เห็นหน้าใกล้ๆ หนุ่มๆ ไว้ลายก็พยักหน้าทักทาย



    หากแต่บรรดาหนุ่มๆ อิชิสึกะกลับทำหน้างง ราวกับเห็นภาพสะท้อน



    เพราะสองคนที่ยืนประจันหน้ากันนั้น มีใบหน้าที่ละม้ายคล้ายคลึงกันมาก



    จะต่างกันก็ตรงที่ใบหน้าหนึ่งนิ่งสุขุม นัยน์ตาฉายแววเศร้า กับเครื่องแบบ



    ของโรงเรียนมัธยมชูโทคุ และอีกใบหน้าหนึ่งที่มีแต่รอยยิ้มกับดวงตา



    ที่ทอประกายสดใสเสมอ และแน่นอนว่าเป็นเครื่องแบบของโรงเรียนอิชิสึกะแห่งนี้







    “นายมาทำอะไรที่นี่ล่ะโยซัง” ฮิโซกะเอ่ยถามพี่ชายอย่างสนิทสนม



    พร้อมกับมองไปยังบรรดาเพื่อนๆ ของพี่ชายที่ยืนอยู่ข้างๆ



    “นี่พี่ชายฝาแฝดของเราเอง” เขาหันไปบอกแบบนี้กับเพื่อนๆ เขา







    “พอดีพวกเรามาตามหาเจ้าของรถคันนี้น่ะ” โยชิกิบอกกับน้องชายแบบนี้



    พร้อมกับชี้มือไปที่รถ







    “อ๋อ... ซาคุจังน่ะเหรอ เราว่านายกับเพื่อนน่ะ กลับไปก่อนเถอะ กว่าเจ้าตัว



    จะออกมาอีกทีคงนานเลยล่ะ ได้ยินว่าเธอจะมาที่นี่ทุกเย็นหลังเลิกเรียน



    ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พวกนายไม่ต้องรอหรอก”







    “นายรู้จักเธอเหรอ” เทปเปถาม







    “ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัวหรอก... แต่ว่ามีเพื่อนที่ห้องคนนึงรู้จักเธอดีเลยล่ะ”



    ฮิโซกะบอกแบบนี้ “ว่าแต่ โยซังนายกลับไปเหอะ ที่นี่ไม่ชอบพวกของนาย



    เท่าไหร่นัก จะว่าไปเราเองก็ไม่ชอบให้พวกนายมาเดินในนี้แถมยังทำท่าผยอง



    ซะอย่างนั้นหรอกนะ” เขาบอกอีกครั้งพร้อมกับมองมาทางฮาคุเอ



    ที่ยืนมองเขาด้วยสีหน้ายียวนชวนเชิญให้มีเรื่องอย่างนั้น





    “นายอีกคนนึง ท่าทางอย่างนี้คราวหน้าอย่าให้เห็นที่นี่อีกนะ ไม่งั้นก็...



    ต่อให้เป็นเพื่อนของโยซังเหอะ... เราไม่เกรงใจจริงๆ ด้วย” เขาบอก



    พร้อมกับตบไหล่พี่ชาย “มีอะไรไว้คุยกันนอกรอบ เราต้องไปห้องดนตรีแล้วล่ะ”



    พูดจบเขาก็ตบไหล่เพื่อนๆ จากนั้นก็พอกันเดินจากไป ทิ้งให้ 5 หนุ่มไว้ลาย



    ยืนมองด้วยสีหน้าอึ้งๆ กับคำพูดที่เพิ่งได้ยินจากปากของน้องชายฝาแฝดของโยชิกิ



    ผู้ซึ่งมีความแตกต่างระหว่างกันโดยสิ้นเชิง โดยเฉพาะกับฮาคุเอด้วยแล้ว



    เขารู้สึกเหมือนกับโดนใครเหวี่ยงหมัดเข้าหน้าอย่างเต็มแรง







    “นี่ถ้าไม่ใช่น้องของนายนะ... รับรองโดนสอยตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว” ฮาคุเอบอก



    พร้อมกับเดินขึ้นรถไป







    “เอาน่า... เรื่องไม่เป็นเรื่องน่ะฮาคุ นายเองก็เพลาๆ บ้างเหอะ... ก็ท่าทางนาย



    มันกวนโอ๊ยจริงๆ” เทปเปบอกแบบนี้ “จะว่าไปน้องชายนายนี่เจ๋งจริงๆ ล่ะ



    เป็นครั้งแรกที่ได้ยินนายนี่พูดจาเอาเรื่องเหมือนกัน ดูท่าใบหน้ายิ้มๆ แบบนั้น



    คงวางใจไม่ได้แล้วล่ะสินะ” เขาบอกพร้อมกับหันไปมองหน้าโยชิกิ



    ที่ยังคงทำหน้านิ่งๆ “แล้วนายเองเหอะ ไม่คิดจะให้น้องนายมาอยู่กับเราเหรอ



    จะว่าไปเราก็ชักจะชอบคนใจถึงแบบนี้น่ะ”







    “อย่าดีกว่า” โยชิกิบอกเรียบๆ “ปล่อยให้นายนั่นมีวิถีชีวิตอย่างที่ควรจะเป็น



    นั่นแหละดีแล้ว” เขาพูดแบบนี้พร้อมกับเดินขึ้นรถไปอีกคน ทาคุยะ เทปเป



    และอาโออิจึงต้องแยกย้ายกันไปขึ้นรถ จากนั้นรถทั้ง 3 คันก็ขับออกไป



    จากหน้าโรงเรียนอิชิสึกะ





        …………………………………





        ขณะที่ฮิโซกะและเพื่อนๆ กำลังเดินขึ้นตึกเพื่อไปยังห้องชมรมนั้น



    ดูเหมือนว่า ทุกคนยังคงมีเรื่องคาใจ เกี่ยวกับคนที่เขาบอกว่าเป็นพี่ชายฝาแฝด



    เมื่อเป็นเช่นนี้  ฮารุจึงรับหน้าที่เอ่ยถามเจ้าตัวเอง







    “นายมีพี่ชายฝาแฝด... แล้วทำไมไม่บอกพวกเราล่ะ แถมยังเรียนที่ชูโทคุอีกด้วย”



    ฮารุเอ่ยขึ้นแบบนี้ ฮิโซกะก็หยุดเดินพร้อมกับหันมามองหน้าเขา



    จากนั้นก็มองหน้าเพื่อนๆ





    “อ๋อ... คงสงสัยสินะ โทษทีๆ ที่ไม่ได้บอกก่อน” เขาบอกแบบนี้



    พร้อมกับโบกไม้โบกมือขอโทษ “อันที่จริงเราเองก็ต้องเรียนที่นั่น



    แต่เราไม่ชอบสังคมแบบนั้น ใส่หน้ากากพูดคุยกันไปวันๆ” เขาบอก



    “ที่สำคัญ เราไม่ชอบเพื่อนๆ ของโยซังเท่าไหร่หรอก พวกนั้นชอบยุ่งเกี่ยวกับ



    พวกมีอิทธิพล แถมยังเอื้อผลประโยชน์ต่อกันอีก จะว่าไป เราเองก็เรียน



    ที่เดียวกับพวกนั้นมาตั้งแต่ประถมแล้ว เพิ่งจะแยกตัวมาก็นี่แหละ ถึงเราจะไม่ชอบ



    พวกนั้นขนาดไหน แต่ระหว่างเรากับโยซังน่ะ มันคนละเรื่องกัน...



    ยังไงก็ยังคงซี้กันเหมือนเดิม ที่สำคัญ เราสองคนรักเสียงดนตรีด้วยกันทั้งคู่



    จะแยกกัน ก็ตอนที่พี่ชายพาเพื่อนมาที่ห้องนั่นแหละ เราจะไม่อยู่เจอหน้ากับ



    พวกนั้นหรอก เสียสายตาเปล่า” เขาร่ายยาวให้เพื่อนๆ ได้หายสงสัย





    “เอาน่า... ถึงพวกนายจะไม่ชอบพวกลูกคุณหนูนั่น ยังไงก็เว้นโยซัง



    ไว้สักคนแล้วกัน นึกเสียว่าเป็นเราเองนะ... เรื่องแค่นี้คงไม่หนักหนาใช่ไหม”



    เขาบอกอีกครั้ง เพื่อนๆ ทุกคนต่างก็พยักหน้าเข้าใจ เพราะจะว่าไปแล้ว



    โยชิกิเองก็ไม่ได้มีท่าทางหยิ่งยโส เหมือนพวกนั้น แถมยังเป็นพี่ชายฝาแฝด



    ของฮิโซกะ ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบในหมู่เพื่อนๆ ภายในเวลาเพียงวันเดียวเท่านั้น



    นั่นก็เพราะความที่เขาเป็นคนมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีมากนั่นเอง



    ทุกคนจึงรับปากเขาเรื่องนี้





        ……………………………………….





        ที่ห้องชมรมในปีนี้ก็มีสมาชิกเพิ่มขึ้นกว่าตอนแรกมาก นั่นเพราะ



    มีรุ่นน้องปี 1 มาเข้าใหม่ด้วยหลายคน มากกว่ารุ่นพี่ที่เพิ่งจบออกไป



    ทำให้ดูครึกครื้นกว่าเก่า อีกทั้งวันนี้ก็เป็นวันแรกที่สมาชิกแต่ละคน



    จะได้ทำความรู้จักกัน หลังจากที่กลุ่มของฮิโซกะตามมาสมทบ



    และต่างก็เลือกที่นั่งกันเรียบร้อยแล้ว รุ่นพี่โนโซมุ รองประธานชมรมปีที่แล้ว



    ซึ่งบัดนี้ ได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นประธานชมรมดนตรีโดยปริยาย



    กำลังจะทำหน้าที่คัดเลือกคณะกรรมการของชมรมทันที โดยตอนนี้



    รุ่นพี่กำลังช่วยกันจดชื่อสมาชิกใหม่ พร้อมทั้งให้ทุกคนลุกขึ้นแนะนำตัว



    ให้เพื่อนๆ ได้รู้จักกัน







    “สวัสดีค่ะ ซึกิฮิโกะ ซากุระ มัธยมปลายปี 1 ห้อง 3ค่ะ” สาวน้อยหน้าใสคนหนึ่ง



    เอ่ยแนะนำตัว







    “ฮายาชิโอะ ฮิโซกะปี 1 ห้อง 3 เช่นเดียวกันครับ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยคน” ฮิโซกะ



    บอกแบบนี้พร้อมกับพยักหน้าทักทายคนอื่นๆ จากนั้นก็หันไปยิ้มกับซากุระ



    ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมห้อง







    “ผม นากาจิม่า ฮารุ ปี 1 ห้อง 3 เหมือนกัน ก็ขอฝากตัวด้วยคนครับ” ฮารุ



    เอ่ยแนะนำตัวบ้าง







    “ฮิเดโตะ ทาคิซาว่า ปี 1 ห้อง 5 ฝากตัวด้วยคนนึงครับ” เด็กหนุ่มผมสีทองเอ่ยขึ้น



    พร้อมกับเลิกคิ้วให้รุ่นพี่โนโซมุ “ส่วนเพื่อนอีกคน อาโอยาม่า ฮาโอ วันนี้ติดงาน



    ที่สตูดิโอ จึงไม่สามารถมาที่ชมรมได้ หวังว่าทุกคนคงไม่ว่าอะไรนะครับ”



    เขาบอก







    “ได้ๆ ไม่ว่ากันอยู่แล้ว อีกอย่างเจ้านั่นก็บอกกับพี่ก่อนจะไปแล้วล่ะ”



    รุ่นพี่โนโซมุบอกแบบนี้พร้อมกับจดรายชื่อลงไป “พรุ่งนี้พวกเราก็คงจะได้เห็น



    ตัวเป็นๆ ของฮาโอแล้วล่ะ แต่ถ้าใครรอไม่ไหวก็บอกเลยแล้วกันว่า



    อาโอยาม่า ฮาโอคนนี้กับฮาโอ ลอยด์น่ะ คนเดียวกัน” เขาบอกอีกครั้ง



    พร้อมกับที่หลายคนทำหน้างง ระคนกับสงสัย







    “รุ่นพี่หมายถึง ฮาโอ ลอยด์ นักเปียโนมือหนึ่งที่กำลังโด่งดังอยู่ตอนนี้น่ะเหรอ”



    หลายคนถามขึ้นราวกับไม่เชื่อหูตัวเอง







    “อืม... คนเดียวกันอย่างไม่ต้องสงสัย ชื่อจริงของเขาคือ อาโอยาม่า ฮาโอ ลอยด์ซูเคอร์



    ลูกครึ่ง ญี่ปุ่นกับโครเอเชีย นักเปียโนดาวรุ่งที่กำลังมาแรงที่สุดในตอนนี้



    และเป็นนักเปียโนมือหนึ่งของญี่ปุ่นด้วย ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็เอาไว้เจ้าตัวเขามา



    แล้วก็ถามเอาเองแล้วกัน” รุ่นพี่โนโซมุบอกแบบนี้ ทั่วทั้งห้องก็ระงมไปด้วย



    เสียงพูดคุยกัน หลายคนมองมาทางทาคิซาว่า พร้อมกับซุบซิบอะไรบางอย่าง







    “ก็ดีเหมือนกันที่ชมรมเราจะมีสมาชิกเป็นถึงนักเปียโนมือหนึ่ง แต่ที่ผิดคาดก็คือ



    นึกไม่ถึงว่ายังเป็นแค่นักเรียนม.ปลาย แถมยังเป็นรุ่นน้องเสียอีก” รุ่นพี่คิตากาว่า ไอโกะ



    ม.ปลายปี 2 ห้อง 1 เอ่ยขึ้นพร้อมกับทำหน้าเหมือนเสียดายอะไรสักอย่าง







    “เอาน่า ไอโกะจังก็... ว่าแต่คนอื่น แล้วตัวเองก็เพิ่งจะปี 2 เอง” รุ่นพี่โนโซมุบอก



    พร้อมกับหัวเราะ







    “อ่ะจ้ะ... ก็มันช่วยไม่ได้นี่นา ตอนขึ้นเวทีมันต้องแต่งหน้าใช่ไหมล่ะ



    ใครๆ เลยคิดว่าคงต้องเรียนมหาลัยแหงๆ ทั้งที่จริงๆ ชั้นออกจะยังเด็กอยู่เลย”



    ไอโกะบอกแบบนี้ รุ่นน้องหลายคนถึงกับเอ๋อ รับประทาน



    เพราะคิตากาว่า ไอโกะ หรือไอวี่นั้น เป็นถึงนักร้องหญิงที่ได้รับความนิยมสูงสุด



    ในตอนนี้ โดยตลอด 2 ปีกว่านั้น เธอมีผลงานออกมาทั้งหมด 3 อัลบั้ม



    รวมยอดขายกว่า 200 ล้านแผ่น อีกทั้งยังมีงานมิวสิคแจมกับวงดนตรีชื่อดัง



    จากต่างประเทศ มีงานโฆษณา ถ่ายแฟชั่น แม้กระทั่งภาพยนตร์ที่เข้าฉายไปแล้ว



    5 เรื่อง และยังมีรอเข้าฉายอีก 2 เรื่อง จึงเรียกได้ว่า ตอนนี้ แทบจะไม่มีใคร



    ที่ไม่รู้จัก คิตากาว่า ไอโกะเลย เพียงแต่ชีวิตประจำวันของเธอนั้น



    ทางต้นสังกัดของเธอมีมติให้เก็บเป็นความลับสุดยอด ในสังคมจึงเข้าใจว่า ไอโกะจัง



    อาจจะกำลังเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยชื่อดังที่อเมริกา หรือไม่ก็ยังคงเรียน



    ที่ไหนสักแห่งที่ไม่ใช่ในญี่ปุ่น เพราะภาพลักษณ์ที่ปรากฏต่อสายตาผู้ชมนับล้านนั้น



    เธอคือสาวสวยที่ไร้ที่ติ ผู้ซึ่งเปรียบประดุจนางฟ้า ไม่ก็เจ้าหญิงผู้เลอโฉม



    หากแต่ความจริงแล้ว ไอโกะจัง คือเด็กสาวม.ปลายที่เป็นแสนจะธรรมดา



    ไม่หรูหราฟู่ฟ่าเหมือนในข่าวที่สื่อประโคมออกไป ดูออกจะห้าวๆ เสียด้วยซ้ำ







    “พี่คือคิตากาว่า ไอโกะตัวจริงเหรอครับเนี่ย” ฮารุถามอย่างตื่นเต้น



    “ผมได้ดูตอนพี่ไปมิวสิคแจมกับ LP ที่โตเกียวโดม เมื่อช่วงปิดเทอมด้วยล่ะ



    สุดยอดจริงๆ”







    “อ๋อ... งานนั้นเหรอ พี่โดดงานไปนะนั่น เพราะตอนนั้นต้นสังกัดพี่เขาปล่อยข่าวว่า



    พี่ไปเรียนต่อเมกา แต่ความจริงพี่ก็ยังอยู่ที่นี่แหละ เลยต้องบอกว่ากลับมา



    เซอร์ไพรส์แฟนเพลง อีกอย่างพี่เองก็ชอบวงนี้มากเลยนะ... อ้อ... แล้วเหยียบไว้เลยล่ะ



    อย่าบอกใครเด็ดขาดเกี่ยวกับพี่น่ะ เพราะพี่อยู่ที่นี่มาได้อย่างสงบสุข



    เพราะมีเพื่อนๆ ช่วยดูแลเก็บเรื่องพวกนี้เอาไว้ ไม่งั้นพี่คงไม่มีเวลาได้อยู่สงบสุข



    แบบนี้แน่ๆ” ไอโกะบอกแบบนี้พร้อมกับทำท่าจุ๊ปากเบาๆ



    บ่งบอกว่าเป็นความลับ







    “อันที่จริงไอโกะจังเกือบต้องไปเรียนที่ชิสึโอกะแล้วด้วย แต่ก็รู้ๆ อยู่ว่าที่นั่นน่ะ



    มีแต่ลูกคุณหนูทั้งนั้น ถ้าไอโกะจังต้องไปเรียนที่นั่นก็จะไม่มีเวลาของตัวเอง



    ไหนจะต้องปั้นหน้า แกล้งทำตัวเป็นเจ้าหญิงผู้เลอโฉมอย่างนั้น ทั้งที่จริงๆ



    ออกจะห้าว... มีหวังได้ความลับแตกเข้าสักวัน” รุ่นพี่โนโซมุบอกแบบนี้



    พร้อมกับมองหน้าไอโกะ ซึ่งเธอก็หัวเราะออกมาด้วยเสียงแปลกๆ







    “อีกหน่อยพวกน้องๆ ก็จะชินกับตัวจริงของพี่ ที่ออกจะเป็นมิตรมากกว่า



    ตอนเป็นนักร้องเสียอีก... เชื่อเหอะว่า จะได้เห็นอะไรที่มันโก๊ะๆ กว่านี้อีกก็ได้”



    ไอโกะบอกพร้อมกับหัวเราะแปลกๆ อีกครั้ง แต่คราวนี้ทุกคนก็ร่วมวงหัวเราะไปด้วย







    “เอาล่ะ ก็เป็นอันว่า ทุกคนก็รู้จักกันหมดเรียบร้อยแล้วนะ” พี่โนโซมุเอ่ยขึ้น



    พร้อมกับเดินมายืนอยู่หน้าห้อง “พี่ขอประกาศอะไรอีกสักหน่อยนึง เรื่องของไอโกะจัง



    ก็ขอความร่วมมือด้วยนะครับ แล้วก็ในฐานะที่พี่เป็นประธาน พี่ก็ขอตั้ง



    รองประธานเลยนะ ให้ไอโกะจัง ซึ่งเป็นปี 2 เพียงคนเดียวรับหน้าที่นี้ไปแล้วกัน”



    เขาบอกพร้อมกับมองหน้าไอโกะ “ไหวมั้ย... ก็กลัวว่าจะไม่มีเวลาพักผ่อน



    เหมือนกัน ไหนจะต้องรับงานนอกอีก แล้วต้องมาดูแลชมรมอีก” เขาเอ่ยขึ้น



    ด้วยน้ำเสียงแสดงออกว่าเป็นห่วงนัก แต่สายตากลับดูเจ้าเล่ห์พิกล



    จากนั้นเขาก็เอ่ยขึ้น “แต่อย่างว่าล่ะ อยากเป็นนักร้องที่เก่งๆ ก็ต้องฝึกอย่างเข้มงวด



    ทั้งเรื่องความรับผิดชอบและการจัดสรรตารางเวลา... อีกอย่าง...



    ก็ลองบอกว่าทำไม่ได้ดูสิ...” เขาบอกพร้อมกับตบไหล่ คิตากาว่า ไอโกะอย่างจัง



    จากนั้นก็หัวเราะออกมา







    “ก็ว่างั้นล่ะ เห็นพี่พูดดีแบบแปลกๆ สุดท้ายก็เล่นตุกติกจริงๆ ด้วย” แม้ว่าไอโกะ



    จะพูดแบบนี้ แต่ฟังจากเสียงที่พูดแล้ว เหมือนจะรู้สึกสนุกมากกว่า



    ถึงแม้จะรู้ว่าตัวเองถูกแกล้งก็ตาม







    “เอาล่ะ วันนี้ก็พอแค่นี้แล้วกัน... ยังไม่มีอะไรมากหรอก พรุ่งนี้ก็เวลาเดิมนะ



    แล้วจากนั้นทุกคนก็จะได้รู้ว่าแต่ละคนนั้นเหมาะกับเครื่องดนตรีอะไร



    หรือหน้าที่ไหน” รุ่นพี่โนโซมุกล่าวปิดท้ายการประชุมแบบนี้



    พร้อมกับค้อมศีรษะ ทุกคนก็ลุกขึ้นและค้อมศีรษะตอบ จากนั้นต่างคน



    ก็แยกย้ายกันไป โดยที่ฮิโซกะและฮารุนั้น รีบตามลงมาสมทบกับเพื่อนๆ



    ที่รออยู่ข้างล่างตึก จากนั้นทั้งหมดก็ไปกันยังบ้านของฮารุ เพื่อไปซ้อมดนตรีกัน



    เพราะที่นั่นมีเครื่องดนตรีพร้อมสรรพ อีกทั้งยังมีห้องที่บุผนังด้วยวัสดุชั้นเยี่ยม



    ที่ใช้ในการกักเก็บเสียงมิให้เล็ดรอดออกมาภายนอก





    ส่วนรุ่นพี่โนโซมุ และรุ่นพี่ไอโกะนั้น ออกไปด้วยกันเป็นประจำทุกครั้ง



    ที่เลิกเรียนอยู่แล้ว ซึ่งเป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร ส่วนซากุระก็ดูเหมือนว่า



    พอออกจากห้องชมรมดนตรีแล้ว เธอก็แวะเข้าไปยังชมรมเทควันโด



    เพื่อเข้าไปรอพี่สาว และเพื่อนรัก นั่นก็คือ ซาคุมะและนานาเสะ



    เพื่อกลับบ้านพร้อมกันนั่นเอง







    To Be Cont...
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×