ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 2 ประธานชมรมคนใหม่ [One Man Show]
บทที่ 3    ประธานชมรมคนใหม่ [One Man Show]
    การเรียนของวันนี้กำลังจะผ่านไปด้วยดี หากไม่มีเรื่องเกิดขึ้นเสียก่อน
นั่นคือ ระหว่างที่กำลังเรียนคาบเรียนสุดท้ายนั้น ขณะที่เทปเปและฮาคุเอกำลัง
จะเดินเข้าห้องเรียนเพื่อไปสมทบกับเพื่อนกลุ่มไว้ลาย หลังจากที่ทั้งสอง
มัวแต่เล่นบาสในโรงยิมจนเพลิน พวกเขาก็บังเอิญชนเข้าเปรี้ยงใหญ่
กับนักเรียนม.ปลายปี 3 ตรงบันไดทางขึ้นตึกเรียน
“เฮ้ย...” เสียงรุ่นพี่คนหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับกระชากคอเสื้อของเทปเป
“ไม่มีตาหรือไงถึงมองไม่เห็น คนตั้งห้าหกคนนะเว้ย” เขาถามแบบนี้
พร้อมกับจ้องหน้าเทปเป แล้วก็หันไปมองฮาคุเอ “มองหน้าหาอะไรวะ” เขาถาม
“พวกนายไม่หลีกทางเองต่างหาก” ฮาคุเอบอกพร้อมกับกำหมัดแน่น
“ปล่อยมือจากเขาซะ ไม่งั้นก็อย่าหาว่าไม่เตือนแล้วกัน” เขาบอก
ขณะที่เทปเปแกะมือของรุ่นพี่คนนั้นออกอย่างง่ายดาย
“ถ้าไม่อยากมีเรื่องก็ขอโทษพวกเราซะ” เทปเปเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
พลางจัดระเบียบคอเสื้อ
“คิดว่าตัวเองเป็นใคร” รุ่นพี่อีกคนหนึ่งพูดขึ้นพร้อมกับที่เหลือก็หัวเราะเกรียว
“พวกเด็กใหม่นี่ไม่ไหวเลย พูดจาไม่รู้ที่ต่ำที่สูง รู้ไหมว่ากำลังพูดอยู่กับใคร”
เขาบอกพร้อมกับยักคิ้ว
“พวกเราอยู่ชมรมเทควันโดที่นี่ ไม่มีใครไม่รู้จักโทคุโร่ ฮาดะ
นักกีฬาเทควันโดอันดับหนึ่งหรอก” รุ่นพี่อีกคนพูด
พร้อมกับชี้มือไปทางคนที่ตัวใหญ่ๆ ที่เดินชนกับเทปเปนั่นเอง
“ถ้ารู้แบบนี้แล้วก็รีบขอโทษซะดีกว่าน่า”
“รู้สึกเป็นเกียรติจริงๆ ที่ได้รู้จัก... งั้นรู้ไว้ด้วยว่า จากนี้ต่อไปผมจะขอบังอาจ
ล้มนักกีฬาอันดับหนึ่ง และจะเป็นประธานชมรมเทควันโดอีกด้วย
อย่างนี้พอจะขัดข้องไหม” เทปเปพูดขึ้นพร้อมกับชี้หน้าโทคุโร่ ฮาดะ
“อย่าดีกว่า ท่านรุ่น 4 ไม่จำเป็นต้องลงมือหรอก เดี๋ยวผมจัดการให้เอง”
ฮาคุเอบอก
“อะไรวะ ท่านรุ่น 4 เหรอ ฟังแล้วมันขัดหูจริงๆ แล้วที่ว่าจะล้มข้าโทคุโร่น่ะเหรอ
เร็วไปร้อยปีล่ะมั้ง” โทคุโร่บอกแบบนี้พร้อมกับหัวเราะลั่น
“ไม่เป็นไรหรอกฮาคุ ไม่ต้องห่วงเรา” เทปเปบอกเสียงเรียบๆ พร้อมกับ
เอามือขวางฮาคุเอไว้ “ไม่ได้ยืดเส้นยืดสายมากี่วันแล้วเนี่ย... ดีเหมือนกัน
อย่างน้อย ก็มีตำแหน่งเป็นถึงอันดับหนึ่งของชมรมเทควันโดรั้งท้าย
เอาชนะได้ก็นับว่าสมศักดิ์ศรี” เขาบอกแบบนี้พร้อมกับจ้องหน้าโทคุโร่
แล้วก็หันไปพูดกับฮาคุเอด้วยสีหน้าเอาจริงเอาจัง
“ไม่ต้องห่วงน่ะ ยังไงก็ไม่มีวิวาทอยู่แล้ว เราจะเล่นแบบแฟร์ๆ ส่วนนายเอง
ก็ไปตามสามคนนั่นมาที่โรงยิมได้เลย” เขาบอกแบบนี้พร้อมกับเดินนำหน้า
ไปที่โรงยิม ขณะที่ฮาคุเอรีบวิ่งกลับไปที่ห้องพร้อมกับบอกเพื่อนทั้งสาม
จากนั้นทุกคนจึงรีบตรงไปยังโรงยิม โดยที่มีนักเรียนสมาชิกชมรมเทควันโด
เกือบ 30 คนอยู่ในโรงยิมเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งยังมีนักเรียนคนอื่นๆ
อีกหลายสิบคนมารอดูการประมือกันระหว่าง ยามาดะ เทปเป
หนุ่มหน้ามนเจ้าของแชมป์เทควันโด 3 ปีซ้อน ซึ่งมีไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้
กับหัวหน้าชมรมเทควันโด และนักกีฬาอันดับหนึ่งของชูโทคุ
นั่นก็คือ โทคุโร่ ฮาดะ
   
บัดนี้ ทุกคนต่างรอดูอย่างใจจดใจจ่อ และตรงกลางวงล้อมนั่นเอง
ที่เทปเปและโทคุโร่กำลังเผชิญหน้ากัน โดยที่ฝ่ายโทคุโร่นั้น กำลังแสดงท่าที
ให้คนอื่นได้เห็นว่า ตัวเองมีพละกำลังมากกว่าเด็กหนุ่มรุ่นน้อง ที่ยืนอยู่ตรงหน้า
เสียอีก ซึ่งทางเทปเปเองก็ยังคงยืนนิ่ง โดยที่ไม่ยอมละสายตาจากอีกฝ่ายเลย
แม้แต่น้อย และทันทีที่เสียงนกหวีดดังขึ้น คนดูทั้งหลายต่างโห่ร้องราวกับบ้าคลั่ง
โทคุโร่ก็กระโจนเข้าใส่เทปเป โดยมีสมาชิกชมรมทั้งหลายส่งเสียงเชียร์ดังกระหึ่ม
ฝ่ายหนุ่มๆ ไว้ลายเองก็ยังคงไม่มีท่าทีอะไร เพราะพวกเขาต่างเชื่อมั่นอย่างสุดใจ
ในตัวของเพื่อน โดยเฉพาะฮาคุเอที่ตะโกนใส่พวกชมรมเทควันโดเสียงลั่น
“คอยดูเถอะ ไม่ถึงสามนาที เจ้ายักษ์นั่นล้มตึงแน่” ฮาคุเอบอกแบบนี้
พร้อมกับชูกำปั้นท้าทาย
“ทำไมต้องสามนาทีด้วยล่ะฮาคุ” อาโออิถามขณะที่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่เพื่อน
ซึ่งตอนนี้มีรอยยิ้มฉายอยู่บนหน้า
“ก็เพราะนายนั่นยอมไว้หน้าให้ยังไงล่ะ เพราะอีกฝ่ายเป็นถึงประธานชมรม
เชียวนะ จะให้โดนล้มเร็วไปก็กระไรอยู่” ทาคุยะบอกแบบนี้
“ที่สำคัญ นายนั่นอ่านออกตั้งแต่แรกแล้วว่า เจ้ายักษ์น่ะ ที่เป็นประธานชมรมได้
เพราะตัวใหญ่กว่าเพื่อน ฝีมือจริงๆ น่ะไม่เอาอ่าวเลย แถมถ้านายนั่นคิดจะเอาจริง
ล่ะก็ รับรองไม่เกินนาทีเดียว เจ้ายักษ์นั่นก็ล้มตึงอย่างที่ฮาคุว่านั่นแหละ ดูรอยยิ้ม
นั่นสิ... มันน่าอัดนัก” โยชิกิบอกแบบนี้พร้อมกับยิ้มออกมา
“ออมมือไว้ตั้งแต่แรกแล้วล่ะ นายนั่นน่ะ ก็แค่นึกสนุกเท่านั้นเอง ใช่ไหมล่ะ” เขาบอก
“ก็แหงมล่ะ เอาจริงล่ะก็ เจ้ายักษ์นั่นน้อคไปตั้งแต่โดนทีแรกแล้ว” ฮาคุเอบอก
แบบนี้ ยังไม่ทันสิ้นเสียง โทคุโร่นั่นก็ล้มตึงหงายหลังไม่เป็นท่า
ทุกคนในที่นั้นต่างนิ่งอึ้ง ทั้งโรงยิมเงียบไปในทันที
“ทีนี้ก็คงจะต้องทำตามที่บอกแล้วกันนะ ว่าจากนี้ต่อไป ผมจะขอเป็นประธาน
ชมรมเทควันโดแห่งชูโทคุเอง หวังว่าคงไม่มีใครขัดข้องใช่ไหม” เทปเปบอก
ขณะที่เดินเข้าไปหาโทคุโร่ที่ลงไปกองอยู่กับพื้นพร้อมกับยื่นมือไปหา
“ส่วนรุ่นพี่เองก็ลุกได้แล้วนะครับ” เขาบอกแบบนี้ขณะที่ดึงร่างยักษ์นั่นลุกขึ้น
“ฝากเนื้อฝากตัวด้วยแล้วกัน” เขาบอกพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก
จากนั้นก็หันมาพยักหน้ากับเพื่อนๆ แล้วเดินมาสมทบ
“เดี๋ยวก่อน...” โทคุโร่เอ่ยขึ้น ขณะที่สมาชิกไว้ลายทั้งกลุ่มเตรียมหันหลัง
เดินออกไป “เป็นอันตกลงว่านายจะได้เป็นประธานชมรมเทควันโด
ว่าแต่นายชื่ออะไรล่ะ” เขาถามแบบนี้ ขณะที่สมาชิกชมรมเทควันโดหลายคน
ยังคงอึ้งกับการแพ้อย่างหมดท่าของโทคุโร่ ฮาดะ ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นมือหนึ่ง
“ผมยามาดะ เทปเป ขอฝากตัวกับสมาชิกชมรมเทควันโดอีกครั้งแล้วกันครับ”
เทปเปบอกแบบนี้พร้อมกับเดินออกไป ทิ้งความสงสัยไว้
แก่บรรดาสมาชิกเทควันโดที่เหลือ
“ที่แท้ก็แชมป์ 3 ปีซ้อนนี่เอง นายแน่มาก ยามาดะ เทปเป นายแน่จริงๆ” โทคุโร่
พูดแบบนี้พร้อมกับมองหน้าเพื่อนๆ สมาชิกชมรม ซึ่งทุกคนก็พยักหน้าเข้าใจ
“โทษทีที่แพ้หมดท่าเลย” เขาบอกแบบนี้
“พวกเราเข้าใจน่ะ อีกอย่างเจ้านั่นเป็นถึงแชมป์ 3 สมัยซ้อน ก็คงมีดีจริงนั่นแหละ
รุ่นพี่เองก็อย่าคิดอะไรมากเลย ที่สำคัญ ถ้าชมรมเราได้คนอย่างเจ้านั่นมาล่ะก็
รับรอง คราวนี้ชูโทคุก็จะได้ชนะเพราะฝีมือจริงๆ เสียที ไม่ใช่ชนะเพราะใช้เงิน”
แดชบอก ขณะที่ทุกคนต่างพยักหน้า ที่เขาพูดแบบนี้ เพราะครั้งหนึ่ง
เขาเคยเข้าแข่งขันเทควันโดชิงแชมป์เยาวชนเมื่อ 2 ปีก่อน พอถึงรอบตัดสิน
คู่ของเขาคือยามาดะ เทปเป และเขาเองก็พ่ายให้กับการแข่งขันครั้งนั้นด้วย
นั่นคือเขาเคยประมือกับเทปเปมาแล้วนั่นเอง จึงไม่ข้องใจหรือสงสัยใดๆ เลย
แถมยังเริ่มตั้งความหวังไว้บ้างแล้วว่า วันหนึ่งชมรมเทควันโดของชูโทคุนั้น
จะต้องก้าวขึ้นมายิ่งใหญ่อีกครั้ง หลังจากที่พ่อของเขาเคยทำไว้เมื่อ 20 ปีก่อน
โดยที่ตอนนั้น ชูโทคุขึ้นชื่อทั้งเรื่องเรียนและเรื่องกีฬาจริงๆ ซึ่งต่างจากตอนนี้
ลิบลับเลยทีเดียว
“จะว่าไปชื่อยามาดะมันก็คุ้นๆ หูเหมือนกันนะ เหมือนกับว่าเคยได้ยินที่ไหน
ยังงั้นแหละ” โคดะพูดขึ้นมาขณะที่ตัวเองก็กำลังนึกอยู่ จากนั้นเขาก็หน้าถอดสี
“แก๊งค์ยามาดะ ยากูซ่าอันดับหนึ่งไง”
“ถ้างั้น... เจ้านั่นก็...” โทคุโร่เอ่ยขึ้นพร้อมกับมองหน้าคนอื่นที่เหลือ
“ท่านรุ่น 4 หัวหน้าอินทรีผงาด ยามาดะ เทปเป” เรียวมะเอ่ยขึ้น ขณะที่คนอื่นๆ
มองหน้าเขาราวกับหยุดหายใจ “งั้นคนที่อยู่ข้างๆ นั่นก็คงเป็นฮาคุเอ มือขวา
ของอินทรีผงาดด้วยล่ะสิ มิน่าล่ะ ถึงได้ว่าเจ้านั่นหน้าคุ้นๆ เหมือนเคยเห็นที่ไหน”
เขาบอกอีกครั้ง เรียวมะคือหนึ่งในนักซิ่งที่อยู่ถิ่นใต้
นอกเขตปกครองของแก๊งค์ยามาดะ เพราะถิ่นนั้นคือถิ่นของโทคิวะ
ศัตรูคู่อาฆาตของยามาดะนั่นเอง
“นายแน่ใจได้ยังไงว่าเจ้า 2 คนนั้นเป็นพวกยากูซ่าน่ะ” หลายคนถามขึ้น
“เจ้านั่นคือยามาดะ เทปเป ทายาทรุ่นที่ 4 ของแก๊งค์ยามาดะ ที่แม้แต่ตำรวจ
ยังไม่อยากข้องเกี่ยว ส่วนอีกคนที่ว่าเป็นมือขวาน่ะ ชื่อฮาคุเอ เจ้านั่นออกจะมุทะลุ
โมโหง่าย แถมยังเคยซิ่งรถแข่งกันมาแล้วด้วย” เรียวมะบอก
“พวกนายอาจจะไม่เชื่อที่ลูกของนายทุนคนนี้พูดเท่าไหร่ แต่อย่างน้อย
ก็อยากให้เชื่อ ที่อันธพาลอันดับหนึ่งของแดนใต้พูดยืนยันถึงสถานะของ
เจ้าสองคนนั่นเถอะ คนอย่างฮาเซกาว่า เรียวมะ ไม่เคยโกหกใคร” เขาบอกแบบนี้
ทุกคนจึงพยักหน้าเข้าใจ
“เอาเถอะ ยังไงซะ สองคนนั่นจะยังไงไม่สำคัญ มันอยู่ที่ว่า ถ้ายามาดะ
มาเป็นประธานชมรมแล้ว เจ้าฮาคุเอนั่นก็คงไม่ยอมปล่อยให้หัวหน้าแก๊งค์
มาคนเดียวแน่ จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น หากยังไม่มีใครก่อกวนชมรมของเรา
ทุกคนเข้าใจแบบเดียวกันใช่ไหม” แดชเอ่ยขึ้นแบบนี้ เรียวมะจึงมีท่าทีอ่อนลง
“เฮ้ย... แดช นายไม่ต้องห่วงหรอก ตราบใดที่เจ้าฮาคุเอยังสงบเสงี่ยมเจียมตัว
ตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่ เราก็จะยังไม่ทำอะไรเด็ดขาดรับรองได้ แต่หากเจ้านั่น
เคลื่อนไหวหรือปั่นป่วนชมรมเล่นล่ะก็ รับรองได้ว่า เรานี่แหละจะไม่ปล่อยมัน
แน่นอน...” เรียวมะบอกแบบนี้พร้อมกับยิ้มที่มุมปาก
“เจ้านั่นน่ะ เราจองแล้วนะ” เขาบอกอีกครั้ง แล้วเดินจากไป ส่วนคนอื่นๆ ที่เหลือ
ดูเหมือนจะรับรู้และเข้าใจในสิ่งที่แดชพูด อีกทั้งคงไม่มีใครต้องการเข้าไป
ข้องเกี่ยวกับกลุ่มอิทธิพลเหล่านั้นอย่างแน่นอน ต่างคนจึงต่างแยกย้ายกันไป
หลังจากที่พอจะรู้เรื่องโดยคร่าวๆ ของประธานชมรมเทควันโดคนใหม่
ซึ่งมีดีกรีเป็นถึงทายาทรุ่นที่ 4 ของตระกูลยามาดะ ยากูซ่าอันดับหนึ่ง
อีกทั้งยังเป็นหัวหน้าแก๊งค์อินทรีผงาดนามว่า ยามาดะ เทปเป
โดยมีมือขวาผู้ที่คอยเคียงข้าง อีกทั้งยังได้รับการไว้วางใจมากที่สุด
นั่นคือฮาคุเอ นักซิ่งอารมณ์ร้อนนั่นเอง
To Be Cont...
    การเรียนของวันนี้กำลังจะผ่านไปด้วยดี หากไม่มีเรื่องเกิดขึ้นเสียก่อน
นั่นคือ ระหว่างที่กำลังเรียนคาบเรียนสุดท้ายนั้น ขณะที่เทปเปและฮาคุเอกำลัง
จะเดินเข้าห้องเรียนเพื่อไปสมทบกับเพื่อนกลุ่มไว้ลาย หลังจากที่ทั้งสอง
มัวแต่เล่นบาสในโรงยิมจนเพลิน พวกเขาก็บังเอิญชนเข้าเปรี้ยงใหญ่
กับนักเรียนม.ปลายปี 3 ตรงบันไดทางขึ้นตึกเรียน
“เฮ้ย...” เสียงรุ่นพี่คนหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับกระชากคอเสื้อของเทปเป
“ไม่มีตาหรือไงถึงมองไม่เห็น คนตั้งห้าหกคนนะเว้ย” เขาถามแบบนี้
พร้อมกับจ้องหน้าเทปเป แล้วก็หันไปมองฮาคุเอ “มองหน้าหาอะไรวะ” เขาถาม
“พวกนายไม่หลีกทางเองต่างหาก” ฮาคุเอบอกพร้อมกับกำหมัดแน่น
“ปล่อยมือจากเขาซะ ไม่งั้นก็อย่าหาว่าไม่เตือนแล้วกัน” เขาบอก
ขณะที่เทปเปแกะมือของรุ่นพี่คนนั้นออกอย่างง่ายดาย
“ถ้าไม่อยากมีเรื่องก็ขอโทษพวกเราซะ” เทปเปเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
พลางจัดระเบียบคอเสื้อ
“คิดว่าตัวเองเป็นใคร” รุ่นพี่อีกคนหนึ่งพูดขึ้นพร้อมกับที่เหลือก็หัวเราะเกรียว
“พวกเด็กใหม่นี่ไม่ไหวเลย พูดจาไม่รู้ที่ต่ำที่สูง รู้ไหมว่ากำลังพูดอยู่กับใคร”
เขาบอกพร้อมกับยักคิ้ว
“พวกเราอยู่ชมรมเทควันโดที่นี่ ไม่มีใครไม่รู้จักโทคุโร่ ฮาดะ
นักกีฬาเทควันโดอันดับหนึ่งหรอก” รุ่นพี่อีกคนพูด
พร้อมกับชี้มือไปทางคนที่ตัวใหญ่ๆ ที่เดินชนกับเทปเปนั่นเอง
“ถ้ารู้แบบนี้แล้วก็รีบขอโทษซะดีกว่าน่า”
“รู้สึกเป็นเกียรติจริงๆ ที่ได้รู้จัก... งั้นรู้ไว้ด้วยว่า จากนี้ต่อไปผมจะขอบังอาจ
ล้มนักกีฬาอันดับหนึ่ง และจะเป็นประธานชมรมเทควันโดอีกด้วย
อย่างนี้พอจะขัดข้องไหม” เทปเปพูดขึ้นพร้อมกับชี้หน้าโทคุโร่ ฮาดะ
“อย่าดีกว่า ท่านรุ่น 4 ไม่จำเป็นต้องลงมือหรอก เดี๋ยวผมจัดการให้เอง”
ฮาคุเอบอก
“อะไรวะ ท่านรุ่น 4 เหรอ ฟังแล้วมันขัดหูจริงๆ แล้วที่ว่าจะล้มข้าโทคุโร่น่ะเหรอ
เร็วไปร้อยปีล่ะมั้ง” โทคุโร่บอกแบบนี้พร้อมกับหัวเราะลั่น
“ไม่เป็นไรหรอกฮาคุ ไม่ต้องห่วงเรา” เทปเปบอกเสียงเรียบๆ พร้อมกับ
เอามือขวางฮาคุเอไว้ “ไม่ได้ยืดเส้นยืดสายมากี่วันแล้วเนี่ย... ดีเหมือนกัน
อย่างน้อย ก็มีตำแหน่งเป็นถึงอันดับหนึ่งของชมรมเทควันโดรั้งท้าย
เอาชนะได้ก็นับว่าสมศักดิ์ศรี” เขาบอกแบบนี้พร้อมกับจ้องหน้าโทคุโร่
แล้วก็หันไปพูดกับฮาคุเอด้วยสีหน้าเอาจริงเอาจัง
“ไม่ต้องห่วงน่ะ ยังไงก็ไม่มีวิวาทอยู่แล้ว เราจะเล่นแบบแฟร์ๆ ส่วนนายเอง
ก็ไปตามสามคนนั่นมาที่โรงยิมได้เลย” เขาบอกแบบนี้พร้อมกับเดินนำหน้า
ไปที่โรงยิม ขณะที่ฮาคุเอรีบวิ่งกลับไปที่ห้องพร้อมกับบอกเพื่อนทั้งสาม
จากนั้นทุกคนจึงรีบตรงไปยังโรงยิม โดยที่มีนักเรียนสมาชิกชมรมเทควันโด
เกือบ 30 คนอยู่ในโรงยิมเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งยังมีนักเรียนคนอื่นๆ
อีกหลายสิบคนมารอดูการประมือกันระหว่าง ยามาดะ เทปเป
หนุ่มหน้ามนเจ้าของแชมป์เทควันโด 3 ปีซ้อน ซึ่งมีไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้
กับหัวหน้าชมรมเทควันโด และนักกีฬาอันดับหนึ่งของชูโทคุ
นั่นก็คือ โทคุโร่ ฮาดะ
   
บัดนี้ ทุกคนต่างรอดูอย่างใจจดใจจ่อ และตรงกลางวงล้อมนั่นเอง
ที่เทปเปและโทคุโร่กำลังเผชิญหน้ากัน โดยที่ฝ่ายโทคุโร่นั้น กำลังแสดงท่าที
ให้คนอื่นได้เห็นว่า ตัวเองมีพละกำลังมากกว่าเด็กหนุ่มรุ่นน้อง ที่ยืนอยู่ตรงหน้า
เสียอีก ซึ่งทางเทปเปเองก็ยังคงยืนนิ่ง โดยที่ไม่ยอมละสายตาจากอีกฝ่ายเลย
แม้แต่น้อย และทันทีที่เสียงนกหวีดดังขึ้น คนดูทั้งหลายต่างโห่ร้องราวกับบ้าคลั่ง
โทคุโร่ก็กระโจนเข้าใส่เทปเป โดยมีสมาชิกชมรมทั้งหลายส่งเสียงเชียร์ดังกระหึ่ม
ฝ่ายหนุ่มๆ ไว้ลายเองก็ยังคงไม่มีท่าทีอะไร เพราะพวกเขาต่างเชื่อมั่นอย่างสุดใจ
ในตัวของเพื่อน โดยเฉพาะฮาคุเอที่ตะโกนใส่พวกชมรมเทควันโดเสียงลั่น
“คอยดูเถอะ ไม่ถึงสามนาที เจ้ายักษ์นั่นล้มตึงแน่” ฮาคุเอบอกแบบนี้
พร้อมกับชูกำปั้นท้าทาย
“ทำไมต้องสามนาทีด้วยล่ะฮาคุ” อาโออิถามขณะที่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่เพื่อน
ซึ่งตอนนี้มีรอยยิ้มฉายอยู่บนหน้า
“ก็เพราะนายนั่นยอมไว้หน้าให้ยังไงล่ะ เพราะอีกฝ่ายเป็นถึงประธานชมรม
เชียวนะ จะให้โดนล้มเร็วไปก็กระไรอยู่” ทาคุยะบอกแบบนี้
“ที่สำคัญ นายนั่นอ่านออกตั้งแต่แรกแล้วว่า เจ้ายักษ์น่ะ ที่เป็นประธานชมรมได้
เพราะตัวใหญ่กว่าเพื่อน ฝีมือจริงๆ น่ะไม่เอาอ่าวเลย แถมถ้านายนั่นคิดจะเอาจริง
ล่ะก็ รับรองไม่เกินนาทีเดียว เจ้ายักษ์นั่นก็ล้มตึงอย่างที่ฮาคุว่านั่นแหละ ดูรอยยิ้ม
นั่นสิ... มันน่าอัดนัก” โยชิกิบอกแบบนี้พร้อมกับยิ้มออกมา
“ออมมือไว้ตั้งแต่แรกแล้วล่ะ นายนั่นน่ะ ก็แค่นึกสนุกเท่านั้นเอง ใช่ไหมล่ะ” เขาบอก
“ก็แหงมล่ะ เอาจริงล่ะก็ เจ้ายักษ์นั่นน้อคไปตั้งแต่โดนทีแรกแล้ว” ฮาคุเอบอก
แบบนี้ ยังไม่ทันสิ้นเสียง โทคุโร่นั่นก็ล้มตึงหงายหลังไม่เป็นท่า
ทุกคนในที่นั้นต่างนิ่งอึ้ง ทั้งโรงยิมเงียบไปในทันที
“ทีนี้ก็คงจะต้องทำตามที่บอกแล้วกันนะ ว่าจากนี้ต่อไป ผมจะขอเป็นประธาน
ชมรมเทควันโดแห่งชูโทคุเอง หวังว่าคงไม่มีใครขัดข้องใช่ไหม” เทปเปบอก
ขณะที่เดินเข้าไปหาโทคุโร่ที่ลงไปกองอยู่กับพื้นพร้อมกับยื่นมือไปหา
“ส่วนรุ่นพี่เองก็ลุกได้แล้วนะครับ” เขาบอกแบบนี้ขณะที่ดึงร่างยักษ์นั่นลุกขึ้น
“ฝากเนื้อฝากตัวด้วยแล้วกัน” เขาบอกพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก
จากนั้นก็หันมาพยักหน้ากับเพื่อนๆ แล้วเดินมาสมทบ
“เดี๋ยวก่อน...” โทคุโร่เอ่ยขึ้น ขณะที่สมาชิกไว้ลายทั้งกลุ่มเตรียมหันหลัง
เดินออกไป “เป็นอันตกลงว่านายจะได้เป็นประธานชมรมเทควันโด
ว่าแต่นายชื่ออะไรล่ะ” เขาถามแบบนี้ ขณะที่สมาชิกชมรมเทควันโดหลายคน
ยังคงอึ้งกับการแพ้อย่างหมดท่าของโทคุโร่ ฮาดะ ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นมือหนึ่ง
“ผมยามาดะ เทปเป ขอฝากตัวกับสมาชิกชมรมเทควันโดอีกครั้งแล้วกันครับ”
เทปเปบอกแบบนี้พร้อมกับเดินออกไป ทิ้งความสงสัยไว้
แก่บรรดาสมาชิกเทควันโดที่เหลือ
“ที่แท้ก็แชมป์ 3 ปีซ้อนนี่เอง นายแน่มาก ยามาดะ เทปเป นายแน่จริงๆ” โทคุโร่
พูดแบบนี้พร้อมกับมองหน้าเพื่อนๆ สมาชิกชมรม ซึ่งทุกคนก็พยักหน้าเข้าใจ
“โทษทีที่แพ้หมดท่าเลย” เขาบอกแบบนี้
“พวกเราเข้าใจน่ะ อีกอย่างเจ้านั่นเป็นถึงแชมป์ 3 สมัยซ้อน ก็คงมีดีจริงนั่นแหละ
รุ่นพี่เองก็อย่าคิดอะไรมากเลย ที่สำคัญ ถ้าชมรมเราได้คนอย่างเจ้านั่นมาล่ะก็
รับรอง คราวนี้ชูโทคุก็จะได้ชนะเพราะฝีมือจริงๆ เสียที ไม่ใช่ชนะเพราะใช้เงิน”
แดชบอก ขณะที่ทุกคนต่างพยักหน้า ที่เขาพูดแบบนี้ เพราะครั้งหนึ่ง
เขาเคยเข้าแข่งขันเทควันโดชิงแชมป์เยาวชนเมื่อ 2 ปีก่อน พอถึงรอบตัดสิน
คู่ของเขาคือยามาดะ เทปเป และเขาเองก็พ่ายให้กับการแข่งขันครั้งนั้นด้วย
นั่นคือเขาเคยประมือกับเทปเปมาแล้วนั่นเอง จึงไม่ข้องใจหรือสงสัยใดๆ เลย
แถมยังเริ่มตั้งความหวังไว้บ้างแล้วว่า วันหนึ่งชมรมเทควันโดของชูโทคุนั้น
จะต้องก้าวขึ้นมายิ่งใหญ่อีกครั้ง หลังจากที่พ่อของเขาเคยทำไว้เมื่อ 20 ปีก่อน
โดยที่ตอนนั้น ชูโทคุขึ้นชื่อทั้งเรื่องเรียนและเรื่องกีฬาจริงๆ ซึ่งต่างจากตอนนี้
ลิบลับเลยทีเดียว
“จะว่าไปชื่อยามาดะมันก็คุ้นๆ หูเหมือนกันนะ เหมือนกับว่าเคยได้ยินที่ไหน
ยังงั้นแหละ” โคดะพูดขึ้นมาขณะที่ตัวเองก็กำลังนึกอยู่ จากนั้นเขาก็หน้าถอดสี
“แก๊งค์ยามาดะ ยากูซ่าอันดับหนึ่งไง”
“ถ้างั้น... เจ้านั่นก็...” โทคุโร่เอ่ยขึ้นพร้อมกับมองหน้าคนอื่นที่เหลือ
“ท่านรุ่น 4 หัวหน้าอินทรีผงาด ยามาดะ เทปเป” เรียวมะเอ่ยขึ้น ขณะที่คนอื่นๆ
มองหน้าเขาราวกับหยุดหายใจ “งั้นคนที่อยู่ข้างๆ นั่นก็คงเป็นฮาคุเอ มือขวา
ของอินทรีผงาดด้วยล่ะสิ มิน่าล่ะ ถึงได้ว่าเจ้านั่นหน้าคุ้นๆ เหมือนเคยเห็นที่ไหน”
เขาบอกอีกครั้ง เรียวมะคือหนึ่งในนักซิ่งที่อยู่ถิ่นใต้
นอกเขตปกครองของแก๊งค์ยามาดะ เพราะถิ่นนั้นคือถิ่นของโทคิวะ
ศัตรูคู่อาฆาตของยามาดะนั่นเอง
“นายแน่ใจได้ยังไงว่าเจ้า 2 คนนั้นเป็นพวกยากูซ่าน่ะ” หลายคนถามขึ้น
“เจ้านั่นคือยามาดะ เทปเป ทายาทรุ่นที่ 4 ของแก๊งค์ยามาดะ ที่แม้แต่ตำรวจ
ยังไม่อยากข้องเกี่ยว ส่วนอีกคนที่ว่าเป็นมือขวาน่ะ ชื่อฮาคุเอ เจ้านั่นออกจะมุทะลุ
โมโหง่าย แถมยังเคยซิ่งรถแข่งกันมาแล้วด้วย” เรียวมะบอก
“พวกนายอาจจะไม่เชื่อที่ลูกของนายทุนคนนี้พูดเท่าไหร่ แต่อย่างน้อย
ก็อยากให้เชื่อ ที่อันธพาลอันดับหนึ่งของแดนใต้พูดยืนยันถึงสถานะของ
เจ้าสองคนนั่นเถอะ คนอย่างฮาเซกาว่า เรียวมะ ไม่เคยโกหกใคร” เขาบอกแบบนี้
ทุกคนจึงพยักหน้าเข้าใจ
“เอาเถอะ ยังไงซะ สองคนนั่นจะยังไงไม่สำคัญ มันอยู่ที่ว่า ถ้ายามาดะ
มาเป็นประธานชมรมแล้ว เจ้าฮาคุเอนั่นก็คงไม่ยอมปล่อยให้หัวหน้าแก๊งค์
มาคนเดียวแน่ จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น หากยังไม่มีใครก่อกวนชมรมของเรา
ทุกคนเข้าใจแบบเดียวกันใช่ไหม” แดชเอ่ยขึ้นแบบนี้ เรียวมะจึงมีท่าทีอ่อนลง
“เฮ้ย... แดช นายไม่ต้องห่วงหรอก ตราบใดที่เจ้าฮาคุเอยังสงบเสงี่ยมเจียมตัว
ตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่ เราก็จะยังไม่ทำอะไรเด็ดขาดรับรองได้ แต่หากเจ้านั่น
เคลื่อนไหวหรือปั่นป่วนชมรมเล่นล่ะก็ รับรองได้ว่า เรานี่แหละจะไม่ปล่อยมัน
แน่นอน...” เรียวมะบอกแบบนี้พร้อมกับยิ้มที่มุมปาก
“เจ้านั่นน่ะ เราจองแล้วนะ” เขาบอกอีกครั้ง แล้วเดินจากไป ส่วนคนอื่นๆ ที่เหลือ
ดูเหมือนจะรับรู้และเข้าใจในสิ่งที่แดชพูด อีกทั้งคงไม่มีใครต้องการเข้าไป
ข้องเกี่ยวกับกลุ่มอิทธิพลเหล่านั้นอย่างแน่นอน ต่างคนจึงต่างแยกย้ายกันไป
หลังจากที่พอจะรู้เรื่องโดยคร่าวๆ ของประธานชมรมเทควันโดคนใหม่
ซึ่งมีดีกรีเป็นถึงทายาทรุ่นที่ 4 ของตระกูลยามาดะ ยากูซ่าอันดับหนึ่ง
อีกทั้งยังเป็นหัวหน้าแก๊งค์อินทรีผงาดนามว่า ยามาดะ เทปเป
โดยมีมือขวาผู้ที่คอยเคียงข้าง อีกทั้งยังได้รับการไว้วางใจมากที่สุด
นั่นคือฮาคุเอ นักซิ่งอารมณ์ร้อนนั่นเอง
To Be Cont...
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น