คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : หนังสือสัญญา
“ซักวันข้าจะหนีออกไปให้ดู” อิจิโกะพูดหน้าบูดบึ้งเหมือนแกงขั้วค้างคืน
มันช่างตรงกับใจข้าจริงๆ นี่ถ้าไม่ติดตรงที่ว่าข้ายังเกี้ยวหนุ่มน้อยหน้าใสในเมืองไม่ครบทุกคนข้าคงชิ่งไปแล้ว ต่อให้เจ้าอุราฮาร่าเจ้าเล่ห์นั่นจะเอาทหารมาเฝ้ารอบเมืองเป็นกองทัพเพื่อกันประชาชนหน้าสวยหนีก็เถอะ
“มะ..มาทางนี้แล้ว” อิซึรุของข้าที่กำชายเสื้อข้าแน่นพูดเสียงสั่น มันช่างน่ารักเสียจริง ข้าไม่ได้คิดเข้าข้างน้องบุญธรรมแม้แต่น้อยนะ สาบานได้ นี่ถ้าเจ้าชายหน้าเถื่อน พระราชาจิ้งจอกหรือเจ้าคนสนิทอุราฮาร่านั่นมาเห็นเข้าละก็ ไม่พ้นต้องโดนจับเข้าฮาเร็มแหงแซะ
“นั่นเรอะเจ้าชาย” อิจิโกะพูดเสียงดัง ข้ารู้ว่าเจ้านั่นคงจะเริ่มคุมสติไม่อยู่แล้วเมื่อมีสายตากดดันมองมาจากทุกด้าน ก็มันเด่นน้อยเสียเมื่อไหร่ ถึงข่าวลือเรื่องความงามของตระกูลข้าจะไม่ดังมาก ก็แค่รู้กันทั่วทั้งเมืองแล้วเท่านั้น ไอ้เจ้าชายบ้านั่นคงไม่ได้เล็งน้องคนใดคนหนึ่งของข้าอยู่หรอกนะ
“เอ่อ..แม่หญิง” เสียงของเจ้าชายนั่นมันทุ้มต่ำเสียดหูข้าจนชวนหงุดหงิดเสียจริง แต่คนทีหงุดหงิดที่สุดคงไม่ใช่ข้า
“แกเรียกใครว่าแม่หญิงนะ ไอ้วิปริต” อิจิโกะกดเสียงให้ต่ำเสียยิ่งกว่าเจ้าชาย ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนน่าหลงใหลนั้นขวางยิ่งกว่าทุกที นี่แหละที่ทำให้ข้านึกสนุกเวลาได้ยั่วน้องชายคนนี้
“เอ๋? ก็เจ้าเป็นผู้หญิงไม่ใช่หรือ” เจ้าชายหัวแดงนั่นยังทำน้ำเสียงใสซื่อ ดวงตาสีทับทิมที่กวาดมองทั่วร่างของอิจิโกะมันทำให้ข้าอยากควักมันออกมาแล้วกระทืบให้เละ
“แกเอาตารึอะไรดูวะ ถึงเห็นผู้ชายแมนทั้งแท่งเป็นผู้หญิงน่ะหา!!!!!!!!!” อิจิโกะแผดเสียงลั่น และนั่นทำให้พวกเราตกเป็นเป้าสายตาทันที รวมทั้งองค์ราชาโรคจิตและอุราฮาร่านั่นด้วย
“ห๊ะ!!จริงด้วย!!” เจ้าชายทำหน้าตกใจเสียเต็มประดาให้น้องชายคนรองของข้ายิ่งเพิ่มอุณหภูมิ
“ตายซะเหอะแก๊!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
นั่นไง ข้าว่าแล้ว สุกท้ายเจ้านั่นก็ทนไม่ไหว กระโดดเข้าตั๊นหน้าเจ้าชายตาถั่วจนหงายแล้วจับซัดจับเหวี่ยงตามด้วยบาทาพิฆาตอีกเป็นชุด เอาน่า โดนไปซะขนาดนั้นไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตละนะ ดีแล้วละ
“หยุด!!เจ้าทำอะไรเจ้าชายเร็นจิน่ะ!!” คนสนิทหัวดำวิ่งโล่เข้ามาห้ามทัพทันที
เจ้านั่นรู้สึกจะชื่อชูเฮย์รึไงเนี่ยแหละ ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าจะเป็นพวกมดปลวกที่มาเกาะแกะอิซึรุของข้า นานมากแล้วที่ข้าอยากจะกำจัดมันให้พ้นทางเสียที แต่ติดที่ว่ายังหาโอกาสไม่ได้ เพราะเจ้านั่นมันชอบหมกหัวอยู่กับเจ้าชายวิปริตในวังวิปลาส จะให้ข้าเหยียบย่างเข้ามามันก็กระไรอยู่ มันเป็นความรู้สึกสุดยอดของความขยะแขยง
“อะ..อิ..อิจิโกะ!!” ตกใจละสิ ใช่แล้ว เจ้ามดปลวกนั่นตกใจจนหน้าถอดสีเลย ยิ่งเห็นชุดของอิจิโกะเปื้อนเลือดแล้วยิ่งตกใจ “เจ้าเป็นอะไรรึเปล่า ไหนดูแผลซิ!!”
“ชู..ชูเฮย์..” เจ้าชายบ้านั่นครวญครางเรียกชื่อเพื่อนสมัยเด็กที่กำลังตรวจเช็คหาแผลของน้องข้า
“ข้าไม่เป็นไร แต่ถ้าเจ้ายังไม่เอาเจ้าชายของเจ้าไปเก็บละก็ ข้าจะอัดมันให้ตายตรงนี้แหละ” อิจิโกะขู่ และข้ามั่นใจว่าเจ้านั่นจะทำจริงๆแน่
“รู้แล้วๆ” เจ้ามดปลวกนั่นรีบลากร่างที่ไม่สามารถลุกได้ขึ้นบันไดวนไปโดยไม่สนหัวที่โขกกับขั้นบันไดโป๊กๆ
“ข้าจะกลับ ไม่อยู่มันแล้วไอ้งานบ้าๆพรรค์นี้” อิจิโกะแหวแล้วหันหลังให้กับทุกสิ่ง มุ่งหน้าตรงไปที่ประตูโดยที่ข้าไม่รอช้าที่จะพาอิซึรุตามไปด้วย
“เดี๋ยวก่อนสิ ผู้กล้า” เสียงเจ้าเล่ห์ดังขึ้นจากทางด้านหลัง “กล้าทำร้ายลูกข้าแล้วจะหนีหรือ”
ลองเรียกไอ้เจ้าชายบ้านั่นว่าลูกคงไม่พ้นต้องเป็นองค์ราชาวิปริตนั่นแน่ ที่เมืองทั้งเมืองเหมือนถูกตัดขาดจากเมืองอื่นก็เพราะมันกล้าประกาศตั้งฮาเร็มแบบไม่เกรงใจใคร แถมยังเอาใบรับสมัครเข้าฮาเร็มไปแจกให้ราชาของต่างเมืองอีก มันน่านักมั้ยล่ะ
“รวมถึงสองสาวงามนั่นด้วย รู้สึกว่าจะชื่อเบียคุยะกับอิซึรุสินะ” เสียงอีกเสียงดังขึ้นมา ข้าหันไปมองด้วยหางตาให้พอรู้ว่าเป็นใคร เฮ้อ...ตัววุ่นวายในชีวิตตัวที่สามเข้ามาแล้ว
“สวัสดีท่านอุราฮาร่า” ข้าทักแบบคนที่ไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่ข้าก็มีมารยาทพอที่จะแสดงมันออกมา
“สนใจจะเข้าฮาเร็มข้ามั้ยล่ะ” ไอ้เจ้าองค์ราชาตาตี่นั่นถามข้า แต่ข้าเห็นตาตี่ๆของมันเหล่มองอิซึรุที่พยายามหลบอยู่ข้างหลังข้า ข้าชักหวั่นใจพิกล
“ไม่ล่ะพระเจ้าค่ะ พวกข้าพระองค์เองยังมีแม่ที่ต้องดูแล” ข้าปฏิเสธไป ใครจะไปโง่ยอมเข้าไปเป็นนายบำเรอให้กันเล่า
“ลองคิดดูก่อนได้นะ” มันยังตื๊อ ข้าชักอยากซัดมันให้ตายขึ้นมาทุกทีแล้วสิ
“เจ้าชายเร็นจิเสด็จอีกแล้ว~” เสียงทหารตะโกนมาจากด้านบนพร้อมกับร่างของเจ้าชายบ้าที่ก้าวพรวดๆลงมาทั้งที่ยังมีผ้าพันแผลเต็มตัวและเลือดบางส่วนที่ซึมออกมา
“ถอยไปไอ้พ่อบ้า ไอ้อำมาตย์ลามก” นี่นับเป็นครั้งแรกจริงๆที่เจ้าชายบ้านั่นพูดได้ถูกใจข้า แต่ประโยคต่อมาทำให้ข้าชักเลือดขึ้นหน้า “สามคนนี้เป็นของข้า”
“อย่าละโมบไปหน่อยเลย เร็นจิ” ไอ้ราชาวิปลาสนั่นพูด มือขวาแย่งพัดจากคนสนิทของจนมาพัดหวิวๆแทน “ลูกเอาไปหนึ่ง พ่อขอสองคนที่เหลือ”
“ไม่ให้!!” เจ้าชายบ้านั่นตะโกนอย่างเหลืออด
“พ่อให้สิทธิ์เจ้าเลือกก่อนเลยเอ้า”
“ไม่ให้!! ยังไงก็ไม่!! ข้าอยากมีมเหสีกับสนมซ้ายขวามานานแล้ว สามคนนี้แหละเหมาะสุด”
ข้าละอยากจะบ้าตาย ไอ้เมืองบ้านี่มันจะวิปริตได้อีกขนาดไหนเนี่ย ถึงตอนนี้อิจิโกะคงคุมอารมณืไม่อยู่แล้วละมั้ง เจ้านั่นถึงกระทืบเท้าเดินปึงๆออกไปไม่สนใจใคร แม้จะมีทหารมาขวางก็จับทุ่มจนง่อยกินไปเสียทุกราย
“เจ้าชายเร็นจิ” ข้าเข้าไปกระซิบข้างหูเจ้านั่น และส่วนต่างของความสูงระหว่างข้ากับเจ้าชายบ้าตัวนี้ก็ชวนให้ข้าหงุดหงิดขึ้นมาหน่อยหนึ่ง “ถ้าเจ้ายอมเซ็นสัญญายกมอบตำแหน่งเจ้าชายให้ข้าละก็ ข้าจะให้ของที่เจ้าต้องการอย่างหนึ่ง”
“เอ๋?”
“ว่าไงล่ะ จะยอมเซ็นมั้ย ข้าเตรียมสัญญามาแล้วนะ เหลือแค่ลายเซ็นของเจ้าเท่านั้น” ข้าพูดต่อ ขอเพียงเจ้าชายบ้านี่ยอมเซ็นละก็ ข้าจะรีบครองตำแหน่งแล้วปล่อยหนุ่มน้อยในฮาเร็มให้เป็นอิสระ แต่ถ้าใครประสงค์จะอยู่ต่อข้าก็ไม่ขัดศรัทธา
“ฟังดูแล้วเหมือนข้าจะเสียเปรียบนะ” เจ้าชายพูด ทำเอาข้าเสียวไปวูบหนึ่ง
“เจ้าคงรู้สึกไปเอง ถ้าเจ้ายอมเซ็น เจ้าจะได้ของที่เจ้าต้องการจากข้านะ ไม่ว่าอะไรก็ตาม” ข้ากระซิบเสียงแผ่วใกลใบหูของเจ้านั่นให้มากกว่าเดิม
“งั้นเหรอ แต่ข้าว่า..”
“ถ้าเจ้าไม่เซ็นก็ไม่เป็นไร ข้าไปละ” ข้าทำท่าจะตัดใจ แล้วพาอิซึรุเดินออกไป แต่เพียงสองก้าวเจ้าชายนั่นก็เรียกข้าเสียเสียงดัง ข้าลอบยิ้มหน่อยหนึ่งก่อนจะตีหน้าเรียบหันไปมอง
“ข้ายอมทำตามที่เจ้าบอก” บิงโก ข้าต้องพยายามเก็บกลั้นความดีใจนี้ไว้ลึกที่สุดไม่ให้มันออกอาการจนไก่ตื่น
“งั้นก็เซ็นซะ” ข้ายื่นม้วนกระดาษยาวเหยียดให้ ซึ่งเจ้าชายบ้านั่นก็รับมาเซ็นอย่างว่าง่าย
“เรียบร้อย ที่เหลือก็แค่ประกาศให้รู้ทั่วกัน” ข้ายิ้มหวานอย่างไม่ปกปิดเมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น “เอาสิ เจ้าชาย”
“อะแฮ่ม.. ทุกคนจงฟัง บัดนี้ข้า เจ้าชายเร็นจิ ได้ทำหนังสือมอบอำนาจให้เบียคุยะได้รับตำแหน่งเจ้าชาย ส่วนข้าจะอยู่ในตำแหน่งเจ้าชายตัวสำรองไปก่อน ได้ยินแล้วใช่มั้ย ไอ้พ่อบ้า เท่านี้เบียคุยะก็เท่ากับเป็นพี่น้องข้า และพี่น้องของเบียคุยะก็คือพี่น้องข้า และคนที่เป็นพี่น้องข้าก็เท่ากับเป็นลูกเจ้า เพราะงั้นพ่อบ้าอย่างเจ้าก็ไม่มีสิทธิ์แตะต้องลูกตัวเอง”
“โง่จริงๆ ทำไมข้าถึงมีลูกโล่แบบนี้เนี่ย อุราฮาร่า” เจ้าราชาวิปริตนั่นส่ายหัวไปมาเหมือนกับระอาเต็มทน ซึ่งข้าเองก็รู้สึกว่าสิ่งที่เจ้านั่นพูดเนี่ย เป็นจริงที่สุด
“ถ้าเป็นแบบนั้นท่านเองก็จะแต่งตั้งทั้งสามเป็นมเหสีกับสนมซ้ายขวาไม่ได้นะ” อุราฮาร่าเฉลย ซึ่งเจ้าชายบ้าก็ทำหน้าช็อคเหมือนสมองเพิ่งจะคิดทัน
“ข้าขอบคุณเจ้ามากที่ให้เกียรติข้าขนาดนี้” ข้ายิ้มเยาะ อา..เท่านี้ก็รอด
“ไม่นะ..งั้นของที่เจ้าจะให้ข้าล่ะ ข้าจะเรียกอะไรก็ได้ใช่มั้ย”
“ใช่ หมายถึงของน่ะนะ” ข้าย้ำคำว่าของให้ดังเสียดเข้าไปในหูที่มีไว้ประดับหัวของเจ้านั่น นี่ถ้าอิจิโกะอยู่ในเหตุการณ์คงจะขำไม่หยุดเป็นแน่
“ข้าขอให้เจ้ามาเป็นมเหสีของข้า”
“เสียใจด้วย สิ่งที่เจ้าเรียกร้องได้คือสิ่งของเท่านั้น และตัวข้าก็ไม่ใช่สิ่งของ” คำพูดของข้าทำเอาเจ้าชายบ้าค้างไปหลายวิ
“แต่เจ้าบอกให้ข้าเรียกอะไรก็ได้”
“ข้าว่าท่านคงไม่ได้ฟังและอ่านสัญญาให้ดี หรือว่าท่านอ่านไม่ออก? ข้าบอกว่าท่านจะเรียกของอะไรจากข้าก็ได้อย่างหนึ่ง ดังนั้นมันจึงเป็นสิ่งของ ไม่ใช่สิ่งมีชีวิต” ข้าพูดยาวเหยียดซึ่งมันชวนให้ข้าเมื่อยปากยิ่งกว่าตอนทะเลาะกับอิจิโกะเสียอีก
“ข้าไม่ยอม!!”
“เอาหละ ข้าว่าเรากลับไปบอกอุลคิโอร่าที่ชิ่งกลับไปก่อนแล้วกันดีกว่านะ” ข้าหันไปพูดกับอิซึรุที่พยักหน้าหงึกหงักได้น่ารักมาก ก่อนจะหันไปพูดกับบรรดาครอบครัวใหม่ของข้า “เจอกันพรุ่งนี้นะขอรับ ท่านพ่อ แล้วก็น้องชายซื่อบื้อของข้า”
นี่จะเป็นจุดเริ่มต้นละครบทใหม่ของข้า จุดเปลี่ยนผันของชีวิตลูกสาวเศรษฐีมาเป็นนางซินก้นครัว และจากนางซินแสนต่ำต้อยมาเป็นเจ้าชายที่สูงศักดิ์ มันช่างน่าสนุกจริงๆ นอกจากจะทำให้ตัวข้าเองมีความสุขได้แล้ว ยังทำให้น้องๆและแม่เลี้ยงของข้าปลอดภัยจากน้ำมือพวกนก แมลงที่คอยมาตามทึ้งตามเกาะแกะอีกต่างหาก เรียกได้ว่าได้ประโยชน์หลายชั้นจริงๆ
แต่ไม่แน่ว่าทั้งแม่เลี้ยง ทั้งน้องทั้งสองของข้าจะปลอดภัยจากข้าหรือไม่ ข้าอุตส่าห์ทะนุถนอม ริ้นไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอมถึงขนาดลดตัวไปเป็นนางซินคิดว่าข้าทำเพื่ออะไรเล่า ถึงรูปลักษณ์ของข้าจะงดงามแต่ว่าเลือดของท่านพ่อข้าออกจะแรงไปเสียหน่อย ถ้าจะโทษใครก้คงต้องเป็นท่านพ่อนั่นแหละนะ
ข้าคงต้องปิดเรื่องเล่าชีวิตของข้าไว้เพียงเท่านี้ และขอดำเนินชีวิตขั้นต่อไปในวังวิลาสที่ไม่มีใครอยากเข้า คอยก่อนเถอะ ข้าจะเปลี่ยนกฎทุกอย่างให้หมดเลยทีเดียว หึหึ
จบนะก๊า
ความคิดเห็น