ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [TWICE] ADVERSE

    ลำดับตอนที่ #6 : ADVERSE : VI

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 290
      1
      3 พ.ค. 59

    @SQWEEZ



    A D V E R S E : VI

    ความรู้สึกเริ่มชัดเจน

     

     

     

                ท่ามกลางท้องฟ้ามืดครึ้มจนไม่สามารถเห็นดาว รวมกับบรรยากาศบริเวณหอพักที่แสงสว่างถูกตัดด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่อาจทราบได้ นั่นทำให้บริเวณนี้นั้นไร้ซึ่งแสงสว่างจนต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินมากพอสมควร

     

                จองยอนเดินตรงขึ้นบันไดไปตามทาง ด้วยความช่วยเหลือจากดวงตายมทูตที่นอกจากจะสามารถมองอายุขัยและชื่อได้แล้ว ยังสามารถมองในความมืดได้อีกด้วย แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่สามารถมองได้ชัดสว่างจ้าร้อยเปอร์เซ็นต์หรอก

     

                แช …” จองยอนหุบปากเงียบกริบ เมื่อได้ยินคนที่เดินผ่านไปบอกเวลาสามทุ่มกว่าๆ มือที่กำลังจะทุบประตูห้องก็ถูกลดลงมาต่ำลงเช่นเดียวกัน

     

                จะทำยังไงดี

     

                เมื่อสมองประมวลผลเสร็จสรรพ จองยอนที่ยืนหน้าโง่หน้าประตูก็เพิ่งจะนึกได้ว่าเธอไม่ใช่มนุษย์ที่จะต้องมารออีกฝ่ายเปิดประตูให้

     

                ก็เลยเดินทะลุเข้าไปซะเฉยๆ

     

                บางทีเพราะอยู่กับมนุษย์มากไป เลยอาจจะมีลืมบ้าง

     

                เครื่องปรับอากาศทำงานพอดีกับจังหวะที่เดินเข้าไปในห้อง ร่างเล็กที่เวลานี้ปกติมักจะนั่งทำงาน แต่วันนี้กลับนอนหลับอ้าปากอยู่บนเตียงซะอย่างนั้น

     

                ไม่แปลกหรอก ก็เธอกลับมาดึกอยู่พอสมควร

     

                หาววว

     

                ง่วงโคตร

     

                ขอนอนสักงีบก่อนไปอาบน้ำแล้วกัน

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                แชยองงง ปิดนาฬิกาปลุกทีจองยอนตะโกนลั่นระหว่างที่เด้งตัวขึ้นจากฟูกทั้งที่ยังไม่ได้อาบน้ำ ดวงตาค่อยๆปรับโฟกัสเพื่อมองหาเจ้าตัวเล็กที่เธอตะโกนร้องเรียกแต่กลับไร้เสียงตอบรับ

     

                มือขวาเอื้อมจับเตียง

     

                ว่างเปล่า

     

                จองยอนรีบปิดนาฬิกาพร้อมกับหยิบมือถือขึ้นมากดเบอร์ของร่างเล็กนั่นทันที

     

     

     

              ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก

     

     

     

                และต่อให้โทรอีกสิบสาย ผลก็ยังคงเหมือนเดิม

     

                ยังไงไปโรงเรียนก็ต้องเจอกันอยู่แล้วป่ะวะ

     

                7.39

     

                เวลาโชว์หราอยู่หน้ามือถือที่เธอเพิ่งจะใส่ใจ

     

                “เวรละ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                “ทำไมวันนี้มาเร็วจังวะ ปกติเห็นมาเกือบแปดโมง

     

                “ไม่รู้

     

                แชยองที่วันนี้มีอาการอ่อนเพลียอย่างเห็นได้ชัด แต่ถึงดาฮยอนจะแหกปากร้องถามยังไง อีกฝ่ายคงจะไม่ตอบเธอเป็นแน่ ด้วยลักษณะนิสัยที่เป็นคนชอบเก็บความรู้สึก การที่จะเค้นความจริงจากปากเพื่อนคนนี้นี่ยากเหมือนกับขอลอกงานมันนั่นแหละ

     

                ทำไมถึงปวดหัวขนาดนี้ แชยองคิด

     

                ปกติเธอก็เป็นคนแข็งแรง ชอบวิ่ง ชอบเล่นกีฬา

     

                แต่หลังจากฝันแปลกๆนั่น อาการมันก็แย่ลง

     

                คิดมากเกินไป?

     

                อืม..

     

                “แชง ไหวแน่นะน้ำเสียงเป็นห่วงของดาฮยอนทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นบ้าง เหมือนเป็นยาที่คอยกระตุ้นให้เธอมีกิจกรรมทำในแต่ละวันอะไรประมาณนี้

               

                เธอพยักหน้าตอบกลับ

     

                แต่ก็แค่เสแสร้งแกล้งทำไปก็เท่านั้น

     

                แชยองไม่ใช่คนที่ชอบให้ใครเป็นห่วง เลยมักจะพยายามทำตัวเข้มแข็ง

               

                ซึ่งจริงๆไม่ใช่แบบนั้นเลย

     

                ขอหลับสักงีบนะแชยองพูดเบาๆให้ดาฮยอนพอได้ยิน ซึ่งดาฮยอนก็พยักหน้าตกลง

     

               

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                คิดว่าวันนี้จองยอนมันจะมาสายป่ะ

     

                “คงสายมั้ง

     

                จีซูมองเพื่อนโต๊ะข้างๆที่นั่งทำงานของคณะกรรมการนักเรียนตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า จนเวลาล่วงเลยผ่านมาหนึ่งชั่วโมงก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะเสร็จเลย

     

                แล้วเมื่อคืน .. แกโอเคป่าวจีซูตัดสินใจถาม

     

                เธอก็ไม่รู้หรอกว่าสองคนนั้นมีปัญหาอะไร แต่เมื่อวานหลังจากจองยอนกับนายอนกลับไป เธอก็นั่งคุยเล่นกับโมโมะอยู่นิดหน่อย จนลืมไปเลยว่าก็ไม่ได้สนิทกันมาก กว่าจะกลับบ้านก็ปาไปห้าทุ่มแล้ว

     

                ตาเลยดำเหมือนหมีแพนด้านี่ไง

               

                โอเคดิ ไม่ได้เป็นไรสักหน่อยนายอนยิ้ม พร้อมก้มหน้าลงไปเขียนรายงานต่อ

     

                เสียงฝีเท้าดังขึ้นจากนอกห้อง ทันจนได้เป็นจองยอนที่วิ่งถลาเข้ามาเรียกความสนใจของเพื่อนทุกคนได้เป็นอย่างดี เว้นไว้เสียแต่อิมนายอนคนหนึ่ง

     

                จองยอนเดินเข้ามานั่งที่ ในจังหวะเดียวกับที่นักเรียนชายต่างห้องเดินย่างกรายเข้ามา

     

                จีซูมองการกระทำของเพื่อนในห้องอย่างไม่ละสายตา

     

                รองประธานคร้าบ … “

     

                เสียงเรียกชื่อทำให้นายอนผละจากการทำงาน

     

                จองยอนที่ได้ยินก็เปลี่ยนหันไปสนใจบทสนทนานั้นเช่นเดียวกัน

     

                มีอะไรเหรอ     

               

                เราไม่ค่อยเข้าใจการบ้านวิชานี้เลย อยากให้ช่วยสอนหน่อย

     

                “แต่พอคิดไปคิดมาเขาเว้นช่วงพร้อมกับโปรยชีทในมือใส่หน้านายอน  ให้รองประธานทำให้เลยดีกว่า จะได้ไม่เสียเวลา รีบทำด้วยนะครับ

     

                เอ้าไอ่เวรนี่

     

                จองยอนลุกขึ้นเดินเข้าไปที่โต๊ะนายอนทันทีที่เห็นพฤติกรรมของชายคนนี้

     

                แต่ทำไมถึงไม่มีใครมาเตือนมันเลยวะ

     

                ถึงจะบ่นยังไง แต่เธอก็ไม่ใช่พวกชอบมีเรื่อง

     

                จองยอนก้มลงเก็บชีททั้งหมดที่อยู่บนพื้นส่งให้คืน งานตัวเอง ก็ทำเองดิวะ

     

                “แล้วเมิงเสื-กไรวะ กูแค่ขอให้รองประธานช่วยทำงาน ยัยนี่มันก็ไม่ได้มีปัญหาไรเขาพูดพร้อมชี้หน้านายอน

     

                ร่างเล็กจับมือเธอไว้ ทุกๆคนในห้องต่างพากันเงียบ ไม่มีใครพูดออกมาสักคำ

     

                นี่มันอะไรวะเนี่ย

     

                อ๋อ เมิงยังไม่รู้จักกูสินะ กูคิมจุนฮยอก ลูกผู้อำนวยการโรงเรียนนี้

               

                “แล้วไงจองยอนตอบเสียงเรียบ ทำเอาทุกคนในห้องถึงกับอ้าปากค้าง

               

                เธอไม่เข้าใจ เป็นลูกผอ.แล้วยังไง เพื่อนต้องกลัวเหรอ?

     

                ถ้าขัดใจกู ก็โดนกูไล่ออกไง

     

                “งั้นก็ไล่ฉันเลยสิ ไม่มีปัญหาจองยอนทำสีหน้าเรียบเฉย ซึ่งทำให้จุนฮยอกเตรียมง้างหมัดขึ้นมาต่อย

     

                เมิงนี่ปากดีจริงๆว่ะ

     

                “จองยอนพอได้แล้วนายอนปริปากห้ามทัพ ซึ่งจุนฮยอกทุบโต๊ะอย่างขุ่นเคือง พร้อมหยิบชีทในมือเธอเดินออกจากห้องไปด้วยความโมโห

     

                สงสัยตัวคนเดียวคงจะหาเรื่องไม่ได้มั้ง

     

                นายอนค่อยๆปล่อยมือเธอออกช้าๆ นั่งก้มหน้าไม่พูดไม่จา สมาชิกร่วมห้องที่นั่งเงียบกริบเมื่อสักครู่กลับจับกลุ่มตั้งวงคุยถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น

     

                จองยอนได้แต่ทำตัวปกติกลับไปนั่งที่ก็เท่านั้น

               

                ที่เธอทำ มันไม่ถูกงั้นเหรอ?

     

                หรือเพราะสังคมมนุษย์ต้องเคารพคนที่มีอำนาจสูงกว่า

     

                จองยอนส่ายหัวเล็กน้อยให้กับความคิดตื้นๆเหล่านั้น

     

               ยูจองยอน นักเรียนปีสามที่เพิ่งย้ายมาใหม่ หลังเลิกเรียนกรุณามาพบอาจารย์ที่ห้องพักด้วย

     

                จองยอนทำหน้ายู่ทันทีเมื่อได้ยินเสียงประกาศ นั่งเท้าคางมองคนข้างตัวอย่างเซ็งๆ พร้อมกับอีกฝ่ายที่ยื่นโน้ตใบเล็กๆให้

     

     

              ไม่โกรธกันใช่มั้ย

     

               

                แล้วทำไมเธอจะต้องโกรธ ในเมื่อนายอนอุตส่าห์ช่วยห้ามเธอไว้แท้ๆ

     

                ไม่งั้นหมอนั่นได้ปากแตกชัวร์

     

                “ทำไมต้องโกรธ อย่าคิดมากๆเสียงประตูดังขึ้นพอดีพร้อมกับอาจารย์ที่เข้ามา เรียนกันเหอะ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

               

     

               

     

                ไปก่อเรื่องอะไรไว้อีกล่ะ ชื่อประกาศซะดังลั่น

     

                หวังว่าคงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกนะ

     

                คาบพลศึกษากำลังจะเริ่มขึ้น เหล่านักเรียนต่างพากันเปลี่ยนชุดมายืนรออาจารย์อยู่บริเวณสนามด้านหน้าตึก ส่งเสียงคุยจอกแจกจอแจดังไปทั่วบริเวณ มีเพียงแต่เธอที่เปลี่ยนชุดเสร็จแล้วก็นั่งแหมะอยู่ข้างสนาม ไม่ยอมไปสมทบกับคนอื่นๆ จนถึงตอนอาจารย์มา

     

                อาการปวดหัวมันแผลงฤทธิ์

     

                แค่ยืนเฉยๆโลกก็หมุนแล้ว

     

                ไหวแน่นะดาฮยอนถามคำถามนี้กับเธอเป็นรอบที่เจ็ด ซึ่งเธอก็ยังยืนยันคำเดิมว่าไม่เป็นไร พร้อมกับเตรียมที่จะวิ่งเพื่อทดสอบสมรรถภาพก่อนการสอบกลางภาค

     

                นักเรียนที่ต้องวิ่งรอบแรกเตรียมพร้อมประจำลู่วิ่ง รวมถึงเธอเองด้วย

     

                แค่วิ่งไปให้ถึงเส้นชัย ปวดหัวนิดหน่อยคงจะพอไหว

     

                ปิ๊ดดด

     

                เสียงนกหวีดดังขึ้น เหล่านักเรียนต่างพากันออกวิ่งเพื่อทำเวลาให้ดีที่สุด

     

     

     

                ทำไมหัวดันมาปวดเอาตอนนี้

     

     

     

               

     

     

                แชยองวิ่งกุมหัวตัวเอง จนมีคนๆหนึ่งสังเกตถึงความปกตินั้นได้

     

     

     

     

     

     

                คงไม่ไหวแล้วจริงๆ

     

     

     

     

     

     

                ถ้าตอบไปว่าไม่เป็นไรก็คงจะดีหรอก

     

     

     

     

                อาการปวดหัวเริ่มมีมากขึ้น จนเธอล้มลงไป

     

     

     

     

                แชยอง!!!!!!!!!!” เสียงใครบางคนตะโกนขึ้น

     

                ดวงตาค่อยๆเปิดมองคนที่ช้อนตัวเธอขึ้นมา

     

                นักบัลเลต์ชั้นห้านี่นา มาได้ยังไงเหรอแชยองพูดด้วยเสียงแหบพร่า ที่ในหัวได้แต่สงสัยว่าเมียวอิ มินะ มาปรากฏตัวต่อหน้าเธอได้ยังไง

               

                เรียนมาเกือบจะครึ่งเทอม ก็เพิ่งเคยเจอที่โรงเรียนนี่แหละ

     

                มินะเพียงแต่แสดงสีหน้ากังวล ที่เธออยากจะตอบออกไปเหลือเกินว่าไม่เป็นไร

     

                แต่พออยู่กับคนๆนี้

     

                ทำไมปากมันถึงไม่ยอมขยับ

     

                มินะค่อยๆพยุงเธอเดินตรงตามทางไปยังห้องพยาบาล โดยมีดาฮยอนคอยช่วยด้วยอีกคน แต่พอถึงครึ่งทาง ดาฮยอนก็ต้องรีบกลับไปเพื่อเตรียมวิ่งต่อ

     

               

     

                ตึกตึก

     

               

     

                เสียงหัวใจเต้น??

     

                ของเธอเหรอ?

     

                ไม่หนิ

     

                ของพี่มินะ??

     

               

     

                แชยองเสสายตาหันไปมองคนข้างๆ

     

                หน้าแดง???

     

                ขอโทษนะ คือ ฉันไม่ค่อยถนัดเลยมินะพูดขึ้น

     

                ถ้าฉันจะขอจับมือเธอ คงจะไม่ว่าอะไรใช่มั้ย …”

     

                อะ อื้มแชยองตอบกลับ

     

                มือนั่นจับมือเธอไว้ ทำให้พยุงได้ง่ายขึ้น

     

                แชยองไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าคนข้างๆ

     

     

     

                ตึกตึก

     

     

     

                ทำไมหัวใจจะต้องมาเต้นแรงเอาตอนนี้ด้วยนะ

     

               

     

     

     

     

     

     

     

               

     

                เป็นเพราะเวลาพักระหว่างคาบสิบห้านาที มินะเลยถือโอกาสออกมาเดินเล่น

     

                เด็กชั้นล่างที่เธอจำได้ติดตาดีถึงแม้จะพบกันแค่ครั้งเดียว

     

                ไม่สิ

     

                จริงๆเธอก็แอบมองเด็กคนนั้นมานานแล้ว

     

                พอเห็นท่าทางของแชยองที่ดูแปลกๆ ทำให้เธอเลือกที่จะเข้ามาดูในสนามอย่างใกล้ชิด

     

                และก็เป็นไปตามที่คาด ซนแชยองดูเหมือนจะเป็นไข้

     

                ไม่รู้ว่าอะไรดลใจทำให้เธอเลือกที่จะตะโกนออกไป รวมไปถึงการพาร่างเล็กนี่มาที่ห้องพยาบาลด้วย

     

                ความประหม่าเริ่มก่อตัวขึ้นเมื่อเธอตัดสินใจถามร่างเล็กนั่น

     

                แต่คำตอบที่ได้ก็ทำให้ใจชื้น

     

                มินะพยุงแชยองมาจนถึงห้องพยาบาล แต่กลับไม่มีใครอยู่ในห้องนั้นเลย

     

                ไหวมั้ยเธอถามร่างเล็กนั่นขณะค่อยๆวางลงบนเตียง

     

                แต่ดูเหมือนจะหลับไปแล้ว

     

                หลับไปได้ยังไงนะ

     

                ทั้งๆที่เธอเขินอยู่แบบนี้ อีกฝ่ายกลับหลับได้หน้าตาเฉย

     

                มือขวาเอื้อมไปแตะหน้าผากเบาๆ

     

                ร้อน

     

                สักประมาณ 38 องศาได้

     

                ในขณะที่กำลังจะไปเตรียมผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้ กลับถูกแชยองกุมมือไว้เสียอย่างนั้น

     

                อย่าไปไหนเลยนะ …” แชยองพูดด้วยเสียงแหบพร่า

     

                รู้อยู่แล้วแหละ ว่าละเมอ

     

                มือทั้งสองกุมมือเธอลงไปบริเวณหัวใจของอีกฝ่าย

     

     

                ตึกตึก

     

     

                เธอคงไม่ได้คิดไปเองหรอกใช่มั้ย

     

                ว่าแชยองคงจะเขินเธอเหมือนกัน..

     

               

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                เป็นไงบ้างอ่ะนายอนเอ่ยปากถามจองยอนที่เดินออกมาจากห้องพักครูด้วยสีหน้าคาดเดาไม่ได้ แต่ก็ได้คำตอบเมื่อเจ้าตัวฉีกยิ้มกว้างออกมา

     

                ก็โดนด่า

     

                เอ้า ยิ้มเพราะโดนด่า

     

                แล้วทำไมยิ้มอ่ะ

     

                “ก็เธอไม่เป็นไรไง ฉันเลยยิ้มได้แบบนี้จองยอนว่า ถือวิสาสะขยี้ผมอีกฝ่าย

     

                แฮ่มๆจีซูดูเหมือนจะเจ็บคอ

     

                “เอาน้ำเปล่ามั้ยจองยอนถามด้วยความเป็นห่วงเป็นใย หยิบขวดน้ำออกมาให้

     

                ฉันประชด

     

                อ้าว นี่เรียกประชดเหรอ

               

                 ฉันกลับบ้านละ วันนี้ต้องไปซื้อของ ส่วนพวกหล่อนก็อย่ามาสวีทกันให้มากนักนะจ๊ะคุณป๊ากโบกมือลา

     

                ไม่สวีทหรอกค่า กลับบ้านดีๆนะคะนายอนยืดตัวมากอดคอเธอ

     

                คำพูดของคนสองคนที่คุยกันอยู่ไม่ได้เข้าหูเธอเลยสักนิด

     

                นายอนคงจะไม่รู้จริงๆ ว่าการกระทำบางอย่าง

     

                มันทำให้ยมทูตที่ยืนข้างเธอตรงนี้

     

                คิดไปไกลมากขนาดไหน

     

                “จองยอน จองยอน!!” นายอนตะโกนเรียกสติเธอ

     

                อ่ะ อื้ม ว่าไง

     

                “เอกสารที่ให้กรอกไปเมื่อวาน ได้รึยัง ฉันจะได้เอาข้อมูลไปลงร่างเล็กนั่นทวงถาม

     

                จองยอนรีบค้นหาในกระเป๋าของตัวเอง แต่มันก็ยับยู่ยี่ไปเรียบร้อย เธอพยายามทำให้มันกลับมาเรียบที่สุดเท่าที่จะทำได้

     

                แต่กระดาษที่ยับไปแล้ว มันทำให้เรียบเหมือนเดิมไม่ได้หรอก

     

                เว้นเสียแต่จะทำมันขึ้นมาใหม่

     

                ขอโทษทีนะ ที่มันค่อนข้างยับ

     

                “ไม่เป็นไรนายอนรับกระดาษนั่นมา

     

                ร่างเล็กนั่นกวักมือให้เธอย่อตัวลง ก่อนจะกระซิบที่ข้างหู

     

                วันนี้ ขอบคุณนะ

               

                ก่อนจะเดินเข้าไปทำงานช่วงเย็นตามที่ได้บอกกล่าวกันไว้เมื่อตอนกลางวัน

     

               

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                จองยอนเดินผ่านห้องของแชยอง ก็เพิ่งจะคิดได้ว่าควรจะไปตามหาอีกฝ่ายให้เจอเสียก่อน ขาค่อยๆเดินเร็วขึ้นพร้อมกับความกังวลที่มากขึ้นเช่นเดียวกัน

     

                ห้องพยาบาล??

     

                จะว่าไป ตั้งแต่มาเรียนที่นี่ก็ยังไม่เคยเข้าไปดูเลย

     

                จองยอนชะโงกหน้าเข้าไปดู ก่อนจะพบว่าคนที่เธอตามหานอนหลับอยู่บนเตียง

     

                ไม่สบาย??


                จะเป็นอะไรมากมั้ยนะ

     

                นี่จองยอนตัดสินใจเรียก

     

                แต่แชยองเป็นคนตื่นยาก ยากมากๆ

     

                ยกตัวอย่างเมื่อตอนช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะเธอตั้งนาฬิกาผิดเลยปลุกตอนหกโมงเช้า พอเธอจะปลุกอีกฝ่ายให้ตื่นมาด้วยกัน

     

                ก็ กว่าจะตื่น

     

                ล่อไปซะเกือบเจ็ดโมงเช้า

     

                นี่เธอตัดสินใจเรียกอีกครั้ง พร้อมใช้นิ้วจิ้มหวังจะให้อีกคนตื่น

     

                อะไรเล่าแชยองพูดอย่างรำคาญ ปัดมือที่กวนใจนั่นออก

     

                สีหน้าของร่างเล็กนั่นแดงก่ำ ภาพที่เห็นทำเอาจองยอนอดที่จะเอื้อมมือวางบนหน้าผากของอีกฝ่ายที่ร้อนจนเธอพอจะเดาได้แล้วว่า เป็นไข้ อย่างที่มนุษย์เค้าเรียกกัน จองยอนเสสายตามองไปยังสมุดโน้ตสีดำประจำตัวของเธอ ที่แชยองก็ยังคงกอดมันแน่น

     

                น่าแปลก

     

                กระเป๋านักเรียนของแชยองก็ไม่ได้อยู่ตรงนี้สักหน่อย

     

                ไม่สบาย??จองยอนเอ่ยถาม

     

                แชยองเพ่งมองอีกฝ่าย ที่เห็นเธอนอนซมอยู่แบบนี้แล้วยังจะถามอีก

     

                โอเค ไม่สบาย

               

                ไอ่บ้าจองยอน

     

                ถือวิสาสะอ่านใจเธออีกแล้ว

     

                ก็เธอจะได้ไม่ต้องพูดไง สบายจะตาย

               

                “อยากพูดอาการแสบคอเกิดขึ้นทันทีที่เธอเปล่งเสียงออกมา

               

                ป่ะ กลับกัน

     

                จองยอนพยุงร่างเล็กนั่นให้เข้าที่เข้าทาง ที่ดูเหมือนอีกฝ่ายพยายามจะดิ้นขัดขืนนิดหน่อย แต่สุดท้ายก็ทำหน้านิ่งยอมให้เธอพยุงไปแต่โดยดี

               

                “เดี๋ยวแชยองพูดโพล่งเมื่อกำลังจะเดินเลยโต๊ะใกล้ๆ ร่างเล็กเอื้อมมือไปหยิบกระดาษกับยาที่วางข้างกันกับแก้วน้ำนั่น

     

                ไปได้ยัง

               

                แชยองเพียงแต่พยักหน้าตอบ มือข้างซ้ายของร่างเล็กถือสมุดโน้ตพร้อมกับสิ่งที่เธอหยิบติดตัวมาด้วยเมื่อกี้อย่างระวัง

     

                ตามธรรมดา แชยองไม่เห็นจะห่วงสมุดเล่มนี้

     

                แปลก

     

                นี่เธอพูดคำว่าแปลกมากี่ครั้งแล้ว??

               

                ก็มันแปลกจริงๆนี่ จะให้ทำไง

     

                กระเป๋าฉันล่ะ

     

                ไปส่งเธอถึงห้อง เดี๋ยวฉันกลับมาเอาให้ทีหลัง

     

                เดินไปเอาแค่แปปเดียว ฉันไม่ตายหรอกน่า รีบๆเดินไปเอาเหอะแชยองพูดเร่งด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ที่เธอก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร

     

                ขืนให้พูดมากกว่านี้ อาจจะไม่ได้ยินเสียงบ่น

     

                คิดแล้วก็รู้สึกโหวงๆ

     

               

     

     

     

                หลังจากทำตามคำขอของแชยอง นี่ก็เป็นเวลาเกือบห้าโมงกว่าที่ท้องฟ้าเริ่มมืดลงแล้ว ทำให้ภายในโรงเรียนไม่เหลือเหล่าสมาชิกชมรมกีฬาเลยแม้แต่คนเดียว

               

                จะว่าไป วันนี้เธอก็ลืมไปซ้อมเหมือนกัน

     

                ไม่ได้ลืมสิ เธอไม่ใช่สมาชิกชมรมบาส ไม่จำเป็นต้องไปก็ได้นี่หว่า

     

                อดทนหน่อยนะ

     

                ไม่ต้องห่วงหรอก

               

                แชยองพยายามยิ้มแหยะๆทั้งที่ไม่เคยทำเพื่อแสดงให้เห็นว่าไม่เป็นไร แตสำหรับยูจองยอน อาการเหล่านั้นมันยิ่งทำให้ความเป็นห่วงมีมากขึ้นไปอีก

     

                ไม่ต้องเที่ยวบอกใครว่าไม่เป็นไรก็ได้

     

                ประโยคนั้นทำให้แชยองฉุกคิด

     

                ปากยูจองยอนนี่พูดดีๆเป็นกับเค้าด้วยเหรอ??

                           

                ไม่ใช่สิ

     

                อือ

     

                แล้วที่ประกาศชื่อไปเมื่อเช้า ไปก่อเรื่องอะไรมาอีกล่ะ

     

                จองยอนสะดุ้งโหยงทันทีที่โดนเธอถาม

     

                แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้คิดอะไรนาน

     

                ก็ มีเรื่องกับคนที่ชื่อคิมจุนฮยอกอะไรนี่แหละ เห็นบอกเป็นลูกผอ.”

     

                เออ มันก็สมควรโดนเรียกอยู่

     

                ไม่โดนไล่ออกก็ดีละ

               

                สรุปถามเพราะห่วง??จองยอนขึ้นเสียงสูง

               

                “เปล่า ถามเพราะได้ยินเฉยๆ

     

                แน่ะ บอกไม่ห่วงแต่ก็ถาม

     

                อยากจะเขกหัวตัวเองตอนนี้จริงๆ

     

                จู่ๆร่างสูงนั่นก็หยุดเดินซะเฉยๆ แชยองเหลือบมองร่างสูงนั่นในมุมต่ำ ไม่รู้ว่ามองไปทางไหน แต่เธอคงคิดว่าจะเป็นด้านหน้า

     

                อิมนายอน ยุนโดอุน

     

                เอาอีกแล้ว สองคนนี้อีกแล้ว

               

                อยู่ไกลลิบแท้ๆ แต่ไม่วายที่จะมองเห็น

     

                มือของทั้งคู่ค่อยๆสอดประสานกัน

     

                แชยองเพียงแต่ส่ายหัว เก็บของลงกระเป๋าพร้อมกับยกมือซ้ายไปหาร่างสูงนั่น

     

                เลิกพยุงซักแปปหนึ่งสิร่างเล็กพูดขึ้น

     

                “ทำไมอ่ะ เดินไหวแล้วเหรอ

     

                “เปล่า แต่ปล่อยก่อนแชยองทวนคำ ที่จองยอนก็ไม่เข้าใจในความหมาย แต่ก็ยอมปล่อยอีกฝ่ายแต่โดยดี

     

                แชยองนั่งลงบนสนามอาจเพราะลุกไม่ไหว พร้อมยื่นมือเล็กนั่นให้กับเธอ

     

                จับมือฉันก่อนก็ได้

     

                ที่บอกให้ปล่อย เพราะจะทำแบบนี้เองสินะ

     

                ถึงจองยอนจะเดาไม่ออกว่าอีกฝ่ายคิดอะไร

               

                แต่ก็เลือกที่จะจับมือเล็กนั่นไปแล้ว

     

                ซนแชยอง เธอนี่มัน

               

                ไอ่เด็กปากแข็ง …”

     

                “นั่นแหละ นิสัยฉันแชยองพูดตอบกลับ ที่ทำให้พวกเธอทั้งคู่หัวเราะร่าออกมา

     

                เพราะไม่รู้จะทำยังไงให้อีกฝ่ายเลิกกังวลกับอิมนายอน

     

                เลยพูดแบบนั้นออกไป

     

                จองยอนย่อตัวลงอ่ะ ให้ขี่หลัง

     

                “ฉันตัวหนักนะ

               

                “ถือซะว่าวันนี้บริการพิเศษ เป็นการขอโทษและขอบคุณด้วย

               

                แชยองขี่หลังร่างสูง พร้อมเอื้อมมือไปกอดคออีกฝ่ายไว้

     

                แต่ก็มีคำถามหนึ่งฉุกคิดขึ้นอย่างพอดี

     

                มีปีกทำไมไม่บิน

     

                เป็นยมทูตมีของดีซะเปล่า แต่ไม่ใช้

     

                บ้ารึเปล่า

     

                “พอบินลมมันก็จะพัด ถ้าโดนเธอ เธอก็จะไม่สบายอีกไง

     

                เหตุผลง่ายๆแค่นี้ ทำไมเธอกลับคิดไม่ถึงกันนะ

     

                “ถ้าฉันเผลอหลับ พี่ห้ามแกล้งนะ

               

                “ไม่รับปาก

               

                ทำไมถึงกลับไม่รู้สึกโกรธ

     

                ตามปกติอาจจะฟาดด้วยหลังมือ หรือศอกเข้าท้อง

     

               

     

                แชยองเพียงแต่คิด พร้อมค่อยๆหลับตาลงช้าๆ

     

               

               

     

                ยูจองยอนอบอุ่นขนาดนี้ ทำไมวันๆเห็นแต่เดินอยู่กับเพื่อนไม่กี่คน

     

               

               

     

                แต่ก็รู้สึกขอบคุณที่อย่างน้อย

     

     

     

               

                ก็ไม่ลืมห่วงเธอ

     

     

     

                หายไวๆนะ

     

     

     

                “อือ

     

     

               

     

     

     

     

    TALKS: #ADVERSEFANFIC <<<<<<<<<

     

                พอเห็นเวลาพี่จองห่วงแชงแล้วมันอดแต่งขึ้นไม่ได้จริงๆ

     

                คู่พี่น้องโนแจมที่น่าจะเข้าใจกันได้ดีที่สุด (:

     

                ถ้าไม่อิงความจริงนะ 5555555555555555

     

                คาดว่าตอนต่อไปคงจะยาวและจะเริ่มมีเรื่องมากกว่านี้

     

                เอาจริงๆเรื่องมันก็เกิดตั้งแต่ตอนนี้แหละ

     

                เห็นคนอื่นเค้ามีทวงฟิค

     

     

               

                ไรท์กลัว

     

     

               

                เป็นประเภทกลัวคนหน่อยๆ

     

     

     

                อ้าว?

     

     

    @Wbluebird_

     

    ปล. อย่าลืมโหวตมาม่าเพื่อสาวๆด้วยนะ ^^

               

                

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×