คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ADVERSE : I
A D V E R S E : I
“แชงๆ ข้อนี้ตอบไรวะ”
“แป๊ปดิ คิดอยู่”
บทสนทนาของนักเรียนมัธยมปลายปีหนึ่ง กำลังรีบหาคำตอบของโจทย์คณิตศาสตร์อย่างเร่งรีบ เกรงว่าอาจารย์จะสุ่มถามแล้วโดนตัวเองจนตอบไม่ได้ คิมดาฮยอน จึงต้องพึ่งพาเพื่อนสนิทสุดติสท์ที่นั่งข้างกันอย่าง ซนแชยอง ให้ช่วยแก้โจทย์ข้อนี้ให้ทันท่วงที
ดูเหมือนว่าการแก้โจทย์จะเสร็จสิ้น เมื่อแชยองเขียนอะไรบางอย่างลงไปในกระดาษโน้ตพร้อมกับส่งมาให้
“โทษทีว่ะ คิดไม่ออก :P” พร้อมเมินหันไปมองทางอื่นซะอย่างนั้น
“คิมดาฮยอน ออกมาทำข้อนี้” เสียงอาจารย์วิชาคณิตศาสตร์พูดดังขึ้นทำเอาเธอสะดุ้งโหยง
ซวยละไง
เด็กสาวผมยาวในชุดนักเรียนที่อาจจะผิดระเบียบอยู่บ้างเล็กน้อย เดินเก้ๆกังๆมองกระดาษทดของเพื่อนแต่ละคนที่ว่างเปล่า
สาเหตุที่อาจารย์เรียกเธอไม่ใช่เหตุผลใดอื่น
เพราะเธอหลับในคาบจนโดนเรียกเข้าห้องปกครอง
และอาจารย์ก็จำเธอได้แม่นอยู่คนเดียว
มือขวาถือชอล์กยืนนิ่งอยู่หน้ากระดานเกือบห้านาที พร้อมกับโจทย์ที่ได้แต่คิดในใจว่าอะไรวะเนี่ย อยากจะขอตัวช่วยสักคนมา แต่นั่นมันก็เป็นสิ่งที่มีแค่ในความคิด
“หนูขอตัวช่วยได้มั้ยคะครู”
“แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว เธออยากเลือกใครก็เลือกเลย”
ถือว่าเป็นแจ็คพอตแตกของดาฮยอนเลยก็ว่าได้ เธอผละออกจากกระดาน ส่งสายตาไปหาเพื่อนทุกคนที่นั่งก้มหน้า และแน่นอน คนที่เธอเลือกนั้นน่าจะเดาได้ไม่ยาก
“แชยอง ออกมา”
แชยองทำหน้าตาเบื่อหน่ายเดินลุกออกมาจากเก้าอี้อย่างไม่เต็มใจ หยิบชอล์กขึ้นมาแก้โจทย์อย่างคล่องแคล่วจนเธอหงุดหงิด
ก็ไหนบอกว่าคิดไม่ออก
“ไหนบอกว่าคิดไม่ออกไงวะ” ดาฮยอนขึ้นเสียงใส่เธอทันทีที่อาจารย์เดินพ้นจากประตูไป
“ก็บอกว่าคิดไม่ออก ไม่ได้บอกว่าทำไม่ได้สักหน่อย ของแบบนี้ก็ต้องให้เวลากันบ้างดิ”
เธอรู้แหละว่าการทำแบบนี้เพื่อนจะเกลียดเอาได้ง่ายๆ
แต่ดาฮยอนจะให้เธอช่วยไปตลอด มันก็ไม่ไหวเหมือนกัน
เธอนั่งนิ่งวาดรูปไม่สนใจคำพูดของอีกฝ่ายที่ต่อให้ผ่านไปอีกสักหนึ่งปี มันก็พูดอยู่แบบเดิมจนเธอแอบรำคาญเล็กน้อย จนอยากจะตอบกลับไปว่า “รู้แล้ว พอทีเหอะ” อะไรแบบนี้
“งั้นไว้เจอกันพรุ่งนี้”
ดาฮยอนโบกมือลาเธอก่อนจะรีบวิ่งแจ้นไปสักที่ใดที่หนึ่ง ซึ่งแชยองได้แต่มองตามพร้อมกับเกาหัวในความไม่เข้าใจตัวเพื่อนสนิทที่คิดอยากจะทำอะไรก็ทำแบบนี้
ชีวิตตามปกติของเธอหลังจากเลิกเรียนไม่ใช่การเรียนพิเศษ แต่มันคือการได้เดินรับลม หากว่ามีอารมณ์ศิลป์เมื่อไหร่ก็เป็นอันต้องหยิบสมุดสเก็ตภาพมาวาดรูปทุกครั้งไป
รวมถึงครั้งนี้ก็ด้วย
แต่ทว่า ทุกอย่างมันไม่ได้เป็นไปตามที่ต้องการ เสียงมือถือดังขึ้นอย่างไม่หยุด แชยองเบ้ปากก่อนจะล้วงมือถือจากกระเป๋ากระโปรงขึ้นมารับพร้อมต่อว่าปลายสาย
“โทรมา …” แต่คำพูดนั่นต้องหยุดลง เมื่อเสียงนั่นคือ
เสียงป้าเจ้าของหอ
“รีบกลับได้ไหม ป้ามีเรื่องจะคุยด้วย”
“ไม่ได้หรอกป้า วาดรูปอยู่”
“แต่นี่สำคัญมากนะ ถ้าไม่มาแกอาจจะถูกไล่ออกจากหอก็ได้ ..” จบประโยคเธอรีบตัดสาย เก็บข้าวของทุกอย่างพร้อมวิ่งสี่คูณร้อยตรงกลับหอพักของเธอทันที
แชยองหอบหายใจถี่เป็นผลมาจากการวิ่งด้วยความเร็วสูงกลับมาที่หอพัก เธอกรอกตามองภาพคนสองคนที่ยืนอยู่หน้าหอพัก
ไอ่ฝั่งซ้ายเนี่ยต้องเคยเห็นแน่ๆ ก็เพราะเป็นป้าเจ้าของหอ
แต่ไอ่ฝั่งขวาเนี่ย ใคร มาพร้อมกระเป๋าเต็มไม้เต็มมือยังกับจะมาพักที่นี่
“แชยอง คือป้าอยากจะให้คนนั้นเค้าพักกับหนูหน่อย” ป้าชี้มือไปยังผู้หญิงผมสั้นสีน้ำตาลแดงในชุดสีดำสนิท
ตัดผมซะทอมบอยชิพหาย ..
นึกว่าผู้ชายเหอะ
“เฮ้ยป้า ไม่เอาดิ”
“ถ้าให้อยู่ป้าลดค่าเช่าห้องให้เลยสามเดือน”
“โอเค”
ความงกมันไม่เคยเข้าใครออกใครอยู่แล้ว และมันก็เป็นเรื่องดีเหมือนกันที่จะได้มีคนช่วยหารค่าห้อง ถึงแม้มันอาจจะแลกมาด้วยความอึดอัดสักนิดหน่อย ล่ะมั้ง
บุคคลมาใหม่จัดวางข้าวของไว้ที่มุมห้องอย่างเป็นระเบียบ สายตากวาดมองไปทั่วห้อง เดินไปนั่งโซฟาอย่างเป็นธรรมชาติราวกับนี่เป็นห้องของตัวเอง
”ฉันชื่อ …”
”ซนแชยอง เกิดวันที่ 23 เดือนเมษายน ปี 1999”
”รู้ได้ไง”
”อ่านมันซะสิ” ร่างสูงหยิบหนังสือสีดำยื่นมาให้ เธอรับมันไว้และเดินไปยังโต๊ะทำงาน
มือเล็กค่อยๆเปิดหนังสือที่ไร้หน้าปกทีละหน้าสองหน้าอย่างระมัดระวัง แต่น่าแปลกที่หนังสือเล่มนั้นกลับไม่มีตัวอักษรโผล่ขึ้นมาแม้แต่ตัวเดียว
”หนังสือบ้าอะไร ไม่เห็นจะ .. ”
ตัวหนังสือสีขาวค่อยๆปรากฏขึ้นทีละนิดจนเติมเต็มหน้ากระดาษที่ว่างเปล่า เนื้อหาของมันไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าเป็นการบอกเล่าถึง
ยมทูต
”ไร้สาระน่า” เธอพึมพำเบาๆ
”อยากจะลองพิสูจน์ดูรึเปล่าล่ะ” อีกคนที่นั่งอยู่ดูเหมือนจะได้ยิน สงสัยเธอคงจะพูดดังไปหน่อย
”เอาเวลานั่นมาวาดรูปยังจะมีประโยชน์ซะกว่า”
แชยองปิดหนังสือเล่มนั้นลงพร้อมหันไปมองบุคคลที่นั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟา สายตาของอีกฝ่ายจ้องมองราวกับพวกสิงโตที่กำลังจ้องมองหาเหยื่อ ท่ามกลางความเงียบมีเพียงแค่เสียงหายใจเท่านั้นที่ได้ยิน ไม่มีฝ่ายไหนละสายตาหรือเลือกที่จะทำอย่างอื่นเลยนอกจากมองกันอยู่แบบนั้น
สุดท้ายความเงียบก็ถูกทำลายลง ร่างสูงลุกขึ้นเดินเข้ามาหาเธอในจังหวะเดียวกับที่เธอก็กำลังจะลุกไปหาอีกฝ่ายเช่นกัน หากแต่ว่า
”ไม่เชื่อตอนนี้ก็ไม่เป็นไร”
อีกฝ่ายถอนหายใจเฮือกใหญ่ “แค่อยากให้รู้ไว้ จะได้ไม่ต้องมาโทษกันทีหลัง”
”ฉันชื่อ ยูจองยอน ถ้านับเวลาตามโลกมนุษย์ ก็แก่กว่าเธอสามปีเห็นจะได้”
คำแนะนำตัวของยูจองยอนจบลงเพียงเท่านั้น
ไอ่บ้า มาตั้งนานทำไมไม่รีบพูด
”ก็เธอไม่ถาม” จู่ๆจองยอนก็พูดขึ้น ราวกับอ่านใจเธอออก
”อ่านใจได้ด้วย?”
”ไม่ได้”
”แล้วรู้ได้ไง”
”ฝันมากไปเหรอเธอน่ะ” คำพูดของอีกฝ่ายจี้จุดเข้าอย่างตรงประเด็น
”ไม่ได้ฝันเว้ย ก็เห็นว่าตอบกลับ”
”บ้ารึเปล่า” เมื่อมีครั้งแรก ครั้งที่สองก็ตามมาติดๆ
”เออ ขอโทษ”
สุดท้ายแชยองเป็นฝ่ายแพ้ให้กับจองยอนจนได้
เธอไม่ชอบคนกวนประสาทเป็นที่สุด ถ้าไม่นับดาฮยอนมันน่ะนะ
ถ้าให้เธอเปรียบเทียบสกิลการกวนเท้าล่ะก็ ยูจองยอนสามารถเอาชนะคิมดาฮยอนไปได้อย่างง่ายดาย
แต่ถ้าเอาสองคนนี้มาอยู่ด้วยกัน เธอก็จะขอบายไปในทันที
การเรียนการสอนในตอนสายด้วยวิชาประวัติศาสตร์ ทำเอานักเรียนหลายๆคนเริ่มง่วงนอนฟุบหลับกันไปเป็นแถว โดยเฉพาะเพื่อนสนิทไซส์ท้วมอย่างป๊ากจีซู ที่ตอนนี้เตรียมจะหลับเรียบร้อยแล้ว แต่ด้วยความหวังดีอันมีมากโข มือหยิบกระดาษเศษขยำเล็กๆปาไปหาอีกคน ที่เด้งตัวขึ้นหันมามองอย่างหัวเสีย
”เอาล่ะ วันนี้ครูจะแนะนำนักเรียนใหม่นะ” อาจารย์หยุดการเรียนการสอนไปกลางคัน นักเรียนหลายๆคนตื่นจากการหลับใหล เพื่อจะได้รู้ว่า นักเรียนใหม่คนนี้เป็นใครมาจากไหนกันแน่
นักเรียนผมสั้นในชุดสีดำสนิทเดินเข้ามาพร้อมโค้งทักทายเล็กน้อย ”ยูจองยอน ฝากตัวด้วย”
นี่คำทักทายหรืออะไร จีซูคิด
เสียงซุบซิบในห้องดังขึ้นพร้อมกับการเดินไปยังที่นั่งว่างฝั่งซ้ายข้างเพื่อนสนิทของเธอ อิมนายอน จองยอนนั่งลงพร้อมหยิบหนังสือขึ้นมาเตรียมเรียนต่อ
”ดูแปลกๆว่ะ” จีซูกระซิบกระซาบให้เบาที่สุด
”เอาน่า ก็ไม่เห็นจะเลวร้ายอะไรเลย” เธอตอบกลับ
เสียงเอื่อยๆของอาจารย์วิชาประวัติศาสตร์ทำเอาเธอเกือบจะเคลิ้มหลับไป
น่าเบื่อจนบอกไม่ถูก
แต่ความน่าเบื่อมันได้ถูกลบหายไปเพราะเพื่อนนักเรียนที่นั่งข้างกัน
สายตามองไปยังนักเรียนขวามืออยู่เป็นระยะๆ
อิมนายอน งั้นเหรอ?
และอีกฝ่ายเหมือนจะรู้ตัวว่าถูกเธอจ้องอยู่ รีบหันขวับกลับมาสบตาเธอเข้าพอดี
หูแดง?
แต่จองยอนไม่ได้แสดงอาการตกใจอะไรมากนัก เพียงแต่ทำทีหันออกไปมองหน้าต่างอย่างที่เคยทำ
อาการแบบนี้ มันเรียกว่าอะไรกันนะ?
หลังจากผ่านไปเกือบสามชั่วโมง เวลาเลิกเรียนที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง นักเรียนในห้องส่วนใหญ่รีบเก็บของเข้ากระเป๋าวิ่งตามอาจารย์ออกไปติดๆ ยกเว้นเสียแต่คนข้างๆเธอ ที่ต่อให้หมดคาบเรียนแล้วก็ยังไม่ยอมลุกไปไหน
นายอนลุกขึ้นเดินมาหาอย่างเป็นมิตรพร้อมกับรอยยิ้มสดใสอย่างที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน
จะไปเคยเห็นได้ยังไง
ปกติพี่สาวก็ชอบทำตัวอึมครึมใส่
มียิ้มบ้างแหละ แต่ชอบยิ้มมุมปาก
คิดแล้วก็เสียวสันหลังวาบ
”ฉันชื่อ อิมนายอน นะ ยินดีที่ได้รู้จัก”
เธอพยักหน้าให้กับประโยคนั้น แต่ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป
”นายอน กลับกันเหอะ”
”รอฉันไปเอางานที่ห้องประธานสักเดี๋ยวนะ ปะ กลับกัน” ร่างเล็กว่าพลางเดินออกจากห้องไปพร้อมกับเพื่อนร่างท้วมอีกคน
นายอนที่ดูเหมือนจะกลับบ้านไปแล้ว โผล่หน้าเข้ามาในห้อง ”กลับบ้านดีๆล่ะ ยูจองยอน” พร้อมโบกมือลาเธอราวกับสนิทกันมาสิบปี
เมื่อคิดว่ากำลังจะยกมือตอบกลับ อีกคนก็หายไปเสียแล้ว
มันเป็นเรื่องปกติที่คนอย่างเธอจะคิดทำอะไรช้าไปสักนิดหน่อยเพื่อความแน่ใจ
แต่ไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะต้องเพอร์เฟ็ค
จองยอนหิ้วกระเป๋าเดินออกมาจากห้องเป็นคนสุดท้ายในเวลาห้าโมงเย็นพอดิบพอดี ระเบียงทางเดินที่เงียบสงัดเป็นสัญญาณบอกว่าให้รีบกลับบ้านซะ แต่สำหรับเธอควรจะหาอะไรทำเสียก่อน อย่างเช่น
เล่นกีฬา
สนามบาสที่กำลังมีการแข่งกันอย่างดุเดือด ท่ามกลางเสียงเชียร์ของเหล่านักเรียนมากมายที่มามุงดู ผลการแข่งขันอีกทีมยังตามอยู่ถึง 12 แต้ม จองยอนเดินไปเพื่อดูการแข่งขันให้ชัดๆบริเวณที่พักของนักกีฬาในสนาม
ขัดใจว่ะ
เล่นอะไรกัน
ทำไมปล่อยให้อีกฝ่ายได้ลูกตลอด
ความรำคาญเกิดขึ้นจนทำให้เธอทนไม่ไหว
ฝั่งทีมที่มีคะแนนตามเปลี่ยนตัวออก เป็นจังหวะเหมาะที่เธอจะลงไปเล่นแทนอย่างหน้าด้านๆ จนทำเอาสมาชิกในทีมงงกันเป็นไก่ตาแตกแต่กลับไม่มีใครว่าอะไร
แถมยังโยนเสื้อทีมมาให้เธอใส่อีกสิน่า
”ขอบใจ ฉันขอสัก 4-5 ลูกพอ” เธอตะโกนบอกเพื่อนร่วมทีมชั่วคราว ซึ่งทุกคนพยักหน้าพร้อมเล่นเต็มที่
จะแพ้ไม่ได้
ตั้งแต่เธอเกิดมา เธอยังไม่เคยแพ้ให้ใครหน้าไหนเลยสักครั้ง
”แชงงงง ปายยย ดู บาส กานนนน” เสียงลากเอื้อนยาวของดาฮยอนซึ่งกำลังอ้อนเธอเป็นรอบที่สิบเจ็ดเพื่อชวนไปดูบาสเป็นเพื่อน
”เงียบๆ นี่มันห้องสมุด” เธอจุ๊ปากให้อีกฝ่ายเงียบลง
แต่ผลที่ได้กลับตรงกันข้าม เมื่อดาฮยอนปิดหนังสือที่เธอกำลังอ่านแล้วลากตัวออกจากห้องสมุดทันที่ก่อนที่เธอจะด่าอีกสักรอบ
และสุดท้าย ก็มาอยู่ที่สนามบาสจนได้
ผลคะแนนตามห่างกันอยู่เกือบๆสิบแต้ม แต่ค่อยๆย่นระยะมากขึ้นเมื่อเปลี่ยนผู้เล่นลงสนาม ด้วยความสูงของเธอไม่สามารถเห็นการแข่งขันในสนามได้ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาเมื่อดาฮยอนลากเธอไปอยู่ข้างหน้าสุด
ปิ๊ดดดด กรรมการชูมือสามแต้ม และตอนนี้คะแนนทั้งสองทีมเท่ากัน
เธอกรอกตามองให้ทั่วสนาม
คนผมสั้นที่ดูคุ้นๆนั่น แต่ก็นึกไม่ออก
สายตาของซนแชยองจับจ้องไปยังผู้เล่นหมายเลข 9 ที่กำลังวิ่งถือลูกบาสชู้ตสามแต้มได้อีกครั้งอย่างสวยงามพร้อมกับเสียงกริ๊ดดังสนั่น
อปป้าคนนั้นหล่อมากเลยอ่ะแก
อยากไปถ่ายรูปด้วย ไปมะๆๆ
อปป้าไหนวะ ก็เห็นว่าผู้หญิงเล่นบาส
เธอจะไม่รู้สึกแปลกใจเลย ถ้าหากคนนั้นไม่ใช่
ยูจองยอน!!!!!!
นั่นไม่ใช่อปป้า นั่นมันออนนี่ ..
เห็นแบบนั้นมันผู้หญิงมากเลยนะเว้ย ..
ใจเย็นๆกันหน่อยก็ได้ ..
”ตกใจไรวะ”
”ปะ ป่าว”
”จบนี่ไปคุยกับพี่เบอร์ 9 กัน”
”เฮ้ย ไม่เอา! ไม่ไป! คนแบบนั้นจะไปคุยทำไม” เธอรีบปฏิเสธเสียงแข็ง แต่ถึงยังไงเพื่อนอย่างดาฮยอนไม่มีวันปล่อยให้สิ่งที่คิดต้องล้มพังไม่เป็นท่า
การแข่งขันดำเนินต่อไปเรื่อยๆจนกระทั่งกรรมการเป่านกหวีดหมดเวลา ทีมที่ชนะคือทีมของยูจองยอนที่เจ้าตัวชู้ตเอาๆ เหมือนกับในสนามมีแค่ตัวเองคนเดียว
ใครจะคิดว่าเล่นบาสเป็น
แถมไปเอาแรงตั้งเยอะแยะมาจากไหน
ชู้ตคนเดียวนี่ก็ปาไป 7-8 ลูก
สาวๆรีบวิ่งกรูเข้าไปหาไอ่พี่จองยอนที่เกาหัวแกรกๆอย่างงงๆ ด้วยความสูงของจองยอนจึงสามารถมองมาหาเธอได้อย่างไม่ยาก ส่งสายตาอ้อนวอนขอให้ช่วย มิหนำซ้ำยังยกมืออีกต่างหาก
ไม่ล่ะ ไม่ช่วย
ขอผ่าน
เมื่อคืนทำอะไรไว้
ใจจริงก็คิดแบบนั้นแหละ ถ้าไม่ติดว่าไอ่ดาฮยอนมันลากเธอเข้าไปในวงพวกนั้นด้วย เธอส่งสายตาเชือดเฉือนให้กับเพื่อนสนิทที่อยู่ด้านข้างจนต้องพนมมือไหว้ไปอีกคน
เอาว้ะ ช่วยก็ช่วย
”ทุกคน!! นั่น พี่ๆ 2PM มาล่ะ” เธอตะโกนดังลั่นเรียกความสนใจได้ดี
ทุกคนหันไปมองตามมือของเธอ
เสียงเอะอะของนักเรียนคนอื่นเป็นโอกาสทองที่จะพายูจองยอนหนี
แชยองจับมือไอ่พี่จองไว้พร้อมกับวิ่งออกจากวงนั้นด้วยความรวดเร็ว
หากแต่เพียงทุกอย่างพลิกกลับ นักเรียนเหล่านั้นวิ่งตามพวกเธอสองคนราวกับพวกซอมบี้ที่หิวโหย ร่างกายของพวกเราทั้งคู่เริ่มเหนื่อยล้า บวกกับไอ่คนข้างๆที่มันเพิ่งเล่นบาสมา ให้มาวิ่งต่ออีก อีกสักพักคงจะเป็นลมล้มพับไปแหงๆ
”ขอบใจ แต่ต่อไปตาฉันแล้ว” จู่ๆก็พูดขึ้นมาอย่างไม่เข้าใจ
”จับมือไว้ให้แน่นๆล่ะ แล้วหลับตาด้วย”
เธอทำตามคำขอของอีกคน
ทุกอย่างมืดสนิทลง
เท้าทั้งสองข้างลอยอยู่เหนือพื้น นั่นเป็นสิ่งที่เธอรู้สึก
”อยากเปิดตาดูมั้ย”
แชยองไม่ตอบอะไร เพียงแต่ค่อยๆลืมตา
”เฮ้ย!!!!!!!!!!!! ”
คุณจะต้องไม่เชื่อแน่ๆ
ก็เพราะตอนนี้
เธอลอยอยู่เหนือพื้นดินพร้อมกับไอ่พี่จองยอน !!!!
ทำไมถึงเรียกจองยอนว่าไอ่พี่จอง?
คำตอบง่ายๆ ก็มันหมั่นไส้
จะให้เรียกธรรมดาๆได้ยังไง
//แชยอง
ความคิดเห็น