คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ฉัน...ที่เห็นแก่ตัว
ในตอนที่ฉันขึ้นม.1 ฉันต้องย้ายโรงเรียนมาเรียนที่โรงเรียนรัฐบาลแถวบ้าน ฉันกลัวมากตอนที่ย้ายมาใหม่ๆ เพราะบุคลิกที่เข้าคนได้ยากแบบฉัน จึงทำให้ไม่สามารถเข้าไปตีสนิทกับคนอื่นได้ง่ายๆ แต่ฉันก็ยังโชคดีที่เพื่อนสนิทจากโรงเรียนเก่านั้นย้ายมาด้วยกัน ถึงแม้จะอยู่คนละห้อง แต่เราก็ยังได้คุยกันเสมอ และเธอก็ยังเป็นคนที่ช่วยในเรื่องการหาเพื่อนอีกด้วย แต่แล้วพอขึ้นชั้นม.2 ฉันก็ได้ย้ายห้องไปอยู่ห้องเดียวกับเพื่อนสนิทของฉัน ซึ่งทำให้ฉันเข้ากับเพื่อนๆในห้องนั้นได้ง่ายยิ่งขึ้น เพราะก็คุ้นเคยกันมาตั้งแต่ม.1
ช่วงชีวิตมัธยมต้นนั้นไม่ได้เป็นช่วงที่ฉันสามารถพูดได้ว่ามีความสุขได้เต็มปากสักเท่าไหร่ ก็อย่างที่บอกนั่นแหละ ฉันเป็นคนคิดมาก ถึงแม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม ฉันก็มักจะเก็บไปคิดเสมอ บางทีมันก็คงผิดที่ฉันเองแหละ ที่ไม่เคยสามารถปล่อยวางกับหลายปัญหา เก็บเอามาคิด ทั้งๆที่ก็ไม่สามารถคิดหาทางแก้ไขได้ ก็ยังจะคิดให้ปวดหัว บางครั้งฉันก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันนะ ว่าที่ทำไปน่ะ ทำไปเพื่ออะไร คิดไปแล้วได้อะไร สู้ปล่อยวางไปไม่ดีกว่าหรอ ถึงแม้ฉันจะคิดแบบนี้ มันก็ไม่สามารถทำให้ฉันหยุดคิดมากได้ เคยถามตัวเองหลายครั้งนะว่า ร้องไห้เท่าไหร่ถึงจะพอ
พอขึ้นชั้นมัธยมปลาย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความบังเอิญหรือว่าอะไรกันแน่ที่ทำให้ฉันได้อยู่ห้องเดียวกับเพื่อนสนิทของฉันอีกครั้ง อยากจะขอบคุณเพื่อนสนิทคนนี้เหลือเกินที่ค่อยช่วยฉันไว้ตลอด เพราะเธอ ฉันถึงสามารถเข้ากับทุกคนได้ และก็เป็นเพราะเธออีกนั่นแหละ ที่ทำให้ฉันได้เข้าชุมนุมหนึ่งที่ทำให้ฉันได้รู้จักกับคำว่าเพื่อนอย่างแท้จริง ชุมนุมที่ไม่ได้เป็นเพียงสถานที่ที่รวมคนจำนวนมากไว้ แต่มันเป็นชุมนุมที่ทำให้ฉันรู้ว่าคนเหล่านี้จะไม่มีวันทิ้งกันเป็นอันขาด ไม่ว่าจะเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ยากจะแก้แค่ไหนก็ตาม
ชุมนุมเชียร์และแปรอักษร บางคนอาจจะเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน บางคนอาจจะไม่ มันคงจะยากถ้าจะให้ฉันอธิบายอย่างละเอียดว่าชุมนุมนี้ทำอะไรบ้าง ฉันก็ขออธิบายแค่คร่าวๆว่า พวกเรามีหน้าที่หลักๆคือคุมแสตนให้ออกมาสมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่พวกคุณก็คงอาจจะยังไม่เข้าใจว่าทำไมฉันถึงคิดว่าชุมนุมได้ให้อะไรหลายๆอย่างกับฉัน ชุมนุมนี้ได้ทำให้ฉันได้มีความทรงจำในช่วงมัธยมปลายไม่เหมือนคนอื่นทั่วไป ฉันได้ทั้งเรียน ทั้งการทำกิจกรรม แต่ละครั้งที่เราทำงานกัน ไม่มีครั้งไหนที่รู้สึกว่าง่ายเลย แต่ทุกครั้งฉันก็มีความสุขที่ได้ทำมัน ถึงแม้จะเหนื่อย จะท้อบ้าง แต่เพื่อนๆ พี่ๆ ก็ไม่เคยทิ้งฉันเลย พวกเขามักจะคอยให้กำลังใจอยู่ข้างๆเสมอ จริงอยู่ที่ฉันน้อยใจเพื่อนๆ เรื่องที่ว่าพวกเรารุ่นเดียวกัน เข้ามาพร้อมกัน แต่พวกรุ่นพี่มักจะให้ความสำคัญกับเพื่อนๆของฉันมากกว่า อาจเป็นเพราะว่าพวกเขาดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่าฉันก็ได้ล่ะมั้ง พวกเขารู้จักเสนอความคิดเห็น ในขณะที่ฉันได้แต่นั่งเงียบ ถึงแม้ฉันจะไม่แสดงออกมา แต่ความรู้สึกนี้มันก็อยู่ในใจฉันเสมอ ไม่เคยแม้แต่จะเล่าให้ใครฟัง ฉันคงเด็กมากสินะที่คิดอิจฉาเพื่อนๆแบบนี้ แต่ฉันก็พยายามไม่คิดถึงมัน และค่อยทำงานของตัวเองให้ออกมาดีที่สุดเสมอ
ถึงแม้ที่โรงเรียนจะทำให้ฉันมีความสุขบ้าง แต่พอกลับมาบ้านทีไร ฉันก็ได้แต่นั่งคิดมากคนเดียวทุกที ราวกับว่าตัวฉันเองเป็นคนสองบุคลิก อยู่ที่โรงเรียนจะเป็นแบบหนึ่ง กลับมาที่บ้านจะเป็นอีกแบบหนึ่ง ทุกครั้งที่ฉันกลับมาบ้าน ส่วนใหญ่ฉันมักจะขังตัวเองอยู่ในห้อง พูดกับพ่อแทบนับคำได้ เวลาโทรคุยกับแม่ก็มักจะทะเลาะกัน จนเหมือนกลายเป็นเด็กก้าวร้าว ไม่นับถือพ่อแม่ ฉันก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมต้องต่อต้านแม่ด้วย แต่แม่มักจะบอกว่าฉันไม่ยอมเข้าใจแม่ แม่ต้องอยู่คนเดียว เหงา อยากกลับบ้าน ฉันก็อยากจะบอกกับแม่นะ ว่าแม่ล่ะ เคยเข้าใจฉันบ้างไหม ตั้งแต่เด็กแล้ว ที่ต้องเจออะไรต่อมิอะไรหลายอย่าง หลายคนอาจจะคิดว่าก็แค่พ่อแม่ทะเลาะกันเท่านั้นเอง คนอื่นก็เจอบ่อยๆ ใช่ คนอื่นเจอบ่อย แต่จะมีใครบ้างที่แม่จะจับให้ไปนั่งฟังด้วย บอกให้รู้ว่าใครผิด ราวกับอยากให้เกลียดอีกฝ่าย ฉันเคยคิดอยากตายตั้งหลายครั้งเพราะเรื่องนี้ มันเหนื่อยนะที่ต้องมานั่งรับฟังทุกอย่างแบบนี้ โดยที่ฉันไม่สามารถพูดอะไรในใจได้เลย สุดท้ายพอฉันทำผิดอะไรนิดหน่อย ก็กลายเป็นความผิดที่ร้ายแรงที่แม่รับไม่ได้ จนกระทั่งวันสิ้นปีที่ฉันอยู่ม.4 มันเป็นช่วงที่แม่กลับมาบ้านพอดี ซึ่งเราสองคนก็ยังทะเลาะกันอยู่ทุกวัน แต่ในวันนั้นมันเป็นการทะเลาะที่แรงมาก แม่ฉันก็ไม่คุยกับฉันเลย และฉันก็ทนไม่ไหวแล้วจริงๆ ฉันได้ตัดสินใจทำสิ่งที่ฉันไม่คิดว่าตัวเองจะกล้าทำ ฉันพยายามฆ่าตัวตายด้วยการกินยาพาราฯ เจ็ดสิบเม็ด มันเป็นความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในชีวิตของฉัน ฉันรอดตายมาได้เพราะส่งโรงพยาบาลทัน แต่ถึงกระนั้นฉันก็ได้สร้างบาดแผลให้กับตัวฉันเอง และก็คนในครอบครัวฉัน
ฉันเป็นเพียงเด็กงี่เง่าคนหนึ่งที่ไม่มีหัวคิดและได้ทำสิ่งที่ผิดพลาดที่สุดในชีวิต ฉันไม่เคยให้อภัยตัวเองได้เลย ชีวิตคนเราเกิดมาได้เพียงแค่ครั้งเดียว แต่ฉันไม่ยอมจะรักษามันไว้ อยากจะให้ทุกคนรักชีวิตตัวเองให้มากๆ การกระทำนี้เป็นการกระทำที่เห็นแก่ตัวที่สุดที่มนุษย์คนหนึ่งจะทำได้ เราอาจจะคิดว่าตัวเราถ้าตายไป เราก็คงสบาย แต่คนรอบข้างเราล่ะ อย่าให้สิ่งที่เราทำกลายเป็นความทรงจำที่ขมขื่นให้แก่คนรอบข้างของเรา
ความคิดเห็น