ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ไดอารี่สีเทา

    ลำดับตอนที่ #2 : ฉันอยากเป็น ปีเตอร์ แพน

    • อัปเดตล่าสุด 19 พ.ค. 51


    เมื่อก่อนฉันเคยมีน้องสาวอยู่คนหนึ่ง แต่เธอเสียไปตอนที่ฉันอายุได้สี่ขวบ ส่วนเธอก็เพิ่งอายุได้สิบเอ็ดเดือนเท่านั้นเอง เธอเสียไปด้วยโรคหัวใจรั่ว  เพราะฉันยังเล็กอยู่ ฉันก็เลยไม่ค่อยมีเธออยู่ในความทรงจำสักเท่าไหร่ และฉันก็ไม่ได้ร้องไห้ด้วยซ้ำในงานศพของเธอ  คงเพราะฉันคิดว่าเธอไม่ได้ไปไหนล่ะมั้ง   ฉันจำได้แค่ว่าในวันนั้นแม่ร้องไห้และบอกฉันว่าเธออยู่บนสวรรค์ ค่อยมองดูพวกเราอยู่  ครอบครัวฉันเป็นแคธอลิค ก็เลยเชื่อเรื่องพระเจ้า และก็เชื่อว่าเมื่อคนเราตายไปก็จะได้ไปอยู่บนสวรรค์กับท่าน  ฉันก็เลยกลายเป็นลูกคนเดียวโดยปริยาย  หลายครั้งที่คิดว่าถ้าน้องฉันยังไม่ตาย ตอนนี้ก็คงได้เดินไปโรงเรียนด้วยกัน กลับบ้านด้วยกัน เสาร์อาทิตย์ก็คงจะได้ไปเที่ยวด้วยกัน  เวลาที่ฉันได้พบเจอคนใหม่ มันก็คงเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ที่จะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลของแต่ละคน คำถามที่มักจะถูกถามหลังจากที่รู้จักชื่อ อายุกันแล้ว ก็คือ มีพี่น้องไหม  ในช่วงแรกๆฉันก็จะตอบว่ามี แต่เขาเสียไปแล้ว  ปฏิกิริยาที่ได้รับมันไม่ค่อยน่าปลื้มสักเท่าไหร่  พวกเขามักจะทำหน้าตกใจ แล้วก็บอกว่าขอโทษนะ ทั้งๆที่ไม่ได้ทำอะไรผิด  และแล้วบทสนทนาก็จะถูกตัดให้จบไป   

     

                    เพื่อนของฉันหลายคนมีทั้งพี่ ทั้งน้อง  และพวกเขามักจะบอกฉันว่า มีพี่น้องไม่เห็นจะดีตรงไหนเลย อยู่ด้วยกันก็ทะเลาะกันทุกวัน แย่งของกันทุกวัน  แต่สำหรับฉันที่ต้องอยู่คนเดียวตั้งแต่เด็ก แม่ฉันทำงานที่ต่างประเทศ ส่วนพ่อก็ทำงานบริษัท  ฉันจึงต้องอยู่คนเดียวมาตลอด  ที่จริงแล้วตอนเด็กๆฉันก็ไม่ใช่คนที่เข้ากับคนอื่นได้ยากหรอก ออกจะเฮฮา แล้วก็ติดเพื่อนซะมากกว่า  แต่พอเริ่มเข้าช่วงประถมปลายก็เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้พ่อแม่ของฉันทะเลาะกันอย่างรุนแรง ถึงขั้นเกือบจะหย่ากันแล้ว  ฉันกลัวมาก ปกติก็ไม่ได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันอยู่แล้ว ถ้าหย่ากันก็จะทำให้ไม่ได้เจอกันเข้าไปใหญ่ และบางทีฉันอาจจะต้องย้ายไปเรียนที่ฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของแม่ฉันด้วย  ฉันไม่ยอมหรอกนะ  หลายครั้งที่ฉันคิดว่าทำไมฉันต้องมารับรู้เรื่องพวกนี้ด้วย ฉันยังเด็กเกินไปที่จะต้องแบกรับปัญหาพวกนี้นะ  จากเด็กที่ร่าเริงและยิ้มอยู่เสมอ ก็กลายเป็นเด็กที่คิดมาก รอยยิ้มและความสุขพวกนั้นหายไปไหนนะ ร้องไห้ไปกับเรื่องไร้สาระตั้งไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ฉันอยากจะเป็นแค่เด็กทั่วๆไป ที่ทุกวันมีแต่ความสุข เที่ยวเล่นสนุกไปวันๆ  

     

                    แม่คะ แม่ให้หนูเป็นผู้ใหญ่เร็วเกินไปหรือเปล่าคะอยากบอกกับแม่เหลือเกิน แม่คะ หนูยังไม่พร้อมที่จะโต

     

              เคยถามตัวเองหลายครั้งว่า นี่เราเป็นเด็กมีปัญหาหรือเปล่านะ  เวลาเครียดมากๆก็มักจะไม่พูดกับใคร มีปัญหาอะไรก็ไม่รู้จะปรึกษาใคร ทั้งๆที่ก็มีเพื่อนๆค่อยยื่นมือมาช่วยตลอด  แต่ฉันกลับเลือกที่จะแบกเรื่องต่างๆไว้เพียงลำพัง เพราะฉันไม่อยากจะรบกวนใครและก็ไม่ต้องการจะให้ใครมาเป็นทุกข์ไปด้วย  ถึงแม้ฉันจะมีเพื่อนสนิทที่รู้จักกันมาตั้งแต่ ป.3 แต่ฉันกลับยังรู้สึกถึงระยะห่างระหว่างเราสองคนอยู่ดี ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น แต่บางครั้งฉันก็รู้สึกว่าฉันยังต้องพึ่งคนอื่นอยู่ดี นั่นก็คงเป็นสาเหตุที่ทำให้ปัจจุบันฉันไม่รู้จักโตล่ะมั้ง แม้จะทำตัวเป็นผู้ใหญ่ แต่ข้างในฉันยังเด็ก เด็กมากเหลือเกิน คงจะดีไม่น้อยถ้าคนเราสามารถเป็นได้อย่าง ปีเตอร์ แพน ที่เป็นเด็กได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกลัวว่าจะโตเป็นผู้ใหญ่  มนุษย์ทุกคนเมื่อกาลเวลาเปลี่ยนไป และทำให้เราโตขึ้น ไม่ว่ายังไงก็มักจะหาพื้นที่เล็กๆที่จะทำให้เรากลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง คงไม่มีใครที่อยากจะเป็นผู้ใหญ่และมีเรื่องให้คิดอยู่ตลอดเวลาหรอก ถึงแม้จะเป็นเวลาไม่กี่นาที เศษเสี้ยวนาทีที่เราได้ละทิ้งทุกอย่าง หยุดทุกความคิด มันก็สามารถทำให้เราสบายใจขึ้นได้เหมือนกัน
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×