คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 6
Chapter 6
วันแรกที่ของการเปิดเทอมนั้นไม่น่าอภิรมย์สำรับแฮร์รี่และทุก ๆ ในบ้านกริฟฟินดอร์เพราะต้องเรียนคู่กับบ้านสลิธีรินแถมวิชาที่เรียนนั้นยังเป็นปรุงยาสองคาบที่สอนโดยคนที่แฮร์รี่เกลียดที่สุด!!
“อีกแล้วนะพอตเตอร์!! เธอตาบอดรึเป็นโง่จนไม่รู้จะเยียวยารึไงถึงได้ชอบทำผิดซ้ำซากแบบนี้!!”
“ผมคิดว่าผมหยิบถูกแล้วนะครับ!” แฮร์รี่พยายามเถียง
“หักกริฟฟินดอร์ 10 แต้ม!” สเนปพูดเสียงเรียบก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงานตามเดิน
“ฉันเกลียดเขา!!” แฮร์รี่กระซิบกับรอนและเฮอร์ไมโอนี่เบา ๆ แต่แฝงไปด้วยความดุเดือด
“ก็เหมือนกันแหละน่า.....” รอนตอบ
ไม่รู้สเนปจงเกลียดจงชังอะไรเขานักเพราะตั้งแต่อยู่ปีหนึ่งชายหนุ่มก็หาเรื่องที่ถากถางเขาตลอดแม้จะเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ไม่เคยมองข้ามอย่างเช่นวันนี้ สเนปให้พวกเขาทำน้ำยารักษาแผลไฟไหม้ ซึ่งแฮร์รี่ก็ทำตามขั้นตอนที่สเนปจดไว้บนกระดานทุกอย่าง แต่น้ำยาของเขากลับได้เป็นสีน้ำเงินอ่อนแทนที่จะเป็นสีดำ สเนปเลยคิดว่าเขาใส่ส่วนผสมผิด ในขณะที่หม้อของรอนนั้นเป็นสีแดงแต่สเนปกลับไม่แยแสที่จะดูซักนิด
“ไง~ พอตเตอร์สีสวยนี้” มัลฟอยพูดพลางก้มลงมองที่หม้อของแฮร์รี่
“หุบปากเน่า ๆ ของนายไปซะ!!” เด็กหนุ่มพูดพลางเริ่มต้นทำน้ำยาใหม่ วันนี้มันเป็นวันซวยของเขาจริง ๆ ถูกหักคะแนนตั้งแต่ต้นคาบถูกดุขณะที่ตั้งใจทำเต็มที่แถมยังต้องมานั่งใกล้ไอ้ตัวชอบหาเรื่องอย่างมัลฟอย!! นี้เขาทำไมโชคร้ายแบบนี้ตลอดนะ!
“นายมันโง่!! แค่นี้ก็ทำไมได้” มัลฟอยพูดด้วยน้ำเสียงเหยียดหยาม
“อ๋อ!! แล้วนายทำได้งั้นเถอะ!”
“แหง่ล่ะ”
“ฉันไม่เชื่อ!!”
“เรื่องของนาย....ดูนี้ซะก่อนแล้วค่อยพูด”
เด็กหนุ่มผมบรอนพูดพลางยกหม้อมาให้แฮร์รี่ดูในนั้นมีของเหลวสีดำนิลวาบวับดูงดงาม
“.........”
“ไง~ ตกใจล่ะสิ”
“เชอะ!! อย่างนายมันก็ได้แค่นี้เดี๋ยวฉันจะทำให้สวยกว่านายให้ได้!!” พูดท้าไปแบบนั้นแฮร์รี่ก็ต้องจำใจทำให้ได้อย่างที่พูดแม้มันจะเป็นไปไม่ได้ก็ตามที...
“ฉันจะคอยดู~” มัลฟอยพูดอย่างอารมณ์ดี พลางนั่งลงที่เก้าอี้จ้องมองคนตัวเล็ก
ตอนนี้แฮร์รี่ซักหัวเสีย ไม่ว่าเขาจะใส่อะไรตามส่วนผสมที่ให้ไว้บนกระดาน แต่มันก็ไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม แต่แฮร์รี่ฟันธงได้เลยว่าทุกคนในชั้นเรียนก็ไม่ต่างจากเขาเท่าไหร่เพราะสีดูจากสีหน้าแต่ละคนที่คิ้วแทบจะชนกันผิดก็แต่มัลฟอยที่ทำให้ยิ้มแย้มแจ่มใส่ เด็กหนุ่มสันนิษฐานว่าน้ำหน้าอย่างมัลฟอยก็คงไม่พ้นให้สเนปบอกสูตรลับให้แน่!! และอีกคนคือเฮอร์ไมโอนี่ซึ่งดูเหมือนเธอจะภูมิใจกับผลงานของเธอเหลือเสียเกิน
“ให้ตายฉันต้องเป็นประสาทแน่ ๆ” รอนพูดขึ้นเพราะน้ำยาของเขาเปลี่ยนจากแดงเป็นสีชมพูอ่อนแทน
“แต่ฉันเป็นแล้วล่ะ..” แฮร์รี่พูดเขาเริ่มประสาทเสียเพราะสีของน้ำยาที่ไม่ว่าจะทำยังไงมันก็ไม่เป็นสีดำเสียที
“เอาล่ะ พอได้!!” สเนปตะโกนเมื่อมองดูเวลา
“เอาน้ำยาของเธอวางไว้บนโต๊ะแล้วฉันจะไปตรวจ!”
อย่างน้อยในความโชคร้ายก็ยังมีดีอยู่บ้าง เพราะแฮร์รี่มาสายเขาจึงได้นั่งแถวหลังสุดคงอีกนานที่สเนปจะมาถึง
“เร็วเข้า ๆ” แฮร์รี่พึมพำกับตัวเอง พร้อมกับคนของเหลวในหม้อปรุงยา เพราะตอนนี้สเนปตรวจแถวรองสุดท้ายแล้ว แต่ยาของเขาก็ยังไม่เปลี่ยนสีเสียที
“เฮ้!”
“ฉันไม่มีเวลาเถียงกับนาย! เงียบไปเลยมัลฟอย!”
“ฉันไม่ได้อยากเถียงกับนาย!”
“
”
“เอ๊านี้!” มัลฟอยพูดพลางโยนรากต้นสนใส่หม้อแฮร์รี่
“นายทำบ้าอะไร!!”
“คนเร็วเข้า!” เด็กหนุ่มกระซิบบอกเมื่อสเนปเดินมาตรวจแถวพวกเขา
“เร็ว!”
“ว่าไงนะ!” มัลฟอยไม่ได้หันมาคุยกับเขาอีกเพราะสเนปเดินไปตรวจหม้อยาเขาแล้ว เด็กหนุ่มไม่มีทางเลือกเขาจึงทำตามที่มัลฟอยบอกก็คือคนไปเรื่อย ๆ
“หยุดคนได้แล้วพอตเตอร์!” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างว่างอำนาจ
แฮร์รี่หยุดคนทันทีเขาเง้ยหน้าขึ้นสบกับนัยน์ตาสีดำสนิทอย่างกล้า ๆ กลัว ชายหนุ่มก้มมองดูหม้อยาของแฮร์รี่นานกว่าของคนอื่น ๆ
‘จะมาไม้ไหนอีกล่ะเนี้ย’ เด็กหนุ่มคิด เขาเห็นน้ำยาใหม่ของเขาแล้วมันเป็นสีดำเหมือนกับของตัวอย่าง นี้ก็แสดงว่ามัลฟอยช่วยเขาหรอกเนี้ย!! แล้วทำไมหมอนั้นต้องช่วยเขาด้วย!!?
“เธอทำยังไงให้เป็นสีแบบนี้”
‘เอาแล้วไง จับผิดสีน้ำยาไม่ได้ เลยมาถามวิธีทำล่ะสิ!’
“ผมใส่รากต้นส้นในหม้อครั้งสุดท้ายแล้วก็คนฮ่ะ”
“งั้นเหรอ? แต่ที่อุปกรณ์ของเธอไม่มีรากต้นสนเลยนี้ อยากน้อยฉันก็น่าจะเห็นเศษใบของมันนะ”
อ้าว! เวรล่ะสิแล้วเขาจะทำยังไงเนี้ยในเมื่อไอ้เจ้าบ้ามัลฟอยเอามาใส่ในหม้อของเขาคนเดียว เด็กหนุ่มหันไปมองคู่กัดปากดีที่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ‘ไอ้บ้า! จะช่วยทั้งที่ทำไมไม่ช่วยให้ตลอดรอดฝั่งฟ่ะ!’
“หืม? ว่าไงล่ะพอตเตอร์”
“เออ...คือ.....ผมขอเศษทีเหลือจากมัลฟอยฮ่ะ”
มีเสียงฮือฮาจากนักเรียนทั้งสองบ้านทุกคนต่างก็ไม่เชื่อทั้งนั้นว่าคนอย่างมัลฟอยจะให้ความช่วยเหลือแฮร์รี่ พอตเตอร์ ศัตรูคู่อาฆาต
“จริงหรือ? เดรโก” สเนปถาม
“คงงั้นครับ”
แวบหนึ่งที่แฮร์รี่เห็นทั้งสองคนจ้องตากันอย่างมุ่งร้ายเด็กหนุ่มคิดว่าเขาคงจะคิดไปเองเพราะสเนปนั้นออกจะยกย่องมัลฟอยแถมยังดูแลกันซะขนาดนั้น ใช่ๆ มันไม่น่าจะเป็นอย่างงั้นหรอกตอนนี้เขาน่าจะห่วงตัวเองมากกว่าไปคิดเรื่องคนอื่นเพราะสเนปเปลี่ยนเป้าหมายจ้องมายังเขาเขม็ง
“กักบริเวณ พอตเตอร์! เย็นนี้ 6 โมง ฉันจะให้เธอทำให้ฉันดูอีกรอบ!!” สเนปประกาศก้อง
“แต่.....”
“คุณทำแบบนั้นไม่ได้!!”
คราวนี้ยิ่งน่าแปลกเขาไปใหญ่เพราะคนที่พูดน่าจะเป็นแฮร์รี่แต่กลับเป็นมัลฟอยแทน!!
“ทำไมฉันจะทำไม่ได้!” สเนปตะโกนพลางหันไปทางมัลฟอย
“มันไม่มีเหตุผลเอาซะเลย!” เด็กหนุ่มผมบรอนไม่ได้มีท่าที่เกรงกลัวสเนปซักนิด ซ้ำยังมองจ้องตากันตรงๆ อีกต่างหาก
“เธอพูดกับฉันแบบนั้นได้ยังไง เดรโก!”
“ทำไมผมจะพูดไม่ได้ ก็ผมพูดอยู่นี้ไง!!”
“หยุดเดี๋ยวนี้ไม่งั้นฉันจะหักคะแนนบ้านพวกเธอ!!”
“คุณไม่กล้าหรอก.....”
เงียบกันไปอึดใจ... ทุกคนในห้องต่างรู้ดีว่าสเนปไม่มีทางหักคะแนนบ้านตัวเองแน่นอน เพราะจากประสบการณ์ที่อยู่ฮอกวอตร์มาห้าปี ยังไม่มีซักครั้งที่สเนปจะหักคะแนนบ้านสลิธีรินแม้พวกนั้นจะทำอะไรผิดมากแค่ไหน และยิ่งเป็นลูกศิษย์คนโปรดอีกต่างหากอย่างเดรโก มัลฟอย
แต่แล้วเขาก็ทำในสิ่งที่ทุกคนคาดไม่ถึง...
“หักคะแนนสลิธีริน 100 แต้ม อย่าคิดว่าฉันไม่กล้ามัลฟอย!! แล้วอย่าลืมที่ฉันพูดพอตเตอร์”
เขาตะโกนเสียงดังก่อนจะกระทืบเท้าออกจากห้อง ภายในคุกใต้ดินเงียบกริบไม่มีแม้แต่เสียงซุบซิบนินทาที่มักจะเกิดขึ้นเสมอเวลาสเนปหักคะแนนทุกคนต่างก็ไม่ยอมก้าวไปไหนได้แต่ยืนนิ่งอยู่ที่เดิมจนสัญญาณหมดคาบดังทุกคนจึงทยอยออกไป
“เฮ้ย~ นี้ต้องลงในกินเน็ตบุกส์รึเปล่าเนี้ย!” รอนพูดขึ้นเมื่อพวกเขาออกพ้นธรณีประตูคุกใต้ดิน
“ไม่ตลกเลยนะรอน!” เฮอร์ไมโอนี่มีสีหน้าเคร่งขรึมเหมือนเธอกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่...
“เอ่อ.....” แฮร์รี่มองหาเด็กหนุ่มผมบรอนเขากะจะขอบคุณมัลฟอยซักหน่อยถึงแม้บางครั้งเจ้านั้นอาจจะทำไป เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยอารมณ์เลยเปลี่ยนแปลงตามแต่เขาก็ต้องขอบใจมัลฟอยจริง ๆ เพราะถ้าไม่ใช่เพราะเขาปานนี้คนที่โดนสเนปหักคะแนนอาจจะเป็นแฮร์รี่ก็ได้
“ฉันขอตัวแปปนึ่งนะ พวกนายไปก่อนเถอะ!” พูดแล้วก็รีบวิ่งกลับไปทางคุกใต้ดินอย่างเก่าโดยไม่รอฟังคำตอบจากรอนและเฮอร์ไมโอนี่
“นายไม่ไปเรียนรึไง!!”
มัลฟอยนั่งอยู่ที่โต๊ะตัวเดิม เขาเห็นว่าแครบกับกอรย์เดินมาสองคนเลยคิดว่ามัลฟอยน่าจะยังอยู่ที่ห้องใต้ดิน
“ขอบใจ......”
“ห่ะ! ว่าไงนะ!” มัลฟอยยังทำหน้าตกใจ แต่มันออกจะเหมือนการแสแสร้งซะมากกว่า
“ฉันบอกว่าฉันขอบใจ”
“ทำไมนายจะต้องมาขอบใจฉันด้วย”
“ก็นายช่วยฉัน...”
“ไม่ได้ช่วยหนิ”
“ช่วยสิ ถ้าไม่ใช่เพราะนายฉันคงจะโดนสเนปหักคะแนนแน่!”
“............”
“ทำไมถึงช่วยฉันล่ะ?”
“............”
“ฉันไม่เข้าใจนายจริงๆ นายเกลียดฉันไม่ใช่เหรอ.....”
“เปล่า! ฉันไม่ได้เกลียดนาย...ซะหน่อย!” มัลฟอยพูดขึ้นเขาก้มหน้างุดมองดูพื้นไม่กล้าสบตากับแฮร์รี่
“หา!?”
“เอ่อ...ก็.....ถึงฉันจะร้ายกับนายแต่ก็ไม่ได้เกลียดนายนักหรอก”
“ทำไม?”
“ก็........”
“นายไม่ได้เกลียดฉันจริงหรอก?”
“ก็เอ่อสิ!” เด็กหนุ่มตวาดเมื่อเห็นแฮร์รี่ยังถามเซ้าซี่
“ฮ่ะๆ งั้นก็โล่งอกไปที”
“หา!?”
“ฉันคิดมาตลอดว่าเลยว่านายเกลียดฉัน.....ฉันก็เลยเกลียดนายตอบ....แต่ตอนนี้นายบอกว่าไม่เกลียดฉันแล้ว งั้นฉันก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องเกลียดนาย”
“นี้นายไม่ได้เกลียดฉันหรอกเหรอ?”
“อืมมม”
“งั้นหรอกเหรอเนี้ย ฮ่ะๆ”
“นายหัวเราะอะไร!”
“ก็หัวเราะนายไง”
“มาหัวเราะฉันทำไมล่ะ?” แฮร์รี่ถามอย่างงงๆ
“ก็ใครใช้ให้นายทำตัวหน้าหัวเราะเองล่ะ?”
“หนวกหู ฉันก็เป็นแบบนี้ แล้วมันไปขัดหัวสมองส่วนไหนของนายมิทราบ!!”
“เปล่าๆ ฮ่ะๆ”
“พอที!”
“โอเคๆ เดี๋ยวนายได้เกลียดฉันจริงๆ”
“รู้ตัวก็ดี ฉันต้องไปเรียนแล้ว!”
“เอ่อ....ขอโทษด้วยที่ทำให้นายถูกกักบริเวณ....”
“ช่างเถอะ......ฉันควรจะขอโทษนายต่างหากที่ทำให้นายโดนหักไปตั้ง 100 คะแนน”
“หึ...เรื่องนั้นฉันชินแล้วล่ะ” เด็กหนุ่มพูดพลางทำหน้าเศร้า
“ชิน? หมายความว่าไง นายเคยโดยสเนปด่าด้วยเหรอ?”
“
”
“ขออนุญาติครับ” แฮร์รี่พูด ศาสตราจารย์ฟวิกวิกเพียงพยักหน้าเป็นเชิงให้เข้ามาได้ เด็กหนุ่มเดินตรงไปยังเพื่อนสนิททั้งสองคน
“นายมาช้า!” รอนดุ
“เอ่อ....ก็นิดหน่อย”
“นายเนี้ย!”
“นี้พวกนาย...........”
“อะไรเหรอแฮร์รี่?” เฮอร์ไมโอนี่ละมือจากการเสกคาถา
“นายคงไม่เชื่อแน่เรื่องที่ฉันกำลังจะพูด......”
แล้วเขาก็เล่าเรื่องที่เขาคุยกับมัลฟอยให้เพื่อนทั้งสองที่ตั้งใจฟังโดยเฉพาะรอนที่ตั้งใจจนออกนอกหน้า (เบื่อเรียน)
“เห ~ เจ้ามัลฟอยมันคิดอย่างงั้นจริงรึเนี้ย ไม่อยากจะเชื่อ” รอนพูดพลางทำหน้าประมาณว่าไม่น่าเชื่อสุดๆ
“ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้น ฉันว่าก็ดีออก ฉันไม่อยากเป็นศัตรูกับคนที่ไม่ยอมใครอย่างหมอนั้นหรอกน่า” แฮร์รี่พูดขึ้นทำให้เพื่อนทั้งสองมองหน้ากัน
“เอ๋ งั้นตลอดเวลานายไม่เคยเกลียดเขาเลย แต่กลับด่าเขาได้เจ็บแสบขนาดนั้นเนี้ยนะ”
“ก็อาจจะใช่” เด็กหนุ่มตอบด้วยใบหน้าเรียบเฉย ซึ่งทำให้เพื่อนสนิททั้งสองมองหน้ากันเริกรั้น นั้นขนาดไม่เกลียดนะนั้น.... ถ้าเกลียด แล้วไอ้คนโชคร้ายนั้นไม่เป็นประสาทตายงั้นเหรอ?
ชั่วโมงเรียนเวทย์มนต์สิ้นสุดลง เด็ก ๆ ต่างพากันทยอยออกจากห้องเพื่อไปทานข้าว รอนกับเฮอร์ไมโอนี่แวะไปคืนหนังสือที่ห้องสมุด แฮร์รี่เลยได้เดินมาที่ห้องอาหารคนเดียว
“ไงแฮร์รี่ สนใจอยากดูรูปนายหน่อยไหม” เฟร็ดกับจอร์จที่เดินมาจากไหนไม่รู้พูดขึ้นและโดยแฮร์รี่ไม่ต้องเอ่ย สองแฝดก็ชูรูปให้ดู
“เฮ้ย! นั้นมัน” พูดพลางจะแย่งรูปกับทั้งสองคนแต่คงแต่คงเป็นเวรกรรมของแฮร์รี่ที่เกิดมาเตี้ย
“อ๊ะ ๆ!! เราแค่ให้ดูน้า” จอร์จพูดพลางยิ้มแฉ่ง
“ของซื้อของขายอยากได้ต้องซื้อจ้า” เฟร็ดพูดขึ้น
“แต่นั้นมันรูปของฉันนะ! พวกนายต่างหากที่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล เอาคืนมาเดียวนี้!!”
“ง่าๆ แล้วนายให้ผู้คุมวิญญาณมาพาเราเข้าอาซคาบันรึไง”
“นี้! พวกนายเลิกทำแบบนั้นซะที!”
“เลิกไม่ได้ ถ้าเลิกแล้วเราจะเอาอะไรกินล่ะ” เฟร็ดพูดพลางทำตาละห้อย
แฮร์รี่เองก็รู้อยู่หรอกว่าครอบครัววีสลีย์ก็ไม่ได้มีฐานะดีอะไร แถมยังสมาชิคในครอบครัวเยอะอีกต่างหาก การที่เฟร็ดกับจอร์จทำงานหาเงินนั้นก็ไม่ผิด แต่ทำไมต้องเป็นรูปของเขาด้วย! แบบนี้มันไม่เกินไปหน่อยรึไง!
แต่ยังไม่ทันทีแฮร์รี่จะเถียงต่อสองแฝดก็ถูกคาถาของใครบางคนทำให้ตัวลอยกลับหัว แฮร์รี่จ้องทั้งสองตาค้างใครกันที่เป็นคนใช้คาถานี้!
“มัลฟอย!!?”
“เฮ้ย! ปล่อยพวกเราลงนะ”
“ปล่อยสิเฟ้ย!!”
สองแฝดได้แต่ตะโกนสาปท่อมัลฟอยแต่ดูเหมือนเด็กหนุ่มจะไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่ มัลฝอยเดินผ่านทั้งสองคนพลางคว้าเอารูปของแฮร์รี่ที่เฟร็ดกะจอร์จกำไว้อยู่ก่อนจะเดินมาหาแฮร์รี่
“เอ๊านี้! ของๆ นายไม่ใช่เหรอ” พูดพลางยื้นรูปให้แฮร์รี่ เด็กหนุ่มรับมาอย่างงงๆ
“เอ่อนาย...”
“ไปหาที่เงียบๆ คุยกันหน่อยไหม ฉันเข้าใจว่านายไม่ได้เกลียดฉันใช่ไหม”
“อือ”
แล้วแฮร์รี่ก็เดินตามมัลฟอยไปอย่างงงๆ ทิ้งให้สองแฝดมองหน้ากันอย่างงงสุดขีด
“พวกนั้นมันญาติดีกันแล้วรึเนี้ย?” จอร์จถาม
“ไม่รู้ดิ”
ทั้งสองได้แต่เก็บงับความสงสัยเอาไว้ เพราะตอนนี้ถ้าพวกเขาไม่หาทางแก้คำสาปก่อน เลือดคงได้ไหลกลับลงหัวตาย!
ความคิดเห็น