คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 3
เช้าวันใหม่อากาศแจ่มใส เสียก็แต่ว่าจะต้องมาตื่นนอนตั้งแต่เช้านี้แหละ ทำให้สุขภาพจิตไม่ค่อยดีเท่าไหร่สำหรับครอบครัววีสลีย์...
“เร็ว ๆ จ้าเด็ก ๆ ตื่นได้แล้วช้าอีกนิดเดียวพวกเราได้รอคิวจนเที่ยงแน่” เสียงนางวีสลีย์ดังตั้งแต่เช้าหล่อนเดินไปปลุกพวกวีสลีย์ทั้งหมดก่อนกล่าวทักทายแฮร์รี่ที่กำลังเก็บที่นอนอยู่ มาหยุดที่เตียงของรอน
“อีกนิดเดียวน่าแม่ผมง่วง......”
“ไม่รอน!! ถ้าง่วงนักก็ไม่ต้องไป!!”
“ไปครับไป ผมไปอยู่นะ!!” รอนรีบลุกจากผ้าห่มทันที อาการง่วงหายเป็นปลิดทิ้ง เขารู้ดีว่าแม่เขาพูดคำไหนคำนั้น ถ้าหากได้พูดแล้วล่ะก็ไม่มีใครขัดได้หรอก
“ไปก็รีบไปแต่งตัวซะ!!”
“คร้าบบ” รอนพูดแล้วก็รีบวิ่งแจ้นไปแต่งตัวทันที
“แฮร์รี่จ๊ะ ฉันว่าเธอรออยู่ที่นี้ไม่ดีเหรอ?” นางวีสลีย์เอ่ยขึ้นอย่างไม่สบายใจเท่าไหร่
“ไม่เป็นไรหรอกครับ” แฮร์รี่ตอบเขารู้ว่านางวีสลีย์ไม่พอใจเท่าไหร่ที่เขาไปด้วย และก็ห้ามไม่ให้เขาไปตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็นแล้ว
“แต่มันอันตรายนะ....”
“คุณนายวีสลีย์ฮ่ะ คุณคงไม่คิดว่าผู้เสพความตายจะทำร้ายผมในขณะที่ผมยืนอยู่ใกล้พ่อมดแม่มดนับพันหรอกนะครับ...”
พอเจอคำถามนี้เข้านางวีสลีย์ก็ได้แต่เออออไปด้วยเพราะไม่รู้จะหาเหตุผมอะไรมารั้งตัวเด็กหนุ่มไว้อีก
“โอเคถ้าเธอต้องการอย่างนั้นฉันคงห้ามไม่ได้....” หล่อนพูดแล้วก็เดินจากไป
“ขอบคุณฮ่ะ”
“เอาล่ะ!! พร้อมใช่ไหมทุกคน” นายวีสลีย์พูดพลางยื้นผงฟลูให้ทุกคน
“จำเอาไว้พูดให้ชัดถ่อยชัดคำ อย่าลืม ตรอกไดแอกอน!!” เขาตะโกนดัง ๆ ก่อนจะหายวับไปพร้อมกับไฟสีเขียว
“เอาล่ะตาลูกแล้วรอน!! นางวีสลีย์พูดพลางพลักรอนเข้าไปข้างในเตาพิง
“ตรอกไดแอกอน!!!” รอนร้องก่องจะทิ้งผงฟลูลงที่พื้นเตาผิง แสงสีเขียวพุ่งขึ้นมา และเด็กหนุ่มก็หายวับไป
“ตาเธอแล้วจ๊ะแฮร์รี่”
“ครับ” แฮร์รี่ตอบรับแล้วเดินเข้าไปข้างในเตาพิงเขานึกกลัวขึ้นมาเพราะเมื่อตอนปี 2 เขาพูดผิดจนหายไปยังตรอกอื่นที่ไม่ใช่ตรอกไดแอกอนยังดีที่แฮกริดมาช่วยไวทัน
“ตรอกไดแอกอน!!”
แค่ก ๆ
เด็กหนุ่มไอเพราะควันจากเถาไฟคลุ้งอยู่รอบๆ ตัว เขาไม่ชอบเท่าไหร่ที่จะต้องเดินทางด้วยวิธีนี้แต่ก็ยังดีกว่ารถไฟอัศวินราตรี ที่เคยขึ้นตอนอายุ 13 นั้นแหละ
“ช้าจังแฮร์รี่!” รอนเรียกเขา เด็กหนุ่มจับมือเขาก่อนจะดึงให้ลุกขึ้น และคนอื่น ๆ ก็ทยอยตามมาทีละคน และที่ทำให้แฮร์รี่แปลกใจมากที่สุดก็คือชายหนุ่มร่างสูงใบหน้าหล่อเหล่าที่แสนคุ้นเคย!! ที่เดินออกมาเป็นคนสุดท้าย...
“ซิเรียส!! คุณมาทำไม” แฮร์รี่ร้อง
“เสียใจที่ต้องบอกหนุ่มน้อย......ฉันเป็นพ่อทูนหัวและมีสิทธิดูแลเธอซึ่งเป็นลูกทูนหัวของฉัน” พูดพลางขำกับท่าทีของเด็กหนุ่ม ที่ทำหน้าเงอะงะ
“เอาล่ะ ๆ อย่ามัวคุยกันอยู่เลย ซิเรียสคุณไปกับแฮร์รี่นะ คิดว่าคุณคงจำทางได้” นายวีสลีย์พูด
“แต่คุณวีสลีย์ฮะ...”
“แฮร์รี่... เธออยู่กับซิเรียสจะปลอดภัยมากกว่าอยู่กับเรา เพราะงั้นเชื่อฟังที่เขาบอกด้วยนะจ๊ะ” นางวีสลีย์พูดก่อนที่แฮร์รี่จะพูดจบ แล้วก็พาจินนี่เดินจากไป
“ดะ... เดี๋ยวสิฮ่ะ!!”
“ไปก่อนนะเพื่อน ” รอนพูดพลางส่งยิ้มให้ก่อนจะเดินจากไป
“ฉันจะไปเลือกหนังสือกับรอน” เฮอร์ไมโอนี่พูดพลางเดินเข้ามาใกล้แฮร์รี่ เด็กหนุ่มหันไปมองรอนที่หยุดรอเฮอร์ไมโอนี่อยู่หน้าร้านขายรองเท้า
“พอได้ยินว่าเธอจะไปเขาก็รีบตามเรามาทันทีเลยล่ะ” เฮอร์ไมโอนี่กระซิบก่อนจะรีบตามรอนซึ่งตะโกนเรียกเธออยู่
“เดี๋ยวสิเฮอร์ไมโอนี่!!!” สายไปเสียแล้วตอนนี้ทุกคนต่างก็หายตัวไปทำภารกิจส่วนตาเหลือก็แต่เขากับซิเรียส ชายหนุ่มยังคงสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสเหมือนเคย ไม่สิ มันออกจะมากกว่าปกติด้วยซ้ำ...
“ไปกันยัง?”
“ผมต้องไปซื้อหนังสือฮะ”
“งั้นก็ไปสิ”
“คุณว่างมากรึไงกัน!?”
“ก็ไม่มากไม่มาย”
“งั้นก็ไปทำงานของคุณสิฮะ!!”
“ก็กำลังทำอยู่นี้ไง! เธอนี่ไม่รู้อะไรเล้ย....งานของฉันก็คือดูแลเธอไง ก็บอกไปแล้วเมื่อกี้”
เวรกรรม... วกมาเรื่องนี้อีกแล้วให้ตายคน ๆ นี้
“โอเค ๆ ผมยอมคุณก็ได้ไปร้านหนังสือกันเถอะ” เด็กหนุ่มพูดพลางเดินนำร่างสูงที่ยิ้มอย่างอารมณ์ดีแถมเดินตามติดเขาซะจนจะชน แต่แฮร์รี่ก็ขี้เกียจมาเถียงกับชายหนุ่ม เถียงทีไรไม่เคยซนะซักที...
“เธอต้องการหนังสืออะไรเหรอ?” ชายหนุ่มถาม พวกเขาอยู่ร้านตัวบรรจงและหยดหมึก ซึ่งขายหนังสือหลากหลายเท่าที่จะมีได้ในโลกเวทย์มนต์
“ควิดดิชฮ่ะ”
“เฮ้ย~ ทั้งเธอกะเจมส์เนี้ยเหมือนกันจริ๊ง “
“ขอบคุณฮ่ะ”
“ฉันไม่ได้ชมซะหน่อย!”
“ฮ่ะๆ“
“เอาเถอะ อ๊ะ! นี้เป็นไง” ชายหนุ่มพูดพลางยื้นหนังสือเล่มหนึ่งให้
“’ควิดดิชกีฬายอดฮิต’ เหรอ....อืม....เอาไว้ก่อน” พูดแล้วก็โยนหนังสือไปให้ชายหนุ่มถือไว้
“เฮ้!! นี้แฮร์รี่......”
“อืม....เล่มไหนอีกน่า” เด็กหนุ่มทำท่าไม่สนใจกับชายหนุ่มที่พยายามร้องท้วง ‘สมน้ำหน้าอยากตามมาดีนัก’ แฮร์รี่คิดและแอบขำไม่ได้เพราะว่าตอนนี้ซิเรียสถือหนังสือที่เขาจงใจเลือกไว้ซะจนบังใบหน้าหล่อที่แสนจะกวนนั้น
“ไปทางนั้นดีกว่า” เขาพูดพลางไปดูชั้นหนังสือที่เกี่ยวกับการดูแลควิดดิชเขาพบหนังสือเล่มหน้าปกสีทองดูท่าน่าสนใจแต่เสียอย่างเดียวคือมันอยู่สูงเกินกว่าที่แขนสั้นๆ ของเขาจะเอื้อมถึง
“บ้าชะมัด!! ทำไมไปอยู่สูงแบบนั้นนะ” เขาสถบพลางนึกด่าเจ้าของร้านในใจทำไมถึงทำชั้นหนังสือสูงขนาดนั้นล่ะ!! ไม่นึกถึงเด็กตัวเล็ก ๆ บางรึไงกัน!
“อืม.....ใกล้ถึงล่ะ” นิ้วของเขาเพียงแค่สัมผัสกับสันหนังสือเด็กหนุ่มพยายามยืดตัวให้สูงกว่านี้อีกนิดเดียว แต่ในขณะนั้นเองหนังสือเล่มหนาก็หลุดจากชั้นหนังสือเพราะถูกใครบ้างคนดึงออก!!
“เอามานะมัลฟอย!!” เด็กหนุ่มตะคอกใส่คู่ปรับตัวฉกาจ ที่ยืนยิ้มอย่างเยาะเย้ยตามแบบฉบับของตนที่คงไม่มีใครเหมือน ในมือถือหนังสือเล่มสีทองอยู่
“เอาอะไร? ไหนบอกสิว่านายต้องการอะไร แต่บอกก่อนนะถ้ามันเป็นของนายฉันก็จะคือให้” เด็กหนุ่มผมบรอนพูดอย่างยอกย้อน
“เอาหนังสือนั้นมา!! ฉันเห็นก่อนนายนะ!”
“อ้อ! นี้เหรอนายเห็นก่อนแต่ฉันจับก่อนได้ก่อนนาย อันที่จริงมันอยู่ในมือฉัน ก็ต้องเป็นของฉันสิ จริงไหม?” พูดแล้วก็ขยับเข้ามาใกล้แฮร์รี่ เด็กหนุ่มถอยกรูจนติดชั้นหนังสือ
“นายจะทำอะไร!!”
“นายกลัวเหรอ?”
“ฉันไม่เคยกลัวคนอย่างนาย!!”
ทั้งสองประสานตากันแฮร์รี่มองมัลฟอยด้วยความเกลียดที่สุดแสนจะบรรยาย แต่ในขณะ เดียวกันมัลฟอยกลับจ้องเขาด้วยสายตาที่ไม่ใช่ความเกียดแต่ก็ไม่ใช่ความเป็นมิตร!
“นายต้องการอะไร?” แฮร์รี่พูดเบา ๆ พลางพลับอกร่างสูงให้ห่างจากตัว
“ต้องการนายไง....” เด็กหนุ่มพูดเสียงแผ่วเบา แต่แฮร์รี่กลับได้ยินเต็มสองหู
“หา!!“
“แฮร์รี่!!!” ยังไม่ทันจะได้ถามอะไรซิเรียสก็วิ่งพรวดพราดเข้ามาชายหนุ่มจ้องเขม็งไปทางมัลฟอยราวกับเป็นศัตรูกันมาแต่ช้านาน
“ไม่ได้เจอกันนานนะครับคุณแบล็ก” มัลฟอยกล่าวทักทายอย่างอารมณ์ดี
“เออ!! เหมือนอยากให้นานตลอดกาลเลยก็ดี!!!” ซิเรียสกระแทกเสียงใส่ ไม่สนใจถึงท่าทีไม่พอใจของมัลฟอย
“ดูท่าจะไม่เป็นมิตรเลยนะครับ.....งั้นผมคงต้องขอตัวก่อน” มัลฟอยพูดอย่างสุภาพแต่น้ำเสียงนั้นออกจะเย้ยหยันเต็มที
“ไปเลย วินาทีนี้ยิ่งดี!!”
“ไปก่อนนะพอตเตอร์...แล้วเจอกันที่โรงเรียน” พูดจบก็เดินออกจากร้านทันที แล้วก็กลับเข้ามาใหม่ในนาทีเดียวกัน
“อ๊ะ!! เกือบลืมแน่ะ” มัลฟอยพูดแล้วโยนหนังสือเล่มหนาสีทองให้แฮร์รี่ ก่อนเดินจากไปไม่เหลียวมามองอีก
“แปลกแฮะ” เด็กหนุ่มพึมพำเบา ๆ หมอนั้นเอามาให้เราทำไม น่าสงสัย?
“แปลกอะไร? อะไรแปลก? เธอไม่ถูกไอ้บ้านั้นทำร้ายใช่ไหม? ให้ตายสิฉันเป็นห่วงแทบแย่คาดสายตาแปปเดียวก็หนีหายไปเลย!” ชายหนุ่มพูดด้วยความเป็นห่วง
“แฮะ ๆ ขอโทษครับ”
“เรารีบไปกันเถอะ”
“แต่ผมยังไม่ได้จ่ายค่าหนังสือเลยนะครับ!”
“อ้อ...เรื่องนั้นช่างเถอะ ฉันจ่ายให้แล้วล่ะ” ร่างสูงพูดพลางยกถุงหนังสือให้เด็กหนุ่มดู ซึ่งเต็มไปด้วยหนังสือหลายสิบเล่ม
“นี้คุณซื้อทั้งหมดที่ผมเลือกให้เลยเหรอ?”
“ก็ใช่นะซี่ เธออยากได้ไม่ใช่เหรอ?”
“หา!! แต่ผมแค่แกล้งคุณเล่นเท่านั้นนะ ผมไม่ได้ต้องการหนังสือทั้งหมด...อุ๊บ!!” เขารีบปิดปากตัวเองทันทีเมื่อรู้ว่าตัวเองได้พูดอะไรออกไป
“หืม? งั้นเองเหรอเนี้ย.......” ชายหนุ่มลากเสียงยานคางฟังดูน่าขนลุก จนเด็กหนุ่มเย็นวาบไปทั้งตัว
“เอ่อ......” ไม่มีคำแก้ตัวใดๆ ในเมื่อมันสารภาพออกไปหมดแล้ว
“แต่ช่างเถอะมันซื้อไปแล้วนี้เนอะ”
“ห่ะ!! นั้นสิซื้อไปแล้วก็แล้วไปเถอะนะครับ ฮ่ะๆ” เด็กหนุ่มหัวเราะแห้งๆ นึกแปลกใจที่ชายหนุ่มไม่ว่าอะไร แต่ก็อดเสียดายตังส์ที่ซื้อหนังสือไปไม่ได้
‘ให้ตาย พวกคนรวยนี้อย่างนี้ทุกคนเลยรึไง’
“แต่ว่า.......ซื้อมาตั้งยี่สิบกว่าเล่มมันก็น่าเสียดายนะ เอางี้ฉันให้เธอเอาไปอ่านให้หมดล่ะกันอ่านให้จบนะแล้วฉันจะคอยดู” น้ำเสียงราบเรียบแกมข่มขู่ทำเอาเด็กหนุ่มขนลุกวาบแค่อ่านหนังสือเรียนยังไม่เคยแตะจะให้มานั่งอ่านหนังสือควิดดิชนี้นะถึงจะชอบก็เถอะ!! แต่เขาก็ไม่ชอบมากขนาดที่จะมาศึกษาหาอ่านจากหนังสือตั้งยี่สิบกว่าเล่มนี้หรอก!!
“ฮะ...” แล้วเขาก็จำใจต้องตอบตกลงเพราะทนสายตาบังคับของอีกฝ่ายไม่ได้
“ดี งั้นไปเดินเที่ยวเถอะ เธอไม่มีอะไรจะต้องซื้อแล้วใช่ไหม?”
“ไม่ครับ” เด็กหนุ่มตอบ
“ไปเถอะ” ชายหนุ่มพูดพร้อมกับลากตัวเด็กหนุ่มเข้าร้านอาหารแห่งหนึ่งโดยที่เจ้าตัวไม่เต็มใจซักนิด
“เชิญค่ะ รับอะไรดีค่ะ” หญิงสาวพนักงานเสริฟคนสวยถามขณะที่พวกเขานั่งลงที่โต๊ะแห่งหนึ่งใกล้กับหน้าต่าง
“ผมขอบัตเตอร์เบียร์ฮ่ะ” เด็กหนุ่มตอบแต่ซิเรียสกลับโบกไม้โบกมือไปมา
“เธอยังไม่บรรลุนิติภาวะนะ เอาเป็นนมสดแล้วกัน ส่วนผมขอกาแฟครับ” ซิเรียสพูดขึ้นซึ่งทำให้เด็กหนุ่มทำหน้าแหง่แก๋ทันทีเมื่อนึกถึงนม แต่ก็ไม่พูดเพราะเขาไม่อยากต่อปากต่อคำกับชายหนุ่มต่อหน้าคนอื่น เสียฟอร์มแย่... ก็เขาไม่เคยชนะคนตรงหน้าเลยหนิ
“ค่า ๆ” พนักงานสาวตอบเธอขำนิด ๆ กับท่าทีของเด็กหนุ่มตรงหน้าที่บึงตึงผิดกลับชายหนุ่มที่นั่งตรงหน้านั้นยิ้มตลอดเวลา
“ผมไม่เข้าใจ ทำไมคุณชอบขัดผมนัก!“ แฮร์รี่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ เมื่อพนักงานสาวคนนั้นเดินจากไป
“ฉันทำตามหน้าที่” ชายหนุ่มตอบเสียงเรียบ
“หน้าที่อะไร?”
“คุณพ่อผู้แสนดีไง!!”
“ไร้สาระ” แม้จะพึมพำเบาๆ แต่ซิเรียสก็ได้ยินอยู่ดี
“ตรงไหน!” ซิเรียสพูดเสียงเข้ม
“ช่างเถอะ!”
“เธอเป็นเด็กอยู่อย่ากินของพันธ์นั้นเล้ย.....”
“ผมไม่ใช่เด็กซะหน่อย!!”
“ก็แค่ 15 ชีวิตยังอีกยาวไกลน่าเด็กน้อย....”
“อย่าเรียกผมแบบนั้นนะ!!”
“ตามต้องการ... พ่อหนุ่ม”
“ฮึ่ม!”
ตอนนี้ทั้งร้านต่างหันมาจ้องพวกเขาที่เถียงกันเสียงดัง แต่ดูเหมือนทั้งสองจะไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่นัก แฮร์รี่มัวแต่ทำหน้าบูดบึ้ง ส่วนซิเรียสก็ทอดสายตาออกไปข้างนอกชมนกชมไม้เลื่อยเปื่อย
“ได้แล้วค่ะ” พนักงานสาวพูดพลางวางกาแฟกับน้ำสดให้ทั้งสอง
“ขอบคุณครับ” ชายหนุ่มพูดพลางส่งยิ้มราวกับเทพบุตรให้ แทบจะทำให้พนักงานสาวคนนั้นละลาย
“ค่ะ“ ‘คนอะไรหล่อแถมยังสุภาพอีกตะหาก’ หญิงสาวคิดก่อนจะเดินจากไปด้วยแววตาอาทร
“เฮอะ!” แฮร์รี่ทำเสียงใส่ด้วยความหมั่นใส้
“อะไรอีกล่ะ”
“เปล่าฮ่ะ”
“หืม? ทำไมไม่ดื่มล่ะ?” ชายหนุ่มถามเมื่อเห็นว่าแก้วนมนั้นยังวางเปล่า
“ผมไม่ชอบ”
“ทำไม?”
“โอ้ยยยย! ก็ไม่ชอบจำเป็นจะต้องมีเหตุผมด้วยเหรอครับ! =_=”
“ใช่”
“ก็มันไม่อร่อยอ่ะ“
“นั้นปะไร!! งี้สินะที่ไมโตซักที!”
“ไม่เกี่ยวซะหน่อย!”
“เกี่ยวอย่างที่สุด!”
“ถึงไงก็ไม่กิน!”
“ทำไมเธอถึงดื้อนักนะ!”
“ผมไม่มีทางกินของแบบนี้หรอก เด็กชะมัด!”
“เด็กเหรอ... แล้วตอนนี้เธอโตนักรึไง...”
“ก็โตแล้วนี้ไง!!”
“ฉันไม่เห็นว่าเธอจะโตซักนิด นมก็ไม่กิน ผักก็ไม่ชอบ แล้วแบบนี้จะโตทันคนอื่นเหรอ?“
“ก็ได้ ๆ ขี้เกียจเถียงแล้ว!” พูดจบก็ยกแก้วนมขึ้นมาดื่มอึกใหญ่
“เฮ้ ๆ ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้เดี๋ยวก็สำลักหรอก!” ชายหนุ่มรีบพูดเมื่อเห็นสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกของเด็กหนุ่ม
“แหวะ ๆ” เด็กหนุ่มรีบยกน้ำเปล่ามาดื่มทันทีหลังจากที่ดื่มนมหมด
“เหอ ๆ”
“ขำอะไรอีกล่ะ ผมดื่มแล้วนะ!!”
“โทษที....”
หลังจากนั้นซักพักซิเรียสก็พาเขาออกจากร้าน ชายหนุ่มพาเขาไปที่ร้านไม้กวาดอุปกรณ์ ควิดดิช
“ว้าววววว~” แฮร์รี่ไล่มองไม้กวาดแต่ละอันด้วยความสนอกสนใจ เขาไม่เคยเข้าร้านไม้กวาดมาก่อนจะว่าไปตั้งแต่ปีหนึ่งแล้วก็ศาสตราจารย์มัลกอนนากัลป์ซื้อให้เขา เขาก็ใช้อันนั้นมาตลอด พอปีสามซิเรียสก็ซื้อให้ปัจจุบันเขาก็ใช้อันนั้นอยู่ เลยไม่คิดที่จะซื้อใหม่
ชายหนุ่มมองใบหน้าหวานที่แสดงสีหน้าดีใจจนปิดไม่มิดอย่างขำๆ
“อ้าว ๆ ตาจะถลนออกมาแล้ว”
“ฮึ่ม”
“เธออยากได้ไม้กวาดอะไรเหรอ?”
“ไม่ฮ่ะ ก็คุณซื้อให้ผมแล้วไงตอนปี 3 น่ะ”
“มันเก่าแล้วนี้ ซื้อใหม่ก็ได้นะ” ชายหนุ่มพูดเขายินดีที่จะออกตังส์ซื้อให้อยู่แล้ว
“ขอบคุณแต่ผมไม่ต้องการ!”
‘เชอะ พวกคนรวยใช้เงินฟุ่มเฟื่อยจริง ๆ’
“ต้องการอะไรคร้าบบบบคุณลูกค้า.....” เจ้าของร้านซึ่งเห็นพวกเขากำลังเขม็นเขี้ยวกันนั้นรีบมาห้ามเข้าซะก่อน ก่อนที่ข้าวของในร้านจะถูกปาทิ้ง
“ผมอยากเดินดูของนะครับ” เด็กหนุ่มตอบเจ้าของร้านยิ้มอย่างใจดีแต่พลันนัยน์ตานั้นก็ไปสบกับแผลเป็นบนหน้าผากของเด็กหนุ่ม
“ให้ตาย! เธอคือแฮร์รี่ พอตเตอร์” เขาอุทานเบา ๆ
“เอ่อ.....ครับ”
“ใช่เธอจริง ๆ รึเนี้ย ยินดีที่ได้รู้จักนะ” ชายชราพูดพลางยื้นมือมาเพื่อจะจับมือเขา แฮร์รี่ไม่ชอบเลยจริง ๆ ที่ใคร ๆ เวลาเห็นเขาจะต้องตื่นตกใจตลอดแต่ยังไงเสียถ้าไม่จับมือด้วยก็คงจะเป็นการเสียมารยาท
“ครับ” แฮร์รี่ยื้นมือขวาออกไปจับมือกับชายชราที่เขย่ามือเขา
“ฉันดีใจจริง ๆ นะที่ได้เจอเธอแฮร์รี่ พอตเตอร์!!”
“ว่าไงนะ!! แฮร์รี่ พอตเตอร์เหรอ?”
“เขาอยู่นี้จริง ๆ เหรอเนี้ย”
“ไหน ๆ แฮร์รี่ พอตเตอร์?”
ในร้านเริ่มวุ่นวายเป็นการใหญ่และเป็นไปตามที่แฮร์รี่คาด ไม่ว่าจะเด็กและผู้ใหญ่ต่างกรูเข้ามาจับมือเขาและแนะนำตัวราวกับว่าเขาจะจำได้หมดงั้นแหละ ถ้าเปรียบกับพวกมัลเกิ้ล เขาก็คงจะราวๆ ดาราฮอลลีวู้ดได้กระมัง
“สวัสดี พอตเตอร์ ฉัน ดาลีน เม็คลีย์” ชายหนุ่มคนนึ่งพูดพลางจับมือเขาเบา ๆ
“ครับคุณเม็คลีย์”
“ดีครับ แฮร์รี่ พอตเตอร์ ผมอัลเลย์ โซเน่ ผมเป็นแฝนตัวยงคุณเลย!” เด็กชายตัวเล็กที่ดูเหมือนจะมาซื้อของเตรียมเข้าโรงเรียนเดียวกับแฮร์รี่กล่าวทักทายพลางเขย่ามือเขาด้วยความดีใจ
“ไง อัลเลย์ เธอจะเข้าฮอกวอตส์ปีนี้ใช่ไหม?”
“ครับ หวังว่าผมจะเจอคุณ” เด็กชายตอบพร้อมกับถูกคนอื่นพลักออกไป
“สวัสดี แฮร์รี่ พอตเตอร์ ผมเป็นนักเขียนหนังสือ ชื่อ มาร์โรว แอนซิล ผมเขียนหนังสือถึงคุณด้วย” ชายวัยกลางคนกล่าวทักทายพลายจับมือเขา ดูจากรูปร่างแล้วชายคนนี้คงจะเป็นนักเขียนจริงๆ นั้นแหละ ทั้งชุดที่เก่าซ่อมซ่อ และแว่นตาทรงสี่เหลี่ยม บอกได้เลยว่า... นักเขียนไส้แห้งแน่นอน!
“ครับคุณแอนซิล เป็นเกรียติมาก”
และอีกหลาย ๆ คนซึ่งทำให้แฮร์รี่ปวดหัวเป็นอย่างมากแต่ก่อนที่แฮร์รี่จะทำความรู้จักกับเด็กชายคนหนึ่งก็มีใครบางคนมาดึงตัวเขามากอดไว้ ไม่ใช่ใครที่ไหนก็หน้าเดิมนี้แหละ!!
“หว่า คุณทำอะไรอ่ะ!” เด็กชายร้องประท้วงเขาเกือบจะได้จับมือกับฮีโร่ของเขาแล้วแท้ ๆ แต่กลับถูกขว้างไว้ก่อนซะนี้!!
“หวัดดีเด็กน้อย ฉันชื่อซิเรียส แบล็ค พ่อทูนหัวของแฮร์รี่”
“ผมไม่ได้อยากรู้ซักหน่อย” เด็กชายบ่นอุบอิบ แต่ตัวต้นเหตุกลับหยักคิ้วไม่ใส่ใจ
แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็คือทุกคนในร้านร่างก็พากันแปลกใจเมื่อได้ยินคำว่า ‘พ่อทูนหัว’
“นี้... แฮร์รี่มีพ่อทูนหัวด้วยเหรอ?”
“พ่อของเขาตายแล้วไม่ใช่เหรอ?”
“คุณจะทำอะไร!?” เด็กหนุ่มกระซิบถาม
“อยู่นิ่ง ๆ เถอะ...”
“ฉันเสียใจที่ต้องบอกว่าในฐานพ่อทูนหัว ฉันคงปล่อยให้ลูกทูนหัวสุดที่รักต้องจับมือกับคนแปลกหน้าไม่ได้.....”
“แต่เราไม่ใช่คนแปลกหน้านี่ฮ่ะ!” เด็กชายคนนั้นยังไม่ยอมเลิกรา
“แต่ฉันไม่เคยเห็นเธอมาก่อนเพราะงั้นก็แปลกหน้าอยู่ดีแหละ เอาล่ะ! ถ้าไม่ถือสาผมและลูกทูนหัวของผมขอตัวก่อน!!” เน้นชัดถ่อยชัดคำ จนคนในร้าน อึ้งจนพูดไม่ออก
พูดแล้วก็ลากตัวแฮร์รี่ออกมจากร้านไม่สนใจเสียงโฮ่ร้องของหลาย ๆ คนในร้าน
“นี้คุณบ้าไปแล้วรึไง!!?” เด็กหนุ่มเอ่ยขึ้นเมื่อพวกเขาหยุดอยู่ที่ร้านขายขนมฮันดีดุก
“ก็แหง่ล่ะ”
“ผมยังไม่ได้ซื้ออะไรเลยนะ!”
“เธออยากได้อะไรล่ะ?”
“ช่างเถอะ! มันไม่สำคัญนี้!” เด็กหนุ่มพูดก่อนจะเดินหนีชายหนุ่มเข้าร้านฮันดีดุกเขาน้อยใจนิด ๆ เพราะซิเรียสไม่ได้สนใจซักนิดว่าเขาต้องการอะไร
“เฮ้! แฮร์รี่ฉันขอโทษ
” ชายหนุ่มพึมพำเบาๆ แต่แฮร์รี่ไม่ได้อยู่ตรงนั้นซะแล้ว
“อ้าว! แฮร์รี่เองเหรอ?” เฮอร์ไมโอนี่เรียก เธอกับรอนอยู่ใกล้ ๆ ชั้นวางขนมเมอตี้บอร์ครบทุกเม็ด
“พวกเธอมาทำอะไรที่นี้เนี้ย?” ซิเรียสเข้ามาในร้านเมื่อเห็นเด็กทั้งสองก็ถามออกไปโง่ ๆ
“วิ่งมาราธอนไงฮะคุณซิเรียส... พวกผมอยู่ที่ร้านขนมนะ!” รอนตอบอย่างกวนประสาท
“เธอนี้กวนจริงนะรอน”
“แหม่ก็ผม.......”
“เอาเถอะ ๆ ฉันไม่มีเวลามาต่อปากต่อคำกับพวกเธอ....แฮร์รี่ล่ะ?”
“เดินกระฟัดกระเฟี่ยงไปทางโน้นค่ะ” เด็กสาวตอบพลางชี้ไปทางที่แฮร์รี่เดินไป
“อืม...ขอบใจ” พูดพลางเดินไปตามทางที่เฮอร์ไมโอนี่บอก
“แฮร์รี่!!” ชายหนุ่มร้องเรียกเมื่อเห็นแฮร์รี่กำลังเลือกขนมต่าง ๆ อยู่แต่เด็กหนุ่มทำท่าไม่สนใจไม่ได้ยินที่เขาเรียก
“นั้น!! นั้นเธอใช่ไหม?” เสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านหลังพร้อมกับจับเสื้อเขาไว้
“เอ่อ....เฮเลน“
“ต๊าย! จำฉันได้ด้วยเหรอเนี้ย!?” หญิงสาวหน้าตาสละสาวเพื่อนสมัยเรียนของเขาพูดพลางยิ้มหวานส่งให้
“ก็....น่าจะใช่ครับ”
“หืมมมม?”
“เอ่อ...ผมขอตัวก่อนนะครับ” ชายหนุ่มพูดเขาอยากจะไปหาแฮร์รี่ใจจะขาดอยู่แล้ว แม้จะเป็นการเสียมารยาทก็เถอะ
“เดี๋ยวสิจ๊ะ ไม่ได้เจอกันตั้งนาน ฉันว่ามันผ่านไปตั้ง 10 กว่าปีนี้เนอะที่ไม่ได้เจอเธอ ฉันดีใจจริง ๆ นะที่เธอกลับมาที่นี้อีก” หญิงสาวพูดพลางหน้าแดงดูเหมือนเธอจะดีใจเหลือเกินที่ได้พบกับซิเรียส
“ครับ” ชายหนุ่มตอบเขาอยากจะไปให้พ้นเธอเสียที
“เธอมากับใครจ๊ะ!!”
“เอ่อ.....ลูกชายครับ”
“หา!! ธะ...เธอมีลูกแล้วงั้นเหรอ!!?”
“ห่ะ!! งั้นมั้งครับ.....”
‘แล้วทำไมต้องตกใจขนาดนั้นด้วยล่ะ?‘
“งั้นผมขอตัวไปดูลูกชายก่อนนะครับ!” ชายหนุ่มพูดตอนนี้เฮเลนไม่ได้รั้งเขาไว้แล้วเขาจึงรีบปลีกตัวออกมาทันที
“เราจะกลับกันรึยัง?” ซิเรียสพูดขึ้นเขารู้สึกไม่ค่อยดีหน่อย ๆ เมื่อเห็นเด็กหนุ่มจ้องเขาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
“ทำไมคุณไม่อยู่คุยกับสาวสวยคนนั้นซะก่อนล่ะ!” เด็กหนุ่มพูดอย่างเคืองๆ
“หา! เอ่อ... อะไรนะ?”
“ผมจะกลับพร้อมรอนกับเฮอร์ไมโอนี่!!”
“งั้นก็แย่หน่อยทั้งสองคนกลับไปก่อนเธอแล้วเมื่อกี้นี้เอง”
“เมื่อกี้เหรอ งั้นไปตอนนี้ก็น่าจะตามทัน”
“เธอจะบ้ารึไง! พวกเขากลับด้วยผงฟลูนะ!”
“งั้นผมก็จะกลับด้วยผงฟลู!”
“เลิกงี่เง่าซะที!! เธอไม่มีผงฟลูนะซักหน่อย ‘”
“....”
“ตามมา!!” ชายหนุ่มเดินออกจากร้านอย่างหัวเสีย แฮร์รี่ไม่มีทางเลือกเขาจึงรีบเดินตามชายหนุ่มไป
‘โว้ย!! เดินช้าหน่อยไม่ได้รึไง~!” นี้คือเสียงในใจของแฮร์รี่ ขายิ่งสั้น ๆ อยู่ตอนนี้จากเดินตามกลายเป็นวิ่งตามซะแล้ว
“เร็วหน่อยสิ!”
‘แน่ะ!! ยังมีหน้ามาเร่งอีก’
แฮร์รี่นึกสงสัยว่าเขาจะกลับด้วยวิธีใดในเมื่อผงฟลูก็ไม่มี แต่สุดท้ายเด็กหนุ่มก็ได้คำตอบ...
“คุณเคยขึ้นรถไฟ... เหรอฮ่ะ?”
“อืมมม” ชายหนุ่มตอบเขาซื้อบัตรสองใบแล้วยื้นให้แฮร์รี่หนึ่งใบ
“ไปเถอะ”
คงเพราะเป็นวันศุกร์คนเลยเยอะกว่าปกติ ซึ่งทุกคนต่างก็ไปทำงานกันและมันก็เป็นผลร้ายต่อแฮร์รี่เพราะตัวเขาถูกบดบังโดยกลุ่มคนซึ่งอัดกันแน่นอยู่
“ตาย ๆ ฉันต้องตายแน่ ๆ” เขาถูกเบียดซะจนตัวจะแบนอยู่แล้ว
“ไม่ตายหรอกน่า”
“เอ๋?”
ซิเรียสเข้ามาขว้างเขากับชายอีกคนที่เมื่อกี้แทบจะทับเขาแล้วชายหนุ่มดันเข้าให้ติดกับผนังรถก่อนจะยืนกั้นอยู่ข้างหน้า
“ให้ตายสิ!! พวกมัลเกิลนี้วุ่นวายจริง ๆ”
“ทนหน่อยนะ อีกเดี๋ยวก็ถึงแล้ว.....” ชายหนุ่มพูดพลางก้มมองหน้าเด็กหนุ่ม
“ฮ่ะ...” แฮร์รี่ไม่เคยรู้สักนิดว่าพ่อทูนหัวของเขาจะพอทำตัวจริงจังขึ้นมาก็ดูเป็นผู้นำได้ดีเหมือนกัน ทั้งๆ ที่ปกติมักจะขี้เล่นเสมอแท้ๆ
“คุณเลิกจ้องผมแบบนั้นซะทีเถอะน่า!” เด็กหนุ่มพูดขึ้นพลางหันหน้าหนีไปทางอื่น ถึงแม้ไม่ได้มองก็รู้สึกถึงสายตาที่จ้องหน้าเขาไม่ว่างตา
“เขินเหรอ?”
“เปล่านี่......” ปากก็พูดไปแบบนั้นแต่ใจกลับไม่เป็นอย่างใจคิด และใบหน้าของเขายิ่งร้อนผ่าวขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อหน้าอกของร่างสูงแทบจะชิดกับใบหน้าของเขา เด็กหนุ่มก้มหน้างุด มองปลายเท้าตัวเอง
‘นี้เราเตี้ยขนาดนี้เลยรึเนี้ย’ เขาคิด เพราะพอเทียบกันจริงๆ เขาสูงเพียงแค่อกของชายหนุ่มเท่านั้น...
ตอนนี้แฮร์รี่ยังไม่รู้ซักนิดว่าทำไมเวลาอยู่ใกล้กับชายหนุ่มเขาถึงได้รู้สึกใจเต้นเร็วอย่างนี้ทั้งรู้สึกดีใจและเสียใจ.... แต่ตอนนี้เขารู้เพียงอย่างเดียวก็คือซิเรียสเป็นพ่อทูนหัวของเขา และเขาก็เป็นลูกทูนหัวไม่มีอะไรนอกเหนือจากนั้นแน่นอน?
ความคิดเห็น