ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ตาลซ่อนเปรี้ยว

    ลำดับตอนที่ #1 : บทที่ 1 100%

    • อัปเดตล่าสุด 13 พ.ย. 56




    ตาลซ่อนเปรี้ยว

    มือที่จับลูกบิดประตูค้างนิ่งอยู่อย่างนั้น ขาก็เหมือนจะไร้เรี่ยวแรงจะหยัดยืน มีเพียงดวงตาและสองหูเท่านั้นที่ทำงานได้เกินประสิทธิภาพ ภาพตรงหน้าและเสียงที่ได้ยินนั้นจึงชัดเจนเหลือเกิน

    ไม่ต้องคิดก็เข้าใจได้รวดเร็วว่าสองร่างเปลือยเปล่าบนเตียงนั้นกำลังทำอะไรกันอยู่ สิ่งของที่ถือมาเต็มมือพลันหล่นลงพื้นเสียงดังลั่นพร้อมๆ กับเสียงหวีดร้องอย่างสุขสมของหนุ่มสาว

    ชายหนุ่มหญิงสาวที่ปล่อยเสียงครางยาวประสานกันเมื่อครู่หันมาทางเดียวกันเมื่อได้ยินเสียงแปลกแยกดังขึ้นที่หน้าประตู

    “เฮ้ย !” ชายหนุ่มบนเตียงผุดลุกขึ้นยืนทันที ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องลั่นจากคนที่เพิ่งทำไม้กวาดไม้ถูพื้นร่วงหล่นจากมือ

    “เธอเข้ามาได้ยังไง”

    เสียงตวาดลั่น แต่คนที่ประตูกลับสิ้นเรี่ยวแรงจะตอบเข่าอ่อนลงไปนั่งบนพื้น และปิดหน้าปิดตาส่งเสียงร้องกรี๊ดอย่างเดียว ขนาดโดนกระชากแขนขึ้นแล้วเธอก็ยังสั่นเป็นเจ้าเข้าส่ายหน้าไปมาทั้งๆ ที่มือทั้งสองข้างปิดตาเอาไว้แน่น

    “ฉันถามว่าเธอเข้ามาได้ยังไง ! ทำไมไม่ตอบ ห๊ะ” เขาเขย่าร่างสั่นงกนั้นอย่างแรง “ตอบมาสิวะ”

    “โอ๊ย !

    หงุดหงิดมากเข้าชายหนุ่มก็ผลักร่างเล็กๆ นั้นไปชนประตู ได้ยินเสียงสั่นๆ ตอบกลับ

    “ตาลมีกุญแจ” ตอบทั้งๆ ที่ก้มหน้านิ่ง

    “ตอบดังๆ ตอนพูดทำไมต้องหลบหน้า เงยหน้าขึ้นมาสิ” เสียงดังกร้าว บ่งบอกว่ากำลังหัวเสียขีดสุด

    “ไม่ ! คุณเก้าไปแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนสิ ตาลถึงจะเงยหน้าพูด” เธอเถียง แต่ตัวสั่นงก ภาพตอนที่เข้ามาเห็นนั้นยังติดตาอยู่เลย ภาพการเสพย์สังวาสที่เธอไม่คิดว่าจะได้เห็นชัดเจนอย่างนี้ และคนที่แสดงหนังสดให้เห็นไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นคนที่เธอรู้จักดี

    ชายหนุ่มก้มลงมองตัวเอง เห็นว่าร่างทั้งร่างของตัวเองเปลือยเปล่าจริงๆ ก็ยิ่งหงุดหงิด ทั้งหงุดหงิดคนที่นั่งหลับหูหลับตาเถียงเขา และหงุดหงิดที่เธอมาขัดจังหวะ ดีนะดี ดีที่เขาเสร็จกิจพอดีไม่อย่างนั้นคนตัวเล็กบนพื้นนั่นไม่ได้นั่งอยู่ตรงนั้นหรอก เขาคิดอย่างโมโหพลางหากางเกงที่โยนทิ้งเรี่ยราดข้างเตียงมาสวมลวก ๆ

    “นี่ เงยหน้ามาได้แล้ว”

    “แต่...”

    “แต่อะไรอีก อย่ามากวนโมโหฉันนะกิรนันท์ เธอไม่ตายดีแน่”

    “คุณผู้หญิงคนนั้นล่ะคะ คุณเก้าจะให้ตาลเป็นตากุ้งยิงหรือไง” เธอเถียงปาวๆ เขาถึงหันไปสนใจหญิงสาวอีกคนบนเตียงที่กำลังนอนมองเขาอย่างสบายอารมณ์ แถมยังส่งยิ้มยั่วให้อีก ชายหนุ่มถอนใจหนักๆ ใครมันจะมีอารมณ์ต่อ มีมารมาขัดขวางความสุขเสียขนาดนี้

    “นี่เธอกลับไปก่อนไป” เขาโยนเสื้อผ้าที่กลาดเกลื่อนอยู่ข้างเตียงไปให้หญิงสาวที่เพิ่งผ่านสมรภูมิสวาทมาด้วยกัน หญิงคนนั้นทำท่าฮึดฮัดไม่พอใจ

    “แต่ไหนคุณบอกว่าเราจะทั้งวันทั้งคืนไงคะ”

    “ตาบอดหรือไง ไม่เห็นเหรอว่ามารมานั่งอยู่นี่ทั้งคน เธอจะให้ฉันทำท่าอภิรมย์ให้คนอื่นมาดูเราเริงรักกันหรือไง ฉันไม่โรคจิตขนาดนั้น”

    คนที่นั่งอยู่บนพื้นถึงกับสะดุ้งกับเสียงตะคอกนั้น แล้วเขาคิดว่าเธออยากดูหรือไง มันอุจาดลูกตาของเธอเหมือนกันนะ

    หญิงสาวบนเตียงกวาดเสื้อผ้าของตัวเองหายเข้าไปในห้องน้ำไม่กี่นาทีก็ออกมา แล้วมายื่นมือหราไปให้ชายหนุ่ม เขาแค่นยิ้มมุมปากเล็กน้อยก่อนจะคว้ากระเป๋าเงินมาดึงธนบัตรใบละพันออกมาปึกหนึ่งไม่นับเสียด้วยซ้ำ ยื่นใส่มือให้ หญิงคนนั้นทำท่าดีใจแล้วยังไม่วายเขย่งขึ้นจูบแก้มของเขาอีกครั้งก่อนจะเดินยิ้มออกไปจากห้อง

    ตอนที่เดินผ่านไป กิรนันท์เห็นว่าผู้หญิงคนนั้นหันมายักคิ้วให้เธอเสียด้วยซ้ำ พอเหลือกันแค่สองคนหญิงสาวก็เสียวสันหลังวาบ เพราะร่างสูงใหญ่ที่ยืนกอดอกพิงโต๊ะทำงานอย่างหมิ่นเหม่นั้นกำลังมองเธออย่างคุกคาม รังสีอำมหิตแผ่มาจนเธอไม่กล้าพูดใดๆ ตอนนี้เขาสวมแค่กางเกงตัวเดียวไม่ใส่เสื้อ สายตาของเธอจึงปะทะเข้ากับแผงอกหนาหนั่นนั้นเต็มๆ หญิงสาวใจเต้นแรงค่อยๆ ลุกจะเลี่ยงออกจากห้อง หากไม่ทันได้ก้าวเท้าเสียงห้วนจัดก็ดังขึ้น

    “จะไปไหน !

    “ไปนอกห้องค่ะ” ตอบเสียงอ่อย

    “เธอคิดว่าจะเข้ามาก็เข้า จะออกก็ออกตอนไหนก็ได้งั้นเหรอ เธอคิดว่าเธอเป็นใครถึงมาหยามฉันแบบนี้” เขาไม่ว่าเปล่ามือหนาคว้าหมับที่ต้นแขนเรียว ลงแรงบีบจนหญิงสาวหน้าเหย

    “ตาลไม่รู้นี่นา ไม่คิดว่าคุณจะอยู่ในห้อง”

    “เธอเลยเปิดเข้ามางั้นเหรอ” เขาถามเสียงเยาะอยู่บนหัวของเธอ จะว่าไปแล้วคุณเก้าหรือ คุณตติยะสูงกว่าเธอเกือบสองฟุต กิรนันท์นั้นสูงหนึ่งร้อยหกสิบห้าเซนติเมตร ตติยะคงสูงเกินร้อยแปดสิบเซนติเมตรนั่นล่ะ “อยากดูหนังสดก็ไม่บอก เธอนี่ก็แรงพอตัวเลยนะไม่คิดว่าหน้าหงิมๆ แบบนี้จะชอบอะไรแบบนี้ วันหลังบอกสิว่าอยากดูไม่ต้องมาแอบดูเหมือนคนโรคจิตแบบนี้ ฉันจะสนองให้”

    กิรนันท์อ้าปากค้างเลยทีเดียวกับข้อกล่าวหานั้น กว่าจะตั้งสติได้ก็เห็นชายหนุ่มเดินไปทางห้องน้ำเสียแล้ว

    “ตาลไม่ใช่คนแบบนั้นนะคุณเก้า มันแค่ความบังเอิญใครจะอยากดูอะไรอุจาดๆ แบบนั้นกันเล่า อิ๊ !

    สิ่งที่ลอยมาตรงหน้านั้นทำให้หญิงสาวใช้สัญชาติญาณคว้ามันเอาไว้ก่อนที่มันจะปลิวมาโดนหน้าเธอ แต่พอเอามาดู เธอถึงกับร้องไม่ออก

    “คนโรคจิต” เธอปามันคืนไปที่เดิม แต่เขาปิดประตูห้องน้ำไปเสียแล้ว ได้ยินแต่เสียงหัวเราะห้วนๆ กิรนันท์ทั้งโกรธทั้งอายที่เขาโยนกางเกงในของตัวเองมาใส่หน้าเธอ ยิ่งคิดถึงเหตุการณ์ที่เธอบังเอิญเข้ามาเห็นแล้วยิ่งหน้าแก้มร้อนเห่อ ตอนนี้หน้าเธอคงแดงไปถึงไหนต่อไหน เพราะคนในห้องน้ำนั้นเลยเชียว

    มองไปรอบๆ ห้องนอนขนาดใหญ่นี้แล้ว มันบ่งบอกได้เลยว่าก่อนที่เธอจะมา ที่นี่คงเป็นสนามรักของตติยะกับแม่สาวคนนั้นอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะข้าวของบนโต๊ะทำงานของเขาโดนกวาดลงเกลื่อนห้อง บนเตียงนั้นยับยู่ยี่และชิ้นส่วนเสื้อผ้าของเขาที่เกลื่อนห้องนั่นอีก

    หญิงสาวกัดฟันก้มลงเก็บทีละอย่างให้เข้าสู่สภาพเดิม เธอไม่อยากทำตอนที่เจ้าของห้องจะออกมาจากห้องน้ำ อย่างน้อยทำให้เสร็จก่อนที่เขาจะออกมายืนร่วมห้องกับเธอก็แล้วกัน

     

    กิรนันท์ออกไปเก็บกวาดห้องนั่งเล่น ในขณะที่เจ้าของห้องกำลังอาบน้ำ ห้องของตติยะอยู่เกือบจะชั้นบนสุดของคอนโดสุดหรูแห่งนี้ หญิงสาวเดินไปริมหน้าต่างบานกว้าง เปิดผ้าม่านออกรับแสงแดดยามสายจัด จะว่าไปนี่ก็เกือบเที่ยงแล้วด้วยซ้ำไม่เรียกว่าสายแล้ว เธอเลือกเวลาเกือบๆ เที่ยงของเช้าวันเสาร์มาทำความสะอาดห้องให้เขา ซึ่งเป็นหน้าที่ที่เธอต้องทำมาเป็นเวลาเกือบปีแล้ว ตติยะย้ายออกมาจากบ้านใหญ่หลังจากเรียนจบมาจากต่างประเทศ เขามาอาศัยอยู่คอนโดราคาหลายล้านจากเหตุผลที่ว่าไม่อยากอยู่ร่วมบ้านกับบิดา มารดาเลี้ยงและน้องสาวทั้งมารดาเดียวกันและต่างมารดา

    แม้จะรับหน้าที่นี้มานานแต่เธอไม่เคยเข้ามาจ๊ะเอ๋กับเหตุการณ์น่าหวาดเสียวแบบเมื่อครู่มาก่อน รู้อยู่หรอกว่าตติยะควงสาวไม่ซ้ำหน้า และเธอก็รู้ด้วยว่าเขาพาสาวขึ้นห้องไม่ซ้ำคน สภาพห้องของเขาที่มาเจอหลายๆ ครั้งก็พอเดาออกว่าเจ้าของห้องใช้มันทำอะไรมาก่อน ทั้งข้าวของกระจัดกระจาย ชุดเสื้อผ้าของชายหนุ่มที่วางเรี่ยราด หลายครั้งมีชั้นในผู้หญิงปะปนอยู่ด้วยเธอก็เก็บมันไปทิ้งให้ เพราะเขาไม่อยากเห็นอะไรๆ เกี่ยวกับผู้หญิงที่เขานอนด้วยจึงสั่งให้เธอทิ้งให้หมด เห็นมามากแต่ไม่เคยเจอกับตัวเองจังๆ แบบนี้เลย สงสัยคนนี้คงถูกใจจริงๆ นอกจากกลางคืนแล้วยังมีต่อกันตอนเช้า

    “นี่ เธอ”

    กิรนันท์ต้องหันไปตามเสียงเรียก แก้มเธอร้อนเห่ออีกหน เพราะคนที่เพิ่งออกจากห้องน้ำมีเพียงผ้าเช็ดตัวพันกายท่อนล่าง เขากำลังใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดผม เห็นน้ำกระเซ็นเป็นฝอย

    “ทำอะไรอยู่ เรียกไม่ได้ยินหรือไง” ไม่ได้ดั่งใจชายหนุ่มก็ปาผ้าที่กำลังเช็ดผมอยู่นั่นแหละลงพื้นมาตรงหน้าเธอ กิรนันท์ก้มลงเก็บ ยังดีที่เขาไม่ถอดผ้าเช็ดตัวออกมาปา

    “มีอะไรคะ ตาลกำลังทำความสะอาดห้อง”

    “เห็นอยู่ ฉันไม่ได้ตาบอด”

    อ้าว! กิรนันท์ร้องอุทานในใจ เธอเลยต้องเงียบรอฟังคำสั่งต่อไปของเขาแทน

    “ทำอะไรให้ฉันกินหน่อย เอาแบบ American breakfast นะ ทำเป็นใช่ไหม”

    “ค่ะ คุณเก้าจะรับไข่ลวกด้วยไหมคะ เอากี่ฟองดีคะ” เธอถามเมื่อเขาทำท่าจะหันหลังกลับเข้าห้องนอน ตติยะหยุดนิ่ง สายตาที่มองมามีแววแปลกประหลาด ทั้งเหยียดหยามทั้งเยาะเย้ย และที่สำคัญมันทอประกายวิบวับเสียจนคนอยากลองดีเสียวสันหลัง

    “ถามแบบนี้ แสดงว่าเชี่ยวชาญเรื่องพวกนี้สินะ” เขาพิงประตูห้องเอาขาไขว้กันแล้วเอามือกอดอก “ปกติถ้าเธอนอนกับผู้ชายคืนละหลายครั้งจนนับไม่ได้ ตื่นเช้ามาเธอจะทำไข่ลวกให้ผู้ชายของเธอกี่ฟองดีล่ะ สักสามหรือห้าจะพอไหม”

    เขาเดินเช้าห้องไปแล้วแต่กิรนันท์ยังยืนเม้มปากอยู่ที่เดิม เธอไม่น่าไปลองของกับเขาเลยจริงๆ รู้อยู่ว่าไม่เคยเอาชนะผู้ชายคนนี้ได้

    ตติยะออกมาอีกครั้งในชุดเสื้อยืดเนื้อดีติดโลโก้ยี่ห้อดัง กับกางเกงผ้านุ่มราคาคงแพงไม่ต่างจากตัวเสื้อนัก กิรนันท์ยกอาหารที่เขาสั่งไปวางให้ที่โต๊ะทานข้าวขนาดกะทัดรัด ซึ่งเหมาะกับห้องหนุ่มโสดที่มีเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นแต่ทุกอย่างล้วนคัดสรรมาอย่างลงตัวและราคาแสนแพง เขามองสิ่งที่อยู่ในจานแล้วเบ้หน้า

    “สามฟอง เธอคิดว่าฉันเสียพลังไปเยอะขนาดนั้นเลยเหรอกิรนันท์” เขาถามแถมจ้องเธอไม่วางตา กิรนันท์จำต้องตอบ

    “ถ้าคุณเก้าว่าไม่พอเพราะเสียพลังงานไปเยอะกว่าที่คิด หรือเข้าใจผิดคิดว่าตัวเองแข็งแรง บอกตาลได้นะคะ จะทำเพิ่มให้”

    “เธอนี่มัน จะไปทำอะไรก็ไป ไป !

    เขาตบโต๊ะดังปัง ! กิรนันท์อมยิ้มแต่ไม่ให้ตติยะเห็นเด็ดขาด เธออาศัยช่วงนี้หลบหน้าเขาอีกตามเคย ปกติเธอมาที่นี่ทุกวันเสาร์มักจะเห็นเขาหลับอยู่บนเตียงมากกว่า เธอทำงานของเธอเก็บกวาดเช็ดถูห้อง และทำอาหารทิ้งไว้ให้ เสร็จงานเธอก็กลับเขาจะตื่นมาตอนไหนก็ช่างเขา

    ตติยะนั่งดูทีวีอยู่ที่ห้องนั่งเล่นในตอนที่กิรนันท์เดินถือตะกร้าผ้าของเขาที่เพิ่งซักเสร็จและอบแห้งแล้วผ่านหน้าไป ตอนที่เธอนั่งพับเสื้อผ้าเก็บใส่ตู้ ชายหนุ่มเดินมายืนกอดอกมองอยู่ที่ช่องประตู

    “เคยคิดไหมว่าคุณค่าของตัวเองอยู่ที่ไหน” อยู่ดีๆ เขาก็ถามขึ้นมาลอยๆ

    “คะ ?”

    “คิดจะเป็นขี้ข้ารับใช้ฉันไปนานแค่ไหน” ประกอบคำพูดเสื้อผ้าที่เธอเพิ่งพับวางเป็นชั้นโดนเขาลงใจแกล้งทำให้ล้มกระจาย กิรนันท์เม้มปากเงยหน้าขึ้นสบตาเขา ตติยะยังมีหน้ามายักคิ้วให้เธอ

    “ไม่ทราบค่ะ” เธอต้องเก็บเสื้อผ้าพวกนั้นมารวมกันและเริ่มพับใหม่

    “อื้อหือ จะเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ งั้นเหรอ อืม ดีเหมือนกันนะฉันจะได้มีคนไว้รองมือรองเท้า อยู่เป็นคุณชายแบบนี้ตลอดก็สบายดีนี่นา”

    “แล้วแต่คุณเก้าสิคะ”

    “เป็นเธอนี่ก็ดีนะ ชีวิตนี้จะมีปากเสียงกับคนอื่นเขาไหม” เขาลงนั่งยองๆ ข้างๆ พลางยื่นมือมาจับไหล่ กิรนันท์เบี่ยงตัวหลบ เขาก็ไม่ตื้อจับอีกแต่เดินไปนั่งบนเตียงส่งเสียงหัวเราะ มันเป็นเสียงเยาะเย้ยสิ้นดีในความคิดของกิรนันท์

    “หน้าตาอย่างเธอ หุ่นอย่างนี้นี่นะ ฉันบอกวิธีการอัพเกรดตัวเองให้เอาไหม”

    “ไม่จำเป็นค่ะ” กิรนันท์ไม่ไว้ใจสิ่งที่เขากำลังจะพูดจริงๆ

    “ไม่เอาเหรอ ฉันรู้จักเสี่ยเงินหนาเยอะนะ รับรองไม่มีปัญหาเรื่องเมียหลวง”

    หญิงสาวเม้มปากแน่น มือทั้งสองข้างบิดเสื้อผ้าของเขาจนยับยู่ยี่ แต่เจ้าของยังไม่รู้ตัวเขายังพูดเรื่อยๆ

    “ไม่ชอบเหรอ อ๋อ คงไม่ชอบคนแก่ งั้นเด็กๆ ไหม ลูกน้องฉันยังว่าง พวกนี้ก็รวยพอจะเลี้ยงเธอได้นะ”

    “พอเถอะคุณเก้า !” กิรนันท์ตวาดใส่ชายหนุ่มเป็นครั้งแรกตั้งแต่รู้จักกันมา ตอนนี้ตัวเธอร้อนจัดไปทั้งตัว เธอเกลียดผู้ชายตรงหน้าเพิ่มขึ้นอีกอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนว่าจะเกลียดได้ขนาดนี้ แต่ก่อนเขาทำอะไรเธอเธอย้ำใจตัวเองว่าต้องอดทน แต่นี่ไม่ใช่เขากำลังดูถูกเธอ

    “ไม่พอใจเหรอ เธอมีสิทธิ์อะไรมาไม่พอใจฉัน จำไม่ได้หรือไงเธอมันเป็นใคร ฉันเป็นใคร เรามันคนละระดับกัน”

    “แต่ยังไงฉันก็เป็นคนนะคะ”

    “งั้นเหรอ ขอโทษทีที่ฉันมองผิดไป” น้ำเสียงของเขาไม่ได้เข้ากับคำว่าขอโทษเลยสักนิด “ฉันก็แค่เสนออะไรๆ ดี ๆให้ คิดว่าคนอย่างเธอคงจะรีบคว้าตะครุบเอาไว้ซะอีก”

    “ฉันไม่ใช่คนอย่างนั้น ที่จะเอาตัวเข้าแลกกับอะไรง่ายๆ นะคุณเก้า” กิรนันท์ลุกขึ้นยืนประชันหน้ากับเขาแล้ว

    “อ๋อเหรอ....” เขาลากเสียงยาว “ก็คิดว่าแม่กับลูกคงจะเหมือนกัน แม่ของเธอเอาตัวเข้าแลกเพื่อความสุขสบาย อยากเป็นใหญ่เป็นโต ฉันก็คิดว่าลูกมันจะร่า..”

    เพี๊ยะ !!

    ใบหน้าคมเข้มหันไปตามแรงตบก่อนที่จะได้พูดคำนั้นออกมา

    “อย่าดูถูกแม่ฉัน”

    กิรนันท์วิ่งออกมาจากห้องนอนของเขาได้ ก็มุ่งไปยังประตูห้อง ไม่คิดที่จะเหลียวหลังอีก เธอจึงไม่รู้ว่าคนในห้องมองตามหลังเธอด้วยสายตาอย่างไร






    _______________________________


    มาค่ะ เรื่องคุณโอม ปล่อยหน้าที่ให้ยายญดาอบรมไปค่ะ

    เรามาหาคุณเก้ากันดีก่า อิอิ



    ตั้งชื่อตัวละครไปคนละทางกันอีกแล้วอิชั้น ตติยะ น่าจะแปลว่า สาม แต่ชื่อเล่น ตั้งซะ เก้า พาสชั้นไปเยอะ.....






    ปล. เรื่องนี้จะอัพ "ไม่" สม่ำเสมอ นะคะ



    แก้แบนค่า!!!


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×