Ferde Eali Reus - ผจญภัยในดินแดนแห่งเวทย์มนต์
การผจญภัยในดินแดนแห่งเวทย์มนต์ บทเริ่มต้นแห่งตำนานที่เป็นจริง กับชายสองคนที่มาจากครอบครัวสุขสันต์ และการเริ่มต้นอันน่าตื่นเต้น!
ผู้เข้าชมรวม
207
ผู้เข้าชมเดือนนี้
6
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
โลกที่ดูกว้างใหญ่ไพศาล ถูกปกคลุมไปด้วยผืนฟ้า ผืนน้ำ และผืนดิน หากมองจากมุมสูงก็จะเห็นเป็นเพียงแค่ลูกฟุตบอลลูกเล็กๆ ที่กำลังกลิ้งไปมารอบดวงอาทิตย์ซึ่งหากเป็นคนบนโลกมนุษย์ก็จะเรียกว่า ศูนย์กลางของระบบสุริยะจักรวาล
หากคุณยืนอยู่บนผืนแผ่นดินอีกที่ มองลงไปยังบริเวณที่เป็นลูกฟุตบอลที่กำลังหมุนตัวอย่างร่าเริงและสนุกสนาน การพรางตาให้มนุษย์เห็นว่ามีเพียงแค่บรรยากาศของฝุ่นที่ปกคลุมเป็นรูปคล้ายกับกระต่ายนั้น หากมีใครสามารถมองเห็นผ่านมนต์บังตาได้ ก็จะเห็นว่ามัน ไม่ใช่แบบที่เป็นอยู่ หญ้าสีเขียวขจีที่ดูสดใส มองไปทางไหนก็จะเห็นกลุ่มดอกไม้สีสันสวยงามปกคลุมไปทั่ว ท้องฟ้าสดใส ต้นไม้ที่ออกดอกออกผลให้เหล่าอัสเตอร์ ได้กินกัน รุ้งที่ทอประกายอย่างสวยงาม ทะเลสีครามระยิบระยับที่พาดตัวไปอย่างไร้จุดหมาย เหล่าสัตว์นานาชนิดที่พวกคุณไม่เคยเห็น ไทรันนอซอรัส ที่ทุกคนคิดว่าสูญหายไปแล้ว หรือมังกรอีก็อตสองพันปี ที่พวกคุณไม่เคยได้ยินชื่อ สัตว์ดึกดำบรรพ์ทั้งหลาย พวกคุณคิดว่ามันสูญหายไปแล้วจริงๆอย่างนั้นหรอ
ภายใต้ตึกอาคารสูงระฟ้า ตัวอาคารบิดเป็นเกลียว มันสามารถหมุนรับแสงจากต้นเวสเตอร์ฟอสได้ทุกซอกทุกมุม ที่นี่ไม่ได้รับพลังงานจากแสงอาทิตย์ มันเป็นเพียงแค่การจำลองวัตถุที่จะทำให้พวกบนโลกอาศัยอยู่ได้โดยไร้ข้อกังขา ชายหนุ่มสองคนที่กำลังนั่งจิบกาแฟอยู่ใต้บริเวณโถงอาคาร โต๊ะแกะสลักหินอ่อนสีชมพูระเรื่อ กาแฟที่อยู่ในแก้วใสสีฟ้าเปล่งประกายแสงออกมาเล็กน้อยเวลาที่สองคนนี้จิบมันเข้าไป
“การเจรจาของเราควรจะเริ่มต้นขึ้นได้แล้วนะท่านพี่” ชายผมสีดำผู้สวมชุดพังก์สีดำ รองเท้าสีดำ และกางเกงยีนส์เดปสีดำ แต่ในดวงตาของเขาคลุกกรุ่นไปด้วยเปลวเพลิงสีฟ้า
“ว่ามา ข้าไม่มีเวลามากพอหรอก” ชายผมสีน้ำตาลแดงผู้สวมชุดคล้ายจะไปเดินชายหาดเล่น เขาสวมเพียงเสื้อยืดสีฟ้า กับกางเกงขาสามส่วนที่มีตัวอักษรสลักไว้ว่า Sea ดวงตาเขาก็คลุกกรุ่นไปด้วยสีฟ้า แต่ไม่ใช่เปลวเพลง มันเป็นทะเลต่างหาก
“พวกมนุษย์บนโลกมนุษย์ชักจะตั้งตนเป็นใหญ่ ไม่เคยจะสนใจการส่งพวกเครื่องบรรณาการแต่ก่อน การที่พวกมันทำลายผืนดินที่ข้าสร้างมันขึ้นมาเองกับมือ กับผืนน้ำของท่านพี่อีกเล่า และยังไม่นับผืนฟ้าจากท่านพี่เฟอร์ดีนานอีก” ชายผู้สวมชุดพังก์ที่อ้างว่าตนเป็นผู้สร้างผืนดินวางแก้วกาแฟลงกับจานรองที่กระทบกันเป็นเสียงดังเคล้ง
“รีอัสเตอร์ เจ้าก็ควรที่จะไม่คิดอะไรให้มันเลยเถิด โลกมนุษย์เป็นเพียงโลกที่เราจำลองขึ้นมาก็เท่านั้น เจ้าอย่าไปคิดอะไรให้มันวุ่นวายเสียเลย” ชายผู้สวมชุดไปทะเลกล่าวพร้อมกับจิบกาแฟที่ตอนนี้มันเพิ่มขึ้นมาจนเต็มหลังจากกินเสร็จไปรอบหนึ่ง
“ท่านพี่ไม่คิดอะไรให้มากนะสิ! พวกนี้เริ่มชักจะไม่ให้ความสนใจพวกเรา เห็นพวกเราเป็นแค่ตำนาน การที่ส่งสารส่งลงไปยังโลกมนุษย์นั่นมันทำให้ไม่ช่วยให้เกิดอะไรขึ้นมา พวกมนุษย์มันหยิ่งจองหอง พอตัวเองค้นพบอะไรก็จะทำให้เรื่องราวความจริงที่เกิดขึ้นกลายเป็นแค่เรื่องเล่า อย่างการที่ข้า ในตำนานข้าเป็นเพียงฮาเดส จริงๆแล้วมันไม่ใช่” รีอัสเตอร์บีบแก้วกาแฟจนแตก “ข้ามีตัวตน ฮาเดสไม่ได้เป็นตำนาน”
“ข้ารู้ หากการที่เราสร้างตัวตนของเราขึ้นมาอีกโลกหนึ่ง เพื่อไม่ให้พวกมนุษย์หลงระเริงว่าตัวเองยิ่งใหญ่” ก่อนที่เขาจะพูดต่อ รีอัสเตอร์ก็ขัดขึ้นมา
“ท่านพี่เอลิคัส! แต่พวกมนุษย์ก็หลงระเริงไปแล้ว”
“เจ้าฟังข้าให้ดี โลกมนุษย์เป็นเพียงแค่สิ่งสิ่งหนึ่งที่เราสร้างมันขึ้นมาเพื่อสังเกตความเป็นไป สิ่งที่ไม่ปรากฏบนดินแดนแห่งนี้ ความโหดร้ายทารุณที่เกิดขึ้นยังไม่นับเท่ากับเหตุการณ์บนดินแดนแห่งนี้หรอก ที่พวกเราสร้างโลกขึ้นมา เพื่อจะทราบความเป็นไปเป็นมาเกี่ยวกับความโหดร้ายที่จะเกิดขึ้นตามหลังต่างหาก” เอลิคัสจิบกาแฟต่อ “การที่เราสร้างโลกมนุษย์ขึ้นมา ใช่ว่าเราจะทำลายมันไม่ได้ แต่หากว่ามันไม่สมควร ขึ้นอยู่กับความเป็นจริยธรรมด้วย พวกเราสร้างชีวิตขึ้นมานะ”
“นั่นก็ใช่ แต่ท่านพี่ต้องทำให้มันจบลงอย่างรวดเร็ว และยิ่งตอนไม่กี่ปีมานี้ พวกมันกล้ามากที่บังอาจมาสำรวจบริเวณดินแดนของเรา!” รีอัสเตอร์พูด “หากข้าไม่พบเห็นก่อน พวกมันก็จะทะลุมนต์บังตาเข้ามาได้”
“อาจจะเป็นอย่างนั้น เจ้าควรจะไปบอกเรื่องนี้กับเฟอร์ดีนานมากกว่านะ เรื่องการเคลื่อนที่ไปมาบนผืนฟ้าเป็นหน้าที่ของเขา ส่วนเรื่องบนผืนน้ำข้าก็จัดการสร้างบริเวณที่เจ้าพวกมนุษย์เรียกกันว่าสามเหลี่ยมเบอร์มิวดาไว้เรียบร้อยแล้ว การข้ามผ่านมาดินแดนแห่งนี้มันก็มีเรื่องยุ่งยากไม่น้อย หากเราจะไปยังโลกมนุษย์ที่สร้างขึ้น ก็จะต้องมีทางลับไม่มากก็น้อย” เอลิคัสพูด
“นั่นก็ถูก ข้าสร้างทางป้องกันไว้มากมาย ของข้าก็คือภูเขาไฟ หากพวกมนุษย์เข้าใกล้หรือย่ำกลายเข้ามาเมื่อไหร่ มันก็จะระเบิดในทันทีตามเวลาที่เหมาะสม เรื่องนี้ข้าจะต้องไปคุยกับท่านพี่เฟอร์ดินาน” รีอัสเตอร์ลุกขึ้น
ห้องโถงที่เงียบสงบ ชายคนหนึ่งที่มีผมสีทองปลิวปกคลุมใบหน้า ตาสีฟ้าที่คลุกกรุ่นไปด้วยรอยสายฟ้า เขากำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์เดอะนิวยอร์กไทมส์เพื่อสังเกตความเป็นไปของโลกมนุษย์ว่าเป็นอย่างไรบ้าง ชุดที่เขาสวมใส่ก็ดูสบายตาไม่น้อย เขาใส่ชุดนอนหลวมโคร่งสีฟ้าลายสายฟ้า
รีอัสเตอร์เดินเข้ามาหาอย่างว่องไว
“ท่านพี่เฟอร์ดีนาน” เฟอร์ดีนานเงยหน้าขึ้นจากหนังสือพิมพ์
“มีอะไรเรอะน้องรีอัส” ชื่อย่อของรีอัสเตอร์ถูกกล่าวขึ้นโดยผู้เป็นพี่ หากใครที่ไม่ใช่หนึ่งในสามบุคคลนี้พูดชื่อย่อของสามบุคคลนี้ละก็ มีหวังไม่อยู่รอดเกินสามวินาที
“ข้าอยากให้พี่จัดการเรื่องผืนฟ้าของบนโลกมนุษย์อย่างจริงๆจังๆเสียที” รีอัสเตอร์นั่งลงข้างๆเขา โซฟาสีแดงเลือดหมูที่ทอดยาวไปจนถึงหน้าต่างที่เปิดอ้ารับแสงจากต้นเวสเตอร์ฟอส
“ฮะๆ เจ้าคงอย่างจะทำลายมันลงเสียทีสิน่า ข้าคิดว่าเจ้าคงอยากจะเห็นอะไรที่สนุกสนานต่อจากนี้ต่างหาก แล้วเจ้าจะคิดว่าไม่น่าเสียดายเลย ที่จะยังเห็นมันคงอยู่ต่อไป” เฟอร์ดีนานหัวเราะเบาๆ พร้อมกับมองออกไปนอกหน้าต่าง
“ท่านพี่ทำอะไร” รีอัสเตอร์ถาม
“โลกเวทย์มนต์ไงล่ะ พวกเราจะสร้างมันขึ้นมา รับเหล่าบรรดานักเรียนจากโลกมนุษย์ ทำลายความเชื่อถือด้านวิทยาศาสตร์ออกไปให้หมด ให้พวกมนุษย์คิดว่าเป็นเพราะเวทย์มนต์ต่างหาก เราจะมาร่วมหัวเราะไปพร้อมๆกัน เหมือนกับวันที่พวกมนุษย์ค้นพบว่าวิทยาศาสตร์คือทุกอย่าง” เฟอร์ดีนานหัวเราะร่า
“จะทำอย่างไรกันเล่า” รีอัสเตอร์ทำหน้างุนงง
“เจ้าจะเป็นคนสร้างโรงเรียน สร้างผืนแผ่นดิน สร้างผู้คน ส่วนข้าจะสร้างท้องฟ้า พายุฝน ความน่าสะพรึงกลัว จิตวิญญาณที่มองเห็นได้ และเอคัสจะสร้างแม่น้ำพิษ ทะเลอันกว้างใหญ่ไพศาล บรรยากาศที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และพวกเราจะร่วมกันสร้าง เวทย์มนต์” เฟอร์ดีนานยิ้ม นั่นก็ทำให้รีอัสเตอร์ทำหน้ามึนงง
“เราจะสร้างมันขึ้นมาเพื่ออะไรกันเล่าท่านพี่เฟอร์ดี”
“ทำให้เกิดความปั่นป่วนไงเล่า เจ้าพวกนี้ที่คิดว่าตัวเองเป็นพ่อมดแม่มด ก็จะหยิ่งจองหองในทุกอย่าง เห็นว่าวิทยาศาสตร์เป็นเรื่องล้อเล่น สู้กันด้วยสงครามประสาทที่พวกวิทยาศาสตร์จะใช้เครื่องมือ ส่วนพวกนี้ก็จะใช้เวทย์มนต์” เมื่อเฟอร์ดีนานพูดจบ รีอัสเตอร์ก็ยิงคำถามต่อ
“ถ้างั้นพวกนี้ก็จะสบายกันสิท่านพี่”
“เราจะสร้างศัตรูขึ้นมาด้วย” เฟอร์ดีนานพูด
“ใครกัน”
“เจ้าลองไปถามเอคัสดู” เฟอร์ดีนานยิ้มกริ่มก่อนจะหายตัววับไป
ผลงานอื่นๆ ของ dragonfly~ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ dragonfly~
ความคิดเห็น