ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เค้าชื่อว่าเคอัส เป็นครูสอนพิเศษประจำตัว

    ลำดับตอนที่ #3 : ไล่ออก

    • อัปเดตล่าสุด 11 เม.ย. 55


    ณ อีกโลกทีคุณไม่รู้จัก
               “งานนี้สำคัญมากนะ แคลโล ทุกคนในเผ่าพันธุ์เราร่วมมือกันเต็มที่เพื่อให้เจ้าได้ทำงานสำคัญชิ้นนี้”

                “ข้าเข้าใจแล้วครับท่าน ทุกอย่างจะสำเร็จ และเผ่าพันธุ์แห่งแวมไพของเราจะเรืองอำนาจอีกครั้ง ข้าสัญญาครับ”

                “ถ้างั้นเจ้าก็ไปรอในพิธีได้แล้ว วงแหวนเวทย์แห่งโวนิเซลล่าจะเปิดไม่นาน”

                “ครับ ข้าจะไปเดี๋ยวนี้”

                แคลโลก้าวออกจากห้องหลังรับคำสั่งจะผู้เป็นนาย บุคคลผู้อยู่ในจุดสูงสุดของเผ่าพันธุ์

     

     

    ในที่สุดผมก็มีครูสอนพิเศษประจำตัวคนใหม่แล้วครับ และรู้อะไรไหม มันแย่ แย่มากๆ แย่เกินจะทนแล้วนะ ผมจะต้องมีครูสอนพิเศษอยู่ข้างตัวตลอดเวลาจนถึงสี่ทุ่ม โอ้ไม่นะ เวลาส่วนตัวของผมต้องสูญสิ้นไปกับนายเคอัสนั่น คุณคงคิดว่าผมก็มีครูสอนพิเศษอยู่ตั้งนานแล้ว ทำไมถึงเพิ่งมาเริ่มอึดอัด ก็ที่จริงแล้วนะโจเซฟที่เป็นครูสอนพิเศษคนเก่าของผม เค้าแทบจะไม่ต้องทำอะไรเลยครับ เพราะผมมีวิธีที่จะทำให้เขากลายมาเป็นเพื่อนเล่นให้ผมได้ แม้จะมาจากการขู่จะเผยความลับสุดยอดของเขาที่ผมหาได้จากการแฝงตัวเป็นเนลอสก็ตาม อิอิ

                และที่แย่ไปกว่านั้น ผมขุดคุ้ยประวัติของนายเคอัสนั้นตั้งแต่สี่ทุ่มจนถึงตีสอง แต่กลับไม่พบร่องรอยอะไรเลยหนำซ้ำยังโดนตรวจจับคลื่นสัญญาณอินเตอร์เน็ตจนเกือบเจอบ้านผมแล้วซิ ร้ายมากๆ เพราะงี้แหลาะ ผมจึงมั่นใจว่า เคอัส จะต้องมีอะไรซักอย่างที่ไม่ชอบมาพากลแน่ๆ

                วันนี้ผมต้องไปโรงเรียนตามปกติครับ แต่สิ่งที่ไม่ปรกติคือ ผมมีไอ้โรคจิตใส่เจ็คเก็ตดำ ถุงมือขาวนั่งอยู่อีกข้างของประตูรถลีมูซีน ที่ผมนั่งไปโรงเรียนนี่ซิ ผมนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเช้า

                “ลูกโตขึ้นแล้ว อันตรายมีมาก อาจมีคนของบริษัทคู่แข่งต้องการตัวลูก”  พ่อพูด

                “แม้ยามของโรงเรียน ครูในห้องปกครอง ผู้อำนวยการ และสถานีตำรวจใกล้ๆ นั่น จะเป็นคนที่พ่อเค้าส่งไปคุ้มครองลูก แต่มันก็ไม่พอ พวกเขาไม่ได้อยู่กับลูกในห้องเรียน เวลาพัก หรือตอนเข้าห้องน้ำ แม่อยากมั่นใจว่าลูกปลอดภัยเต็มที่ และมีเพื่อน เพราะงั้นให้เคอัสไปโรงเรียนกับลูกด้วยละกัน” แม่ก็เอากะเขาด้วยครับ และแม้จะคัดค้านอย่างไรผมก็ต้องมีเคอัสไปโรงเรียนด้วยในที่สุด

                “ต้องไม่ลืมนะครับคุณเจอา ว่าที่โรงเรียน ผมเป็นพี่ชายของคุณเจอาที่เพิ่งกลับมาจากการทำหน้าที่เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศที่ฝรั่งเศส เราจะได้เรียนที่ห้องเดียวกัน และดูเป็นคนที่สนิทกันมากๆ” เคอัสพูดกับผมอย่างนอบน้อม

                “แน่นอนครับ ผมจำได้ดี” หึหึ วันนี้เป็นวันแก้แค้นนะเคอัส ผมใช้ไอแพดพิมพ์แผนการไล่ต้อนนายครูสอนพิเศษไส้เดือนนี่ที่คิดไว้ตั้งแต่กินข้าวเช้าอยู่ แล้วก็กดส่งให้เพื่อนๆ เรียบร้อย

    “เล่นไอแพดบนรถทุกวันเลยเหรอครับ แบบนี้จะเป็นการทำลายระบบประสาทการรับรู้ด้านการมองเห็นนะครับ” พูดซะทางการเชียว บ้าป่าวอยู่กันแค่สองคน ไม่ได้คุยกับประธานาธิบดีซะหน่อย

    “แค่วันนี้หรอกน่า เอาละ เสร็จแล้วอ่านซะ มันเป็นสิ่งที่นายต้องรู้ไว้” ผมยื่นไอแพดที่ได้ร่างข้อบัญญัติเล็กๆ น้อยๆ ไว้นะครับ

    “ครับ” เคอัสยื่นไอแพดไปอ่าน และกวาดสายตาอย่างรวดเร็ว เนื้อหาก็ประมาณว่า

    กฎของครูสอนพิเศษประจำตัวเจอา

    1.            ผมไม่ชอบพกเงิน แต่ชอบจ่ายเงินเยอะ ต่อจากนี้ คุณต้องเป็นกระเป๋าเงินให้ผม และต้องมีเงินเพียงพอ อย่าลืมว่าผมเคยโดนเรียนแล้วซื้อแฮลิคอปเตอร์บินไปปืนเขาละ ถ้าวันไหน เงินไม่พอคุณโดนไล่ออก

    2.            ผมไม่ชอบจัดกระเป๋าหนังสือ ไม่ชอบจดการบ้าน คุณต้องจัดการให้ผมแทน นั่นหมายความว่าหากวันไหนผมไม่พบยางลบโดราเอมอนในกระเป๋าดินสอ คุณโดนไล่ออก

    3.            ห้ามยุ่งกับทุกอย่างในกระเป๋าใส่ไอแพดสีแดงของผม หากมันโดนเปิดโดยคุณ คุณโดนไล่ออก

    .

    .

    .

    10. ทำทุกวิถีทางอย่าให้ใส่ดินสอมาอยู่ข้างๆ ผมเด็ดขาด ทำไม่ได้ คุณโดนไล่ออก

    มันไม่ใช่การแกล้งหรอกครับ นี่เป็นกฎจริงๆ แล้วผมก็ซีเรียจกับมันจริงๆด้วย คุณอย่าเผลอคิดจะแกล้งเอาไส้ดินสอกดมาใกล้ๆ ผมละ ไม่งั้นคุณจะโดนพ่อผมบังคับให้กินแมลงสาบเป็นเวลาหนึ่งปีเต็มแน่ๆ

    “ได้ครับ และก็สำหรับข้อสุดท้าย ผมได้เตรียมไว้แล้ว นี้เป็นริดแบนด์ แบบพิเศษ มันจะส่งสัญญาณให้คุณเจอาทราบเมื่อมีใส้ดินสอกดอยู่ใกล้ๆคุณเจอา ไม่ว่ามันจะอยู่ในกล่องใส่ไส้ดินสอ อยู่ในดินสอกด หรือแม้จะถูกซ่อนไว้ในตะแข็บเสื้อก็ตาม ครับ” ว้าว เจ้าริดแบนด์นี้มันเจ๋งขนาดนั้นเชียวเหรอ แต่ทำไมน้า ทำไมเราได้กลิ่นสังหรณ์แปลกๆ จากไอ้ริดแบนด์นี่ทำไมกัน

    “เจ๋งดีนี่ นายทำเองเหรอ ทำได้ไงอะ” ผมถาม

    “ทำเองครับ ใช้หลักการสแกนแบบสามมิติ โดยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความถี่สูงชนิดพิเศษ และหากคลื่นไม่ได้เพราะคุณสมบัติทางกายภาพเฉพาะของวัตถุ ก็จะมีระบบสแกนด้วยรังสี ซึ่งก็เป็นชนิดพิเศษที่ไม่ทำอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตครับ เป็นเทคโนโลยีของกองทัพครับ” อือ ใช้ไอ้นั้นเองเหรอ

    ตอนนี้พวกเรามาถึงโรงเรียนแล้วละครับ โรงเรียนของผมไม่ต้องเข้าแถวตอนเช้า พวกเราเลยเดินขึ้นห้องเรียนกันเลย ระหว่างทาง พวกสาวๆ ที่ปกติจะมองผม กลับหันไปมองเคอัสซะเกินครึ่งเลย แต่ผมสงสัยจริงๆ ว่ามันเป็นเพราะเขาหล่อ หรือเพราะไอ้ถุงมือเห่ยๆ นั่นหวา  555

    “นายเสน่ห์แรงดีนี่เจอา” เคอัสพูดกับผมแบบไม่มองหน้า น้ำเสียงเย้ยหยันเล็กๆ ต้องเล่นละครเป็นลูกพี่ลูกน้องกันแล้วซินะ รอเวลานี้อยู่ละซิ ร้ายอีกแล้วเคอัส

    “นายนะแหละ แย่งซีนฉันหมด” เฮอะ ก็มันจริงนี่น่า ดูซิเด็กสาวคนนั้นถึงกับถ่ายรูปลงเฟสบุ๊คเลยทีเดียว

     

    ที่โรงเรียนก็นับว่าหมอนี่ทำได้ดีทีเดียว พวกเราดูเป็นพี่น้องที่เข้ากันดีมากๆ และเคอัสก็เข้ากันได้กับเพื่อนๆ นักเรียนทุกคนในห้อง

    เพียงแต่ว่า

    พออาจารย์วิชาคณิตศาสตร์ถามหาค่าลอกกาลิทึมของสิบเจ็ด ฐานสิบ หมอนี่ก็ตอบว่า 1.2304

    พออาจารย์วิชาเคมีถามถึงบุคคลแรกที่กล่าวถึงทฤษฎีอะตอม หมอนี่ก็ตอบว่าดอลตัน

    พออาจารย์ชีวะถามว่าอะไรคือ metaphase หมอนี่ก็ตอบว่าเป็นระยะหนึ่งของการแบ่งเซลล์ ที่มีลักษณะเด่นคือโครโมโซมเคลื่อนที่เรียงตัวตามแนวกึ่งกลางของเซลล์อย่างเห็นได้ชัด จากกล้องจุลทรรศน์

    และหากอาจารย์วิชาฟิสิกส์ถามถึงลายปลอกหมอนข้างของไอน์สไตน์ หมอนี่ก็คงตอบได้ว่าเป็นลายเซลามูน หรือชินจัง

    หากคุณนึกภาพไม่ออกละก็ ผมจะอธิบายให้เข้าใจอีกครั้ง มันเป็นภาพของเด็กหนุ่มสองคนที่นั่งด้วยกัน เป็นพี่น้องกัน คนหนึ่งรูปร่างสูงใหญ่ นั่นคือเคอัส อีกคนออกจะผอมๆ หน่อย นั่นคือผม คนหนึ่งตอบคำถามอาจารย์ได้ทุกคำถาม แต่อีกคนนึงตอบไม่ได้เลย จากข้อมูลนี้ทำให้หลายคนในโต๊ะข้างๆ กระซิบกระซาบกันอย่างซีเรียส ในทฤษฎีที่ว่า  เคอัสเป็นลูกของพ่อและแม่ แต่ผมเป็นลูกชูกับคนข้างบ้าน หรือไม่ก็เด็กที่เก็บมาเลี้ยงจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า -*-

    เอาละครับ เวลาพักเที่ยงมาถึงแล้ว ถึงเวลาที่แผนของผมจะได้ดำเนินการซะที

    ผมและเคอัสกันอาหารเที่ยงธรรมดาๆ ที่โรงอาหารเหมือนคนอื่นๆ เพราะไม่อยากให้เป็นจุดสนใจของคนรอบข้าง แม้การนั่งลีมูซีนมาโรงเรียนจะไม่ธรรมดานัก แต่อย่างอื่นต้องดูธรรมดาละกัน

    เราเดินถือจานข้าวคนละจาน และกำลังจะไปนั่งกินกับโต๊ะประจำของเพื่อนๆ ในห้อง ผมปล่อยให้เคอัสเดินไปข้างหน้า แกล้งหกล้ม แล้วสปาเก๊ตตี้จานใหญ่ ซอสเหนียวหนึบในจานของผมก็ลอยไปโป๊ะเต็มๆ อยู่บนหัวของรุ่นพี่ ม.6 ในโต๊ะใกล้ๆ

    เค้าเป็นรุ่นพี่หัวหน้าชมรมนักกีฬาซูโม่ของโรงเรียน มองไกลๆ อาจคิดว่าเป็นหมีขั้วโลก ผมว่าน้ำหนักพี่ท่านคงประมาณสองร้อยเกือบๆ จะสามร้อยกิโลกรัมได้มั้ง พี่เขาเดินมาหาผมอย่างหาเรื่อง หน้าตาบิดเบี้ยวด้วยความโมโห และดูเหมือนจะไม่สนใจที่จะเอาเส้นสปาเก็ตตี้บนศรีษะออกแม้แต่น้อย

    ที่จริงนี่เป็นแผนที่ผมเตรียมไว้ครับ รุ่นพี่คนนี้มีความลับมากมายที่ผมรู้ และผมก็เอามาขู่เพื่อให้พี่เขาช่วยผมในแผนนี้ แลกกับที่ผมจะเก็บความลับของพี่เค้าไว้ ใช่แล้วครับ พี่เค้าได้ข้อความจากไอแพดผม ซึ่งในนั้นระบุไว้ชัดเจน ว่าเคอัสจะมาช่วยผม จากนั้นก็ให้จัดการเคอัสยังไงก็ได้ ให้เขาเลิกคิดที่จะเหยียบโรงเรียนนี้อีก เอาละทีนี้รู้กันยังครับว่าผมมันร้าย หรือว่าที่จริง ชั่วร้าย ต่างหาก 555

    ผมนึกถึงกฎข้อที่ 6 ที่ให้ไว้กับเคอัส “ผมซุ่มซามมาก นั่นทำให้ผมมีเรื่องกับเพื่อนบ่อยๆ ต่อจากนี้คุณต้องคอยจัดการเรื่องเหล่านี้ให้ผม หากผมโดนทำร้ายแม้เพียงเล็กน้อย คุณโดนไล่ออก”

    เคอัสวางจานข้าว และกระเป๋าหนังสือลงที่โต๊ะข้างๆ แล้วเข้ามาขวางระหว่างผม กับพี่หมีขั้วโลก

    “ผมต้องขอโทษแทนน้องชายผมด้วยละกัน” เคอัสพูดอย่างสุภาพ

    “ไม่ได้ น้องชายนายต้องโดนฉันต่อยก่อนฉันถึงจะพอใจ” เอาละนายจะทำยังไงเคอัส อย่าบอกนะ ว่าจะสู้กับพี่หมีขั้วโลกนี่ 555

    “งั้นคุณคงต้องมาสู้กับผมแล้วละครับ” ฮะ? อะไรของนาย พี่หมีแกไม่ได้มีดีเพียงชั้นไขมันกันกระสุนหรอกนะ แกเป็นนักกีฬาซูโม่อันดับหนึ่งของโรงเรียนเชียวล่ะ

    “ต๋อยกับแกเหรอ ได้ไอ้ขี้เต้ะ” และพี่หมีก็คำรามออกมาดังลั่น ย่อเข่าตั้งท่ามาตรฐานนักซูโม่ แล้วพุ่งตัวไปหาเคอัสด้วยความเร็วที่ยากจะเชื่อ นักเรียนหญิงแถวๆ นั้นกรีดร้องด้วยความหวาดเสียว หลายคนปิดตา หลายคนกลั้นหายใจ และหลายคนถ่ายรูปลงเฟสบุ๊ค!!

    แต่เหลือเชื่อครับ สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเร็วมาก นั่นคือ เมื่อพี่หมีพุ่งตัวใกล้ถึงเคอัส เคอัสก็เบี่ยงตัวหลบได้อย่างเฉียดฉิว พลางจับข้อมือของพี่หมีบิดมาแนบกับข้างหลังของพี่หมี อย่างน่าหวาดเสียวว่าแขนจะหัก พี่หมีร้องคำรามด้วยความเจ็บปวด และต้องล้มตัวลงเพราะเสียการทรงตัว แต่เคอัสไม่ยอม เขาดึงแขนพี่หมีเพื่อไม่ให้ล้มลงนอนอย่างสบายๆ เกิดเสียงดัง กรึก เหมือนมีอะไรหัก จากนั้นเคอัสก็ถีบพี่หมีเข้าอย่างจัง แม้จะเป็นลูกถีบระยะประชิด แต่ไม่รู้เคอัสเอาแรงมาจากไหน มันส่งผลให้พี่หมีกระเด็นไปไกละ และได้ยินเสียงดังแผละ ซึ่งก็คือเสียงไขมันกระทบพื้นโรงอาหารอย่างแรงนั่นเอง

    คงไม่ต้องบอกว่าพี่หมีหมดสภาพแค่ไหน

    ผมรีบเห็นไปที่กระเป๋าของเคอัส ในนั้นมีข้าวของของผมอยู่ด้วย เอิธ เพื่อนร่วมห้องผมที่ยืนอยู่ข้างกระเป๋าส่งสัญญานให้รู้ว่าแผนการสำเร็จแล้ว

    ครับ ดูเหมือนแผนพี่หมีจัดการเคอัสจะไม่สำเร็จ แต่ผมแผนสำรองผมสำเร็จแล้วกว่าครึ่ง

    นั่นคือ ระหว่างเคอัสจัดการพี่หมี ผมให้เพื่อน ขโมยกระเป๋าดินสอของผมที่เคอัสวางไว้ก่อนไปสู้กับพี่หมีไปซ่อนนั้นเอง เอาละ ของผมหายนายโดนไล่ออกแน่เคอัส

    “ฝีมือไม่เลวเลยนะครับพี่” พี่ทำทีเป็นยอเคอัส

    “ก็นิดหน่อยนะ นายไปกินข้าวก่อนละกันฉันขอเข้าห้องน้ำแป็ปนึง” เหอะๆ ไปเถอะ แล้วก็กลับมาพร้อมข้าวร้ายที่ว่านายโดนไล่ออก

    ระหว่างเคอัสไปห้องน้ำ ผมก็ซื้อสปาเก็ตตี้จานใหม่ แล้วก็กินไปพลางๆ ไม่ลืมที่จะค้นกระเป๋าหนังสือของเคอัสดูให้แน่ใจว่าไม่มีกระเป๋าดินสอของผมอยู่

    “กัปตันเอาไปซ่อนให้แล้วเจอา นายไม่ต้องเป็นห่วง เรื่องชั่วๆ กัปตันมันถนัดอยู่แล้ว” เอิร์ธบอกผม

    “ใครทำอะไรชั่วๆ เหรอ?” เบส ที่นั่งกินข้าวใกล้ๆ ผมถาม

    “อ๋อ ป่าวหรอก หึหึ” ผมแกล้งมีลับลมคมใน

    “อ้าว ปิดบังกันนี่น่า ต้องมีอะไรแน่ๆ บอกมาเลยนะเจอา” เบสไม่ยอมเลิกรา ระหว่างนั้นเคอัสก็มาถึง

    “พี่เคอัส เจอาเขามีความลับปกปิดพวกเราละ” เบสฟ้อง

    “คงไม่มีอะไรหรอกเบส เจอามันก็บ้าๆ บอๆ คงหลอกให้พวกเราสงสัยหรอกน่า 555” ทำเป็นพูดดี จิกกัดฉันไปเถอะเคอัส นายกำลังจะโดนไล่ออกแล้วรู้ไว้ซะ

    “กระเป๋าดินสอผมหายแนะครับ พี่เคอัส” ผมปั้นรอยยิ้มที่แสนดีไปให้เคอัส ซึ่งหวังว่าเขาต้องมองออกว่า มันเป็นรอยยิ้มของผู้ชนะ




    ..................................................................................................................................
    ไรเตอร์เองครับ นิยายเรื่องนี้ผมตั้งใจเขียนมากเลยน้า ยังไงซะอ่านแล้วก็ขอคอมเม้นกันหน่อยละกันนาครับ มีคำถามอะไร อยากแนะนำ หรือพบพิมพ์ผิดตรงไหน คอมเม้นไว้หน่อยนะครับ ขอคอมเม้นเยอะๆ จะได้มีกำลังใจเขียนครับ ยังไงซะก็อยากบอกไว้หน่อยนะครับ ว่าผมนะ "คำชมมาผมชอบ แต่คำติมา ผมชอบกว่า" ครับ^^ 


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×