คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : BE IN LOVE 3 ♥ - Macaron
#ฟิคซรบอล
BE IN LOVE 3 ♥
จูฮยอนหนึ่ง.
<วันนี้ฉันเข้าบ่ายนะ พอดีมีธุระด่วนกับแม่ แต่ฉันรู้ว่าแกจะเหงา แกจะว้าเหว่ แกจะคิดถึงฉัน เพราะงั้นเดี๋ยวเจอกันนะจ้ะ จากคนสวยหน้าตาดีอนาคตนางแบบวิคตอเรียซีเคร็ท
จูฮยอนสอง.
>ได้ยินเสียงจากคนไกลอย่างฉันมั้ยว่ามาเร็วๆนะ.. ฮื่อ
*สติกเกอร์ริลัคคุมะเกาะจรวด*
จูฮยอนหนึ่ง.
<คนไกลนี่ไรอ่ะ เกาะจรวดด้วย หมายถึงองค์กรนาซ่าหรอ
จูฮยอนสอง.
>………….
>แอบอัพเซ้นส์วาไรตี้มาหรอ ใช้ได้นะแก #ผมนี่พูดไม่ออกเลย
จูฮยอนหนึ่ง.
<เซ้นส์วาไรตี้ติดลบแต่ถ้าลองคบแล้วจะติดใจ #โอ้โห #ผมนี่อ้วกเป็นพายฟักทองเลย
จูฮยอนสอง.
>ย๊า!! ซอจูฮยอน
จูฮยอนหนึ่ง.
<แหม ก็แค่แซวแบบอะลิตเติ้ลบิท แซวนิดๆ แซวคิกคัก
*สติกเกอร์หมีบราวน์เต้นระบำ*
จูฮยอนสอง.
>แกนี่มัน..
*สติกเกอร์โคนี่เตะหมีบราวน์*
*สติกเกอร์โคนี่เตะหมีบราวน์*
*สติกเกอร์โคนี่เตะหมีบราวน์*
*สติกเกอร์โคนี่เตะหมีบราวน์*
จูฮยอนหนึ่ง.
<ฮิ เดี๋ยวขับรถแป๊ป เหงาเมื่อไหร่ก็ไลน์มาหาพี่ได้ตลอดนะจ้ะ
*สติกเกอร์หมีบราวน์ยืนเขิน*
จูฮยอนสอง.
>ย่ะ!!!
เรื่องวุ่นๆวันนี้ก็เป็นอย่างที่เห็น.. ซอจูฮยอนดันมีธุระกระทันหันส่งผลให้เช้านี้เบจูฮยอนสาวร่างเล็กไซส์เด็กประถมต้องนั่งที่โต๊ะม้าหินหน้าคณะคนเดียวต่างจากทุกวัน แต่ที่แปลกตาไปซักหน่อยก็คงจะเป็นกล่องพลาสติกลายหมีพูห์และผองเพื่อนที่น่ารักที่ภายในบรรจุพายฟักทองจำนวนหนึ่งไว้พร้อมโพสอิทเล็กๆ
‘เรื่องเมื่อวาน.. ขอบคุณนะคะ (;
จากพี่แฝดฮยอนเบอร์ 2’
เบจูฮยอนฟุบหน้าลงกับกระเป๋าบนโต๊ะ มือเล็กหยิบสายหูฟังสีขาวขึ้นเสียบก่อนกดเพลย์ลิสต์เดิมๆที่ตั้งชื่อว่า ‘คังซึลกิ’ ให้เริ่มทำงาน นัยน์ตาสวยค่อยๆปิดลง โลกส่วนตัวของคนตัวเล็กก่อตัวขึ้นอีกครั้ง อยู่คนเดียวมันน่าเบื่ออะไรแบบนี้นะ จะคุยกับจูฮยอนหนึ่งก็เกรงใจเพราะกำลังขับรถอยู่ จะขึ้นเรียนตอนนี้ก็ยังเร็วไปอีก บางทีเธออาจจะโดดไปนั่งห้องสมุดหรือแอบงีบหลับต่อซักประมาณ 20 นาทีน่ะนะ.. ถ้าไม่ติดว่ารู้สึกเหมือนมีบางอย่างมารบกวนเวลานอนของเธอในตอนนี้
จึ้ก จึ้ก..
ความรู้สึกเหมือนอะไรมาจิ้มๆตรงหัวไหล่.. นี่ขนาดเธอหลับตานอนอยู่ยังมีใครหน้าไหนกล้ามาสะกิดคนที่สภาพกำลังเฝ้าพระอินทร์อีกหรอ คิ้วสวยของเบจูฮยอนขมวดเข้ากัน ใบหน้าใสๆแสดงออกชัดเจนว่าไม่พอใจทั้งที่ไม่ลืมตาขึ้นมอง ทำเป็นไม่รู้สึกอะไรเดี๋ยวสิ่งที่กวนใจก็คงหายไปเองมั้ง.. แต่เบจูฮยอนคิดผิด เจ้าของมือที่คอยสะกิดกวนใจนั้นไม่หายไปไหนแถมยังสะกิดไม่หยุดอีกต่างหาก ความอดทนเส้นสุดท้ายของเบจูฮยอนหมดลงพร้อมหันไปโวยวายใส่ผู้เคราะห์ร้ายปริศนาที่นั่งไม่รู้ชะตากรรมต่อจากนี้อยู่..
“โอ้ย!! สะกิดอยู่ได้ นิ้วติดสปริงไว้หรอ!! อะ.. อ้าว ซึลกิ” อารมณ์หงุดหงิดตอนแรกเปลี่ยนเป็นความอายจนหมดสิ้นเมื่อความจริงถูกเฉลยว่าบุคคลที่เบจูฮยอนแอบว่าในใจไปเมื่อกี้คือใคร.. เด็กบ้าคังซึลกิ
“อ่า.. ฉันขอโทษนะคะที่ทำให้พี่ไม่พอใจ ฉันเห็นพี่นั่งอยู่เลยอยากเข้ามาทักทายน่ะค่ะ พี่ไม่โกรธฉันได้มั้ยคะ?” เจ้าของนัยน์ตาขีดเดียว(สรรพนามที่จูฮยอนหนึ่งบัญญัติไว้)กำลังทำหน้าเป็นหมีหงอย.. คังซึลกิก็แค่อยากเล่นกับพี่แฝดฮยอนเบอร์สองเฉยๆนี่นา อีกอย่างเธอเล่นแบบนี้กับใครก็ยังไม่เคยโดนดุเลยซักครั้ง สงสัยครั้งนี้จะเล่นมากไปหน่อย.. คังซึลกิโดนพี่จูฮยอนดุ ถ้าจะงอแงได้รึเปล่านะ? พี่เค้าจะหงุดหงิดใส่อีกรอบมั้ย? ความคิดของลูกหมีซึลกิเบอร์หนึ่งและเบอร์สองตีกันในหัว.. นี่คังซึลกิกลายเป็นคนคิดมากแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่เนี้ย???
“พี่ไม่ได้โกรธซักหน่อย ดูทำหน้าเข้าสิ.. นี่ซึลกิ เลิกทำหน้าเป็นหมีพูห์อดกินน้ำผึ้งได้แล้ว” นับเป็นประโยคที่ยาวที่สุดนับตั้งแต่รู้จักกันมาหลุดออกจากปากเบจูฮยอน ใครๆต่างก็รู้ว่าเบจูฮยอนเป็นพวกชอบสกินชิพ.. ความน่ารักของซึลกิทำให้เธอเผลอเอื้อมมือไปบีบแก้มทั้งสองข้างของเค้าอย่างหมั่นเขี้ยว คังซึลกิไม่ปฏิเสธอะไร เค้าโวยวายเล็กน้อยแต่ก็ยอมให้เธอเล่นอยู่แบบนั้น รอยยิ้มกว้างและเสียงหัวเราะสดใสจากคนทั้งคู่เรียกสายตาจากคนรอบข้างที่นั่งอยู่บริเวณนั้นได้เป็นอย่างดี เบจูฮยอนกำลังลืมตัว.. กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ละมือออกจากใบหน้าของเด็กข้างๆแล้วเห็นรอยยิ้มหมีๆถูกส่งมา
“ฉันดีใจนะคะที่พี่เริ่มเป็นกันเองกับฉันแล้ว รอมาตั้งนานแหน่ะ” เด็กที่ชื่อคังซึลกิยิ้มนานๆแบบนี้ไม่เมื่อยแก้มบ้างหรือไงนะ.. เบจูฮยอนไม่ได้สนใจสิ่งที่เด็กนี่พูดมาหรอก เรียกว่าไม่ได้ฟังเลยคงจะดีกว่า.. ก็ตอนนี้น่ะ พี่สาวคนนี้กำลังอยู่ในภวังค์แห่งความน่ารักของคังซึลกินี่นา<3
アンアンアン とってもだいすきドラえもん~
(ลั่น~ลัน~ลา~ ชอบโดเรมอนที่สุดเลย~)
ซึลกิมุ่ยหน้าเมื่อเห็นรายชื่อคนที่โทรมา ก็จะเป็นใครได้ซะอีกล่ะ.. หนีไม่พ้นหนึ่งในแก๊งเทเลทับบี้ที่คงโทรมาถามว่าถึงไหนแล้ว เค้าก็แค่เข้าคณะสายเฉยๆแต่เพื่อนพวกนี้ทำอย่างกับคังซึลกิกำลังจะกลายเป็นบุคคลหายสาบสูญงั้นแหละ เด็กตาขีดเดียวหันมาหาเธอและทำมือเป็นชี้ๆที่โทรศัพท์ของตัวเองเหมือนจะขออนุญาตรับ ซึ่งเบจูฮยอนก็ได้แต่พยักหน้าเออออตามไปอย่างงงๆ จะขออนุญาตพี่ทำไมเนี้ย?.. แต่สิ่งที่ทำให้เบจูฮยอนคนนี้ถึงกับอุทานในใจเบาๆคือเรื่องเสียงเรียกเข้าของเด็กตาตี่ตรงหน้านี่แหละ สาบานเถอะว่านั่นคือเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ซึลกิจริงๆ เบจูฮยอนแทบไม่เชื่อหูตัวเอง.. เพลงโดเรม่อน???
“ห้ะ!! พี่เค้าเข้ามาที่คณะ? ตอนนี้กำลังรอฉันอยู่?” จูฮยอนนั่งมองซึลกิเงียบๆราวกับเก็บรายละเอียด ซึลกิตาเล็กจริงๆนั่นแหละ.. ขนาดตกใจยังดูแทบไม่ออกเลยว่าตาโตขึ้นแล้ว ฮื่อ คบกับพี่มั้ยเดี๋ยวคอยกรีดอายไลน์เนอร์ให้ พี่แต่งหน้าเก่งนะซึลกิยา<3
“พี่เจสสิก้าไม่ใช่ของฉัน แกพูดให้มันดีๆหน่อยเวนดี้” อะไรนะ.. เจสสิก้า? ของซึลกิ?
“รู้แล้วๆจะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละ” จบการสนทนาฉบับเร่งรัดของคังซึลกิกับซนเวนดี้ ใจความก็มีแค่เร่งให้รีบไปที่คณะเพราะมีรุ่นพี่รออยู่ แต่ความเวนดี้ก็เวนดี้จริงๆ.. พูดอะไรเวิ่นเว้อเยอะแยะก็ไม่รู้ ซึลกิเก็บโทรศัพท์ของตัวเองก่อนจะยิ้มให้พี่สาวแฝดฮยอนเบอร์สองที่กำลังนั่งมองเธออยู่
“ฉันไปก่อนนะคะ พอดีที่คณะมีเรื่องวุ่นๆนิดหน่อย” คังซึลกิลุกขึ้นและโค้งให้เธอ เขาโบกมือบ๊ายบายสองสามครั้งแล้วรีบหันหลังเดินออกไป อีกครั้ง.. ที่เบจูฮยอนต้องเรียกให้เด็กตาตี่นั่นหันกลับมา
“ซะ ซึลกิ เดี๋ยวก่อน!!”
“คะ?” เขาหันกลับมามองแบบงงๆ แต่สุดท้ายก็ยิ้มออกมาจนตาที่เบจูฮยอนเคยคิดว่ามันเล็กจนแทบมองอะไรไม่เห็นเกือบจะกลายเป็นเส้นตรงเมื่อรู้ว่าสาเหตุที่รุ่นพี่ตัวเล็กเรียกเขาอีกครั้งเพราะอะไร
“พี่เอาพายฟักทองมาให้.. ตามที่บอกวันนั้นไง” เบจูฮยอนยื่นถุงกระดาษสีชมพูงานแฮนด์เมดที่เพ้นท์ลายน่ารักๆที่ภายในบรรจุกล่องพายฟักทองที่เธอทำด้วยตัวเองให้ซึลกิ จู่ๆก็รู้สึกอยากหนีหายไปจากสถานการณ์ตอนนี้ชะมัด.. จูฮยอนไม่เคยทำอะไรแบบนี้ให้ใครเลยนะรู้รึเปล่า
“ขอบคุณนะคะ ฉันจะกินให้หมดเลย” เขายิ้มราวกับเด็กๆและถือถุงกระดาษขึ้นมาระดับใบหน้าเหมือนจะโชว์ว่าพายฟักทองพวกเนี้ยะ ไม่รอดพ้นคังซึลกิคนนี้หรอก
“อ่ะ.. อื้อ” อาการประหยัดถ้อยคำเริ่มกลับมารบกวนเบจูฮยอนอีกครั้ง ทำไงได้ล่ะ นับวันความรู้สึก ‘หลงเด็ก’ ของเธอก็ดูจะมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งพออยู่ใกล้ๆกันด้วยแล้วยิ่งทำอะไรไม่ถูก น่าอายชะมัด..
“แล้วเจอกันใหม่นะคะ บ๊ายบาย~” ซึลกิโบกมือให้เธอเป็นครั้งสุดท้ายและรีบวิ่งไปทางคณะของเค้าที่ห่างจากคณะของเธอไปไม่เท่าไหร่ เบจูฮยอนมองตามเด็กคนนั้นวิ่งไปจนลับสายตา และตามประสาคนที่ชอบเป็นห่วงคนอื่น(โดยเฉพาะเด็กที่ชื่อคังซึลกิ) เบจูฮยอนก็แอบกังวลหน่อยๆว่าถุงกระดาษนั่นจะทำให้ซึลกิของพี่วิ่งลำบากรึเปล่านะ?
“อ่ะโหยยยยยยยยยย กว่าจะมาาาาาา อีกนิดนึงนี่กลับบ้านเลยดีกว่ามั้งงงงงง” ยังไม่ทันที่ซึลกิจะนั่งพัก เสียงนกเสียงกาเสียงเทเลทับบี้ก็เข้ามารบกวนโสตประสาทจนต้องแยกเขี้ยวใส่ มาถึงปุ๊ปก็แซะกันเลยนะ คนยิ่งเหนื่อยๆอยู่
“พูดมาก” คนตาตี่ค่อยๆวางถุงกระดาษในมือลงกับโต๊ะอย่างเบามือ บอกเลยว่าตอนนี้ซึลกิไม่มีอารมณ์จะเถียงกับใครทั้งนั้นเพราะแค่รู้ล่วงหน้าว่าจะต้องรับมือกับรุ่นพี่สายรหัสในตำนานอย่าง ‘จอง เจสสิก้า’ ก็แทบอยากจะมุดแผ่นดินหนีแล้ว ได้ยินชื่อเฉยๆยังรู้สึกว่าโดนดูดพลังชีวิตไปแล้วเลย
“แหมๆๆๆ ตื่นเต้นล่ะสิได้เจอ ‘หม่อมแม่’ ทั้งที” คังซึลกิอยากจะกลอกตาไปมาซักร้อยล้านตลบ.. เวนดี้ช่างเป็นคนที่ยกยอและทาสรักรุ่นพี่เจสสิก้าจริงๆ เอาที่สบายใจเลยเนอะเพื่อนเนอะ..
“ทำมาเป็นหน้าบึ้ง โถ่ๆ ข้างในนี่ตื่นเต้นจนแทบทนไม่ไหวใช่มั้ยตึลกิยา~” ตึลกิบ้านแกสิ.. ซึลกิถอนหายใจอย่างเอือมระอา หมดแรงจะเถียงกับเวนดี้ซนละ รู้สึกเถียงไปก็เปลืองพลังชีวิตมาก เพราะอะไรรู้มั้ย? เพราะเถียงอะไรไม่เคยชนะไง.. #โถ่
“อิเจ๊ก็ไม่ได้แย่อะไรขนาดน๊านนน สวยขึ้นกว่าครั้งล่าสุดที่เจอเป็นขุม เห็นว่าเป็นเน็ตไอดอลด้วยนะ แต่ไม่ได้ขายครีมนะแก นี่ขายแว่น เป็นแง้ะ เน็ตไอดอลแบบมีสไตล์สุดไรสุด” ซอลลี่หยิบขนมเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆและพูดถึง ‘อิเจ๊’ อย่างออกรส นี่บอกไว้ตรงนี้เลยว่าสรรพนามที่ชเวซอลลี่พูดถึงว่าอิเจ๊และที่ซนเวนดี้พูดว่าหม่อมแม่คือคนๆเดียวกัน..
“เออ แต่เจ๊เค้าก็สวยขึ้นจริงนะ เสียอย่างเดียวเจ๊ชอบแว้ดๆใส่อ่ะ เมื่อกี้ตอนมาถึงละไม่เจอแกก็เป็นอีกละ ฉันนี่แทบอยากไปซื้อที่อุดหูแจกคนในคณะ คิดว่าสวยแล้วทำอะไรก็ได้หรอวะ” ตอนแรกก็นึกว่าแอมเบอร์จะหลงเจ๊นะ ไปๆมาๆ อ้าว ชมประโยคเดียวแต่ที่เหลือยาวเป็นทางรถไฟนี่นินทาเจ๊นี่หว่า
ยังไม่ทันที่คังซึลกิจะได้พูดถึงรุ่นพี่เจสสิก้าร่วมในบทสนาทกับเพื่อนๆ เสียงทักทายดังลั่นจากหน้าตึกก็คงจะคอนเฟิร์มได้อย่างดีว่าเวลานี้ ‘อิเจ๊’ (ที่ซอลลี่กับแอมเบอร์เรียก) หรือ ‘หม่อมแม่’ (ที่เวนดี้เรียก) ได้ปรากฏตัวขึ้นแล้ว ให้ตายเถอะ..
“ฮายยยยยยย~ ซึลกิของเจ๊ยังน่ารักเหมือนเดิมเลยนะเนี้ย ไม่สิ ไม่ๆ น่ารักกว่าเดิมต่างหาก หมีน้อย~” การทักทายของรุ่นพี่เจสสิก้าก็เป็นแบบนี้แหละ.. ตรงเข้ามากอด ต่อด้วยการบีบแก้ม คิดถึงมากหน่อยก็หอมแก้มอีกสองสามที ฟัดเธอจนหนำใจแล้วก็กอดแขนไม่ปล่อยไปไหน.. แถมยังชอบทิ้งร่องรอยลิปสติกสีแดงแจ๊ดของตัวเองไว้ที่เสื้อเธออีก เพราะแบบนี้ไงคังซึลกิถึงไม่อยากเจอ.. เจ๊เป็นคนหรือเถาวัลย์เนี้ยชอบเลื้อยจัง
“โอ้โห ตอนทักเรานี่ทำยังไงนะ ใช่ชี้หน้าด่าเรียงตัวป้ะ.. สองมาตรฐานกว่าลุงขายฝรั่งหน้าม.ก็อิเจ๊เนี้ยแหละ” ถึงซอลลี่จะชินกับการเห็นวิธีทักทายของรุ่นพี่คนสนิทมาหลายครั้งแต่ก็แอบซุบซิบนินทากับเพื่อนร่วมขบวนการอย่างแอมเบอร์ไม่ได้อยู่ดี ซึ่งอีกฝ่ายก็ดูจะเห็นด้วยไม่ต่างกัน #ถถถถถถถถถถถถ
“ซึลกิ~ ร่างกายเจ๊ต้องการของหวานอ่ะ ซึลกิสนใจมาเป็นของหวานให้เจ๊มั้ย” ถ้าใครไม่รู้จักมาได้ยินก็คงจะคิดว่าอิเจ๊นี่จะหลงใหลการกินเด็กอะไรขนาดนี้.. แต่ถ้าเรียกให้ถูกก็คงเป็นความเอ็นดูรุ่นน้องในวิธีของเจสสิก้ามากกว่า พวกเรารู้ๆกันอยู่ว่าเป็นการหยอกขำๆ (แต่เรื่องเจ๊ชอบเลื้อยนี่ของจริง) ความจริงทั้งเวนดี้ แอมเบอร์ ซึลกิ ซอลลี่ ถือเป็นรุ่นน้องที่สนิทอันดับต้นๆของเจสสิก้าทั้งนั้น อีกอย่างถ้าไม่สนิทกันจริงก็คงจะไม่ได้เห็นโหมดนี้ของเจสสิก้าหรอก เพราะภายนอกสิ่งที่คนส่วนใหญ่เห็นก็จะเป็นรุ่นพี่เจสสิก้าจองที่สืบสายรหัสคนดังแล้วปังที่สุด ถือเป็นตำนานของคณะเลยก็ว่าได้
“อื้อหือ.. ผมนี่ยอมสกิลหม่อมแม่เลย” เวนดี้อ้าปากค้างหลังจากได้ยินมุขเต๊าะเด็กใหม่ล่าสุดจากปากเจสสิก้า ความจริงมุขอ่ะไม่ใหม่หรอก แต่อึ้งความกล้าเล่นมุขของเจสสิก้ามากกว่า ใครจะไปคิดว่าผู้หญิงนิ่งๆที่รู้จักเมื่อหลายปีก่อนจะเป็นแบบนี้ไปได้
“…………” คังซึลกิอยากตอบเจ๊เค้านะ แต่ก็ไม่รู้จะตอบอะไรดี ที่เจ๊หายหน้าไปนานๆนี่ไปฝึกอะไรแบบนี้มาหรอ
“โห กิอ่ะไม่รับมุขเจ๊เลย แต่เจ๊อยากกินหนมจริงนะ เห็นสามคนนี้บอกมาการองแถวนี้อร่อย พาเจ๊ไปซื้อหน่อยดิ” เจสสิก้าใช้สายตาที่คิดว่าออดอ้อนที่สุดเท่าที่จะทำได้ใส่น้องคนสนิท บอกไว้เลยว่ากับแฟนเจ๊ยังไม่ทำขนาดนี้ เพราะอะไร? เพราะเจ๊สวยและรวยมากจนไม่ต้องง้อใครใช่มั้ย? ไม่ใช่หรอก เจ๊ยังไม่มีแฟนต่างหาก ถถถถถถถถถถถถถ
“โอเคๆ เจ๊ไม่ต้องลงทุนทำสายตาแบบนั้นก็ได้นะ” ซึลกิส่ายหน้ายิ้มๆใส่รุ่นพี่คนสวยที่ตอนนี้แสดงท่าทางดีใจซะโอเวอร์ ความจริงเจสสิก้าก็เป็นพี่ที่เธอรักและเคารพมากๆคนนึง แต่อยากบอกให้เจ๊ได้ยินนะ ไม่งั้นคงลอยไปไกล เห็นเหวี่ยงๆแบบนั้นแต่พอเวลาซึ้งทีเจ๊หน้าแดงยิ่งกว่าอันปังแมนอีก (ไม่เทียบกับมะเขือเทศหรอกมันธรรมดาไป)
“ฝากของด้วยนะ ห้ามยุ่ง ห้ามกิน เข้าใจป้ะ” ซึลกิลุกขึ้นโดยมีเจสสิก้ายืนควงแขนอยู่ข้างๆพร้อมหันมากำชับใส่เพื่อนสนิททั้งสามคนที่นั่งเฝ้าโต๊ะอยู่ให้ดูแลถุงพายฟักทองดีๆ ที่ต้องบอกว่าห้ามกินไม่ใช่เพราะซึลกิเป็นคนหวงของหรอกนะ แต่เพราะทุกครั้งที่มีใครให้ขนมมาก็จะเป็นอันรู้กันในกลุ่มว่าสามารถหยิบกินได้เลย แต่ครั้งนี้ไม่ได้หรอก พี่จูฮยอนอุตส่าตั้งใจทำมาให้เธอนี่นา..
แก๊งเทเลทับบี้ที่เหลืออยู่พยักหน้าอย่างว่าง่าย ถ้าเปรียบเป็นเด็กก็คงเหมือนเด็กแสบที่ฉาบไว้ด้วยใบหน้าซื่อๆ.. เพราะอะไรน่ะหรอ เพราะหลังจากที่คังซึลกิเดินไป สามแสบทั้งหลายก็เริ่มทำการสำรวจของในถุงกระดาษน่ารักๆนี่ทันที นี่มัน.. พายฟักทอง?
สามเพื่อนรักมองหน้ากันอย่างต้องการคำตอบ คิ้วของแอมเบอร์ขมวดเข้าหากันอัตโนมัติที่เห็นขนมในกล่อง ซอลลี่ก็ได้แต่หยักไหล่เอียงคอเป็นเชิงว่า ‘ก็ไม่รู้สินะ’ ส่วนเวนดี้ก็ทำหน้าที่เป็นผู้เปิดประเด็นอย่างสมบูรณ์แบบ
“ที่มันตั้งตัสวันนั้นนี่อยากกินจริงดิ นึกว่าตั้งเล่นๆนะนั่นน่ะ” เวนดี้นึกย้อนไปถึงสเตตัสของคังซึลกิเมื่อหลายวันก่อน จำได้ว่าเธอยังไปกดไลค์อยู่เลย ซึลกิเนี้ยนะอยากกินพายฟักทอง?
“ก็อยากลองอะไรใหม่ๆบ้างไง ไม่มีไรหรอกมั้ง” ซอลลี่ดูเหมือนจะไม่ค่อยสนใจประเด็นที่เวนดี้เปิดขึ้นมาเท่าไหร่ ซึลกิเป็นคนชอบกินของหวาน พวกขนมทั้งหลายแหล่ก็ไปสรรหามากินจนได้ นี่ก็คงอยากลองขนมใหม่ๆเฉยๆแหละมั้ง
“บ้า แกก็รู้ว่ามันไม่ชอบ” แอมเบอร์หันมาแย้งใส่ซอลลี่ทันควัน ครั้งล่าสุดที่กินข้าวพร้อมซึลกิแล้วบนโต๊ะมีเมนูฟักทองก็คงเป็นเมื่อ 2-3 ปีก่อน ตอนที่พึ่งรู้จักกันนั่นแหละ
เวนดี้พยักหน้าเห็นด้วยกับแอมเบอร์ก่อนจะพูดความจริงที่ใครๆก็รู้ราวกับมีเว็บบอร์ดรวบรวมข้อมูลและ FACT ประจำตัวซึลกิไว้ ยิ่งบรรดาผู้หญิงผู้ชายที่แอบชอบหรือปลื้มของเพื่อนของเธอยิ่งรู้ดีถึงกฎข้อนี้..
“ใช่ ซึลกิมันเกลียดฟักทองจะตายไป”
“นั่นรุ่นพี่เจสสิก้านี่นา ตัวจริงสวยกว่าในเน็ตอีกอ่ะ” เสียงพูดคุยจอแจในร้านคาเฟ่เล็กๆนี้เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆเมื่อ ‘เจสสิก้า จอง’ เดินใกล้เข้ามา และดูเหมือนท็อปปิคที่จะกลายเป็นเป้าพูดถึงต่อไปก็คงหนีไม่พ้น..
“เดินควงแขนกับซึลกิด้วย ดูสนิทกันจัง” เจสสิก้า? ซึลกิ? ชื่อที่กำลังตกเป็นประเด็นเรียกความสนใจให้เบจูฮยอนเงยหน้าขึ้นจากชีทเรียนในมือขึ้นมามอง ใช่แล้วล่ะ เบจูฮยอนก็นั่งอยู่ในร้านที่รุ่นพี่เจสสิก้าและคังซึลกิกำลังเดินเข้ามา
เจสสิก้าเป็นผู้หญิงที่สวย.. การแต่งตัวและบุคลิกก็ดี ท่าทางเป็นผู้หญิงที่ฉลาดและซื่อตรง เบจูฮยอนแทบหาข้อบกพร่องของรุ่นพี่เจสสิก้าไม่เจอเลยด้วยซ้ำ คนนี้ๆน่ะหรอที่เพื่อนของซึลกิต่างแซวและพาจับคู่ให้? คนๆนี้น่ะหรอที่เป็นเจ้าของหัวใจคังซึลกิ? ไม่ปฏิเสธเลยว่าความคิดชั่ววูบนึงของเธอคิดว่าทั้งคู่เหมาะสมกันดี..
“พี่ชอบแบบนี้มากกว่าไม่ใช่หรือไง” ทั้งคู่กำลังยืนเลือกมาการองด้วยกันโดยที่เจสสิก้าก็ยังคงควงแขนของซึลกิไว้แบบนั้นโดยที่ซึลกิเองก็ไม่ว่าอะไร การสกินชิพแบบนี้ถือว่าเบาและธรรมดามากๆสำหรับพวกเธอ แต่คนภายนอกที่มองนี่สิไม่รู้จะคิดยังไง..
“ก็อยากลองกินตามกิดูบ้างไง เห็นชอบกินแต่รสเนี้ย” ซึลกิส่ายหัวให้ความเด็กของรุ่นพี่สาว ก่อนจะเลือกรสที่อีกคนชอบเพิ่ม เป็นไง รู้ใจกันดีใช่มั้ยล่ะ~
“รู้ใจไม่เคยเปลี่ยนเลยนะ” เจสสิก้าพูดพลางหยิกแก้มเด็กข้างตัวด้วยความหมั่นเขี้ยว คังซึลกิน้องรักอันดับหนึ่งของพี่<3
“แน่นอน ไม่งั้นพี่จะรักฉันหรอ” ซึลกิเอ่ยด้วยความทะเล้นตามฉบับเจ้าตัว อ่า.. เรื่องสรรพนามที่เปลี่ยนไปก็เพราะตอนนี้มีคนอื่นอยู่ด้วย จะเรียกเจ๊ๆก็กลัวคนอื่นจะไม่เคารพเจสสิก้าเลยหันมาเรียกว่าพี่แทนชั่วคราว แต่คังซึลกิคงไม่รู้ว่าการที่หยอกล้อและพูดคุยกันแบบนี้ยิ่งทำให้เธอและเจสสิก้าเหมือนคนรักกันเข้าไปทุกที
เบจูฮยอนไม่เคยเจ็บเท่านี้มาก่อนเลย..
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
จบเรื่องเมื่อไหร่ช่วยโดเนทค่ารักษาโรคเบาหวานให้คังซึลกิกันด้วยนะคะ 5555555555555555555555555
จสก.นี่อารมณ์รุ่นพี่ป๊อปๆที่จบไปแล้ว นางไม่มีพิษภัยอะไรค่ะ ติดแค่ชอบเลื้อย จูฮยอนสองก็คิดมากไปเอง คิดไปล้านแปดตลบ ตามความรักใสๆค่ะ ฟีลแบบอ่อนไหวง่าย เจออะไรนิดหน่อยก็คิดไปทั่วกาแล็คซี่
หวังว่าจะเข้าใจอารมณ์พี่เค้านะคะ พูดคุยในทวิตเตอร์แท็ก #ฟิคซรบอล นะคะ เลิ้ป<3
◊ SQWEEZ
ความคิดเห็น