คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Time's up - 01:00 AM
เธอดูเย็นชาราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ดวงตาน่ารักคู่นั้นที่เคยผลักไสกัน.. ฉันยังจำได้ดี
ต้องทำยังไงถึงจะลืมได้ซักที
ฉันคิดถึงเธออีกแล้ว..
(1AM - Taeyang)
ติ๊ด ติ๊ด
‘01:00 AM’
ถ้าความรักและความฝันไปด้วยกันไม่ได้.. คุณจะเลือกอะไร? คำตอบในใจของแต่ละคนคงแตกต่างกันออกไป เรื่องที่ฉันจะพูดถึงต่อไปนี้เป็นเรื่องของผู้หญิงคนหนึ่งที่ฉันรู้จัก เธอได้เลือกความฝันที่จะเป็นนักร้อง และทิ้งความรักอย่างฉันไว้ตรงนี้
“พี่ออดิชั่นผ่านแล้วนะคะ” คนตัวเล็กพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้ม เธอละสายตาจากหนังสือในมือขึ้นมองคนที่นั่งตรงข้าม เธอยิ้มบางๆพลางเอื้อมมือไปดึงแก้มคนตัวเล็กกว่า
“ไปเมื่อไหร่ไม่เห็นบอกกันเลย” คนตัวเล็กอมยิ้มก่อนจะจับมือเธอขึ้นมาหอม
“จะมีแฟนเป็นนักร้องแล้วไม่ตื่นเต้นหรอ” เธอหัวเราะออกมาเบาๆ และลุกขึ้นย้ายไปนั่งข้างคนตัวเล็กที่กำลังทำท่าเหมือนจะงอน
“นี่ เบจูฮยอน พึ่งได้เป็นเด็กฝึกวันนี้คิดว่าจะได้เดบิวต์พรุ่งนี้รึไงหืม” เธอลูบผมสาวรุ่นพี่ที่ทำตัวเหมือนเด็กอย่างเอ็นดู อ่า.. บางทีก็แอบคิดว่าตัวเองโตกว่าจูฮยอนนะเนี้ย
“ก็อยากให้ซึลกิชมบ้างนี่นา.. ” จูฮยอนกำลังงอแง.. นี่คือสิ่งที่คังซึลกิคิด เธอโอบไหล่จูฮยอนและจูบลงที่ผมนุ่มของคนตัวเล็ก
“ในสายตาฉันพี่เก่งเสมอ ไม่รู้หรือไง” เบจูฮยอนซบลงที่ไหล่ของคังซึลกิ มือเล็กกุมมือของเด็กตัวโตเจ้าของไหล่นี้ไว้หลวมๆ ท่าทางออดอ้อนของจูฮยอนทำให้ซึลกิอดไม่ได้ที่จะหอมแก้มคนตัวเล็กอย่างหมั่นเขี้ยว
“ตั้งใจซ้อมนะฮยอน.. แต่ถ้ามันหนักไปก็อย่าฝืนตัวเอง เข้าใจมั้ยคะ?” ซึลกิเป็นห่วงคนในอ้อมกอดอย่างกับอะไรดี.. จูฮยอนน่ะดื้อจะตายไป ร่างกายตัวเองไม่แข็งแรงก็ยังจะรั้น เธอได้แต่หวังว่าคนตัวเล็กจะทำมันสำเร็จ
“อื้อ.. พี่เข้าใจแล้วค่ะ” จูฮยอนส่งยิ้มให้ซึลกิ น้ำเสียงอ่อนหวานกับรอยยิ้มแบบนั้นยังคงมีอิทธิพลกับหัวใจคังซึลกิเสมอ
“ไม่ฟังกันเลยใช่มั้ย” คังซึลกิกำลังโกรธ ใช่แล้วล่ะ.. โกรธจูฮยอนที่ฝืนตัวเองจนต้องหามส่งโรงพยาบาล เธอถอนหายใจมองคนบนเตียงที่ก้มหน้าเงียบไม่ตอบโต้ เธอรู้ว่าเบจูฮยอนกำลังจะร้องไห้
“ที่พูดก็เพราะเป็นห่วงนะ” เธอเช็ดน้ำตาหยดเล็กๆของจูฮยอนอย่างเบามือก่อนจะดึงคนดื้อมากอด จูฮยอนซุกใบหน้าลงกับบ่าของเธอและพูดเสียงอู้อี้
“ขอโทษ..”
“การร้องเพลงมันคือสิ่งที่พี่รัก ฉันรู้.. แต่พี่ต้องดูแลตัวเองบ้างสิจูฮยอน เพราะสำหรับฉันพี่ก็คือสิ่งที่ฉันรักเหมือนกัน” ซึลกิลูบหลังปลอบคนที่กำลังร้องไห้เหมือนเด็กๆ เธอไม่สามารถดุจูฮยอนได้ เหตุผลก็คือความชื้นที่อยู่บนเสื้อของเธอตอนนี้..
คังซึลกิแพ้น้ำตาของเบจูฮยอน
เทรนนี่ของเอสเอ็มเอนท์ฝึกหนักไปรึเปล่า? ระยะหลังมานี้จูฮยอนแทบไม่มีเวลาให้เธอเลยด้วยซ้ำ คังซึลกิไม่อยากงี่เง่า.. แต่ทุกครั้งที่อยู่คนเดียวก็อดคิดไม่ได้ ถึงจะอย่างนั้นเธอก็คงทำได้แค่เพียงยิ้มให้กับจูฮยอน อีกไม่นานจูฮยอนก็คงได้เดบิวต์ ถึงตอนนั้นหลายๆอย่างก็คงเริ่มเข้าที่เข้าทาง เรื่องของเราก็จะดีขึ้นไปด้วย แต่เธอกลับคิดผิด.. มันแย่ลงจนถึงขั้นเลิกรา
[“ซึลกิยา.. พรุ่งนี้ตอนบ่ายโมงเจอกันที่เดิมนะ”]
เธอยังจำประโยควันนั้นได้ดี.. เบจูฮยอนจะรู้มั้ยนะว่าคังซึลกิดีใจแค่ไหนที่เราจะได้เจอกันอีกครั้ง รอยยิ้มสดใสที่เลือนหายไปจากใบหน้าเธอปรากฏขึ้นอีกครั้งจนคนรอบข้างถาม พวกเขาคงไม่เข้าใจความรู้สึกของการรอใครซักคน.. ‘คิดถึง’ คำๆนี้วนเวียนอยู่ในหัวของซึลกิ พอเจอจูฮยอนเธอจะรีบวิ่งเข้าไปอุ้มคนตัวเล็กดีมั้ยนะ? แค่นึกถึงรอยยิ้มสดใสของจูฮยอน คังซึลกิก็รอให้ถึงเวลานั้นไม่ไหวแล้ว..
ทุกอย่างกลับตาลปัตรไปหมด.. จูฮยอนมีท่าทีเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรซักอย่างตลอดเวลา มีเพียงรอยยิ้มบางๆที่คอยตอบกลับมาเท่านั้นเวลาที่เธอส่งยิ้มให้ ‘บางทีจูฮยอนอาจจะเหนื่อยจากการฝึกซ้อมก็ได้’ นี่คือสิ่งที่เธอคิดได้ในตอนนี้ เธอพยายามปั้นรอยยิ้มสดใสอยู่ตลอดทุกครั้งที่คนตัวเล็กมองมา ไม่อยากให้จูฮยอนหนักใจเรื่องของเธอเลย.. ซึลกิมองใบหน้าคุ้นเคยของคนรักที่หลับบนตักของเธอ ใครจะไปคิดว่านั่นอาจเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอได้ดูแลจูฮยอนในฐานะคนรัก
“ความฝันของพี่มีซึลกิไม่ได้..”
“……”
“เรา.. เลิกกันเถอะนะคะ”
ติ๊ด ติ๊ด
’01:00 AM’
เสียงนาฬิกาบนโต๊ะหนังสือปลุกให้คังซึลกิตื่นจากความทรงจำในอดีต เรื่องราวเก่าๆไหลย้อนกลับมาเหมือนกับม้วนฟิลม์สีน้ำตาลเข้ม นัยน์ตาคมมองเวลาก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน ตีหนึ่งแล้วสินะ.. ป่านนี้พี่จะทำอะไรอยู่นะเบจูฮยอน พี่กำลังตั้งใจฝึกซ้อมอยู่รึเปล่า? พี่ลืมคังซึลกิคนนี้ไปหรือยัง? รอยยิ้มหม่นปรากฏขึ้นบนใบหน้าของซึลกิ หลายครั้งที่เธอบอกกับตัวเองว่าไม่เป็นอะไร มันจบไปแล้ว แต่สุดท้ายมันก็มักจะจบด้วยการร้องไห้กับเรื่องเดิมๆ
‘เลิกคิดถึงผู้หญิงคนนั้นได้แล้วซึลกิ’ เพื่อนๆต่างปลอบใจเธอด้วยประโยคแบบนี้ ซึลกิไม่ตอบอะไร เธอเพียงส่งยิ้มกลับไปให้พวกเขา เธอรู้ว่าเพื่อนทุกคนเป็นห่วงเธอแค่ไหน แต่การลืมใครซักคนนั้นทำได้ไม่ง่ายอย่างที่พูดเลย.. เพียงแค่หลับตาลง ภาพตอนที่เรายังรักกันก็ปรากฏขึ้นชัดเจน ถึงใครต่างก็ว่าจูฮยอนว่าใจร้าย.. ถึงเธอจะบอกว่าอยากลืมจูฮยอนให้ได้เพื่อเริ่มใหม่กับใครซักคน สุดท้ายแล้วคังซึลกิก็โกหกตัวเองไม่ได้เลย เธอยังปรารถนาให้จูฮยอนอยู่ข้างๆเธอเหมือนเดิม..
วันนี้มีถ่ายรายการอะไรแถวนี้หรือไงนะ? สถานที่ใจกลางเมืองโซลแน่นขนัดไปด้วยผู้คน เสียงเชียร์และเสียงกรี๊ดดังสนั่นไปทั่วบริเวณจนซึลกิแทบอยากจะอุดหูแล้วรีบเดินไปจากตรงนี้ซะ มันเป็นเรื่องธรรมดาที่มักจะมีรายการต่างๆมาถ่ายทำกันที่นี่ ถ้าให้เธอเดาก็คงเป็นพวกไอดอลอีกตามเคย ไม่รู้อะไรดลใจให้เธอที่ไม่สนใจเรื่องแบบนี้เดินตามกลุ่มแฟนคลับจำนวนมากนั้นไปจนถึงเวทีจัดงานที่ตั้งอยู่ ป้ายแบนเนอร์ขนาดใหญ่มีรูปผู้หญิง 5 คนพร้อมทั้งพิมพ์ชื่อกำกับไว้ แฟนคลับรอบข้างต่างส่งเสียงดังสนั่นเมื่อไอดอลที่เขาชื่นชอบปรากฎขึ้นบนเวที สายตาของคังซึลกิกำลังมองไปที่ผู้หญิงคนหนึ่ง เธอแนะนำตัวว่าเป็นลีดเดอร์ของวง น้ำเสียงของเธอช่างคล้ายกับคนที่ซึลกิเคยรู้จักในอดีต เธอละสายตาจากผู้หญิงคนนั้นเมื่อรู้สึกถึงแรงสะกิดจากข้างหลัง
“ได้กระดาษโปรเจครึยังคะ?” ผู้หญิงกลุ่มนั้นถามเธอ โปรเจคอะไรของพวกเขากันนะ? ซึลกิส่ายหน้าตอบกลับไปก่อนจะถูกผู้หญิงคนนั้นส่งกระดาษสีม่วงที่พิมพ์ข้อความบางอย่างไว้ให้
‘HappyIRENEday’
#LittleBAE329
ทันทีที่งานจบเหล่าแฟนคลับจำนวนนึงก็รีบวิ่งไปตามไอดอลพวกนั้นต่อ มีเพียงแฟนคลับกลุ่มที่แจกกระดาษโปรเจคที่ว่านี่ให้เธอ พวกเขายังคุยกันอย่างไม่ทุกข์ร้อน ทำไมพวกเขาไม่ไปตามต่อล่ะ? หรือพวกเขาขี้เกียจเบียดกับคนเยอะๆแบบนั้น แต่สิ่งที่สร้างความสงสัยให้คังซึลกิคงเป็นกระดาษในมือมากกว่า ไม่เห็นพวกเขาชูกันซักคน อีกทั้งยังเก็บใส่กระเป๋ากันอีกด้วย แต่ความสงสัยของซึลกิก็ถูกคลี่คลายไปเมื่อผู้หญิงตัวเล็กคนหนึ่งเดินเข้ามาทักทายกลุ่มแฟนคลับด้วยรอยยิ้ม ผู้หญิงที่แนะนำตัวว่าเป็นลีดเดอร์ของวงเรดเวลเวทเมื่อชั่วโมงก่อน..
การชูกระดาษโปรเจคของพวกเราเสร็จไปแล้ว เธอยืนอยู่ด้านหลังสุดของกลุ่มแฟนคลับ นัยน์ตาว่างเปล่ายังคงมองไปที่ผู้หญิงข้างหน้า ผู้หญิงคนนั้นดูมีความสุข รอยยิ้มสดใสแจกจ่ายให้คนพวกนี้อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย ความฝันเธอเป็นจริงแล้วสินะ.. คังซึลกิถอนหายใจและยิ้มให้แฟนคลับที่ยืนอยู่ข้างๆ เขาดูตื่นเต้นจนแทบทนไม่ไหวเมื่อผู้หญิงคนนั้นบอกว่าจะตอบแทนทุกคนที่มารอเธอด้วยการจับมือกับทุกคนในที่นี้ การไฮไฟว์และจับมือของผู้หญิงคนนั้นดำเนินมาเรื่อยๆจนถึงแถวสุดท้ายที่คังซึลกิยืนอยู่ ขณะที่เธอกำลังก้มหน้าลังเลว่าควรลุกออกไปจากตรงนี้ดีมั้ย ผู้หญิงคนนั้นก็มาหยุดตรงหน้าเธอซะแล้ว
“ซึลกิ..” น้ำเสียงขาดหายของอีกฝ่ายทำให้ซึลกิเงยหน้าขึ้นมอง.. เธอควรดีใจรึเปล่านะที่ศิลปินชื่อดังรู้จักชื่อของเธอด้วย
“สุขสันต์วันเกิดนะคะคุณไอรีน..” รอยยิ้มของซึลกิไม่ได้ทำให้สีหน้าของนักร้องดังดีขึ้นเลย คนตัวเล็กกว่ายืนนิ่งตรงหน้าเธอ ถ้าถามว่าเจ็บปวดมั้ยกับการที่โดนผู้หญิงคนนี้ทำร้ายหัวใจ คังซึลกิก็คงตอบอย่างไม่ลังเลว่าเจ็บมาก.. และคงไม่มีวันลืม แต่ถ้าในวันนี้จูฮยอนประสบความสำเร็จตามที่คาดหวังไว้ มีความสุขจนคุ้มกับความเสียใจที่เสียไปของเธอ.. ในมุมของคนที่รักจูฮยอนอยู่เสมอ เธอก็พร้อมที่จะแสดงความยินดีให้กับอดีตคนรักอย่างไม่โกรธเคืองใดๆ
“ไม่สิ.. พี่จูฮยอน”
‘นั่นเป็นประโยคสุดท้ายที่คังซึลกิได้พูดกับเบจูฮยอนก่อนจะตัดสินใจไปเรียนต่อที่นิวซีแลนด์’
_ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _
จบแล้วววววว *จุดพลุ*
เราจบแบบปลายเปิด ใครที่ไม่อยากดราม่าก็จบแค่ตรงนี้ก็ได้ค่ะ
แต่ถ้าใครนิยมแนวนั้นก็เจอกันอีกครั้งตอนสเปเชี่ยลนะคะ :3
ขอบคุณทุกคอนเม้นเลยค่ะ<3 ฝากโปรโมตฟิคต่อๆกันไปด้วยนะคะ อิ___อิ บายค่ะ 0/
ความคิดเห็น