ตอนที่ 8 : [SF] Series Loving Season - Spring
Spring : Love
ในที่สุด การเดินทางของวันที่ดอกไม้ผลิบานก็มาถึง ต้นไม้น้อยใหญ่แข่งกันออกดอกแตกใบกันถ้วนหน้า มองไปทางไหนก็เต็มไปด้วยสีสันของวันอันน่ารื่นเริง
ผ่านฤดูกาลแห่งความว้าเหว่และเงียบเหงาไปอย่างไม่ยากเย็นนัก ถึงแม้ว่าผมจะบอกว่าฤดูหนาวทำให้ผมคิดถึงความอบอุ่นของกันและกันหากก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันก็สื่อถึงความเหงาได้ไม่แพ้กัน แต่ก็ไม่เป็นไร ผมก็ยังมีฤดูใบไม้ผลิที่แสนสดใสรอผมอยู่ที่นี่
ดูเหมือนว่าสถานการณ์รอบตัวผมจะเป็นใจไปเสียหมด ปลายฤดูหนาวมีเรื่องดีเกิดขึ้นแบบที่ผมไม่ได้คาดคิดเอาไว้ ความประทับใจที่ได้จากใครคนหนึ่งถูกตอกย้ำให้ยิ่งเพิ่มพูนความรู้สึกดีๆมากขึ้นไปอีก ทำไมนะหรือ ก็เพราะว่าเขาคนนั้นสารภาพบางอย่างกับผมได้อย่างน่ารักที่สุดยังไงล่ะ
ความรู้สึกว่าใจมันว้าวุ่น เต้นแรงจนเจ็บทรวงอกมันเป็นอย่างไร ก็เพิ่งมีโอกาสได้สัมผัสกับตัวเองก็คราวนี้ อ้อมกอดที่มั่นคง รสจูบที่แสนหวาน มันทำให้ผมแทบอยากละลายอยู่ตรงนั้นให้ได้ ผมไม่เคยรู้สึกแบบนั้นมาก่อนเลย ให้ตายสิ
ณ จุดนี้ ผมมีบางสิ่งบางอย่างที่จะต้องตัดสินใจ เมื่อเขาสารภาพมาแล้ว มันก็เป็นส่วนของผมบ้างล่ะว่าจะตอบกลับไปแบบไหน ตื่นเต้นจังเลยครับที่จะได้ตอบกลับไปว่า.......
หน้าอาคารสำนักงานใหญ่ของมินซูพรอพเพอร์ตี้ ออดี้คันหรูที่มักจะเข้ามาเยี่ยมเยือนที่ตึกนี้แทบทุกอาทิตย์กลายเป็นที่คุ้นตาของพนักงานต้อนรับด้านหน้า ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่กับหน้าตาที่หล่อเหลาแน่นอนว่าเรียกสายตาของสาวน้อยใหญ่ได้ตั้งแต่ประตู้ทางเข้า
ซีวอนเข้ามาที่บริษัทของฮยอกแจในวันนี้โดยที่ไม่ได้บอกเจ้าตัวไว้ เพราะตั้งใจว่าจะเข้ามาเซอร์ไพรซ์ร่างบางและชวนออกไปทานเข้ากลางวันด้วยกัน เลขาหน้าห้องที่เจอร่างสูงจนจำได้ว่าเป็นใครเงยหน้าขึ้นยิ้มรับพร้อมกับทำท่าจะกดอินเตอร์คอมพ์เข้าไป แต่ร่างสูงขยับบอกแบบไม่มีเสียงว่าไม่ต้อง คุณเลขาจึงยิ้มรับก่อนออกเก็บของออกไปทานข้าวเที่ยง
ซีวอนเข้าไปในห้องโดยไม่ได้เคาะประตู หากแต่ที่โต๊ะทำงานตัวเขื่องนั้นกลับว่างเปล่า ไร้เงาของคนที่เขาคิดถึง ตัดสินใจก้าวเข้าไป แล้วภาพที่เขาเห็นก็ทำให้ร่างสูงยิ้มออก
“มาแอบนอนกลางวันอยู่นี่เอง”
ร่างบางนอนหลับสนิทอยู่ที่โซฟาตัวใหญ่ แขนบางกอดหมอนอิงใบนุ่มเอาไว้ ดวงตาที่หลับพริ้มราวกับเด็กทำให้ร่างสูงอดที่จะมองอย่างเอ็นดูไม่ได้ ซีวอนเดินเข้าไปทรุดตัวลงข้างโซฟา มือหนาเกลี่ยไรผมนุ่มให้เข้าที่ ลมหายใจที่ยังคงปล่อยเข้าออกสม่ำเสมอทำให้รู้ว่าเจ้าตัวยังคงหลับสนิท
ดวงหน้าเล็กที่ประกอบเข้าได้อย่างเหมาะเจาะกับดวงตาคู่เล็ก จมูกที่ดูเชิดรั้นนิดๆ และปากบางสีชมพูระเรื่อน่าสัมผัส ซีวอนก้มลงไปแนบจุมพิตปลุกคนขี้เซาเบาๆ
มือบางยกมือขึ้นปัดๆเหมือนต้องการตัดสิ่งรบกวนการนอนของตน อาการเหมือนเด็กๆนั้นทำให้ซีวอนยิ้มขำ อยากจะแกล้งร่างบางขึ้นมา ซีวอนก้มลงไปแนบจุมพิตกับปากบางสีเชอรี่อีกครั้ง ไล้เลียกลีบบางแผ่วเบา แกล้งคนขี้เซาซะบ้างและดูเหมือนจะได้ผลเมื่อตาคู่เรียวกระพือเปิดขึ้นปรับแสง ยังคงไม่หายจากการง่วงงุน
“ตื่นแล้วหรอ เป็นกรรมการผู้จัดการยังไงมาแอบนอนหลับกลางวันแบบนี้”
ความใกล้ที่ห่างแค่คืบทำให้ฮยอกแจหน้าร้อนผ่าว แก้มขาวแดงปลั่งเมื่อรอยอุ่นที่ริมฝีปากยังคงสัมผัสได้ ซีวอนยิ้มรับกับความน่ารักของร่างบาง ยกมือขึ้นไล้แก้มบางแผ่วเบา จ้องตาร่างบางอย่างต้องการจะแกล้งให้ได้เขินเข้าไปอีก แต่แล้วแววตาเขินอายก็หายไปอย่างรวดเร็ว แทนที่ด้วยดวงตาวิบวับกับรอยยิ้มน้อยๆ ที่ดูยังไงก็ไม่ใช่อะไรที่ปกติ
“ก็กรรมการผู้จัดการอย่างฉันนี่ล่ะ พูดมากจริงๆเลย”
แขนเรียวยกขึ้นโอบรอบคอซีวอน รั้งลงมาแล้วประทับจูบกับปากหนารวดเร็วแบบที่ร่างสูงไม่ทันตั้งตัวแล้วก็ผลักร่างสูงออก ดันตัวลุกขึ้นไป
“มานานแล้วหรอ”
เสียงหวานเอ่ยถาม ยังคงยิ้มในใบหน้าอยู่แบบนั้น ราวกับว่าก่อนหน้านี้มันไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น ซีวอนได้แต่มองร่างบางอย่างงงๆ นี่คือครั้งแรกที่ร่างบางเป็นฝ่ายจูบเขาก่อน แม้มันจะแผ่วเบา หากก็ทำให้ก้อนเนื้อด้านซ้ายต้องเต้นผิดจังหวะเพราะกลีบปากอุ่นนุ่มนั้น
“ว่ายังไงล่ะ มานานแล้วหรอ ทำไมไม่เห็นโทรบอกเลย”
ฮยอกแจเดินมายืนตรงหน้าร่างสูง ยกมือขึ้นจับเนกไทให้เข้าที่เข้าทางทั้งที่ปากบางๆก็ยังคงเจื้อยแจ้วเจรจา
“กะ...ก็ กะว่าจะมาเชอร์ไพรซ์นายไง”
“เรื่องอะไร วันนี้นายจะพาฉันไปไหนหรือยังไง ว่าแต่จะไปที่ไหนล่ะ”
“ก็...ละ แล้วแต่ –“
เสียงตะกุกตะกักเพราะยังคงไม่หายงงกับร่างเล็กตรงหน้าของซีวอนถูกขัดขึ้นมาทั้งที่ยังเอ่ยไม่เต็มประโยคดี
“ฉันรู้แล้ว! ไปที่นี่กันเถอะ”
ฮยอกแจคว้ามือซีวอนให้เดินไปด้วย หรือจะเรียกให้ถูกว่าลากก็ยังไหว ร่างบางดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ จากเดิมที่เคยเงียบๆ วันนี้กลับดูเป็นคนละคน
“นายจะไม่เปิดประตู้รถให้ฉันหน่อยหรอ”
คนตัวเล็กเอ่ยออกมาเบาๆ ยังคงยิ้มน้อยๆอยู่ในหน้า ซีวอนมองร่างบางอย่างงงๆ หากก็เดินอ้อมมาเปิดประตูให้ฮยอกแจ เมื่อร่างบางทิ้งตัวลงนั่ง ก็ทำท่าจะปิดประตูให้ หากแต่แขนบางก็กั้นมันไว้เสียก่อนพร้อมกับที่รั้งคอซีวอนลงมา กระซิบแผ่วเบาชิดริมหู
“ขอบคุณนะ นายน่ารักจัง...”
พร้อมกับที่ริมฝีปากอุ่นนุ่มกดจูบลงมาที่แก้มสากแผ่วเบา และตบท้ายด้วยรอยยิ้มหวานๆที่ทำเอาคนตัวสูงถึงกับทำอะไรไม่ถูก วันนี้มันเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่เนี่ย
รถยนต์คันหรูแล่นเข้าสู่สวนสาธารณะใจกลางกรุงที่มักจะพลุกพล่านไปด้วยผู้คนมากมายในวันหยุดสุดสัปดาห์แต่เพราะว่าวันนี้คือวันทำงาน สวนแห่งนี้จึงดูเงียบเป็นพิเศษ
เพราะเป็นสวนสาธารณะที่มีทะเลสาบขนาดย่อมอยู่ภายใน จึงทำให้บรรยากาศช่วงกลางวันนั้นไม่ร้อนมาก บวกกับต้นไม้น้อยใหญ่ที่ถูกปลูกไว้มากมายนับไม่ถ้วนรอบสวนแห่งนี้ ม้านั่งยาวและโต๊ะม้าหินถูกจัดไว้รองรับผู้คนอย่างล้นเหลือ ทำให้ที่แห่งนี้มีบรรยากาศสบายๆ ที่เหมาะแก่การพักผ่อนจากความวุ่นวายในเมือง
“ทำไมฉันถึงคิดไม่ออกนะว่านายบอกทางให้ฉันขับมาที่นี่น่ะ”
ซีวอนเอ่ยยิ้มๆกับร่างเล็กที่ยิ้มกว้างอย่างภาคภูมิใจเต็มที่
“ฉันเก่งใช่ไหมล่ะ เวลาแบบนี้ ใครจะอยากไปร้านอาหารที่เต็มไปด้วยคนที่มากินข้าวกันล่ะ”
ฮยอกแจเดินมายืนมองร่างสูงตรงๆ มองแล้วก็ยิ้ม ยิ้มทั้งปากทั้งตา ยิ้มที่ทำให้ซีวอนต้องถามกลับอย่างงงๆ
“นายมีอะไรรึเปล่า ทำไมวันนี้ดูจะแจกยิ้มได้ทั้งวันเชียว”
“ถอดเสื้อสูทนายเถอะ มันดูเป็นทางการจัง”
ว่าพลางเดินอ้อมมาด้านหลังร่างสูง ดึงสูทตัวหนาออก พับให้อย่างเรียบร้อยก่อนจะเดินเอาไปเก็บที่รถพร้อมกับสูทของตัวเอง แถมยังเดินกลับมา ยืนกอดมองร่างสูงอีกครั้งเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรสักอย่าง แล้วมือบางก็คว้าแขนร่างสูงมา จัดการพับแขนเสื้อทั้งสองข้างขึ้นไปครึ่งข้อศอกจากนั้นจึงยิ้มอย่างพอใจกับตัวเอง
“อย่างนี้ค่อยดูใช้ได้เหมาะแก่การมาเดินเล่นหน่อย”
จบคำ แขนเรียวก็เอื้อมไปคล้องแขนซีวอนไว้หลวมๆ และเดินไปด้วยกัน ลมเย็นๆที่พัดมาเรื่อยๆเอื่อยๆทำให้มันไม่อบอ้าวมากนัก แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น พอเดินไปได้สักพัก ขมับบางก็ถูกเกาะพราวไปด้วยเหงื่อที่ซึมออกมา
“ร้อนหรือเปล่าฮยอกแจ”
“หืม...ไม่หรอก ลมก็พัดอยู่นี่ไง สบายดีออก”
พื้นที่ริมทะเลสาบใต้ต้นไม้ตรงกึ่งกลางของสวนสาธารณะโดนทั้งสองคนยึดเป็นที่นั่งพักมาได้ร่วมครึ่งชั่วโมง ฮยอกแจนั่งแกว่งขาเล่นในน้ำอย่างสบายใจ แต่แล้วสัมผัสนุ่มที่ขมับและแก้มก็ทำให้ร่างบางหันมา ผ้าเช็ดหน้าผืนบางถูกนำมาซับเหงื่อให้
“บอกว่าไม่ร้อน แต่เหงื่อออกเต็มเลยนายน่ะ”
“นายก็มีเหมือนกันนั่นแหละน่า”
มือบางคว้าเอาผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นมาซับให้ซีวอนบ้าง และเพราะมัวสนใจที่จะซับเหงื่อให้ร่างสูง ฮยอกแจจึงไม่ได้สนใจระยะห่างที่เริ่มจะลดลงเรื่อยๆ แก้มขาวที่แดงขึ้นเพราะอุณหภูมิของร่างกายกับปากบางชมพูระเรื่อจึงอยู่ใกล้ซีวอนแค่คืบ
ซีวอนจ้องมองดวงหน้าน่ารักนั้นเงียบๆ ด้วยแววตายิ้มๆ มองจนคนถูกมองเริ่มจะรู้ตัว ฮยอกแจสบเข้ากับตาคมพอดี แต่ก็ทำเป็นไม่สนใจ หันไปมองทางอื่นเสีย คิดว่าเดี๋ยวซีวอนคงเลิกมองไปเอง แต่เพราะว่าร่างสูงไม่ยอมเลิก ฮยอกแจจึงขำออกมาน้อยๆ ยอมเป็นฝ่ายแพ้ หันไปถามคนที่เอาแต่มองเขาในที่สุด
“มองอะไร....”
“ก็มองนาย....”
ตอบทั้งที่ยังคงมองอยู่แบบนั้น
“หน้าฉันมีอะไรแปลกประหลาดหรือไง มองอยู่ได้”
พูดเสร็จก็เสไปมองทางอื่น อมยิ้มน้อยๆ ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้คำตอบ แต่แล้ว...
“ก็นาย...น่ารักดี”
เพียงเพราะแค่คำที่ซีวอนเอ่ยมา มันก็มีอิทธิพลมากพอที่จะทำให้แก้มใสขึ้นสีได้ไม่ยาก ไม่ได้สิ วันนี้ เขาคนนี้ไม่มีสิทธิมาทำให้เขาหน้าแดงนะ!
เพราะว่าพาทนี้ เป็นของอีฮยอกแจ!!!!
เสียงเจี๊ยวจ๊าวของเด็กเล็กๆที่คุณแม่ๆพามาเล่นที่สนามเด็กเล่นข้างๆเรียกร่างบางให้หันไปมอง ก่อนดวงตาสุกใสจะสะดุดเข้ากับของหวานสุดโปรดเข้าให้
“ซีวอน....”
เสียงเรียกชื่อตัวเองอ้อนๆกับแขนบางที่ยกขึ้นมาคล้องแขนทำให้ซีวอนหันกลับมามองคนตัวเล็กข้างกาย ฮยอกแจยิ้มนิดๆปรายสายตาไปที่ร้านไอศกรีมโฮมเมดที่ตั้งอยู่ไม่ไกลออกไป
“ฉันอยากกินไอศกรีม....”
ไม่ต้องพูดให้จบก็รู้ว่าเขาต้องทำอะไร
“รออยู่นี่นะ ฉันจะไปซื้อมาให้”
ฮยอกแจมองตามร่างสูงโปร่งนั้นด้วยแววตายิ้ม ยิ้มแบบที่ไม่เคยยิ้มมาก่อน ยิ้มด้วยความรู้สึกที่อยากจะยิ้ม ยิ้มด้วยหัวใจ.....ร่างบางลุกขึ้นยืน ป้องปากตะโกนเรียกให้ร่างสูงหันกลับมาจากระยะที่ยังไม่ไกลออกไปนัก
“ซีวอน!!!! ฉันก็รักนายนะ!!!”
เสียงตะโกนที่แม้ไม่ดังมาก หากก็ดังพอให้ร่างสูงที่ยืนห่างออกไปได้ยินอย่างชัดเจน พูดจบ ร่างบางก็รีบหันหนีกลับไปอีกทาง
ก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายมันกระตุกผิดจังหวะไปเมื่อได้ยิน ซีวอนได้แต่มองตามร่างบางที่ทำไม่รู้ไม่ชี้ค้างอยู่แบบนั้น มุมปากทั้งสองข้างรู้สึกราวกับมาอะไรมารั้งดึงให้มันต้องยกขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ อกด้านซ้ายราวกับมีกลองมารัวอยู่ภายใน มันเต้นแรงอย่างควบคุมไม่ได้
ซีวอนเดินไปซื้อไปซื้อไอศกรีมโคนโฮมเมดกรวยใหญ่มาสองโคน เดินกลับมานั่งลงข้างร่างบาง ตาคมรอบมองดวงหน้าใสจากด้านข้าง รอยแดงจางๆยังคงไม่จางหาย นั่นเหมือนเป็นข้อพิสูจน์อะไรได้อีกอย่างหนึ่ง ว่า....เขาไม่ได้หูฝาด
“อ่ะ..ฮยอกแจ แล้วเมื่อกี้นายพูด-- ”
ซีวอนยื่นไอศกรีมหนึ่งโคนให้กับร่างบาง ตั้งใจจะถามให้แน่ใจ แต่พอเห็นคิ้วงามขมวดเข้าหากันยุ่งยามหันมาเห็นไอศกรีมทั้งสองโคน ประโยคที่สมบูรณ์จึงถูกพับเก็บไปตามระเบียบ
“ทำไมถึงซื้อมาสองโคนล่ะ ใช้ไม่ได้เลยนายเนี่ย”
ว่าเสร็จก็ดันตัวลุกขึ้น ถือไอศกรีมโคนที่ร่างสูงยื่นให้ติดมือไป วิ่งเข้าไปหาเด็กน้อยคนหนึ่งที่เล่นชิงช้าอยู่กับคุณแม่ของเขา ร่างบางยื่นไอศกรีมโคนให้ แม้ว่าตอนแรกคุณแม่ทำท่าจะไม่ให้ลูกชายรับ แต่เพราะว่าร่างบางบอกว่า ‘ผู้ชายคนนั้น’ ที่เดินมาซื้อเมื่อสักครู่เขาซื้อไปผิด คุณแม่ที่เห็นตอนที่ซีวอนเดินมาซื้อจึงไม่ได้ติดใจสงสัยร่างบางอีก ยอมให้ลูกชายตนรับของขวัญจากฮยอกแจพร้อมกับเหมือนได้ปล่อยระเบิดใส่ร่างบางเข้าให้เมื่อนางบอกให้ลูกชายเอ่ยคำขอบคุณ
‘ขอบคุณฮับนูน่า~’
นูน่าคนสวยจึงได้แต่ยิ้มรับและวิ่งกลับมานั่งลงข้างๆซีวอนที่ยังคงไม่เข้าใจการกระทำของร่างบาง
“แล้วของนายล่ะ”
“ก็ที่นายถืออยู่นั่นไงล่ะ”
ฮยอกแจขยับตัวเข้าไปใกล้ซีวอน มือบางจับซ้อนทับกับมือหนา รั้งไอศกรีมโคนใหญ่เข้ามากัด พร้อมกับทำท่าทางเอร็ดอร่อยอีกต่างหาก
“แล้วของฉันล่ะ”
“ก็...นี่ไง เรา...ก็เหมือนคนคนเดียวกัน...ไม่ใช่หรอ”
ทำสายตาว่า “นี่ไง” ไอศกรีมในมือที่ถือร่วมกันอยู่ กับคำพูดเสียงเบาที่มาพร้อมกับปรางนวลสีปลั่งและรอยยิ้มน้อยๆ ใช่ว่าคนพูดจะไม่เขินกับสิ่งที่พูดไป หากแต่แววตาขี้เล่นกลับไม่หลบหรือเสมองไปทางอื่น แก้มนวลดูเหมือนจะแดงแล้วแดงอีก หน้าร้อนเห่อขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ซีวอนยิ้มแก้มแทบปริกับวิธีสารภาพที่น่ารักเหลือเกินของคนตรงหน้า
ซีวอนยิ้ม ยิ้มทั้งปากทั้งตา รั้งร่างบางเข้ามากอด ซุกจมูกกับกลุ่มผมนุ่มและจุมพิตแผ่วเบาที่ขมับบาง แขนแกร่งโอบรอบเอวบางเอาไว้ ให้ฮยอกแจเอนตัวมาพิงตัวเอง
“ฮยอกแจ...ตอนที่ฉันเดินไปซื้อไอศกรีมน่ะ นายตะโกนไปว่าอะไรนะ”
แม้จะรู้อยู่แก่และมั่นใจว่าได้ยินไม่ผิด แต่ก็ยังอยากที่จะได้ยินมันอีกทีอยู่ดี
“ไม่รู้สิ ฉันลืมไปแล้ว ไม่เห็นจะจำได้เลยว่าพูดอะไรออกไป”
ตอบเสียงเบาๆ ซุกหน้าอยู่กับอกแกร่ง แค่นี้เขาก็เขินจะแย่ ยังจะมาแกล้งให้เขาพูดอีก ไม่ได้รังเกียจที่จะพูดคำนั้น เพียงแค่มันทำให้ใจเขาเต้นไม่เป็นส่ำยามเอ่ยมันออกมาเท่านั้นเอง
“กลับกันเถอะ จะบายสามแล้ว”
ฮยอกแจลุกขึ้นยืน และหันหลังกลับมาหาร่างสูง ตาเรียวเล็กเป็นประกายจ้องเข้าไปในตาคมพร้อมกับรอยยิ้มเต็มแก้ม แขนเรียวยกขึ้นโอบรอบคอซีวอน โน้มลงมา และพูดว่า....
“ฉันรักนายนะ ‘ซีวอนของฉัน’ ”
และตามมาด้วยกลีบปากนุ่มเล็กที่แนบลงมาก่อนจะผละออกรวดเร็ว ซีวอนรั้งร่างบางไว้อีกนิดด้วยการประทับจุมพิตที่มุมปาก แขนแกร่งล็อกเอวบางไว้แนบชิดตัวก่อนกระซิบชิดริมฝีปากแผ่วเบา
“ขอบคุณครับ....’ฮยอกแจของผม’ ”
ยิ้มอ่อนโยนพร้อมกับรั้งร่างบางเข้ามากอด ซีวอนจูงมือบางให้เดินมาด้วยกัน รอยยิ้มที่แต่งแต้มอยู่ในหน้ายังคงไม่จางหาย ฮยอกแจกำลังมีความสุข มีความสุขที่ได้รู้หัวใจตัวเอง มีความสุข...ที่ได้ยอมรับการผลิบานของความรัก จากผู้ชายคนนี้
ซีวอนเมื่อขึ้นมาบนรถก็เอาแต่ยิ้มและหันมามองฮยอกแจอยู่แบบนั้น ในเมื่อสถานที่นี้คือที่ที่ทำให้วันนี้ของเขาคือวันที่ดีที่สุด คือที่ที่ทำให้เขาได้รับคำตอบจากคนตรงหน้า คือที่...ที่ทำให้เขาสมหวังและมีความสุข ทำไมเขาจะต้องอยากจากมันไปเร็วๆด้วยล่ะ
“อยากเล่นเกมจ้องตากับฉันหรอซีวอน วันนี้นายเอาแต่จ้องฉันทั้งวันเลย”
มีหรือที่คนถูกมองจะไม่รู้ว่าถูกดวงตาอ่อนโยนคู่นั้นจับจ้องอีกแล้ว เสียงใสถามออกไป พร้อมกับที่ขยับตัวนั่งหันหน้ามาทางซีวอน นิ้วเรียวกระดิกเรียกให้ร่างสูงขยับเข้ามาใกล้ ซีวอนยิ้มขำกับการกระทำของร่างบาง หากก็ขยับตัวเข้ามาใกล้ จ้องมองเข้าไปในดวงตาคู่เล็กเป็นประกายคู่นั้น
“ใครกระพริบตาก่อนคนนั้นแพ้และฉันบอกได้เลยว่านายจะต้องแพ้”
“อะไรทำให้แน่ใจว่าฉันจะแพ้”
บทสนทนาที่ดำเนินไปพร้อมกับดวงตาที่ยังคงจ้องกันนิ่ง รอยยิ้มปรากฏบนดวงหน้าเล็ก และเสียงใสที่เปล่งออกมาเป็นคำตอบ
“ก็เพราะว่าวันนี้ มันคือวันของฉันยังไงล่ะ!”
จบประโยคพร้อมกับที่ริมฝีปากนุ่มแตะทาบลงไปอย่างรวดเร็ว และแน่นอนว่าซีวอนก็กระพริบตาไปเรียบร้อย ฮยอกแจยิ้มอย่างมีชัยชนะให้ ซีวอนยิ้มขำ ส่ายหัวให้กับความน่ารักที่ดูจะไม่มีขีดจำกัดของร่างบางในวันนี้ หันไปสตาร์ทรถ และคาดซีทเบลท์ แต่เมื่อหันไปดูร่างบาง ก็เห็นนั่งเอ้เต้ไม่ยอมคาด ซีวอนจึงปลดซีทเบลท์ของตัวเอง คร่อมตัวพาดทับร่างบางไปเพื่อจะเอื้อมไปดึงซีทเบลท์จากด้านซ้ายของฮยอกแจ
ฮยอกแจมองอย่างงงๆว่าซีวอนกำลังทำอะไร และจังหวะที่ร่างสูงเคลื่อนตัวกลับ จมูกโด่งสวยก็แวะหยุดทักทายกับแก้มนวนเสียหนึ่งครั้ง ระยะห่างตอนนี้มันใกล้จนรู้สึกได้ถึงลมหายใจของกันและกัน ตาคมจ้องลึกเข้าไปในตาคู่เล็ก และเหมือนกับมีมนต์สะกด ระยะห่างที่แทบจะไม่มีจึงแนบสนิทลง
ปากอิ่มกดจูบลงไปแนบแน่น กลีบปากบางๆถูกดูดดึงอย่างหยอกเย้า ไล้เลียแล้วผละออกก่อนจะกลับมาคลอเลียอีกครั้ง ลิ้นร้อนสอดแทรกเข้าลิ้มลองความหวานจากกลีบบางเป็นครั้งแรก ไล่ต้อนให้ร่างบางต้องเสียเปรียบยอมตอบรับรสสัมผัสที่แสนหวาน ลมหายใจราวกับถูกดูดไปหมด มือบางยกขึ้นโอบรอบคอร่างสูงอย่างเผลอไผลไปกับความละมุนหวานที่ถูกถ่ายทอดมาให้
ลมหายใจที่เริ่มจะขาดห้วงของฮยอกแจทำให้ซีวอนต้องจำใจผละออกอย่างเสียดาย จ้องมองปากบางสีชมพูมันละเลื่อมน่าหลงใหล กดจูบลงไปแรงๆอีกครั้งอย่างอดไม่ได้
เลือดฝาดสูบฉีดไปทั่วแก้มนวล แขนบางยังคงโอบรอบคอของซีวอน อกบางยังคงสะท้อนขึ้นลงด้วยจังหวะที่ถี่กว่าปกติ หากแต่มันไม่ได้เหมือนกับอาการที่โดนซีวอนจูบที่สระว่ายน้ำครั้งแรก มันไม่ได้เหมือนกับจะเป็นลม แม้จะรู้สึกเหมือนถูกดูดอากาศไปไม่ต่างกัน แต่ความรู้สึกครั้งนี้ มันคือจูบ จูบที่มาจากความรู้สึกของคนสองคนที่ถ่ายทอดถึงกัน
ฮยอกแจยิ้มน้อยๆ มือบางลูบแก้มสากเบาๆ รั้งซีวอนเข้ามาใกล้ แนบริมฝีปากนุ่มลงไปอีกครั้ง และก็เป็นซีวอนเองที่อดใจไม่ได้ เปลี่ยนจูบแผ่วเบานุ่มนวลของร่างบางให้กลายเป็นจูบที่หนักหน่วงและเรียกร้องการตอบสนอง ลิ้นร้อนเกี่ยวพันไล่ต้อนและเรียกร้องจนได้รับการตอบสนองในที่สุด การตอบสนองที่ดูเคอะเขินเหมือนเป็นมนต์เสน่ห์ที่ทำให้ไม่สามารถละออกไปจากมันได้ แต่ที่สุดแล้วก็ต้องจำใจผละออก
“อย่าทำแบบนี้บ่อยๆนะ”
ซีวอนเอ่ยชิดริมฝีปากบวมแดง
“ทำไม....”
“ก็เพราะว่าถ้าทำบ่อยๆ ฉันคงไม่ได้หยุดอยู่แค่นี้แน่”
ฮยอกแจยิ้มเขินๆกับความหมายที่แฝงอยู่ในนั้น และปากก็ดันไปไวกว่าความคิดซะด้วย
“ก็ใคร....บอกให้นายหยุดอยู่แค่นี้กันล่ะ....”
รอยยิ้มในดวงตาคู่นั้นทำให้ซีวอนอยากจะทำโทษคนก๋ากั่นอีกสักนิดแต่กลัวว่าถ้าทำจริงๆ คนก๋ากั่นคงไม่ได้กลับเข้าบริษัทเป็นแน่จึงตัดใจแค่ก้มลงฟัดแก้มนวลหนึ่งที ก่อนจะหันกลับมานั่งประจำที่ ดึงซีทเบลท์ที่ถูกละเลยไปมาคาดให้ร่างบาง และตัวเอง
ผ่านไปอีกหนึ่งความรู้สึก หนึ่งฤดูกาล การผลิบานของการเวลา การผลิบานของความรัก.....กาลเวลาผันเปลี่ยนไป จะช่วยเยียวยา รักษาให้ทุกสิ่งผ่านไปด้วยดี
ฤดูใบไม้ผลิ ดั่งความรักที่กำลังผลิบาน อาจเป็นการเริ่มต้นอะไรใหม่ๆของอีกหลายชีวิต อาจเป็น...จุดเริ่มต้นของความสุข ที่ไม่มีวันจางหาย...
See you in Summer~~
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ความหวานยังคงพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อยากมีความรักแบบวอนกะฮยอกจังเลย
หนีงานมาอ่าน....อ่านแล้วหยุดไม่ได้(ต่อเลยและกัน
วิธีบอกรักของฮยอก
เขินสุดๆอ่าาาาาทั้งวอนทั้งฮยอกเรย
ไงล่ะ ซีวอนเกิดอาการเอ๋อไปหลายรอบเลย
แต่ก็ชอบใช่มั๊ยล่ะ
หวานกันเกิ๊น++++
อืม บอกรักได้น่ารักจังเลยเนอะ
วอนตามไม่ทันเลยอ่ะฮยอก
อิอิ
ฤดูร้อนจะเป็นอย่างไงต่อนะ
หวานกว่าเดิมแน่เลยเนอะ
วอนฮยอกหวานจริงๆ คืนนี้ฝันดีแน่ๆ ได้อ่านอะไรหวานๆแบบนี้
จัดหวานๆให้คุณลูกเขยชุดใหญ่
แล้วอย่างนี้วอนจะหนีฮยอกไปไหนได้
น่ารักเท่าโลกขนาดนี้
ประชาชนรีดเดอร์แบบเราก็อิจฉาตาร้อนนิดๆ
แต่ไม่เป็นไรคุณลูกสาวกับลูกเขยน่ารักให้อภัยได้ ^________^
บิดตัวเองเขินตายไปหลายรอบแล้ว~
อดใจอยากอ่านหน้าร้อนไม่ไหวแล้ว~