คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ▽The Challenge ☆ Chap 9 (100%)
The challenge กล้าท้าก็กล้าลอง
Mark x Bambam
-9-
ตั้งแต่เจอคังจุนวันนั้น คำพูดที่บอกว่าให้ผมตามหารักแท้แล้วจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้ก็วนไปมาอยู่ในสมองผมตลอดเวลา ผมอยากกลับไปเป็นเหมือนเดิม..ไม่อยากอยู่ในร่างผู้หญิงแบบนี้
“เฮ้อ..”
“นี่แบมแบม ฉันเห็นแกถอนหายใจมารอบที่พันห้าแล้วนะ”
ฟานี่ที่นั่งเรียนอยู่ข้างๆผมพูดขึ้น ก็จริงอย่างที่ฟานี่พูดแหละครับ ผมนั่งถอนหายใจตั้งแต่สองชั่วโมงที่แล้วๆ แล้วจะให้ทำยังไงล่ะ? ผมไม่ได้อยากจะเก็บมาคิดมาก แต่เพราะนี่มันคือความเป็นไปของชีวิตผม ไม่ให้คิดอะไรเลยคงทำไม่ได้..
เหนื่อย..
“เจอกันพรุ่งนี้นะแบม”
“อืม เจอกัน”
ฟานี่บอกแล้วเดินขึ้นรถขับออกไปทันที ผมเลยมานั่งรอไอมาร์คหน้าคณะ จะว่าไปแล้วมานั่งแบบนี้แล้วคิดถึงวันที่คังจุนเดินมาหาเลยแฮะ ถึงจะคนละมหา’ลัยก็เถอะ
“แบมแบม..”
“อ่าว เซฮุน”
“นั่งด้วยนะ”
เซฮุนส่งยิ้มให้ผมแล้วเดินมานั่งข้างๆผมทันที เห็นว่าหล่อกว่าคังจุนนิดนึงเพราะงั้นจะไม่ด่าว่าหน้าด้านเหมือนคังจุนก็แล้วกัน..คือบางทีถ้าจะนั่งโดยไม่รอให้อนุญาตก็ไม่ต้องขอหรอก นั่งเลย เพราะกูไม่ใช่เจ้าของเก้าอี้ ไม่จำเป็นต้องขอ
“มาร์คมารับหรอ?”
“อืม ก็มารับทุกวันอ่ะ วันนี้นายไม่มีเรียนนี่..”
“รู้ได้ยังไง?” ก็เมื่อคืนมึงไลน์มาบอกกูมั้ย..
“ก็นายบอกฉันเอง แล้วมาทำอะไร?”
“ก็ว่าจะมารับไปส่งที่บ้าน แต่เหมือนจะไม่ทัน..ฮะๆ”
นี่ผมเองก็ไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะ แต่ทำไมไอเสียงหัวเราะเบาๆที่ดูฝืนเต็มทีของเซฮุนแม่งถึงทำให้ผมรู้สึกผิดมากขนาดนี้เลยละเนี่ย ผมหันไปมองหน้าเซฮุน หมอนี่จริงจังกับผมหรือเปล่านะ?
“นาย..คิดจะจริงจังกับฉันหรือเปล่า?”
เซฮุนไม่ได้ตอบอะไรผมแต่ส่งยิ้มบางๆมาให้แทน นั่งเงียบไปสักพักเซฮุนก็เหมือนจะหันมาบอกอะไรบางอย่างกับผม แต่จู่ๆข้อมือผมก็ถูกฉุดให้ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว
“มาร์ค!”
“กลับ..”
มาร์คฉุดมือผมให้เดินไปขึ้นรถ เดจาวูชิบหาย..เจอเซฮุนทีไรเป็นงี้ทุกที แต่ครั้งนี้ค่อนข้างรุ่นแรงกว่าครั้งที่แล้วนิดหน่อยครับ คือมันกำมือผมแน่นมาก แน่นจนเลือดกูจะไม่เดินอยู่แล้วเนี่ยไอมาร์ค!!
“ปล่อยได้ละห่า เจ็บนะโว้ย!”
“….” เงียบแถมแม่งไม่ปล่อยด้วย
“เป็นเหี้ยไรของมึงอีกมาร์ค”
“เรื่องของกู..” อ่าว
ผมสะบัดมือตัวเองให้หลุดจากการเกาะกุมของไอมาร์คแล้วมองหน้ามันนิ่งๆ ไม่ได้อยากจะทะเลาะ แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องลากกูออกมาแบบนั้น ทำไมต้องบีบข้อมือกูแรงขนาดนี้ด้วย ไม่ชอบอ่ะไม่ชอบ บางทีผมก็ไม่รู้ป่ะว่าตัวเองทำอะไรผิด
“มึงกลับไปเหอะ เดี๋ยวกูกลับแท็กซี่เอง..”
“กูบอกให้กลับ!!”
“ถ้าอารมณ์ไม่ดีก็ไม่ต้องมาคุยกับกู!”
พูดจบผมก็เดินออกมาจากตรงนั้นเลย นานแค่ไหนแล้วที่ไอมาร์คไม่ตะคอกใส่ผมแบบจริงจัง ครั้งนี้คงเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีเลย ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทำเหมือนโมโหด้วย
“เฮ้อ..”
ผมยังไม่ได้กลับคอนโดหรอกครับ มานั่งทำเอ็มวีอยู่ริมแม่น้ำฮัน ตอนนี้ก็หกโมงเย็นแล้วครับแต่ผมก็ยังไม่อยากกลับอ่ะ ไม่อยากเห็นหน้าไอมาร์คตอนนี้เลย แม่ง..
ยืนมองแม่น้ำไปสักพักเสียงโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้น ยกขึ้นมาดูก็เห็นว่ามาร์คเป็นคนโทรมา ไม่รับ!! ยังไงกูก็ไม่รับ กูจะไม่คุยกับมึง ไม่เด็ดขาด!! ผมกดตัดสายแล้วเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋า แต่มาร์คก็โทรมาอีกรอบ โทรมาร้อยรอบก็ไม่รับหรอก โทรให้ตายกูก็ไม่รับ!!
และเหมือนมาร์คจะรู้ว่ายังไงผมก็คงไม่รับสายมันแน่ๆมันเลยส่งข้อความมาแทน
‘อยู่ไหน?’ เสือก
‘กลับเดี๋ยวนี้’ กูไม่กลับ!
‘ไม่กลับเดี๋ยวนี้มึงเจอดีแน่’ เจอดีกับผีมึงสิ..
และข้อความอีกมากมายที่มาร์คส่งมา..ครั้งแรกเลยมั้งที่มันส่งข้อความรัวๆแบบนี้มาให้ผม ไม่กลับ ไม่ตอบ ไม่อะไรทั้งนั้นแหละโว้ย
แต่จะว่าไปแล้วนะ..สุดท้ายผมก็ต้องกลับอยู่ดีมั้ย ไม่กลับกูก็คงไปนอนข้างทางตามป้ายรถเมล์งี้สินะ ซึ่งแบบนั้นแม่งไม่ดีแน่ๆครับผม แบมแบมคนนี้ไม่เอาด้วยแน่นอน แต่ก็ยังไม่อยากกลับตอนนี้อ่ะ ดึกๆค่อยกลับก็แล้วกัน..
ผมเดินเล่นไปทั่ว คือทั่วจริงๆครับ ทั้งเดินทั้งนั่ง..ทั้งนอน ผู้คนที่เคยเยอะตอนนี้ก็เหลือแค่ห้าหกคน ดูอันตรายมากๆที่ผู้หญิงมาเดินเล่นแบบนี้คนเดียว ผมก้มลงมองนาฬิกาข้อมือก็พบว่า
อีชิบหาย!! สี่ทุ่ม..
ไม่ได้คิดว่าจะอยู่ดึกขนาดนี้ครับ ห่าแล้วไงมึง ดึกขนาดนี้รถแท็กซี่หาอยากแน่ๆ ฮือ แถมกลับไปต้องโดนมาร์คดุแน่ๆ ผมฟังเพลงเรื่อยๆจนไม่รู้เลยว่าผ่านมาหลายชั่วโมง เหี้ยจริง เบร่อกว่านี้ก็ไม่น่าจะมีแล้วครับ
“เชี่ย แท็กซี่หายหมดแล้ว”
ผมสบถออกมาเงียบๆคนเดียว เพราะบริเวณนี้ไม่ใช่สถานที่สำหรับช็อปและผู้คนก็ไม่ได้พลุกพล่านตลอดเวลา ก็แน่ละ..ใครเค้าจะมานอนฟังเพลงริมแม่น้ำฮันตอนดึกๆแบบกูล่ะ ถูกแล้วครับ ใช้คำว่านอนถูกแล้ว เพราะกูนอนไปกับพื้นเลย ไม่ได้นั่ง..
ประเด็นในตอนนี้คือผมจะกลับยังไง?
ปี๊ดดดดดดด
เสียงแตรดังมาจากข้างหลังทำให้ผมหันไปมอง จะว่าไปแล้วบีบแตรเสียงดังเรียกร้องความสนใจเหมือนไอมาร์คเลยแฮะ
“เซฮุน?”
เป็นเซฮุนที่เดินลงมาจากรถแล้วเดินมาหาผม มาทำอะไรที่นี่ตอนดึกดื่นขนาดนี้เนี่ย..
“นายมาได้ไงเนี่ย”
“นั่นเป็นสิ่งที่ฉันควรถามเธอมากกว่านะแบมแบม”
“อ่อ..พอดีมาเดินเล่นอ่ะ”
“ดึกขนาดนี้เนี่ยนะมาเดินเล่น?” เสือกมั้ย? ตีสองถ้ากูอยากเดินกูก็จะเดิน..
“กำลังจะกลับแล้วแหละ..” แต่ไม่รู้จะกลับยังไง
“ขอไปส่งได้มั้ย?”
ขอบคุณสวรรค์..ที่ส่งเซฮุนมา ฮืออ ดีใจแรงมากครับนึกว่าตัวเองต้องนอนเล่นที่แม่น้ำฮันคืนนึงซะแล้วครับ ผมเดินขึ้นไปบนรถตามเซฮุน จริงๆรถเซฮุนก็..หรูดีนะ อิอิ
บรรยากาศบนรถไม่เงียบเลยครับ ขืนเงียบก็มีหวังหลงแน่ๆ เซฮุนนี่มั่นใจมั้ยว่าตัวเองเป็นคนเกาหลีแล้วมั่นใจใช่มั้ยว่ามึงมีใบขับขี่แล้ว คือกูบอกซ้ายมันไปขวากูบอกขวาแม่งไปซ้าย ถามจริงคืนนี้กูจะถึงคอนโดมั้ยละมึง ขับรถมั่วขนาดนี้แนะนำให้ไปเรียนขับรถใหม่เหอะ..
“ซ้ายๆ ก็บอกว่าซ้าย”
“ก็นี่ไงซ้าย” ซ้ายพ่อง นี่มันขวา
“นี่มันขวา เลี้ยวกลับเลย!”
อืม..
ถึงคอนโดพรุ่งนี้แม่งก็ไม่แปลกหรอก..
10%
-มัคคึ’s Part-
หลังจากที่แบมแบมโกรธผมแล้วบอกจะกลับกับแท็กซี่จนป่านี้
ก็ยังไม่กลับมา
ผมไม่ได้ตั้งใจจะโมโหใส่แบมแบมแต่มันก็อดไม่ได้ที่จะโมโหเวลาที่เห็นหน้าไอเซฮุนที่มานั่งเสนอหน้าอยู่ข้างๆ
วันนี้ก็ไม่ได้มีเรียนคนที่ไม่สนใจโลกอย่างมันจะลากสังขารตัวเองมาทำไมถ้าไม่มีอะไรที่มันสนใจจริงๆ..
ผมพยายามโทรไปหาแบมแบมหลายครั้งแล้ว
ทั้งส่งข้อความรัวๆไปแต่แบมแบมก็ไม่ตอบอะไรเลยแถมยังไม่ยอมรับโทรศัพท์ด้วย
กลับมาน่าดูแน่แบมแบม..
“แจ็ค
ขับรถไปรับแบมแบมแถวแม่น้ำฮันหน่อยดิ”
ถามว่ารู้ได้ยังไงหรอครับ?
GPS มีไว้ตากแห้งอะไรล่ะ..
ผมไม่มีทางเลือกอื่นแล้วนอกจากแจ็คสัน
อยากจะให้จูเนียร์ไปแทนก็เห็นว่ามันไม่สบายอยู่ ส่วนเจบีก็คงต้องอยู่ดูแลกัน
ความผัวเมียนี้ไม่มีใครทำลายได้ครับ..
ตัวเลือกสุดท้ายที่ไม่อยากให้มีก็คือแจ็คสันหวัง
จะบอกว่าคนขี้เต๊าะกว่ามันนี่ไม่มีแล้วครับ
แต่ถ้าเรื่องเผือกๆขอให้บอกแจ็คสันมันจัดเต็มให้แน่นอน จริงๆผมก็อยากจะไปรับเอง
แต่คิดไปคิดมาคนหัวดื้ออย่างแบมแบมคงไม่ยอมกลับมากับผมแน่ๆ
‘นี่กูไม่ได้ฝันไปใช่มั้ย? มึงจะยกแบมแบมให้กูหรอเพื่อน..’ พ่อง
“อยากตายมั้ยมึง แค่ให้ไปรับ!”
‘แล้วไมไม่ไปเอง’ ไม่เสือกได้มั้ยล่ะมึง
“ถ้าถามอีกคำมึงไม่ต้องไปละ”
พอผมพูดแบบนั้นแจ็คสันมันก็เงียบเลยครับ
ผมสั่งกับแจ็คสันไว้ว่าขับถึงแม่น้ำฮันเมื่อไหร่ให้โทรหาผมทันที เฮ้อ
แบมแบมชอบทำตัวให้ผมเป็นห่วงอยู่เรื่อย
ดึกขนาดนี้แล้วยังทำอะไรอยู่ที่แม่น้ำฮันอีก
สำเหนียกซะบ้างว่าตัวเองเป็นผู้หญิง..
ผมนั่งกุมโทรศัพท์ในมือสักพักแจ็คสันก็โทรเข้ามาบอกว่าเห็นแบมแบมยืนทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อยู่คนเดียวแถวๆริมถนน
แจ็คสันจะขับรถเข้าไปรับแต่ก็โดนผมห้ามไว้ก่อน
“จอดรถห่างๆแล้วคอยดูแบมแบมเอาไว้”
‘แต่น้องแบมเหมือนจะร้องแล้วนะมึง’
ขอโทษนะแจ็คสัน..แต่แบมแบมรุ่นเดียวกันกับมึง
เรียกน้องหาญาติมึงหรอ?
“พูดมาก ทำตามที่กูบอกพอ!”
‘เออ ห่า..’
“…”
‘เห้ยๆมาร์ค’
“อะไร?”
‘เซฮุน
ไอเซฮุนเว้ยมันลงจากรถมาคุยกับแบมแบม!’
ว่าไงนะ!!!
นี่อย่าบอกนะว่าไปที่นั่นดึกๆเพื่อนัดเจอกับไอเซฮุนมันอ่ะ!?
“เชี่ย..”
‘มึง..แบมขึ้นรถไปกับมันแล้ว’
ไอเหี้ย..
-End มัคคึ’s
Part-
ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงในการขับรถกลับคอนโด
ทั้งที่ความจริงแล้ว 20 นาทีมันก็ถึงแล้วนะมึง แต่นี่อะไร เที่ยงคืนแล้วกูเพิ่งถึงคอนโด
ดีออก..
“อยู่คนเดียวหรอ?”
เซฮุนถามผมหลังจากที่มาถึงหน้าคอนโด
ถามจริงๆมึงยังมีหน้าคุยกับกูอีกหรอ มึงไม่เหนื่อยเลยใช่มั้ยตอนขับรถมาส่งเนี่ย
แต่ประเด็นคือกูเหนื่อย แหกปากจนคอแห้งหมดแล้วสัด!
“อยู่กับเพื่อน..ขอตัวนะ”
“เดี๋ยว..”
“…”
“วันหลังขอมาส่งอีกนะ”
อย่าทำร้ายกันแบบนี้เลยเซฮุน..
ผมเดินเข้าห้องมา
ในใจนึกกลัวว่าไอมาร์คจะยังไม่นอน
มันต้องโกรธมากแน่ๆเพราะนี่มันเที่ยงคืนแล้วผมเพิ่งกลับถึงคอนโด
อีกอย่างไม่ได้บอกมันด้วยว่าไปไหนแถมยังไม่ตอบข้อความไม่รับโทรศัพท์มันอีก
“ไปไหนมา..”
อีชิบหาย..
“เอ่อ..ระ
เรื่องของกู”
“กูถามว่ามึงไปไหนกับไอเซฮุนมา”
เหี้ย มันรู้ได้ไงวะ
“ไม่ได้ไปไหน ถอยไป กูจะอาบน้ำนอน”
ว่าจบผมก็เดินผ่านหน้าไอมาร์คไปหยิบผ้าขนหนูกับเสื้อผ้าแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปทันที
แปลกใจนิดหน่อยที่มันไม่ได้ฉุดตัวผมไว้ เพราะปกติถ้าผมทำแบบนี้มันต้องไม่พอใจแล้วแน่ๆอ่ะ
แต่ก็ช่างมันเถอะ ไม่ดุไม่ด่าก็ดีแล้ว
ใช้เวลาอาบน้ำประมาณ 20 นาทีผมก็เดินออกมา
รู้สึกสบายตัวขึ้นเยอะ โอเค แบมแบมคนนี้พร้อมที่จะนอนแล้วครับผม แต่..
เชี่ยมาร์คยืนอยู่หน้าห้องน้ำ
“มองห่าไร?”
“…”
ก็ตั้งแต่ผมก้าวเท้าออกมาจากห้องน้ำมาร์คก็เอาแต่งจ้องผมไม่คลาดสายตาเลย
เก็บสายตาแบบนี้ของมึงเดี๋ยวนี้นะมาร์คต้วน ขนกูลุกถึงรูตูดแล้วโว้ย!!
“กูถามว่าไปไหนมา” ถามอยู่นั่นแหละ
“ไปเดินเล่น”
“กับใคร?”
“คนเดียว”
“โกหก” เอ้า
ไอนี่ ก็บอกว่าไปคนเดียวก็ไปคนเดียวไงมึง
หาว่ากูก็โกหกอย่างนี้มึงเห็นว่ามีผีที่ไหนมาเดินกับกูหรือไงล่ะ
“แล้วแต่มึงเลย เห้ยๆ”
ผมร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อจู่ๆไอมาร์คมันก็แบกผมขึ้นพาดบ่าแล้วเดินตรงไปที่เตียงนอนก่อนที่มันจะค่อยๆปล่อยผมลงมาแรงๆ..ย้ำว่าแรงๆ
ไม่ได้วางลงเบาๆ จากนั้นก็ตามมาขึ้นคร่อม
“ทำเชี่ยไรของมึงอีกแล้วเนี่ย”
ความจริงอยากจะถามออกไปมากกว่าว่าคร่อมกูมากี่ครั้งแล้ว
เมื่อไหร่จะปล้ำกูซักที!! เดี๋ยวๆ ไม่ใช่ดิต้องไม่คิดแบบนี้ดิ..
“ออกไปจากตัวกูเดี๋ยวนี้นะมะ อื้อ”
อีกแล้ว..
มันจูบกูอีกแล้ว T0T
มาร์คกดจูบลงมาเน้นๆพยายามกัดปากผมจนผมเผลอร้องออกมาและความเร็วที่ไวกว่าแสงของมาร์คต้วน
มันส่งลิ้นร้อนเข้ามาทักทายลิ้นของผม ความจริงแล้วผมต้องต่อต้าน..
แต่อีเหี้ย กูกำลังตอบสนองมันอยู่!!!!
ผมไม่ได้ต่อต้านไม่ได้ปฏิเสธ
ร่างกายผมกำลังยินยอมให้มาร์คทำตามใจตัวเองโดยไม่คิดจะห้ามเลยสักนิด เราจูบกันอยู่นานมากๆ
มาร์คถอนจูบแล้วมองหน้าผม สายตาหื่นๆแบบนั้นถูกส่งมาให้ผม
“กูขอมากกว่านี้ได้มั้ย?”
(กดเบาๆ)
ขอโทษนะมาร์ค
ไอครั้งเดียวของมึงนี่คือทำจนฟ้าจะสว่างเลยหรออีเหี้ย
กูเจ็บนะโว้ย!!!
มึงพูดขออีกรอบนะทุกรอบจนจะครบสิบรอบแล้วไอห่า..
ผมตื่นขึ้นมาในตอนสายของวัน
รู้สึกเหมือนตัวบวมไปหมด ปวดช่วงล่างจนไม่อยากจะลุกขึ้นไปไหนเลยด้วยซ้ำ
แต่จะว่าไปแล้ว จะทำยังไงดี จะมองหน้าไอมาร์คยังไง..
ผมหันไปข้างๆหวังว่าจะเจอคนที่ทำให้ผมระบมได้ขนาดนี้
แต่สิ่งที่เจอคือ ความว่างเปล่า..
แบบนี้มันไม่ใช่ดิมึง คือตื่นขึ้นมากูต้องเห็นมึง
แล้วกูก็ต้องร้องไห้ที่โดนมึงปู้ยี้ปู้ยำถึงตัวเองจะมีอารมณ์ร่วมก็เถอะ
แล้วนี่อะไร? มึงหายหัวไปไหนของมึงมาร์ค..
ผมเดินกระเสือกกระสนไปเข้าห้องน้ำเพื่อทำความสะอาดร่างกายตัวเอง
เริ่มรู้สึกดีขึ้นมากหลังจากได้อาบน้ำ
ผมเปิดประตูห้องนอนออกมาก็เห็นมาร์คนั่งอยู่บนโซฟา แต่เดี๋ยวนะ..
ผู้หญิงที่นั่งอยู่ด้วยนั่น
เวนดี้..
อีชิบหาย โคตรน้ำเน่า
โดนมาร์คกระทำจนฟ้าสว่างตื่นมาเห็นแฟนเก่ามันนั่งอยู่ข้างๆแบบนี้มันใช่หรอ? แบบนี้มันถูกต้องแล้วหรอมึง
ละครไปมั้ย..?
ผมแอบมองทั้งสองคนคุยกันอยู่หลังประตู
อยากจะออกไปจ๊ะเอ๋แต่ไม่ครับ ผมจะไม่ทำแบบนั้นผมมีมารยาทพอ
รู้ดีว่าเวลาคนเค้าคุยกันไม่ควรเข้าไปขัด
จริงๆแค่อยากเสือกห่างๆ..
เวนดี้เป็นแฟนเก่ามาร์คเมื่อ 4 ปีที่แล้วครับ
ตอนนั้นผมจำได้ว่าอยู่มัธยมปลายปีสอง
ตอนนั้นเวนดี้เธอย้ายมาเรียนที่เกาหลีกับมาร์คหลังคบกันได้หนึ่งปี
แต่พอย้ายมาได้สองเดือนจู่ๆเธอก็บอกเลิกมาร์คไป ทั้งๆที่ตอนนั้นมาร์คดูแลเธอดีมาก..ดีทุกอย่างจนกูกลายเป็นอากาศเลย
ดีจนหน้าอิจฉา..
“เธอกลับมาทำไมอีก?”
“เค้าทิ้งฉันไปแล้วมาร์ค ฮึก”
อ่าว ร้องไห้ไม่พอเนียนซบอกไอมาร์คอีก..
ผมไม่ได้เป็นคนขี้เสือกขนาดนั้นหรอกนะครับ
แต่มันก็อดไม่ได้จริงๆ มาร์ครักเวนดี้มากก็จริง
แต่เธอเป็นคนทำให้มาร์คเหมือนตายทั้งเป็นตอนที่โดนบอกเลิก
กว่าจะกลับมาเป็นปกติได้มันใช้เวลาขนาดไหน แล้วนี่จู่ๆเธอก็กลับมาแล้วบอกว่า
โดนแฟนทิ้งเนี่ยนะ?
“เรา..กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้มั้ย?”
เดี๋ยว..ดึงสติกันหน่อยน้า คือเวนดี้เธอทิ้งมาร์คไปจนทำให้มันกลายเป็นตัวอะไรสักอย่างที่เหมือนขาดเธอไปไม่ได้แล้วจู่ๆก็กลับมาบอกให้เป็นเหมือนเดิมเนี่ยนะ
ไม่ง่ายไปหรอ? กว่ากูจะทำให้มันกลายเป็นคนปกติได้จนถึงทุกวันนี้มันยากมากนะ
“มาร์คคคคคึ”
ไม่ค่อยเลยกู..ไม่ค่อยเสือกเลย
ทันทีที่เห็นผมเดินออกมามาร์คดูตกใจมาก
แต่คนที่ตกใจกว่ามาร์คก็เวนดี้นี่แหละครับ เวนดี้นี่คงที่ใจที่เห็นผู้หญิงอยู่ในห้องมาร์ค
แต่ไอมาร์คนี่มึงทำหน้าประมาณว่า นี่มึงมีแรงลุกออกจากเตียงได้ยังไง
“มาร์ค..นี่ใคร?”
อ่าว..เป็นกูมั้ยล่ะที่ต้องถาม
“แบมเข้าห้องไปก่อน” ไม่!!
“ทำไมอ่ะ ก็อยากนั่งตรงนี้อ่ะ”
ไม่ว่าเปล่าครับ ผมเดินไปนั่งลงข้างๆไอมาร์คมันซะเลย ไม่ได้หวงเพื่อนเหมือนไอมาร์ค
ไม่ได้อยากจะหึงด้วย แต่ผมแค่ไม่ชอบ ไม่ชอบให้คนที่เคยทำร้ายมาร์คมาทำแบบนี้
“ยุ่งไม่เข้าเรื่อง..”
เวนดี้พูดออกมาแล้วมองหน้าผมพร้อมกับเบ้ปากออกมา
กลัวจะห้อยไปถึงคาง..
“แบมแบม บอกให้ไปรอในห้องก่อน”
“ไม่”
“ออกไปก่อนแบมแบม!”
“ไม่ออก”
“กูบอกให้ออกไปก่อนไง!!”
“ตะคอกใส่กูทำไม!!”
“แล้วมึงยุ่งเรื่องของกูทำไม!!!”
จุกสิมึง..
มาร์คไม่เคยว่าผมยุ่งเรื่องของมันแบบจริงจังขนาดนี้มาก่อนทุกครั้งที่ว่าก็แค่เล่นๆ..ผมมองหน้าไอมาร์คนิ่งๆพยักหน้าไปสองสามทีแล้วรีบเดินออกมาจากห้องทันที
เสียใจสิครับ ตื่นมาแทนที่จะเจอไอมาร์คนอนอยู่ข้างๆ
กลับต้องมาเห็นมันนั่งคุยอยู่กับแฟนเก่าเนี่ย..แม่ง
โคตรเสียใจ..
TBC..
ขอโทษสำหรับความกากของเอนซีและดราม่าที่เสือกเข้ามามีส่วนร่วมนี้..
รู้สึกผิดกับเอนซีตัวเองมากค่ะ พูจริงๆเลย
จะพยายามแต่งให้ดีกว่านี้นะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ
ความคิดเห็น