คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ▽The Challenge ☆ Chap 5
The challenge กล้าท้าก็กล้าลอง
Mark x Bambam
-4-
ในตอนเช้าผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยเสียงนาฬิกาปลุกของคนที่นอนอยู่ข้างๆ มาร์คลุกขึ้นปิดนาฬิกาปลุกแล้วเดินไปเข้าห้องน้ำทันที ผมไม่ได้สนใจอะไรเลือกที่จะนอนต่อ เพราะมีเรียนตอนสิบโมง เหลือเวลาอีกตั้งหลายชั่วโมงเลย
นอนไปได้ประมาณหนึ่งชั่วโมงก็มีเสียงของมาร์คดังขึ้นปลุกผมอีกครั้ง ทำให้ผมต้องจำใจยอมลุกขึ้นมาตามที่มันสั่ง เพราะถ้ามันปลุกคือยังไงกูก็ต้องลุกอะ
“ตื่นไปอาบน้ำได้แล้ว”
“ยังเช้าอยู่เลยอะมาร์ค กูมีเรียนตอน 10 โมง”
“ล้างผ้าปูที่นอน..”
ลืมไปเลยว่าต้องล้างผ้าปูที่นอนที่เลอะเลือดประจำเดือนตัวเอง โว้ย อุตสาห์มีเรียนตอนสายๆก็ยังต้องตื่นเช้ามาซักผ้าปูอีก ชีวิตแม่งดี๊ดี
ผมลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำแล้วจัดการซักผ้าปูที่นอนสีขาวสีอาดที่มีเลือดสีแดงๆเลอะเป็นวงใหญ่ก่อนจะอาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อย รู้สึกการใส่ผ้าอนามัยง่ายกว่าใส่เมื่อคืนเยอะเลย ถือเป็นเรื่องดีสำหรับผมเพราะไม่รู้ว่าต้องอยู่ในร่างผู้หญิงนี่อีกนานแค่ไหน ทำตัวให้ชินไว้ก่อนน่าจะดีกว่า จะได้ไม่ต้องลำบาก
“อ่ะ น้ำอุ่น กินเยอะๆนะ”
“ไม่หิว ไม่อยากกินน้ำอุ่นด้วย”
พอผมเดินออกมาจากห้องน้ำไอมาร์คก็ยื่นแก้วน้ำให้ทันที ให้กูเช็ดผมก่อนได้มั้ย? แหม่รีบไปไหนล่ะ กูไม่ได้จะหนีมึงกลับประเทศไทยซะหน่อยนะมาร์ค
“ม๊าบอกว่ากินน้ำอุ่นแล้วเลือดไหลเวียนดี”
“โทรคุยกับม๊าหรอ?”
“อืม แต่เช้าละ”
ม๊าไอมาร์คเป็นคนใจดีมากตอนผมอยู่ ม.ต้นท่านมักจะซื้อของมาให้ผมเสมอจนกระทั่งตอนขึ้นปีหนึ่งท่านก็ต้องกลับไปทำงานที่แอลเอบ้านเกิดไอมาร์คซึ่งไม่ต่างกับแม่ผมที่ก็กลับไปทำงานที่ประเทศไทยตอนผมขึ้นปีหนึ่งเช่นกัน ครอบครัวของเราสองคนสนิทกันมากเพราะบ้านอยู่ติดกัน เป็นเรื่องน่าแปลกที่คนต่างชาติสองชาติจะมารู้จักกันได้ในประเทศที่ไม่ใช่บ้านเกิดตัวเองแบบนี้
ผมพยักหน้าแล้วรับน้ำอุ่นในมือมาร์คมาดื่ม เดินไปนั่งที่หน้ากระจกหวังจะเช็ดผมให้แห้ง แต่จู่ๆมาร์คมันก็มาดึงผ้าบนหัวผมไปเช็ดผมให้ผมแทนซะงั้น ผมชะงักนิดหน่อยแต่ก็ยอมให้มันเช็ดผมให้
“มึงมีเรียนบ่าย งั้นเดี๋ยวไปส่งกูที่มหาลัยหน่อยนะ”
“อืม”
คำตอบตามแบบฉบับมาร์คต้วน สั้นๆจบ ไม่ปฏิเสธถึงแม้ตัวเองจะขี้เกียจหรือไม่อยากจะทำมัน รู้สึกเป็นเรื่องดีที่มีเพื่อนเป็นคนนิ่งๆไม่พูดมาก แต่บางทีแม่งก็เงียบไป..
หลังจากแต่งตัวและกินขนมปังปิ้งที่ไอมาร์คทำไว้ให้รองท้องเรียบร้อยแล้วมันก็ขับรถมาส่งผมที่มหาลัย แต่กว่าจะลงจากรถได้ใช้เวลาเกือบสิบนาทีน่าจะได้ในการเตือน ไม่ใช่เตือนดิ บังคับผมว่าห้ามกินน้ำเย็น ห้ามกินนู่นกินนี่ นี่ถ้ารู้ว่าแม่งจะใส่ใจกับการมาประจำเดือนของกูขนาดนี้กูไม่น่าให้มันรู้เลย…
“แบม!! ทางนี้ๆ” เสียงเรียกของเพื่อนใหม่ที่สนิทดังขึ้นทันทีที่ผมก้าวขาเข้ามาใต้ตึกคณะ ใจเย็นๆทิฟฟานี่ เรารู้ว่าเธอคิดถึงเรามาก แต่ช่วยหันไปมองผู้คนรอบข้างด้วยนะ
“เสียงดังว่ะ..”
ผมว่าแล้วนั่งลงที่ม้านั่งตัวตรงข้ามกับฟานี่ เรานั่งกันอยู่สักพักเพื่อพูดคุยกันในเรื่องเมื่อวานที่ไม่ได้เจอกัน ถามว่าเพื่ออะไร? นี่ถ้าปิดเทอมแล้วพอเปิดเทอมกูไม่ต้องเล่าให้นางฟังว่าชีวิตวันแรกจนถึงวันสุดท้ายก่อนเปิดเทอมเป็นยังไงหรอ? ผมถอนหายใจแล้วเริ่มเล่าว่าเมื่อวานผมทำอะไรบ้าง แต่ก็ไม่ได้เล่าทั้งหมด ก่อนที่ทิฟฟานี่จะถามคำถามที่ทำให้ผมไม่รู้จะตอบยังไงขึ้นมา
“เอ้อ แล้วเมื่อกี้ใครมาส่งอะ”
“เพื่อน..”
“อยู่มหา’ลัยนี้หรอ” ผมพยักหน้าส่งๆให้
“ใครอะ” จะตอบยังไง? อยากจะบอกอยู่หรอกนะ ว่าเป็น มาร์คต้วน เดือนคณะสถาปัตย์แต่ก็กลัวฟานี่จะมองว่า เป็นแค่เด็กใหม่มีสิทธิอะไรมาสนิทกับเดือนสถาปัตย์อย่างมาร์คต้วนล่ะ!! ผมเลี่ยงที่จะตอบเธอด้วยการเบี่ยงเบนความสนใจไปเรื่องเรียนแบบหน้าด้านๆแล้วชวนฟานี่ไปเข้าเรียนทันที
ไม่ใช่ว่าไม่อยากให้รู้จัก ไม่ได้หวงเพื่อนเหมือนที่ไอมาร์คทำด้วยแต่รู้สึกเหมือนว่ายังไม่ควรบอกตอนนี้ ถึงวันหน้าๆฟานี่จะต้องได้รู้จักกับมาร์คก็เถอะ แต่ยังไงก็ยังไม่ใช่ตอนนี้
อย่างที่รู้ๆกันคือผมเรียนคณะนิเทศศาสตร์สาขาประชาสัมพันธ์ครับ ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงลงเรียนสาขานี้ ถามว่างานเยอะมั้ย? ก็พอสมควรแต่มันก็ไม่ได้หนักหนามากขนาดไม่ได้หลับได้นอน ซึ่งต่างจากไอมาร์คที่แค่ 2 อาทิตย์แรกก็มีโปรเจ็คให้ทำแล้ว
“ปวดหัวอ่า ฮืออ T0T” ผมหันไปมองทิฟฟานี่ที่นั่งอยู่ข้างๆ เธอบ่นออกมาหลังจากที่อาจารย์สอนเสร็จและเดินออกไปแล้ว ผมทำแค่เอื้อมมือไปนวดขมับทั้งสองขข้างให้เธอเบาๆหวังจะคลายความปวดให้ ฟานี่หันมามองหน้าผมแล้วเบะปากมากกว่าเดิม
“หายได้ละ เพี้ยง” รู้สึกตัวเองปัญญาอ่อนขึ้นทุกที..
“อือ หายละ ฮ่าๆ”
ผมหัวเราะ ไม่ได้ตลกแค่รู้สึกว่าฟานี่กับกูนี่ปัญญาอ่อนดีทั้งคู่ ผมกับฟานี่เราเดินออกมาจากห้องเพื่อไปกินข้าวที่โรงอาหารตอนบ่ายผมมีเรียนถึงบ่ายสองซึ่งพอดีกับไอมาร์คเรียนเสร็จพอดี
“เออนี่ ถามไรหน่อยดิ นี่ไม่มีเพื่อนคนอื่นเลยหรอ?” ผมสงสัยตั้งแต่วันแรกที่ฟานี่เธอเข้ามาคุยกับผมแต่ก็ลืมทุกทีที่จะถาม เธอเข้ามาคุยกับผมตอนนี้เป็นเพื่อนกับผมแล้วก็จริง แต่เธออยู่ที่นี่มานานกว่าผม ก็น่าจะมีเพื่อนไม่ใช่หรอ?
“ไม่มีหรอก แกเป็นเพื่อนคนแรกของฉันนะแบม” ผมอ้าปากค้าง คืออยู่ที่นี่มาสองปี จนตอนนี้ขึ้นปีสามมีผมเป็นเพื่อนคนแรกเนี่ยนะ
“ไม่ต้องตกใจหรอก ฉันแค่คิดว่าคนพวกนั้นมันไม่มีใครจริงใจก็แค่นั้นแหละ” ความคิดของเธอเหมือนความคิดผมเลย ผมมีเพื่อนค่อนข้างเยอะแต่ที่สนิทจริงๆก็มีแค่มาร์คกับยูคยอม ผมแค่คิดว่าคนพวกนั้นไม่ค่อยจริงใจเลยไม่อยากจะสนิทด้วย
“แล้วฉันดูหน้าไว้ใจหรือไงล่ะ”
“ไม่รู้สิ แต่ตอนแบมเดินเข้ามา มันก็สะดุดตา” สะดุดตาอะไรว่ะ กูไม่ใช่ก้อนหินนะ..โอเค ขอโทษไม่ตลกสินะ ผมไม่ได้ตอบอะไรไปแค่หันไปยิ้มบางๆให้ฟานี่ ผมคิดว่าตัวเองน่าจะเข้ากับเธอได้ดีเพราะด้วยนิสัยและความคิดที่ดูเหมือนกัน ก็ถือเป็นเรื่องดีที่ได้มีเพื่อนผู้หญิงกับเค้าบ้าง
ผมเลิกเรียนตอนบ่ายสอง แยกกับฟานี่มาได้ 10 นาทีแล้ว คิดว่าจะโทรให้ไอมาร์คมารับที่คณะแต่ไม่ดีกว่า อยากเซอร์ไพรส์มัน ผมเลยเดินจากคณะนิเทศที่ห่างไกลกับสถาปัตย์เหลือเกินด้วยเท้าเปล่า ไม่น่าคิดจะเซอร์ไพรส์ห่าเหวอะไรเลย แม่งเหนื่อย
ผมมาถึงก็เดินไปนั่งที่ม้านั่งใต้ตึก มองซ้ายมองขวาก็ยังไม่เห็นวี่แววของคนที่มารอ เลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นแก้เบื่อ แต่จู่ๆก็มีปลายเท้าของใครสักคนหนึ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าผม ผมเงยหน้าขึ้นไปมองช้าๆ คนตรงหน้ามองหน้าผมแล้วยิ้ม คำถามแรกที่เกิดขึ้นในใจผมคือ..
มึงเป็นใคร?
“สวัสดีครับ ผมชื่อ เซฮุนนะครับ”
“อือ” ที่ตอบไปแค่นั้นนี่ไม่ได้หยิ่งนะครับ แต่คือมาทักกูทำไม? บอกชื่อทำไม นี่ไม่ได้อยากรู้เลยนะ ดูเหมือนผมเล่นตัวนะ แต่ผู้ชายส่วนใหญ่ที่เข้ามาจีบก็เป็นแบบนี้อะ โดนจนเบื่อแล้วละ
“ชื่อแบมแบมใช่มั้ย?” อ่าว รู้ชื่อกูด้วย จำได้ว่ามาตึกสถาปัตย์เป็นครั้งแรกและนอกจากไอมาร์คกับเพื่อนๆมันในสถาปัตย์ก็ไม่น่าจะมีใครรู้จักผมนะ หรือว่ายังไง
“เราเคยเห็นไอมาร์คมันขึ้นรถกับเธอน่ะ เลยลองไปถามแจ็คสันดู” โอเค กระจ่าง..แต่คืออะไร แจ็คสันคืออะไร มึงเสือกอะไร นี่ไปบอกชื่อกูให้คนอื่นรู้ไปถึงไหนแล้วล่ะ ผมถอนหายใจออกมาแรงๆ ไม่ใช่หยิ่งแต่ถ้าผมไม่อยากคุยก็คือไม่อยากคุย ถ้าผมอยากจะสนิทเดี๋ยวผมก็เข้าหาเอง ไม่ต้องเหนื่อยหรอก ถ้าชอบเดี๋ยวกูรุกเอง เข้าใจตรงกันนะ
“ขอไลน์ได้มั้ย?”
“bambam1a” อ่าว ดีออก ไอปากไม่รักดี นี่ไม่ได้อยากจะให้เลย แต่ถ้าไม่ให้เดี๋ยวก็ตื้ออยู่นั่นอะ แอดมาได้ก็ใช่ว่าผมจะตอบข้อความไอเซฮุนอะไรนี่สักหน่อย
“แล้วนี่มารอไอมาร์คมันหรอ?”
“อืม ได้ไลน์แล้วก็ไปสิ” จะยืนเสนอหน้าตรงหน้าอีกทำไมล่ะ จะว่าไปหมอนี่ก็หล่อเหมือนกันนะเนี่ย หล่อมากด้วยอะ
“เป็นแฟนมาร์คหรอ?”
“จะบ้าหรอ เพื่อนกัน” ฟงแฟนอะไรล่ะ เพื่อนกันโว้ย ไม่เข้าใจว่าทำไมคนถึงชอบเข้าใจผิดผมกับไอมาร์คว่าเป็นแฟนกันเยอะมาก นี่ก็พยายามทำตัวให้เหมือนเพื่อนกันสุดๆแล้วนะ แต่อาจจะเพราะผมกับมาร์คเราอยู่ด้วยกันตลอดเลยทำให้คนเข้าใจผิดเยอะ
“งั้นก็ดี..”
“….”
“เราจะจีบเธอ”
ถามว่าตกใจมั้ย? ก็นิดหน่อย แต่ผมก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากเพราะชินซะแล้วที่มีคนเข้ามาจีบแบบนี้แต่สุดท้ายเป็นยังไงล่ะ ไม่เคยมีใครจีบผมติดสักคน ผมไม่ใช่คนจีบยากแค่เล่นตัวนิดๆหน่อยๆเอง คนพวกนั้นไม่มีความพยายามเองต่างหากล่ะ
ผมมองตามร่างของเซฮุนที่เดินออกไปเมื่อพูดว่าจะจีบผมเสร็จ เค้าหันมาส่งยิ้มให้ผมพร้อมกับวิ้งค์ที่คิดว่าถ้าผู้หญิงคนอื่นมาเห็นคงจะละลายกองอยู่กับพื้น แต่โทษที มันใช้ไม่ได้กับผม
“คุยกับใคร”
“อ่าว มาแล้วหรอมึง” เหมือนผมจะมองเซฮุนเพลินไปหน่อยเลยไม่ได้สังเกตว่าไอมาร์คและเพื่อนๆมันสามคนเดินมานั่งโต๊ะเดียวกับผมแล้ว
“กูถามว่าคุยกับใครเมื่อกี้”
“เห็นบอกว่าชื่อเซฮุนอะ”
“คุยอะไรกัน” เอ๊ะ ไอเชี่ยมาร์คนี่กูมารอมึงตั้งนานไม่คิดจะถามว่ากูรอนานมั้ย เหนื่อยหรือเปล่าอะไรแบบนี้เลยใช่มั้ย มาถึงก็ยิงคำถามบ้าๆใส่กูเลย เกลียด!
“เค้ามาจีบกู!”
“ห้ะ เซฮุนเนี่ยนะจีบแบมแบม? กูว่าแล้ว วันนั้นมันเดินมาถามชื่อแบมแบมกับกูด้วย” ไม่ใช่มาร์คที่พูดออกมาแต่เป็นแจ็คสันครับ ตกใจเวอร์มากหน้าอย่างเดียวไม่พอยกมือขึ้นทาบอกอีก อีกะเทยภูธร..
“กลับ!”
เดี๋ยวมาร์คเดี๋ยว ไอน้ำเสียงที่ดูโมโหและไม่พอใจกับสายตาที่จิกแรงมาที่กูแบบนี้หมายความว่ายังไง นี่กูมารอมึงตั้งนานเพื่อให้มึงทำกิริยาแบบนี้ใส่กูหรอมาร์ค มันใช่หรอ? เดี๋ยวกูฟรีคิกใส่เลยไอนี่ ทำไมทำกับกูแบบนี้ ห้ะ!!
“เราไปก่อนนะ”
ผมหันไปโบกมือลาให้แจ็คสันเจบีแล้วก็จูเนียร์ก่อนจะรีบเดินตามแรงกระชาก อืม ใช้คำว่ากระชากอะถูกแล้ว ไม่ได้ดึงธรรมดาแต่มันกระชากซะจนผมเซเลย เป็นบ้าอะไรอีกล่ะ..
“เชี่ยมาร์ค ปล่อยได้แล้ว คนมอง!”
มาร์คปล่อยมือจากผมแล้วเดินนำขึ้นไปบนรถทันที ผมรีบเดินตามมันไปขึ้นรถเพราะกลัวว่าถ้ามันนึกบ้าอยากจะทิ้งให้กูกลับคนเดียวขึ้นมานี่ต้องไปขึ้นแท็กซี่กลับเองแน่ๆ แต่ผมก็แค่คิดไปงั้นแหละ ไอมาร์คมันไม่ทิ้งผมไปไหนหรอก ผมมั่นใจ ถ้ามันขับรถออกไปแล้วปล่อยให้ผมอยู่ตรงนี้จริงๆ เชื่อเถอะว่าสุดท้ายมันก็เลี้ยวรถกลับมารับผมไปอยู่ดี
“เป็นอะไรของมึงมาร์ค” นั่งรถมาได้ครึ่งทางผมตัดสินใจถามมัน คือไม่เข้าใจว่าตัวเองทำอะไรผิดเฉยๆ อยู่ดีๆก็เงียบใส่แบบนี้ เข้าใจว่ามาร์คมันเป็นคนเงียบ ไม่ค่อยพูด แต่นี่ขับรถมาจนจะถึงคอนโดอยู่ละไม่ปริปากพูดสักคำเลย
“ป่าว” ตอแหลมาก ดีออก เงียบขนาดนี้มึงบอกป่าว กรุณาเกรงใจสีหน้าตัวเองที่แสดงออกมาตอนนี้ด้วยว่ามันตรงกับคำที่มึงปฏิเสธออกมามั้ย
“เรื่องมึงละกัน”
“กูไม่อยากให้ยุ่งกับเซฮุน”
“นี่ก็ไม่ได้ยุ่งนะ เค้ามายุ่งกับกูเอง”
“…”
“จริงๆเค้าก็หล่อดี..”
“…” อยากจะขำให้ฟันร่วง ถ้าใครมาเห็นหน้าไอมาร์คที่หันมามองผมตอนพูดว่าเซฮุนก็หล่อดี นี่บอกเลยว่ามึงต้องกลัวจนขนตูดลุก ไอห่า มองแรงมาก
พอกลับถึงคอนโดผมก็รีบเดินเข้าห้องน้ำทันที อยากจะพักผ่อนใจจะขาด รู้สึกเหนื่อยกว่าทุกๆวันเพราะวันนี้เรียนเยอะกว่าปกติ เฮ้อ ต่อให้เรียนด้านที่ชอบยังไงมันก็เหนื่อยอะ เข้าใจใช่มั้ย?
อาบน้ำใส่ชุดนอนตอนบ่าย 3 นี่มีใครทำบ้าง หวังว่าคนอื่นๆคงจะทำ มันคงไม่มีแค่ผมคนเดียวหรอกมั้งที่ทำแบบนี้ ผมเดินออกมาจากห้องน้ำมาเช็ดผมให้แห้งอยู่หน้ากระจกแล้วเดินไปทิ้งตัวลงบนเตียงเพื่อเช็คดูว่ามีข้อความอะไรส่งมาหรือเปล่า ก็พบกับข้อความในไลน์ของแม่ที่ส่งมาบ่นว่าคิดถึงผมมาก
จะว่าไปผมไม่ได้สไกป์คุยกับแม่มาเกือบๆ 3 อาทิตย์แล้ว นึกแล้วก็คิดถึงแม่จัง แต่จะให้สไกป์ไปหาแม่ในสภาพนี้แม่ต้องตกใจจนช็อคไปเลยแน่ๆที่จู่ๆก็มีลูกสาวเพิ่มมาหนึ่งคน เฮ้อ ว่างๆคงต้องไปหาวิกมาใส่สไกป์คุยกับแม่บ้างละ นอนกลิ้งเล่นอยู่บนเตียงสักพักก็รู้สึกหิว แต่ใส่ชุดนอนแล้วอะ ขี้เกียจลงไปซื้อของกินแล้ว
“มาร์ค!!!!”
“…” ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก
“ไอมาร์คคค!!!”
“…” ฉันพบเพียงความว่างเปล่า..
เรียกไม่ได้ยินหรือไงล่ะ แล้วกูนี่เป็นอะไรไม่มีขาหรอแค่ลุกขึ้นเดินไปหามันข้างนอกก็จบแล้วมั้ยล่ะ แหกปากหาพระแสงอะไรให้เจ็บคอเล่นจนต้องเอาเสตร็ปซิลรสน้ำผึ้งมะนาวมาอม..
แต่ด้วยความขี้เกียจนี้ที่มีมากกว่าความหิวหลายร้อยเท่าทำให้ผมยังคงนอนอยู่บนเตียงและกดโทรศัพท์เล่นต่อไป ไถไปไถมาจนไม่รู้จะเล่นอะไรแล้ว เบื่อสุดๆ เห้อม แล้วนี่ไอมาร์คมันอยู่ข้างนอกมั้ย คือนี่หิวมากแต่ขี้เกียจ โทษใครดี?
“แบมแบมออกมากินข้าว” สัญญาเลยชาตินี้จะเอามาร์คเป็นสามีให้ได้ ถุ้ย ไม่มีใครรู้ใจผมเท่ามันละ นอกจากแม่และครอบครัวก็ไอมาร์คนี่แหละที่ทำอะไรให้ผมหลายๆอย่างโดยไม่บ่นสักคำ ไม่ต้องพูดคือมันก็สามารถรับรู้ได้ว่าผมต้องการอะไร
“ขอบคุณค่ะ ป๋ามาร์ค”
“เป็นผู้หญิงหัดทำกับข้าวบ้างก็ดีนะ ขี้เกียจจริงๆ”
“ผู้หญิงบ้านมึงดิ กูเป็นผู้ชาย!!”
“เพิ่งจะรู้ว่าผู้ชายสมัยนี้มีนมด้วย..” เอาอีกแล้ว พูดอย่างเดียวได้มั้ยล่ะมาร์ค มึงมองนมกูอีกแล้วนะ เลิกส่งสายตาแบบนั้นมาให้นมกูสักที ไอโรคจิต ไอหื่นกามเอ้ย กูไม่รู้จะพูดยังไงแล้วนะ
“หยุดมองเดี๋ยวนี้นะไอมาร์ค!”
“ก็น่ารักดีเลยอยากมอง”
ตบปากตัวเองสิบทีเดี๋ยวนี้มาร์คต้วน ถ้าพูดแบบนั้นแล้วมองหน้ากู กูจะไม่ว่าอะไรมึงเลยนะ แต่ก่อนจะพูดแบบนั้นช่วยเงยหน้าขึ้นมองหน้ากูด้วยมึงมองต่ำเกินไปไอหื่นกาม!!!
“มีเพื่อนแล้วยัง?” ระหว่างที่ผมกำลังยัดทุกอย่างที่ไอมาร์คซื้อมาอย่างกับคนไม่ได้กินข้าวมาเป็นเดือนมันก็ถามผมขึ้น
“มีแล้ว สวยมาก”
“พามาให้รู้จักบ้างนะ”
“อือ ว่าจะพามาอยู่แต่ไว้วันหลังเหอะ”
มาร์คพยักหน้ารู้เรื่อง ผมก็ก้มลงไปกินต่อ แต่จู่ๆเสียงจากไลน์ในโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้นผมกดเข้าไปดูว่ามีใครส่งไลน์มา
‘ooohsehun : แบมแบมอ่า’
ใครวะ? ผมกดเข้าไปดูรูปโปรไฟล์ชัดๆก็กระจ่างเลยครับ เซฮุนสถาปัตย์นี่เองสินะ ผมไม่กล้าส่งข้อความตอบเซฮุนไป ไม่ใช่อะไร แต่ไอมาร์คมันกำลังจ้องผมอะ นี่กลัวมันกระชากผมไปตบมาก ทำหน้าตาเหมือนผู้หญิงเวลาจะตบแย้งผู้ชายกันอะ
กูกลัว..
ผมตัดสินใจวางโทรศัพท์ไว้ที่เดิมแล้วเก็บจานชามเตรียมจะไปล้างโดยไม่ลืมสั่งไอมาร์คให้มาช่วยล้างจานด้วย ถึงผมจะกินคนเดียวแต่ก็ไม่อยากล้างคนเดียวหรอกนะ แล้วถามว่าใครล้างเยอะกว่าระหว่างผมกับไอมาร์ค แน่นอน คำตอบคือ ไอมาร์ค..
แลดูเป็นคนนิสัยดี๊ดีนะกูเนี่ย
ช่วยไอมาร์คล้างจานเสร็จเรียบร้อยแล้วผมก็เดินไปเก็บผ้าที่ตากไว้ตรงระเบียง เก็บเสร็จก็ยืนมองวิวข้างล่างที่ระเบียงสักพัก ทำตัวเสมือนนางเอกเอ็มวี..
“เหม่ออะไรอยู่?”
“ดูวิวเพลินเฉยๆ”
ตอบไอมาร์คเสร็จผมก็หันไปสนใจวิวข้างหน้าต่อ ดูอยู่สักพักผมก็รับรู้ได้ถึงแรงกอดที่มาจากด้านหลังของผม
ไอมาร์คกำลังกอดผม..
“กอดกูทำไม?”
“…”
“มาร์ค”
“ก็แค่อยากกอด..”
ผมไม่ได้อยากขัดมัน แต่มันกอดผมแน่นเกินไปและตอนนี้บรรยากาศรอบๆก็เงียบมาก ถึงจะได้ยินเสียงรถที่แล่นผ่านไปมาจากข้างล่างตึกบวกกับเสียงลมที่พัดไปมาเบาๆ แต่ผมก็กำลังกลัว
กลัวว่ามันจะได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นแรงของผมนี่ไง..
มาร์คยืนกอดผมนานมาก..ผมเองก็ไม่คิดว่าตัวเองจะบ้ามากขนาดถึงยอมให้มันยืนกอดอยู่เป็นชั่วโมง มันเอาคางมาเกยไหล่ผมตั้งแต่ ห้าวินาทีแรกที่เดินเข้ามากอดผมแล้วละ ผมก็อยากจะเขินมากกว่านี้อยู่หรอกนะ แต่กูเมื่อย!!!
“ปล่อยได้ยัง?”
ไม่มีเสียงตอบรับ..
“มาร์คกูเมื่อยแล้ว”
ผมพูดแค่นั้นไอมาร์คก็ยอมคลายอ้อมกอดออก เฮ้อ รู้สึกสับสนในตัวเอง กะอีแค่มาร์คมันเดินเข้ามากอดผมทำไมถึงได้รู้สึกอะไรๆภายในร่างกายมันทำงานหนักจนเหนื่อยได้ขนาดนี้เนี่ย
ผมเดินเข้ามาในห้องนอนแล้วมองดูโทรศัพท์ที่มีการแจงเตือนไลน์แบบรัวๆ อ่า..ลืมไปเลยว่ายังไม่ได้ตอบไลน์เซฮุน เอาเป็นว่าไม่ตอบก็แล้วกัน ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรผู้ชายคนนั้นมากอยู่แล้วด้วย ก็คงไม่จำเป็นต้องตอบหรอก เดี๋ยวเบื่อก็คงเลิกส่งมาเอง ตอนนี้ขอพักผ่อนหน่อยก็แล้วกัน
ผมหลับตาลงแต่ยังไม่ทันได้หลับลึกก็รู้สึกถึงแรงยวบของเตียงด้านข้าง ไอมาร์คคงอาบน้ำเสร็จแล้วแน่ๆ ผมหันไปข้างๆหวังจะนอนกอดไอมาร์คแต่พอลืมตาขึ้นมาก็เห็นว่ามาร์คมันจ้องผมอยู่..
มาร์คละสายตาจากใบหน้าผมแล้วค่อยๆจับนิ้วมือของผมขึ้นมาลูบไปมาและหันมามองหน้าผมอีกครั้งพร้อมกับใบหน้าของไอมาร์คค่อยๆขยับเข้ามาใกล้หน้าผมมากขึ้นเรื่อยๆ จนผมรับรู้ถึงลมหายใจของอีกคน ริมฝีปากของไอมาร์คค่อยๆเคลื่อนเข้ามากดจูบที่หน้าผากของผม
อ่า..นี่มันอะไรกัน
มาร์คยังไม่หยุดแค่นั้น ขยับริมฝีปากนั่นมาหยุดอยู่ตรงริมฝีปากของผม และสิ่งที่ผมไม่คาดคิดว่าชาตินี้ไอมาร์คจะทำกับผมก็เกิดขึ้น
ไอมาร์คกำลังจูบผม!!!
เป็นการจูบที่ประทับริมฝีปากลงมาเฉยๆไม่ได้รุกล้ำอะไร แต่ไอเหี้ย มึงจูบกูทำไม นี่มันจูบแรกเลยนะ กูเสียจูบแรกให้เพื่อนสนิทตัวเองเนี่ยนะ ?! ไอมาร์คมันเมากาวใช่มั้ยตอบ..
มาร์คถอดจูบออกแล้ว แต่ผมยังค้างอยู่กับที่ ใครไม่อึ้งแม่งก็บ้าแล้ว คนที่ไม่ใช่แฟนกันเป็นแค่เพื่อน แค่เพื่อนสนิท จูบกันได้ด้วยหรือไงล่ะ
“มึง..”
“...”
“มึงจูบกูทำไม” กันต์พิมุกตบหน้าตัวเองเดี๋ยวนี้ปฏิบัติ กูถามอะไรออกไป อายมั้ยอีห่า..ถึงผมจะอายที่ถามออกไปตรงๆแบบนั้นแต่ความอยากรู้มันก็มีมากกว่า ผมอยากรู้ว่า มันจูบผมทำไม เราเป็นเพื่อนกัน มาร์คทำแบบนี้ทำไม?
“ขอโทษ นอนเถอะ”
ผมถอนหายใจออกมาแรงๆ รู้สึกเกลียดไอการไม่ชอบพูดของไอมาร์คขึ้นมาก็วันนี้แหละ กูไม่ได้อยากได้คำขอโทษมาร์ค กูแค่อยากรู้ว่ามึงจูบกูทำไม กูแค่อยากรู้ว่า..
ใจมึงเต้นแรงเหมือนกูมั้ย?
TBC..
#กล้าท้าก็กล้าลอง
เพื่อนสนิทกันก็จูบกันได้นะแบมแบม เผื่อหนูจะไม่รู้
มัคจูบแบมทำไมคะ ตอบบบ
จูบแรกแบมแบมกลายเป็นของมาร์คไปแล้วค่ะ
สองสามวันมานี้ มม.มบเยอะมาก ฟินไม่ทันเลยค่ะ5555555
ว่าจะอัพตั้งแต่เมื่อวานแล้วค่ะ แต่ฟินเพลินบวกกับยังปั่นไม่เสร็จเลยไม่ได้อัพ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ
ความคิดเห็น