คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : ▽The Challenge ☆ Chap 15 (100%)
The challenge กล้าท้าก็กล้าลอง
Mark x Bambam
-15-
ผมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมากลางดึกประมาณตีสอง
อยากจะนอนต่อแต่ก็นอนไม่หลับแล้ว เลยเดินเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างตา
จากนั้นก็เดินไปเปิดประตูห้องนอนเพื่อมองหาใครอีกคน ก็มาร์คนั่นแหละครับ
ผมคิดว่ามาร์คจะไปนอนบนโซฟาแต่พอเปิดประตูออกมาก็เจอมันนอนขดตัวอยู่หน้าห้อง
“มาร์ค..เข้าไปนอนในห้อง”
ผมเขย่าตัวมาร์คแรงๆเพื่อปลุกให้มันเข้าไปนอนในห้อง
ตอนนี้ผมรู้สึกดีขึ้นมากแล้ว คงจะเป็นเพราะร้องไห้มากจนคิดว่ามันมากเกินไปแล้วมั้ง..
“มาร์คตื่นเหอะ เข้าไปนอนในห้องไป”
“แบม..ขอโทษ”
“ไปนอนเหอะ”
“ขอโทษ..”
มาร์คเอาแต่พูดขอโทษไม่หยุดแต่ก็ไม่ยอมลืมตาขึ้นมาสักที
ผมเลยนั่งยองๆหวังจะตบหน้ามันเบาๆให้รู้สึกตัว
แต่ทันทีที่มือผมแตะเข้ากับแก้มมาร์คก็ต้องรีบชักกลับทันที
ไอมาร์คตัวร้อน..
“มาร์ค!”
ผมไม่รู้จะทำยังไงดี
เลยพยายามลากตัวมาร์คเข้ามาในห้อง ถึงมาร์คจะไม่ได้ตัวใหญ่มากแต่มันก็หนักอยู่ดีสำหรับผม
กว่าจะลากเข้ามาในห้อง กว่าจะยกมันขึ้นมาบนเตียงได้ก็ใช้เวลานานอยู่พอสมควร
ผมรีบเดินเข้าห้องครัวเพื่อเตรียมของที่จะเช็ดตัวให้มาร์ค นี่เป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่ผมได้ทำอะไรแบบนี้
เพราะมาร์คไม่เคยไม่สบายหนักขนาดนี้ ทุกๆครั้งมาร์คจะดูแลตัวเองได้
“เฮ้อ..”
หลังจากเช็ดตัวให้เสร็จผมก็เอาเสื้อผ้าที่หนากว่าเสื้อผ้าที่มาร์คใส่อยู่มาเปลี่ยนให้
และเอาผ้าห่มอีกผืนมาห่มให้ ปลุกให้ตื่นมากินยาเท่าไหร่มาร์คก็ไม่ยอมตื่น
หวังว่าไข้มันจะลดลงบ้างไม่มากก็น้อย อย่างน้อยๆก็ให้ตัวร้อนน้อยกว่านี้ก็คงจะดี
เพราะตอนนี้ตัวมาร์คร้อนมากจริงๆ
ผมได้แต่นั่งมองมาร์คนิ่งๆอย่างนั้น
นั่งไปนั่งมาจู่ๆแสงแดดจากพระอาทิตย์ก็ส่องเข้ามาภายในห้อง
ไม่อยากจะเชื่อว่าผมจะนั่งอยู่แบบนั้นเป็นเวลานานกว่า 5 ชั่วโมงได้
ถ้ามาร์ครู้คงจะตกใจน่าดู..
ผมเอามือแตะหน้าผากมาร์คก็พบว่าตัวมันเริ่มอุ่นๆและไม่ร้อนเหมือนตอนแรกแล้ว
เลยลุกขึ้นเพื่อจะเอาของไปเก็บและอาบน้ำแต่งตัวลงไปซื้อข้าวให้มาร์คกินก่อนกินยา
แต่จู่ๆทันทีที่ผมลุกขึ้นก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาซะก่อน
แล้วผมก็ล้มลงไปนอนกองอยู่ที่พื้นแทน
“คนยิ่งรีบๆอยู่”
ผมสบถออกมาเบาๆ
แล้วรีบลุกขึ้นก่อนจะลุกขึ้นลูบท้องตัวเองเบาๆเพื่อปลอบประโลมอีกคน
เพราะกลัวว่าตอนที่ล้มลงไปจะส่งแรงไปสะเทือนถึงลูกน้อยในท้อง แต่ล้มแค่นี้คงไม่เป็นไรหรอกเนอะ
หลังจากนั้นผมก็เดินเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วก็รีบลงไปซื้อข้าวให้มาร์คทันที
“ตื่นแล้วหรอ งั้นเดี๋ยวกูเอาข้าวใส่จานนะ”
“อืม..”
ทันทีที่เดินเข้ามาในห้องก็เห็นไอมาร์คนอนลืมตา
มองมาที่ผมอยู่
ผมเลยเดินเข้าห้องครัวไปเอาข้าวใส่จานและไม่ลืมที่จะหยิบยาลดไข้ที่ซื้อมาด้วยเมื่อสักครู่
กินตอนนี้คงทันแหละ ตัวมันยังอุ่นๆอยู่เลย
“กูอิ่มแล้ว..”
มาร์คพูดออกมาหลังจากตักข้าวเข้าปากไปประมาณสองช้อน
อิ่มเหี้ยไร ตักเข้าปากแค่สองคำแถมแต่ละคำที่ตักเข้าปากก็น้อยอย่างกับตักให้มดแดก..
“อิ่มบ้าอะไร
มึงกินไปนิดเดียวเองนะ กินเข้าไปอีกหน่อยเหอะ เดี๋ยวจะได้กินยา”
“กูไม่ได้เป็นอะไรมากสักหน่อย”
“เฮ้อ แล้วแต่มึงก็แล้วกัน”
พูดจบผมก็ลุกขึ้นทำท่าจะเดินออกจากห้อง
ไอมาร์คมันดื้อ
ซึ่งผมก็ไม่อยากจะมาต่อปากต่อคำกับคนที่ไม่สบายแล้วยังอวดเก่งแบบมันด้วย
แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้ก้าวเดินออกจากห้องนอนเลย
มาร์คก็เรียกผมด้วยเสียงเบาๆจนต้องหันไปมอง
“มึงเป็นอะไร..”
“อะไร? กูก็เป็นคนไง
ถามแปลกๆ”
ผมรู้ว่าคำตอบตัวเองกวนตีนแต่มันก็จริงนี่ครับ
ผมเป็นคนจริงๆนะ..
“กูเห็นมึงลูบท้องตัวเองตลอดเวลาเลย
เป็นอะไร?”
ผมชะงักทันทีที่ได้ยินมาร์คพูดแบบนั้น
แต่ก็พยายามชักสีหน้าให้เป็นปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้ เรื่องนี้มาร์คต้องไม่รู้..ให้รู้ไม่ได้หรอก
“เป็นไร กูก็จับๆลูบๆไปงั้นแหละ”
“หรอ..”
“เออ ไม่มีอะไรงั้นกูไปเรียนแล้วนะ
เลิกตอนเที่ยง เดี๋ยวซื้อข้าวมาให้”
“เดี๋ยว..”
“อะไรอีก!”
“กูรักมึงจริงๆนะ”
ผมไม่ได้ตอบอะไรมาร์ค
เลือกที่จะเดินออกจากห้องนอนทันที แววตาที่ดูเศร้าๆของมาร์คทำให้ผมรู้สึกไม่ดีเลยสักนิด
แต่ผมยังไม่พร้อมที่จะตอบรับรักของมัน ถึงจะอยากแค่ไหนก็เถอะ..
“แบมแบม”
ทันทีที่ผมมาถึงมหา’ลัยก็มีเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นจากข้างหลัง
ทันทีที่หันไปมองก็พบว่าเป็นผู้ชายที่ผมเรียกว่าแฟน…จะพูดให้ยุ่งยากทำไมอันนี้ผมก็ไม่รู้ครับ
ก็เซฮุนนั่นแหละ กูจะพูดอ้อมทำไม
“เซฮุน..”
“ทำไมมากับแท็กซี่ล่ะ
โทรมาหาเค้าก็ได้”
ฟังไม่ผิดหรอกครับ เซฮุนแทนตัวเองกับผมว่า เค้าและเรียกผมว่าตัวเอง..ดูเป็นประโยคที่มุ้งมิ้งสัสๆ
แต่ยังดีที่ไม่ได้เรียกแทนแบบนั้นตลอดเวลา
คือมันเป็นการแทนตัวเองและเรียกแฟนที่ผมตั้งใจไว้แล้วว่าเกิดมาชาตินี้ยังไงๆกูก็จะไม่มีทางใช้มันแทนตัวเองกับใครแน่นอน..ไม่มีทาง!!
“เค้าไม่อยากรบกวนตัวเองอ่ะ”
อ่าว..หลุดปากเฉยๆครับ ไม่ได้อยากพูด..
25%
เซฮุนเลือกที่จะเดินมาส่งผมที่ใต้คณะ
แต่พอมาถึงผมก็ยังไม่เจอฟานี่เลยนั่งอยู่ที่โต๊ะใต้ถุ่นอาคารโดยมีเซฮุนนั่งเป็นแฟนอยู่ข้างๆ
ในตอนที่นั่งรอฟานี่ผมก็ได้แต่นั่งกดโทรศัพท์เล่นอยู่เรื่อยเปื่อย
จู่ๆในสมองก็มีเรื่องลูกในท้องโผล่เข้ามา ผมควรจะบอกเซฮุนตอนนี้ดีมั้ย?
“เซฮุน..”
ผมเรียกเซฮุนเบาๆก่อนที่เค้าจะหันมาสบตากับผมแล้วเลิกคิ้วถามประมาณว่า
มีอะไรหรือเปล่า? แต่เหมือนผมจะเงียบและมองหน้าเค้านานเกินไปเซฮุนเลยเขย่าตัวผมเพื่อให้ผมมีสติมากขึ้น
“คือ..ถ้าฉันมีลูกนายจะดีใจมั้ย?”
“ถามแปลกๆนะเนี่ย
แค่กอดตัวเองเค้ายังโดนว่าเลย ฮ่าๆ”
เซฮุนว่าแล้วหัวเราะ มันจริงอย่างที่เซฮุนพูด
เวลาที่เค้าจะกอดผมๆมักจะตีเค้าตลอด
เซฮุนจะกอดผมได้ก็เฉพาะตอนที่ผมอนุญาตเท่านั้นแหละครับ
มาพูดถึงเรื่องมีลูกแบบนี้มันก็คงน่าขำจริงๆนั้นแหละ..แต่ถ้าผมมีลูก
ที่ไม่ใช่ลูกของเซฮุนล่ะ?
“แล้วถ้าฉันมีลูก..ที่ไม่ใช่ลูกของนาย มันจะเป็นยังไงหรอ?”
“…”
เซฮุนนิ่งไปเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง แล้วผมก็เหมือนจะเห็นว่าแววตาของเซฮุนสั่นไหวแต่แค่แวบเดียวเท่านั้นแล้วเค้าก็กลับมาส่งยิ้มให้ผมอีกครั้ง
ยังไม่ทันที่เค้าจะได้พูดอะไร ผมก็พูดในสิ่งที่อยากพูดออกมาซะก่อน
“ฉันท้อง..”
“…”
“ลูกของมาร์ค”
“…”
เซฮุนเงียบไปนานมาก
นานจนผมคิดว่าตอนนี้เค้าคงเกลียดผมไปแล้วแน่นอน จะมีผู้ชายที่ไหนเค้ารับได้กันล่ะ ที่แฟนตัวเองไปท้องกับผู้ชายคนอื่น
ผมรู้ว่าตัวเองผิดและผมเองก็เสียใจ แต่ผมทำอะไรไม่ได้เลย ผมแก้ไขอะไรไม่ได้
“ฮึก..ขอโทษนะ
ฉันขอโทษจริงๆ”
“…”
“ขอโทษจริงๆนะเซฮุน ฮึก”
ผมรู้ตัวดีว่าการที่เอาแต่พูดขอโทษแบบนี้มันไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นเลยสักนิด
แต่ผมแค่หวังว่าเซฮุนจะเอ่ยปากพูดกับผมบ้าง เค้าเอาแต่เงียบ ผมอยากให้เค้าพูดกับผม
จะด่าจะว่าผมก็ได้ที่เป็นคนแบบนี้
“ฮือ..ฮึก”
“พอเถอะ..”
“นายจะว่าฉันก็ได้ ฉันมันไม่ดีเอง..”
ผมพยายามจะหยุดร้องไห้แล้วหันไปบอกกับเซฮุน
ตอนนี้ขอแค่เค้าพูดกับผม จะด่าจะว่าอะไรผมก็ยอมทั้งนั้น เค้าเป็นคนดี
ดีมากจนผมไม่อยากให้เค้าเสียใจแบบนี้ ไม่อยากให้เค้าดีกับผมในตอนนี้เลย
เซฮุนยังเอาแต่เงียบแล้วก้มหน้าลงมองไปที่พื้น แต่จู่ๆเค้าก็เงยหน้าขึ้นมา
ก่อนที่เค้าจะโผล่เข้ากอดผมแน่นๆ
“ไม่เป็นไร แบมไม่ผิดหรอก”
ไม่น่าเลย คนดีๆอย่างเซฮุนไม่น่ามารักมาชอบผมเลย
ไม่น่าเลยจริงๆ เรื่องแบบนี้เป็นใครๆเค้าก็ต้องโกรธกันทั้งนั้น แต่ทำไม..ทำไมเซฮุนถึงยังดีกับผมมากขนาดนี้
เค้าดีมากจนผมรู้สึกแย่ที่เค้าไม่แม้แต่จะโกรธหรือต่อว่าผมในเรื่องนี้
“อย่าโทษตัวเองเลยนะ”
เซฮุนว่าแล้วลูบหลังผมเบาๆเป็นการปลอบ
ผู้ชายคนนี้เป็นคนอบอุ่นจริงๆ..
“นายจะเลิกกับฉันก็ได้นะ..”
ไม่รู้อะไรทำให้ผมพูดคำนั้นออกไป
ผมแค่รู้สึกว่าถ้าตอนนี้เรายังคบกัน เซฮุนอาจจะรู้สึกแย่หรือเปล่า? เค้าต้องรับไม่ได้แน่ๆ
อีกอย่างตอนนี้ผมก็รู้สึกไม่กล้าพอที่จะสู้หน้าเซฮุน แค่เงยหน้าขึ้นไปมองเค้าตอนนี้ผมยังไม่กล้าเลย
“ตัวเองอย่าพูดแบบนี้สิ เค้ารับได้”
“…”
“เค้าจะดูแลตัวเองแล้วก็ลูกในท้องเอง..”
“!!!!”
คำพูดนี้คือคำพูดที่ผมไม่เคยคิดว่ามันจะถูกพูดออกมาหลังจากที่ผมบอกเรื่องนี้กับเซฮุน
ในความคิดของผม มันไม่มีทางที่ใครจะรับได้หากรู้เรื่องนี้..
แต่เซฮุนกลับรับได้..และบอกว่าจะดูแลผมกับลูก
ผมเงยหน้าขึ้นมามองเซฮุน
แววตาจริงจังของเค้าตอนนี้คือสิ่งที่ยืนยันได้เลยว่าสิ่งที่เค้าพูดออกมาคือเรื่องจริง..เค้าจะทำมันจริงๆ
“แต่มันเป็นเรื่องที่ไม่น่าให้อภัยเลยนะ..”
“กี่เดือนแล้ว..?”
เซฮุนไม่ได้สนใจสิ่งที่ผมพูด เค้ากลับถามคำถามผมแล้วเอามือมาลูบๆบริเวณหน้าท้องของผมเบาๆอย่างกับกลัวว่าผมจะเจ็บ
“จะหนึ่งเดือนแล้ว..”
ทันทีที่ผมตอบไปเซฮุนก็ยกยิ้มที่ผมคิดว่ามันกว้างมากๆ
อะไรกัน ผู้ชายคนนี้..สถานการณ์ตอนนี้มันมีอะไรน่ายินดีนักหรือไงล่ะ?
เฮ้อ
“แบมท้องก่อนจะคบกับเค้าอีก..อย่าคิดมากเลย”
“….”
“มาดูแลลูกของเราให้ดีกันเถอะ”
ในสมองของผมตัดภาพไปที่ผู้ชายอีกคนที่ตอนนี้คงจะนอนป่วยอยู่ที่ห้องทันทีที่เซฮุนพูดคำว่า
‘ลูกของเรา’ ออกมา ถึงตอนนี้ผมจะคบกับเซฮุนและเซฮุนก็พร้อมที่จะดูแลผมกับลูก
แต่ความจริงก็คือความจริง ผมไม่สามารถหนีมันพ้นได้ ยังไงแล้วสุดท้าย
มาร์คก็คือพ่อของลูกผม..
ผมได้แต่ส่งยิ้มที่จะสุขก็สุขไม่สุด
มันเหมือนยังมีอะไรที่ค้างคาใจ อยากจะพูดแต่ก็พูดไม่ได้
อยากจะบอกแต่ความกลัวมันก็มีมากเกินไปจนไม่กล้า
สิ่งที่เกิดขึ้นกับผมตอนนี้มันถูกแล้วหรอ..
มันคือสิ่งที่ควรจะเกิดขึ้นหรอ?
50%
หลังจากนั่งคุยกับเซฮุนจนน้ำตานองหน้า
ฟานี่ก็เดินมาพอดี ผมเลยรีบเช็ดน้ำตาตัวเองออกเพราะไม่อยากให้เธอเป็นห่วงและต้องคิดมากแทนผมอีก
เราทั้งคู่พากันไปขึ้นเรียนตามปกติ ผมมีอาการปวดหัวนิดหน่อยในตอนที่นั่งเรียนอยู่
แต่โชคดีที่ไม่ได้มีความรู้สึกอยากจะอ้วกเหมือนวันก่อนๆ
หลังจากเลิกเรียนฟานี่อาสาจะไปส่งผมซึ่งผมเองก็ไม่ได้ปฏิเสธอยู่แล้ว
เพราะความจริงก็ไม่อยากจะกลับกับแท็กซี่ซักเท่าไหร่
“เออว่าแต่อาการแพ้ท้องแกเป็นไงบ้าง?”
“วันสองวันนี้ดีขึ้นเยอะเลย
ไม่ค่อยอ้วกเท่าไหร่”
“ดีแล้วแก เดี๋ยวมันก็ดีขึ้นเอง”
ผมพยักหน้าแล้วส่งยิ้มให้เพื่อนสาวที่ขับรถอยู่ข้างๆ
ฟานี่หันมายิ้มยิงฟันให้ผมแล้วหันกลับไปสนใจทางข้างหน้าต่อ
“ฉันบอกเซฮุนไปแล้ว..”
“จริงมั้ย?”
ผมพยักหน้าเป็นคำตอบให้เธอ ฟานี่ทำหน้าตกใจ
ผมเองก็ไม่เข้าใจว่าเธอจะตกใจทำไมก็ในเมื่อเธอเป็นคนบอกให้ผมไปบอกเซฮุนเองนี่
“แสดงว่าตอนนี้แกกับเซฮุนก็เลิกกันแล้ว?”
“ไม่ได้เลิก”
“ว่าไงนะ!?”
ฟานี่ดูจะตกใจมากกว่าตอนที่ผมบอกว่าผมบอกเรื่องท้องกับเซฮุนอีกครับ
เธอเลี้ยวรถไปจอดข้างๆทางทันทีที่ผมพูดออกไปว่ายังไม่ได้เลิกกับเซฮุน
“แกบอกเซฮุนไปแล้วว่าท้อง..แล้วทำไมยังไม่เลิกกันล่ะ?”
“เซฮุนบอกว่ารับได้
แล้วก็บอกว่าจะดูแลฉันกับลูกเอง”
ฟานี่หลับตาลงแล้วส่ายหัวไปมาทำเหมือนกับว่าสิ่งที่ผมพูดมันดูเป็นสิ่งที่ไม่เข้าท่าเอาซะเลย..ซึ่งผมก็รู้ดีว่าทำแบบนี้มันไม่เข้าท่าเอาซะเลย
แต่จะให้ทำยังไงล่ะครับ..
“ถึงเซฮุนจะรับได้..แต่เป็นแบบนี้มันไม่ถูกนะแบมแบม สิ่งที่แกควรจะทำคือบอกมาร์ค
เค้าคือคนที่ต้องรู้ว่าเด็กในท้องคือลูกของเค้ากับแก”
ผมนิ่งไปหลังจากฟานี่พูดจบ เธอพูดถูก ทุกอย่างที่เธอพูดมันถูกหมด
ผมน่าจะคิดได้ตั้งแต่แรก น่าจะคิดได้ตั้งแต่เซฮุนบอกว่าเค้ารับได้
น่าจะเป็นคนที่บอกเลิกเค้าไป เรื่องทุกอย่างจะได้จบ เซฮุนเองก็จะได้เจ็บทีเดียว..ไม่ต้องมาเจ็บซ้ำๆแบบนี้
ผมแม่งโง่..
เมื่อถึงคอนโดแล้วผมก็ลงจากรถมายืนโบกมือให้ฟานี่อย่างเช่นที่เคยทำ
เธอส่งยิ้มเป็นกำลังใจให้ผมพลางโบกมือให้ผมด้วยเช่นกัน
ผมได้แต่ส่งยิ้มที่คิดว่าน่าจะทำให้ฟานี่สบายใจขึ้นมาบ้าง
เปิดประตูเข้ามาในห้องสิ่งแรกที่ผมเห็นคือโซฟา..เออเปิดประตูมาคงไม่เจอชักโครกเลยหรอก
ผมเดินตรงไปยังห้องนอนมองหาไอมาร์คแต่ก็ไม่เจอ หายไปไหนของมัน
เดินไปในห้องครัวก็ไม่เจอ ในห้องน้ำก็ไม่มี หายหัวไปไหนของมัน
ไข้ดีขึ้นแล้วยังก็ไม่รู้
“แบม..”
“เหี้ย ตกใจหมด”
เสียงที่จู่ๆก็ดังขึ้นมาแบบไม่ให้สุ่มให้เสียงทำให้ผมตกใจจนสะดุ้งและพอหันไปหาก็เห็นไอมาร์คยืนถือถุงอะไรสักอย่างอยู่ในมือ
“มึงดีขึ้นแล้วใช่มั้ย?”
“อันนี้คืออะไร?”
มาร์คไม่ได้ตอบคำถามผมแต่มันกลับถามคำถามทันทีหลังจากที่ผมพูดจบ
มาร์คพูดพลางหยิบซองอะไรซักอย่างที่อยู่ในห้อง
เมื่อมองเห็นว่าสิ่งที่มาร์คยื่นให้คืออะไร ผมก็ตกใจจนแทบหงาย
มันคือยาบำรุงครรภ์ที่หมอให้ผมกิน..
“ก็..วิตามินบำรุงไง
ร่างกายกูไม่ค่อยแข็งแรง หมอเลยให้มากินบำรุงร่างกาย”
“มึงโกหกกูทำไม?”
“โกหกบ้าอะไร!?”
“มึงท้อง..”
“!!!”
ผมได้แต่ยืนนิ่งหลังจากจบคำพูดของมาร์ค..ทำอะไรไม่ถูก
ผมทำอะไรไม่ถูกเลยในตอนนี้ ไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไร
ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องทำหน้ายังไงในตอนนี้
“ทำไมไม่บอกกู..”
“…”
“ต้องรอให้คลอดก่อนเลยมั้ย?”
มาร์คพูดพลางสบตาผม ใบหน้ามาร์คตอนนี้
ผมเดาไม่ออกเลยจริงๆว่ามันกำลังรู้สึกยังไงอยู่
ผมทำได้แค่ยืนอยู่นิ่งๆฟังในสิ่งที่มาร์คพูด
รู้สึกผิดกับสิ่งที่ตัวเองทำมากๆในตอนนี้ แต่แล้วจู่ๆบริเวณรอบดวงตาของมาร์คก็เริ่มมีน้ำใสๆเอ่อล้นอยู่
“มาร์ค..”
“กูขอโทษสำหรับทุกๆอย่าง..กูรู้ว่ากูแย่ กูโลเล แต่กูรักมึงนะแบมแบม ทำไมมึงถึงไม่บอกกูว่ามึงท้อง
ทำไมต้องโกหก ทำไมต้องพยายามทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้กูรู้ ทำไม..”
มาร์คร่ายยาวในขณะที่บนใบหน้าก็เต็มไปด้วยน้ำตาที่ไหลออกมา
น้ำเสียงสั่นคลอนั่นยิ่งทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดหัวใจ ผมคิดผิดจริงๆนั่นแหละที่ปิดบังมาร์คในเรื่องนี้
ถ้าแค่ผมพูดหรือบอกกับมาร์คไปว่าผมท้องลูกของเค้า ทุกอย่างมันอาจจะไม่แย่ขนาดนี้
“กูขอโทษ”
คงเป็นคำๆเดียวที่ผมคิดออกว่าควรจะพูดออกไปในตอนนี้
ผมไม่รู้ตัวเดียวซ้ำว่าน้ำตาไหลออกมาตอนไหน
ตอนนี้ถ้าหายตัวได้ผมอยากจะหายตัวไปอยู่ในที่ๆมีแค่ผม
แค่ผมคนเดียว..
ผมโผล่เข้ากอดมาร์คทันทีที่น้ำตามันเริ่มไหลมากขึ้นกว่าตอนแรก
ทำไมต้องร้องไห้มากขนาดนี้ ไม่บ่อยนักหรอกครับที่ผมจะเห็นมาร์คร้องไห้
นี่คงเป็นครั้งที่สองที่ผมเห็นมาร์คร้องไห้หนักแบบนี้
“อย่าร้องนะ กูขอโทษ..”
“กูต่างหากที่ต้องขอโทษ ฮึก
กูผิดเอง กูมันคนโลเลแต่ต่อจากนี้..ให้กูได้ดูแลมึงกับลูกได้มั้ยแบมแบม
ไม่สิ กูจะไม่ถามว่าได้มั้ย”
“…”
“แต่กูจะดูแลมึงกับลูกเอง”
ในตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนเห็นแววตาของเซฮุนซ้อนอยู่ในตาของมาร์ค
เพราะแววตาของมาร์คตอนนี้มันดูเหมือนกับเซฮุนตอนที่พูดว่าจะดูแลผมกับลูกราวกับถอดแบบกันมาเลย
“มาร์ค ตอนนี้กูคบกับเซฮุนอยู่และเซฮุนก็จะดูแลกูกับลูก..”
“ทำไมแบมแบม..ทำไมมึงถึงยอมให้คนที่เพิ่งจะรู้จักกันมาดูแลมึงกับลูก
ทำไมถึงไว้ใจและวางใจเค้ามากกว่ากู กูรู้ว่าเรื่องทั้งหมดกูผิด”
“…”
“แต่กูเป็นพ่อนะ..”
มาร์คคุกเข่าลงไปกับพื้นทันทีที่พูดจบ
เค้าค่อยๆขยับเข้ามากอดผมในระดับหน้าท้อง ถึงแม้จะเป็นกอดที่บางเบาและไม่แน่นมากแต่ผมก็รับรู้ได้ถึงแรงสะอื้นและความเปียกที่ซึมเข้ามาภายในเสื้อ
เป็นภาพที่ทำให้ผมรู้สึกว่ามาร์คกำลังรู้สึกแย่และรู้สึกผิดกับเรื่องที่มันเกิดขึ้นมากแค่ไหน
“มาร์คลุกขึ้นเถอะ..ต่อจากนี้ไป”
“…”
“ดูแลกูกับลูกด้วยนะ”
ผมหวังว่ามันจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง..ได้โปรดเถอะครับพระเจ้า
ช่วยทำให้ทุกอย่างดีขึ้นและขอให้เราทุกคนเจ็บปวดน้อยที่สุดด้วยเถอะ
ผมไม่มีอะไรจะเสียแล้ว..
มาร์คลุกขึ้นยืนแล้วเช็ดน้ำตาให้กับผมส่วนผมเองก็ยื่นมือไปเช็ดน้ำตาให้กับมาร์คด้วยเช่นกัน
เราต่างคนต่างระบายรอยยิ้มให้แก่กัน
นับว่าเป็นรอยยิ้มแรกที่มาร์คและผมมอบให้กันและกันนับตั้งแต่เวนดี้เข้ามาในชีวิตของเรา
“มาร์ครักแบมนะ..รักมากๆ”
“แบมก็รักมาร์ค”
มาร์คค่อยๆเคลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้ผม
จูบเบาๆที่หน้าผาก ไล่ลงมาที่ปลายจมูก และลงมายังบริเวณริมฝีปาก
เป็นเพียงจูบเบาๆที่ไม่ได้มีการรุกล้ำใดๆ แต่ก็เป็นจูบที่ทำให้ผมรู้สึกสบายใจ อบอุ่นหัวใจ
เป็นเหมือนจูบที่เพิ่มความมั่นใจให้กับผมว่า ต่อจากนี้ไป..ผู้ชายคนนี้
ผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างหน้าผม ผู้ชายที่เคยทำให้ผมเสียใจ ผู้ชายที่โลเล
ผู้ชายที่คอยดูแลผมมาตั้งแต่แรก ผู้ชายที่มีชื่อว่ามาร์คต้วน..จะไม่ทำให้ผมต้องผิดหวังและเสียใจ
ต่อจากนี้มันจะไม่มีแล้ว..
TBC..
มาช้ามากแต่มาดีนะ
ตอนหน้าเตรียมตัวเซย์กู๊ดบายเซฮุนได้เลยค่ะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่
ความคิดเห็น