ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC GOT7] MarkBam :: The challenge กล้าท้าก็กล้าลอง ☆

    ลำดับตอนที่ #13 : ▽The Challenge ☆ Chap 13 (100%)

    • อัปเดตล่าสุด 13 ก.ค. 58


    The challenge กล้าท้าก็กล้าลอง

    Mark x Bambam

    -13-







                 ผมเลิกสนใจสายตาของไอมาร์คที่มองมาแล้วหันไปเล่นน้ำต่อ เซฮุนยังคงเดินหน้าเพื่อให้ผมผลักจูเนียร์ได้สะดวกมากขึ้น จนในที่สุดผมก็ชนะสักทีตั้งแต่เล่นมารอบที่ร้อยได้แล้วมั้ง..

     

    แบมตัวเบามากเลยนะ

    หรอ น้ำหนักขึ้นตั้งห้าโล

     

    เป็นเรื่องจริงครับ..น้ำหนักผมขึ้นมาห้าโลแล้ว กินก็ไม่ได้กินเยอะนะแต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมน้ำหนักถึงขึ้นเรื่อยๆแบบนี้ แต่ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ซีเรียสเรื่องนี้ เพราะมันไม่ได้ไปขึ้นที่อื่นแต่ไปขึ้นที่หน้าอกแทน

    ผมหันไปมองเวนดี้กับมาร์คที่กำลังจะลงมาเล่นน้ำกับพวกเรา ไอมาร์คยังเอาแต่มองหน้าผมอยู่อย่างนั้น ส่วนเวนดี้ก็เอาแต่เรียกมาร์คแต่มาร์คก็ยังมองหน้าผมอยู่อย่างนั้นแหละครับ ผมคิดว่าถ้าอยู่กันสองคนมันคงเข้ามาตบหน้าผมแล้วแหละคือมองอย่างกับผมทำอะไรผิดสักอย่างเลย..

     

    มองอะไร?’

     

    ผมทำปากขมุบขมิบให้มาร์ค อยากจะพูดเสียงดังแต่ไม่เอาดีกว่า เวนดี้ยืนอยู่ข้างๆมันด้วยไม่อยากจะเสียงดังมาก

     

     

    เดี๋ยวรู้กัน

     

     

    นั่นคือสิ่งที่ผมอ่านได้จากปากไอมาร์ค รู้สึกขนลุกวาบกันเลยทีเดียว พยายามคิดให้กำลังใจตัวเองว่าคำพูดของมาร์คคงไม่มีอะไรมากแล้วหันไปเล่นกับเซฮุนต่อ แต่คือเข้าใจความรู้สึกคนถูกจ้องมั้ยครับ มันทำอะไรไม่ถูกเลยเพราะมาร์คเอาแต่จ้องอยู่อย่างนั้นผมเลยตัดสินใจลงจากคอเซฮุนแล้วเปลี่ยนเป็นว่ายน้ำเล่นแทน

     

     

     

    แบมยิ้มหน่อย

     

    ผมหันไปมองเซฮุนด้วยหน้างงๆเพราะจู่ๆหลังจากที่ผมลงจากคอเซฮุนได้สักพักแล้วเซฮุนก็หายขึ้นไปบนห้อง ผมนึกว่าเซฮุนจะไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าซะอีกที่แท้ก็ขึ้นไปหยิบกล้องถ่ายรูป

     

    ทำอะไรอ่ะ?” ถามโง่ๆอีกแล้วกู มันเอากล้องมาจ่อขนาดนั้นมันคงจะให้กูกินข้าวอยู่หรอก

    ยิ้มหน่อยครับ จะถ่ายรูป

     

    เซฮุนว่าจบผมก็ว่ายน้ำไปเกาะตรงขอบสระแล้วหันมาส่งยิ้มบางๆให้เซฮุนได้ถ่ายรูป เสียงชัตเตอร์ที่ดังแข็งกับเสียงของเวนดี้กับมาร์คที่เล่นน้ำหัวเราะคิกคักกันอยู่สองคนจนผมต้องหันไปมองแล้วเบ้ปากแรงๆใส่ไปทีนึงแล้วขึ้นจากน้ำไป

     

    เดี๋ยวไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ

    ผมบอกกับเซฮุนเพราะรู้สึกเบื่อที่จะเล่นน้ำเต็มทีแล้ว อีกอย่างการแต่งตัวของผมตอนนี้มันก็ดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก

    เพิ่งถ่ายรูปไปไม่กี่รูปเอง

    เดี๋ยวขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อแล้วจะลงมาให้ถ่ายเลยค่ะ

     

    ผมว่าจบเซฮุนก็ส่งยิ้มแล้วพยักหน้าให้ ผมเลยรีบเดินขึ้นไปขึ้นลิฟต์ทันที แต่เหมือนว่าผมจะไม่ได้ทันสังเกตว่ามีใครบางคนตามเข้ามา ทันทีที่ลิฟต์กำลังจะปิดลงร่างสูงของมาร์คก็โผล่เข้ามาอย่างรวดเร็ว

     

    ไม่อยู่เล่นน้ำต่อล่ะ?”

    กูเบื่อจริงๆแล้วกูรำคาญเสียงมึงกับเวนดี้อ่ะ

     

    ยืนกันอยู่สักพักลิฟต์ก็เปิดออกเมื่อมาถึงชั้นที่เป็นห้องของผมรวมถึงมาร์คด้วย ผมก้าวเดินออกจากลิฟต์อย่างรวดเร็วเพราะอยากจะรีบๆอาบน้ำแล้วลงไปข้างล่าง แต่ก้าวไปเพียงไม่เท่าไหร่ มือของผมก็ถูกมาร์คฉุดเอาไว้ซะก่อน

     

    มีอะไร?”

    ทำไมแต่งตัวแบบนี้วะ?” กูว่าแล้ว..

    ก็ฟานี่ให้ใส่

    ใส่ชุดแบบนี้อย่างเดียวไม่พอ ไปขี่คอผู้ชายแบบนั้นมันไม่ใช่ว่ะ

     

    สีหน้าและน้ำเสียงของมาร์คเริ่มต่างไปจากเดิมคือจากที่นิ่งๆตอนสีหน้ามาร์คเริ่มดูเหมือนคนโมโหจนผมรู้สึกงงว่า ผมทำอะไรผิด?

     

    แล้วทำไมวะ กูเป็นผู้ชายนะเว้ย

    แต่ตอนนี้มึงเป็นผู้หญิง

    เวนดี้แฟนมึงแต่งตัวเซ็กซี่กว่ากูอีกมึงไม่ไปว่าเค้าล่ะ มาว่ากูทำไม?”

    มันไม่เหมือนกัน

     

     

    ไม่เหมือนกันเหี้ยอะไรล่ะ กูไม่ใส่กางเกงในเล่นหรือไง? แฟนมึงก็ใส่บิกีนีแถมตัวเล็กกว่าของกูอีกอีควายเผือก แหกตาดูให้ดีๆนะไอมาร์ค!!

     

    มึงลงไปดูแฟนมึงไป กูเบื่อจะคุยกับมึงละ

    มากับกู

     

    ไม่ทันให้ผมได้ตั้งตัวไอมาร์คมันก็อุ้มผมขึ้นพาดบ่าแล้วพาไปเข้าห้องของมันทันที ผมได้แต่ทุบหลังมันแล้วบอกให้ปล่อยแต่ก็ไม่เป็นผลซะที จนพอเข้ามาถึงในห้องมาร์คมันก็ปล่อยผมลงเตียงแล้วเดินไปกดล็อคประตู

     

    กูจะกลับห้องไปอาบน้ำมาร์ค!”

    กูไม่ให้ไป

    มึงจะเอายังไง?”

     

    ก็เอาท่าปกติอ่ะ หรือมึงจะออนท็อป?”

     

    เดี๋ยวนะ..ไอบ้ามาร์ค ใช่เวลามั้ยมึง พูดอะไรออกมามึงช่วยดูสถานการณ์ด้วยว่าสมควรจะพูดเล่นออกมาหรือเปล่า ไอคนไม่มีมารยาท!!

     

    ออนท็อปบ้าอะไรมึง ถอยไป!”

     

    ยัง ยังไม่ยอมถอยอีก ไม่ถอยไม่พอทำหน้ากวนตีนใส่กูอีก ผมดันตัวไอมาร์คออกแล้วรีบเดินไปเปิดประตูห้องแต่ก็ต้องชะงักทันทีที่เปิดประตูออกไปแล้วเจอเวนดี้ยืนอยู่หน้าห้อง

     

    เธอเข้ามาทำไม?” ถามแฟนเธอดู..

     

    ฉันแค่มาเอาของพูดแค่นั้นผมก็เดินตรงไปยังห้องของตัวเองทันที หวังว่าเวนดี้คงจะไม่ได้ยินอะไรบ้าๆที่มาร์คมันพูดหรอกนะ ไม่อยากจะมีปัญหาด้วย แค่นี้ผมก็รู้สึกวุ่นวายจนไม่รู้จะวุ่นวายไปไหนแล้ว เหนื่อยกับคำพูดและการกระทำบ้าๆของไอมาร์คใจจะขาดอยู่ละ

     

     

    -20%-

     


    ผมเดินเข้ามาในห้องก็เข้าห้องน้ำไปอาบน้ำแต่งตัวทันที จะว่าไปแล้วตอนนี้เซฮุนน่าจะขึ้นห้องมาเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว ผมเลยลองเดินไปหาเซฮุนที่ห้องก่อน

    ยืนเคาะประตูอยู่หน้าห้องไม่นานเซฮุนก็เดินออกมาเปิดประตูให้ เหมือนว่าเซฮุนจะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว เค้าเดินออกมาพร้อมกับกล้องถ่ายรูปขนาดพอดีมือ

     

    ไปถ่ายรูปกัน

    อืม ไปถ่ายกัน

     

    หลังจากนั้นผมกับเซฮุนเราก็เดินลงไปถ่ายรูปแถวๆริมหาด เซฮุนเอาแต่กดถ่ายรัวๆโดยไม่บอกผมสักคำแล้วก็เอาแต่ขำกับรูปหลุดๆของผม..ท่าจะประสาท



    ถ่ายรูปกันอยู่นานเราก็มานั่งกันแถวๆใต้ต้นไม้ใหญ่ที่มีม้านั่ง ผมถอนหายใจออกมาแรงๆเพราะรู้สึกเหนื่อย จะไม่ให้เหนื่อยก็คงไม่ได้ครับ เมื่อกี้ผมวิ่งไล่ตามเซฮุนเพื่อจะลบรูปในกล้องจนล้มไปไม่รู้กี่รอบ แต่เซฮุนก็ยังวิ่งไปเรื่อย

     

    ฮ่าๆ เหนื่อยขนาดนั้นเลย

    ก็ลองมาเป็นคนวิ่งไล่ดิ

    ไม่เอาอ่ะ

     

    ผมเบ้ปากใส่เซฮุนแรงๆไปหนึ่งที แล้วหันไปมองวิวทะเลต่อ สรุปแล้วมาทะเลนี่จะทำให้สมองว่างหรือทำให้เครียดกว่าเดิมก็ไม่รู้สินะ..

     

    แบม..”

    หื้อ?”

     

     

     

     

     

    เป็นแฟนกันมั้ย?”

     

     

     

    ผมนิ่งอึ้งไปชั่วขณะแล้วหันไปมองหน้าเซฮุน ตกใจครับ..คือไม่คิดว่าเซฮุนจะขอตรงๆแบบนี้ เซฮุนมองหน้าผมยิ้มๆแล้วเอื้อมมือมากุมมือผมไว้

     

    แบมอาจจะยัง..ชอบมาร์คอยู่

    “…”

     

    ผมนิ่งไปอีกรอบเพราะไม่คิดว่าเซฮุนจะรู้ว่าผมชอบมาร์ค ทำไม..ทำไมทุกคนรอบข้างผมเหมือนจะรู้ความรู้สึกภายในใจของผมไปซะหมด จะมีก็แค่คนเดียวที่แม่งไม่เคยเข้าใจความรู้สึกของผม ก็มาร์คต้วนนั่นแหละ ไม่เคยจะรู้อะไร..

     

     

    ฉันจะทำให้แบมลืมมาร์คให้ได้

    นายคิดว่าฉันจะทำได้หรอ? ฉันอยู่คอนโดเดียวกับมาร์ค..”

     

    เหมือนเซฮุนจะตกใจกับสิ่งที่ได้ยินนิดหน่อย ก็แน่ละ ผู้หญิงกับผู้ชายไม่ได้เป็นอะไรกันที่ไหนเค้าจะมาอยู่คอนโดเดียวกันล่ะ ไม่ตกใจสิแปลก..

     

    อยู่ด้วยกัน? ทั้งที่ไม่ได้เป็นอะไรกัน?”

    ฉันกับมาร์ค..เราเป็นเพื่อนกันมานานมากแล้วอ่ะ

     

     

    อย่างนั้นเองสินะ

    “…”

     

    เป็นแฟนกันนะ

    “…”

     

     

    ไม่ใช่ประโยคคำถาม..แต่เป็นประโยคขอร้อง

     

     

    สีหน้าเซฮุนดูจริงจังมากในตอนนี้ ไม่มีแววของความขี้เล่นหลงเหลือเลยสักนิด เค้ามองหน้าผมอย่างรอคำตอบ ผมเองก็ได้แต่ก้มหน้าลงอย่างใช้ความคิด มันจริงอยู่ที่ผมชอบเซฮุน แต่ไม่ได้ชอบมากขนาดนั้น อีกอย่างผมคิดว่ามันเร็วเกินไป แต่บางที..เลือกคนที่ทำให้ผมยิ้มได้น่าจะดีกว่าจมอยู่กับอะไรที่มีแค่ผมเท่านั้นที่คิดไปเองคนเดียว

     

    อืม

    หื้อ?” แนะ..มาทำเป็นไม่ได้ยินอีก เดี๋ยวกูไม่ตกลงซะเลยนี่

    ก็บอกว่าอืมไง!”

     

    อืมคืออะไรอ่ะ?”

     

    เซฮุนว่าแล้วเกาหัว แหม่..ไม่รู้เลย ไม่รู้เลยจริงๆไอท่าเกาหัวเหมือนไม่เข้าใจแต่หน้านี่บานเป็นจานดาวเทียมขนาดนั้นนี่ไม่รู้เลยว่าอืมที่กูพูดนี่คืออะไร

     

    ก็เออไง เป็นแฟนกัน!”

     

     

    เป็นแฟนกันแล้วกอดได้มั้ย?”

     

     

    คิดถูกมั้ยกู..

     

     

    อย่าเยอะๆ เดี๋ยวตบคว่ำ

    ล้อเล่นน่า ว่าแต่..เป็นแฟนกันแล้วนะ

    อืม จะย้ำทำไมนักหนาล่ะ

     

    เซฮุนหัวเราะร่าแล้วเอามือมาวางไว้บนหัวผมแล้วโยกไปมาแรงๆ จริงๆก็อยากจะโกรธนะครับแต่เห็นเซฮุนทำหน้าโคตรมีความสุขเลยไม่อยากขัด

     

    ขอบคุณแบมแบมมากนะ

    ขอบคุณเหมือนกัน

     

    ผมยิ้มตอบเซฮุนแล้วจับมือเค้าที่วางไว้บนหัวตัวเองมากุมไว้หลวมๆ ก่อนที่เซฮุนจะเปลี่ยนเป็นมากุมเอาไว้ให้แน่นขึ้นแล้วชวนผมไปขึ้นห้องผมพยายามจะแกะมือที่กุมกันไว้แต่เซฮุนก็ยังคงกุมแน่นไม่ยอมให้ผมเอามือออกสักที

     

    จะว่าไปแล้ว..การที่ผมตอบรับเป็นแฟนกับเซฮุนแบบนี้มันคือสิ่งที่ถูกหรือเปล่า? เพราะถ้าเกิดว่าวันนึงผมกลับไปเป็นผู้ชายแล้วเซฮุนจะยังรับได้มั้ย?

     

     

    นี่เซฮุน..”

    หื้อ?”

    ถ้าวันนึงฉันกลายเป็นผู้ชาย นายจะรับได้มั้ย?” ผมหยุดเดินแล้วถามเซฮุน

     

    เรื่องแบบนั้นมันมีที่ไหนกัน

    อะไรๆก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น..”

     

    ถ้ามีคนมาถามผมแบบนี้ในตอนที่ผมยังไม่กลายเป็นผู้หญิงผมก็คงจะมองว่ามันเป็นคำถามที่โง่และงมงายมาก แต่เพราะตอนนี้ผมรู้แล้วว่าอะไรๆมันก็เกิดขึ้นได้..

     

    โอเคสิ..แบมเป็นอะไรฉันก็รับได้ทั้งนั้นแหละ

     

    เซฮุนว่าแล้วยิ้มกว้างอีกครั้ง ผมเองก็ยิ้มออกมาได้เพราะรอยยิ้มกว้างๆของเซฮุนนี่แหละ มันเป็นรอยยิ้มที่จริงใจมากครับ เพราะไม่ใช่แค่ปากของเซฮุนที่ยิ้มแต่ตาของเค้าก็ยิ้มไปด้วยเช่นกัน

     

    แล้วเราก็พากันเดินไปขึ้นลิฟต์ แต่ทันทีที่ลิฟต์เปิดออกที่ชั้นของห้องผมก็ปะทะเข้ากับเวนดี้และมาร์คที่ยืนอยู่หน้าลิฟต์ มาร์คไม่ได้มองหน้าผม แต่มันมองมาที่มือของผมที่กุมมือเซฮุนไว้ก่อนที่มาร์คจะทำในสิ่งที่ผมคาดไม่ถึงคือมันกระชากข้อมือผมให้หลุดออกจากการกุมมือของเซฮุนแล้วดึงผมไปลงบันไดหนีไฟปล่อยให้เซฮุนกับเวนดี้ยืนงงกันอยู่สองคน

     

     

    มาร์ค! ทำอะไรของมึงเนี่ย

    “…”

    ไอมาร์คปล่อย!”

     

    ตลอดทางที่ลากผมออกมาจนถึงชั้นที่เท่าไหร่ไม่รู้มาร์คไม่ได้ตอบหรือพูดกับผมสักคำมันล็อคประตูบันได้แล้วหลังผมให้ชิดกับผนังทันที ซึ่งแน่นอนผมไม่ได้ขัดขืนให้เหนื่อยเปล่าหรอก แต่แค่สงสัยว่ามันทำแบบนี้ทำไม?

     

    กูขอสั่งให้มึงเลิกยุ่งกับเซฮุน!”

    มึงจะอะไรนักหนาวะ

    กูไม่ชอบ

    แต่กูชอบ!”

     

    ผมพูดเสียงดังแล้วมองหน้าไอมาร์คนิ่งๆ จำเป็นมั้ยล่ะที่กูต้องไม่ชอบอย่างที่มึงไม่ชอบอ่ะ จำเป็นมั้ย? เค้าดีกับกูขนาดไหน ทำไมกูจะต้องไม่ชอบเค้า..

     

    หึ วันก่อนบอกชอบกูวันนี้บอกชอบอีกคน

     

    ผมขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจและไม่คิดว่ามาร์คจะพูดอะไรแบบนี้ออกมา นึกไม่ถึงเลยว่ามันจะพูดอะไรแบบนี้ออกมาให้ผมได้ยิน

     

    แล้วมึงล่ะ เอากู..แล้วกลับไปคบกับแฟนเก่า ดีเนอะ

    “…”

     

    กูขอโทษ..”

     

     

    บอกกี่ครั้งแล้วว่ากูไม่ได้อยากได้คำขอโทษ ถ้ามึงทำตัวแบบนี้แม้แต่เพื่อนกูก็ไม่อยากเป็นว่ะมาร์ค มึงอย่าเห็นแก่ตัวได้มั้ย? เซฮุนอาจจะทำให้กูทำใจจากมึงได้ก็ได้ แล้วที่มึงทำแบบนี้อ่ะ ทำเหมือนหวงกูแบบนี้อ่ะ มึงคิดว่ามันถูกมั้ย แล้วที่มึงทิ้งเวนดี้มาแบบนี้..มันถูกหรอ?”

     

    แต่กูไม่อยากให้ใครมาดูแลมึงแทนกู..”

     

     

     

    กูก็ไม่อยากเห็นมึงดูแลคนอื่นนอกจากกู..แต่กูบังคับมึงไม่ได้ อีกอย่างตอนนี้กูก็เห็นชัดแล้วว่ามึงเลือกคนอื่น..ไม่ได้เลือกกู

     

    มึงช้าไป..”

    ไม่เลยมาร์ค..ที่ผ่านมามึงแม่งโง่เองอ่ะ มึงไม่เคยรู้เลย แล้วคืนนั้นถ้ากูไม่ได้รักมึง กูคงไม่ยอม

     

     

    ทำไม..ตอนนี้ผมกำลังรู้สึกว่าทุกอย่างกำลังแย่ลง มันแย่ลงจนผมรู้สึกอยากจะปล่อยให้แม่งไปๆสักทีหรือไม่ก็เป็นผมเองที่ออกไปจากชีวิตมัน..

     

    กูควรออกไปจากชีวิตมึงมั้ย?”

     

    พอผมพูดจบมาร์คก็หันขวับมามองหน้าผมทันที มันส่ายหน้าไปมาแล้วเอื้อมมือมาจับข้อมือผม

     

    ความสัมพันธ์แบบนี้มันคืออะไรวะ? กูไม่เข้าใจจริงๆมาร์ค

     

    ตอนนี้กูเหมือนตัวอะไรสักอย่างที่อยู่กับมึงเหมือนคนรักทั้งที่มึงมีแฟนแล้ว กูเหมือนเป็นสิ่งมีชีวิตที่เป็นส่วนเกินหรืออะไรสักอย่างที่ถ้าออกไปจากชีวิตมึงก็คงจะทำให้อะไรๆมันจบง่ายกว่านี้

     

    กูขาดมึงไม่ได้จริงๆนะแบม

     

     

    เลิกพูดแบบนี้กับกูเหอะ เซฮุนมาได้ยินจะเข้าใจผิด..”

    “…?”

     

     

    กูคบกับเซฮุนแล้ว..”

     

     

    ไปเลิกกับมันซะ

    ทันทีที่ได้ยินประโยคนี้หลุดออกมาจากปากมาร์คมันทำให้ผมไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจแรงมาก มาร์คจะรู้ตัวหรือเปล่าว่าสิ่งที่มันพูดออกมาคือสิ่งที่เห็นแก่ตัวมาก..

     

    ทำไมมึงพูดแบบนี้

    เลิกกับมันซะแบมแบม

    มึงมันเห็นแก่ตัว..”

    “…”

    มึงคบกับเวนดี้กูไม่เคยว่า ไม่เคยเรียกร้องเหี้ยอะไรเลย แล้วทำไม..ทำไมมึงต้องบอกให้กูเลิกกับเซฮุน ทั้งที่เค้าดีกับกูมาก เค้าทำให้กูมีความสุขว่ะมาร์ค เค้าไม่ได้ทำให้กูเจ็บปวดเหมือนอย่างที่มึงทำ ถึงมึงจะไม่ได้ทำร้ายกูตรงๆ แต่พาเวนดี้มาแบบนี้ มาหวานกัน เล่นกัน หยอกกันให้กูเห็น ทั้งที่มึงก็รู้ว่ากูชอบมึง แม่งโคตรทำร้ายใจกูเลยว่ะ

     

    พอแล้ว..ผมอยากจะหยุดเรื่องไว้แค่นี้ ไม่อยากอะไรแล้ว ตอนนี้แค่หน้าไอมาร์คผมยังไม่อยากจะมองเลยด้วยซ้ำ ผมคิดว่ามาร์คจะฉลาดกว่านี้แต่ไม่เลย มันโง่มาก โง่ที่สุดเลย

     

    กู..ไม่ได้ตั้งใจ

     

    เหอะ พูดมาได้ว่าไม่ตั้งใจ เสนอหน้ามาให้เห็นตลอดเวลา รู้ว่าแฟนตัวเองอยากอวดก็ช่วยปรามซะบ้างไม่ใช่เอาแต่ตามใจ อยากได้อะไรก็ต้องได้แบบนั้น ไม่สงสารตัวเองก็สงสารคนอื่นบ้างเหอะ สงสารกูเนี่ยกูเห็นแล้วเจ็บเว้ย คนไม่ใช่ก้อนหิน!!

     

     

    กลับไปหาเวนดี้เหอะ

    ไม่..”

    เดี๋ยวกลับจากทะเลนี้กูจะเข้าไปเก็บของที่คอนโดมึงนะ

    แบม!”

    ไม่ต้องห่วงหรอก กูหาคอนโดได้แล้ว ไปนะ

     

     

    ไม่รอให้มาร์คได้พูดอะไร เพราะผมรู้ตัวดีว่าถ้ามาร์คยื้อผมไว้ผมต้องใจอ่อนยอมมันแน่ๆ และแน่นอนผมไม่อยากเป็นแบบนั้นอีกแล้ว ไม่อยากเจ็บปวดอีกแล้ว เรื่องคอนโดที่บอกว่าหาได้ผมก็แค่โกหก ไม่ได้คิดจะย้ายออกจากคอนโดมันหรอกครับ แต่คิดว่าถ้าอยู่ด้วยกันไปเรื่อยๆแบบนี้มันคงมีแต่แย่กับแย่ เลือกย้ายออกมาคงจะดีกว่า

     

     

    ผมเดินออกมาจากบันไดหนีไฟพร้อมกับน้ำตาที่จู่ๆก็ไหลออกมา พยายามเงยหน้าขึ้นไม่ให้ไหลแต่ก็ไม่เป็นผลเลยสักนิด แต่เมื่อผมกำลังจะเดินไปเข้าห้องก็เจอกับเซฮุนที่ยืนอยู่ ผมตกใจนิดหน่อยเพราะกลัวว่าเซฮุนจะได้ยินผมพูดกับมาร์ค

     

    ไม่ต้องร้องนะ

    เซฮุนว่าแล้วเอื้อมมือมาปาดน้ำตาให้ผม การที่เซฮุนพูดแบบนี้แสดงว่าคงได้ยินสิ่งที่ผมกับมาร์คคุยกัน จะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็เถอะ ได้ยินไปแล้วคงช่วยอะไรไม่ได้

     

     

    ไปห้องฉันมั้ย เดี๋ยวเปิดรูปในกล้องให้ดู

     

     

    เซฮุนเหมือนจะพยายามเบี่ยงเบนความสนใจผมไม่ให้นึกถึงเรื่องของมาร์ค ผมเลยพยักหน้าเป็นคำตอบให้เซฮุนแล้วไปเดินข้างๆเค้า รู้สึกดีใจที่เซฮุนไม่ได้ถามอะไรมากมาย ไม่ได้ตอกย้ำในสิ่งที่เกิดขึ้น เซฮุนคงจะรู้ว่า..

     

    การรักษาระยะห่างระหว่างคนสองคนมันคงจะดีกว่าการรุกล้ำเข้ามามากเกินไปจนอีกฝ่ายรู้สึกอึดอัดและไม่สบายใจ

     

     

     70%




    ผมเดินมาถึงห้องของเซฮุน ในตอนแรกก็คิดว่าจะเจอแจ็คสัน แต่พอเดินเข้ามาแล้วก็ไม่เห็นใครสักคน ห้องของแจ็คสันกับเซฮุนดูสะอาดกว่าห้องของผมกับฟานี่ด้วยซ้ำ..

     

     

    แบมมานั่งตรงนี้สิ

     

    ผมเดินไปนั่งที่เก้าอี้ข้างๆเซฮุน บนหน้าจอแมคบุ๊คปรากฏรูปภาพของผมประมาณสามร้อยกว่ารูปคงจะได้บางรูปผมไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเค้าถ่ายไปตอนไหน ผมได้แต่หันไปมองหน้าเซฮุนประมาณว่า นี่มึงถ่ายไว้เยอะขนาดนี้เลยหรอ..?

     

    ถ่ายตอนไหนบ้างเนี่ย

    ก็ถ่ายทุกตอนอ่ะ ทั้งตอนที่แบมรู้ตัวกับตอนไม่รู้ตัว

     

    เซฮุนเปิดรูปให้ผมดูไปเรื่อยๆมีทั้งรูปที่ดูดีที่สุดจนถึงรูปที่เรียกว่าแย่ที่สุดเท่าที่เคยถ่ายมาเลยจนเลื่อนไปถึงรูปที่ถ่ายที่สระน้ำเป็นรูปที่ผมคิดว่าดูดีที่สุดแล้วมั้ง ดูเซ็กซี่นิดๆด้วย..

     

    ฉันชอบรูปนี้มากเลยนะ

     

    เซฮุนว่าแล้วเอาแต่จ้องรูปผมไม่ละสายตาเลย แน่นอนสิมึงผู้ชายก็ชอบอะไรแบบนี้กันหมดป่ะ? อะไรเซ็กซี่ๆอ่ะชอบหมดแหละ

     

     

     

     

     

    หลังจากที่นั่งดูรูปกันนานผมก็ขอตัวกลับห้องตัวเองเพราะกลัวว่าฟานี่จะเหงา แต่พอกลับมาถึงห้องก็ไม่เจอใครเลย ผมเลยลองโทรไปถามฟานี่ว่าอยู่ที่ไหน ปรากฏว่าผมโดนทิ้งครับ ฟานี่นางไปเที่ยวกับแจ็คสันเรียบร้อยแล้ว โถ่..

     

    เฮ้อ..”

     

    อยู่คนเดียวแบบนี้แล้วก็พาลทำให้คิดถึงเรื่องของมาร์คขึ้นมาเฉยๆเลยแฮะ อะไรที่ไม่อยากนึกไม่อยากจำนี่จำเอาๆ อะไรที่อยากจำเสือกไม่จำ ความยุติธรรมแม่งไม่มีเลยจริงๆ..

     

     

     

     

     

    -มัคคึ’s Part-

     

    หลังจากที่แบมแบมเดินออกไปผมก็ได้แต่ยืนนิ่งอยู่กับที่ รู้สึกไม่มีแรงไปชั่วขณะหนึ่งที่แบมแบมพูดว่าจะย้ายออกจากคอนโด ผมกับแบมแบมเราอยู่ด้วยกันมาหลายปีและแน่นอนมันก็มีบ่อยครั้งที่เราทะเลาะกันแต่ไม่มีครั้งไหนที่แบมแบมจะพูดออกมาว่าจะย้ายออกจากคอนโดแต่ครั้งนี้แบมแบมบอกจะย้ายออก ซึ่งแน่นอนผมจะไม่มีทางให้แบมแบมไปแน่นอน

     

     

    ผมเดินออกมาจากประตูบันไดหนีไฟ แล้วเดินเข้าห้องไปก็เห็นเวนดี้นั่งอยู่บนเตียง เธอหันมามองผมทันทีที่ผมเข้ามาในห้อง

     

    มาร์ค ไปไหนมา

    เอ่อ..คุยธุระกับแบมแบมนิดหน่อย

    มาร์คกับแบมแบมนี่สนิทกันมากเลยหรือไง

    ก็เป็นเพื่อนกันมาหลายปีแล้ว

     

    ผมคิดว่าเวนดี้คงจะจำแบมแบมเมื่อ 5 ปีก่อนไม่ได้ ผมยอมรับเลยว่าตอนที่ผมคบกับเวนดี้แรกๆผมรักเธอมาก รักจนไม่ลืมหูลืมตา รักจนช่วงนั้นผมไม่ได้มีเวลาอยู่กับแบมแบมเลย..

     

    แบมแบมนี่เป็นผู้หญิงภาษาอะไรก็ไม่รู้ มาอยู่กินกับผู้ชายที่เค้ามีแฟนแล้วอ่ะ

    พูดอะไรอ่ะ!?”

    ก็..มันจริงนี่มาร์ค ผู้หญิงดีๆที่ไหนเค้าทำกัน

    “Shut up!!”

     

    ผมตะคอกใส่เวนดี้เพราะรู้สึกไม่พอใจกับคำพูดของเธอมากนัก ถึงเธอจะเป็นแฟนของผมแต่เธอก็น่าจะรู้ตัวว่าไม่มีสิทธิ์มาพูดอะไรที่มันไม่ดีต่อตัวแบมแบมแบบนี้

     

    เธอไม่มีสิทธิ์พูดถึงแบมแบมแบบนี้!”

    ทำไม!? หรือมันเป็นอย่างที่พูด

    หุบปากเธอเดี๋ยวนี้เลยนะเวนดี้!!!”

     

    มาร์ค..มาร์คไม่เหมือนเดิม

    เวนดี้พูดแล้วมองหน้าผมด้วยสีหน้าไม่สู้ดีเท่าไหร่ เธอเหมือนจะตกใจกับการกระทำของผมเอามากๆเพราะตั้งแต่คบกันเมื่อก่อนและตอนนี้ผมไม่เคยตะคอกใส่เธอเลยสักครั้ง แต่ครั้งนี้ผมทนไม่ไหวจริงๆ ผมไม่ชอบที่เธอพูดดูถูกแบมแบมแบบนั้น

     

     “มาร์คไม่เคยตะคอกใส่เวน

    ผม..”

    “…”

    เวนดี้..ถามจริงๆนะ เธอกลับมาทำไม?”

    นะ นั้นมันไม่สำคัญหรอก สำคัญที่ว่ามาร์คเลือกที่จะกลับมาคบกับเวนแล้ว

    อืม

     

    ผมตอบแค่นั้นแล้วหันหลังเดินออกจากห้องไปทันที ที่ผมถามออกไปแบบนั้นเพราะผมกำลังรู้สึกว่าที่เธอกลับมาหาผม กลับมาคบกับผมมันไม่ใช่เพราะว่าเธอรู้สึกรักผม และผมก็เริ่มรู้สึกว่าที่ตัวเองกลับไปคบกับเวนดี้ไม่ใช่เพราะว่าผมยังรักเธอเช่นกัน..

     

     

    อ่าว ไอมาร์ค

     

    เสียงเรียกของเพื่อนสนิทของผมอย่างเจบีดังขึ้นทันทีที่ผมเดินลงมาถึงชั้นล่างของโรงแรม ผมค่อยๆเดินเข้าไปนั่งโต๊ะที่มีเจบีและจูเนียร์นั่งอยู่ ทิ้งตัวนั่งลงแรงๆแล้วถอนหายใจออกมา

     

    เป็นอะไรอีกล่ะมึง?”

    ถอนหายใจซะแรง

    ทะเลาะกับเวนดี้มานิดหน่อยว่ะ

     

    ทะเลาะกันด้วยหรอวะ? เห็นรักกันขนาดนั้น

     

    ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองหรือเปล่า แต่น้ำเสียงที่เจบีเปล่งออกมามันฟังดูเป็นเหมือนคำพูดที่ประชดประชันผมอย่างบอกไม่ถูก

     

     

    กูว่า..”

     

    ผมพูดแล้วเว้นระยะห่างไปสักพักก่อนจะพูดในสิ่งที่ทำให้เจบีและจูเนียร์ถึงกับต้องหันมามองหน้ากันอย่างไม่เชื่อหู..

     

     

     

     

    กูอยากเลิกกับเวนดี้ว่ะ

     

     

     

     

     

    TBC..

     

     

    อย่างแรกต้องขอโทษที่ตัดจบได้น่าโดนตบขนาดนี้

    และเหมือนเดิมค่ะ ยากกว่าแต่งฟิคก็คือแต่งรูปแบม

    พรุ่งนี้สอบอีกหนึ่งวันก็จะรอดพ้นจากวัฏจักรแห่งความวุ่นวายแล้ว

    ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ 

    PS.คนที่ถามว่าเป็นคนใต้ใช่มั้ย ใช่ค่ะ เป็นคนใต้ 

    อยู่ นธ.ใช่มั้ย ใช่ค่ะ




    © themy butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×