คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : chapter 2 :: สารคดี ชีวิตชานยอล 100%
Chapter 2
วันนี้ขอเสนอตอน.. สารคดี ชีวิตชานยอล
- ให้เสียงภาษาไทยโดย พันธมิตร -
หลังจากป้าผมซื้อของที่ต้องใช้ในการทำก๋วยเตี๋ยวประมาณ 4,567 อย่างเสร็จ ก็พาผมเดินทอดไก่ เอ้ย ทอดน่องมายังร้านลูกชิ้นที่ใหญ่ที่สุดอันดับ6ของภาคอิสาน (ไหนมึงบอกใหญ่ที่สุด? -_-) อะ นั่นแหละ แล้วผมก็เจอ เจอ เจอ กับแบคกี้คนน่ารักคาวาอิ้เดสก้ะยืนอยู่ตรงร้านขายลูกชิ้น ผมคิดว่านี่คงเป็นพรหมลิขิต ไม่ใช่ความบังเอิญ ที่ผมได้มาเจอกับแบคกี้ แต่ก็ต้องช็อคยิ่งกว่า เพราะป้าผมบอกว่าแบคกี้เป็นลูกเจ้าของร้านขายลูกชิ้นเสียอย่างนั้น คงไม่ใช่แค่พรหมลิขิตละแหละ นี่มันพรหมเช็ดตีนเลยต่างหาก >_< แบคกี้ดูเหมือนจะจำผมไม่ได้ เพราะเขาไม่ได้หันมองผมหรือทำเหมือนเราเคยเจอมาก่อนเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ชานยอลเมาเร่อคนนี้ก็ไม่ยอมแพ้นะ เพราะตลอดระยะเวลาการซื้อลูกชิ้นของป้าผมที่เต็มไปด้วยการนินทาชาวบ้านของป้ากับแม่แบคกี้ผมก็ได้เสนอหน้ายิ้มให้แบคกี้ตลอดเลย เขินชรุง ถึงวันนี้แบคกี้จะจำผมไม่ได้ วันพรุ่งนี้หรือวันต่อๆไปเราก็ต้องเจอกันอีกเพราะผมต้องมาซื้อลูกชิ้นทุกวัน มันเป็นอะไรที่แบบ แบบ แบบว่าให้รอ 555555555 แอร๊ย ชานยอลอยากจะดิ้นๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
กลับจากตลาดมาถึงบ้านตอนสิบโมงกว่าๆ ป้าก็บอกให้ผมเข้าไปจัดข้าวของไปโรงเรียนพรุ่งนี้ แล้ววันนี้ก็ไม่ต้องไปช่วยทำงาน ให้ไปพักผ่อนเตรียมตัวไปโรงเรียน ตอนได้ยินป้าพูดผมทำหน้าดีใจประหนึ่งว่าพ่อกูเป็นคุณตัน ป้าเห็นแบบนั้นก็เกือบเปลี่ยนใจให้กูไปทำงาน แต่ยังดีที่ชานยอลเมาเร่อเปลี่ยนสีหน้าเป็นดราม่าระดับหมาที่บ้านตายได้ทัน บอกเลยว่าซีนอารมณ์สุดๆ ป้าเลยบอกให้ไปไหนก็ไป ได้ยินดังนั้นชานยอลคนหล่อก็รีบวิ่งแจ้นเข้าห้องนอนตัวเองทันที สำหรับวันนี้ ลาไปก่อน ม้าก็ไปด้วย ชัลจ๊าโหย่ว
.
.
.
.
.
.
.
.
นอนตั้งแต่สิบโมงเช้าวันอาทิตย์ตื่นมาอีกทีตอนเช้าวันจันทร์ มึงหลับหรือตาย
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
เช้าวันจันทร์ที่แสนสดใสสำหรับใครหลายคนแต่หนึ่งในนั้นไม่ใช่กูแน่ๆ เพราะกูเดินทางมาโรงเรียนด้วยสภาพที่จัดว่าแย่ เหตุเนื่องมาจากกระเป๋านักเรียนที่ป้าให้มาใช้มัน...จริงๆ ยังจำโมเม้นตอนที่ป้ายื่นกระเป๋าใบนี้มาให้ผมได้ ป้ายื่นมันมาในขณะที่มือป้าก็ปัดฝุ่นที่กระเป๋าไปพลางๆ ย้ำว่าพลางๆ ฝุ่นคลุ้งออกมาราวกับว่าอยู่กลางเฮติ นี่ขนาดป้าแกปัดพลางๆนะครับ ถ้าปัดแรงกว่านี้กูว่าไม่รอดละ รูจมูกกูเนี่ย นับว่าเป็นมรสุมชีวิตของผมจริงๆ
นอกจากกระเป๋าเฮติแล้วยังไม่พอ รองเท้าและถุงเท้ากูเปื้อนไปด้วยขขี้โคลน ไม่ต้องสงสัยว่ามันเป็นแบบนั้นได้ยังไง เพราะกูกำลังจพเล่า ..คือว่าป้าผมให้จักรยานเสือภูเขามา ซึ่งอีกนิดกูก็คิดว่าแม่งเป็นเศษเหล็กละ โอ้โห สภาพแม่งขลังมากเหอะ อายุไม่น่าจะต่ำกว่า40ปี ป้าให้คำแนะนำว่าปรับได้มากสุดเกียร์2 รุ่นกูเกียร์2คงไม่พอ ต้องเกียร์หมา
ก่อนออกจากบ้านป้าบอกให้ดูแลรักษาและถนอมจักรยานคันนี้ไว้ให้ดี..ขนาดนี้แล้วยังจะถนอมอีกหรอ ดูจากสภาพกูว่ากูไอใส่ทีนึงก็ล้อหลุดปลิวไปรังสิตละ แสรด
ระหว่างทางหมาแม่งเห่ากูทั้งซอย ไม่ต้องตกใจ เจมส์จิ is here!!!!! เด็ดสุดก็อิตรงทางแยกหน้าหมู่บ้าน เห่ากูไม่พอยังเสือ.กตามกูอีก จุดนั้นทำอะไรไม่ถูกจริงๆ หักหลบขี้โคลนไม่ทัน ขี้โคลนกระเด็นใส่กูเต็มๆ... และนี่เป็นสาเหตุว่าทำไมกูมาโรงเรียนในสภาพที่จัดว่าแย่ขนาดนี้ ปฏิญาณตนไว้เลยครับว่าชานยอลคูกิมิยะคนนี้เกลียดน้องหมาสุดพลัง!!
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ในที่สุดก็มาถึงโรงเรียนด้วยอวัยวะที่ครบ 32 แต่ติดตรงที่เซอร์ไปหน่อย.. เซอร์เหร่อ (ไม่เก็ทมุกกูก็เงียบๆไป) ใกล้เวลาเข้าแถวแล้ว ผมรีบเดินตรงไปเตรียมตัวเข้าแถว เทคตัวเองให้ไปยืนรวมกับพวกที่ปัดจุดสองจุด ไม่ม.2ก็ม.5นี่ล่ะ ยืนโดดเดี่ยวเดียวดายในท้องเลอยู่นาน ไม่มีใครพูดกับกูเลย
“ไงมึง ชื่อไรอะ ไม่เคยเห็นหน้าเลยว่ะ เข้าใหม่หรอ โดนไล่ออกจากโรงเรียนเก่าอะดิ 555”
หันซ้ายไปตามเสียงเรียกและแรงสะกิด บ๊ะเข้ากับผู้ชายตัวสูง(แต่กูสูงกว่า)คนนึง หน้าแม่งเหมือนดราก้อนบอลชิบหาย เห็นหน้าละนึกถึงโงกุลอะสาส เก่งนักหรอ มึงใครว้า พูดจากวนตีนสุดๆ แบบนี้ต้องสั่งสอน
“ครับ สวัสดีนะ ผมชื่อชานยอล ม.5/88ครับ” ปากฉัน......ไม่ตรงกับใจ (ชิน ชินวุฒิ)
“ชื่อแม่งเชยชิบหาย มึงเป็นคนโบราณไง๊ กูชื่อจื่อเทา เรียกสั้นๆ ว่า ท่านเทา” ท่านเทา???? แม่งสั้นกว่าจื่อเทาตรงไหนไอสัสบอกกูที =_=
“....”
“เอ้อละก็มึงอยู่ห้องเดียวกันกับกูเลย เลิกแถวละมากับกู จะพาไปรู้จักกับเพื่อนในแก๊ง” ..................... ประมวลผลได้ว่า กูกำลังจะมีเพื่อนใช่มั้ย? ปริ่มแปป
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
หลังจากท่านผอ.พูดทักทายนักเรียนเรื่องการเปิดเทอมวันแรกไปประมาณชั่วโมงกว่าๆ นี่ทักทายหรอ กูกลับบ้านไปขี้18รอบละกลับมาโรงเรียนก็ยังทันอะจริงๆ พวกเรา(ผม+จื่อเทา)ก็เตรียมจะเดินขึ้นตึกเรียน แต่จื่อเทาก็ลากผมมาที่มุมบันได พร้อมกับการปรากฏตัวของใครอีกคน..
.
.
“อะ นี่ผ้าเช็ดหน้าประจำกลุ่ม” เทาพูดพร้อมโยนผ้าเช็ดหน้าเน่าๆผืนนึงบนนั้นมีลายหมีแพนด้าสีชมพูดซีดๆที่คาดว่าเมื่อก่อนน่าจะเป็นสีชมพูเข้มมาให้ นอกจากนั้นยังปักคำว่า ‘PanDaZaTeen’ ไว้อีกด้วย ก๊อด บอกกูทีว่านี่ไม่ใช่ชื่อกลุ่มมึง
“มันอ่านว่าอะไรหรอครับ” ถามไปอย่างไม่มีอะไรจะพูด
“โง่อังกฤษสินะมึงอะ ก็แพนด้าซ่าตีนไงสาส ละนี่ลู่หาน เพื่อนอีกคนในแก๊งของพวกเรา”
“หวัดดี ฉันลู่หานนะ นาย??”
“ชานยอลครับ” พูดพร้อมส่งยิ้มกว้างไปให้ ลู่หานจัดว่าเป็นคนที่น่ารัก ถ้าไม่รวมขนหน้าแข้งและขนจุกกุแร้ (นี่กูไปแอบเห็นตอนไหน)
“เชี่ยลู่มึงไม่ต้องแอ๊บพูดเพราะกับมันก็ได้ สบายๆ ชิวๆ” เทาพูดพร้อมไหวไหล่ =_=
“แอ๊บเหี้ยระ สัญชาติญาณแห่งความเป็นคนดีมันคอยย้ำเตือนจิตใจให้กูพูดจาเพราะๆกับคนดีๆ อีกอย่างกูกับชานยอลก็พึ่งรู้จักกันวันแรก ใครจะไปกล้าพูดจาหยาบคายงั้นได้ไงวะ.. ป่ะ ไอ้เหี้ยยอล ยืนงงเป็นควายโง่อยู่ได้ ขึ้นเรียนกานนนนนนนนน” .......................................เดี๋ยวนะ เมื่อกี้ใครบอกว่าไม่พูดจาหยาบคายกับชานยอลคูกิมิยะ where is him???????????????????
สรุปได้ว่าแก๊งแพนด้าของพวกเรามีกันทั้งหมดทั้งสิ้น 3 คน เหยด ตอนที่แม่งบอกว่าจะพากูไปแนะนำกับแก๊ง กูก็นึกว่าแก๊งยากูซ่า ไอ่ซั่ส มีกันอยู่แค่นี้รวมตังกันซื้อเกี๊ยวซ่าจานนึงยังไม่พอ
หลังจากเก็บความสงสัยมานานสองนาที กับเรื่องผ้าเช็ดหน้าของกลุ่ม คือพวกมึงจะมีสัญลักษณ์ประจำกลุ่มกันทั้งทีก็ขออะไรที่มันแบบแสดงว่าพวกมึงแกร่งดังหินผาไม่ได้หรอวะ ทำไมต้องเป็นอิผ้าเช็ดหน้าเหี้ยนี่ด้วย จิตใจมึงทำด้วยอะไร มึงจะเป็นเข็มขัดแอร์เมสก็ได้ กูขอเหอะ ขอเอาไปทิ้ง
แต่พอผมได้ยินคำตอบว่าทำไมต้องเป็นผ้าเช็ดหน้าจากปากไอ้เทาผมก็แทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่.. ที่ต้องเป็นผ้าเช็ดหน้า เพราะว่าพวกเรามีเรื่องชกต่อยทะเลาะวิวาทบ่อย เวลามึงโดนกระทืบ ก็ให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าผืนนี้ซับเลือดที่อยู่บนหน้ามึง ให้รู้ว่ามึงไม่ได้อยู่คนเดียว มึงยังมีพวกกูเสมอ ใจกูอยู่กับมึง ... คาดว่าไอ้เทาแม่งคงดูละครดราม่ามากไป ล่าสุดเจ้าตัวเผย คมสุดในชีวิตเท่าที่เคยพูดมา ปาร์ค ชานยอล สำนักข่าวสามมิติ รายงาน
มนต์รักบะหมี่เจี๊ยวแชป2 ต่อๆ (67.89%ที่เหลือแง่ะ)
............คาบแรกของการเปิดเทอมวันแรกดำเนินไปได้ด้วยดี..ถ้าไม่มีไอ้ลู่หานที่แม่งสะกิดกูทั้งคาบ
“ชานยอล..บังครูให้กูหน่อย จะกินช้างน้อย”
“เฮ้ย ขวานิดนึง”
“ไอ่สัสก้มทำเหี๊ยไร”
“เฮ้ยๆซ้ายๆไอ้เชี่ยว้อยมึงขวาเยอะไปซ้ายหน่อยเพื่อน”
“เฮ้ย..ไอ้ฯลฯ” สรึด!! ชานยอลคนดีเรียนไม่รู้เรื่อง
สรุปแล้วคาบแรกกูหมดไปแบบรู้เรื่องสุดๆ สมุดหน้าแรกมีคำว่าวันที่ประดับเป็นอนุสรณ์แห่งความทรงจำ ซักพักผมเทคใบหน้าที่หล่อเหลาราวกับเบยองจุนของตัวเองไปหาไอ้ลู่หานที่นั่งอยู่ข้างหลัง ประจักษ์ว่าแม่งกำลังจะแกะห่อช้างน้อยห่อที่693 ก่อนที่มันจะกินเข้าไปคำเดียวหมด รู้เรื่อง ไอ้สัส มึงนี่ตัวอะไร สะพรึงแปป
ผมค่อยๆปรับสีหน้าที่อีกนิดจะเป็นไก่ต้มน้ำปลาตราป้าเช็งให้เป็นปกติ ก่อนจะหันกลับไปสะกิดลู่หาน
“ลู่ๆ ผมว่าหยุดกินก่อนจะดีกว่านะครับ” พูดด้วยน้ำเสียงที่น่าฟังที่สุดในชีวิต ลู่หานเงยหน้าขึ้นมามอง มุมปากมีเศษละเอียดๆของช้างน้อยติดอยู่ประปราย ผมรวบรวมสติเฮือกสุดท้ายก่อนจะจกมือไปในกระเป๋ากางเกงละหยิบผ้าเช็ดหน้ากลุ่มขึ้นมา แล้วบรรจงเช็ดที่แก้มเนียนของลู่หานเบาๆ (เอาจริงๆพูดแบบเปิดอกเลยนะลู่ หน้ามึงก็ยับมากพอดู ปรึกษานิติพลเหอะกูขอร้อง)
มันทำหน้างงนิดๆ แต่ก็ยอมให้เช็ดแต่โดยดี มึงคงเข้าใจสภาพตัวเองใช่มั้ย
หลังจากที่เช็ดปากให้ลู่หาน มันก็ลูบหัวผมประหนึ่งว่ากูเป็นหมาที่บ้านพร้อมบอกว่า
“ขอบใจมึง อย่างนี้คบกันยาว” ..................ไม่รู้ว่ากูควรจะซึ้งใจดีมั้ย
ในช่วงเปลี่ยนคาบเรียน ผมขออนุญาติครูไปห้องน้ำ เนื่องจากเรียนมากเลยเบลอครับจุดนี้ เบลอว่ารักแถบ แบบว่ารักแบคกี้ ป่านนี้จะเป็นเช่นไร สบายดีไหม ยังคิดถึงเธอคนดี นะ อ๊ะ อ๊ะ พอ!!! กูว่ากูชักจะมั่วไปละ ถึงห้องน้ำก็ตรงดิ่งไปที่อ่างล้างมือและซักผ้าเช็ดหน้าผืนโปรดอย่างตั้งใจ
กลับเข้ามาในห้องเรียนเหมือนเห็นร่างเล็กคุ้นๆเหมือนเคยเห็นที่ไหนซักที่นั่งอยู่กับเงาดำๆและมนุษย์หน้าเหลี่ยม อืมไม่บรรยายมากหรอกคือตัวเล็กที่ว่านั่นก็คือแบคกี้ยังไงล่ะ ถ่อ ห๊ะ อะไรนะ!!! แบคกี้งั้นหรอ?????? นี่กูไม่ได้ตาฝาดใช่มั้ย และเพื่อนหน้าดำก็มาด้วย ด้วยความเสนอจิตร ผมไม่รอช้ารีบเข้าไปทักทาย
“สวัสดีครับ ผมชื่อชานยอลนะ พึ่งย้ายมาจากอุบล ฝากตัวด้วยนะครับ” พูดด้วยน้ำเสียงโทนแกงส้มเดอะสตาร์ (แต่ระดับกูนี่แกงอ่อม)
“หวะ..หวัดดี เราแบคฮยอน” อ๋า คนน่ารักชื่อแบคฮยอนหรอเนี่ย
“ครับๆตอนนี้เรารู้จักกันแล้วนะ ขอบคุณพรหมลิขิต”
“ห๊ะ??”
“อ่อป่าวๆครับ ว่าแต่เพื่อนหน้าดำ เอ้ย เพื่อนข้างๆแบคฮยอนชื่ออะไรหรอ”
“อ๋อ นี่ จงอิน จงอิน จงอิน!!! ชานยอลถามน่ะได้ยินมั้ย” แบคกี้ของผมพูดก่อนจะหันไปสะกิดร่างดำข้างๆ
“...........”
“...........”
“อิดำ ชานยอลถาม ไม่ได้ยินรึง๊าย!!!!”
และแล้วเพื่อนหน้าดำก็ยอมอ้าปากพูด
“หวัดดี เราจงอิน” ........อยู่เมื่องดัดจริตชีวิตต้องป๊อป จงอิน??? ได้ข่าวมึงอยู่เชียงใหม่ แหม ชื่อนี่เกาหลีเชียว
“ครับ ผมชื่อ..” กำลังจะแนะนำตัวแต่จงอินคนหน้าดำก็ขัดขึ้นมาซะก่อน
“ไม่ต้องพูดชื่อมึงหรอกเมื่อกี้กูได้ยินที่มึงบอกแบคละ ไม่อยากได้ยินบ่อยๆ” ehere
ทำอะไรไม่ได้นอกจากยิ้มแหยสุดพลังไปให้ จงอินเพื่อนหน้าดำโดนแบคฮยอนตีไปทีแขนหนึ่งที คริๆ สมน้ำหน้ามึง
แบคฮยอนนิ่งไปซักพักก่อนจะเรียกให้คนข้างหลังหันหน้ากลับมาหาพวกผม.. อย่าหันแรง เหลี่ยมหน้ามึงจะชนกู อิอิ (เคยมีคนบอกว่ากูปากหมาแต่กูไม่เห็นด้วย)
“เฮ้ยเฉินนี่ชานยอลเป็นเด็กใหม่ และนี่ก็”
“เฉินจ้า ยดทดรจ” ย่อหาพ่อ.........................................ง เฮ้ยไอ้นี่ดูไปดูมาเหมือนหลวงพี่วัดป่าสาละวันเลยว่ะ555555555555555555555555555555
“อ่าๆยดทดรจเช่นกันครับ” กูก็ยังจะเล่นกับมัน
เราทั้งสี่คนยืนหัวเราะร่วน(หรอ)กันอยู่อย่างนั้น จนได้เวลาพักกลางวัน เสียงออดดังขึ้น
ออดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด พักเที่ยงละครับทุกคน เจอกันแชปหน้าเด้อหล่า
(นี่100%?????????????????????????)
(เยสนี่ร้อยเปอร์)
_______________________________________________________
โชว์ยูออฟ เอ้ะเอ้ะเอ จริงๆเราแต่งต่อไม่ได้เองแหละ
แล้วก็จะลงตั้งแต่เมื่อคืนละ แต่ลงม่ายล่าย ไม่รู้เป็นระ
ตัวละครก็ออกมาเกือบหมดละนะ เหลือเซฮุนคนดีศรีสังคมคนเดียว
คือยังหาพื้นที่ให้เซฮุนลงไม่ได้ 555 เดี๋ยวพอนักแสดงของเราออกกันหมดทุกคน
ทุกอย่างก็คงลงตัวกว่านี้ (หรอ)
________________________________________________________
ช่วง ศูนย์บรรเทาแมลงสัตว์กัดต่อย
รู้สึกว่ามั้ยว่ามันสั้นทุกตอน เกือบลืมไปเลยว่าฟิคเรื่องนี้ยังมีจงอินและเซฮุนอยู่ เอาน่า ตอนนี้เป็นสารคดีชีวิตชานยอลคูกิมิยะไปก่อน เพราะถ้าไม่มีตอนนี้ก็ไม่รู้จะเชื่อมโยงเรื่องยังไงต่อ เพราะเราดองฟิคไว้นาน นานจนลืมพล็อต 5555 รู้สึกว่าเนื้อเรื่องกับชื่อเรื่องมันไม่เข้ากันละ บอกตรงๆว่าตอนแต่งอยู่ก็เบลอๆ แต่งไปแต่งมา เอ้ะ เนื้อเรื่องกับชื่อเรื่องมันไม่เกี่ยวกันนี่ แต่ขี้เกียจดิทละ ของแบบนี้ต้องลองค่ะ แล้วก็เรื่องคู่ อาจจะไม่แน่นอนนะ ระหว่าง ไคฮุน เทาฮุน หรือฮุนหาน คริคริ
คริ
ความคิดเห็น