ค่าเริ่มต้น
- เลื่อนอัตโนมัติ
- ฟอนต์ THSarabunNew
- ฟอนต์ Sarabun
- ฟอนต์ Mali
- ฟอนต์ Trirong
- ฟอนต์ Maitree
- ฟอนต์ Taviraj
- ฟอนต์ Kodchasan
- ฟอนต์ ChakraPetch
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : -1- [Rewrite]
ระยะทางจากร้านกาแฟที่ออกมาไปยังสถานที่ทำงานตามที่ ปาร์คชานยอลบอกมานั้นค่อนข้างที่จะไกลอยู่พอสมควร ร่างบางที่นั่งอยู่ข้างคนขับในรถเฟอร์รารี่สีเงินเงาคันหรูขยับยุกยิกไปมาเพื่อหาท่าทางการนอนที่เหมาะสมกับตัวเองอยู่นานก่อนที่จะได้เป็นท่าเอาหัวทุยๆนั้นซุกเข้าไปตรงช่องระหว่างตัวเบาะกับประตูรถ
สมกับเป็นรถจากเมืองนอกราคาแพงนอกจากการเคลื่อนที่ด้วยความเงียบไปตามท้องถนนแล้วมันยังมาพร้อมกับความนิ่งที่ทำให้แทบไม่รู้สึกถึงความขรุขระของพื้นถนนเลยแม้แต่น้อย เป็นเรื่องน่ายินดีเหลือเกินสำหรับคนตัวเกที่เหนื่อยล้าไปทั้งกายและใจเปลืกตาคู่สวยที่ลืมเปิดอยู่จึงค่อยๆปิดลงช้าๆ
รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกครั้งเพราะจังหวะดนตรีที่เปลี่ยนจากทำนองเบาๆกลายมาเป็นจังหวะเสียงบีตส์หนักๆแทน มือบางยกขึ้นขยี้ดวงตาคู่กลมของตัวเองอย่างงัวเงียก่อนจะมองออกไปนอกหน้าต่างรถคันงามที่กำลังปรากฎภาพของรั้วเหล็กสีดำสูงใหญ่ท่ามกลางต้นไม้ที่สูงไม่แพ้กัน ตัวรถเคลื่อนเข้าสู่ภายเส้นทางตรงพร้อมๆกับทิวทัศน์รอบตัวที่เปลี่ยนไปราวกับหน้ามือเป็นหลังเท้า!
ภายในรั้วเหล็กสูงใหญ่มันช่างแตกต่างจากภายนอกด้วยสนามหญ้ากว้างใหญ่ผิดกับภายนอกที่เต็มไปด้วยต้นไม้สูงจนไม่น่าเชื่อว่าสถานที่แห่งนี้จะอยู่ห่างจากใจกลางของประเทศมาเพียง5กิโลเท่านั้น ริมข้างทางมีเสาไฟสูงใหญ่สไตล์อังกฤษคอยให้แสงสว่างอยู่สลับกับรูปปั้นเทพธิดากรีซที่สูงใหญ่และงดงามไม่แพ้กัน
“ถึงแล้วลงมาเถอะ” จุนมยอนตัวน้อยสะดุ้งอย่างตกใจหลังจากที่เอาแต่สนใจมองไปรอบๆตัวอย่างตื่นเต้นโดยไม่ทันได้สังเกตหรือรู้สึกตัวว่ารถคันงานนี้จอดสนิทอยู่กับที่แล้ว ร่างสูงของปาร์คหัวฟูปลดเข็มขัดออกก่อนจะลงจากรถไปเดินอ้อมมาที่ประตูฝั่งที่เขานั่งก่อนที่เจ้าตัวจะเอื้อมมือมาเปิดประตูพร้อมๆกับโน้มช่วงตัวสูงยาวนั้นเข้ามาในรถคร่อมตัวเขาเอาไว้ทั้งตัวอย่างน่าตกใจ
“นายจะทำอะไรน่ะ!!” ถามตาโตอย่างตกใจมือบางก็มิวายดันร่างสูงใหญ่ที่กำลังคร่อมตัวปลดเข็มขัดนิรภัยออกให้เป็นเหตุให้เจ้าตัวที่ไม่ทันตั้งตัวเซทรุดลงไปกองติดอยู่กับคอนโซลหน้ารถแทบเท้าแทน
“จะปลดเข็มขัดออกให้มาผลักกันทำไมเล่า!” ชานยอลยันตัวเองลุกขึ้นอย่างยากลำบากเนื่องด้วยความแคบภายในห้องโดยสารกับช่วงตัวที่สูงจนน่าชังทำให้อะไรก็ดูยุ่งยากไปหมด และมันยิ่งยุ่งยากขึ้นไปอีกเมื่อคนตัวขาวที่นั่งอยู่ในรถขยับตัวยุกยิกปลดเข็มขัดออกเอง
"ฉันเป็นผู้ชายนะเฮ่ยแค่นี้ฉันทำเองได้ดูแลเองได้น่า” จมูกโด่งรั้นนิดๆกับริมฝีปากที่เชิดขึ้นบ่งบอกถึงความเอาแต่ใจที่ทำให้ชานยอลถึงกับเอือมละอา นึกหนักใจแทนใครบางคนขึ้นมาในทันที
“ตาไม่ได้บอดครับทราบครับว่าคุณเป็นผู้ชาย แต่วินาทีนี้น่ะเล่นตามน้ำไปก่อนเดี๋ยวจะโดนมองไม่ดีเอาได้” ดุเสียงเข้มขู่ให้คนตัวขาวอดหน้าซีดขึ้นมาไม่ได้ก่อนจะส่งมือหนามาเป็นเชิงบอกให้เจ้าตัววางมือไว้บนนั้น ร่างบางถูกแรงฉุดลุกขึ้นมาจากเบาะนุ่มภายในรถคันหรูอย่างนุ่มนวลแล้วค่อยเดินตามร่างสูงที่ส่งกุญแจรถให้กับชายที่อยู่ในชุดสูทสีดำรับช่วงต่อไปแทน
ตัวตึกสไตล์โมเดิร์นส่องประกายระยิบระยับจนน่ามองด้วยผลของโคมไฟระย้าที่ติดอยู่กลางโถงโล่งกับไฟสีส้ม ที่หน้าประตูทางเข้ามีชายรูปร่างสูงใหญ่ยืนประจำที่อยู่ไม่กระดุกกระดิกจนจุนมยอนอดคิดไม่ได้ว่าเขาคือคนจริงๆหรือเป็นหุ่นขี้ผึ้งที่เอามาโชว์กันแน่ เขาอยู่ในชุดเครื่องแบบที่คล้ายกับทหารของนาซีร์สีดำกับรองเท้าบูทสูง คนพวกนี้ไม่ได้สะพายปืนกระบอกใหญ่โตหรือแบบยาวที่มีกระสุนเป็นแผงๆแต่กลับมีเพียงเจ้ากระบอกสีดำปราบเสียบอยู่ข้างๆเอวแทน
พี่เบิ้มสูงใหญ่ทั้งคู่เหลือบมองมาที่จุนมยอนตัวน้อยที่เอาแต่สังเกตไม่วางตาจนอาจดูเหมือนเป็นการเสียมารยาทแต่สายตาคู่ดุที่มองมองกลับมองดูคนตัวเล็กด้วยความเอ็นดูแกมสงสาร ที่นี้ไม่ใช่สถานที่ที่ของสวยๆงามๆจะพบเห็นได้บ่อยนักคนตัวขาวนี้จึงเหมือนกับเจ้าแมวน้อยแสนสวยที่หลงเข้ามาในถ้ำสิงโตผู้น่าเกรงขามอย่างไม่รู้เดียงสา
“ชานยอลฉันคิดว่านายเป็นอะไรไปแล้วซะอีกกว่าจะกลับมา” เสียงหวานของหญิงสาวดังขึ้นทันทีที่ร่างสูงก้าวพาร่างเล็กๆเข้ามาภายในโถงที่แสนจะหรูหราแห่งนี้ ร่างสูงหันไปทางด้านซ้ายที่มีหญิงสาวรูปร่างดียืนอยู่ ดวงหน้าสวยของเธอกำลังแสดงความเป็นกังวลออกมาอย่างเด่นชัดจนชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะต้องก้าวเข้าไปใกล้พร้อมกับส่งยิ้มบางๆให้
“ไม่เป็นไรๆไม่มีอะไรน่ากังวลน่ายูริ มีเสียเวลาหน่อยก็ตอนขาไปนี้ล่ะกว่าจะออกไปได้แย่อยู่เหมือนกัน” มือหนาวางลงบนไหล่เล็กของหญิงสาวที่ส่งยิ้มอ่อนๆมาให้ก่อนจะหันไปมองร่างเล็กที่ยืนอยู่ข้างหลังชานยอลที่ยืนบังเจ้าตัวเอาไว้เสียมิด หากไม่ใช่เพราะเงาที่ทอดยาวไปด้านหลังแล้วเธอก็คงไม่รู้หรอกว่ายังมีอีกร่างนึ่งยืนอยู่น่ะ!
“คุณคิมจุนมยอนใช่ไหมคะ? ฉันยูริคะ ควอนยูริยินดีที่ได้รู้จัก” ริมฝีปากอิ่มของคนตัวขาวเผลอกลืนเข้าหากันอย่างตื่นเต้นในทันทีที่หญิงสาวแนะนำตัวพร้อมกับรอยยิ้ม จุนมยอนพยักหน้าพึมพัมๆออกมาเบาๆว่า ยินดีที่ได้รู้จักครับ ด้วยความตื่นเต้น จะไม่ให้เขาตื่นเต้นได้อย่างไรในเมื่อยูริเป็นสาวสวยคนนึ่งในชีวิตเลยก็ว่าได้ที่เขารู้สึกออกมาอย่างจริงใจเลยว่าสวยน่ะ
“ฝากดูแลตัวแสบต่อจากนี้ด้วยล่ะกันฉันไปนอนแล้วไม่ไหวบ่ายนี้มีสอบอีก ไม่ได้นอนมาทั้งคืนอีก” ว่าใครว่าตัวแสบน่ะห๊ะ? คนตัวเล็กได้แต่ขู่ฟ่อในใจอย่างไม่พอใจก่อนจะต้องรีบไขว้ขว้าท่อนแขนแข็งแรงของชานยอลเอาไว้แน่นเมื่อเจ้าตัวกำลังจะเดินออกไปจากห้องโถงนี้ รีบเดินมาดักหน้าคนตัวสูงที่ระยะห่างกันไม่มากแบบนี้ทำให้ดวงหน้าน่ารักๆของเจ้าตัวต้องเงยขึ้นเพื่อสนทนากับคนตรงหน้า “จะไปไหน ทิ้งฉันไว้ได้ไงฉันไม่รู้เรื่องอะไรเลยนะ”
“จะไปนอน..อย่างที่บอกว่ามีสอบตอนบ่าย ไม่ต้องกลัวอะไรยูริจะคอยดูแลและบอกรายละเอียดต่างๆให้นายรู้เอง” ทั้งน้ำเสียงและสายตาที่มองมามันมองมาด้วยความอบอุ่น มือหนาของคนตัวสูงกว่ายกขึ้นลูบแก้มใสอย่างแผ่วเบายาวที่ดวงตาคู่กลมวูบไหวด้วยความตื่นตระหนกเรียกเสียงกระแอ้มไอน้อยๆจากหญิงสาวเพียงผู้เดียวในที่นี้ได้ เธอกำลังเตือนเรื่องความไม่เหมาะสมที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้..
ปาร์คชานยอลสะดุ้งน้อยๆอย่างลืมตัว ก่อนจะหันไปมองหญิงสาวตัวบางข้างตัวที่กำลังส่งสายตาตำหนิอยู่ เมื่อนั้นเจ้าตัวถึงค่อยๆเอามือลงแนบลำตัวก่อนจะส่งรอยยิ้มเป็นการบอกลาแล้วหันหลังเดินจากไปอย่างอดรู้สึกร้อนๆหนาวๆขึ้นมาไม่ได้ ไม่รู้ว่ายัยยูริยัยอสรพิษนั้นจะรายงานเรื่องนี้ให้ใครฟังบ้างรึป่าว
แต่ก็ต้องยอมรับจริงๆว่าเมื่อครู่ทุกอย่างมันเป็นไปโดยที่อยู่เหนือการควบคุมของสมอง เพียงแค่ได้สบตากับดวงตาคู่กลมหวาน เค้าโคลงหน้าที่ต้องยอมรับว่าสวยและที่ต้องตกใจคือมันดึงดูดสายตาของเขาให้มองได้อย่างชื่นชมและหลงใหลทั้งๆที่เขาก็มีคนที่ขึ้นชื่อว่าจะเป็นภรรยาในอีก1-2ปีนี้อยู่แล้ว คนที่เขามอบทั้งกายและหัวใจให้ไปหมดแล้วแต่กับคิมจุนมยอนคนนี้สามารถทำให้เขามองด้วยความหลงใหลได้..ไม่สิต้องเรียกว่าชื่นชมมากกว่าได้นี้ช่างน่าพึงพอใจเสียเหลือเกินนี้ช่างอันตราย
หากแต่ในขณะเดียวกันในความพึงพอใจนั้นยังแฝงไปด้วยความกังวลใจอยู่ไม่น้อยเช่นกัน..
ขนาดเขายังเป็นขนาดนี้แล้วคนอื่นล่ะจะขนาดไหน..
จุนมยอนไม่ได้ต่างไปจากลูกแมวตัวน้อยที่พลัดหลงเข้ามากลางอาณาเขตที่แสนอันตรายที่สัตว์ล่าเนื้อทั้งหลายพร้อมที่จะต่อสู้แย่งชิงกันเพื่อให้ได้กินเนื้อหวานๆของลูกแมวน้อยเลยแม้แต่นิด..
เสียงฝีเท้า2คู่ดังขึ้นเมื่อร่างทั้ง2กำลังเดินอยู่ในทางเดินของอาคารที่ชั้น2 ทางเดินที่ปูด้วยพรมสีแดงเลือดหมูและมีแสงไฟสีส้มอ่อนให้แสงสว่างตลอดทางเดินที่เงียบงัน ดวงตาคู่กลมมองร่างเพรียวได้สัดส่วนสวยของหญิงสาวที่เดินนำหน้าอยู่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเห่อร้อนขึ้นมาบนแก้มกลมใสทั้งสองข้าง สวยก็แล้วแถมยังหุ่นดีแบบนี้อีกจุนมยอนไม่อยากจะคิดว่าผู้ชายคนไหนที่ได้เธอคนนี้ไปเป็นคนรักล่ะก็จะต้องเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดในโลกแน่ๆ
“เชิญเข้ามาด้านในเลยคะ” บานประตูไม้โอ๊คถูกมือเรียวสวยผลักเปิดเข้าไปภายในห้องที่มีสาวเมด4-5คนยืนรอต้อนรับเรียงกันเป็นแถวในแบบที่เห็นได้ทั่วไปตามฉากในบ้านคนรวยของละครหลังข่าว ยูริเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าเมดสาวคนที่ยืนติดกับประตูที่สุดก่อนจะพูดบอกกล่าวอะไรกันอยู่สักพักเธอจึงเดินมาจับมือบางของคนตัวเล็กที่ยังคงได้แต่ยืนจดๆจ้องๆอยู่ที่หน้าห้องให้เข้ามาข้างในภายในห้องสุดหรูของโรงแรม6ดาวเลยก็ว่าได้
“มีอะไรอยากจะทราบก่อนเป็นพิเศษไหมคะระหว่างวัดตัวฉันจะชี้แจงให้คุณทราบ” ริมฝีปากอวบอิ่มเคลือบด้วยลิปสติกสีแดงสดเหยียดออกเป็นรอยยิ้มพึงใจเมื่อได้พิจารณามองทั้งรูปร่างและใบหน้าของคิมจุนมยอนอย่างชัดๆ ต้องยอมรับว่าคนๆนี้เป็นคนที่เธอดูจะถูกใจมากที่สุดแล้วในบรรดาคนก่อนๆที่เคยถูกคัดเลือกมา
“อ่อ..ที่นี้ที่ไหนหรอครับ?” เหลือบดวงตาคู่กลมมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างสงสัยพลางยกมือยกแขนขึ้นตามที่เหล่าเมดสาวต้องการจับก่อนจะก้มลงไปจดสัดส่วนในกระดาษอย่างรวดเร็วแล้วยื่นส่งให้หญิงสาวสุดสวยที่ยืนพิงกำแพงห้องอยู่ไปอ่านพิจารณาอีกครั้ง เรียกริ้วสีแดงจางๆขึ้นมาบนแก้มใสได้ไม่อยาก ในเมื่อเขายังไม่เคยรู้สัดส่วนของตัวเองเลยแต่ผู้หญิงคนนี้กลับรับไปไม่พอยังเผยรอยยิ้มออกมาอีกด้วย
“ที่นี้คือสถานที่ของลูกผู้มีอิธิพลทางการเมืองมาอาศัยอยู่รวมกันเพื่อที่จะเรียนรู้สิ่งต่างๆให้ได้มากที่สุดก่อนจะถึงเวลาที่ต้องออกไปดำรงตำแหน่งแทนผู้ดำรงตำแหน่งปัจจุบันคะ” มือเรียวส่งกระดาษแผ่นบางคืนให้กับสาวเมดที่รอรับอยู่ เธอโค้งตัวน้อยๆก่อนจะเดินออกจากห้องไป
“เดี๋ยวครับ..ผมไม่เข้าใจ..”
“เอาง่ายๆที่นี้เป็นที่รู้จักกันในนามโรงเรียนมาเฟียคะ เอาไว้คุณจุนมยอนอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วเราค่อยมาคุยเรื่องอื่นๆกันต่อนะคะ” ยูริพูดก่อนจะพยักให้กับกับสาวใช้ที่เหลือเป็นเชิงให้จัดการต่อ คนตัวขาวกำลังจะอ้าปากถามอะไรต่อหากแต่ร่างทั้งร่างก็ถูกดึงไปด้านหลังอย่างไม่ให้สุ่มให้เสียงเป็นผลให้แมวน้อยตัวขาวเซร่างทั้งร่างเข้าไปภายในห้องที่เต็มไปด้วยกลุ่มไอน้ำมากมาย
ประตูถูกปิดลงพร้อมๆกับหญิงสาวที่มีสีหน้ายิ้มแย้มตรงเข้ามาค่อยๆปลดเสื้อผ้าออกอย่างถือวิสาสะ เจ้าแมวน้อยทั้งตกใจทั้งกลัวมือขาวพยามดึงยื้อเสื้อผ้าของตัวเองเอาไว้หากแต่จะให้สู้แรงก็ทำไม่ได้ช่างน่าอายเหลือเกิน ในเมื่อตัวเองเกินมาเป็นถึงผู้ชายแท้ๆแต่กลับสู้แรงของผู้หญิง3คนไม่ได้ ได้แต่กล้ำกลืนฟืนทนความอายเปลือยปล่าวร่างกายของตัวเอง
“อย่าครับ..ใจเย็นๆ” ร้องเตือนออกมาทันทีที่รู้ว่าสาวเจ้าทั้งสามจะสามารถทำอะไรกับร่างกายของตัวเองได้บ้าง คนตัวเล็กยืนแข็งทื่ออยู่กับที่อย่างดื้อแพ่ง
หลังจากที่รู้ว่าใช้ไม้แข็งไม่ได้ผลและดูท่าทางว่าไม่มีประโยชน์ที่จะขัดขืนคนตัวเล็กจึงยอมเดินตามร่างเล็กๆของสาวใช้เดินลงอ่างอาบน้ำที่บรรจุน้ำนมเอาไว้ ปล่อยให้ร่างกายของตัวเองโดนขัดถูและอะไรต่างๆอีกมายมายและมันคงเป็นการอาบน้ำที่คิมจุนมยอนรู้สึกว่าสะอาดที่สุดในชีวิต ร่างกายของเบาแม้จะเจ็บแสบและผิวของเขาจะแดงปื้นในคราแรกก็ตามที
เจ้าแมวน้อยข้างถนนในคราแรกหลังจากที่ได้รับการดูแลอาบน้ำตัดผมแล้วก็กลับกลายมาเป็นเจ้าแมวน้อยแสนสวยได้อีกครั้ง หน้าโต๊ะเครื่องแป้งที่มีเหล่าบรรดาเครื่องสำอางมากมายวางเรียงรายกันอยู่ หากแต่มีเพียงครีมอะไรบางอย่างที่เจ้าแมวน้อยก็ไม่สามารถทราบได้ว่าคืออะไรปาดและเกลี่ยลงมาที่ใบหน้าอย่างบางเบาก่อนจะลงท้ายด้วยการปะแป้งฝุ่นให้ใบหน้าดูดีขึ้นมาอีกเป็นเท่าตัว เส้นผมสีดำในตอนแรกบัดนี้มันถูกกัดจนกลายเป็นสีทองขับให้ดวงหน้าน่ารักนั้นดูขาวใสเข้าไปอีกคนคลายกับเด็กเผือกเข้าไปทุกที
“คุณดูสวย” คิ้วเรียวสวยอย่างธรรมชาติขมวดเข้าหากันบ่งบอกถึงความไม่พอใจกับริมฝีปากอิ่มสีสดที่เบะออกนั้นทำให้คนมองถึงกับกำมือเข้าหากันด้วยความเอ็นดูปนอ่อนใจ
ดูเหมือนเด็กจะพาเด็กน้อยมาเจอกับเด็กน้อยที่น้อยกว่ายังไงอย่างนั้นล่ะ
“ผู้หญิงเขาไม่ชมผู้ชายว่าสวยกันหรอกนะครับ” ยูริยิ้มขำอยู่ในใจ เธอโดนเจ้าลูกแมวน้อยขู่ฟ่อใส่เข้าให้แล้วล่ะ..
ยูริลากเก้าอี้ที่อยู่ข้างๆกันมานั่งใกล้กับเจ้าลูกแมวก่อนจะจัดปกเสื้อเชิ้ตสีขาวสว่างที่เมื่อพออยู่บนร่างของคนตัวขาวตรงหน้าแล้วมันแทบจะกลืนกันจนเป็นสีเดียว เจ้าตัวสะดุ้งน้อยๆอย่างตกใจมือบางที่กำอยู่ตรงชายเสื้อตัวโคร่งขย้ำเพิ่มความยับยู่ยี่เข้าไปอีกคงหวังจะดึงมันลงมาปกปิดท่อนขาขาวๆของตัวเองอยู่
“คุณได้เซ็นสัญญาข้อตกลงกับเราแล้วดังนั้นคุณจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้อีก ที่นี้คือ SM academy สถานศึกษาสำหรับลูกผู้มีอิธิพลในด้านต่างๆหรือง่ายๆก็คือพวกยากูซ่าและมาเฟีย สถานศึกษาแห่งนี้เป็นที่เตรียมความพร้อมในด้านต่างๆให้กับเหล่าผู้สืบทอดอำนาจต่อจากผู้มีอิธิพลในยุคปัจจุบันและถือเป็นสถานที่คัดเลือกผู้ที่เหมาะสมกับตำแหน่งสูงสุดของวงการผู้มีอำนาจไปในตัวด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ผู้ที่อ่อนแอกว่าจะถูกกำจัด ทั้งนี้ทั้งนั้นก็แล้วแต่วิธีการของแต่ละคนว่าจะกำจัดแบบให้มีชีวิตอยู่ต่อแล้วเดินออกจากที่แห่งนี้ไปเองหรือจะให้มีแต่ร่างไร้วิญญานที่ถูกขนส่งออกไป” เรื่องน่ากลัวในแบบที่ขนทุกเส้นบนร่างกายของคนฟังพร้อมใจกันยืนตรงเคารพธงชาติถูกเล่าออกมาจากปากของสาวสวยตรงหน้าในท่าทางสบายๆ
“แต่คุณไม่ต้องกลัวหรอกเพราะอย่างน้อยคุณคิมจุนมยอนก็อยู่ในตำแหน่งที่หากจะต้องตายก็จะตายเป็นคนรองสุดท้าย” เจ้าหล่อนพูดด้วยรอยยิ้มก่อนจะส่งมือมาลูบแก้มของของเจ้าลูกแมวที่กำลังตื่นกลัวเบาๆคล้ายจะปลอบขวัญอยู่กลายๆ แต่ขอโทษเถอะ..มันไม่ได้รู้สึกดีขึ้นมาเลยแม้แต่น้อย! จะตายก่อนตายหลังมันก็ตายเหมือนกันน่ะ!
“งานของคุณคือเป็นเลดี้..คนที่ถูกวางตำแหน่งเป็นคู่หมายของบอสใหญ่ที่ในอนาคตจะได้เป็นผู้มีอิธิพลในสังคม ซึ่งเลดี้นั้นจะคอยมีผู้คอยดูแลความปลอดภัยให้อยู่แต่ขณะเดียวกันในการดำรงตำแหน่งนี้ซึ่งถือว่าเป็นตำแหน่งสูงสุดอันดับ2รองจากตัวบอสแล้วคุณจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้การป้องกันตัวเบื้องต้นรวมไปถึงทักษะต่างๆที่จำเป็นในการอยู่ในสังคมผู้มีอิธิผลนี้ ตำแหน่งเลดี้ที่ถูกวางเอาไว้นั้นมีแต่คนหมายปองดังนั้นคุณต้องพยายามรักษามันเอาไว้เพราะเมื่อไหร่ที่คุณหลุดจากตำแหน่งนี้..ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง”
“เดี๋ยวเลดี้นี้เขาไว้เรียกผู้หญิงนิครับ..ผมเป็นผู้ชายต้องเป็นเลดี้งั้นหรอ??งั้นบอสคือผู้ชายหรอ??” หญิงสาวพยักหน้าให้คนสงสัยถึงกับหน้าเสีย จะมีผู้ชายบนโลกนี้ที่อยากโดนเรียกว่าเลดี้บ้างไหมเล่า! เท่าที่ฟังๆดูมันเหมือนตำแหน่งเมียของบอสชัดๆ..แล้วเมียของบอส..เมียของบอสคือ..
“ระหว่างนี้คุณคือ ว่าที่เลดี้ แต่เมื่อไหร่ที่คุณตั้งท้องลูกของบอสคุณจะกลายเป็น เลดี้ ในทันที หน้าที่ของคุณคือการเป็นคู่ชีวิตและให้กำเนิดทายาทของบอสเพราะวงการนี้มีแต่เรื่องอันตรายและเรื่องเสี่ยงๆอยู่เสมอ การเลือกบุรุษเพศเป็นคู่ชีวิตจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดของเรื่องนี้ และการหาเลดี้นั้นถือเป็นความลับจะเป็นหน้าที่ของผู้ที่ดำรงตำแหน่งมือขวาของบอสแต่ละตระกูลที่ดูแลความเรียบร้อยให้และมีมือซ้ายเพื่อดูแลเลดี้ให้มีความเหมาะสมที่สุดสำหรับบอสของตน”
รายละเอียดต่างๆถูกเล่าขยายความออกมาให้จุนมยอนได้แต่ก้มหน้ายอมรับความเป็นจริงต่อจากนี้มันไม่ต่างกับการมีชีวิตที่แขวนอยู่บนเส้นด้ายระหว่างภูเขาสองลูกที่คั่นกลางด้วยหุบเหวลึกที่ไม่รู้ว่าเมื่อไรเราจะตกลงไปและหากว่าตกลงไปแล้วนั้นก็ยากเหลือเกินที่จะรอดชีวิตกลับมาได้..
นอกจากจะต้องรักษาชีวิตแล้วยังต้องมีลูกให้กับคนที่น่ากลัวอย่างมาเฟียอีก
แค่คิดอย่าว่าแต่ชีวิตของลูกที่อาจจะมาเกิดอยู่ในท้องของเขาเลย ชีวิตของตัวเองจะยังรักษาเอาไว้ได้ไหมก็ไม่รู้..
“ดูเหมือนคุณไม่อยากทำ?”
“ผมไม่อยากมีลูก..”
“ฉันเข้าใจความกังวลของคุณคะ ทายาทของบอสถือเป็นความยินดีที่สุดของทุกๆคนแต่คุณไม่จำเป็นต้องรีบร้อน บอสท่านไม่อยากบังคับฝืนใจใครอยู่แล้วขอแค่คุณให้โอกาสกับบอส..ถือว่าฉันขอร้องด้วยอีกแรงให้โอกาสบอสได้ทำให้คุณรักเถอะนะคะคุณจุนมยอน” แววตาเว้าว้อนที่ฉายชัดอยู่เต็มหน่วยตาคู่สวยนั้นทำให้คนที่ใจไม่แข็งเป็นทุนเดิมอยู่แล้วเริ่มโอนอ่อน
“ผมจะรักเขาได้ยังไง..ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าบอสของคุณเป็นคนแบบไหนหน้าตาเป็นอย่างไร”
“ฉันเชื่อในเรื่องของโชคชะตาและพรมลิขิตคะ..” เป็นคำตอบที่แสนงมงายที่ยากจะเชื่อถือในยุคปัจจุบันที่ผีสางเทวดาบางเรื่องสามารถพิสูจน์ได้แล้ว..
แต่มันเป็นคำตอบที่ทำให้หัวใจของคุณฟังรู้สึกอุ่นวาบขึ้นมาอย่างแปลกประหลาด
////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
รีไรท์ใหม่คะ รับรองเนื้อหาและภาษาแซ่บกว่าเดิมแน่นอน
ผลิกบทผลิกแนวเรื่องใหม่หมดคะคิดว่าไม่น่าเป็นฟิค "ใสๆ"แล้วละคะ^^
เวิ่นต่อในทวิตติดแทก #มาเฟียแพนด้านะคะ^^
4ความคิดเห็น