คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ลำดับตอนที่ 1
ฉันนางสาวมินอึนพยู ตอนนี้ฉันกำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมปลายในโซล ฉันกำลังจะตายอยู่แล้ว เพราะไอ้หนังสือเรียนพวกนี้แท้ ๆ กว่าฉันจะเข้าใจเนื้อหาของหนังสือเรียนได้ต้องใช้ เวลานานมากเลย
ตรู๊ด ตรู๊ด
“ฮัลโหล”
“นี่อึนพยู วันนี้เราออกไปเที่ยวกันมั้ย”
“ฉันไม่ว่างหรอก โซยอง เอาไว้วันหลังเหอะนะ”
“ทำไมล่ะ วันนี้ฉันอุตส่าห์เคลียร์ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วนะ”
“แต่ฉันไม่ว่าง ฉันต้องอ่านหนังสือ ไม่งั้นฉันตายกับสอบครั้งนี้แน่ เอาไว้คราวหน้าแล้วกันนะ แค่นี้นะเพื่อน บาย”
ฮู่วห์ ไม่ได้อึนพยู เธอต้องตั้งใจเรียน อดทนไว้อึนพยู เธอต้องเอาชนะตัวเองให้ได้ซิ
เมื่อตะกี้ เพื่อนฉันเอง เธอชื่อลีโซยอง เธอหน้าตาน่ารักใช้ได้เลย แต่เรื่องเรียนไม่ค่อยเอาไหน ก็เหมือนฉันนั่นแหละค่ะ แต่ฉันขยันกว่าเธอนะ
ตอนนี้ฉันอยู่ในบ้านคนเดียว พ่อกับแม่ฉันย้ายไปอยู่ที่อังกฤษ ท่านมีธุรกิจอยู่ที่นั่น เลยต้องย้ายไปอยู่ ปล่อยให้ฉันอยู่คนเดียว
ตอนหกโมงเย็น ฉันทำข้าวผัดกิมจิ มันคงเป็นอาหารที่ฉันทำได้อร่อยที่สุด รองจากบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ในความคิดของฉันนะ คิดๆ แล้วก็อยากจะมีใครซักคนมาทำอาหารให้กินจังเลย คงจะมีความสุขน่าดู
---------------------------------
วันรุ่งขึ้น ฉันตื่นเช้าไปโรงเรียน ฉันออกไปยืนรอที่ป้ายรถเมล์ แล้วฉันก็เจอ นายชองซึงฮอนเข้าจนได้ นายนี่อยู่ชั้นเดียวกับฉัน แต่อยู่คนละห้องกัน แต่ทุกวันนายนี่ต้องมาอยู่ห้องฉันจนได้ ไม่รู้ติดใจอะไรนักหนา แล้วก็ชอบมาแกล้งฉันด้วย จริง ๆ แล้วฉันก็แอบชอบนายคนนี้อยู่เหมือนกันนะ หน้าตาเค้าก็หล่อดีนะ บ้านรวยด้วย แต่นิสัยห่วย มันก็ไม่ห่วยแตกหรอก แต่เจ้าชู้ ทำตัวลื่นไหลยังกะปลาไหลไฟฟ้าอย่างนั้น
“อ้าว หวัดดี เธออึนพยูใช่มั้ย”
“หวัดดี ใช่ฉันอึนพยู”
“บ้านเธออยู่แถวนี้เหรอ”
“อื้อ แล้วบ้านนายอยู่แถวนี้เหมือนกันเหรอ”
“ใช่”
“เอ่อ รถเมล์มาแล้วล่ะ”
เราจบบทสนทนากันแค่นั้น แล้วก็ขึ้นรถเมล์กัน ฉันจ่ายค่ารถเมล์ไปเจ็ดร้อยวอน แล้วก็นั่งข้างคุณยายคนหนึ่ง ส่วนนายซึงฮอนนั่งอยู่ข้างหลังฉัน
“เออ นี่ เธอมีเรียนภูมิศาสตร์รึเปล่าวันนี้”
นายนั่นเอามือมาสะกิดฉัน
“มี ทำไมเหรอ”
“คือว่าฉันไม่ได้ทำการบ้าน ขอลอกการบ้านหน่อยได้มั้ย”
“ฉันก็ทำแล้วอะนะ แต่ว่าไม่รู้มันจะถูกรึเปล่า”
“ไม่เป็นไร เอามาเถอะ เผื่ออาจารย์เรียกส่งอ่ะ”
“ถ้างั้นก็ได้ จะเอาเลยรึเปล่า”
“ค่อยเอาดีกว่า”
“เดี๋ยวฉันเอาไปให้ที่ห้องนายแล้วกัน”
“โอเค”
รถเมล์มาถึงป้ายโรงเรียนแล้ว ฉันลงจากรถเมล์แล้วก็มุ่งหน้าไปยังห้องเรียนของฉัน ห้องเรียนของฉันคือ ห้อง 1-D ฉันเจอโซยองฟุบหน้ากับโต๊ะอยู่ในห้อง ตอนที่ฉันมาถึง สงสัยเธอจะหลับ
“นี่ โซยอง”
“ฮะ?? อะไรเหรอ”
“เมื่อวาน ฉันขอโทษนะ ที่ไม่ได้ไปเที่ยวกับเธออ่ะ”
“ไม่เป็นไรหรอก แต่เพราะเธอ ฉันเลยต้องเซ็งอยู่บ้าน”
“เอาน่า ไว้คราวหลัง เราค่อยไปเที่ยวกันก็ได้”
กริ๊ง กริ๊ง
ชั่วโมงนี้เป็นวิชาคณิตเสริม ฉันถนัดอยู่แล้ว แต่ยัยลีโซยองจะรอดมั้ยก็ไม่รู้ ดันมาเลือกตามฉัน
วิชานี้เราต้องไปเรียนที่ห้อง 1-A ฉันเลือกนั่งแถวตรงกลาง
อาจารย์เรียกชื่อฉันกับโซยองไปเรียบร้อยแล้ว วันนี้จะเริ่มสอนเรื่องลอกการิทึม เรื่องนี้เห็นเค้าบอกว่ายาก ก็ที่ฟังมาจากรุ่นพี่อะนะ แต่นางสาวมินอึนพยูไม่ท้อแท้ ส่วนนางสาวลีโซยองจะหลับให้ได้แล้ว
--------------------------------------
ถึงเวลาพักสิบนาที เราสองคนก็เดินเล่น แล้วฉันก็ไปซื้อน้ำส้มมาดื่ม ส่วนโซยองก็สวาปามแฮมเบอร์เกอร์เข้าไปหนึ่งอัน เพราะไม่ได้กินอาหารเช้า ตอนเดินไปที่สหกรณ์ฉันเจอชองซึงฮอนด้วย เอ ฉันว่าฉันลืมอะไรนะ ช่างมันเหอะ ไปเรียนต่อดีกว่า
ทุกอย่างในวันนี้เสร็จสิ้นลงแล้ว ไม่มีการบ้านอะไรเลย ฉันจัดการเก็บหนังสือไว้ในล็อคเกอร์ แล้วก็เตรียมตัวกลับบ้าน ส่วนโซยองเธอขอตัวไปชมรมดนตรีก่อน เพราะวันนี้เธอมีซ้อมใหญ่ เห็นยัยโซยองขี้เกียจอย่างนี้ แต่ไม่อยากจะบอกว่าเล่นไวโอลินเก่งที่หนึ่งเลย
ฉันเดินไปที่ป้ายรถเมล์หน้าโรงเรียน แล้วก็เจอชองซึงฮอนเหมือนเดิม ดูยังไง นายนี่ก็หล่ออยู่ดี ร่างสูง แต่จริงๆ ดูแล้วก็อุดมสมบูรณ์เหมือนกันนะ แต่ก็ไม่น่าเกลียด
“เจอกันอีกแล้วนะ”
“ไม่ต้องมายิ้มเลย เธอหน่ะ ทำไมไม่ยอมเอาสมุดภูมิศาสตร์ไปให้ฉันที่ห้องล่ะ ฉันอุตส่าห์รออยู่ที่ห้อง จนพอถึงคาบ ก็ไม่ได้ส่งงาน โดนอาจารย์ดุเลย”
“อ๊ะ จริงด้วย แหะ แหะ ฉันขอโทษนะ คือฉันลืมอ่ะ”
“ไม่ต้องมายิ้มเลย”
“อ้าว แต่จริงๆ แล้วฉันก็ไม่ผิดนี่ มันไม่ใช่เรื่องของฉันซักหน่อย แล้วที่สำคัญมันก็เป็นสมุดฉันด้วย อีกอย่างนะ ทำไมนายไม่มาเอาล่ะ พอฉันลืมก็ยังนั่งเซ่อ ไม่ยอมมาเตือนฉัน”
“อ้าว เธอพูดอย่างนี้ได้ยังไง ก็ไหนตอนเช้า เธอบอกว่า เดี๋ยวเธอจะเอาไปให้ที่ห้องฉัน”
“ก็....ก็ฉันลืมนี่ ช่วยไม่ได้ แล้วฉันก็ขอโทษไปแล้วด้วย ทำไมต้องโมโหอีกล่ะ”
“เฮ้อ เซ็งจริงๆ เลย ต้องมาเจอคนแบบเธอเนี่ย ยัยโง่เอ๊ย”
“นายว่าอะไรนะ”
“ช่างเหอะ ไม่ได้ยินก็แล้วไป”
“อีตาบ้าเอ๊ย”
แล้วฉันก็ขึ้นรถเมล์ที่มาจอด ระหว่างทางที่นั่งรถเมล์ไป ฉันกับนายซึงฮอนไม่มองหน้ากันเลย พอลงรถก็ต้องลงป้ายเดียวกันอีก ทำไมนะ ต้องอยู่บ้านใกล้กันอีก
พอถึงป้ายรถเมล์ เราก็แยกกันกลับ วันนี้เจอนายนั่นทีเดียว ทำฉันอารมณ์เสียเลย ขออย่าพบเจออีกเลย คนที่หล่อ แต่นิสัยแย่อย่างนี้
พอกลับถึงบ้าน ฉันก็อาบน้ำ แล้วก็นอนหลับไปเลย เพราะรู้สึกว่าตัวเองเหนื่อยมาก ตื่นมาอีกทีก็เลยหนึ่งทุ่มไปแล้ว ฉันเลยกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นอาหารเย็น
-----------------------
แฮ่ก แฮ่ก เกือบมาโรงเรียนสายซะแล้ว เมื่อคืนมัวแต่นั่งเล่นคอมพิวเตอร์อยู่ ก็เลยนอนดึก แล้วก็ตื่นสายในวันต่อมา ก่อนออกจากบ้านคว้าขนมปังกับชีสในตู้เย็นมาได้ อย่างน้อยก็ยังดีกว่าไม่ได้กินอะไร
วันนี้ต้องไปเอาของในล็อคเกอร์ มีหนังสือประวัติศาสตร์ อย่างเดียว
โอย เวรกรรม ทำไมฉันต้องมาเจอกับนายบ้านั่นอีกแล้วนะ เดี๋ยวอารมณ์ฉันก็ขึ้นอีกหรอก เออ แต่จริงๆ แล้วจะไปหัวเสียกับนายนั่นก็ไร้ประโยชน์ นายมันไม่มีอะไรดีซักอย่าง แต่มันก็มีอยู่อย่างที่ดี อย่างน้อยนายก็เอาไว้เป็นอาหารตาได้แล้วกัน
“หวัดดี มินอึนพยู”
“มีอะไร”
“เปล่า ไม่มีอะไร แค่อยากจะทักทายเฉยๆ”
“อ๋อ แล้วไป”
แล้วฉันก็ตั้งหน้าตั้งตาเดินกลับไปที่ห้องเรียน อาจารย์เช็คชื่อผ่านชื่อฉันไปอีกแล้ว ฉันก็เลยโดนตักเตือนไป เพราะนายชองซึงฮอนแท้ๆ เลย
วันนี้ต้องใส่ชุดพละ เพราะมีเรียนพละ ฉันอยู่สีม่วง ส่วนโซยองอยู่สีแดง พอเราสองคนเปลี่ยนชุดพละเสร็จเรียบร้อย เราก็ทิ้งกระเป๋าไว้ในห้องเรียน
“โซยอง วันนี้เธอห้ามทำเป็นป่วยอีกนะ”
“ฉันจะทำอีก”
“นี่ แล้วฉันจะวิ่งกับใครล่ะ แล้วพอถึงเวลาเล่นเกมส์ ฉันก็ไม่รู้จะไปกับใครอีก”
“เอาน่า ถ้าเธออยากวิ่งก็เชิญวิ่งไปคนเดียว ส่วนฉันจะเล่นละครเหมือนเดิม”
แล้วโซยองตัวดีก็เดินไปนั่งที่ม้านั่งข้างสนาม แล้วบอกอาจารย์ว่าตัวเองป่วย จะได้ไม่ต้องมาวิ่งรอบสนาม ยัยนี่สำอางไปได้เรื่อย ทำกิจกรรมกลางแดดก็ไม่ทำ ออกไปเจอลมหน่อย ก็กลัวผมเสีย เข้าห้องน้ำแต่ละที คิดว่าไปขัดส้วมให้โรงเรียน น่าเบื่อจริงๆ อยู่กับคนที่เพอร์เฟ็กต์ (ไม่รู้ว่าจะจริงรึเปล่า)
“นักเรียน แยกย้ายไปเล่นกีฬาได้แล้ว อาจารย์จะให้เวลาถึง บ่าย 2 โมง เมื่อสัญญาณนกหวีดดัง ต้องมาเข้าแถว ตรงนี้ที่เดิม เข้าใจมั้ย”
“เข้าใจค่ะ/ครับ”
“โซยอง เธอทำให้ฉันต้องโดดเดี่ยวเดียวดายตั้ง 30 นาทีนะ”
“ก็ฉันไม่อยากจะออกไปวิ่งนี่นา เธอไม่รู้เหรอว่าแสงแดดในช่วงเวลานี้เนี่ย มันสามารถทำให้เราเป็นมะเร็งผิวหนังได้นะ”
“ฉันไม่สนหรอก ถ้าพระเจ้าอยากให้ฉันเป็นมะเร็งผิวหนัง ฉันก็ยอม”
“งั้นเธอก็ไปหาเพื่อนเล่นกีฬาก็แล้วกันนะ อย่าคิดจะมาชวนฉันเลย”
ก็ได้ยัยลีโซยอง เธอยากจะสำอางอย่างนี้ต่อไป เพื่อความสวยใสไร้สมองของเธอก็เชิญ
“นี่เธอ นี่ นี่!!!!!!!!”
“หา อะไรเหรอ”
“นี่เธอ มาเล่นปิงปองกันดีกว่า ไม่เบื่อบ้างเหรอไปนั่งอยู่อย่างนั้นอ่ะ”
“อ๋อ ได้เลย ฉันไม่มีเพื่อนเล่นด้วย ก็เลยนั่งเล่นอ่ะ พอดีเพื่อนฉันเค้าไม่อยากเล่น”
“งั้นก็มาเล่นปิงปองกับฉันดีกว่า”
“โอ้ เย”
ฉันกับเด็กผู้หญิงคนนี้ ก็เริ่มจัดโต๊ะปิงปอง แล้วเราก็เล่นปิงปองกันจนหมดเวลา
“เธอชื่ออะไรอ่ะ ฉันยังไม่รู้เลย”
“ฉันชื่อยูจิน”
“ฉันชื่อมินอึนพยู”
“โอเค ฉันอยู่ห้อง 1-A เธออยู่ห้อง 1-D ใช่มั้ยล่ะ”
“ใช่”
“ฉันเห็นเธอเข้าแถวอยู่ในห้องนั้น ฉันจำเธอได้ เอ้า ไปกันเหอะอาจารย์เรียกแล้ว”
ว้าว คนอย่างฉัน หน้าตาอย่างฉัน มีคนจำฉันได้ด้วย เจ๋งมากๆ เลย ไม่น่าเชื่อ
พอเราได้รับการปล่อยจากวิชาพละ ฉันก็ไปเข้าห้องน้ำ เพื่อล้างหน้าล้างตา เพราะฉันเล่นปิงปองกับยูจินจนเหงื่อออก จนมันเหนียวชุดพละไปหมดแล้ว หลังจากนั้นฉันก็ขึ้นห้องเรียน
โซยองกลับมานั่งกอดอกสบายใจอยู่ในห้องแล้ว เพราะเธอไม่ได้รับรู้ความเหนื่อยของการเล่นกีฬา
“สบายจังนะยะหล่อน”
“แน่นอนอยู่แล้ว”
ตอนนี้ฉันต้องการกระดาษทิชชูมากๆ ฉันต้องการมันมาเช็ดหน้าที่เปียกโชกของฉัน
“โซยอง มีกระดาษทิชชูรึเปล่า”
“ฉันมีนะ คิดว่ามี”
“เอ๊ะ ไม่ต้องแล้ว ฉันมีในกระเป๋าฉัน”
ไหนล่ะกระเป๋าของฉัน มันอยู่ไหน ฉันมองทั้งใต้โต๊ะ ไปหาที่โต๊ะโซยอง ไปหาที่โต๊ะเพื่อนๆ ทั่วห้องก็ไม่มี แล้วกระเป๋าฉันจะหายไปไหนได้ ในเมื่อฉันเอามันวางไว้ในห้องแล้วนี่นา
“โซยอง เห็นกระเป่าฉันรึเปล่า ใบสีดำอ่ะ เธอรู้ใช่มั้ยว่ากระเป๋าฉันใบไหน”
“กระเป๋าเธอ เธอเก็บไม่ใช่เหรอ”
“ก็ฉันเอามาเก็บที่ห้อง ก่อนจะออกไปเรียนพละนี่นา”
“มันหายเหรอ”
“ฉันไม่รู้ แต่ตอนนี้ฉันหามันไม่เจอ ฉันค้นทั่วห้องแล้วก็ไม่มี”
“เอ หรือว่าโดนขโมย”
ความคิดเห็น