ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เมื่อ'ราชา'มาถึงต่างโลก

    ลำดับตอนที่ #7 : เด็กหนุ่ม,ตุ๊กตาวิญญาณ,การอาละวาด

    • อัปเดตล่าสุด 10 พ.ค. 61


         เมืองเรนี อาณาจักรเคอิสเรน
         เด็กหนุ่ม ได้เดินตามทางท้องตลาด เขาทำตัวไม่ให้เป็นที่จุดสนใจของทุกคน แต่ตัวตนของเขามันเป็นที่จุดสนใจจนไม่สามารถทำใจได้
         “ทำไมมนุษย์ถึงมาอยู่ที่นี้กัน"
         “ให้ตาย ทำไมยังไม่สูญพันธุ์อีกละเนี่ย"
         "เห็นด้วย อยู่ไปก็รกโลกเปล่าๆ"
         สายตาที่เหยียดหยามส่งมาที่เขาเพียงคนเดียว แต่เด็กหนุ่มคนนั้นก็ไม่ได้สนใจสายตาพวกนั้นเลย เหมือนกับว่าเขาชินกับมันแล้ว
         เด็กหนุ่มที่ใส่เสื้อโค้ทสีดำ ยกฮู้ดสวมขึ้นมาปิดใบหน้าและเฮดโฟนของตัวเอง
         ในโลกนี้มนุษย์นะ อ่อนแอจนไม่สามารถอยู่ที่โลกนี้ได้
         โลกนี้มีแต่ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่สามารถอยู่ได้
         มนุษย์ที่ไม่สามารถทนต่อมลพิษที่เกิดจากสงครามได้ จึงถูกระบุในหัวเผ่าพันธุ์อื่นๆว่าอ่อนแอ
         พลังเวทย์ของเผ่าพันธุ์เอลฟ์ จมูกที่ดมกลิ่นได้ดีของเผ่าครึ่งสัตว์ ทำให้สามารถระบุได้ว่าเด็กหนุ่มคนนี้เป็นมนุษย์
         ตอนนี้ในเมืองนี้ดูเหมือนจะมีแค่เผ่าครึ่งสัตว์กับเผ่าเอลฟ์เท่านั้น
         สาเหตุคงเป็นเพราะเผ่ามนุษย์ยักษ์ในตอนนี้อยู่ที่กลางป่าที่ห่างไกลจากเมืองนี้หลายกิโลเมตร ส่วนเผ่าแองเจิลหรือเผ่านางฟ้า มีเมืองอาศัยอยู่บนฟ้าและเป็นเผ่าที่ไม่ค่อยอยากยุ่งกับโลกเบื้องล่างเท่าไหร่ แต่ว่าเผ่าคนแคระกับเผ่าอื่นๆเองก็ต่างก็ไปอยู่ที่เมืองอื่น ไม่แน่บางทีบางเผ่าก็มีประเทศของตัวเองก็ได้
         แต่ประเทศนี้นะเป็นประเทศที่ปกครองโดยเผ่าเอลฟ์ก็จริงแต่ก็เป็นประเทศอิสระเรื่องเผ่าพันธุ์ ไม่ว่าเผ่าไหนก็สามารถมาที่ประเทศนี้ได้ทั้งนั้น และยังมีอีกหลายประเทศที่เป็นประเทศอิสระเผ่าพันธุ์เหมือนกัน
         แต่ถึงจะเป็นอิสระเผ่าพันธุ์แต่ก็ยังมีความขัดแย้งภายในอยู่ดีไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่
         ยกตัวอย่างเช่น เหตุการณ์ที่อยู่ข้างหน้าของเด็กหนุ่มตอนนี้
         เหตุการณ์ที่ผู้คนพากันสนใจมากกว่าตัวตนของเด็กหนุ่ม ทำให้เขาพลอยสนใจไปด้วย
         นั่นมันรินจังนี่น่า ไหนถึงได้มาเกี่ยวข้องด้วยละเนี่ย
         สาวน้อยเอลฟ์ที่ชื่อรินและคนที่อยู่ข้างๆเหมือนจะเป็นพี่สาวฝาแฝด เพราะทั้งคู่ต่างก็เหมือนกันอย่างกับแกะต่างกันตรงที่เธอคนนั้นมีผมยาวกว่า
    และตอนนี้เหมือนว่าทั้งคู่กำลังทะเลาะกับชายที่ดูเหมือนจะไม่ใช่คนดีเท่าไหร่ที่มีกันสามคน
         "เฮ้สาวน้อยยอมทำตามที่พวกเราบอกดีกว่าน่า"
         "พวกนายนั่นแหละ เลิกมาจุ้นจ้านกับน้องสาวฉันได้แล้ว "
         ดูเหมือนว่ารินตอนนี้กำลังกลัวจนตัวสั่นอยู่
         ช่วยไม่ได้แฮะ ถึงไม่รู้ว่าทะเลาะกันเรื่องอะไรไปช่วยหน่อยดีกว่า
         แรงกดดันอันมหาศาลกดทับร่างของทุกคนที่อยู่ตรงนั้น
         แรงกดดันนี่มัน คุณเรนงั้นหรอ
         "โทษทีๆ พอดีไม่ได้ใช้ร่างนี้มานานเลยไม่รู้ว่าจะควบคุมยังไงนะ ทำให้รินจังพลอยโดนไปด้วยน่ะ"
         สิ่งที่อยู่ตรงหน้าพวกเธอไม่ใช่เรนที่มีรูปร่างเป็นเด็กประถม แต่เป็นเด็กหนุ่มที่กำลังถอดฮู้ดออก เดินผ่านผู้ชายทั้งสามคนเข้ามาหา
         เขาได้คลายแรงกดดันลง จนทุกคนรู้สึกเบาตัวลง
         "เฮ้!!! แกเป็นใครถึงกล้าหยามพวกเรากัน!!!"
         “เป็นแค่มนุษย์แท้ๆอย่ามากล้าสู้กับพวกเรานะเว้ย!!"
         เด็กหนุ่มที่รำคาญเสียงพวกนั้นได้หันมาหาผู้ชายทั้งสามคน—
         "—พวกแก ดูเหมือนจะไม่เจียมเนื้อเจียมตัวเลยนะ อุตส่าห์เบามือให้แล้วนะ"
         พร้อมกับปล่อยแรงกดดันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้รุนแรงกว่าครั้งก่อน
         ทั้งสามคนล้มลงไปกับพื้น ที่ทำไปครั้งที่แล้วไม่ใช่เพราะพลาดแต่เขาตั้งใจให้ทุกคนโดนแรงกดดันด้วย ที่ทำก็เพื่อครั้งนี้ทุกคนจะได้ไม่สงสัยว่าเขากำลังทำอะไรกับทั้งสามคนนั่นเหมือนกับกรณีของคิเมร่า
         แรงกดดันมหาศาลเท่าภูเขาทับใส่ร่างทั้งเพียงแค่สามคนนั่น แต่ในแรงกดดันนั่นก็มีจิตสังหารปนมาด้วย
         แรงกดดันกับจิตสังหารทั้งสองอย่างนี้ไม่สามารถลบล้างด้วยเวทมนตร์ได้
         ถ้าอธิบายแบบคร่าวๆละก็ แรงกดดันคือรังสีที่เด็กหนุ่มคนนี้ปล่อยออกมาทำให้ร่างกายตอบสนองด้วยการสั่นกลัวโดยที่อีกฝ่ายไม่รู้ตัวเลย
         ส่วนจิตสังหาร เมื่อเราอาฆาตใครก็จะปล่อยจิตสังหารออกมาทำให้อีกฝ่ายเริ่มกลัวภายในจิตใจเหมือนกัน

         ทั้งสองอย่างจึงไม่สามารถลบล้างได้ จนกว่าคนปล่อยจะเลิก แต่ทั้งสองอย่างนี้เด็กหนุ่มคนนี้สามารถควบคุมได้ดีจนน่ากลัว...
         ร่างกายกับจิตใจของทั้งสามทนต่อแรงกดดันกับจิตสังหารไม่ไหว เด็กหนุ่มจึงคลายทั้งสองอย่างลง
         เขาเดินไปหารินกับพี่สาวของเธอ
         "เอาล่ะ รินจังพวกเราไปกันเถอะ เธอต้องพาฉันไปที่พักไม่ใช่หรอ"
         “คุณเรน...อย่างงั้นหรอ"
         “ปิ้งป่อง ถูกต้องจ้า อะไรกันตกใจขนาดนั้นเชียวหรอที่จู่ๆฉันก็สูงกว่าเธอตั้งเยอะนะ"
         เขาทำท่าวัดความสูงด้วยมือกับรินสลับไปมา เป็นท่าที่กวนประสาทสำหรับรินมาก
         "ถึงมันจะเกี่ยวกับเรื่องความสูงก็เถอะ แต่อย่าเอาความสูงของฉันไปเปรียบเทียบจะได้ไหมค่ะ!!!"
         หมัดที่รุนแรงที่ผิดกับรูปร่างทะลวงไปถึงลิ้นปี่
         ถ้าจะให้บอกสภาพของเรนในตอนนี้ละก็...
         "ช่าง...เป็นหมัดที่...รุนแรงเหลือเกิน"
         ขณะที่เอามือกุมท้องอยู่ เรนก็ยกนิ้วให้เธอ
         ต่อให้เขาใช้พลัง'KING'เพิ่มศักยภาพของตัวเองแต่ว่าร่างกายของเขาก็ยังเป็นมนุษย์ธรรมดามิอาจต้านทานพลังหมัดที่เสริมด้วยเวทมนตร์ได้หรอก
         "ดีแค่ไหนแล้ว ที่ฉันไม่เตะผ่าหมากคุณเรนนะค่ะ"
         "ขอบ...พระคุณ...อย่างสูง...คร้าบ"
         "เอ๊ะ!"
         ดูเหมือนพึ่งจะสังเกต
         ปกติคนอย่างเรนจะไม่พูดอะไรแบบนี้หรอก ถึงแม้จะรู้จักกันเพียงแค่วันเดียวก็เถอะ
         แถมส่วนสูงเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วอย่างผิดปกติ นิสัยภายนอกที่ดูเป็นคนเยือกเย็นก็เปลี่ยนไปด้วย
         “อย่างกับ—"
         เปลี่ยนไปเป็นคนละคน เธอต้องกับกลืนคำพูดนั้นลงคอเมื่อเรนใช้นิ้วชี้แตะริมฝีปากของริน
         "ชู่ว~ เดี่ยวเรื่องนั้นฉันอธิบายทีหลังให้"
         เขาส่งยิ้มให้รินอย่างมีเลศนัย
         เขารู้ว่าสิ่งที่รินกำลังจะพูดต่อจากนี้คืออะไร แต่เขาก็ขอให้ช่วยเงียบเรื่องนี้ไว้ก่อน
         "คนที่อยู่ข้างๆรินจัง เป็นใครหรอ หรือว่าจะเป็นพี่สาวเธอละ"
         "ฉันชื่อชาล็อต อย่างที่เห็นฉันเป็นพี่สาวฝาแฝดของริน เคยเรียนที่โรงเรียนสตรีเวทมนตร์มาเหมือนกันริน ฉันฟังเรื่องของเธอมาจากรินทั้งหมดแล้วละ"
         ชาล็อต...งั้นหรอ ไม่ว่าที่ไหนก็มีวิธีตั้งชื่อที่ต่างกัน แต่โลกนี้กับโลกนั้นดูเหมือนจะมีวิธีการตั้งชื่อที่เหมือนกันนะเนี่ย
         ในโลกที่เขาอาศัยอยู่ ก็มีวิธีการตั้งชื่อในแบบหลากหลาย ส่วนใหญ่ก็ได้รับอิทธิพลมาจากดารา นักร้องทั้งนั้น
         “แต่เธอตัวสูงกว่าที่รินบอกอีกนะเนี่ย หรือว่าเธอมีวิธีเพิ่มความสูงในแบบพริบตานะ"
         "กะ ก็ประมาณนั้น—"
         ยัยนี่เดาเก่งใช่ย่อย แบบนี้จะเป็นปัญหากับเราในอนาคตแน่
         ที่เขาคิดเอาไว้ก็ไม่ผิด ในโลกนี้เขายังไม่รู้รายละเอียดที่ดีพอ แถมเขาเองก็เคยพูดไว้
         —การเจอกับคนแปลกหน้าแล้ว สิ่งที่ต้องทำอย่างแรกคือการไม่ไว้ใจนั่นแหละ ต่อให้คนนั้นจะเป็นคนรู้จักของเพื่อนก็ตาม
         อีกอย่างถ้าเป็นเพื่อนของชิกุเระละก็ เธอจะต้องถูกดึงเข้ามาหา  ชิกุเระด้วยวิธีนั้นแน่
         บิชอป เป็นตัวหมากที่แสดงถึงตำแหน่งนักบวชหรือขุนนางในพระราชวัง ทำให้ผู้ที่ครอบครองตัวหมากนี้มีเสน่ห์บางอย่าง
         เสน่ห์นั้นทำให้ค่อยๆดึงดูดผู้คนที่มีระดับเดียวกันเข้ามาทีละคนสองคน
         ถ้าชาล็อตกับรินเป็นคนที่ถูกเสน่ห์ของชิกุเระดึงดูดเข้ามาละก็—หมายความว่าเธอเองก็พอมีระดับอยู่บ้าง
         ต่อให้เห็นเดาเก่งแค่ครั้งเดียวก็เถอะ แต่ถ้าเดาเก่งแบบนี้ก็เป็นปัญหาต่อแผนการต่างๆของเขาก็ได้
         วิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคือการให้เธอมาเป็นสมาชิก’เชสแฟมิลี่’นั่นแหละ
         “นี่!! ฟังอยู่รึเปล่าค่ะคุณเรน"
         "อะ โทษทีพอดีคิดอะไรเพลินอยู่นะ"
         ดูเหมือนว่าตอนที่เรนกำลังระแวง พวกเธอจะคุยกันไปไกลแล้ว
         “แล้วคุยเรื่องอะไรกันอยู่ละ—"
         "ก็คุยเรื่องที่พักของคุณเรนนั่นแหละค่ะ พวกเราช่วยเช่าห้องล่วงหน้าหนึ่งเดือนให้แล้วละค่ะ ที่เหลือก็เป็นเรื่องเสื้อผ้า—"
         “อ่อเรื่องนั้นไม่จำเป็นหรอก—ฉันเอาเสื้อผ้าสำรองมาด้วย"
         "เอ๊ะ—"
         ถ้าจำไม่ผิดในกระเป๋ามีแค่กระดานหมากรุกกับลูกบาศก์ไม่ใช่หรอ แล้วจะมีเสื้อผ้าสำรองได้ไงล่ะ
         แต่เธอก็ไม่ถามตรงๆหรอก เพราะดูจากแววตาของเรนที่จ้องเธอตอนนี้แล้วเขารู้แล้วว่าเธอคิดอะไรอยูุ่ และเขาก็รู้ว่าเธอรู้ตัวแล้ว เพราะฉะนั้นเขาคงจะค่อยบอกทีหลัง
         โฮ~มีเซนต์ใช่ย่อยแฮะ สมเป็นพี่น้องกันจริงๆ
         ไม่แน่รินเองก็ถูกเสน่ห์ของชิกุเระดึงเข้ามาหาเหมือนกัน
         "แต่~เอาเถอะฉันขอคุยกับสาวน้อยที่อยู่ข้างหลังพวกเธอหน่อยสิ"
         พวกเธอไม่รู้ตัวเลยว่าเธอมาตั้งแต่เมื่อไร
         เด็กสาวผิวเนียนผ่องขจี ในชุดเดรสสีดำ โบว์สีแดงที่ติดไว้กับผม แต่เรนกลับมองภายในตัวเธอออกอย่างง่ายดายเลยว่าเธอเป็น—
         เมดสาวผมทองงั้นหรอ ดูเหมือนไม่ใช่แฮะ ดวงตาแบบนั้น...
         “ทั้งที่ฉันถูกเตือนมาเมื่อคืนก็เถอะ แต่ไม่นึกเลยว่าจะเจอกับ’ตุ๊กตาวิญญาณ'เร็วขนาดนี้นะเนี่ย"
         “ตุ๊กตา...วิญญาณ...มองดิฉัน...ออกด้วยหรอค่ะ"
         "ก็นะฉันมาจากที่ที่มีเรื่องเกี่ยวกับเธอเยอะพอดูเลยละ"
         ในโลกของเรนเองก็มีตำนานตุ๊กตาวิญญาณมากมาย แต่เมื่อเทียบกันทั้งหมดและลองเรียบเรียงเป็นคำพูดละก็ก็สรุปใจความได้ง่ายว่า 'ทุกอย่างเกิดจากความตั้งใจของผู้สร้างตุ๊กตาที่มีความตั้งใจอันแน่วแน่ที่จะสร้างมันขึ้นมา และทำให้คนรักของผู้สร้างที่ตายไปกลับมาเกิดใหม่โดยเข้ามาสิงตุ๊กตาตัวนั้น'
         —แต่มันก็ไม่เกิดขึ้นจริงในโลกแห่งความเป็นจริง
         ในโลกของเขามีแต่ตุ๊กตาจักรกล ไม่มีตุ๊กตาวิญญาณเลย
         สิ่งที่สามารถอธิบายได้มันน่าเบื่อกว่าสิ่งที่ไม่สามารถได้เสียอีก
         โลกนี้ไม่ว่าอะไรก็สนุกไปหมดเลยแฮะ
         เด็กสาวตุ๊กตาวิญญาณข้างหน้าจะอธิบายนิสัยของเธออย่างชัดเจนก็ไม่ได้ แต่เหมือนว่าเธอจะเย็นชากับทุกสิ่งที่เกี่ยวกับโลกใบนี้เหมือนกันเรน...ไม่มีผิด...
         “แล้วเธอมีธุระ—ไม่สิก่อนอื่นต้องแนะนำตัวก่อนสินะ ผมชื่อเรน มุราคามิ เรน จะเรียกผมว่าเรนก็ได้นะ"
         เธอค่อยๆยกชายกระโปรงแล้วคำนับอย่างสุภาพ
         “ดิฉันชื่อแอนนาเบลเป็นผู้ดูแลกิลด์Kid Cat ค่ะ ฉันอยากจะให้คุณมาเข้ากิลด์ของเราค่ะ"
         “ตรงดีจังแฮะ—เอาสิผมจะลองเข้าดูก็ได้"
         "ดะ เดี่ยวก่อนสิค่ะ จู่ๆก็ไปรับปากแบบนี้—"
         “แล้วพวกเธอก็ไม่มาด้วยกันละ รินจังปิดเทอมแล้วนิ แถมคุณชาล็อตก็ไม่มีอะไรทำด้วยใช่ไหมล่ะ"
         “เรนคุง เธอรู้รึเปล่าคะว่าการเข้ากิลด์มันมีความหมายว่าไง"
         ชาล็อตดูเหมือนจะไม่พอใจเท่าไหร่
         “หมายความว่า จะไม่สามารถหางานอื่นทำได้แล้ว และจะต้องเผชิญกับอันตรายอื่นๆนับไม่ถ้วนอีกด้วย"
         "งั้นเธอก็น่าจะรู้ว่ามันเสี่ยงขนาดไหน ถ้าเจอกับเรื่องร้ายๆขึ้นมาละก็จะทำยังไง—"
         ที่พูดไปไม่ใช่เพราะเป็นห่วงเรน แต่เป็นห่วงชิกุเระที่ต้องมารู้เรื่องนี้แล้วต้องมาเสียใจกับเรื่องนี้เท่านั้น
         "ถ้าฉันต้องมาตายด้วยเหตุการณ์แบบนั้นละก็ป่านนี้ฉันคงตายไปหลายครั้งแล้วล่ะ"
         ที่ผ่านมาเขาเจอเรื่องร้ายๆมามากมาย ไม่สิต้องเรียกว่าสถานการณ์เสี่ยงมากกว่า
         ตอนที่เขาตามหาผู้ที่เหมาะสมกับตัวหมาก เขาก็ต้องรับมือปัญหาจากเหล่าเด็กที่มีปัญหามามากมาย
         แต่สำหรับเขาแล้วมันก็เป็นความทรงจำดีๆ ในการพบกันครั้งแรกกับพวกเขา
         "ง้า~น พาผมไปที่กิลด์ตอนนี้เลยละกัน เพราะตอนนี้ผมก็ไม่มีธุระสำคัญหรอก"
         "ดะ เดี่ยวสิค่ะคุณเรน"
         รินพยายามห้ามไว้แต่ก็ไม่ได้ผล
         เพราะจากสายตาของเรนในตอนนี้ เหมือนกันกับตอนที่เจอชิกุเระครั้งแรกเลย
         แววตาที่สดใส แต่ข้างในกลับอ้างว้าง ต้องการที่จะได้รับอิสระ
         อิสระของเขาอาจจะเป็นการที่ได้เจอกับเรื่องสนุกๆและเหตุการณ์ที่อันตรายชวนเร้าใจ
         เพราะฉะนั้นต่อให้ห้ามเขาไป เขาก็ไม่ฟังอยู่ดี
         "พี่ค่ะ เราก็เข้าไปด้วยเถอะค่ะ"
         “นี่เธอ..."
         “หนูว่าก็น่าสนุกอยู่นะ อีกอย่างงานที่กิลด์ก็มีงานที่มีความปลอดภัยอยู่เยอะนะค่ะ แบบนี้เราก็จะได้มีงานทำด้วยนะค่ะ"
         "ช่วยไม่ได้...เป็นไงเป็นกันละน่ะ"
    *
         "เพียงแค่นี้ก็เสร็จแล้วใช่ไหม..."
         “อือ..."
         การเข้ากิลด์เป็นอะไรที่ง่ายขนาดนี้เลยหรอ?
         ไม่ อาจจะเป็นกรณีพิเศษก็ได้ เพราะเธอเองก็บอกด้วยว่าเป็นผู้ดูแลกิลด์อาจจะมีสิทธิพิเศษในการให้คนเข้ามาอย่างง่ายดายก็ได้
         แอนนาเบลยื่นบัตรประจำตัวกิลด์ให้ทั้งสามคน
         "บัตรประจำตัวกิลด์...สามารถใช้ยื่นรับภารกิจได้นะ...แต่ถ้าทำหายละก็...จะยุ่งยากในภายหลังนะ..."
         "อะ อื้อ ขอบใจนะที่เตือน อ๊ะ! จะว่าไปกิลด์นี้มีระดับขั้นรึเปล่าละ"
         "ค่ะ จะว่ามีก็มีอยู่นะค่ะ เพื่อป้องกันให้กับมือสมัครเล่นเข้าไปทำภารกิจอันตรายจึงมีการแบ่งระดับตั้งแต่A—Z นะค่ะ"
         "ยะ ยี่สิบหกระดับเลยงั้นหรอ แล้วระดับของฉันล่ะ อยู่ที่เท่าไหรละ"
         "ระดับA โหล่สุดเลยล่ะ"
         ก็นะ เป็นธรรมดาที่เด็กใหม่ที่เพิ่งเข้ามาจะอยู่ในระดับต่ำๆ ละน่ะ
         วิธีการที่เห็นในทั่วไปก็คือสร้างผลงานเพื่อได้รับคะแนนไปอยู่ในระดับสูงๆ
         ยิ่งอยู่ในระดับสูงมากเท่าไหร่ก็จะสามารถรับภารกิจที่ยากขึ้นได้ และเป็นภารกิจที่มีความเสี่ยงสูงมากเท่าไหร่ ก็จะได้รับคะแนนที่สูงขึ้นด้วย
         "แล้ว—มีวิธีลัดในการเลื่อนขั้นรึเปล่าล่ะ"
         "จะว่ามี ก็มีอยู่นะ ถ้าคุณต่อสู้ชนะคนอื่นๆในกิลด์ได้ก็จะได้รับคะแนนทั้งหมดจากสมาชิกคนนั้นได้ค่ะ แต่ต้องเป็นการต่อสู้ที่ทั้งสองฝ่ายยินยอมนะค่ะ"
         พูดง่ายๆฝ่ายที่แพ้จะกลับไปอยู่ที่ระดับA เหมือนเดิม
         "งั้นในกิลด์ตอนนี้มีคนที่อยู่ในระดับสูงกี่คนละ"
         ตอนนี้รอยยิ้มที่มีเลศนัยของเรนในตอนนี้ แสดงว่าวางแผนพิเรนๆไว้แน่ๆ
         "ถ้าเป็นเมื่อก่อน...ก็มีอยู่ค่อนข้างเยอะละค่ะ...แต่พอหัวหน้ากิลด์คนก่อน...ได้ตายไป...ทำให้กิลด์Kid Cat...ของพวกเรา...ในตอนนี้ไม่มีผู้นำละค่ะ...ทำให้คนอื่นๆ...ย้ายไปที่กิลด์อื่นแล้วละค่ะ...ถ้าจะมี ก็มีระดับZ อยู่สี่คนค่ะ...แต่ละคนต่างก็ไปทำภารกิจที่ต้องใช้เวลานะค่ะ...ส่วนทุกคนที่อยู่ในตอนนี้ก็มีแต่...พวกระดับA ถึงM ละค่ะ"
         พอไม่มีคนให้ชี้นำ ทุกคนต่างเดินไปตามทางของตัวเอง ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้คล้ายกับเรนเหลือเกิน
         แต่แบบนี้สำหรับเขาก็ง่ายขึ้นหน่อย
         ตอนนี้มีแค่คนที่อยู่ในสิบสามระดับท้ายๆ แถมตอนนี้คนที่อยู่ในระดับสูงสุดทั้งสี่คนก็ไม่อยู่
         "เหมาะแก่การอาละวาดจริงๆ..."
         รอยยิ้มกับดวงตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเจ้าเล่ห์นั้น
         "ทำการผนึกพลังแห่งราชา"
         แสงออร่าสีขาวปกคลุมไปทั่วร่าง จากเด็กหนุ่มกลับไปเป็นเด็กชายอีกครั้ง
         แสงออร่านั้นค่อยๆออกจากร่างของเด็กชายแล้วรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ’ตัวหมากแห่งราชา คิง'
         “คุณเรนกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว"
         แต่เขากลับมองด้วยสายตาที่เย็นชา ผิดกลับเมื่อสักครู่
         แต่การกระทำของเขาในครั้งนี้ใช่ว่าจะไม่มีความหมาย
         หันเหความสนใจมาที่เรา สำเร็จ
         "อะไรกัน นึกว่ากิลด์นี้จะมีแต่พวกที่แข็งแกร่งซะอีก มีแต่พวกอ่อนทั้งนั้น แบบนี้ฉันว่ากิลด์นี้อยู่ได้อีกไม่กี่เดือนหรอก"
         คำพูดที่พูดออกมาจากปากคนที่เย็นชาทำให้ดูเป็นการดูถูกที่ร้ายแรง และแน่นอนใครจะไปทนได้กันล่ะ
         “เจ้าหนู พูดอะไรหัดดูสถานะของตัวเองก็ดีนะ"
         ชายเผ่ามนุษย์ครึ่งสัตว์สายพันธุ์กอริลลา เข้ามาจับหัวเรนและขยี้อย่างแรง
         สายตาเปี่ยมไปด้วยความอาฆาตของเรนจ้องไปที่เขา ทำให้เขาอึ้งไปชั่วครู่แต่เวลาเพียงแค่นั้นก็เพียงพอแล้ว
     
         “งั้นก็ช่วยแสดงให้ฉันดูหน่อยสิ"

         "อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก"

         เรนใช้เวลาเพียงแค่พริบตาเหวี่ยงหมัดใส่กอริลลานั่น จนหัวเสียบไปกับเพดาน
         —ไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรอีกแล้ว
         ถ้าไม่พูดอะไรก็ไม่มีอะไรเตือนสติพวกเขาได้หรอก ตอนนี้สมาชิกกิลด์ทั้งหมดได้หันอาวุธใส่ราชาแล้ว
         การที่ไม่เตือนสติพวกเขา พวกเขาก็ไม่คิดที่จะตระหนักถึงความต่างของพลัง
         "แบบนี้นี่เอง...”
         "มีอะไรงั้นหรอแอนนาเบลจัง"
         "คุณเรนนะ จงใจ...ยั่วยุให้อีกฝ่ายหันอาวุธใส่...เพื่อจะได้เริ่มการต่อสู้ไงละค่ะ"
         "แล้วจะทำแบบนั้นไปเพื่ออะไรละค่ะ"
         "ริน ถ้าทำแบบนี้ละก็จะทำให้เรนคุงใช้วิธีลัดได้ไงล่ะ"
         เหล่าเอลฟ์ต่างก็ใช้เวทมนตร์ยิงใส่เรน แต่มันช้ายิ่งกว่ากระสุนไรเฟิลซะอีก ทำให้เขาหลบได้อย่างง่ายดายแล้วคนที่อยู่ข้างหลังก็โดนลูกหลงไป ส่วนพวกมนุษย์ครึ่งสัตว์ก็ใช้พลังที่เพิ่มศักยภาพทางร่างกายโจมตีเรนแต่ก็แพ้พลังหมัดที่เสริมด้วยพลังแห่งราชา'KING'
         คนที่โดนอัดต่างก็กระเด็นไปคนละทิศละทาง
         แต่ทั้งหมดที่เริ่มมาก็แค่การป้องกันตัวของเรนเท่านั่น ตอนนี้เป็นเรนที่เป็นฝ่ายบุกบ้าง
         เขาพุ่งตัวเหวี่ยงหมัดใส่คนที่ตัวใหญ่ที่สุดแล้วจับขาเอาไว้แล้วยกขึ้นมา
         “เฮ้ๆ อย่าบอกนะว่า—"
         อย่างที่ชาล็อตกำลังคิดอยู่ เรนใช้ร่างใหญ่เหวี่ยงใส่คนที่ล้อมตัว
         สุดท้ายเขาก็เหวี่ยงร่างใหญ่นั่นออกไปทางประตูหน้า
         มีคนที่คิดจะใช้ดาบฟันเข้าหาเรนแต่เขาก็หลบพ้นและหักดาบได้อย่างง่ายดาย และไปแย่งค้อนยักษ์จากมนุษย์ครึ่งสัตว์ตัวหนึ่ง ค้อนที่ใช้แรงในการเหวี่ยงดังนั้นจึงเหมาะกับเรนที่สุด
         แรงเหวี่ยงมหาศาลทำให้ค้อนไปหาผู้เคราะห์ร้ายอย่างไม่ทันตั้งตัว
         "เฮ้! แม่สาวน้อย จงเป็นตัวประกันให้พวกเราซะโดยดีเสียเถอะ"
         ชายกิ้งก่าโรคจิตกับมีดที่กำลังเลียอยู่ กำลังเข้าโจมตีใส่ริน
         “อย่ามาแตะต้องตัวน้องสาวฉันนะ!!!"
         ชาล็อตใช้เวทมนตร์เพิ่มพลังหมัดของตัวเอง แล้วเหวี่ยงหมัดใส่กิ้งก่าโรคจิต ส่วนรินก็ซ้ำเติมโดยใช้เวทน้ำแข็งใส่แต่ก็เฉียดผิวหนังไปเพี่ยงแค่มิลเดียว
         แผนการที่ใช้พวกรินเป็นตัวประกัน เพื่อให้เรนหยุดอาละวาดดูเหมือนจะไม่สำเร็จ
         แต่พวกเอลฟ์ต่างก็ใช้เวทมนตร์รักษาพวกที่บาดเจ็บให้หายขาดทำให้กลับมาสู้ได้อีกครั้ง
         การกระทำซ้ำไปซ้ำมาของพวกนี้ทำให้รู้ว่าพวกนี้มีเป้าหมายเดียวกันถึงแม้จะไม่คุยกันก็ตาม
         —การทำให้เรนหมดแรงแล้วโจมตีทีเดียว
         ไม่นึกเลยว่าเจ้าพวกนี้จะสามัคคีถูกที่ถูกเวลากันจริงๆ
         งั้นทางที่ดีที่สุดจัดการกับพวกเอลฟ์ซะ
         เขาพุ่งตัวฝ่าฟูงมนุษย์ครึ่งสัตว์อย่างรวดเร็ว
         "เจ้านี่มันใช่มนุษย์แน่หรอฟระ"
         "อา ฉันนี่แหละมนุษย์ของแท้ แต่ไม่ใช่ของโลกนี้หรอกนะ"
         ร่างกายอันบอบบางของเอลฟ์ทำให้ถูกซัดจนกระเด็นไปง่ายดาย
         แต่ค้อนที่ยังอยู่ที่มือ เขาเบื่อที่จะถือมันไว้แล้ว
         เรนเหวี่ยงค้อนไปทางที่มีคนมากที่สุดจะได้ประหยัดแรงไปด้วย
         พวกเอลฟ์ที่คอยสนับสนุนถูกเรนซัดไปจนหมดแล้ว แถมที่เหลืออยู่ก็มีแต่พวกที่อ่อนแอทั้งภายนอกและในทั้งนั้น
         เพราะฉะนั้นการวิวาทก็จบด้วยประการฉะนี้
         "พวกแกนะ อ่อนแออย่างที่ฉันพูดไม่มีผิด น่าผิดหวังชะมัด"
    อย่าลืมกดไลค์แฟนเพจMurakami
    เพื่อจะได้อัพเดตก่อนใครนะครับ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×