ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เมื่อ'ราชา'มาถึงต่างโลก

    ลำดับตอนที่ #5 : มาเริ่มเดินหมากกันเถอะ

    • อัปเดตล่าสุด 10 พ.ค. 61


    ผมขอบอกไว้ก่อน(มีคนโง่ถามมาในเฟส) ถ้าทุกคนสังเกต จะเห็นวงเล็บคำพูด บางอันสองนั้นคือมีสองคนพูดพร้อมกัน ส่วนสี่อันนั้นก็คือทุกคนในงานหรือสถานที่ต่างๆพูดพร้อมกัน งั้นการบ้าน คนที่พูดพร้อมกับเรนในตอนสุดท้ายเป็นใครกัน

         เช้าวันใหม่ที่สดใส
         นกน้อยร้องจิบๆในยามเช้า เสียงใบไม้กระทบกันดังซ่า บรรยากาศเช่นนี้ทำให้หลายคนอยากจะนอนต่อ
         หลังจากที่ทุกคนดื่มหนักไปเมื่อคืน แถมฟังเรื่องจากเรนจนดึกก็ต้องงีบต่อ...
         วันนี้ดูเหมือนจะเป็นวันอาทิตย์ โลกนี้เดิมทีเวลาก็ช้าจากโลกเดิมไปมาก ถ้าเป็นที่ญี่ปุ่นในตอนนี้คงเป็นวันอาทิตย์ตอนกลางคืนแล้ว
         เรนได้เล่นบาสกับเมทติ้งเช็คจนดึก หลังจากนั้นก็ต้องมาเจอกับการประหาร ได้เจอกับครอบครัวทั้งสองคน ล่าสุดดื่มหนักไปมากกว่าใครๆ และยังต้องเล่าเรื่องของตัวเองให้ฟังอีก เขาได้ใช้ร่างกายไปประมาณเกือบ20ชั่วโมงแล้วถ้าไม่นับตอนที่หมดสติที่ห้องพยาบาลไปไม่กี่นาที
         เพราะฉะนั้นคนที่สมควรนอนมากที่สุดก็คือเขา
         แต่ว่าวันนี้เขาต้องออกเดินทางไปจากที่นี้แล้ว
         "อุ่นดีจัง..."
         แต่คำถาม เขานอนที่ไหนกันละ
         "นุ่มดีจัง..."
         "บะ บอส!"
         คำตอบก็คือห้องของชิกุเระในหอพักไงล่ะ
         งั้นคำถามต่อไปทั้งสองคนนอนในสภาพไหนกันละ
         "บอส...ตะ ตรงนั้นมัน—!"
         ถึงแม้จะมีอายุสิบแปดปี แต่ร่างกายก็เป็นเด็ก ถึงแม้ภายนอกจะทำตัวเยือกเย็นแค่ไหนแต่คนเรา จะเปิดเผยนิสัยมากที่สุดก็คือตอนนอนนี่แหละ
         คำตอบก็คือเขานอนในสภาพที่กอดหมอนข้างอยู่
         และคนที่รับเคราะห์ต้องมาเป็นหมอนข้างนั้นก็ไม่ใช่ใครอื่น ชิกุเระนั้นเอง
         การนอนดิ้นในสภาพกอดหมอนข้าง ลูบไล้ไปทั้งตัว ตั้งแต่ที่เขามาที่นี้เขาก็จับหน้าอกของชิกุเระไปตั้งสองครั้งแล้ว แต่ดูเหมือนแค่นี้จะยังไม่ชินสำหรับเธอเลย
         สัมผัสที่นุ่มนวลของร่างกายชิกุเระที่ตัวเล็กกว่าเด็กวัยเดียวกัน
         "เนียนนุ่มเหลือเกิน~"
         เรนที่ปล่อยนิสัยออกมาตอนนอนถึงจะน่ารักก็เถอะ แต่แบบนี้ก็ออกจะเกินไปหน่อย แต่ก็จะปลุกเขามาก็ไม่ได้
         เอาไงดีละทีนี้ จะรอดออกมาได้ละ
         "ชิกุเระ..."
         "ค่ะ? อ้าวละเมอเองหรอค่ะ"
         ขนาดละเมอยังเรียกชื่อเราด้วย บอสน่ารักที่สุดเลย ขอกอดทีเถอะ!
         กรอบ—!
         เอ๊ะ เสียงอะไร—
         "กระดูก ช้านนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน"
         " อะไร เกิดอะไรขึ้น ชิกุเระจัง"
         ลิลลี่ผู้นอนอยู่เตียงบนก็ยื่นหัวโผล่เข้ามา
         "แล้วสภาพนี้มันอะไรกันค่ะ?"
         เธอหรี่ตาลงครึ่งหนึ่งมองดูทั้งสองคนในสภาพที่นอนกอดกันราวกับคู่รักข้าวใหม่ปลามัน แต่เรนนั้นได้หมดสติพร้อมกับความเจ็บปวดไปแล้ว
         "คือว่าเรื่องมันมีที่มาที่ไปนะ"
         "อ่อ งั้นหรอค่ะ งั้นก็ช่วยเล่าอย่างละเอียดเลยนะค่ะ"

         "โอ๊ย...ทำไมรู้สึกเจ็บที่คอละเนี่ย...ชิกุเระเมื่อคืนฉันนอนตกเตียงหรอ"
         "ปะ ประมาณนั้นค่ะ... แฮะๆ"
         "หือ? เป็นไรไปชิกุเระ ทำไมหน้าซีดเชียว"
         "ปะ ป่าวค่ะ"
         เธอพยายามหลบสายตาจากเรน
         มีพิรุธชัดแจ่มแจ้งขนาดนี้ยังบอกว่าไม่มีอะไรอีกหรอ
         แต่เขาก็ทำเป็นไม่สนใจชิกุเระ แล้วก็เงียบไป
         นี่มันเงียบเกินไปแล้ว ทุกคนบ่นในใจ
         "แล้วท่านเรนจะกลับตอนนี้เลยหรอค่ะ จะอยู่ที่นี้ต่อก็ได้นะ ตลอดไปยิ่งดี"
         “นานามิ ฉันเคยบอกเหตุผลที่ฉันมาที่นี้แล้วไม่ใช่หรอ"
         —ฉันจะต้องไปหาทุกคน
         "เข้าใจแล้วค่ะ"
         หูเอลฟ์ของเธอตกผล็อย ทำท่าบ่นพึมพำอยู่คนเดียว ดูเหมือนว่าเธอไม่อยากให้เขาไปจากที่นี้เลย
         เรนที่มองอาการนานามิออก จึงพูดเสริมไปว่า
         "นานามิ...ชิกุเระ...ฉันนะอยากจะนอนกลางวันและมองท้องฟ้ากับพวกเธออีกครั้งนะ"
         "....."
         "....."
         ความทรงจำที่ทำร่วมกันมามากกว่าสามปี ถ้าไม่ใช่ผลของเวทมนตร์เขาก็มิอาจลืมมันได้ เพราะทุกคนคือ
         "ครอบครัวของฉัน กำลังรอฉันอยู่ หลังจากนั้นพวกเรามาเป็นส่วนหนึ่ง'เชสแฟมิลี่'อีกครั้งนะ"
         รอยยิ้มที่นานๆทีที่จะได้เห็นของเรน สำหรับทั้งสองคนมันคือแสงสว่างที่พวกเธออยากเห็นมากที่สุด
         พอเห็นแบบนั้นทุกคนก็อดยิ้มไม่ได้
         "ท่านเรน ช่วยสัญญากับฉันอย่างหนึ่งได้มั้ยค่ะ"
         "สัญญา?"
         "หลังจากนี้ ไม่ว่าคุณจะต้องเจอกับอะไร ต้องเศร้าขนาดไหน แต่ก็ช่วยยิ้มและอย่าร้องไห้ต่อหน้าพวกเราได้รึเปล่าค่ะ?"
         เรนเอียงคอสงสัย แต่เมื่อได้ยินเธอพูดซ้ำว่าได้รึเปล่าค่ะ
         "อะ อืม"
         แม้กระทั่งเขาเองก็ไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริงของสัญญานี้ แต่มีแค่เธอสองคนนั้นที่รู้ความหมายเป็นอย่างดี แต่เขาก็ไม่กล้าถามตรงๆเพราะอาจจะสูญเสียความน่าเชื่อถือไปก็ได้
         "งั้น...ตาชั้นบ้างละน่ะ"
         เขาเดินไปหาลิลลี่และอลิซ
         "อลิซจากนี้ไปก็ช่วยดูแลนานามิอย่าละสายตาละ ยัยนี้นะถึงจะเป็นคนที่พึ่งพาได้ แต่ก็ชอบทำอะไรบ้าบิ่นอยู่เรื่อยเลย ถ้าไม่มีคนช่วยดูแลก็ไม่ไหวเหมือนกัน"
         "ท่านเรนอย่าพูดเรื่องสมัยก่อนสิค่ะ"
         “ส่วนลิลลี่ ต่อจากนี้ไปฝากดูแลชิกุเระด้วยนะ ถึงยัยนี้จะชอบทำตัวเข้มแข็ง แต่ก็เป็นคนอ่อนไหวง่ายเหมือนกัน เพราะฉะนั้นถ้าเกิดละสายตาขึ้นมายัยนี้จะไปร้องไห้ที่ไหนก็ไม่มีใครรู้เหมือนกัน"
         เขาวางมือไว้บนหัวชิกุเระแสดงความห่วงใยราวกับพี่ห่วงน้อง ส่วนชิกุเระก็ทำท่าแก้มป่องไม่พอใจเหมือนกัน ที่เขาบอกเรื่องของตัวเองแบบนี้
         ทั้งสองคนพยักหน้ารับปาก ถึงแม้จะรู้จักไม่ถึงวัน แต่ถ้าเป็นการสัญญาให้ดูคนสำคัญของตัวเองแล้วละก็ต่อให้เป็นใครก็พร้อมรับปากอยู่แล้ว
         "คุณเรนค่ะ พร้อมแล้วค่ะ"
         “ขอบคุณนะ คุณปัญญาอ่อน"
         "ฉันไม่ได้ชื่อปัญญาอ่อนนะค่ะ! ฉันมีชื่อว่ารินค่ะ! และช่วยลืมเรื่องเมื่อวานไปด้วยเถอะค่ะ!"
         “คงจะไม่ได้นะ พอดีฉันเป็นคนความจำแม่นนะ กว่าจะลืมได้คงอีกสักแปดสิบปีนะ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า"
         เป็นครอบครัวเด็กมีปัญหาสินะค่ะเนี่ย ทุกคนบ่นในใจ
         ถ้าจะให้พูดก็ถูก ทั้งเรน ชิกุเระ นานามิ ต่างก็เป็นเด็กมีปัญหาในแบบที่ต่างกัน แต่ก็มีสิ่งที่เหมือนกันก็คือ ความเก่งกาจ ของแต่ละคน นั่นเป็นสิ่งที่ทุกคนยอมรับในตัวพวกเขาจากก้นบึ้งของจิตใจ
         สักวันพวกเขา'เชสแฟมิลี่'อาจจะเป็นเสาที่ช่วยค้ำจุนโลกนี้ก็ได้ ตามความปราถนาของเรน ที่จะเป็นราชาของโลกนี้
         "ชิกุเระ"
         "ค่ะ—"
         จุ๊บ—
         —.....
         "ถึงแม้จะเป็นระยะเวลาสั้น แต่ฉันดีใจนะที่ได้เจอกับพวกเธออีกครั้ง"
         "คะ ค่ะแต่ว่านะจะเป็นริมฝีปากมากกว่าหน้าผากแท้ๆ"
         "เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะ"
         “มะ ไม่มีอะไรค่ะ!!"
         "แน่นะ"
         “แน่นอนสิค่ะ!"
         “ท่านเรนสองมาตรฐาน! ทำไมถึงจุ๊บเหม่งแต่ชิกุเระ ไม่ทำกับดิฉันมั้งละค่ะ ยิ่งถ้าเป็นริมฝีปากละก็ ดิฉันจะยินดียิ่งเลยค่ะ!!!"
         “นานามิ เธอนะมีลูกแล้วนะ"
         ทุกคนต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย
         "และเธอเองก็อยู่ในฐานะราชินีด้วย ควรสำนึกภาพลักษณ์ของตัวเองบ้างนะ"
         "เข้าใจแล้วค่~า"
         "ไปก่อนนะทุกคน แล้วเจอกันใหม่"
         "เดี่ยวสิท่านเรน"
         เธอหยิบสมาร์ทโฟนออกมาจากกระเป๋าเสื้อแล้วขอแท็บเล็ทPC จากเรน ทำการถ่ายข้อมูล
         "เสร็จแล้วค่ะ เมื่อเรามาถึงโลกนี้แผนที่ในเครื่องจะกลายเป็นแผนที่ของโลกนี้ ดิฉันส่งโลเคชั่นของแต่ละคนแล้วนะค่ะ"
         "หืม~พึ่งรู้นะเนี่ย มีประโยชน์เหมือนกันนิ"
         ถ้าจะให้ทุกคนเดาคงเป็นฝีมือของภูติที่ว่าเมทติ้งเช็ค คนที่สามารถทำแบบนี้ได้ตอนนี้มีเพียงแค่เธอเท่านั้น
         “มีเพียงแค่ห้าคนเท่านั้นหรอ "
         “ค่ะ ส่วนอีกสองคนที่เหลือ พวกเราไม่ทราบเหมือนกันค่ะ ว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน"
         "ช่างเถอะ ถ้าเป็นชิโระกับอาคาเนะละก็คงไม่ได้เป็นอะไรอยู่แล้ว สองคนนั้นเก่งจะตาย"
         "เอาละ ได้เวลาอำลาจริงๆจังๆกันแล้ว แล้วเจอกันใหม่นะค่ะท่าเรน"
         "อืม แล้วเจอกันใหม่นะ ทุกคน"
         " " " "ลาก่อนนะ เรนคุง" " " "
         ทุกคนต่างแยกย้ายกันกลับหอพักหลังจากอำลาเสร็จ เหลือเพียงแค่ชิกุเระกับนานามิ
         "นานามิ ทำไมไม่บอกเรื่องที่อาคาเนะจังนะ—"
         “เรื่องนั้นมันขึ้นอยู่กับเวลาว่าเขาสมควรรู้ตอนไหน ตอนนี้เขาควรโฟกัสกับเรื่องเดียวเท่านั้น ถ้าเกิดบอกเรื่องนี้กับเขาไปละก็ เขาจะ กลายเป็นราชาที่อ่อนแอที่สุด เธอนะน่าจะรู้เรื่องนี้ดีกว่าฉันไม่ใช่หรอ"
         "....."
         "ทำไมถึงเงียบไปละ"
         "ฉันก็แค่ไม่อยากเห็นบอสเป็นเหมือนตอนนั้น"
         "เพราะงั้นไง ฉันถึงได้ให้ท่านเรนสัญญาแบบนั้น ไม่ว่าใครก็ไม่อยากให้ท่านเรนเป็นแบบนั้นหรอกน่า"
         "อืม..."
         "เขานะภายนอกถึงจะเย็นชา แต่ถ้าเป็นเรื่องของพวกเราละก็เขาก็จะปลดปล่อยความรู้สึกออกมาตลอด ทั้งที่พวกเราสัญญากันแล้วว่าจะไม่ให้เขาต้องเป็นแบบนั้นอีกเป็นครั้งที่สอง แต่ยัยอาคาเนะดันกลับ—"
         “เรื่องนั้นมันก็ช่วยไม่ได้ เธอเป็นคนตัดสินใจเองไม่ว่าใครก็ห้ามเธอไม่ได้"
         ตอนนี้คงทำได้เพียงแค่ภาวนาให้เรนมีจิตใจที่เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น

         รถม้าธรรมดาวิ่งแล่นตามทางถนน เฮดโฟนช่วยปล่อยเสียงเพลงดังในหูของเรนทำให้เรนไม่รู้สึกรำคาญกับเสียงรถม้า
    เขาเช็คโลเคชั่นของแต่ละคนที่นานามิส่งมา จะบอกว่าโชคดีหรือเปล่าที่ที่อยู่ของแต่ละคนห่างไกลจากเมืองต่อไปที่เขาจะตั้งเป็นที่อยู่อาศัยไม่มากนัก
         "คุณเรนค่ะ ใกล้ถึงเมืองแล้วละค่ะ"
         "เอ๊ะ ไวชะมัด แล้วเมืองนั่นชื่ออะไรละ"
         "เมืองเรนีค่ะ เป็นหนึ่งในเมืองของอาณาจักรเคอิสเรนค่ะ"
         อาณาจักรเคอิสเรนงั้นหรอ โลเคชั่นของยูโตะบอกว่าอยู่ที่อาณาจักรนี้ด้วยนิ สมกับเป็นนานามิวางแผนได้เฉียบแหลมจริงๆ
         "อ๊ะ รินจังช่วยหยุดตรงนี้แหละฉันจะของีบหลับตรงใต้ต้นไม้สักหน่อย เธอไปก่อนได้เลย"
         "รับทราบ เอ๊ะ—เมื่อกี้คุณเรียกชื่อฉันหรอค่ะ"
         “แล้วแปลกตรงไหนมิทราบ"
         "ปะ เปล่าค่ะ"
         แล้วเขาก็กระโดดลงจากรถม้าไปโดยปล่อยให้รถม้าของรินวิ่งต่อ
         หลังจากนั้นเขาก็ค่อยๆมองหาต้นไม้ใหญ่ๆที่พอปังแดดได้
         "อ๊ะ เจอแล้วๆ"
         ถึงบอกว่าจะงีบหลับ แต่ก็ทำเพียงแค่นอนเล่นเท่านั้นแหละ ถ้าอยู่บนรถม้ามันจะไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่
         "ว่าแต่เบื่อชะมัดเลย"
         ไม่นึกเลยว่าจะผ่านมารวดเร็วขนาดนี้ เขาสามารถมาที่โลกนี้ได้ด้วยความช่วยเหลือของเมทติ้งเช็ค และได้เจอกับครอบครัวทั้งสองคน และงานปาตี้ที่ไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย แต่ถ้าจะให้สมเหตุสมผลจริงๆ มันก็คืองานปาตี้ที่ทุกคนได้ปิดเทอมฤดูใบไม้ผลิ เรนก็แค่มาเป็นผู้ร่วมงานเท่านั้น
         เรนนอนมองท้องฟ้าผ่านหมากรุกแก้วใส โยนมันเล่นไปพลางฟังเพลงไปพลาง
         ยุคสมัยของโลกนี้มันต่างจากยุคสมัยของโลกที่เขาเคยอยู่ราวกับฟ้ากับเหว

         โลกที่เขาเคยอยู่เป็นโลกที่น่าเบื่อ ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีจะก้าวหน้าไปมากแค่ไหนก็ตาม แต่โลกนี้เป็นโลกที่มีโลกเวทมนตร์ แน่นอนว่าจะมีคนเก่งๆอยู่แน่ๆ มันจะทำให้เรนสนุกได้อย่างแน่นอน
         “เอาล่ะ ฮึบ ได้เวลาเดินทางต่อแล้วสิ"
         เขาจับไปที่จี้ห้อยคอตัวหมากคิงที่ทำจากแก้วใส
         “ทำการปลดผนึกพลังแห่งราชา"
         ———————กริ๊ก
         พลังแห่งราชาของเขาได้ตื่นเต็มตัว
         จากเด็กชายกลายเป็นเด็กหนุ่มอย่างรวดเร็ว กล้ามเนื้อ ทรงผมและนัยน์ตา ได้เปลี่ยนแปลง กลายเป็นคนละคน
         "ไม่ได้ใช้ร่างนี้มานานแค่ไหนแล้วนะ"
         เสียงก็ห้าวขึ้น เป็นผลมาจากการเจริญเติบโตของเขา
         ได้เวลาที่ราชาจะเริ่มต้นการผจญภัยแล้ว
         " "เอาล่ะ มาเริ่มเดินหมากของพวกเรากันเถอะ" "
    จากผู้เขียน(อ่านหน่อยเถอะ)
         สวัสดีครับผมotoko เองถ้าอยากถามว่าทำไมมาเร็วกว่าปกติ(นิดนึง)ละก็ผมจะตอบให้
         ต่อจากนี้ผมจะไม่มีเวลาว่างอีกแล้ว
         คำถาม เพราะอะไรนะหรอ
         คำตอบ 19กุมภาผมต้องสอบ แล้วครูแกก็จัดการบ้านมาให้เพียบเพราะยังไม่ได้เก็บคะแนน และผมเองก็ต้องทำงานพิเศษเสาร์,อาทิตย์อีก
         อะ คำถามต่อไป"แล้วคุณมึงจะทำงานพิเศษทำไมครับ"
         คำตอบ จะเก็บเงินไปดูหนังครับ
         “เรื่องอะไร"
         No Game No Life:Zero
         "โธ่ ไอ้(ไปเติมเอาเอง) เขามาวันที่8กุมภา มึงก็ค่อยเก็บวันละ20บาทไปดูหนังวันพุธที่14ก็ได้ แถมเป็นวันวาเลนไทน์มึงก็พาแฟนไปดูด้วยก็ได้"
         ก็มันมีรอบฉายพิเศษ3-4 กุมภา ไม่อยากพลาดโอกาสแถมนัดเพื่อนเอาไว้แล้วด้วย
         "เอาที่คุณมึงจะสบายใจ แล้วคุณมึงสอบปลายภาคแล้วนิ ก็ทำตอนปิดเทอมก็ได้"
         ไม่ได้ครับ เพราะผมต้องทำงานพิเศษอีกอยู่ดี
         "เพื่อ!!!"
         ก็เก็บไว้ซื้อไลท์โนเวลของคนอื่นมาอ่านไงครับ เพื่อที่จะได้ปรับปรุงสำนวนใหม่
         "นี่คือคุณปรับเปลี่ยนแล้วหรอครับ"
         ก็นิดหนึ่ง
         “ผมว่าคุณไปซื้อเพื่อมาอ่านเองมากกว่าศึกษานะ"
         อ้าวรู้ด้วยหรอ

    อย่าลืมกดไลค์แฟนเพจMurakami
    เพื่อจะได้อัพเดตก่อนใครนะครับ^^



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×