เมื่อ'ราชา'มาถึงต่างโลก

ลำดับตอนที่ #12 : การฝึก

     —เมืองเรนี อาณาจักรเคอิสเรน

     พื้นที่ส่วนบุคคล ที่หัวหน้ากิลด์คนก่อนเป็นเจ้าของ ที่ถูกใช้เป็นพื้นที่ของกิลด์ไป ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเมือง

     และหลังอาคารของกิลด์ ที่เป็นสนามไว้ใช้ฝึกพลังเวท ปัจจุบันมีป้ายประกาศติดเอาไว้

บนแผ่นป้ายซึ่งติดล้อมรอบสนามก็ได้ถูกเขียนไว้อย่างเด่นชัดโดยใช้แค่คำเดียวรอบสนาม

     —ว่า 'danger' เหมือนกับตำรวจที่ป้องกันให้ประชาชนไม่ให้เข้าที่เกิดเหตุ

     และภายในสนามที่กลายเป็นพื้นที่อันตราย(ชั่วคราว)อยู่...

     อย่างไรก็ตาม เหตุผลที่สนามถูกระบุว่าเป็นพื้นที่อันตรายก็คือ

     "เฮ้ๆ เร่งสปีดให้เร็วกว่านี้หน่อย ชาล็อต!!"

     "รับทราบ!"

     หญิงสาวที่เข้าใจความหมาย พร้อมทั้งเร่งสปีดเท้าให้เร็วกว่าเดิม เพื่อเข้าหาเด็กชายที่หลบการโจมตีของเธอได้

     ฝ่ายแรกคือชาล็อต—หญิงสาวเอลฟ์ที่แต่งตัวยั่วยวนใจผู้ชายได้เป็นอย่างดี

     ส่วนฝ่ายหลังคือเรน—เด็กชายเผ่ามนุษย์คนเดียวในโลกนี้ ในเสื้อโค้ทสีดำ ผมสีขาวตาสีดำ

     ผู้บอกกับทุกคนว่าจะเป็นราชาของโลกนี้—เป็นคนที่พูดคำนี้โดยไม่อายใครทั้งนั้น 

     สาวน้อยเอลฟ์—ริน น้องสาวของชาล็อตจ้องมองพี่สาวของตัวเองที่กำลังไล่ตามเรนอย่างไม่ละเว้น

     "เอาล่ะ...! รินตาเธอแล้ว...!"

     "ค่ะ พี่...!"

     —ใช่แล้ว ตอนนี้สนามฝึกซ้อมกลายเป็นสนามรบไปแล้ว

     สิ่งที่ทั้งสองคนต้องทำในตอนนี้ก็คือ—การจับตัวเรนให้ได้

     ถึงเขาจะบอกว่านี่เป็นการซ้อมแบบพื้นฐานที่ง่ายที่สุด—แต่ก็ไม่มีทางจะจับเขาได้ง่ายอย่างที่เขาบอกเลย

     การเคลื่อนไหวของเขาไม่ใช่สิ่งที่เลียนแบบได้ง่ายเลย

     ถึงแม้รินจะโจมตีแบบคำนวณทิศทางที่เขาจะหลบหมัดของชาล็อตได้ แต่เขาก็หลบได้อยู่ดี—

     " [Ice floor] "

     เธอจึงตัดสินใจใช้เวทน้ำแข็ง ทำให้พื้นกลายเป็นน้ำแข็งหวังที่จะเรนเสียสมดุล

     "เหวอ...!—ซะเมื่อไหร่ล่ะ [Knife] "

     ไม่ง่ายอย่างที่คิดหรอก

     เรนใช้เวทธาตุดิน สร้างใบมีดโดยใช้เหล็กขึ้นมา

     สำหรับเขาแล้ว การเล่นสเกตน้ำแข็ง ที่ต้องใช้ความสมดุลของร่างกายก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรเลย

     —ซึ่งกลายเป็นสมรภูมิรบที่กลายเป็นจุดได้เปรียบของเรน

     "ถ้าจะเล่นแบบนี้ คิดให้ดีก่อนนะ~~"

     "งั้นเอานี่...ไปกินนะ"

     ชาล็อตใช้แรงอันมหาศาลที่เสริมด้วยเวทมนตร์ ยกภูเขาน้ำแข็งที่รินเป็นคนสร้างให้

     "ให้ตายสิ...น่าจะใช้เวทบินก่อนนะ"

     แทนที่จะชื่นชมในการร่วมมือของสองพี่ึน้อง แต่เขากลับมองขาของชาล็อตด้วยความเวทนาแล้วพูดออกมา

     —เพี้ยะ เพี้ยะ!

     "วะ เหวอ!!"

     ทำให้เกิดภาวะเสียสมดุลก่อนที่จะลื่นไปกับพื้น

     ส่วนภูเขาน้ำแข็งที่กำลังตกลงมาก็ถูกเรนทำลายโดยขว้างกระสุนน้ำแข็งยักษ์ใส่

     ถ้าใช้เวทบินตั้งแต่แรกก็สิ้นเรื่อง

     หลังจากต่อสู้กับบาฮามุทก็ผ่านมาสามอาทิตย์แล้ว 

     แต่ถ้าจะให้บอกว่าทำไมถึงพึ่งมาฝึกการซ้อมแบบพื้นฐานที่ง่ายที่สุดตอนนี้นะหรอ ก็คงต้องเล่าสถานการณ์เมื่อสามอาทิตย์ก่อน

     ในเวลาที่ผ่านมามีคนมากมายในกิลด์ขอให้เขาช่วยพาไปทำเควส

     —ซึ่งมันก็เป็นส่วนที่เขาต้องรับผิดชอบ เพราะเขาทำให้ทุกคนในกิลด์อยู่ในระดับA หมด

     ทำให้เขาต้องแบ่ง'กำไร'ที่เขาจัดการกับบาฮาบุทมาให้กับทุกคนกิลด์

     แต่ยังไงซะคนที่เหนื่อยที่สุดและได้’กำไร’มากที่สุดก็คือเรนอยู่ดี

     ไม่ใช่แค่คะแนนกับเงินที่เขาได้ แต่เขายังได้เห็นเวทมนตร์ของพวกเอลฟ์ ทำให้ตอนนี้เขาสามารถใช้เวทมนตร์ได้หลายอย่างประกอบด้วยคุณสมบัติของราชาที่สี่ที่เขาระบุไว้—

     —คุณสมบัติของธาตุเวทมนตร์ทั้งหมด

     ทำให้ไม่ว่าจะเป็นเวทธาตุไหนเขาก็สามารถเลียนแบบได้ทั้งหมด

     และ'กำไร'สุดท้ายที่เขาได้มาก็คือ ความเชื่อใจจากคนในกิลด์

     ในภารกิจทั้งหมดที่ผ่านมา เขาได้โชว์ฝีมือที่แท้จริง และใช้ความฉลาดช่วยวางแผนรับมือต่างๆนานา โดยที่ไม่ต้องเปลืองแรงอะไรมาก ทำให้ทุกคนยอมรับเรนในฐานะผู้แข็งแกร่ง

     แต่สิ่งที่เขาไม่ได้ทำในสามอาทิตย์ที่ผ่านมาก็คือการฝึกให้กับพวกรินในฐานะตัวหมาก

     เพราะที่ผ่านมาเขาไม่มีเวลาว่างสำหรับเรื่องนี้เลย

     แต่ตอนนี้ทุกคนในกิลด์ส่วนใหญ่กลับมาอยู่ในระดับM กันเกือบหมดแล้ว ส่วนเรนเองก็เลื่อนขั้นอยู่ระดับV ด้วย

     ภารกิจส่วนใหญ่ที่มีระดับA ถึงM ถูกคนในกิลด์แย่งกันไปหมดแล้ว ส่วนภารกิจระดับสูงอย่างระดับN ถึงV ถูกเรนเคลียร์ไปหมดแล้วในสามอาทิตย์ที่ผ่านมา

     สรุปก็คือเรนในตอนนี้อยู่ในสถานะว่างสุดๆ

     จึงเป็นโอกาสเหมาะในกานฝึกพวกริน

     ด้วยประสบการณ์ที่เขาฝึกให้กับพวกชิกุเระที่ผ่านมาทำให้เขาไม่ต้องคิดเมนูฝึกให้เสียเวลา

     —รุค หรือป้อมปราการ เป็นด่านแรกในการบุกโจมตีเมืองข้าศึก ดังนั้นรุคจำเป็นต้องมีสกิลในการป้องกันและโต้กลับ จึลเป็นตัวหมากที่เหมาะกับชาล็อตมากที่สุด

     พลังจากตัวรุคนั้นช่วยเสริมการโจมตีให้แรงขึ้น และเสริมด้านป้องกัน โดยขอแค่มีเสื้อผ็าบางๆ ก็สามารถทนทานเหมือนเกราะเหล็กได้แล้ว

     —บิชอป หรือนักบวช เป็นตัวหมากที่สำคัญที่ต้องความรู้ในทุกๆด้าน สำหรับโลกนี้ความรู้เป็นสิ่งสำคัญในการเข้าใในการร่ายเวท ยิ่งมีความรู้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งไม่จำเป็นต้องร่ายเวทมากเท่านั้น

ดังนั้นเมื่อคืนเรนจึงซื้อหนังสือสะสมการร่ายเวทน้ำ ไฟ ลม ตามคุณสมบัติของธาตุเวทมนตร์ของริน      และรอยช้ำที่ขอบตาของริน เป็นสิ่งบ่งชี้ได้เลยว่าเธอตั้งใจมากแค่ไหน

     "[ Whirlwind ]"

     ผลที่ได้จากการใช้บิชอปของรินในตอนนี้คือ การใช้เวทโดยไม่จำเป็นต้องร่ายเวท และทำให้ใช้เวทได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

     ใบมีดที่เกิดจากเวกเตอร์ความเร็วของลมพุ่งตรงมาหาที่เรนโดยตรง

     ถึงเขาจะหลบได้—แต่ปัญหาก็คือ มันไม่ได้มาแค่เล่มเดียว

     ใช้แค่ครั้งเดียวมาเป็นร้อยเล่ม จะเข้าใจเวทนี้มากเกินไปแล้ว

     ถ้าจะให้เทียบผลของการฝึกชิกุเระก็คงจะไม่ได้ เพราะโลกที่ใช้ฝึกมันต่างกันเกินไป

     โลกที่เขาเคยอยู่มีแค่ความรู้กับการใช้กำลังก็เท่านั้น

     ตอนที่ฝึกให้กับชิกุเระ 

     ในตอนที่เธอพึ่งเข้า’เชสแฟมิลี่'มาใหม่ๆ หรือสมัยเธอยังวัยเยาว์ เรนก็ให้เธออ่านหนังสือวิชาการตั้งแต่ระดับประถมถึงมัธยมตอนปลาย

     ผลที่ได้มาก็คือ ชิกุเระมีความรู้เทียบเท่าเรน หรือก็คือระดับอัจฉริยะ

     ถ้าจะให้เทียบกันจริงรินยังช้ากว่าชิกุเระอยู่ก้าวหนึ่ง

     ไม่สิอาจจะช้ากว่านี้หลายเท่าเลยก็ได้

     นานามิที่มาอยู่โลกนี้ก่อนชิกุเระสิบกว่าปี

     ถ้านานามิเป็นคนสอนให้กับชิกุเระละก็ ต่อให้เป็นประสบการณ์ที่ยาวนานแค่ไหน แต่ตราบใดคนสอนเป็นนานามิละก็ แค่ไม่กี่ชั่วโมงก็สอนหมดแล้ว ยิ่งเป็นนักเรียนอย่างชิกุเระละก็ สามารถเข้าใจทั้งหมดอย่างแน่นอน

     แต่ว่ายัยนั่น(นานามิ)เป็นคนบ๊องๆซะด้วย ไม่รู้ว่าคุณเธอจะคิดถึงเรื่องนี้รึเปล่าก็ไม่รู้

     แต่ว่ามันก็ไม่ใช่เวลาที่คิดถึงเรื่องนั้นแล้ว—

     กังวลมากเกินไปจนเสียสมาธิ จนเกือบหลบไม่ทัน

     "[ Whirlwind ]"

     เขาจึงต้องเลียนแบบเวทที่รินใช้อยู่ เพื่อต้านการโจมตีทั้งหมดของริน

     เพราะว่าเป็นการฝึกไล่จับทำให้เรนต้องเป็นฝ่ายรับอย่างเดียว

     แต่ชาล็อตก็ใช้จังหวะนี้เข้าโจมตีทางด้านหลัง—

     "กลยุทธ์เชิงรุก แบบนี้นะยัยนานามิเป็นคนสินะ...แต่เสียใจด้วยเพราะคนที่สอนยัยนั่นก็เป็นฉันเองล่ะ!"

     ไม่นึกเลยเขาจะกระโดดหลบ ทำให้ชาล็อตต้องรับมือกับใบมีดที่รินโจมตีเข้ามา

     "พี่ค่ะ!!!"

     "อะ เอ๊ะ~!"

     ไม่เป็นอะไรเลย...

     "ดูเหมือนจะใช้ได้แล้วสินะ"

     "เรนคุง นี่มัน..."

     "การตื่นขึ้นของรุคไงล่ะ แต่ก็แค่ห้าสิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้น เธอยังควบคุมไม่ดีพอ ถ้าสถานการณ์ คับขันอาจจะใช้เพื่อเอาตัวรอดได้ แต่สถานการณ์จำเป็นละก็ต้องลำบากแน่ๆ"

     ถ้าจะพูดถึงความนัยก็คือเธอต้องฝึกมากกว่านี้

     "เอาเถอะ ตอนนี้พวกเราไปหาอะไรลองท้องก่อนเถอะ พวกเธอน่าจะหิวแล้วล่ะ—"

     

          คร่อก——————

          ————.......

     "ขอถอนคำพูด ตอนนี้ฉันหิวสุดๆไปกินข้าวกันเถอะ!"

     " "อย่างนี้ก็ได้หรอคะ!!!" "

อย่าลืมกดไลค์แฟนเพจMurakami
เพื่อจะได้อัพเดตก่อนใครนะครับ^^