ลำดับตอนที่ #10
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : สัตว์เลี้ยงและสมาชิกใหม่(แก้ไข&รีรัน)
"...แฮ่ก...แฮ่ก..........เฮ้อ—ในที่สุดก็จบ"
เพราะใช้พลังมากเกินไปทำให้ร่างกายกลับมาเป็นเด็กอีกครั้ง
เรนนอนมองท้องฟ้าด้วยความอ่อนแรง
เขาซึ่งชินกับการเป็นเด็กไปแล้วก็ไม่ได้รู้สึกอะไร แต่...คนที่อยู่อีกด้านหนึ่งดูท่าจะลำบากมิใช่น้อย
เพราะถูกเรนทำลายพลังเวทไปมากทำให้ร่างกายไม่สามารถควบคุมได้จึงได้กลายเป็นเด็กมนุษย์ตัวเล็กๆ
แต่ที่เป็นปัญหามันไม่ใช่ตรงนั้น
“นี่เธอเป็นตัวเมียงั้นหรอเนี่ย..."
"......"
เธอนั่งกอดเข่านิ่งเงียบไม่พูดอะไรสักคำเลย
"เธอเองก็เบื่อสินะ"
เขาหลับตาลง นึกถึงตอนก่อนที่เขาจะมาที่นี้
—ไม่มีใครที่มีฝีมือมากกว่าหรือเท่ากันกับเขาเลย
"แต่ตอนนี้เธอนะสนุกมากเลยใช่ไหมล่ะ"
"เจ้านะ—เป็นใครกันแน่"
ไม่ใช่แค่ไม่ตอบ ยังจะถามกลับอีก
“ตอนนี้ในตัวเจ้านะ มีพลังเวทมากพอที่จะทำแบบนั้นอีกตั้งหลายครั้งนะ ต่อให้เป็นมนุษย์ก็เถอะก็ไม่น่าจะทำได้ขนาดนี้นะ"
"......"
"......"
"ไม่รู้สิ...เดิมทีฉันไม่เคยรู้อะไรเกี่ยวกับพลังของตัวเองเลย ไม่รู้ว่าฉันมีพลังนี้ได้ยังไง พลังนี้มีไว้ใช้ทำอะไรกันแน่ แล้วใช้ได้แค่ไหนกัน"
แถมเขาเองก็ยังไม่รู้เกี่ยวกับโลกนี้มากนัก
"ฉันนะก็แค่เป็นมนุษย์ที่มีกิเลสอันยิ่งใหญ่ที่อยากจะเป็นราชาของโลกนี้เท่านั้นแหละ"
“นี่เจ้า...หมายความว่าไง...นี่เจ้าคิดจะเป็นพระเจ้างั้นหรอ"
"ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก...ฉันก็แค่คิดว่ามันน่าสนุกดี...แถมอีกอย่างเดิมทีฉันไม่ได้เป็นคนคิดตั้งแต่แรกหรอกนะ"
—เดิมทีเป็นความคิดของเมทติ้งเช็ค ที่มอบเป้าหมายให้กับเรน
เรนมองท้องฟ้า แล้วยื่นมือขึ้นมาราวกับจะกำดวงอาทิตย์ที่อยู่ข้างหน้า
"อีกอย่างถ้าทำแบบนั้นพร้อมกับครอบครัวมันจะเป็นการสร้างคุณค่าให้กับชีวิตตัวเองด้วยน้า~"
ไม่รู้ว่าเพราะเขาเป็นเด็กโดยที่ใช้พลังมากเกินไปในตอนที่เขายังเป็นเด็กหนุ่มรึเปล่า รอยยิ้มของเขาเป็นรอยยิ้มที่ไร้เดียงสาเหมือนกับตอนที่เขาเป็นเด็กหนุ่มอยู่
เรนใช้แรงจากการพักฟื้นเดินไปหารินและชาล็อต
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะ’การเดินหมากของราชา’รึเปล่า บาดแผลตรงร่างกายของเขาได้หายไปราวกับไม่เคยมีอยู่เลย เหลือแค่เสื้อผ้าฉีกขาดไม่มากนัก
"แล้วเจ้าจะเอาไงกับสองคนนั้นกันละ"
"นั่นสิจะปล่อยไว้อย่างนี้ก็ได้นะ"
ถ้าปล่อยไว้แบบนี้ทั้งสองคนอาจจะตายได้
"นี่เจ้า!—"
"—แต่ถ้าฉันทำแบบนั้น...ชิกุเระ...จะต้องเสียใจแน่นอน...อีกอย่างฉันก็ติดหนี้ยัยพวกนี้ด้วย"
ชาล็อตทำให้เรนรู้วิธีการใช้เวทมนตร์เสริมพลัง
รินก็เสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเรนเอาไว้
เรนหยิบ'ตัวหมาก’มาจากกระเป๋ากางเกง
บิชอป กับ รุค
“นี่เจ้าคิดจะทำอะไร—"
เรนไม่ตอบแต่กลับนึกถึงตอนที่เจอกับชิกุเระครั้งแรก
สาวน้อยที่หนีออกจากบ้าน
เด็กสาวน้อยที่ไร้ที่พึ่ง ไม่มีพ่อหรือแม่คอยเลี้ยงดู เป็นเพราะอดข้าวมาหลายวันทำให้ร่างกายซูบผอมลงไปมาก
เด็กสาวที่คิดจะตายกลับพบเด็กชายคนหนึ่ง
เขาพูดสั้นๆแต่ทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนไปตลอดกาล
"มาอยู่ด้วยกันกับฉันไหมละ"
ที่ผ่านมาไม่มีใครคิดจะแบ่งปันอะไรให้กับเธอ แต่เด็กชายคนนี้ได้มอบรอยยิ้มเล็กๆให้กับเธอ
เขาได้มอบตัวหมากให้กับเธอ
—บิชอป
เมื่อเธอยื่นมือไปแตะตัวหมาก ก็มีบางอย่างเข้าปกคลุมตัวเธอแต่มันก็ทำให้เธอมีร่างกายแข็งแรงขึ้นราวกับความหิวโหยที่ผ่านมาเป็นเรื่องโกหก
"แล้วเธอมีชื่อว่าอะไร"
เด็กสาวคนนั้นไม่คิดจะตอบ ไม่สิไม่รู้ว่าจะตอบยังไงต่างหาก
"ไม่มีชื่อหรอกค่ะ..."
"งั้นเธอก็ใช้นามสกุลของฉันไปละกัน ส่วนชื่อก็...ชิกุเระ มุราคามิ ชิกุเระ ละกัน ต่อจากนี้เธอเป็นน้องสาวบุญธรรมของฉัน และยินดีต้อนรับสู่’เชสแฟมิลี่'นะชิกุเระ"
เด็กคนนั้นสรุปเอาเองไปหมดทุกอย่าง
แต่เด็กสาวก็ไม่ได้คิดอะไร
กลับกันเธอรู้สึกขอบคุณซะด้วยซ้ำที่เขามอบทั้งชื่อ ที่อยู่ใหม่ และชีวิตใหม่ให้กับเธอ
เขาใช้มือของรินกุมตัวหมากบิชอป ส่วนชาล็อตเขาก็ใช้มือของเธอกุมตัวหมากรุคเอาไว้
ลองเสี่ยงดู...
"ในนามของข้ามุราคามิ เรน ราชาแห่งหมากรุก ข้าขอกำหนดให้ริน และ ชาล็อตจงมาเป็นตัวหมากของข้า ไม่ว่าพวกเจ้าจะยินยอมหรือไม่ยินยอม นี่ก็เพื่อตัวพวกเจ้าเอง ขอย้ำอีกครั้งจงมาเป็นตัวหมากของข้าซะ...!!!"
พูดถูกรึเปล่าเนี่ย
แต่ก็ได้ผลแสงออร่าสีขาวปกคลุมร่างทั้งสองคน บาดแผลได้หายไป
สิ่งที่สองคนนั้นได้รับคือจี้ห้อยคอหมากรุก
"นี่เจ้า...ทำได้ยังไงกัน..."
"ก็บอกไปแล้วนิว่าฉันนะ...ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพลังของตัวเองเลย"
"เฮ้...เจ้าหนูเรน..."
"จู่ๆก็เรียกชื่อแบบนี้ มีอะไรอีกละ"
"ขะ ข้าน่ะอยากจะเป็นรับใช้ของเจ้า...ไม่สิ—"
เพราะใช้พลังมากเกินไปทำให้ร่างกายกลับมาเป็นเด็กอีกครั้ง
เรนนอนมองท้องฟ้าด้วยความอ่อนแรง
เขาซึ่งชินกับการเป็นเด็กไปแล้วก็ไม่ได้รู้สึกอะไร แต่...คนที่อยู่อีกด้านหนึ่งดูท่าจะลำบากมิใช่น้อย
เพราะถูกเรนทำลายพลังเวทไปมากทำให้ร่างกายไม่สามารถควบคุมได้จึงได้กลายเป็นเด็กมนุษย์ตัวเล็กๆ
แต่ที่เป็นปัญหามันไม่ใช่ตรงนั้น
“นี่เธอเป็นตัวเมียงั้นหรอเนี่ย..."
"......"
เธอนั่งกอดเข่านิ่งเงียบไม่พูดอะไรสักคำเลย
"เธอเองก็เบื่อสินะ"
เขาหลับตาลง นึกถึงตอนก่อนที่เขาจะมาที่นี้
—ไม่มีใครที่มีฝีมือมากกว่าหรือเท่ากันกับเขาเลย
"แต่ตอนนี้เธอนะสนุกมากเลยใช่ไหมล่ะ"
"เจ้านะ—เป็นใครกันแน่"
ไม่ใช่แค่ไม่ตอบ ยังจะถามกลับอีก
“ตอนนี้ในตัวเจ้านะ มีพลังเวทมากพอที่จะทำแบบนั้นอีกตั้งหลายครั้งนะ ต่อให้เป็นมนุษย์ก็เถอะก็ไม่น่าจะทำได้ขนาดนี้นะ"
"......"
"......"
"ไม่รู้สิ...เดิมทีฉันไม่เคยรู้อะไรเกี่ยวกับพลังของตัวเองเลย ไม่รู้ว่าฉันมีพลังนี้ได้ยังไง พลังนี้มีไว้ใช้ทำอะไรกันแน่ แล้วใช้ได้แค่ไหนกัน"
แถมเขาเองก็ยังไม่รู้เกี่ยวกับโลกนี้มากนัก
"ฉันนะก็แค่เป็นมนุษย์ที่มีกิเลสอันยิ่งใหญ่ที่อยากจะเป็นราชาของโลกนี้เท่านั้นแหละ"
“นี่เจ้า...หมายความว่าไง...นี่เจ้าคิดจะเป็นพระเจ้างั้นหรอ"
"ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก...ฉันก็แค่คิดว่ามันน่าสนุกดี...แถมอีกอย่างเดิมทีฉันไม่ได้เป็นคนคิดตั้งแต่แรกหรอกนะ"
—เดิมทีเป็นความคิดของเมทติ้งเช็ค ที่มอบเป้าหมายให้กับเรน
เรนมองท้องฟ้า แล้วยื่นมือขึ้นมาราวกับจะกำดวงอาทิตย์ที่อยู่ข้างหน้า
"อีกอย่างถ้าทำแบบนั้นพร้อมกับครอบครัวมันจะเป็นการสร้างคุณค่าให้กับชีวิตตัวเองด้วยน้า~"
ไม่รู้ว่าเพราะเขาเป็นเด็กโดยที่ใช้พลังมากเกินไปในตอนที่เขายังเป็นเด็กหนุ่มรึเปล่า รอยยิ้มของเขาเป็นรอยยิ้มที่ไร้เดียงสาเหมือนกับตอนที่เขาเป็นเด็กหนุ่มอยู่
เรนใช้แรงจากการพักฟื้นเดินไปหารินและชาล็อต
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะ’การเดินหมากของราชา’รึเปล่า บาดแผลตรงร่างกายของเขาได้หายไปราวกับไม่เคยมีอยู่เลย เหลือแค่เสื้อผ้าฉีกขาดไม่มากนัก
"แล้วเจ้าจะเอาไงกับสองคนนั้นกันละ"
"นั่นสิจะปล่อยไว้อย่างนี้ก็ได้นะ"
ถ้าปล่อยไว้แบบนี้ทั้งสองคนอาจจะตายได้
"นี่เจ้า!—"
"—แต่ถ้าฉันทำแบบนั้น...ชิกุเระ...จะต้องเสียใจแน่นอน...อีกอย่างฉันก็ติดหนี้ยัยพวกนี้ด้วย"
ชาล็อตทำให้เรนรู้วิธีการใช้เวทมนตร์เสริมพลัง
รินก็เสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเรนเอาไว้
เรนหยิบ'ตัวหมาก’มาจากกระเป๋ากางเกง
บิชอป กับ รุค
“นี่เจ้าคิดจะทำอะไร—"
เรนไม่ตอบแต่กลับนึกถึงตอนที่เจอกับชิกุเระครั้งแรก
*
เมื่อหลายปีก่อนสาวน้อยที่หนีออกจากบ้าน
เด็กสาวน้อยที่ไร้ที่พึ่ง ไม่มีพ่อหรือแม่คอยเลี้ยงดู เป็นเพราะอดข้าวมาหลายวันทำให้ร่างกายซูบผอมลงไปมาก
เด็กสาวที่คิดจะตายกลับพบเด็กชายคนหนึ่ง
เขาพูดสั้นๆแต่ทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนไปตลอดกาล
"มาอยู่ด้วยกันกับฉันไหมละ"
ที่ผ่านมาไม่มีใครคิดจะแบ่งปันอะไรให้กับเธอ แต่เด็กชายคนนี้ได้มอบรอยยิ้มเล็กๆให้กับเธอ
เขาได้มอบตัวหมากให้กับเธอ
—บิชอป
เมื่อเธอยื่นมือไปแตะตัวหมาก ก็มีบางอย่างเข้าปกคลุมตัวเธอแต่มันก็ทำให้เธอมีร่างกายแข็งแรงขึ้นราวกับความหิวโหยที่ผ่านมาเป็นเรื่องโกหก
"แล้วเธอมีชื่อว่าอะไร"
เด็กสาวคนนั้นไม่คิดจะตอบ ไม่สิไม่รู้ว่าจะตอบยังไงต่างหาก
"ไม่มีชื่อหรอกค่ะ..."
"งั้นเธอก็ใช้นามสกุลของฉันไปละกัน ส่วนชื่อก็...ชิกุเระ มุราคามิ ชิกุเระ ละกัน ต่อจากนี้เธอเป็นน้องสาวบุญธรรมของฉัน และยินดีต้อนรับสู่’เชสแฟมิลี่'นะชิกุเระ"
เด็กคนนั้นสรุปเอาเองไปหมดทุกอย่าง
แต่เด็กสาวก็ไม่ได้คิดอะไร
กลับกันเธอรู้สึกขอบคุณซะด้วยซ้ำที่เขามอบทั้งชื่อ ที่อยู่ใหม่ และชีวิตใหม่ให้กับเธอ
*
ครั้งนี้ก็เหมือนกันถ้ามันช่วยรักษาอาการของชิกุเระได้ มันก็น่าจะรักษาบาดแผลสาหัสของทั้งสองคนได้เขาใช้มือของรินกุมตัวหมากบิชอป ส่วนชาล็อตเขาก็ใช้มือของเธอกุมตัวหมากรุคเอาไว้
ลองเสี่ยงดู...
"ในนามของข้ามุราคามิ เรน ราชาแห่งหมากรุก ข้าขอกำหนดให้ริน และ ชาล็อตจงมาเป็นตัวหมากของข้า ไม่ว่าพวกเจ้าจะยินยอมหรือไม่ยินยอม นี่ก็เพื่อตัวพวกเจ้าเอง ขอย้ำอีกครั้งจงมาเป็นตัวหมากของข้าซะ...!!!"
พูดถูกรึเปล่าเนี่ย
แต่ก็ได้ผลแสงออร่าสีขาวปกคลุมร่างทั้งสองคน บาดแผลได้หายไป
สิ่งที่สองคนนั้นได้รับคือจี้ห้อยคอหมากรุก
"นี่เจ้า...ทำได้ยังไงกัน..."
"ก็บอกไปแล้วนิว่าฉันนะ...ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพลังของตัวเองเลย"
"เฮ้...เจ้าหนูเรน..."
"จู่ๆก็เรียกชื่อแบบนี้ มีอะไรอีกละ"
"ขะ ข้าน่ะอยากจะเป็นรับใช้ของเจ้า...ไม่สิ—"
"เอ๊ะ เมื่อกี้ว่าไงนะ พอดีไมได้ยินนะ"
เธอบ่นพึมพำอยู่คนเดียว ก่อนที่จะตัดสินใจพูดออกมา
"ดะ ได้โปรดให้ดิฉันเป็นสัตว์เลี้ยงของนายท่านด้วยเถอะค่ะ!"
ออร่าเปล่งประกลายแห่ง....แก้ไข กิริยาที่เปลี่ยนไปรู้สึกเหมาะกับรูปร่างหน้าตาสุด
หัวใจที่เต้นระรัวนี่มันอะไรกันวะ
หัวใจที่เต้นระรัวนี่มันอะไรกันวะ
เดิมทีเธอก็มีผมยาวปิดตาหนึ่งข้าง และตวงตาแหลมคมเหมือนคนอารมณ์เสียเหมือนกับคาแรคเตอร์ทอมบอยหรือไม่ก็สาวเงียบ พอเธอทำแบบนี้ ภายในตัวดันก่อให้เกิดปฏิกิริยาเคมี จนทำให้เรนสัมผัสได้ถึงอาการช็อคที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เลือดค่อยๆไหลออกมาจากจมูก
ละ เลือดกำเดา นะ นี่ฉันเป็นอะไรไปเนี่ย
ในชีวิตประจำวันที่ผ่านๆมาทั้งหมดสิบแปดปี เขาถูกสารภาพรักมามากมายจากสาวๆ แต่ไม่มีเคยใครคนไหนมาพูดแบบนี้เลย ไม่สิใครจะกล้าพูดกันล่ะ
แถมอีกอย่าง...
ดะ เดี๋ยวก่อนนะ เธอไม่ได้ใส่เสื้อผ้าตั้งแต่ตอนไหนกัน เมื่อกี้ยังใส่อยู่เลยนี่หวา
เรนรีบถอดเสื้อโค้ทให้เธอใส่ไปก่อน
"หรือว่า จะหลงเสน่ห์ร่างกายของดิฉันแล้วกันค่ะ~นายท่าน"
"ดะ เดี่ยวก่อนสิฉันยังไม่ได้ตอบรับคำขอของเธอเลยนะ!"
“ถึงจะไม่พูด...แต่การตอบสนองของนายท่าน...มันบ่งบอกนี่ค่ะ"
นะ นี่ฉันดูออกง่ายตั้งแต่เมื่อไหร่กันละเนี่ย!!!
"ก็ได้!!! ฉันจะให้เธอมาเป็นสัตว์เลี้ยงก็แล้วกัน! แต่ว่าเธอต้องอยู่ร่างนี้จนกว่าฉันจะอนุญาตให้เธอกลับร่างเดิมนะ!"
"ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะ!! นายท่านเจ้าขา!!"
จู่ๆก็เปลี่ยนท่าทีแบบนี้ แผน...ต้องเป็นแผนแน่ๆ หลอกให้เราตายใจแล้วค่อยจัดการทีหลังสินะ แต่ที่แขนรู้สึกดีจัง เฮ้ยไม่ใช่!! การที่เธอกอดแขนฉันต้องส่วนหนึ่งของแผนแน่ๆ แต่มันก็รู้สึกดี โอ้ยยยยยยนี่ฉันเป็นอะไรกันแน่เนี่ย
"ฟื้นแล้วสินะริน ชาล็อต"
"เรนคุงที่นี้มัน..."
"ห้องพยาบาล...ของกิลด์ค่ะ..."
“แอนนาเบลจัง..."
"เรนคุง! แล้วภารกิจละ!"
เรนทำท่าแต่ก็ชูสองนึ้วประกาศชัยชนะอย่างมั่นใจ
แต่ไม่รู้ว่าทำไมเรนถึงเงียบผิดปกติไม่พูดอะไรเลย แต่พอเขาชี้ไปยังบุคคลหนึ่ง
"เด็กสาว...หางนั่น"
"เขา...แบบนั้น...หรือว่าจะเป็น"
" "บะ บาฮามุท!!!" "
ทั้งสองคนยังคงหวาดกลัวจนขึ้นใจ ปฏิกิริยาการตอบสนองของทั้งสองคน ทำให้บาฮามุทขำบนเตียงไม่หยุดเลย
“ลำบากมากเลยละคะ...ตอนแรกที่...พวกคุณกลับมา....บอกว่าทำภารกิจเสร็จแล้ว...แล้วบอกว่าเป็นบาฮามุท...ที่เป็นตัวการของเรื่องนี้...ตอนแรกทุกคนก็ไม่เชื่อ...แต่พอคุณเรนให้บาฮามุทคืนร่าง...รับมือลำบากมากเลยละ...ค่าซ่อมข้าวของที่เสียหายไป...หักจากผลตอบแทนของภารกิจนี้นะค่ะ"
ดูเหมือนว่าเธอจะโกรธอยู่พอตัว เดาได้จากความอาฆาตจากสายตาล้วนๆ
“แต่เพราะเป็นบาฮามุทละน่ะ ทำให้ได้คะแนนสูงขึ้นเป็นหลายเท่า ทำให้ฉันเลื่อนขั้นอยู่ในระดับU แล้วล่ะ ส่วนพวกเธอก็เลื่อนขั้นจากAเป็นM แล้วล่ะ"
เพราะเป็นบาฮามุท มังกรสายเลือดบริสุทธิ์ที่แข็งแกร่งที่สุด
“เยอะขนาดนั้นเลยหรอค่ะ"
“ค่ะ...เพราะตอนที่พวกคุณกลับมา...ตอนนั้นมีผู้ว่าจ้าง...เข้ามาจ้างพวกเราอยู่สองคน...ทำให้พวกเขาเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น..."
ทำให้เป็นการเพิ่มชื่อเสียงให้กับกิลด์ด้วย
"แถมพวกเขาก็เป็นนักขายข่าวซะด้วย เรื่องแบบนี้คงจะได้กำไรไม่น้อยเลยล่ะ..."
ทำให้คนที่รู้เรื่องนี้เพิ่มมากขึ้น
“เป็นการฟื้นฟู...ให้กิลด์ของเรากลับมาเจริญอีกครั้ง...พวกพ้องของพวกเราก็จะกลับมาด้วย..."
เพราะว่าข่าวลือมันสามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว
“แถมคนที่กำไรมากที่สุดก็คือพวกเราสามคน...เพราะว่าต่อจากนี้ต้องมีคนมาจ้างภารกิจยากๆเข้ามาแน่—และตอนนี้คนในกิลด์นอกจากพวกเราสามคนก็มีแต่พวกระดับA ทำให้เวลาประมาณหนึ่งอาทิตย์นี้พวกเราสามารถทำภารกิจตั้งแต่ระดับB ถึงU ได้โดยอิสระโดยไม่มีใครมาขัดขวางหรือแย่งงานไป"
“เรนคุงอย่าบอกนะว่าทั้งหมดนี้—"
"อย่าพึ่งเข้าใจผิด—ฉันไม่ได้เป็นคนวางแผนทั้งหมดหรอกนะ ตอนแรกฉันก็แค่อยากใช้วิธีลัดก็เลยอาละวาดเล่น แต่พอฉันได้รู้ถึงความยากของภารกิจนี้ ทำให้ฉันรับภารกิจและตอนแรกหลังจากที่ฉันเคลียร์เรื่องนี้เสร็จแล้วฉันก็จะให้พวกคนในกิลด์ปล่อยข่าวลือพวกนี้ออกไป แต่ไม่รู้โชคเข้าข้างรึเปล่าก็ไม่รู้ พวกนักขายข่าวนั้นเข้ามาจ้างพวกเราพอดี"
แต่สิ่งที่เขารู้อย่าหนึ่งคือทั้งหมดเป็นเพราะ’KING'
“บอกตามตรง สิ่งที่เหนือความคาดหมายของฉันก็คือ สัตว์ประหลาดที่อยู่ในภารกิจก็คือบาฮามุท และก็เรื่องที่เธอมาขอเป็นสัตว์เลี้ยของฉันด้วยนี่แหละ"
“สะ สัตว์เลี้ยง"
“เรนคุง หมายความว่าไง?"
“ก็อย่างที่พูดไปนั่นแหละ ต่อจากนี้ยัยนี่เป็นสัตว์เลี้ยงของฉัน"
เรนเอามือวางไว้บนหัวบาฮามุทพร้อมลูบหัวเบาๆ
ส่วนบาฮามุทก็เหมือนจะดีใจอยู่มิใช่น้อย และหางก็ซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกเหมือนหมาด้วย
"ทำไมถึง...ทำแบบนั้นละค่ะ"
แม้แต่แอนนาเบลเองก็ตกใจอยู่พอสมควร
“มันก็ไม่มีอะไรมากหรอก ในรายละเอียดบอกว่าให้จัดการ แต่ไม่ได้เจาะจงวิธี ถ้าฉันปล่อยยัยนี่ไปคงไปอาละวาดที่อื่นแน่ๆ แถมถ้าจะฆ่าทิ้งก็รู้สึกเสียดายอยู่นะ..."
ไม่ได้โกหกแค่พูดไม่หมดก็เท่านั่นเอง
บาฮามุทส่งสายตาเจ้าเล่ห์ใส่เรน แต่เขาก็เบือนหน้าหนี
เดิมทีเขาก็พูดตั้งแต่แรกแล้วว่าเธอขอเป็นสัตว์เลี้ยงก่อน
แต่ดูเหมือนว่าทั้งสามคนจะคิดว่าเรนเป็นคนบอกก่อนไปซะแล้ว
ถ้าเขาพูดเรื่องนี้ออกเขาอาจจะเผลอพูดเรื่องความรู้สึกในตอนนั้นไปก็ได้ เพราะตอนนี้สภาพจิตใจของเรนในตอนนี้ยังไม่กลับเป็นแบบตอนเด็กสมบูรณ์ พูดง่ายๆคือสภาพจิตใจของเขาในตอนนี้มีทั้งแบบเด็กชายที่เย็นชาและเด็กหนุ่มที่รื่นเริงอยู่ในตัว
"นายท่านค่ะ มีเรื่องที่จะพูดกับทั้งสองคนไม่ใช่หรอค่ะ"
"อ๊ะ จริงด้วย...คะ คือ..."
เรนมองมาทางรินและชาล็อต
ดูเหมือนเขาจะเขินที่จะพูดจนต้องเกาแก้มของตัวเองแก้เขิน
“คะ คือ…ขอบคุณนะ ที่ช่วยฉันไว้ริน ชาล็อต"
—......
“อะไรกัน...นึกว่าคนอย่างเธอจะขอบคุณเฉพาะครอบครัวของตัวเองซะอีกนะเรนคุง..."
"อ๊ะ พอพูดถึงครอบครัวเธอดูสร้อยคอนั่นสิ"
"นะ นี่มัน บิชอป"
“รุค..."
"เพื่อที่จะช่วยชีวิตพวกเธอเอาไว้ ฉันจึงใช้ตัวหมากรักษาพวกเธอ ทำให้พวกเธอต้องกลายมาเป็นตัวหมากให้กับฉัน..."
เพราะฉะนั้นในตอนนี้เธอก็เหมือนกับชิกุเระและนานามิ
เป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว
แต่ว่าก็ไม่ได้ถามความสมัครใจของพวกเธอเลย
"ตะ แต่อย่าเข้าใจผิดนะ! ที่ฉันพูดขอบคุณไปเมื่อกี้ไม่ใช่เพราะเธอกลายเป็นครอบครัวของฉันไปแล้วหรอกนะ!!"
“นี่ฉันกลายเป็นน้องสาวของคุณเรนแล้วหรอค่ะเนี่ย"
"เอ๊ะ!?"
“แบบนี้ก็ไม่เลวเหมือนกันนิ ได้เป็นน้องสาวเรนคุงงั้นหรอ...ต้องเรียกเธอว่าพี่ชายสินะ"
“ถามจริง...พวกเธออายุเท่าไหรกันแน่?"
ไม่ใช่อายุของรินหรอกที่อยากรู้ แต่เป็นอายุของชาล็อตต่างหาก!
" “สิบหกปี ต่อจากนี้ก็ฝากตัวด้วยนะคุณพี่ชาย" "
เรนตกใจถึงกลับอ้าปากค้าง ทรุดลงกับพื้นอย่างสลดใจ
ทำไมโลกนี้ถึงชอบเล่นตลกกับฉันมากกัน
ไม่ใช่แค่เรื่องนี้เรื่องเดียว เรื่องที่เขาจะถูกประหาร เรื่องที่ตัวจริงของสัตว์ประหลาด คือบาฮามุท และเธอก็ขอให้ตัวเองกลายเป็นสัตว์เลี้ยงของเขา รวมถึงเรื่องนี้ด้วย
นึกว่าจะได้ชาล็อตมาเป็นพี่สาวซะอีก แบบนี้มันกลับตาลปัตรหมดเลยไม่ใช่หรอ ไม่ใช่แค่ไม่ได้พี่สาวแต่ได้น้องสาวเพิ่มมาสองคน แบบนี้ฉันก็เป็นพี่ใหญ่นะสิ
ก็จริงที่นานามิอายุมากกว่าเรน แต่เป็นเพราะผลมาจากที่เธอมาที่โลกนี้ก่อนเรนสิบกว่าปี ถ้าทุกคนมาที่นี้พร้อมกันคนที่แก่ที่สุดก็คือเรน แถมถ้าเรื่องนี้เป็นจริงในตอนนี้เขาก็จะมีน้องสาวที่มีอายุกว่าตัวเองตั้งสิบสี่ปี
แต่เรื่องนี้เป็นความผิดพลาดของเรนล้วนๆ เพราะตอนที่ชาล็อตแนะนำตัวเธอก็อยู่ว่าเป็นพี่สาวฝาแฝด
คำว่าพี่สาวฝาแฝด คือคนที่เกิดก่อนน้องสาวที่เกิดในวันเดียวกัน
เป็นความผิดของเรนที่ไม่ตระหนักถึงความหมายของคำนี้
นับเป็นความผิดพลาดอันใหญ่หลวงในชีวิตในตลอดสิบแปดปีที่ผ่านมา
แต่เขาก็ทำใจได้เร็วกว่าที่คิด
“เอาเถอะ ยังไงฉันก็เป็นคนสร้าง’เชสแฟมิลี่'ขึ้นมา การที่ฉันเป็นพี่ใหญ่ มันก็สมควรละน่ะ"
เขาทำได้แต่ยิ้มแห้งๆออกไป
"จริงสิ ต่อจากนี้พวกเธอจะต้องฝึกหนักเพื่อควบคุมพลังแห่งตัวหมาก เพราะฉะนั้นจงเตรียมตัวให้ดี ถ้าอยากรู้ว่ามันโหดขนาดไหนก็ไปถามพวกชิกุเระก็แล้วกัน..."
เขายิ้มอย่างเลศนัยให้กับพวกเธอ
แต่นั่นก็เป็นรอยยิ้มที่เขายิ้มให้กับสมาชิกของครอบครัว
บรรยากาศรอบตัวของทั้งสามคนนั้นทำให้แอนนาเบลกับบาฮามุทรู้สึกว่าตัวเองเป็นแค่ตัวประกอบ
แอนนาเบลปลีกตัวออกไปเพราะยังเหลืองานอีกหลายเรื่องที่ต้องสะสาง
เหลือแค่บาฮามุทที่เฝ้าดูอย่างเงียบๆ แต่เธอไม่ได้รู้สึกเหงาเลย กลับกันเลยเธอรู้สึกดีใจที่ได้เจ้านายคนใหม่ที่ดูน่าสนใจและแข็งแกร่งกว่าเธอหลายเท่าอย่างที่เธอไม่เคยเจอมาก่อน...
แล้วเธอก็ค่อยก็นั่งเท้าคางเฝ้ามองดูเจ้านายของตัวเองพลางกระซิบกับคนที่ไม่ได้อยู่ที่นี้
"น่าสนใจ...เหมือนกับที่เธอบอกเลย...เมทติ้งเช็ค..."
เลือดค่อยๆไหลออกมาจากจมูก
ละ เลือดกำเดา นะ นี่ฉันเป็นอะไรไปเนี่ย
ในชีวิตประจำวันที่ผ่านๆมาทั้งหมดสิบแปดปี เขาถูกสารภาพรักมามากมายจากสาวๆ แต่ไม่มีเคยใครคนไหนมาพูดแบบนี้เลย ไม่สิใครจะกล้าพูดกันล่ะ
แถมอีกอย่าง...
ดะ เดี๋ยวก่อนนะ เธอไม่ได้ใส่เสื้อผ้าตั้งแต่ตอนไหนกัน เมื่อกี้ยังใส่อยู่เลยนี่หวา
เรนรีบถอดเสื้อโค้ทให้เธอใส่ไปก่อน
"หรือว่า จะหลงเสน่ห์ร่างกายของดิฉันแล้วกันค่ะ~นายท่าน"
"ดะ เดี่ยวก่อนสิฉันยังไม่ได้ตอบรับคำขอของเธอเลยนะ!"
“ถึงจะไม่พูด...แต่การตอบสนองของนายท่าน...มันบ่งบอกนี่ค่ะ"
นะ นี่ฉันดูออกง่ายตั้งแต่เมื่อไหร่กันละเนี่ย!!!
"ก็ได้!!! ฉันจะให้เธอมาเป็นสัตว์เลี้ยงก็แล้วกัน! แต่ว่าเธอต้องอยู่ร่างนี้จนกว่าฉันจะอนุญาตให้เธอกลับร่างเดิมนะ!"
"ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะ!! นายท่านเจ้าขา!!"
จู่ๆก็เปลี่ยนท่าทีแบบนี้ แผน...ต้องเป็นแผนแน่ๆ หลอกให้เราตายใจแล้วค่อยจัดการทีหลังสินะ แต่ที่แขนรู้สึกดีจัง เฮ้ยไม่ใช่!! การที่เธอกอดแขนฉันต้องส่วนหนึ่งของแผนแน่ๆ แต่มันก็รู้สึกดี โอ้ยยยยยยนี่ฉันเป็นอะไรกันแน่เนี่ย
*
"อะ โอย...นี่ฉันเป็นอะไรไปค่ะเนี่ย""ฟื้นแล้วสินะริน ชาล็อต"
"เรนคุงที่นี้มัน..."
"ห้องพยาบาล...ของกิลด์ค่ะ..."
“แอนนาเบลจัง..."
"เรนคุง! แล้วภารกิจละ!"
เรนทำท่าแต่ก็ชูสองนึ้วประกาศชัยชนะอย่างมั่นใจ
แต่ไม่รู้ว่าทำไมเรนถึงเงียบผิดปกติไม่พูดอะไรเลย แต่พอเขาชี้ไปยังบุคคลหนึ่ง
"เด็กสาว...หางนั่น"
"เขา...แบบนั้น...หรือว่าจะเป็น"
" "บะ บาฮามุท!!!" "
ทั้งสองคนยังคงหวาดกลัวจนขึ้นใจ ปฏิกิริยาการตอบสนองของทั้งสองคน ทำให้บาฮามุทขำบนเตียงไม่หยุดเลย
“ลำบากมากเลยละคะ...ตอนแรกที่...พวกคุณกลับมา....บอกว่าทำภารกิจเสร็จแล้ว...แล้วบอกว่าเป็นบาฮามุท...ที่เป็นตัวการของเรื่องนี้...ตอนแรกทุกคนก็ไม่เชื่อ...แต่พอคุณเรนให้บาฮามุทคืนร่าง...รับมือลำบากมากเลยละ...ค่าซ่อมข้าวของที่เสียหายไป...หักจากผลตอบแทนของภารกิจนี้นะค่ะ"
ดูเหมือนว่าเธอจะโกรธอยู่พอตัว เดาได้จากความอาฆาตจากสายตาล้วนๆ
“แต่เพราะเป็นบาฮามุทละน่ะ ทำให้ได้คะแนนสูงขึ้นเป็นหลายเท่า ทำให้ฉันเลื่อนขั้นอยู่ในระดับU แล้วล่ะ ส่วนพวกเธอก็เลื่อนขั้นจากAเป็นM แล้วล่ะ"
เพราะเป็นบาฮามุท มังกรสายเลือดบริสุทธิ์ที่แข็งแกร่งที่สุด
“เยอะขนาดนั้นเลยหรอค่ะ"
“ค่ะ...เพราะตอนที่พวกคุณกลับมา...ตอนนั้นมีผู้ว่าจ้าง...เข้ามาจ้างพวกเราอยู่สองคน...ทำให้พวกเขาเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น..."
ทำให้เป็นการเพิ่มชื่อเสียงให้กับกิลด์ด้วย
"แถมพวกเขาก็เป็นนักขายข่าวซะด้วย เรื่องแบบนี้คงจะได้กำไรไม่น้อยเลยล่ะ..."
ทำให้คนที่รู้เรื่องนี้เพิ่มมากขึ้น
“เป็นการฟื้นฟู...ให้กิลด์ของเรากลับมาเจริญอีกครั้ง...พวกพ้องของพวกเราก็จะกลับมาด้วย..."
เพราะว่าข่าวลือมันสามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว
“แถมคนที่กำไรมากที่สุดก็คือพวกเราสามคน...เพราะว่าต่อจากนี้ต้องมีคนมาจ้างภารกิจยากๆเข้ามาแน่—และตอนนี้คนในกิลด์นอกจากพวกเราสามคนก็มีแต่พวกระดับA ทำให้เวลาประมาณหนึ่งอาทิตย์นี้พวกเราสามารถทำภารกิจตั้งแต่ระดับB ถึงU ได้โดยอิสระโดยไม่มีใครมาขัดขวางหรือแย่งงานไป"
“เรนคุงอย่าบอกนะว่าทั้งหมดนี้—"
"อย่าพึ่งเข้าใจผิด—ฉันไม่ได้เป็นคนวางแผนทั้งหมดหรอกนะ ตอนแรกฉันก็แค่อยากใช้วิธีลัดก็เลยอาละวาดเล่น แต่พอฉันได้รู้ถึงความยากของภารกิจนี้ ทำให้ฉันรับภารกิจและตอนแรกหลังจากที่ฉันเคลียร์เรื่องนี้เสร็จแล้วฉันก็จะให้พวกคนในกิลด์ปล่อยข่าวลือพวกนี้ออกไป แต่ไม่รู้โชคเข้าข้างรึเปล่าก็ไม่รู้ พวกนักขายข่าวนั้นเข้ามาจ้างพวกเราพอดี"
แต่สิ่งที่เขารู้อย่าหนึ่งคือทั้งหมดเป็นเพราะ’KING'
“บอกตามตรง สิ่งที่เหนือความคาดหมายของฉันก็คือ สัตว์ประหลาดที่อยู่ในภารกิจก็คือบาฮามุท และก็เรื่องที่เธอมาขอเป็นสัตว์เลี้ยของฉันด้วยนี่แหละ"
“สะ สัตว์เลี้ยง"
“เรนคุง หมายความว่าไง?"
“ก็อย่างที่พูดไปนั่นแหละ ต่อจากนี้ยัยนี่เป็นสัตว์เลี้ยงของฉัน"
เรนเอามือวางไว้บนหัวบาฮามุทพร้อมลูบหัวเบาๆ
ส่วนบาฮามุทก็เหมือนจะดีใจอยู่มิใช่น้อย และหางก็ซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกเหมือนหมาด้วย
"ทำไมถึง...ทำแบบนั้นละค่ะ"
แม้แต่แอนนาเบลเองก็ตกใจอยู่พอสมควร
“มันก็ไม่มีอะไรมากหรอก ในรายละเอียดบอกว่าให้จัดการ แต่ไม่ได้เจาะจงวิธี ถ้าฉันปล่อยยัยนี่ไปคงไปอาละวาดที่อื่นแน่ๆ แถมถ้าจะฆ่าทิ้งก็รู้สึกเสียดายอยู่นะ..."
ไม่ได้โกหกแค่พูดไม่หมดก็เท่านั่นเอง
บาฮามุทส่งสายตาเจ้าเล่ห์ใส่เรน แต่เขาก็เบือนหน้าหนี
เดิมทีเขาก็พูดตั้งแต่แรกแล้วว่าเธอขอเป็นสัตว์เลี้ยงก่อน
แต่ดูเหมือนว่าทั้งสามคนจะคิดว่าเรนเป็นคนบอกก่อนไปซะแล้ว
ถ้าเขาพูดเรื่องนี้ออกเขาอาจจะเผลอพูดเรื่องความรู้สึกในตอนนั้นไปก็ได้ เพราะตอนนี้สภาพจิตใจของเรนในตอนนี้ยังไม่กลับเป็นแบบตอนเด็กสมบูรณ์ พูดง่ายๆคือสภาพจิตใจของเขาในตอนนี้มีทั้งแบบเด็กชายที่เย็นชาและเด็กหนุ่มที่รื่นเริงอยู่ในตัว
"นายท่านค่ะ มีเรื่องที่จะพูดกับทั้งสองคนไม่ใช่หรอค่ะ"
"อ๊ะ จริงด้วย...คะ คือ..."
เรนมองมาทางรินและชาล็อต
ดูเหมือนเขาจะเขินที่จะพูดจนต้องเกาแก้มของตัวเองแก้เขิน
“คะ คือ…ขอบคุณนะ ที่ช่วยฉันไว้ริน ชาล็อต"
—......
“อะไรกัน...นึกว่าคนอย่างเธอจะขอบคุณเฉพาะครอบครัวของตัวเองซะอีกนะเรนคุง..."
"อ๊ะ พอพูดถึงครอบครัวเธอดูสร้อยคอนั่นสิ"
"นะ นี่มัน บิชอป"
“รุค..."
"เพื่อที่จะช่วยชีวิตพวกเธอเอาไว้ ฉันจึงใช้ตัวหมากรักษาพวกเธอ ทำให้พวกเธอต้องกลายมาเป็นตัวหมากให้กับฉัน..."
เพราะฉะนั้นในตอนนี้เธอก็เหมือนกับชิกุเระและนานามิ
เป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว
แต่ว่าก็ไม่ได้ถามความสมัครใจของพวกเธอเลย
"ตะ แต่อย่าเข้าใจผิดนะ! ที่ฉันพูดขอบคุณไปเมื่อกี้ไม่ใช่เพราะเธอกลายเป็นครอบครัวของฉันไปแล้วหรอกนะ!!"
“นี่ฉันกลายเป็นน้องสาวของคุณเรนแล้วหรอค่ะเนี่ย"
"เอ๊ะ!?"
“แบบนี้ก็ไม่เลวเหมือนกันนิ ได้เป็นน้องสาวเรนคุงงั้นหรอ...ต้องเรียกเธอว่าพี่ชายสินะ"
“ถามจริง...พวกเธออายุเท่าไหรกันแน่?"
ไม่ใช่อายุของรินหรอกที่อยากรู้ แต่เป็นอายุของชาล็อตต่างหาก!
" “สิบหกปี ต่อจากนี้ก็ฝากตัวด้วยนะคุณพี่ชาย" "
เรนตกใจถึงกลับอ้าปากค้าง ทรุดลงกับพื้นอย่างสลดใจ
ทำไมโลกนี้ถึงชอบเล่นตลกกับฉันมากกัน
ไม่ใช่แค่เรื่องนี้เรื่องเดียว เรื่องที่เขาจะถูกประหาร เรื่องที่ตัวจริงของสัตว์ประหลาด คือบาฮามุท และเธอก็ขอให้ตัวเองกลายเป็นสัตว์เลี้ยงของเขา รวมถึงเรื่องนี้ด้วย
นึกว่าจะได้ชาล็อตมาเป็นพี่สาวซะอีก แบบนี้มันกลับตาลปัตรหมดเลยไม่ใช่หรอ ไม่ใช่แค่ไม่ได้พี่สาวแต่ได้น้องสาวเพิ่มมาสองคน แบบนี้ฉันก็เป็นพี่ใหญ่นะสิ
ก็จริงที่นานามิอายุมากกว่าเรน แต่เป็นเพราะผลมาจากที่เธอมาที่โลกนี้ก่อนเรนสิบกว่าปี ถ้าทุกคนมาที่นี้พร้อมกันคนที่แก่ที่สุดก็คือเรน แถมถ้าเรื่องนี้เป็นจริงในตอนนี้เขาก็จะมีน้องสาวที่มีอายุกว่าตัวเองตั้งสิบสี่ปี
แต่เรื่องนี้เป็นความผิดพลาดของเรนล้วนๆ เพราะตอนที่ชาล็อตแนะนำตัวเธอก็อยู่ว่าเป็นพี่สาวฝาแฝด
คำว่าพี่สาวฝาแฝด คือคนที่เกิดก่อนน้องสาวที่เกิดในวันเดียวกัน
เป็นความผิดของเรนที่ไม่ตระหนักถึงความหมายของคำนี้
นับเป็นความผิดพลาดอันใหญ่หลวงในชีวิตในตลอดสิบแปดปีที่ผ่านมา
แต่เขาก็ทำใจได้เร็วกว่าที่คิด
“เอาเถอะ ยังไงฉันก็เป็นคนสร้าง’เชสแฟมิลี่'ขึ้นมา การที่ฉันเป็นพี่ใหญ่ มันก็สมควรละน่ะ"
เขาทำได้แต่ยิ้มแห้งๆออกไป
"จริงสิ ต่อจากนี้พวกเธอจะต้องฝึกหนักเพื่อควบคุมพลังแห่งตัวหมาก เพราะฉะนั้นจงเตรียมตัวให้ดี ถ้าอยากรู้ว่ามันโหดขนาดไหนก็ไปถามพวกชิกุเระก็แล้วกัน..."
เขายิ้มอย่างเลศนัยให้กับพวกเธอ
แต่นั่นก็เป็นรอยยิ้มที่เขายิ้มให้กับสมาชิกของครอบครัว
บรรยากาศรอบตัวของทั้งสามคนนั้นทำให้แอนนาเบลกับบาฮามุทรู้สึกว่าตัวเองเป็นแค่ตัวประกอบ
แอนนาเบลปลีกตัวออกไปเพราะยังเหลืองานอีกหลายเรื่องที่ต้องสะสาง
เหลือแค่บาฮามุทที่เฝ้าดูอย่างเงียบๆ แต่เธอไม่ได้รู้สึกเหงาเลย กลับกันเลยเธอรู้สึกดีใจที่ได้เจ้านายคนใหม่ที่ดูน่าสนใจและแข็งแกร่งกว่าเธอหลายเท่าอย่างที่เธอไม่เคยเจอมาก่อน...
แล้วเธอก็ค่อยก็นั่งเท้าคางเฝ้ามองดูเจ้านายของตัวเองพลางกระซิบกับคนที่ไม่ได้อยู่ที่นี้
"น่าสนใจ...เหมือนกับที่เธอบอกเลย...เมทติ้งเช็ค..."
อย่าลืมกดไลค์แฟนเพจMurakami
เพื่อจะได้อัพเดตก่อนใครนะครับ^^
เพื่อจะได้อัพเดตก่อนใครนะครับ^^
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น