ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เมื่อ'ราชา'มาถึงต่างโลก

    ลำดับตอนที่ #10 : สัตว์เลี้ยงและสมาชิกใหม่(แก้ไข&รีรัน)

    • อัปเดตล่าสุด 10 พ.ค. 61


         "...แฮ่ก...แฮ่ก..........เฮ้อ—ในที่สุดก็จบ"
         เพราะใช้พลังมากเกินไปทำให้ร่างกายกลับมาเป็นเด็กอีกครั้ง
         เรนนอนมองท้องฟ้าด้วยความอ่อนแรง
         เขาซึ่งชินกับการเป็นเด็กไปแล้วก็ไม่ได้รู้สึกอะไร แต่...คนที่อยู่อีกด้านหนึ่งดูท่าจะลำบากมิใช่น้อย
         เพราะถูกเรนทำลายพลังเวทไปมากทำให้ร่างกายไม่สามารถควบคุมได้จึงได้กลายเป็นเด็กมนุษย์ตัวเล็กๆ 
         แต่ที่เป็นปัญหามันไม่ใช่ตรงนั้น
         “นี่เธอเป็นตัวเมียงั้นหรอเนี่ย..."
         "......"

         เธอนั่งกอดเข่านิ่งเงียบไม่พูดอะไรสักคำเลย
         "เธอเองก็เบื่อสินะ"
         เขาหลับตาลง นึกถึงตอนก่อนที่เขาจะมาที่นี้
         —ไม่มีใครที่มีฝีมือมากกว่าหรือเท่ากันกับเขาเลย
         "แต่ตอนนี้เธอนะสนุกมากเลยใช่ไหมล่ะ"
         "เจ้านะ—เป็นใครกันแน่"
         ไม่ใช่แค่ไม่ตอบ ยังจะถามกลับอีก
         “ตอนนี้ในตัวเจ้านะ มีพลังเวทมากพอที่จะทำแบบนั้นอีกตั้งหลายครั้งนะ ต่อให้เป็นมนุษย์ก็เถอะก็ไม่น่าจะทำได้ขนาดนี้นะ"
         "......"
         "......"
         "ไม่รู้สิ...เดิมทีฉันไม่เคยรู้อะไรเกี่ยวกับพลังของตัวเองเลย ไม่รู้ว่าฉันมีพลังนี้ได้ยังไง พลังนี้มีไว้ใช้ทำอะไรกันแน่ แล้วใช้ได้แค่ไหนกัน"
         แถมเขาเองก็ยังไม่รู้เกี่ยวกับโลกนี้มากนัก 
         "ฉันนะก็แค่เป็นมนุษย์ที่มีกิเลสอันยิ่งใหญ่ที่อยากจะเป็นราชาของโลกนี้เท่านั้นแหละ"
         “นี่เจ้า...หมายความว่าไง...นี่เจ้าคิดจะเป็นพระเจ้างั้นหรอ"
         "ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก...ฉันก็แค่คิดว่ามันน่าสนุกดี...แถมอีกอย่างเดิมทีฉันไม่ได้เป็นคนคิดตั้งแต่แรกหรอกนะ"
         —เดิมทีเป็นความคิดของเมทติ้งเช็ค ที่มอบเป้าหมายให้กับเรน
         เรนมองท้องฟ้า แล้วยื่นมือขึ้นมาราวกับจะกำดวงอาทิตย์ที่อยู่ข้างหน้า
         "อีกอย่างถ้าทำแบบนั้นพร้อมกับครอบครัวมันจะเป็นการสร้างคุณค่าให้กับชีวิตตัวเองด้วยน้า~"
         ไม่รู้ว่าเพราะเขาเป็นเด็กโดยที่ใช้พลังมากเกินไปในตอนที่เขายังเป็นเด็กหนุ่มรึเปล่า รอยยิ้มของเขาเป็นรอยยิ้มที่ไร้เดียงสาเหมือนกับตอนที่เขาเป็นเด็กหนุ่มอยู่
         เรนใช้แรงจากการพักฟื้นเดินไปหารินและชาล็อต
         ไม่รู้ว่าเป็นเพราะ’การเดินหมากของราชา’รึเปล่า บาดแผลตรงร่างกายของเขาได้หายไปราวกับไม่เคยมีอยู่เลย เหลือแค่เสื้อผ้าฉีกขาดไม่มากนัก
         "แล้วเจ้าจะเอาไงกับสองคนนั้นกันละ"
         "นั่นสิจะปล่อยไว้อย่างนี้ก็ได้นะ"
         ถ้าปล่อยไว้แบบนี้ทั้งสองคนอาจจะตายได้
         "นี่เจ้า!—"
         "—แต่ถ้าฉันทำแบบนั้น...ชิกุเระ...จะต้องเสียใจแน่นอน...อีกอย่างฉันก็ติดหนี้ยัยพวกนี้ด้วย"
         ชาล็อตทำให้เรนรู้วิธีการใช้เวทมนตร์เสริมพลัง
         รินก็เสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเรนเอาไว้
         เรนหยิบ'ตัวหมาก’มาจากกระเป๋ากางเกง
         บิชอป กับ รุค
         “นี่เจ้าคิดจะทำอะไร—"
         เรนไม่ตอบแต่กลับนึกถึงตอนที่เจอกับชิกุเระครั้งแรก
    *
         เมื่อหลายปีก่อน
         สาวน้อยที่หนีออกจากบ้าน
         เด็กสาวน้อยที่ไร้ที่พึ่ง ไม่มีพ่อหรือแม่คอยเลี้ยงดู เป็นเพราะอดข้าวมาหลายวันทำให้ร่างกายซูบผอมลงไปมาก
         เด็กสาวที่คิดจะตายกลับพบเด็กชายคนหนึ่ง
         เขาพูดสั้นๆแต่ทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนไปตลอดกาล
         "มาอยู่ด้วยกันกับฉันไหมละ"
         ที่ผ่านมาไม่มีใครคิดจะแบ่งปันอะไรให้กับเธอ แต่เด็กชายคนนี้ได้มอบรอยยิ้มเล็กๆให้กับเธอ
         เขาได้มอบตัวหมากให้กับเธอ
         —บิชอป
         เมื่อเธอยื่นมือไปแตะตัวหมาก ก็มีบางอย่างเข้าปกคลุมตัวเธอแต่มันก็ทำให้เธอมีร่างกายแข็งแรงขึ้นราวกับความหิวโหยที่ผ่านมาเป็นเรื่องโกหก
         "แล้วเธอมีชื่อว่าอะไร"
         เด็กสาวคนนั้นไม่คิดจะตอบ ไม่สิไม่รู้ว่าจะตอบยังไงต่างหาก
         "ไม่มีชื่อหรอกค่ะ..."
         "งั้นเธอก็ใช้นามสกุลของฉันไปละกัน ส่วนชื่อก็...ชิกุเระ มุราคามิ ชิกุเระ ละกัน ต่อจากนี้เธอเป็นน้องสาวบุญธรรมของฉัน และยินดีต้อนรับสู่’เชสแฟมิลี่'นะชิกุเระ"
         เด็กคนนั้นสรุปเอาเองไปหมดทุกอย่าง
         แต่เด็กสาวก็ไม่ได้คิดอะไร
         กลับกันเธอรู้สึกขอบคุณซะด้วยซ้ำที่เขามอบทั้งชื่อ ที่อยู่ใหม่ และชีวิตใหม่ให้กับเธอ
    *
         ครั้งนี้ก็เหมือนกันถ้ามันช่วยรักษาอาการของชิกุเระได้ มันก็น่าจะรักษาบาดแผลสาหัสของทั้งสองคนได้
         เขาใช้มือของรินกุมตัวหมากบิชอป ส่วนชาล็อตเขาก็ใช้มือของเธอกุมตัวหมากรุคเอาไว้
         ลองเสี่ยงดู...
         "ในนามของข้ามุราคามิ เรน ราชาแห่งหมากรุก ข้าขอกำหนดให้ริน และ ชาล็อตจงมาเป็นตัวหมากของข้า ไม่ว่าพวกเจ้าจะยินยอมหรือไม่ยินยอม นี่ก็เพื่อตัวพวกเจ้าเอง ขอย้ำอีกครั้งจงมาเป็นตัวหมากของข้าซะ...!!!"
         พูดถูกรึเปล่าเนี่ย
         แต่ก็ได้ผลแสงออร่าสีขาวปกคลุมร่างทั้งสองคน บาดแผลได้หายไป
         สิ่งที่สองคนนั้นได้รับคือจี้ห้อยคอหมากรุก
         "นี่เจ้า...ทำได้ยังไงกัน..."
         "ก็บอกไปแล้วนิว่าฉันนะ...ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพลังของตัวเองเลย"
         "เฮ้...เจ้าหนูเรน..."
         "จู่ๆก็เรียกชื่อแบบนี้ มีอะไรอีกละ"
         "ขะ ข้าน่ะอยากจะเป็นรับใช้ของเจ้า...ไม่สิ—"
         "เอ๊ะ เมื่อกี้ว่าไงนะ พอดีไมได้ยินนะ"
         เธอบ่นพึมพำอยู่คนเดียว ก่อนที่จะตัดสินใจพูดออกมา
         "ดะ ได้โปรดให้ดิฉันเป็นสัตว์เลี้ยงของนายท่านด้วยเถอะค่ะ!"
         ออร่าเปล่งประกลายแห่ง....แก้ไข กิริยาที่เปลี่ยนไปรู้สึกเหมาะกับรูปร่างหน้าตาสุด
        หัวใจที่เต้นระรัวนี่มันอะไรกันวะ 
         เดิมทีเธอก็มีผมยาวปิดตาหนึ่งข้าง และตวงตาแหลมคมเหมือนคนอารมณ์เสียเหมือนกับคาแรคเตอร์ทอมบอยหรือไม่ก็สาวเงียบ พอเธอทำแบบนี้ ภายในตัวดันก่อให้เกิดปฏิกิริยาเคมี จนทำให้เรนสัมผัสได้ถึงอาการช็อคที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
         เลือดค่อยๆไหลออกมาจากจมูก
         ละ เลือดกำเดา นะ นี่ฉันเป็นอะไรไปเนี่ย
         ในชีวิตประจำวันที่ผ่านๆมาทั้งหมดสิบแปดปี เขาถูกสารภาพรักมามากมายจากสาวๆ แต่ไม่มีเคยใครคนไหนมาพูดแบบนี้เลย ไม่สิใครจะกล้าพูดกันล่ะ
         แถมอีกอย่าง...
         ดะ เดี๋ยวก่อนนะ เธอไม่ได้ใส่เสื้อผ้าตั้งแต่ตอนไหนกัน เมื่อกี้ยังใส่อยู่เลยนี่หวา
         เรนรีบถอดเสื้อโค้ทให้เธอใส่ไปก่อน
         "หรือว่า จะหลงเสน่ห์ร่างกายของดิฉันแล้วกันค่ะ~นายท่าน"
         "ดะ เดี่ยวก่อนสิฉันยังไม่ได้ตอบรับคำขอของเธอเลยนะ!"
         “ถึงจะไม่พูด...แต่การตอบสนองของนายท่าน...มันบ่งบอกนี่ค่ะ"
         นะ นี่ฉันดูออกง่ายตั้งแต่เมื่อไหร่กันละเนี่ย!!!
         "ก็ได้!!! ฉันจะให้เธอมาเป็นสัตว์เลี้ยงก็แล้วกัน! แต่ว่าเธอต้องอยู่ร่างนี้จนกว่าฉันจะอนุญาตให้เธอกลับร่างเดิมนะ!"
         "ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะ!! นายท่านเจ้าขา!!"
         จู่ๆก็เปลี่ยนท่าทีแบบนี้ แผน...ต้องเป็นแผนแน่ๆ หลอกให้เราตายใจแล้วค่อยจัดการทีหลังสินะ แต่ที่แขนรู้สึกดีจัง เฮ้ยไม่ใช่!! การที่เธอกอดแขนฉันต้องส่วนหนึ่งของแผนแน่ๆ แต่มันก็รู้สึกดี โอ้ยยยยยยนี่ฉันเป็นอะไรกันแน่เนี่ย
    *
         "อะ โอย...นี่ฉันเป็นอะไรไปค่ะเนี่ย"
         "ฟื้นแล้วสินะริน ชาล็อต"
         "เรนคุงที่นี้มัน..."
         "ห้องพยาบาล...ของกิลด์ค่ะ..."
         “แอนนาเบลจัง..."
         "เรนคุง! แล้วภารกิจละ!"
         เรนทำท่าแต่ก็ชูสองนึ้วประกาศชัยชนะอย่างมั่นใจ
         แต่ไม่รู้ว่าทำไมเรนถึงเงียบผิดปกติไม่พูดอะไรเลย แต่พอเขาชี้ไปยังบุคคลหนึ่ง
         "เด็กสาว...หางนั่น"
         "เขา...แบบนั้น...หรือว่าจะเป็น"
         " "บะ บาฮามุท!!!" "
         ทั้งสองคนยังคงหวาดกลัวจนขึ้นใจ ปฏิกิริยาการตอบสนองของทั้งสองคน ทำให้บาฮามุทขำบนเตียงไม่หยุดเลย
         “ลำบากมากเลยละคะ...ตอนแรกที่...พวกคุณกลับมา....บอกว่าทำภารกิจเสร็จแล้ว...แล้วบอกว่าเป็นบาฮามุท...ที่เป็นตัวการของเรื่องนี้...ตอนแรกทุกคนก็ไม่เชื่อ...แต่พอคุณเรนให้บาฮามุทคืนร่าง...รับมือลำบากมากเลยละ...ค่าซ่อมข้าวของที่เสียหายไป...หักจากผลตอบแทนของภารกิจนี้นะค่ะ"
         ดูเหมือนว่าเธอจะโกรธอยู่พอตัว เดาได้จากความอาฆาตจากสายตาล้วนๆ
         “แต่เพราะเป็นบาฮามุทละน่ะ ทำให้ได้คะแนนสูงขึ้นเป็นหลายเท่า ทำให้ฉันเลื่อนขั้นอยู่ในระดับU แล้วล่ะ ส่วนพวกเธอก็เลื่อนขั้นจากAเป็นM แล้วล่ะ"
         เพราะเป็นบาฮามุท มังกรสายเลือดบริสุทธิ์ที่แข็งแกร่งที่สุด
         “เยอะขนาดนั้นเลยหรอค่ะ"
         “ค่ะ...เพราะตอนที่พวกคุณกลับมา...ตอนนั้นมีผู้ว่าจ้าง...เข้ามาจ้างพวกเราอยู่สองคน...ทำให้พวกเขาเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น..."
         ทำให้เป็นการเพิ่มชื่อเสียงให้กับกิลด์ด้วย
         "แถมพวกเขาก็เป็นนักขายข่าวซะด้วย เรื่องแบบนี้คงจะได้กำไรไม่น้อยเลยล่ะ..."
         ทำให้คนที่รู้เรื่องนี้เพิ่มมากขึ้น
         “เป็นการฟื้นฟู...ให้กิลด์ของเรากลับมาเจริญอีกครั้ง...พวกพ้องของพวกเราก็จะกลับมาด้วย..."
         เพราะว่าข่าวลือมันสามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว
         “แถมคนที่กำไรมากที่สุดก็คือพวกเราสามคน...เพราะว่าต่อจากนี้ต้องมีคนมาจ้างภารกิจยากๆเข้ามาแน่—และตอนนี้คนในกิลด์นอกจากพวกเราสามคนก็มีแต่พวกระดับA ทำให้เวลาประมาณหนึ่งอาทิตย์นี้พวกเราสามารถทำภารกิจตั้งแต่ระดับB ถึงU ได้โดยอิสระโดยไม่มีใครมาขัดขวางหรือแย่งงานไป"
         “เรนคุงอย่าบอกนะว่าทั้งหมดนี้—"
         "อย่าพึ่งเข้าใจผิด—ฉันไม่ได้เป็นคนวางแผนทั้งหมดหรอกนะ ตอนแรกฉันก็แค่อยากใช้วิธีลัดก็เลยอาละวาดเล่น แต่พอฉันได้รู้ถึงความยากของภารกิจนี้ ทำให้ฉันรับภารกิจและตอนแรกหลังจากที่ฉันเคลียร์เรื่องนี้เสร็จแล้วฉันก็จะให้พวกคนในกิลด์ปล่อยข่าวลือพวกนี้ออกไป แต่ไม่รู้โชคเข้าข้างรึเปล่าก็ไม่รู้ พวกนักขายข่าวนั้นเข้ามาจ้างพวกเราพอดี"
         แต่สิ่งที่เขารู้อย่าหนึ่งคือทั้งหมดเป็นเพราะ’KING'
         “บอกตามตรง สิ่งที่เหนือความคาดหมายของฉันก็คือ สัตว์ประหลาดที่อยู่ในภารกิจก็คือบาฮามุท และก็เรื่องที่เธอมาขอเป็นสัตว์เลี้ยของฉันด้วยนี่แหละ"
         “สะ สัตว์เลี้ยง"
         “เรนคุง หมายความว่าไง?"
         “ก็อย่างที่พูดไปนั่นแหละ ต่อจากนี้ยัยนี่เป็นสัตว์เลี้ยงของฉัน"
         เรนเอามือวางไว้บนหัวบาฮามุทพร้อมลูบหัวเบาๆ
         ส่วนบาฮามุทก็เหมือนจะดีใจอยู่มิใช่น้อย และหางก็ซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกเหมือนหมาด้วย
         "ทำไมถึง...ทำแบบนั้นละค่ะ"
         แม้แต่แอนนาเบลเองก็ตกใจอยู่พอสมควร
         “มันก็ไม่มีอะไรมากหรอก ในรายละเอียดบอกว่าให้จัดการ แต่ไม่ได้เจาะจงวิธี ถ้าฉันปล่อยยัยนี่ไปคงไปอาละวาดที่อื่นแน่ๆ แถมถ้าจะฆ่าทิ้งก็รู้สึกเสียดายอยู่นะ..."
         ไม่ได้โกหกแค่พูดไม่หมดก็เท่านั่นเอง
         บาฮามุทส่งสายตาเจ้าเล่ห์ใส่เรน แต่เขาก็เบือนหน้าหนี
         เดิมทีเขาก็พูดตั้งแต่แรกแล้วว่าเธอขอเป็นสัตว์เลี้ยงก่อน
         แต่ดูเหมือนว่าทั้งสามคนจะคิดว่าเรนเป็นคนบอกก่อนไปซะแล้ว
         ถ้าเขาพูดเรื่องนี้ออกเขาอาจจะเผลอพูดเรื่องความรู้สึกในตอนนั้นไปก็ได้ เพราะตอนนี้สภาพจิตใจของเรนในตอนนี้ยังไม่กลับเป็นแบบตอนเด็กสมบูรณ์ พูดง่ายๆคือสภาพจิตใจของเขาในตอนนี้มีทั้งแบบเด็กชายที่เย็นชาและเด็กหนุ่มที่รื่นเริงอยู่ในตัว
         "นายท่านค่ะ มีเรื่องที่จะพูดกับทั้งสองคนไม่ใช่หรอค่ะ"
         "อ๊ะ จริงด้วย...คะ คือ..."
         เรนมองมาทางรินและชาล็อต
         ดูเหมือนเขาจะเขินที่จะพูดจนต้องเกาแก้มของตัวเองแก้เขิน
         “คะ คือ…ขอบคุณนะ ที่ช่วยฉันไว้ริน ชาล็อต"
         —......
         “อะไรกัน...นึกว่าคนอย่างเธอจะขอบคุณเฉพาะครอบครัวของตัวเองซะอีกนะเรนคุง..."
         "อ๊ะ พอพูดถึงครอบครัวเธอดูสร้อยคอนั่นสิ"
         "นะ นี่มัน บิชอป"
         “รุค..."
         "เพื่อที่จะช่วยชีวิตพวกเธอเอาไว้ ฉันจึงใช้ตัวหมากรักษาพวกเธอ ทำให้พวกเธอต้องกลายมาเป็นตัวหมากให้กับฉัน..."
         เพราะฉะนั้นในตอนนี้เธอก็เหมือนกับชิกุเระและนานามิ
         เป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว
         แต่ว่าก็ไม่ได้ถามความสมัครใจของพวกเธอเลย
         "ตะ แต่อย่าเข้าใจผิดนะ! ที่ฉันพูดขอบคุณไปเมื่อกี้ไม่ใช่เพราะเธอกลายเป็นครอบครัวของฉันไปแล้วหรอกนะ!!"
         “นี่ฉันกลายเป็นน้องสาวของคุณเรนแล้วหรอค่ะเนี่ย"
         "เอ๊ะ!?"
         “แบบนี้ก็ไม่เลวเหมือนกันนิ ได้เป็นน้องสาวเรนคุงงั้นหรอ...ต้องเรียกเธอว่าพี่ชายสินะ"
         “ถามจริง...พวกเธออายุเท่าไหรกันแน่?"
         ไม่ใช่อายุของรินหรอกที่อยากรู้ แต่เป็นอายุของชาล็อตต่างหาก!
         " “สิบหกปี ต่อจากนี้ก็ฝากตัวด้วยนะคุณพี่ชาย" "
         เรนตกใจถึงกลับอ้าปากค้าง ทรุดลงกับพื้นอย่างสลดใจ
         ทำไมโลกนี้ถึงชอบเล่นตลกกับฉันมากกัน
         ไม่ใช่แค่เรื่องนี้เรื่องเดียว เรื่องที่เขาจะถูกประหาร เรื่องที่ตัวจริงของสัตว์ประหลาด คือบาฮามุท และเธอก็ขอให้ตัวเองกลายเป็นสัตว์เลี้ยงของเขา รวมถึงเรื่องนี้ด้วย
         นึกว่าจะได้ชาล็อตมาเป็นพี่สาวซะอีก แบบนี้มันกลับตาลปัตรหมดเลยไม่ใช่หรอ ไม่ใช่แค่ไม่ได้พี่สาวแต่ได้น้องสาวเพิ่มมาสองคน แบบนี้ฉันก็เป็นพี่ใหญ่นะสิ
         ก็จริงที่นานามิอายุมากกว่าเรน แต่เป็นเพราะผลมาจากที่เธอมาที่โลกนี้ก่อนเรนสิบกว่าปี ถ้าทุกคนมาที่นี้พร้อมกันคนที่แก่ที่สุดก็คือเรน แถมถ้าเรื่องนี้เป็นจริงในตอนนี้เขาก็จะมีน้องสาวที่มีอายุกว่าตัวเองตั้งสิบสี่ปี
         แต่เรื่องนี้เป็นความผิดพลาดของเรนล้วนๆ เพราะตอนที่ชาล็อตแนะนำตัวเธอก็อยู่ว่าเป็นพี่สาวฝาแฝด
         คำว่าพี่สาวฝาแฝด คือคนที่เกิดก่อนน้องสาวที่เกิดในวันเดียวกัน
         เป็นความผิดของเรนที่ไม่ตระหนักถึงความหมายของคำนี้
         นับเป็นความผิดพลาดอันใหญ่หลวงในชีวิตในตลอดสิบแปดปีที่ผ่านมา
         แต่เขาก็ทำใจได้เร็วกว่าที่คิด
         “เอาเถอะ ยังไงฉันก็เป็นคนสร้าง’เชสแฟมิลี่'ขึ้นมา การที่ฉันเป็นพี่ใหญ่ มันก็สมควรละน่ะ"
         เขาทำได้แต่ยิ้มแห้งๆออกไป 
         "จริงสิ ต่อจากนี้พวกเธอจะต้องฝึกหนักเพื่อควบคุมพลังแห่งตัวหมาก เพราะฉะนั้นจงเตรียมตัวให้ดี ถ้าอยากรู้ว่ามันโหดขนาดไหนก็ไปถามพวกชิกุเระก็แล้วกัน..."
         เขายิ้มอย่างเลศนัยให้กับพวกเธอ
         แต่นั่นก็เป็นรอยยิ้มที่เขายิ้มให้กับสมาชิกของครอบครัว
         บรรยากาศรอบตัวของทั้งสามคนนั้นทำให้แอนนาเบลกับบาฮามุทรู้สึกว่าตัวเองเป็นแค่ตัวประกอบ
         แอนนาเบลปลีกตัวออกไปเพราะยังเหลืองานอีกหลายเรื่องที่ต้องสะสาง
         เหลือแค่บาฮามุทที่เฝ้าดูอย่างเงียบๆ แต่เธอไม่ได้รู้สึกเหงาเลย กลับกันเลยเธอรู้สึกดีใจที่ได้เจ้านายคนใหม่ที่ดูน่าสนใจและแข็งแกร่งกว่าเธอหลายเท่าอย่างที่เธอไม่เคยเจอมาก่อน...
         แล้วเธอก็ค่อยก็นั่งเท้าคางเฝ้ามองดูเจ้านายของตัวเองพลางกระซิบกับคนที่ไม่ได้อยู่ที่นี้
         "น่าสนใจ...เหมือนกับที่เธอบอกเลย...เมทติ้งเช็ค..."
    อย่าลืมกดไลค์แฟนเพจMurakami
    เพื่อจะได้อัพเดตก่อนใครนะครับ^^
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×