ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เมื่อ'ราชา'มาถึงต่างโลก

    ลำดับตอนที่ #4 : เหตุผลของราชา

    • อัปเดตล่าสุด 10 พ.ค. 61


         วันนั้นเป็นวันที่ฉันจะต้องตัดสินใจแบบไม่ต้องคิดอะไรมากเลย ไม่จำเป็นต้องคิดถึงผลที่ตามมาทีหลัง ไม่จำเป็นจะต้องยึดติดกับที่นี้อีกต่อไป
         ที่นี้ที่โลกนี้ต่อให้เป็นโลกที่เทคโนโลยีก้าวหน้ามากขนาดไหน ยังไงประชากรหลายล้านคนทั่วโลกก็ยังคงเหมือนเดิม ต่อให้โลกเปลี่ยนไปมากขนาดไหนจิตใจของมนุษย์ก็ยังคงเป็นเช่นเดิม
         วันนั้นเป็นวันที่ฉันได้เจอกับเธอถึงแม้จะเป็นเรื่องของเมื่อคืนนี้ แต่เวลาที่โลกนั้นกับโลกนี้มันต่างกันราวกับ ญี่ปุ่นกับบราซิล ที่นั้นเป็นกลางคืนแต่ที่นี้เป็นกลางวัน
         เมทติ้งเช็ค ได้มอบโอกาส ได้มอบความสนุกแบบใหม่ให้กับฉัน ได้พามายังโลกนี้ เธอทำให้ฉันได้เป็นอิสระจากโลกที่น่าเบื่อหน่าย
         วันนั้นเป็นวันที่ฉันซ้อมบาสจนดึกเหมือนทุกวัน เพราะว่าพ่อแม่ของฉันได้ตายไปตั้งแต่สามปีก่อนแล้วแถมฉันก็ไม่มีญาติคนอื่นแล้ว ต้องอยู่ในคฤหาสน์คนเดียวไม่มีคนใช้หรือพ่อบ้าน เพราะฉะนั้นจะกลับบ้านดึกไปก็ไม่มีใครว่าอะไรทั้งนั้น ส่วนสมาชิกคนอื่นก็กลับบ้านไปหมดแล้ว ทำให้ฉันต้องซ้อมอยู่คนเดียว ในโรงยิมที่ไม่ได้เปิดไฟเอาไว้
         ที่จริงฉันไม่จำเป็นต้องซ้อมเลยก็ได้ ก็เพราะพลัง 'KING' ของฉัน ไม่ว่าฉันจะทำอะไรก็เพอร์เฟกต์ทุกอย่างทั้งการเรียนและกีฬา จนทำให้ฉันได้รับฉายามาว่า เจ้าชายแห่งการกีฬาและ’คินกุ(ราชา)แห่งหมากรุก' แต่เพราะไอ้พลังนี้มันทำให้การใช้ชีวิตประจำวันของฉันมันน่าเบื่อไปหมด คนที่แข่งกับฉันพอฉันเอาจริงเข้าหน่อยก็สบัดก้นหนีไปทั้งนั้น แต่การที่ซ้อมอยู่คนเดียวมันน่าเบื่อยิ่งกว่า
         พอคิดแบบนั้นฉันจึงเลิกซ้อมแล้วกลับบ้านเร็วกว่าปกติ และคิดว่าคงไม่ต้องซ้อมอีกแล้ว แต่ไม่ทันที่ฉันจะเก็บลูกบาสก็มีเสียงของเธอเข้า
         "ถ้าคุณเบื่อขนาดนั้น ให้ฉันเป็นคู่ซ้อมให้ไหมละค่ะ"
         เด็กสาวที่ดูแล้วสูงพอๆกับฉัน ถ้าจะให้พูดก็มีรูปร่างเด็กเหมือนกับฉัน แต่ว่ายัยนี้สูงกว่าฉันหน่อยนึง
         เด็กสาวในในชุดเดรสราตรีสีขาวแขนกุด ค่อยๆเดินเข้ามาใกล้ๆจนทำให้รู้เลยว่ายัยนี้ไม่ใช่แค่สูงกว่าฉันหน่อยนึงแล้ว พอคิดแบบนั้นทำให้ฉันรู้สึกหงุดหงิดจนเส้นเลือดปูดตรงหน้าผากหน่อยๆ แต่ราชาอย่างฉันจะมาหงุดหงิดเรื่องเล็กน้อยแบบนี้มันทำให้ดูเหมือนเด็ก แค่รูปร่างก็เหมือนเด็กอยู่แล้ว
         "เธอจะเป็นคู่ซ้อมงั้นหรอ อย่าพูดให้คำหน่อยเลย คนอย่างเธอจะชนะฉันได้ไงแถมชุดนั้นมันก็ทำให้ขยับลำบากด้วยไม่ใช่รึไง"
         ฉันเดินหันหลังให้กับเธอโดยที่ฉันไม่รู้เลยว่า มันทำให้ฉันประมาทไปมากขนาดไหน
         "ถึงฉันจะชนะคุณไม่ได้ แต่ถ้าพอจะให้คุณสนุกได้ก็คงรับคำท้าสินะค่ะ"
         ประโยคนั้นทำให้ฉันหยุดเดินออกไป เพราะเธอไม่ได้พูดเล่น น้ำหนักที่มือข้างซ้ายเบาลงทั้งที่ฉันถือลูกบาสตลอดพอเหลือบมองไปที่มือ ลูกบาสก็โดนแย่งแล้ว
         และคนที่แย่งไปไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นยัยนี้ พอเห็นแบบนั้นฉันก็อดไม่ได้เลยที่จะยิ้ม
         มันเป็นความรู้สึกที่ฉันเองก็ไม่รู้ว่าได้ลืมมันไปตอนไหน
         ใช่—ความรู้สึกที่เรียกว่าความสนุกนะ ถ้าจำไม่ผิดฉันรู้สึกแบบนี้ครั้งสุดท้ายตอนแข่งหมากรุกรอบชิงชนะเลิศระดับโลกเมื่อหกปีก่อนกระมัง

         "เช็คเมท ฉันชนะแล้วละเป็นการแข่งที่สนุกมากเลยละ"
         ตอนนั้นฉันได้เอามือป้องปากตัวเองไว้เพื่อไม่ให้คนอื่นเห็นรอยแสยะยิ้มของฉัน
         ทุกคนที่แข่งกับฉันไม่ว่าใครก็ต่างกระจอกทั้งนั้น พวกนั้นเป็นแค่ตัวฆ่าเวลาให้ฉันก็เท่านั้น อย่างมากพวกนั้นก็ทำได้กิน’พอน'ของฉันไปแค่สี่ถึงห้าตัวเท่านั้นหลังจากนั้นก็ถูกฉันรุกฆาต
         แต่เด็กชายอายุประมาณเก้าขวบคนนี้กลับสามารถกินตัวหมากของฉันจนเหลือแค่'คิง''ควีน'และก็’รุก'เท่านั้น
         การแข่งตัดสินด้วยการชนะสองในสามครั้ง ครั้งที่แล้วฉันเองก็เกือบพลาดท่าให้กับเด็กคนนี้ไปแล้ว
         "ให้ตายสิ พี่ชายเก่งจริงๆเลยแฮะ "
         ถึงแม้ว่าเขาจะพูดอย่างนั้นแต่ถ้าฉันเองประมาทเด็กคนนั้นเข้าไปละก็คงจะไม่มีวันพรุ่งสำหรับฉันในฐานะราชาอีกแล้ว
         "นายเองก็เก่งเหมือนกัน ยางามิ มิไร"
         ฉันยื่นมือไปหาเขา”จะเรียกฉันว่าเรนก็ได้นะ"
         "เข้าใจแล้วละ คุณพี่เรน"
         คุณพี่งั้นหรอ ช่างเถอะการถูกเรียกหลายแบบก็ดีเหมือนกัน
         "สักวันหนึ่งผมจะต้องชนะคุณพี่เรนให้ได้"
         "ฉันจะรอละกัน เพราะฉันเชื่อว่านายทำได้"
         เด็กผู้ชายคนนั้นได้มอบความสนุกกับการแข่งให้กับฉัน เด็กคนนั้นมีความรู้สึกที่อยากจะชนะฉันมากกว่าคนอื่นๆ แต่หลังจากนั้นฉันก็ไม่ได้แข่งกับเขาอีกเลย

         "ให้ตายสิไม่นึกเลยว่าจะมีคนที่สูสีกับฉันอยู่บนโลกนี้ด้วย"
         "แต่ฉันก็แพ้คุณอยู่ดี"
         พวกเราแข่งกันจนลืมเวลากันทั้งสองฝ่าย
         กติกาคือใครชูตครบห้าสิบครั้งก่อนเป็นฝ่ายชนะ ผลคือ 50:49 เป็นไงละเขาเรียกว่าถ้าพลาดก็แพ้ไปได้เลยละ ยิ่งอีกฝ่ายเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ถึงแม้จะสูงกว่าฉันนิดหน่อย แต่ถ้าฉันพลาดแพ้ให้กับยัยนี่รู้ถึงไหนอายถึงนั้น
         ผู้หญิงคนนี้ทำให้สนุกถึงได้เพียงนี้เชียวรึ
         ที่ผ่านฉันชนะมาตลอด จนต้องขอเป็นตัวสำรองแทน
         ร่างกายรู้สึกหนักอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนนี่สินะที่เขาเรียกว่า ความเหนื่อย นะ
         ที่ผ่านมาฉันไม่เคยเหนื่อยสักครั้ง เพราะฉันไม่เคยเอาจริงเลยสักครั้ง
         ผู้หญิงคนนี้เข้าใจถึงความโดดเดี่ยวของผู้แข็งแกร่งเป็นอย่างดี ผ่านรอยยิ้มที่สนุกแบบนั้น
         "แล้วเธอคงไม่ได้มาหาฉันเพื่อแค่มาเล่นสนุกกับฉันหรอกนะ"
         เธอร้องอ๊ะ ก่อนที่จะยันท่อนบนของตัวเองขึ้นมา
         "ฉันมาที่นี้ก็เพื่อพาคุณไปที่โลกของพวกเราค่ะ"
         "โลกของพวกเรางั้นหรอ แล้วที่ไหนละ"
         "โลกแฟนตาซีค่ะ"
         .....—
         "ฉันกลับล่ะ"
         "เดี่ยวก่อนสิค่ะ"
         เธอมาเกาะขาของฉันไว้อย่างแน่นผิดกับเมื่อกี้ที่ยังเหนื่อยหอบอยู่เลย
         "ถ้าคุณไม่ไปละก็ทางพวกเราคงได้เบื่อแย่สิค่ะ"
         "ฉันไม่สน ฉันจะกลับบ้าน ปล่อยฉันสิเว้ย"
         "ไม่ปล่อยหรอกค่ะ! แง~ แง~"
         สลัดไม่หลุด แล้วไหนถึงมาร้องไห้เป็นเด็กไปได้ละเนี่ย
         ยะ แย่แล้ว
         พอฉันเหลือบไปมองเธอ เหงื่อที่ไหลรินจากร่างกายจำนวนมากที่เป็นมาจากการเล่นเยอะไปหน่อย ซึมเข้ากับชุดเดรสสีขาว และเสน่ห์ภายนอกของหญิงสาวน่ารักอย่างเธอ
         "เห็นหมดแล้วเว้ย อย่างน้อยก็หาอะไรปิดก่อนเถอะ"
         "เอ๊ะ ว้าย คุณเรนลามก!!" เธอรีบใช้มือปิดหน้าอกทันที
         นี่มาพึ่งสังเกตหรอครับ เป็นผู้หญิงแปลกคนชะมัด
         จะว่าไปเธอก็เพิ่งเรียกชื่อชั้นเป็นครั้งแรกนี่นา
         "อย่าบอกนะว่า เห็ดนั้นของคุณเรนมันแข็งแล้วนะ"
         "ไม่ได้แข็งเว้ย! และอย่าเอาไปเปรียบกับเห็ดได้ไหม!"
         ฉันรีบปิดตรงกลางระหว่างขาทันที
         "เอาเป็นว่าฉันจะไปเปลี่ยนชุดก่อน แล้วค่อยมาฟังเธอทีหลัง"
         "รับทราบ”เธอทำท่าวันทยาหัตถ์
         ที่งี้เชื่องเป็นลูกแมวเลยนะ แม่คุณ
         เอาล่ะ คำถามครับ ถ้าจู่ๆก็มีหญิงสาวน่ารักๆมาชวนไปยังที่แปลก แล้วเราบอกให้เธอรอที่โรงยิมที่ไม่ได้เปิดไฟไว้ตั้งแต่แรก ประตูก็ไม่ผจำเป็นต้องล็อค เพราะเรามักจะมาที่นี้เป็นคนแรก ในสถานการณ์แบบนี้คุณจะทำอย่างไรกันครับ
         "อาจารย์มิซึกิ นี่ครับกุญแจ"
         "ขอบใจจ้ะ เธอนี่ชอบซ้อมดึกตลอดเลยนะ รักษาสุขภาพบ้างละ"
         "ขอบคุณครับ อาจารย์เองก็รักษาสุขภาพบ้างนะครับ"
         คำตอบก็คือ หนีสิครับ รอให้เขามาตามตื้อทำเพื่อ
         จู่ๆก็เจอผู้หญิงบ้าบอกว่าจะพาไปโลกแฟนตาซี โลกแบบนั้นมันมีแค่ในอนิเมเท่านั้นแหละ
         ถ้ามีโลกแบบนั้น คงมีใครหาทางไปได้แล้วละ
         ไม่มีทฤษฎีไหนที่พิสูจน์ว่าต่างโลกมีจริง
         ที่นี้ปัจจุบันนี้ก็เป็นแค่’ยุคสมัยเทคโนโลยีล้ำหน้ากว่ามนุษย์เท่านั้น'
         เป็นยุคที่น่าเบื่อที่สุดสำหรับฉัน
         มนุษย์ไม่ยอมคิดจะพึ่งพาตัวเอง เอาแต่พึ่งพาเครื่องจักรทำงาน แม้กระทั่งเรื่องเซ็กส์เองก็ยังพึ่งพาเครื่องจักรเลย
         แต่ถ้ายัยนั่นพูดจริง...มันอาจจะพิสูจน์ที่มาของเรื่องพลังของฉันก็ได้
         พลังของฉัน—ใช่'KING'พลังแห่งคุณสมบัติของราชา มันทำให้ฉันมีพลังเหนือกว่ามนุษย์ทั่วไปหลายร้อยเท่า แถมมีสติปัญญามากว่าใครในโลก สามารถจำเนื้อหาของหนังสือต่างๆได้ ถึงแม้แค่จะอ่านแค่ผ่านแต่ก็สามารถจำได้หมดทุกตัวอักษรราวกับถ่ายภาพไว้แล้วสามารถกลับมาดูทีหลังเมื่อไหร่ก็ได้ นั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติแล้ว
         แต่ไม่รู้จะบอกว่าน่าเสียดายหรือดีแล้วกันแน่ เพราะว่าการที่พลังนี้มันตกมาอยู่ในมือของฉัน ถ้าเป็นคนอื่นคงเอาพลังนี้ไปทำเรื่องชั่วช้าอย่างการปกครองโลกนี้ แต่ฉันไม่คิดจะอย่างนั้น แต่ในทางกลับกันฉันไม่คิดจะใช้พลังนี้เพื่อผลประโยชน์อะไรทั้งนั้น
         แต่ว่ามันหมดเวลาคิดอย่างนั้นแล้ว
         'กล้าทิ้งสาวน้อยได้หรอคะเนี่ย!!!'
         เสียงของสาวน้อยที่พึ่งเจอกันไม่ถึงสามชั่วโมง ดังเข้ามาในหัวกับสื่อกระแสจิต
         แต่ไม่ทันไรก็เหมือนมีอะไรพุ่งเข้ามาจนกระแทกกับพื้นจนเป็นหลุม
         กลางหลุมนั้นมีสาวน้อยสีเพลิงอยู่
         นั้นไม่ใช่การเปรียบเปรยแต่อย่างใด ผมสีเงินที่กลายเป็นสีแดงฉาน และชุดเดรสสีขาวกลายเป็นชุดเดรสที่ถูกย้อมด้วยสีเพลิง และนัยน์ตาที่เป็นสีแดง บ่งบอกได้เลยว่าเธออารมณ์เดือดได้ที่แล้วละ
         "ไม่ว่าเมื่อไหร่ ไม่ว่าเมื่อไหร่ คุณมักจะชอบพูดให้ดูน่าเชื่อถือแต่ไม่ชัดเจนให้ตายใจตลอด...ฉันไม่น่าลืมความเจ้าเล่ห์ของคุณเลย"
         สาวน้อยสีเพลิงโกรธจนหน้าแดงก่ำแล้วส่งเสียงร้องแง่ง และดูเหมือนจะมีน้ำตาออกมาเล็กน้อยซะด้วย
         พอเห็นแบบนั้นทำให้ฉันรู้สึกผิดขึ้นมา แต่แค่นิดหน่อยนะ
         ฉันไม่เคยพูดโกหก แต่ฉันก็ไม่ได้พูดให้มันชัดเจนขึ้นอยู่กับการตีความของคนฟังเอาเอง ถ้าตีความผิดก็ซวยไปก็แค่นั้น
         เธอหลั่งน้ำตาออกมา ด้วยความรู้สึกเหมือนถูกทรยศความไว้ใจ ที่รู้สึกได้จากน้ำเสียงของประโยคสุดท้ายและสีหน้าของเธอ
         แต่ว่าพวกเรายังไม่ได้เป็นเพื่อนกันซะด้วยซ้ำแต่กัลบไว้ใจ...ผู้หญิงคนนี้สียสติไปแล้วแน่ๆ

         "ไม่ว่าจะวิธีไหนก็ตามฉันจะพาคุณกลับไปให้ได้!!"
         "เวทมนตร์...งั้นหรอ?"
         มันถูกเขียนไว้กลางอากาศ สัญลักษณ์รูปเลขาคณิต ที่มีแต่ตัวอักษรที่ซับซ้อนอยู่ข้างใน—วงแหวนเวทมนตร์
         และสิ่งที่ฉันเห็นในตรงนั้น ศูนย์กลางของเวทมนตร์นั้น...
         ลูกไฟถูกปล่อยมาจากวงแหวนเวทย์มนตร์อย่างต่อเนื่องจนฉันเกือบหลบไม่ทัน แต่ฉันก็สามารถปัดมันได้อย่างสบายๆ แต่ว่าถ้าเกิดทำแบบนั้นละก็ ได้เกิดความเสียหายแน่ๆ
         ตอนนั้นฉันบอกกับตัวเองว่า'น่าสมเพช’แค่นั้น เพราะฉันทำตัวไม่สมควรกับฉายา’คินกุ(ราชา)'ของฉันเลย
         ฉันต้องหนีกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
         สาวน้อยสีเพลิง หัวเราะเยาะต่อหน้าสภาพที่น่าสมเพชของฉัน
         เธอลอยไปยังกลางอากาศ ทัศนียภาพของเธอจึงกว้างไกลขึ้น นั้นหมายความว่าฉันไม่สามารถหนีรอดจากเธอได้แล้ว
         ในเมื่อหนีไม่รอด ก็ต้องสู้เท่านั้น
         ด้วยระยะห่างที่ไกลเกินไป ทำให้ไม่สามรถคุยกันได้แต่ว่า—
         'เท่านี้ก็ยอมรับได้รึยังละคะว่าโลกของพวกเรานะมีจริง'
         “อา คงต้องเชื่ออย่างเดียวแล้วละ"
         เดิมทีฉันต้องยอมรับตั้งแต่แรกที่ได้ยินแล้วล่ะ
         ฉันมีร่างกายที่เหมือนเด็กน้อย แต่สามารถคว้าแชมป์กีฬาระดับประเทศได้หลายประเภทตอนม.ต้น ทำให้ได้รับฉายาว่าเจ้าชายแห่งกีฬา ด้วยพลังนี้ ด้วยพลังของราชานี้
         รวมทั้งสาวน้อยสีเพลิง ที่อยู่ตรงหน้าฉันด้วย เธอทั้งสามารถใช้เวทมนตร์ไฟได้นั่นไม่ใช่มายากลแน่ ยิ่งเป็นตอนลอยตอนนี้ยิ่งไม่ใช่ใหญ่ บริเวณนี้ไม่มีเฮลิคอปเตอร์หรือตึกสูงเลย แล้วเธอสามารถแย่งลูกบอลจากฉันได้อีก และยังสามารถแช่งสูสีกับฉันได้อีก แถมล่าสุดก็พึ่งส่งกระแสจิตถามฉันอีก
         นั่นสามารถพิสูจน์ได้ว่าฉันกับเธอเป็นสิ่งมีชีวิตที่ขัดแย้งกับโลกนี้
         'คุณน่ะ รู้ถึงพลังของคุณถึงขนาดไหนงั้นหรอ'
         เธอใช้นิ้วสัมผัสริมฝีปากเหมือนตอนนี้เธอกำลังดูถูกฉันอยู่
         "ก็...เกือบทั้งหมดนะ"
         พลังแห่งหมากรุก’KING' เป็นลึกลับที่ได้รับมาจากหมากรุกคิงตัวนี้
         นอกจากนี้ฉันยังสามารถแบ่งพลังของฉันให้กับคนอื่นได้’ในรูปแบบของหมากรุก'
         ควีน 1ตัว บิชอบ ไนท์ รุก อย่างละ 2ตัว และพอนอีก 8ตัว รวม 15คน
         'ถ้าอย่างนั้น ทำไมคุณถึงไม่หาคนที่เหมาะสมกับ'ตัวหมาก’ที่เหลืออยู่ละ'
         "เรื่องนั้นมัน—อ๊ะ"
         ทำไมเราถึงไม่หาละ ไม่ใช่เพราะไม่อยากแต่เพราะ เรามี'ตัวหมาก' อยู่แล้วไม่ใช่หรอ แต่เป็นใครกันละ
         คำถามมากมายเข้ามาในหัวของฉัน
         ไม่ว่าจะเป็น—ฉันหา’ตัวหมาก’ได้ตอนไหนกัน
         —ฉันเลือกใครเป็น’ตัวหมาก’กัน
         —แล้วทำไมฉันถึงจำอะไรไม่ได้เลย
         ทำให้ฉันต้องมองไปยังคำตอบของคำถาม
         ใช่—สาวน้อยที่กลับมาเป็นสาวน้อยสีเงิน เหมือนดั่งเดิม ยิ้มให้ฉัน มันบ่งบอกถึงเธอมีคำตอบให้กับฉัน
         'ถึงแม้คุณจะลืมทุกคนไป แต่ทุกคนยังรอคุณอยู่นะ KING'
         เธอพูดออกมาแค่นั้น แต่มันก็เพียงพอแล้ว
         ถ้าเธอรู้เรื่องราวของทุกคน ถ้าที่นั้นมีจริง ถ้าที่เธอบอกว่า”ทุกคนรอฉันอยู่" งั้นก็หมายความว่า”ทุกคนอยู่ที่ต่างโลก"
         แล้วทำไมฉันถึงจำเรื่องของทุกคนไม่ได้ คำตอบก็ง่ายๆ
         ทุกคนจะลืมเรื่องของคนที่ไปต่างโลกไงละ
         ถึงแม้จะไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด แต่มันก็สรุปได้อย่างเดียวเท่านั้น
         'ดูเหมือนคุณจะได้ข้อสรุปแล้วสินะ—ยังฉลาดไม่เปลี่ยนเลยนะคะเนี่ย~'
         "เธอหมายความว่าไง"
         '—หืม'
         "ที่เธอบอกว่า’ยังฉลาดไม่เปลี่ยน’นะหมายความว่าไง"
         '—อ๊ะ'
         เธอเอามือป้องปากตัวเอง แต่นั้ยก็เพื่อปิดรอยยิ้มหัวเราะ คิก คิก ของเธอ
         ที่เธอบอกว่่ายังฉลาดไม่เปลี่ยนนะ มันเป็นคำพูดของคนที่เคยรู้จักมาก่อนชัดๆ
         นั่นหมายความว่า ฉันกับเธอรู้จักฉันมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ว่า—ตอนไหนกันละ
         เธอยังคงแอบหัวเราะคิก คิกอยู่
         เดี่ยวก่อนนะ หมายความว่า—
         “อย่าบอกนะว่า เธอคือตัวหมากของฉันนะ
         ใช่แล้ว—ถ้าเป็นแบบนั้น ก็อธิบายเรื่องราวได้ทั้งหมด
         'เรื่องนั้นอีกไม่นาน—ไม่สิมันขึ้นอยู่กับเวลาแล้วละค่ะ ว่าคุณจะได้คำตอบเมื่อไหร ฉันไม่สามารถอธิบายได้หมดหรอกค่ะ แต่ขอยอมรับว่าคุณพูดถูกครึ่งหนึ่งค่ะ'
         ถูกแค่ครึ่งเดียวงั้นหรอ งั้นอันไหนถูกอันไหนผิดกันละ เธออยากจะบอกอะไรแก่เรากันแน่
         “เธอเป็นใครกันแน่"
         'ขออภัยที่แนะนำตัวช้าค่ะ ดิฉันชื่อเมทติ้งเช็ค เป็นภูติค่ะ'
         เธอยกชายกระโปรงขึ้น พร้อมกับคำนับอย่างสุภาพ
         'ตอนนี้คุณจะมอบตำตอบให้แก่ฉันได้นึยังค่ะ'
         ถ้าไม่ไป—ก็จะไม่รู้คำตอบ แล้วใช้ชีวิตนักเรียนม.ปลายธรรมดาทั่วไป
         แต่ถ้าไป—ก็จะรู้คำตอบที่ถามหา แล้วจะได้เจอกับทุกคน
         เดิมทีที่เราปฏิเสธเพราะว่าเห็นเป็นเรื่องไร้สาระ แต่หลังจากที่เห็นเธอใช้เวทมนตร์มันต้องให้กลับไปคิดใหม่ แต่ว่าสำหรับฉันไม่มีความจำเป็นพอที่จะต้องไปอยู่ดี
         เพราะฉะนั้น คำตอบของคำถามนี้จึงสำคัญ
         "ที่โลกนั้น’สนุก'รึเปล่า"
         'YES ที่นั่นมีเผ่าพันธุ์มากมาย นอกจากภูติแล้ว ก็ยังมีมนุษย์ครึ่งสัตว์ มนุษย์ยัก เอลฟ์ และเผ่าพันธุ์มากมายที่โลกนี้ไม่มี เป็นโลกที่ตรงข้ามกับโลกนี้โดยสมบูรณ์ มีสิ่งที่โลกนี้ไม่มี และไม่มีสิ่งที่โลกนี้มี เป็นโลกที่เต็มไปด้วยจินตนาการทั้งนั้นเลยค่ะ'
         เธอกางแขนออกมาราวกับเป็นเด็กจริงๆ
         "งั้นหรอ"
         ในชั่วพริบตานั้นฉันก็ถีบตัวออกไปด้วยพลังขาที่มหาศาลจนทำให้พื้นเป็นหลุม แบบนี้ถ้าคนเดินผ่านมาคงเป็นเรื่องใหญ่แน่
         "มาตัดสินให้รู้ดำรู้แดงกันไปเลย"
         ฉันจึงพุ่งไปหาเธอด้วยรอยยิ้มในแบบที่ฉันไม่ได้รู้สึกมานาน
         ฉันเสยหมัดขวาเต็มแรง แต่เธอก็ดีดนิ้วดังแปะ
         วงแหวนเวทมนตร์มาป้องกันหมัดของฉันเอาไว้
         ซวยแล้ว
         ใช่ ซวยสุดๆ ถูกป้องกันได้แถมโดนสะท้อนแรงกระแทกกลับอีก
         ตัวฉันที่บินไม่ได้ จึงเสียเปรียบในการต่อสู้กลางอากาศ ทำให้ต้องล่วงหล่นสู่พื้นโลก
         ซะเมื่อไหร่ละ
         "พลังของข้าจงตื่นขึ้น การเดินรอบตัว ความสามารถรอบตัว การเดินแปดด้าน ความสามารถแปดอย่าง ความสามารถที่สามข้าขอระบุเป็น'เวทมนตร์' "
         ใช่แล้ว—ตัวหมากคิงในเกมหมากรุกนั้นสามารถเดินรอบตัวได้ ฉันที่เป็นราชาในกระดานก็ต้องมีความสามารถแปดอย่างคล้ายกับ’ตัวหมากคิง’ที่อ่อนแอที่สุดในสนามที่มีความสามารถน้อยกว่าพอนด้วยซ้ำ
         แต่ว่า—พลังของฉันไม่ใช่หมากรุกของจริง แต่เป็นแค่พลังจำลองเท่านั้น
         เพราะฉะนั้นสำหรับฉัน ราชาคือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในสนาม
         ทำให้ฉันในตอนนี้มีพลังสามในแปด
    —1.ความจำ สติปัญญา
    —2.ความสามารถทางร่างกายที่แข็งแกร่ง
    —3.เวทมนตร์
         และในที่สุดฉันก็จำได้ ถึงแม้จะแค่ลางๆก็เถอะ
         ทุกคน...ครอบครัวของผม...'เชสแฟมิลี่'ที่ผมสร้างขึ้นมา...
         ถึงแม้ทุกคนจะเป็นตัวหมากของฉัน แต่ฉันไม่เคยใช้ตัวหมากแล้วทิ้ง เพราะทุกคนคือครอบครัวของฉัน ต่อให้เสียสละใครไปฉันก็ไม่ให้พวกเขาตายไปอย่างสูญเปล่า เพราะทุกคนคือคนสำคัญ
         เพราะอย่างงั้นฉันถึงได้ร้องไห้
         ฉันด่าตัวเองในใจว่า”ไอ้บ้า”ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
         หนังสือ1,378เล่มที่ฉันอ่านมา ฉันสามารถจำได้ทุกตัวอักษร แต่คนสำคัญไม่ถึงสิบห้าคนกลับลืมไป
         รู้ว่ามันอาจจะไม่ใช่ความผิดของฉัน แต่ฉันก็รู้สึกผิดอยู่ดี เพราะฉะนั้นฉันก็อดไม่ได้
         ฉันต้องกลับไปเจอทุกคน
         ฉันที่จ้องตายไม่ได้ ใกล้ร่วงหล่นถึงพื้นดิ่งไปยังความตาย
         เพราะฉะนั้น—
         "ทำการลอกเลียนแบบเวทมนตร์!"
         บินสู่ท้องฟ้า ที่ไม่เคยบินมาก่อน
         บินทยานขึ้นไป สู่ระดับเดียวกันกับเธอ
         เสียงตบมือดังแปะ แปะ มาจากเธอ
         "สมกับที่ฉันคาดหวังเลยค่ะ KING"
         เธอดีดนิ้วดัง แปะ อีกครั้ง จากนั้นทัศนียภาพก็เปลี่ยนไปร่างกายรู้สึกหนักไปหมด ไม่สามารถบินได้อีกครั้ง ทำให้ฉันต้องสู่พื้นของโลกใบใหม่
         แต่แบบนี้ก็ไม่เลวเหมือนกันแฮะ
         "เอาละคะ ทิ้งเรื่องที่น่าเบื่อไปซะ ตอนนี้คุณได้เกิดใหม่แล้ว ต่อจากนี้ไปคุณจะเป็น'ราชาของโลกนี้'เมื่อไรก็ขึ้นอยู่คุณแล้ว"
         ใช่ ในเมื่อมาที่นี้แล้ว ก็จะไม่มีวันกลับไปได้อีก
         ในเมื่อมาที่นี้แล้ว ก็เหมือนกับเกิดใหม่
         ในเมื่อมาที่นี้แล้ว ก็ทิ้งเรื่องกลุ้มใจ เรื่องที่ค้างคาใจ ที่มีต่อโลกเก่าทิ้งไปซะ
         ลืมมันไปให้หมดนั้นแหละ
         โลกที่มีประชากรหลายพันล้านคนต่อให้เทคโนโลยีล้ำหน้าขนาดไหน ความคิดของคนก็จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง
         ความคิดของคนธรรมดา ความรู้สึกอิฉาต่อผู้มีพรสวรรค์ การเกลียดคนที่ต่างจากพวกตัวเอง
         ในเมื่อมีคนที่มาชอบ ก็ต้องมีคนที่มาเกลียด
         มีสงครามนับไม่ถ้วน พวกที่คิดว่าตัวเองถูกแต่การกระทำกลับตรงกันข้าม
         —โลกแบบนั้น มันก็เหมือนเกมที่ไม่มีวันจบนั้นแหละ แถมเป็นเกมที่น่าเบื่อ
         โลกสุดห่วยของแท้
         "เมทติ้งเช็ค!!"
         "หืม—"
         ร่างกายของเธอไม่ได้ร่วงหล่นเหมือนกับฉัน เธอใช้ปีกของเธอบินลงตามฉันมา
         "ขอบคุณนะ ที่ให้ฉันได้เกิดใหม่"
         เธอหยุดบินลง แล้วยกชายกระโปรงขึ้นแล้วคำนับอย่างกุลสตรีเช่นเคย
         "ด้วยความยินดีค่ะ '        ' "
         "เอ๊ะ!—"
         ตอนนั้นฉันไม่ได้ยินคำพูดสุดท้ายของเธอเพราะเสียงของลมได้พัดเสียงนั้นไป
         แต่ฉันรู้สึกเหมือนไม่ได้ยินคำนี้มานานแล้ว
         นานแค่ไหนก็ไม่รู้เหมือนกัน—
         —แต่ว่า
         "ย่า—ฮู้~ สนุกชะมัดเลยเว้ย!!!"
         ตื่นเต้นสุดๆไปเลย จะเป็นโลกแบบไหนกันนะ อย่างน้อยก็หาทุกคนให้เจอก่อนเป็นอันดับแรก
         แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
         "ระ โรงเรียนงั้นหรอ?"
         ลักษณะโครงสร้างเหมือนกับโรงเรียนม.ต้นที่ฉันเคยอยู่ จะเรียกว่าถอดแบบออกมาเลยก็ได้ แถมบริเวณโดยรอบก็ป่าไม้ยกเว้นทางเข้า และแถมมีหอพักอีก
         "โฮ่~ อย่างงี้นี่เอง ไม่นึกเลยว่าจะหาตัวเจอง่ายชะมัด"
         ต้องมีใครซักคนเป็นคนสร้างโรงเรียนนี้ขึ้นมาแน่และนั่นก็ต้องเป็นหนึ่งใน’เชสแฟมิลี่'ของฉันแน่ เพราะเท่าที่ฉันจำได้พวกเราทุกคนเรียนที่เดียวกัน จะเป็นไปไม่ได้หรอกที่จะเป็นความบังเอิญ
         “จะเป็นใครกันน่า~ ซักอยากรู้แล้วสิ"
         แต่ถ้าเป็นไปได้ฉันก็อยากเจอทุกคนพร้อมกัน
         ถ้าเจอทุกคน ก็จะได้ทำภารกิจต่อไปนั้นก็คือ

         ในโรงยิม เวลา19:42น. ในแท็บเล็ทPCของเรน
         เด็กชาย—เรนได้เล่าเรื่องของตัวเองให้ทุกคนฟังตรงหน้าเวที ทุกคนก็ตั้งใจฟังเรื่องของคนที่มาจากต่างโลกอย่างใจจดใจจ่อ
         สุดท้าย เด็กชายก็ลุกขึ้น
         "การเป็น'ราชาของโลก'นี้ไงล่ะ"
    อย่าลืมกดไลค์แฟนเพจMurakami
    เพื่อจะได้อัพเดตก่อนใครนะครับ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×