คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Love of destruction :: Chapter 1
Love of destruction :: Chapter 1 ♠
The beginning of the end.
จุดเริ่มต้นของจุดจบ
@ Japan – Tokyo
Time : 19.45 P.M.
ภายในห้องเช่าอพาร์ตเม้นต์ธรรมดาหนึ่งห้องน้ำ หนึ่งห้องโถงแบบที่เราเห็นกันได้ทั่วๆไป ราคาเพียง 2-3 หมื่นเยนในย่านโตเกียว ภายในห้องมีเพียงเตียงบ้านๆขนาดหนึ่งคนนอน เครื่องทำความร้อน ตู้เสื้อผ้า คอมพิวเตอร์พร้อมอินเตอร์เน็ตทั่วไปหนึ่งเครื่อง ชายหนุ่มร่างบางที่กำลังถือโทรศัพท์มือถือพร้อมกับเดินว่อนไปรอบห้อง มืออีกข้างปิดๆเปิดๆตู้เสื้อผ้าเพื่อแต่งตัว
Psycho’s
“ครับ....ครับ...ขอโทษครับกำลังไปครับ”
ผมที่กำลังนอนพุงกางอยู่ในห้องเช่าธรรมดาๆนี่ ถูกปลุกจาการบรรทมอันยาวนานด้วยเสียงโทรศัพท์มือถือจากสายที่ผมใช้ชื่อว่า ‘หัวหน้า’ ที่โทรมาถามในหัวข้อของเรื่องที่ว่า ‘เธอไม่สบายรึเปล่า? จะลางานมั้ย?’ น่ะครับ
เอ่อ ขอโทษครับแนะนำตัวช้าไป ผมชื่อ ‘ไซโค’ ฮาเซะคาวา ไซโค เป็นหนุ่มโสดอายุ 19 ปี ตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ที่มหาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในโตเกียวครับ พ่อแม่ผมเสียไปตั้งแต่ผมอายุ 15 ด้วยอุบัติเหตุ ตอนนี้ผมอยู่คนเดียวให้ห้องเช่าเล็กๆ ทำงานหาเลี้ยงตัวเองเป็นเด็กเสิร์ฟร้านคาราโอเกะกึ่งผับย่อมๆที่รปปงงิครับ
กริ๊ก!
ผมคว้าเสื้อโค้ดตัวโปรดแล้วล็อคกุญแจห้องเช่า เดินออกมาจากอพาร์ตเม้นต์ ปกติจะไปรถไฟเนื่องด้วยว่าวันนี้ผมสายจึงเปลี่ยนจากรถไฟเป็นโบกแท็กซี่แล้วตรงดิ่งไปยังที่ทำงานทันที
@ Karaoke cafes
“รับอะไรดีครับ?”
ตอนนี้ผมอยู่ในเวลาปฏิบัติงานครับ ผมได้รับมอบหมายหน้าที่ให้มารับออเดอร์ที่ห้อง 204 ภายในห้องเป็นผู้ชาย 5 คน เป็นผู้ชายวัยกลางคน สวมชุดสูทดูดีมีสกุลจำนวน 2 คน และอีก 3 คน...น่าจะเป็นเด็กมหาลัยนะครับ ผมยื่นรอรับออเดอร์อยู่ข้างๆเด็กหมาลัยที่แต่งตัวดูเป็นร็อคเกอร์ เจาะหูเป็นทางยาว ดูท่าทางอันตราย ป่าเถื่อน
“เอาซูชิชุดใหญ่บลาๆๆๆๆ”
ผมยืนจดเมนูไปได้สักพัก พูดโปรโมชั่นนู้นนี่นี่นั่นไปเรื่อยเปื่อยตามประสาเด็กเสิร์ฟ ก็พอจะรู้สึกถึงสายตาของผู้ชายที่นั่งข้างๆ ที่จ้องมองมาตลอดนะครับ แต่ผมก็พยายามที่จะทำเป็นมองไม่เห็นไป
“ครับ ออเดอร์ที่สั่งก็มีบลาๆๆๆๆ”
หมับ!
ในตอนที่ผมกำลังทวนรายการที่สั่งก็ถูกมือปริศนา...ไม่ล่ะ มันไม่ปริศนาหรอกครับ มือหนานั่นจับเข้าที่สะโพก แล้วค่อยเลื้อยต่ำลงจนเกือบจะถึงก้นผม - -**
ปึด!!
เสียงเส้นความอดทนขาดสะบั้น
ผลั๊วะ!!!
ผมส่งไปให้มันหนึ่งหมัดเน้นๆ!! พร้อมกับพ่นคำหยาบที่ยกมาทั้งซาฟารีไปให้มัน
“ไอ้เหี้ยโฮโม!! กูอย่ามายุ่งกับกูไอ้เวร!!”
ปาใบออเดอร์ใส่มัน แล้วเดินออกมาอย่างหัวเสีย ก้มหน้าก้มตาเดิน สบถคำหยาบไม่หยุดปากมาตลอดทาง
“เฮ้! หมดเวลางานแล้ว~ ขอบคุณสำหรับวันนี้นะทุกคน”
เสียงหัวหน้าบอกกล่าวขอบคุณกับพนักงานในร้านชุดสุดท้าย ซึ่งเป็นมารยาทที่ดีงามอย่างหนึ่ง แล้วก็หันไปนั่งซดเหล้าต่อ - -‘’ พร้อมกับที่ต่างคนต่างก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ซึ่งผมก็เป็นหนึ่งในนั้น
“เฮ้~ ไซคี ฉันไปส่งนายที่บ้านนะ”
เสียงสุดแสนจะลั้นลารั้งผมไว้ในตอนที่กำลังจะก้าวออกจากร้าน พอหันไปตามต้นเสียงก็พบหนุ่มหัวทอง ท่าทางเจ้าชู้เอาเรื่อง ผมไม่ค่อยอย่างยุ่งกับหมอนี่เท่าไหร่ เพราะสายตาที่ใช้มองผมมันน่าขยะแขยงน่ะครับ - -
อ่อ แล้วที่จริงผมชื่อ ไซโค ไม่ใช่ ไซคี แต่ที่เจ้าหมอนั่นมันเรียกผมว่าไซคีด้วยเหตุผลงี่เง่าๆว่า ‘นายมันสวยมากว่าสุดยอดนะ!’ ผมเองก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะถึงผมจะพูดไปก็คงไม่ได้ช่วยอะไร อีกอย่างผมไม่อยากเถียงกับเจ้าหมอนี่ให้มันได้ใจว่าผมสนิทกับมัน ผมจึงเลยปล่อยเลยตามเลย ก็คนมันจะเรียกนี่ครับ ทำไงได้...
แต่...มันย้ำปมด้อย(?)ผมนิดหน่อย - -*
“ไม่เป็นไรหรอกครับ อีกอย่างอพาร์ตเม้นต์ผมกับคาซึกิซังมันไปคนละทางกันนะครับ”
ตอบเลี่ยงๆแบบรักษาน้ำใจ
“แต่ว่านายกลับคนเดียวมันอันตรายนะไซคี~ หน้าตาน่ารักซะขนาดนี่เดี๋ยวก็โดนดักฉุดหรอก~”
มันว่าเสียงสูงพร้อมกับสายตาที่เตรียมขย้ำเหยื่อของสัตว์ป่า ราวกับพยัคฆ์เตรียมลากเหยื่อที่เล็งไว้มานานเข้าถ้ำไปกิน ซึ่งมันช่างตรงกันข้ามกับคำพูดข้างบนที่ฟังดูเหมือนเป็นห่วงเป็นใยผมเสียเหลือเกิน
“ขอบคุณสำหรับความหวังดีครับ”
พูดจบก็ก้มหัวให้นิดหน่อยเป็นการตัดบทเนียนๆ แล้วหันหลังให้กับร้านคาราโอเกะ เดินไปตามทางฟุตบาท
ตึก...ตึก....
ตอนนี้ผมงานเลิกแล้ว เหลือบมองนาฬิกาดิจิตอลบ้านๆก็พบกับตัวเลขที่บอกเวลาตอนนี้ว่าขึ้นวันใหม่แล้ว งานเลิกก็ตี 1 ครึ่งร้านปิด 5 ทุ่มครับ แต่เพราะผมเป็นเวรเก็บร้านเลยกว่าจะเก็บร้าน เก็บข้าวของต่างๆนาๆก็ปาไปตี 1 เข้าให้
ตึก....ตึก....
เสียงฝ่าเท้าที่เดินตามผมมาตั้งแต่ออกจากร้านคาราโอเกะ ตอนแรกผมนึกว่าคนเดินธรรมดาที่บังเอิญผ่านมาเส้นทางเดียวกัน แต่ตอนนี้เสียงมันยังดังตามผมมาจนเกือบ 20 นาที ผมหยิบโทรศัพท์ทำทีเป็นกดดูอะไรไปเรื่อยเปื่อยพลางแอบเหลือบสายตาไปดูข้างหลัง
หัวใจผมกระตุกวูบทันทีที่เห็นหน้าไอ้คนที่สะกดรอยตามผมมา เป็นลูกค้าในห้องเวรนั่น 204 เด็กมหาลัยที่ผมยื่นรอรับออเดอร์อยู่ข้างๆ แล้วทำเอามือโสโครกนั่นมาจับ........นั่นแหละครับ - -** เป็นความทรงจำที่ไม่ค่อยน่านึกเท่าไหร่
มือขวาของผมลวงไปที่กระเป๋าเสื้อโค้ด มือกำมีดแน่น พลางนึกในใจว่า ‘มึงแตะกูเมื่อไหร่ กูกะซวกมึงไส้แตกแน่!’
ผมเริ่มเปลี่ยนจากเดินทอดน่องเป็นเดินเร็ว เปลี่ยนจากเดินเร็วเป็นวิ่งเหยาะๆ และเปลี่ยนจากวิ่งเหยาะๆเป็นใส่เกียร์หมาครับ!!
ตึกๆๆๆๆๆ...
เสียงฝีเท้าของไอ้เวรนั่น จากที่เดินก็เปลี่ยนเป็นวิ่ง ผมก็วิ่งไปตามทางพลางหันหลังไปมองมันแต่ด้วยความสูงที่พระเจ้าโคตรลำเอียง ผมสูงแค่ 170 เป๊ะๆ! ในขณะที่มันต้อง 175 ขึ้นเเน่ๆ ด้วยช่วงขาของผมที่สั้นกว่ามันแล้วพระเจ้ากลั่นแกล้งผมซ้ำสองด้วยการเอาก้อนหินมาวางไว้ให้ผมสะดุดเล่น!!
ปึก!!
...พระเจ้าครับ ถ้าเป็นเวลาอื่นเอามาวางผมจะไม่ว่าเลย แต่มันต้องไม่ใช่ตอนนี้!!
“ไง~ คนสวยเจอกันอีกแล้ว”
ไอ้เวรที่ตามผมมาพูดเสียงหวานจนน่าขยะแขยง ผมลุกขึ้นยืนหันหน้าไปมองมันที่เดินย่างสามขุมเข้ามาใกล้ผม
ฟึ่บ!!
“มึง! อย่าเข้ามาใกล้กูนะ!!”
ผมว่าเสียงแข็งพร้อมกับมีดที่ผมกระชากออกมาจากกระเป๋าเสื้อโค้ด แขว่งไปมาใกล้ๆมันเป็นการขู่
“โอ๊ะโอ~ ของมีคมมันอันตรายนะจ๊ะ ไม่เหมาะกับหน้าสวยๆนี่เลย~”
มันว่าพร้อมกับที่ถอยไปตั้งหลักจากผมประมาณ 2 เมตร
“มึงตามกูมาทำไม!?!”
ผมกระชากเสียงถามมัน
“ก็เปล่า~ แค่จะชวนไปดื่มชา~”
มันว่าเสียงสูงกวนทรีนคนฟังไม่น้อย ถุ้ย! ดื่มชาบ้างมึงตอนตี 1 ครึ่งเหรอครับ!
ผมสบตากับมัน ประมาณว่ามึงจะเลิกยุ่งกับกูมั้ย ไม่เลิกกูแทงมึงแน่ ตอนแรกมันก็สบตาผมอยู่ แต่เพียงไม่นาน มันก็มองเลยผม...
..ไปที่ด้านหลังของผม...!!!
“อึก!!!”
หมาหมู่เหรอพวกมึง!!!!
จู่ๆก็มีมือปริศนาเอาผ้าที่ชุบน้ำเหม็นๆ มาปิดจมูกปิดปากผม ทันทีที่ได้กลิ่นเหม็นๆนั่นก็รู้ได้จากสัญชาตญาณดิบในตัวของมนุษย์ได้เลยว่าเป็นยาสลบ!!
รู้แบบนั้นผมก็กลั่นหายใจ ดิ้นไปดิ้นมา ใส่แรงทั้งหมดให้กับการดิ้นให้หลุดจากมือปริศนานั่น
“ดื้อนักนะมึง!!”
ไอ้เหี้ยที่ตามสะกดรอยผมมาตะคอกใส่เสียงดังพร้อมกับปล่อยหมัดหนักๆ เข้ามาที่ท้องของผมเต็มแรง
“อั่ก!!”
ด้วยความตกใจ หรือเพราะหมัดของมันทำเอาผมจุกหรือว่ามันดันลิ้นปี่ผมหรืออย่างไรก็ไม่อาจทราบครับ เล่นเอาผมสลักอากาศในตัวเอง เลยเผลอหายใจเอากลิ่นยาสลบเข้าไปเต็มปอด...
ดวงตาเริ่มลอย นัยน์ตาพลามัว ในหัวชาเกินกว่าที่จะรับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น...
“เอาล่ะพวกมึง! งานนี้รวยแน่ ฮ่าๆๆๆๆๆ”
นั่นคือประโยคสุดท้ายที่ผมได้ยิน ก่อนที่ทุกอย่างจะมืดสนิท...
...มืดสนิทจนน่ากลัว...
Silen-Nightingale
The End♠
• C H A P T E R 1 •
ความคิดเห็น