ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ชีวิตใหม่ในเกาหลี (Life in Korea)
“ก๊อกๆๆ”
\"คุณเมรินค่ะ ตื่นหรือยังค่ะคุณย่าให้มาตามลงไปข้างล่างค่ะ\"
อืม.....ใครมันมาโหวกเหวกแต่เช้านะ ฉันงัวเงียลุกขึ้นมาเพื่อไปเปิดประตูดูว่าใครมันมารบกวนเวลานอนอันมีค่าของฉัน.... =_=;
“อ้อคุณแม่บ้านนั่นเองมีอะไรเหรอค่ะ”
“คุณย่าให้มาปลุกคุณเมรินให้และให้บอกว่าคุณย่ารออยู่ข้างล่างค่ะ”
“เรียกเมย์เฉยๆก็ได้ค่ะ คุณแม่บ้าน แล้วคุณแม่บ้านพูดภาษาไทยได้ด้วยเหรอค่ะ”
“ฮึฮึ คนบ้านนี้พูดไทยได้ทั้งนั้นแหละค่ะ ดิฉันเองก็พูดได้ฟังได้พอสมควรแต่ไม่มากค่ะ” ...^O^
“อ้อดีจังค่ะ”
และด้วยความเคยชินฉันจึงเดินซึมกระทือลงไปข้างล่างในสภาพเพิ่งตื่นหน้ามันหัวหูยุ่งไปหมด แล้วภาพที่ฉันเจอะเข้าก็คือมีคนร่วมๆ 10 คนได้มาอยู่เต็มห้องรับแขกโดยมีคุณปู่กับคุณย่านั่งพุดคุยกับคนเหล่านั้นอยู่ท่าทางสนิทสนม และในนั้นก็มีไอ้ตัวแสบซองฮุนด้วย แต่พอทุกคนหันมาเห็นฉันความเงียบก็ปรากฏในห้องขึ้นอย่างทันที (ยกเว้นซองฮุนไอ้บ้านั่นนั่งทำหน้าเหมือนกลั้นหัวเราะเอาไว้เต็มที่) โอ๊ย....อายค่ะไม่ทราบจริงๆว่าจะมีคนอยู่มากขนาดนี้ฉันทำอะไรไม่ถูกเลยจะวิ่งหนีก็ดูท่าจะไม่ทันแล้ว และแล้วคุณย่าก็เข้ามาช่วยชีวิต
(((เอ่อ..นี่เมลิณี หรือเมริน ไงล่ะหลานสาวสุดที่รักของย่า))) ....^O^
“เมย์หนูทักทายญาติๆของเราหน่อยสิจ๊ะ”
แล้วหลังจากนั้นฉันก็ต้องทำความรู้จักหมู่มวลญาติทางพ่อทั้งหลายโดยมีย่าเป็นล่ามคอยช่วยแปลให้ทั้งๆที่หน้ายังไม่ได้ล้าง พนันได้ว่าฉันจำพวกเขาได้ไม่หมดหรอกแล้วคุณย่าก็บอกให้ฉันไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อจะได้ลงมาทานอาหารเช้ากับญาติๆ แต่ฉันว่าฉันไม่ได้กินข้าวหรอกฉันนั่งกินสากอยู่ต่างหากล่ะ(ความหมายของสากโปรดกลับไปอ่านได้ที่ Chepter 3. ) ฉันนั่งเอ๋อเพราะฟังพวกเขาคุยไม่รู้เรื่อง และไม่รู้จะคุยอะไรกับพวกเขาด้วย วันนี้ทั้งวันฉันกินสากไปหลายอันเลย เฮ่อ...อีกไม่นานฉันก็ไม่ต้องกินสากแล้วพรุ่งนี้ฉันก็จะเริ่มไปเรียนภาษาเกาหลีแล้ว
“โคตรจะแมน ทั้งๆที่โคตรจะแมนเธอยังไม่เอา ไม่ดีกว่าเค้าไม่มีค่าอันใด แล้วฉันก็โคตรจะอายคำที่พูดไป พระเอกแค่ไหนไม่มีค่าเลย....ตะดึ้งตึ้งตึ่งๆๆๆ)
เพลงนี้ฉันล่ะชอบชะมัด ...^^\"... ทำนองมันส์ดีจริงๆ (ดูเพลงที่ฟังก็พอจะเดาอุปนิสัยได้อยู่แล้ว) ฉันเลยเปิดเรียกขวัญกำลังใจให้ตัวเองตื่นตัวเสียหน่อยก็แหมวันนี้ฉันอุตส่าห์ตื่นเช้าเป็นพิเศษ ฮิฮิ...เพราะอะไรน่ะเหรอก็เพราะว่าฉันจะไปเรียนวันแรกน่ะสิ วันนี้ฉันเลยแต่งตัวสวยเป็นพิเศษเอาชุดที่แม่ซื้อให้ตั้งแต่ตอนวันเกิดมาใส่ ดูแล้วเหมือนลูกคุณหนูขึ้นมาบ้างแล้วแฮะ เมื่อวันก่อนฉันพลาดที่ใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ที่งานบ้านเพื่อนของซองฮุนทำให้หมอนั่นหัวเราะเยาะเอาได้แต่คราวนี้ไม่มีทางซะล่ะ หวังว่าวันนี้ฉันคงได้เจออะไรดีๆบ้างนะ ...^-^
“อะไรกันค่ะคุณย่า หนูต้องไปกับเขาอีกแล้วเหรอค่ะ” ...-O-
“ทำไมล่ะจ๊ะไปกับซองฮุนแหละดีแล้วลูกเขาจะได้ดูแลหนูไง สนิทกันเอาไว้เพราะต่อไปหนูก็ต้องเรียนมหาลัยเดียวกันกับซองฮุนนะมีอะไรจะได้ช่วยกันแนะนำไงจ๊ะ “ ...^^\'
“คุณย่าเล็กครับถ้าเมรินเขารังเกียจผมก็ไม่เป็นไรครับผมเข้าใจเขาคงไม่อยากจะสนิทกับญาติอย่างผม”
หน๋อย หน๋อย หน๋อย ไอ้มนุษย์สองหน้าเมื่อวานใครวะที่มันบอกว่าไม่อยากจะมายุ่งกับฉันน่ะ ฮึ้ย...แล้วฉันจะทำยังไงกับหมอนี่ดีนะ อยู่ๆจะให้ฉันกลายเป็นคนไม่ดีในสายตาคุณย่าอย่างนั้นเหรอ
“เมย์ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นนะค่ะคุณย่า เมย์แค่คิดว่าจะเป็นการรบกวนซองฮุนเขาเปล่าๆ”
เรื่องอะไรฉันจะยอมกลายเป็นคนไม่ดีในสายตาคุณย่า ไม่มีทางเสียล่ะนายซองฮุน อย่าลืมนะว่าฉันเป็นผู้หญิงเหมือนกันไอ้มารยาน่ะฉันก็มีไม่แพ้ผู้หญิงคนอื่นๆหรอกยะ ...^O^\"
“โถเรื่องแค่นี้เองมัวแต่เกรงใจกันไปเกรงใจกันมา ว่าไงล่ะซองฮุนน้องเขาเกรงใจเราน่ะไม่ได้รังเกียจเราสักหน่อย “
“เอ่อ....ผมว่าไม่ต้องเกรงใจผมหรอกฮะ ผมเต็มใจอยู่แล้วยังไงเมรินก็เป็นหลานสาวคุณย่าแล้วก็เป็นลูกพี่ลูกน้องของผมด้วย คนกันเองทั้งนั้นนะเมริน”
ประโยคหลังหันมาพูดกับฉัน “ผมเต็มใจอยู่แล้วฮะยังไงเมรินก็เป็นหลานคุณย่า”(ทำน้ำเสียงเลียนแบบ) แหวะ ...ไอ้ตอ...แหลคิดว่าคนอื่นจะซื่อบื้อเชื่อคนอย่างนายเหรอไง(ขอโทษนะค่ะคุณย่าหนูไม่ได้ว่าคุณย่านะค่ะ) +_+\"
“งั้นก็ดีแล้วจ๊ะ ย่าฝากดูแลน้องด้วยนะ ซองฮุน เมย์หนูเองก็ต้องทำตัวดีๆกับซองฮุนเขาด้วยนะจ๊ะอ้อแล้วก็ต้องเชื่อฟังพี่เขาด้วยนะ”
เฮอะๆๆๆบอกให้ฉันไปวิ่งแก้ผ้าหน้าบ้านยังจะดีเสียกว่าต้องมาทำตัวดีๆกับหมอนี่ พอขึ้นไปบนรถหมอนั่นก็ถอดหน้ากากออกทันที
“นี่เธอทำอะไรอยู่มิทราบฉันนั่งรอเธอตั้งเกือบชั่วโมงเชียวนะ หรือว่ามัวแต่งตัวอยู่ เฮ่อ...อย่างเธอน่ะแต่งไปก็เสียเวลาเปล่าฉันว่าเธอแต่งแบบเดิมแหละดีแล้ว นี่ยังมีเวลาอีกหน่อยฉันว่าเธอรีบไปเปลี่ยนชุดดีกว่า”
“อะไรนะ.....เรื่องอะไรนายมาวิพากษ์วิจารณ์การแต่งตัวของฉัน ฉันจะแต่งยังไงมันก็เรื่องของฉันอย่ามาเสือ.....” =_=\"
“เอาเป็นว่ามันเรื่องของฉันนายไม่ต้องมายุ่งฉันจะอัปลักษณ์ก็ไม่ได้ไปหนักศรีษะใคร”
“ตามใจฉันเตือนเธอแล้วนะ”
หลังจากนั้นตลอดทางที่ไปเรียนภาษาฉันก็ไม่พูดกับซองฮุนอีกแม้แต่คำเดียว (เซ็งโว้ยๆๆ) ฉันได้แต่ตะโกนอยู่ในใจ
“นี่ฉันจะมารับเธอตอนบ่าย 3 เธอรอฉันอยู่ที่นี่ห้ามไปไหนนะ”
“รับบ่าย 3 เหรอ ทำไมอ่ะฉันเรียนเสร็จตอนบ่าย 2 นะแล้วจะให้ฉันไปทำอะไรอยู่ล่ะตั้ง 1ชั่วโมง”
“ฉันมีธุระ เธอก็เดินเล่นชมเมืองแถวๆนี้แล้วกันแต่อย่าไปไหนไกลล่ะ พอบ่าย 3 แล้วกลับมารอฉันที่นี่โอเค๊”
ง่ะ....เอาอีกแล้วซองฮุนเล่นฉันอีกแล้วคราวที่แล้วก็บ้านเพื่อนคราวนี้ก็จะให้อยู่คนเดียวตั้งชั่วโมง แต่ช่างเถอะดีเหมือนกันฉันจะได้ไปเดินดูอะไรบ้าง เพราะตั้งแต่มาเกาหลีฉันยังไม่ได้ไปที่ไหนเลยถ้าหมอนั่นอยู่ฉันคงจะไม่ได้ไปไหนตามใจตัวเองอยู่ดี
บ่าย 2 แล้ว เหนื่อยจังเลยหิวด้วยฉันได้เพื่อนใหม่มา 2 คน.. >O<..คือ แชสเตอร์ กับ พาเมล่า แต่เธอให้เรียกสั้นๆว่าแพม แพมเป็นลูกครึ่งเกาหลีออสซี่ นิสัยดีทีเดียวเธอเองก็เพิ่งย้ายกลับมาอยู่ที่นี่กับแม่ หลังที่พ่อแม่เธอเลิกกัน (น่าเศร้าจริงๆ) แพมจะเรียนภาคอินเตอร์มหาวิทยาลัยเดียวกับฉันด้วยนะ (ดีใจจริงๆเลย) ส่วน เชสเตอร์ (อืมหล่อทีเดียวเชียวล่ะ) เป็นคนอเมริกันเขาได้ทุนจากมหาลัยในอเมริกาเพื่อมาศึกษาศิลปวัฒนธรรมของชาวเกาหลี (นักศึกษาแลกเปลี่ยนนั่นแหละ) ดีจริงๆมีเพื่อนตั้งสองคน ฉันเลยกะว่าจะชวนพวกนั้นไปหาอะไรกินเสียหน่อยก่อนที่ซองฮุนจะมา
“แพท กับเชสเตอร์เรียนเสร็จแล้วจะไปไหนหรือเปล่า เราไปหาข้าวกินกันไหม” (สปิ๊กปะกิทอีกครั้ง)
“ไม่นี่ เอาสิ เอาสิ”
พูดพร้อมกันเลยแฮะน่ารักจังเลยเพื่อนฉัน จะว่าไปแล้วฉันลืมอะไรไปอย่างนะ ......อืม.....ตายแล้วฉันยังไม่ได้โทรหาพวกนั้นเลย ตายแน่ป่านนี้พวกมันคงเป็นห่วงแย่แล้ว ตอนนี้พวกมันคงรวมหัวกันอยูที่บ้านแอนติวหนังสือกันอยู่แน่ๆ
“เอ่อเดี๋ยวก่อนนะ ฉันขอโทรศัพท์ก่อนนะพวกเธอไปรออยู่ในร้านไอติมตรงหัวมุมนั่นก่อนก็แล้วกันนะเดี๋ยวฉันตามไป”
“ฮัลโหล ใครยะโทรมาทำไมตอนนี้คนกำลังตั้งใจติวหนังสืออยู่ไม่รู้หรือไง” ...=_=;
“พอใจมีอะไรมั้ยนังอีฟ ฉันจะโทรใครจะทำไม” ...>.,<\'
“กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆนังเมย์ แกๆๆ...........อะไรนะไอ้เมย์โทรมาเหรอ มานี่เอามานี่ให้ฉันจัดการมันเอง(เสียงนังเก๋เพื่อนซี้อีกคน) “ ...>O<\'\"
“ตึ้งๆ...นังเมย์นี่แกนั่งเครื่องบินไปดวงจันทร์หรือไงยะ ไหนแกบอกว่าถึงที่นั่นแล้วจะโทรมาเลยไง นี่มัน4วันแล้วนะนี่แกนั่งเครื่องหรือแกเดินไปยะ”
เป็นไงล่ะค่ะเพื่อนฉันเจ็บไหมล่ะนี่เล่นเอาฉันเหวอะหวะไปเลยนะเนี่ย นังเก๋นี่มันขึ้นชื่อเรื่องกัดคนอื่นอยู่แล้ว(ปาก..จัด)..=_=;;
แล้วยังไม่รวมอีก3คนที่ยังไม่ได้คุยอีกนะค่ะขอบอกว่าร้ายกาจไม่แพ้กัน ก็ไม่อย่างงั้นจะเป็นเพื่อนฉันได้เหรอค่ะ.. ^^\"
“เออ ฉันขอโทษพอดียุ่งๆ นิดหน่อย เลยไม่มีเวลาโทรหาแกอย่าโกรธดิวะ”
“อ๋อเหรอแม่นักธุรกิจหย่าย(น้ำเสียงประชดประชันสุดฤทธิ์) แล้วเป็นไงบ้างมีอะไรเล่ามาให้หมดนะแก .....ตึ้งๆ..เอามานี่ฉันคุยมั่งดิ...อ๊าย...อย่าเพิ่งแย่งสิวะตะวัน”
“พวกแกก็กดสปริงโฟนสิวะโง่กันจริง”
หลังจากนั้นฉันเลยใช้ความสามารถพิเศษในการคุยโทรศัพท์เล่าให้พวกนั้นฟังทุกเรื่องภายใน 5 นาที
“โถนังพจ ..แล้วนี่คุณหญิงเล็ก เอ้ยไอ้คุณซองฮุนนั่นหล่อจริงๆหรือเปล่าวะ” ...^O^\'
“เออ แกเชื่อตาฉันได้ ฉันบอกว่าหล่อก็คือหล่อ”
“งั้นแกห้ามรังแกพี่ซองฮุนของฉันนะยะ แกยิ่งบ้าดีเดือดอยู่ด้วยเดียวเกิดไปทำร้ายใบหน้าหล่อเหลาเข้าเสียของเปล่าๆ ...>,.<\"\"
“เฮ้ยฉันนี่เพื่อนแกนะโว้ย พวกแกนี่มันบ้าผู้ชายจริงๆ” ...T^T\"\"
“โฮะๆๆ..แหงสิก็พวกฉันมันชมรมพิทักษ์คนหล่อนี่หว่า” ..>O<\"\"
เอากับมันสิค่ะไอ้พวกนี้นี่ขนาดพวกมันยังไม่ทันได้เห็นหน้าใครเลยมันยังเป็นไปได้ถึงเพียงนี้ เพื่อนรักหักผู้ชาย ..+_+
“แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นฉันกำลัง (fall in love)” ..>.<
“อย่างแกเนี่ยนะ fall in love กับใครวะกับใครเล่ามาให้หมดนะ” O.O
“ฉันไปเจอผู้ชายคนนึง หล่อลากใส้เลยแกเอ้ย น่ารักมักมาก (ทำเสียงต่ำๆ)ตกหลุมรักทันทีที่เห็นเลยแหละ “ ...>.<\"
“เหรอ เหรอ แล้วเค้าเป็นใครวะ แล้วแกได้ถามเบอร์เขาไว้เหรอเปล่า แล้วเค้าชื่ออะไรล่ะ เรียนที่เดียวกันเหรอ”
“เฮ้ยๆ ..ทีละคำถามดิวะ อย่าถามพร้อมกันตอบไม่ทัน” ...+_+\"\"
“เออๆ..แล้วเค้าเป็นใครวะ” (นังเก๋ถาม)
“ไม่รู้” ...T^T\'
“ชื่อกับเบอร์ล่ะได้ขอไว้ไหม” (นังตะวัน)
“ไม่รู้” ....T^T\"\'
“แล้วเค้าอายุเท่าไหร่รุ่นเดียวกันเปล่า” (นังอีฟกับนังแอน)
“ไม่รู้” ...TOT\"\"
“เฮ้ย...........” (ทุกคนพร้อมกัน) ...OoO
“เอาเป็นว่าเขาเดินผ่านฉันไปแค่นั้น จบ “
“แค่เนี้ยนะ เฮ่ออยู่ๆหนุ่มเกาหลีก็มากระชากหัวใจแมนๆของยัยเมย์ไปแล้วพระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกแหงๆ ฮ่าๆๆๆๆ” ...^O^\'
“หัวเราะอะไรกันวะ แล้วใครยะแมน เธอก็รู้ว่าฉันก็เหมือนผู้หญิงธรรมดาทั่วไปนั่นแหละอยากมีความรักอยากแต่งตัวสวยๆ แต่เพราะไอ้คำว่า จิตนาจของพวกแกมันค้ำคอฉันเอาไว้ฉันถึงได้ไม่มีแฟนกับเขาสักทีไงล่ะ” ...T^T\"
“เออฉันก็แค่ล้อเล่นน่าฉันรู้อยู่แล้วล่ะว่าแกแค่ห้าวนิดๆแรดหน่อยๆ”
“พวกแกนี่ท่าจะห่างมือห่างเท้าฉันมานานสงสัยถ้ากลับไปจะต้องเตือนความทรงจำเสียหน่อยล่ะมั้ง”
“ฮ่าๆๆๆๆ......แล้วเนี่ยนะอยากจะมีแฟน นังจิตนาจเอ้ย”
“แล้วแกจะทำยังไงทำไมแกไม่ไปทำความรู้จักกับเขาเอาไว้ก่อน แล้วนี่ไม่รู้ว่าจะได้เจอกันอีกหรือเปล่า โอกาสที่เราจะปิ๊งใครสักคนเนี่ยมันไม่ได้มีมาง่ายๆนะแก ถ้าคราวหน้าแกเจอเค้าอีกก็อย่าลืมคว้าเขาเอาไว้ล่ะ เพราะของแบบนี้มันไม่ได้มีมาบ่อยๆนะยะ”
“อืมฉันรู้ ขอบใจที่เตือนถ้าฉันเจอเค้าคราวหน้าฉันจะคว้าตัวเค้าเอาไว้เลยแหละ ว่าแต่พวกแกติวหนังสือกันอยู่เหรอ ฉันเองก็อยากจะไปติวกับพวกแกจัง ซิกๆๆ.. ฉันคิดถึงพวกแกจังเลย ฮือๆๆๆๆ” .T^T
ไม่นะฉันจะไม่ร้องไห้ ไม่ ไม่ ไม่ ซูด...... T.,T
“พวกฉันก็คิดถึงแกไอ้เมย์ ฮือๆๆๆ”
\"คุณเมรินค่ะ ตื่นหรือยังค่ะคุณย่าให้มาตามลงไปข้างล่างค่ะ\"
อืม.....ใครมันมาโหวกเหวกแต่เช้านะ ฉันงัวเงียลุกขึ้นมาเพื่อไปเปิดประตูดูว่าใครมันมารบกวนเวลานอนอันมีค่าของฉัน.... =_=;
“อ้อคุณแม่บ้านนั่นเองมีอะไรเหรอค่ะ”
“คุณย่าให้มาปลุกคุณเมรินให้และให้บอกว่าคุณย่ารออยู่ข้างล่างค่ะ”
“เรียกเมย์เฉยๆก็ได้ค่ะ คุณแม่บ้าน แล้วคุณแม่บ้านพูดภาษาไทยได้ด้วยเหรอค่ะ”
“ฮึฮึ คนบ้านนี้พูดไทยได้ทั้งนั้นแหละค่ะ ดิฉันเองก็พูดได้ฟังได้พอสมควรแต่ไม่มากค่ะ” ...^O^
“อ้อดีจังค่ะ”
และด้วยความเคยชินฉันจึงเดินซึมกระทือลงไปข้างล่างในสภาพเพิ่งตื่นหน้ามันหัวหูยุ่งไปหมด แล้วภาพที่ฉันเจอะเข้าก็คือมีคนร่วมๆ 10 คนได้มาอยู่เต็มห้องรับแขกโดยมีคุณปู่กับคุณย่านั่งพุดคุยกับคนเหล่านั้นอยู่ท่าทางสนิทสนม และในนั้นก็มีไอ้ตัวแสบซองฮุนด้วย แต่พอทุกคนหันมาเห็นฉันความเงียบก็ปรากฏในห้องขึ้นอย่างทันที (ยกเว้นซองฮุนไอ้บ้านั่นนั่งทำหน้าเหมือนกลั้นหัวเราะเอาไว้เต็มที่) โอ๊ย....อายค่ะไม่ทราบจริงๆว่าจะมีคนอยู่มากขนาดนี้ฉันทำอะไรไม่ถูกเลยจะวิ่งหนีก็ดูท่าจะไม่ทันแล้ว และแล้วคุณย่าก็เข้ามาช่วยชีวิต
(((เอ่อ..นี่เมลิณี หรือเมริน ไงล่ะหลานสาวสุดที่รักของย่า))) ....^O^
“เมย์หนูทักทายญาติๆของเราหน่อยสิจ๊ะ”
แล้วหลังจากนั้นฉันก็ต้องทำความรู้จักหมู่มวลญาติทางพ่อทั้งหลายโดยมีย่าเป็นล่ามคอยช่วยแปลให้ทั้งๆที่หน้ายังไม่ได้ล้าง พนันได้ว่าฉันจำพวกเขาได้ไม่หมดหรอกแล้วคุณย่าก็บอกให้ฉันไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อจะได้ลงมาทานอาหารเช้ากับญาติๆ แต่ฉันว่าฉันไม่ได้กินข้าวหรอกฉันนั่งกินสากอยู่ต่างหากล่ะ(ความหมายของสากโปรดกลับไปอ่านได้ที่ Chepter 3. ) ฉันนั่งเอ๋อเพราะฟังพวกเขาคุยไม่รู้เรื่อง และไม่รู้จะคุยอะไรกับพวกเขาด้วย วันนี้ทั้งวันฉันกินสากไปหลายอันเลย เฮ่อ...อีกไม่นานฉันก็ไม่ต้องกินสากแล้วพรุ่งนี้ฉันก็จะเริ่มไปเรียนภาษาเกาหลีแล้ว
“โคตรจะแมน ทั้งๆที่โคตรจะแมนเธอยังไม่เอา ไม่ดีกว่าเค้าไม่มีค่าอันใด แล้วฉันก็โคตรจะอายคำที่พูดไป พระเอกแค่ไหนไม่มีค่าเลย....ตะดึ้งตึ้งตึ่งๆๆๆ)
เพลงนี้ฉันล่ะชอบชะมัด ...^^\"... ทำนองมันส์ดีจริงๆ (ดูเพลงที่ฟังก็พอจะเดาอุปนิสัยได้อยู่แล้ว) ฉันเลยเปิดเรียกขวัญกำลังใจให้ตัวเองตื่นตัวเสียหน่อยก็แหมวันนี้ฉันอุตส่าห์ตื่นเช้าเป็นพิเศษ ฮิฮิ...เพราะอะไรน่ะเหรอก็เพราะว่าฉันจะไปเรียนวันแรกน่ะสิ วันนี้ฉันเลยแต่งตัวสวยเป็นพิเศษเอาชุดที่แม่ซื้อให้ตั้งแต่ตอนวันเกิดมาใส่ ดูแล้วเหมือนลูกคุณหนูขึ้นมาบ้างแล้วแฮะ เมื่อวันก่อนฉันพลาดที่ใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ที่งานบ้านเพื่อนของซองฮุนทำให้หมอนั่นหัวเราะเยาะเอาได้แต่คราวนี้ไม่มีทางซะล่ะ หวังว่าวันนี้ฉันคงได้เจออะไรดีๆบ้างนะ ...^-^
“อะไรกันค่ะคุณย่า หนูต้องไปกับเขาอีกแล้วเหรอค่ะ” ...-O-
“ทำไมล่ะจ๊ะไปกับซองฮุนแหละดีแล้วลูกเขาจะได้ดูแลหนูไง สนิทกันเอาไว้เพราะต่อไปหนูก็ต้องเรียนมหาลัยเดียวกันกับซองฮุนนะมีอะไรจะได้ช่วยกันแนะนำไงจ๊ะ “ ...^^\'
“คุณย่าเล็กครับถ้าเมรินเขารังเกียจผมก็ไม่เป็นไรครับผมเข้าใจเขาคงไม่อยากจะสนิทกับญาติอย่างผม”
หน๋อย หน๋อย หน๋อย ไอ้มนุษย์สองหน้าเมื่อวานใครวะที่มันบอกว่าไม่อยากจะมายุ่งกับฉันน่ะ ฮึ้ย...แล้วฉันจะทำยังไงกับหมอนี่ดีนะ อยู่ๆจะให้ฉันกลายเป็นคนไม่ดีในสายตาคุณย่าอย่างนั้นเหรอ
“เมย์ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นนะค่ะคุณย่า เมย์แค่คิดว่าจะเป็นการรบกวนซองฮุนเขาเปล่าๆ”
เรื่องอะไรฉันจะยอมกลายเป็นคนไม่ดีในสายตาคุณย่า ไม่มีทางเสียล่ะนายซองฮุน อย่าลืมนะว่าฉันเป็นผู้หญิงเหมือนกันไอ้มารยาน่ะฉันก็มีไม่แพ้ผู้หญิงคนอื่นๆหรอกยะ ...^O^\"
“โถเรื่องแค่นี้เองมัวแต่เกรงใจกันไปเกรงใจกันมา ว่าไงล่ะซองฮุนน้องเขาเกรงใจเราน่ะไม่ได้รังเกียจเราสักหน่อย “
“เอ่อ....ผมว่าไม่ต้องเกรงใจผมหรอกฮะ ผมเต็มใจอยู่แล้วยังไงเมรินก็เป็นหลานสาวคุณย่าแล้วก็เป็นลูกพี่ลูกน้องของผมด้วย คนกันเองทั้งนั้นนะเมริน”
ประโยคหลังหันมาพูดกับฉัน “ผมเต็มใจอยู่แล้วฮะยังไงเมรินก็เป็นหลานคุณย่า”(ทำน้ำเสียงเลียนแบบ) แหวะ ...ไอ้ตอ...แหลคิดว่าคนอื่นจะซื่อบื้อเชื่อคนอย่างนายเหรอไง(ขอโทษนะค่ะคุณย่าหนูไม่ได้ว่าคุณย่านะค่ะ) +_+\"
“งั้นก็ดีแล้วจ๊ะ ย่าฝากดูแลน้องด้วยนะ ซองฮุน เมย์หนูเองก็ต้องทำตัวดีๆกับซองฮุนเขาด้วยนะจ๊ะอ้อแล้วก็ต้องเชื่อฟังพี่เขาด้วยนะ”
เฮอะๆๆๆบอกให้ฉันไปวิ่งแก้ผ้าหน้าบ้านยังจะดีเสียกว่าต้องมาทำตัวดีๆกับหมอนี่ พอขึ้นไปบนรถหมอนั่นก็ถอดหน้ากากออกทันที
“นี่เธอทำอะไรอยู่มิทราบฉันนั่งรอเธอตั้งเกือบชั่วโมงเชียวนะ หรือว่ามัวแต่งตัวอยู่ เฮ่อ...อย่างเธอน่ะแต่งไปก็เสียเวลาเปล่าฉันว่าเธอแต่งแบบเดิมแหละดีแล้ว นี่ยังมีเวลาอีกหน่อยฉันว่าเธอรีบไปเปลี่ยนชุดดีกว่า”
“อะไรนะ.....เรื่องอะไรนายมาวิพากษ์วิจารณ์การแต่งตัวของฉัน ฉันจะแต่งยังไงมันก็เรื่องของฉันอย่ามาเสือ.....” =_=\"
“เอาเป็นว่ามันเรื่องของฉันนายไม่ต้องมายุ่งฉันจะอัปลักษณ์ก็ไม่ได้ไปหนักศรีษะใคร”
“ตามใจฉันเตือนเธอแล้วนะ”
หลังจากนั้นตลอดทางที่ไปเรียนภาษาฉันก็ไม่พูดกับซองฮุนอีกแม้แต่คำเดียว (เซ็งโว้ยๆๆ) ฉันได้แต่ตะโกนอยู่ในใจ
“นี่ฉันจะมารับเธอตอนบ่าย 3 เธอรอฉันอยู่ที่นี่ห้ามไปไหนนะ”
“รับบ่าย 3 เหรอ ทำไมอ่ะฉันเรียนเสร็จตอนบ่าย 2 นะแล้วจะให้ฉันไปทำอะไรอยู่ล่ะตั้ง 1ชั่วโมง”
“ฉันมีธุระ เธอก็เดินเล่นชมเมืองแถวๆนี้แล้วกันแต่อย่าไปไหนไกลล่ะ พอบ่าย 3 แล้วกลับมารอฉันที่นี่โอเค๊”
ง่ะ....เอาอีกแล้วซองฮุนเล่นฉันอีกแล้วคราวที่แล้วก็บ้านเพื่อนคราวนี้ก็จะให้อยู่คนเดียวตั้งชั่วโมง แต่ช่างเถอะดีเหมือนกันฉันจะได้ไปเดินดูอะไรบ้าง เพราะตั้งแต่มาเกาหลีฉันยังไม่ได้ไปที่ไหนเลยถ้าหมอนั่นอยู่ฉันคงจะไม่ได้ไปไหนตามใจตัวเองอยู่ดี
บ่าย 2 แล้ว เหนื่อยจังเลยหิวด้วยฉันได้เพื่อนใหม่มา 2 คน.. >O<..คือ แชสเตอร์ กับ พาเมล่า แต่เธอให้เรียกสั้นๆว่าแพม แพมเป็นลูกครึ่งเกาหลีออสซี่ นิสัยดีทีเดียวเธอเองก็เพิ่งย้ายกลับมาอยู่ที่นี่กับแม่ หลังที่พ่อแม่เธอเลิกกัน (น่าเศร้าจริงๆ) แพมจะเรียนภาคอินเตอร์มหาวิทยาลัยเดียวกับฉันด้วยนะ (ดีใจจริงๆเลย) ส่วน เชสเตอร์ (อืมหล่อทีเดียวเชียวล่ะ) เป็นคนอเมริกันเขาได้ทุนจากมหาลัยในอเมริกาเพื่อมาศึกษาศิลปวัฒนธรรมของชาวเกาหลี (นักศึกษาแลกเปลี่ยนนั่นแหละ) ดีจริงๆมีเพื่อนตั้งสองคน ฉันเลยกะว่าจะชวนพวกนั้นไปหาอะไรกินเสียหน่อยก่อนที่ซองฮุนจะมา
“แพท กับเชสเตอร์เรียนเสร็จแล้วจะไปไหนหรือเปล่า เราไปหาข้าวกินกันไหม” (สปิ๊กปะกิทอีกครั้ง)
“ไม่นี่ เอาสิ เอาสิ”
พูดพร้อมกันเลยแฮะน่ารักจังเลยเพื่อนฉัน จะว่าไปแล้วฉันลืมอะไรไปอย่างนะ ......อืม.....ตายแล้วฉันยังไม่ได้โทรหาพวกนั้นเลย ตายแน่ป่านนี้พวกมันคงเป็นห่วงแย่แล้ว ตอนนี้พวกมันคงรวมหัวกันอยูที่บ้านแอนติวหนังสือกันอยู่แน่ๆ
“เอ่อเดี๋ยวก่อนนะ ฉันขอโทรศัพท์ก่อนนะพวกเธอไปรออยู่ในร้านไอติมตรงหัวมุมนั่นก่อนก็แล้วกันนะเดี๋ยวฉันตามไป”
“ฮัลโหล ใครยะโทรมาทำไมตอนนี้คนกำลังตั้งใจติวหนังสืออยู่ไม่รู้หรือไง” ...=_=;
“พอใจมีอะไรมั้ยนังอีฟ ฉันจะโทรใครจะทำไม” ...>.,<\'
“กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆนังเมย์ แกๆๆ...........อะไรนะไอ้เมย์โทรมาเหรอ มานี่เอามานี่ให้ฉันจัดการมันเอง(เสียงนังเก๋เพื่อนซี้อีกคน) “ ...>O<\'\"
“ตึ้งๆ...นังเมย์นี่แกนั่งเครื่องบินไปดวงจันทร์หรือไงยะ ไหนแกบอกว่าถึงที่นั่นแล้วจะโทรมาเลยไง นี่มัน4วันแล้วนะนี่แกนั่งเครื่องหรือแกเดินไปยะ”
เป็นไงล่ะค่ะเพื่อนฉันเจ็บไหมล่ะนี่เล่นเอาฉันเหวอะหวะไปเลยนะเนี่ย นังเก๋นี่มันขึ้นชื่อเรื่องกัดคนอื่นอยู่แล้ว(ปาก..จัด)..=_=;;
แล้วยังไม่รวมอีก3คนที่ยังไม่ได้คุยอีกนะค่ะขอบอกว่าร้ายกาจไม่แพ้กัน ก็ไม่อย่างงั้นจะเป็นเพื่อนฉันได้เหรอค่ะ.. ^^\"
“เออ ฉันขอโทษพอดียุ่งๆ นิดหน่อย เลยไม่มีเวลาโทรหาแกอย่าโกรธดิวะ”
“อ๋อเหรอแม่นักธุรกิจหย่าย(น้ำเสียงประชดประชันสุดฤทธิ์) แล้วเป็นไงบ้างมีอะไรเล่ามาให้หมดนะแก .....ตึ้งๆ..เอามานี่ฉันคุยมั่งดิ...อ๊าย...อย่าเพิ่งแย่งสิวะตะวัน”
“พวกแกก็กดสปริงโฟนสิวะโง่กันจริง”
หลังจากนั้นฉันเลยใช้ความสามารถพิเศษในการคุยโทรศัพท์เล่าให้พวกนั้นฟังทุกเรื่องภายใน 5 นาที
“โถนังพจ ..แล้วนี่คุณหญิงเล็ก เอ้ยไอ้คุณซองฮุนนั่นหล่อจริงๆหรือเปล่าวะ” ...^O^\'
“เออ แกเชื่อตาฉันได้ ฉันบอกว่าหล่อก็คือหล่อ”
“งั้นแกห้ามรังแกพี่ซองฮุนของฉันนะยะ แกยิ่งบ้าดีเดือดอยู่ด้วยเดียวเกิดไปทำร้ายใบหน้าหล่อเหลาเข้าเสียของเปล่าๆ ...>,.<\"\"
“เฮ้ยฉันนี่เพื่อนแกนะโว้ย พวกแกนี่มันบ้าผู้ชายจริงๆ” ...T^T\"\"
“โฮะๆๆ..แหงสิก็พวกฉันมันชมรมพิทักษ์คนหล่อนี่หว่า” ..>O<\"\"
เอากับมันสิค่ะไอ้พวกนี้นี่ขนาดพวกมันยังไม่ทันได้เห็นหน้าใครเลยมันยังเป็นไปได้ถึงเพียงนี้ เพื่อนรักหักผู้ชาย ..+_+
“แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นฉันกำลัง (fall in love)” ..>.<
“อย่างแกเนี่ยนะ fall in love กับใครวะกับใครเล่ามาให้หมดนะ” O.O
“ฉันไปเจอผู้ชายคนนึง หล่อลากใส้เลยแกเอ้ย น่ารักมักมาก (ทำเสียงต่ำๆ)ตกหลุมรักทันทีที่เห็นเลยแหละ “ ...>.<\"
“เหรอ เหรอ แล้วเค้าเป็นใครวะ แล้วแกได้ถามเบอร์เขาไว้เหรอเปล่า แล้วเค้าชื่ออะไรล่ะ เรียนที่เดียวกันเหรอ”
“เฮ้ยๆ ..ทีละคำถามดิวะ อย่าถามพร้อมกันตอบไม่ทัน” ...+_+\"\"
“เออๆ..แล้วเค้าเป็นใครวะ” (นังเก๋ถาม)
“ไม่รู้” ...T^T\'
“ชื่อกับเบอร์ล่ะได้ขอไว้ไหม” (นังตะวัน)
“ไม่รู้” ....T^T\"\'
“แล้วเค้าอายุเท่าไหร่รุ่นเดียวกันเปล่า” (นังอีฟกับนังแอน)
“ไม่รู้” ...TOT\"\"
“เฮ้ย...........” (ทุกคนพร้อมกัน) ...OoO
“เอาเป็นว่าเขาเดินผ่านฉันไปแค่นั้น จบ “
“แค่เนี้ยนะ เฮ่ออยู่ๆหนุ่มเกาหลีก็มากระชากหัวใจแมนๆของยัยเมย์ไปแล้วพระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกแหงๆ ฮ่าๆๆๆๆ” ...^O^\'
“หัวเราะอะไรกันวะ แล้วใครยะแมน เธอก็รู้ว่าฉันก็เหมือนผู้หญิงธรรมดาทั่วไปนั่นแหละอยากมีความรักอยากแต่งตัวสวยๆ แต่เพราะไอ้คำว่า จิตนาจของพวกแกมันค้ำคอฉันเอาไว้ฉันถึงได้ไม่มีแฟนกับเขาสักทีไงล่ะ” ...T^T\"
“เออฉันก็แค่ล้อเล่นน่าฉันรู้อยู่แล้วล่ะว่าแกแค่ห้าวนิดๆแรดหน่อยๆ”
“พวกแกนี่ท่าจะห่างมือห่างเท้าฉันมานานสงสัยถ้ากลับไปจะต้องเตือนความทรงจำเสียหน่อยล่ะมั้ง”
“ฮ่าๆๆๆๆ......แล้วเนี่ยนะอยากจะมีแฟน นังจิตนาจเอ้ย”
“แล้วแกจะทำยังไงทำไมแกไม่ไปทำความรู้จักกับเขาเอาไว้ก่อน แล้วนี่ไม่รู้ว่าจะได้เจอกันอีกหรือเปล่า โอกาสที่เราจะปิ๊งใครสักคนเนี่ยมันไม่ได้มีมาง่ายๆนะแก ถ้าคราวหน้าแกเจอเค้าอีกก็อย่าลืมคว้าเขาเอาไว้ล่ะ เพราะของแบบนี้มันไม่ได้มีมาบ่อยๆนะยะ”
“อืมฉันรู้ ขอบใจที่เตือนถ้าฉันเจอเค้าคราวหน้าฉันจะคว้าตัวเค้าเอาไว้เลยแหละ ว่าแต่พวกแกติวหนังสือกันอยู่เหรอ ฉันเองก็อยากจะไปติวกับพวกแกจัง ซิกๆๆ.. ฉันคิดถึงพวกแกจังเลย ฮือๆๆๆๆ” .T^T
ไม่นะฉันจะไม่ร้องไห้ ไม่ ไม่ ไม่ ซูด...... T.,T
“พวกฉันก็คิดถึงแกไอ้เมย์ ฮือๆๆๆ”
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น