ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    โหรร้าย หวงรัก

    ลำดับตอนที่ #9 : 9. แล้วคุณจะปล่อยให้ผมมาเก้อหรือไง?

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 563
      32
      20 ก.ย. 63

    "ฉันไม่สนใจเรื่องค้าเพชรพลอยอะไรนั่นหรอก! ตอนนี้ฉันสนใจเรื่องดวงชะตากับโหราศาสตร์มากกว่า!"


    --------------------------------------------------


    "มีอะไรหรือครับ?" เจตน์ถามเมื่อเห็นนิพาดาที่เดินอยู่ข้างเขาจู่ๆก็หยุดชะงักแล้วยกมือขึ้นกอดอกเสียเฉยๆ "หรือว่าหนาว?"

    "ไม่รู้สิคะ? จู่ๆฉันก็รู้สึกขนลุกขึ้นมาเฉยๆ..อาจจะเพราะแอร์ในงานเย็นมากก็ได้ค่ะ"

    นิพาดาตอบไปตามน้ำทั้งที่ในใจรู้สึกตงิดๆชอบกล สัมผัสบางอย่างบอกเธอว่าตัวเองจะต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องวุ่นวายขนานใหญ่ในอีกไม่ช้า แย่จัง! แต่หวังว่าคงไม่ได้เกี่ยวกับตาปูดิบนิสัยแย่คนนั้นหรอกนะ "อ๊ะ!"
    "คลุมไว้กันหนาวก่อนดีกว่านะครับ" เจตน์ที่เพิ่งถอดเสื้อนอกคลุมให้หญิงสาวมองสีหน้าตกใจระคนขัดเขินของเธออย่างเอ็นดู

    "ขอบคุณค่ะ"

    นิพาดาพูดอุบอิบ ยอมรับความหวังดีของหัวหน้าหนุ่มไปอย่างเงียบๆด้วยไม่อยากตกเป็นเป้าสายตาใครๆโดยเฉพาะบริเวณลานจอดรถด้านหน้าของโรงแรมที่มีผู้คนค่อนข้างพลุกพล่านอย่างนี้ หญิงสาวรีบเดินและรีบก้าวเข้าไปนั่งในรถที่คุณบอสใจดีช่วยเปิดประตูให้ก่อนจะกล่าวขอบคุณอีกครั้งหนึ่ง ในใจรู้สึกโล่งขึ้นบ้างที่ไม่ต้องทนอึดอัดกับสายตาผู้คนที่มองมาอีก แต่หญิงสาวก็ไม่รู้ว่ายังมีสายตาของผู้ชายอีกคนที่ทั้งดุทั้งข้นทั้งกราดเกรี้ยวมองจ้องปฏิกิริยาของเธอและบอสหนุ่มไม่วางตา

    'ฮึ! ไหนว่าชอบผู้หญิงไม่ชอบผู้ชายไงล่ะ! แล้วมาอี๋อ๋อกันกับเจ้านายของตัวเองได้หน้าตาเฉย! ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้นนะแม่หมอดู..ต่อไปฉันจะไม่มองไม่สนเธออีกแล้ว! ก็แค่คนเคยเจอกันครั้งสองครั้ง..อย่าหวังเลยว่าฉันจะมาข้องแวะกับเธออีก! ลากันที!'


    ----------------------------------------------------


    หลายวันต่อมา...

    "น้องนิพ..คราวหน้าคราวหลังเวลาไปทำบุญที่ไหนช่วยบอกพี่บ้างสิ"

    "คะ?" นิพาดาเงยหน้าจากคอมพ์ขึ้นมองคนพูดด้วยแววตางงๆ

    "ก็น้องนิพนั่นล่ะจ้ะ..คราวหน้าไปทำบุญที่ไหนก็อย่าลืมชวนพี่ไปบ้างนะที่รัก พี่จะขอร่วมบุญด้วย..เผื่อจะมีประเภท Dark, tall & handsome man แวะมาหาพี่เหมือนหนูบ้างสักคนไง"

    "เหมือนหนูเนี่ยเหรอคะ?" นิพาดาถามอย่างยังไม่หายมึน

    "ใช่จ้า..ก็หนุ่มหล่อมาดเข้มที่นั่งรอหนูอยู่ที่ห้องรับรองหน้าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์นั่นไง พนักงานสาวๆบริษัทเราแทบไม่เป็นอันทำงานเลยนะรู้ไหม..เอาแต่แวะเวียนไปดูพ่อเจ้า
    ประคุณที่นั่นตลอดเลย"

    "มาหาหนู..พวก 18 มงกุฎหรือเปล่าคะพี่ยา?" นิพาดาพูดกับจริยาอย่างนึกขำขณะในใจคิดสงสัย "เดี๋ยวนี้คนที่มาดเท่ห์ๆแต่งตัวดีๆขับรถเก๋งหรูๆแต่เป็นโจรก็เยอะไปค่ะ"

    "ไม่ล่ะมั้ง..." จริยาชักระแวง "หน้าตาท่าทางออกจะดี..แถมชุดที่ใส่ก็ดูแบรนด์เนมขนาดนั้น พี่ว่าหน้าตาคุ้นๆด้วยซ้ำไป... หรือว่าหนูนิพจะให้พี่ไปเป็นเพื่อนด้วยดีมั้ย.. จะได้ช่วยกันดู?"

    "ไม่เป็นไรหรอกค่ะ" นิพาดาพูดด้วยเสียงกลั้วหัวเราะเมื่อเห็นท่าทางกระตือรือร้นเกินเหตุของเพื่อนร่วมงานรุ่นพี่ "เดี๋ยวนิพไปเองดีกว่า ถ้าเขาไม่ใช่พวก 18 มงกุฎหรือเซลล์ขายของแบบตื๊อไม่เลิก..หรือดูโหงวเฮ้งแล้วพอคบได้นิพจะรีบขอไลน์มาให้พี่ยาเลยนะคะ"

    "จ้า..สาธุ!"

    สองสาวหัวเราะให้กันอย่างขำๆก่อนที่นิพาดาจะเดินออกไปยังห้องที่ได้รับฟังมา

    แล้วหญิงสาวก็ได้เห็น '18 มงกุฎ' หรือ 'เซลล์ขายของ' ที่ว่านั่งหน้าบูดอยู่ในห้องรับรองกรุกระจกด้วยอาการตาขวาง

    "นายปูดิบ..." นิพาดาพึมพำออกมาเบาๆ

    "ขา? พี่นิพว่าไงนะคะ?"

    "ปละ..เปล่าจ้ะ" นิพาดาส่ายหน้าให้ประชาสัมพันธ์สาวรุ่นน้องที่ยังหันไปส่งยิ้มหวานให้คนหน้าบูดในห้องนั่นไม่เลิก

    "ใครหรือคะพี่นิพ? หล่อยังกับพระเอกหนังแน่ะ? หล่อพอๆกับบอสเราเลยนะเนี่ย"

    "แต่พี่ว่าบอสกับพระเอกหนังหล่อกว่านี้เยอะเลยนะจ๊ะ แล้วคนหล่อบางคนน่ะก็คบไม่ได้หรอก" นิพาดาบอกก่อนจะเดินเข้าไปเคาะผนังกระจกเบาๆแล้วจึงเปิดประตูออก "สวัสดีค่ะ คุณมาพบฉันหรือคะ?"

    "แล้วคนที่เขาไปบอกคุณน่ะเขาพูดว่ายังไงล่ะ!?" ภูดิศพูดเสียงห้วนพลางชักสีหน้า แต่เมื่อเห็นหญิงสาวชะงักแล้วหันหลังกลับก็รีบเอ่ยขึ้นใหม่ทันควัน "คุณแม่ผมให้มาบอกคุณน่ะ!"

    นิพาดาหันกลับมาอีกครั้ง

    "คือ..." ภูดิศเริ่มไปต่อไม่ถูกเมื่อเห็นสายตาสงสัยที่หญิงสาวมองมา ก็คุณแม่ของเขาน่ะรู้เรื่องด้วยที่ไหนกัน? เขาก็แค่พูดไปส่งๆให้เธอหันกลับมาก็เท่านั้น "ผมกำลังจะเปิดโรงแรมแห่งใหม่น่ะ..แต่คุณก็รู้ว่าเรื่องพวกนี้ทำเลเป็นสิ่งสำคัญ คุณแม่ก็เลยให้ผมมาปรึกษาคุณก่อน"

    "ปรึกษาฉันหรือคะ? แล้วทำไมคุณแม่คุณถึงไม่...?"

    "คุณแม่บอกว่าโทรหามันไม่สุภาพน่ะสิ!" ภูดิศแสร้งพูดคล้ายขุ่นใจ "เดิมท่านจะมาหาคุณด้วยตัวเองด้วยซ้ำ..แต่พอดีผมต้องผ่านมาทำธุระแถวนี้อยู่แล้วก็เลยต้องมาแทน"

    "แล้วคุณทราบที่ทำงานของฉัน...?"

    "มันเป็นความลับด้วยหรือไงบริษัทของคุณน่ะ? จำไม่ได้แล้วหรือว่าแม่ผมเป็นเพื่อนกับคุณลุงของเจ้าของบริษัทนี้?"

    "อ้อ..ค่ะ" นิพาดาพยักหน้าอย่างงงๆ "แต่ว่า..ฉันไม่ได้รับดูหมอหรือดูทำเลอะไรหรอกนะคะ วันก่อนคุณน้ารวีแค่นึกสนุกก็เลยชวนไปคุยด้วยแค่นั้นเอง"

    เห็นหญิงสาวรีบออกตัวเป็นเชิงปฏิเสธ ตนอย่างนั้นภูดิศก็ยิ่งฉุน "แล้วคุณจะปล่อยให้ผมมาเก้อหรือไง? แล้วถ้าผมเดินออกไปเฉยๆจะไม่ยิ่งเสียหน้าหรือ?"

    นิพาดาอยากบอกเหลือเกินว่าในบริษัทนี้รวมทั้งในโลกใบนี้..ใช่ว่าทุกคนจะต้องรู้จักเขาไปหมดหรอกนะ อย่างน้อยก็ยังมีพี่ยากับน้องประชาสัมพันธ์สองคนนั่นล่ะ..รวมเธอด้วยอีกคนที่ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร ถึงจะพอรู้ว่าคงเป็นพวกไฮโซคนหนึ่งก็เถอะ แต่หญิงสาวก็ได้แต่เก็บเงียบไว้ด้วยความรู้สึกเซ็งอย่างบอกไม่ถูก นี่สินะสาเหตุที่ทำให้เธอขนลุกถึงขนาดนั้นเมื่อวันก่อน

    "ตกลงว่าไงล่ะคุณ? ผมต้องรีบไปทำงานต่อนะ"

    ปากบ่นแถมหน้านิ่วคิ้วขมวดซ้ำอีกแต่ดวงตาชายหนุ่มกลับลอบสำรวจคนตรงหน้าด้วยความรู้สึกแปลกๆในใจอย่างไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ วันนี้ยัยหมอดูสวมเสื้อแขนลูกไม้สีครีมคู่กับกระโปรงสีน้ำเงินแบบเรียบๆที่ดูยังไงภูดิศก็ยังรู้สึกว่าโบราณอยู่ดี แต่ทำไมอีกใจของเขาถึงคิดว่าหล่อนแต่งตัวได้น่ารักดีนะ? เจอกัน 3 ครั้งเจ้าหล่อนแปลงร่างไม่เหมือนกันเลยสักแบบ แต่ที่แปลกกว่าผู้หญิงตรงหน้าก็คงเป็นตัวเขานี่ล่ะ ทั้งที่เคยตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับคุณเธออีก แล้วทำไมเขาถึงต้องถามหาคุณบัณฑิตคนนั้นจากคุณแม่..แล้วให้เลขาส่วนตัวสืบค้นเรื่องของเจตน์จนรู้ที่อยู่ของบริษัทนี้? แถมยังขับรถมาหายัยหมอดูหน้ายุ่งจนถึงที่นี่ด้วยล่ะ? เพราะอะไรกัน?

    "คือ..ฉันกำลังทำงานอยู่นะคะ" นิพาดาพูดอย่างไม่รู้จะจัดการยังไงกับคนตรงหน้าดี ที่จริงเธอจะปฏิเสธไปตรงๆเลยก็ยังได้.. แต่เมื่อนึกถึงคุณป้าท่าทางใจดีที่อยู่ในงานวันก่อนในใจก็รู้สึกผิดขึ้นมาเสียอย่างนั้น

    "ดี! งั้นผมจะไปบอกคุณแม่ก็แล้วกันว่าหมอดูที่ท่านหวังจะปรึกษาด้วยนักหนาน่ะไม่ยอมตอบรับ..ไม่เห็นความสำคัญของท่าน"

    ภูดิศพูดเสียงหนักพลางขยับลุกขึ้นเดินไปที่ประตูด้วยท่าทางฉุนเฉียวแต่กลับแอบนับเลขอยู่ในใจ

    1...

    2...

    "ก็ได้ค่ะ"

    นิพาดาพูดขึ้นมาก่อนที่ชายหนุ่มจะเปิดประตูออกไปข้างนอก และแน่นอนว่าหญิงสาวไม่ทันเห็นแววตาทั้งคู่ที่ลุกวาบขึ้นด้วยความสาสมใจนั่น "ถ้างั้นขอเบอร์โทรของคุณแม่คุณทิ้งไว้ได้ไหมคะ? เอาไว้ให้ฉันเสร็จงานแล้วจะโทรหาท่านเอง"

    "ก็แค่นั้น!"


    ------------------------------------------------


    "สวัสดีค่ะ ฉันนิพาดาค่ะ..ขอเรียนสายกับคุณพรรณนิภา..."

    "คุณแม่ไม่อยู่หรอก ป่านนี้คงกำลังจะขึ้นเครื่องที่แอร์พอร์ต..ท่านจะบินไปที่อิตาลีกับเพื่อนๆน่ะ คุณคุยกับผมแทนแล้วกัน"

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×