ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    โหรร้าย หวงรัก

    ลำดับตอนที่ #13 : 13. "คุณ..เคยนึกชอบเพศเดียวกันบ้างมั้ย..?"

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 374
      20
      27 ก.ย. 63

    "แหม..ใครเขาจะกล้าแย่งของกับดิศได้ล่ะค่ะ..ไม่เจียมตัวน่ะสิ แต่เมย์ว่า..ถ้ายอมให้ได้ดิศก็ยอมให้ไปเถอะค่ะ ไปแย่งของกับอันธพาลอย่างนั้นน่ะเสียเกียรติออก"

    "ไม่ได้!"

    "ดิศ!?" เมธินีหน้าเสียเป็นครั้งที่สองกับน้ำเสียงห้วนและแววตาดุที่ชายหนุ่มมีให้ "นี่ดิศเป็นอะไรไปคะ..วันนี้ดูคุณอารมณ์เสียตลอดเลย?"

    "คุณกลับไปก่อนเถอะ" ภูดิศนิ่วหน้าขณะตัดบทแต่ไม่ยอมตอบคำถาม "ตอนนี้ผมเหนื่อยมากแล้ว..อยากจะพักสักหน่อย"

    "งั้นให้เมย์อยู่เป็นเพื่อนดีมั้ยคะดิศ? เมย์จะได้ช่วยคุณ... เอ่อ..ก็ได้ค่ะ..." เมธินีพยายามอดทนกับความผิดหวังแล้วฝืนยิ้มหวานส่งให้คนตรงหน้าที่ใช้นัยน์ตาแข็งกร้าวปฏิเสธตน ก่อนจะรับปากทั้งที่ไม่เต็มใจนัก "ถ้างั้น..เมย์กลับก่อนนะคะ"

    "เดี๋ยว!"

    "คะดิศ?" เมธินีหันกลับมาอย่างดีใจ

    "คุณ..เคยนึกชอบเพศเดียวกันบ้างมั้ย..?" ภูดิศเอ่ยถามออกมาด้วยท่าทางตะกุกตะกักนิดหน่อย "แล้วก็..ผู้หญิงส่วนใหญ่เขาอยากได้อะไรเป็นของขวัญวันเกิดกันแน่?"

    "คะ?"

    "ก็พวกหญิงรักหญิงอะไรนั่นไง?" ชายหนุ่มออกอาการหงุดหงิดขึ้นอีก "คุณเคยคิดอะไรแบบ..นึกชอบพอหรือรักใคร่อยากใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันกับผู้หญิงเหมือนกันบ้างหรือเปล่า?"

    "ไม่มีทางหรอกค่ะ เมย์ไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมอะไรแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว..ดิศก็น่าจะรู้ เมย์น่ะเป็นผู้หญิง 100% นะคะ..แล้วก็ชอบผู้ชายที่เป็นแมนแท้ๆเท่านั้นค่ะ" เมธินีบอกพลางส่งสายตาเป็นประกายให้คนตรงหน้า "ว่าแต่ที่ดิศถามอย่างนี้..กำลังสงสัยอะไรเมย์อยู่หรือเปล่าคะ? หรือว่าดิศไปได้ข่าวลืออะไรผิดๆเกี่ยวกับเมย์มาก็เลยแคลงใจ ถ้าเป็นเรื่องยัยเลขาฯคนเก่าของเมย์ที่มีข่าวลือกันว่าเป็นทอมอะไรนั่นล่ะก็..ดิศวางใจเถอะค่ะ เมย์ไล่ออกไปตั้งนานแล้วล่ะ"

    "........"

    "ส่วนเรื่องของขวัญวันเกิด..." เมธินีพูดต่อเบาๆขณะนึกหวานชื่นอยู่ในใจเมื่อคิดถึงวันคล้ายวันเกิดของตัวเองที่ใกล้เข้ามาทุกที "ผู้หญิงเราทุกคนก็ชอบของสวยๆงามๆกันทั้งนั้นล่ะค่ะดิศ ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้ช่อใหญ่ น้ำหอมฝรั่งเศสสักขวด หรือไม่ก็พวกเพชรพลอยหรือเครื่องสำอางดีๆ..."

    แต่ภูดิศก็ยังคงนิ่งเฉย

    "คือ..ที่จริงแล้วจะเป็นอะไรก็ได้ค่ะ" เมธินีเหมือนจะสูญเสียความมั่นใจไปนิดจนต้องเปลี่ยนมาพูดอีกอย่าง "ขอแค่ให้เป็นของที่คนที่เราชอบให้มา..เมย์ก็ว่ามันเป็นของดีที่สุดแล้วล่ะค่ะ"

    "แค่เป็นของที่คนที่ชอบให้มาแค่นั้นก็พอแล้วงั้นเหรอ?" ภูดิศพึมพำด้วยสีหน้าครุ่นคิด "นั่นสินะ... มิน่าล่ะ..ยัยนั่นถึงได้ทั้งยิ้มทั้งกอดยัยคนให้เสียขนาดนั้น..."

    "ยัยนั่นหรือคะ...?" เมธินีได้ยินเข้าจนได้

    "ใช่..."

    "ยัยนั่นไหนกันเหรอคะดิศ?" เมธินีถามขณะหน้าเสียอีกเป็นครั้งที่ 3

    "ก็ยัยหมอดูนั่นไงล่ะ!" ภูดิศเผลอหลุดเสียงห้วนออกมาซ้ำ "ได้ของขวัญอะไรมาก็ยังไม่รู้เลย..แต่ยิ้มแป้นเสียจนออกนอกหน้าไปแล้ว!"

    "นี่ที่ดิศถามถึงของขวัญวันเกิดเมื่อกี้.. ดิศหมายถึงวันเกิดของยัยหมอดูที่เราเคยเจอในงานอัญมณีคราวก่อนนั่นน่ะหรือคะ?" ทั้งที่ค่อนข้างแน่ใจเกือบเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วว่าตนเข้าใจผิดมาตั้งแต่ต้น..แต่เมธินีก็ยังอดถามยืนยันไม่ได้ "แล้วที่ดิศบอกว่าชอบเพศเดียวกันนั่นก็ไม่ได้หมายถึงเมย์..แต่ว่าเป็น..."

    "ไม่มีอะไรหรอก เผอิญคุณแม่ฝากของขวัญไปให้ผู้หญิงคนนั้นน่ะ แต่เขาดันไม่ยอมรับขึ้นมา..ผมก็เลยไม่รู้จะบอกคุณแม่ยังไงดี" ภูดิศพยายามกล่าวแก้ "เมย์จะกลับแล้วไม่ใช่เหรอ? กลับไปก่อนเถอะ..ผมก็จะไปพักแล้วเหมือนกัน"

    ชายหนุ่มพูดจบก็หันหลังเดินขึ้นบันไดจากไปเฉยๆ ขณะที่เมธินีได้แต่ยืนกำมือแน่นด้วยความเจ็บใจและอัดอั้นตันใจอยู่อย่างนั้น


    -------------------------------------------------


    เช้าวันถัดมา

    "นิพาดาอยู่ไหม?"

    "อ้าว! คุณนั่นเอง..วันนี้มาแต่เช้าเลยนะคะ"

    พิมพิตาที่ยืนรดน้ำต้นไม้อยู่หน้าบ้านหรือที่จริงก็คือหน้าห้องเช่าเล็กๆของตนหันมาส่งยิ้มกว้างเมื่อเห็นชายหนุ่มหน้าตาดีเจ้าเก่ายืนบึ้งตึงอยู่หน้าประตูรั้วไม่ต่างจากอาการขึ้งเคียดเมื่อวาน "ยัยนิพยังนอนหลับอยู่เลยค่ะ พอดีเมื่อคืนเรา..เอ่อ..อยู่เล่นกันจนดึก นิพก็คงจะเพลียน่ะค่ะ"

    พิมพิตาเริ่มใส่สีตีไข่ขณะนึกชมฝีมือการปั้นเรื่องให้ใหญ่กว่าความจริงของตนอยู่ในใจ

    "ผมมีธุระจะคุยกับนิพาดาน่ะ ธุระด่วน!"

    ภูดิศพูดด้วยเสียงห้วน และถ้าดูไม่ผิด..เหมือนพิมพิตาจะเห็นว่าชายหนุ่มกัดกรามแน่นเสียด้วยสิเมื่อได้ยินเธอพูดอย่างนั้นออกไป! แต่ที่เธอยอมอภัยให้กับเสียงกระชากๆแบบนั้นได้ก็เพราะ..ยิ่งดูไปอีตาคนนี้ก็ยิ่งโคตรหล่อ ช่างเหมาะเจาะกับยัยนิพจริงๆเลยนะเนี่ย!

    "เรียกน่ะเรียกได้ค้าา..." สาวร่างสูงคิดไปพลางพูดยานคาง "แต่ไม่รู้ว่านิพจะยอมตื่นมั้ยสินะ? ยัยคนนี้ยิ่งงอแงอยู่ด้วย..เดี๋ยวดีไม่ดีฉันเข้าไปเรียกจะพาลไม่ยอมปล่อยให้ฉันออกมาจากห้องเสียอีกน่ะสิคะ"

    ใช่! พิมพิตากำลังพยายามกลั้นหัวเราะแทบแย่เมื่อเห็นคนหล่อตรงหน้าเม้มปากแน่นราวกับผู้หญิงขณะที่ตาดุข้นบอกชัดว่ากำลังไม่พอใจคำพูดกำกวมของเธอมากแค่ไหน แต่ว่านะ..แค่นี้มันจะไปสนุกอะไรกัน!?

    "แล้วธุระของคุณน่ะสำคัญมากมั้ยคะ? ถ้าไม่สำคัญมากนักก็คงต้องรอแล้วล่ะค่ะ เพราะฉันไปต่างจังหวัดเพิ่งกลับมาถึงเมื่อวานคุณก็เห็น... เพิ่งจะตัวติดกับนิพได้ไม่กี่ชั่วโมงเอง..ยังไม่อยากแยกไปไหนเลย ธุระของคุณก็คงต้องเลื่อนไปอีกสักวันสองวัน ไม่สิ..น่าจะสักอาทิตย์สองอาทิตย์นั่นเลย..."

    ได้ผล! ตอนนี้ดูเหมือนอุณหภูมิของตาหน้าหล่อนี่จะขึ้นสูงได้เรื่องแล้วสิ! ก็ตาเขียวข้นเสียขนาดนั้น! พิมพิตาคิดขณะปากยังคงพูดไม่หยุด

    "แล้ววันนี้นิพก็สัญญาว่าจะทำอะไรอร่อยๆให้ฉันกินด้วย คุณคงยังไม่รู้สินะคะว่าฝีมือทำอาหารของนิพน่ะสุดยอดแค่ไหน? คนอะไรก็ไม่รู้..หวานไปหมดทั้งเนื้อทั้ง..."

    "พิม..กำลังพูดกับใครอยู่น่ะ? เอ๊ะ! คุณ..."
    "คุณแม่ให้มารับคุณไปเดี๋ยวนี้เลย"

    เสียงพูดของภูดิศกระด้างอย่างชัดเจน แววตาดุดันของชายหนุ่มจ้องมองร่างบางในชุดลำลองสบายๆตรงหน้าเขม็งขณะคิดเปลี่ยนแผนในใจกะทันหัน เดิมเขาคิดว่าจะลองมาคุยกับเธอดีๆแล้วค่อยเกลี้ยกล่อมให้ไปดูทำเลใหม่กับเขา แต่เท่าที่ได้ยิน..ยัยหมอดูนี่มีเพื่อนตัวสูงหน้าตาน่าชกนั่นอยู่ด้วยแล้วคงไม่ยอมไปไหนกับเขาหรอก! ก็ได้! ไม่เป็นไร! งั้นก็ลองดูสิว่าใครจะแน่กว่ากัน!?

    "รับฉัน...? แต่เมื่อวานฉันบอกไปแล้วนี่คะว่า..."

    "สรุปว่าคุณจะไม่ยอมไปใช่มั้ย? งั้นเดี๋ยวช่วงเก้าโมงตอนคุณแม่โทรมาใหม่..ผมจะบอกท่านก็แล้วกันว่าคุณไม่ว่างคุยด้วย ท่านจะได้ไม่ต้องรีบโทรทางไกลมาให้เสียเวลาเปล่าๆ ผมกลับล่ะ!"

    "เดี๋ยวสิคุณ!" นิพาดาเรียกไว้ก่อนจะพูดต่อด้วยสีหน้าลำบากใจ "คุณพอจะรู้มั้ยคะว่าคุณป้าจะคุยเรื่องอะไรกับฉัน...? หรือว่าเรื่องไปดูที่...?"

    "ไม่รู้" ภูดิศตอบทันควันก่อนจะแสร้งยกมือขึ้นดูเวลาเพื่อกลบเกลื่อนแววตาของตน ก็เขาจะไปรู้ได้ยังไงกันในเมื่อที่พูดมาทั้งหมดนั่นน่ะ..เขากุขึ้นมาทั้งนั้น "ตกลงว่าไง?"

    "ฉัน..."

    "นิพไม่อยากไปก็ไม่ต้องไปสิ วันนี้เราจะได้ไปดูหนังด้วยกันไงล่ะ" พิมพิตายุส่ง แต่แน่นอน..เธอไม่คิดหรอกว่าคนขี้เกรงใจอย่างนิพาดาจะปฏิเสธฝ่ายนั้นได้ ว่าแต่.. เธอดูจะเชียร์ให้ตานี่มาจีบเพื่อนของตัวเองมากเกินไปหรือเปล่านะ?

    "งั้น..คุณรอสักครู่แล้วกัน ฉันขอไปเปลี่ยนเสื้อ..."

    "ผมเป็นนักธุรกิจนะคุณ ไม่มีเวลามานั่งรอผู้หญิงแต่งตัวหรอก!" ภูดิศส่งตาข้นให้หญิงสาวตรงหน้า เปล่า..เขาไม่ได้เขี้ยวถึงขนาดนั้นหรอก..ก็แค่เห็นว่าชุดสีฟ้าที่เธอสวมอยู่ตอนนี้ก็ดูน่ารักดีเหมือนกันก็เท่านั้น อีกอย่าง ใครจะรับประกันได้ล่ะว่าตอนที่เธอเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าจะไม่เกิดเปลี่ยนใจขึ้นมาอีก

    "ถ้างั้นพิม..."

    "ไปเหอะ ไม่ต้องห่วงพิมหรอก" พิมพิตาบอกเพื่อนสาว "แต่ว่าขากลับต้องซื้อขนมมาฝากพิมด้วยนะ"

    "ได้สิ" นิพาดารับปากด้วยรอยยิ้มหวาน แน่นอนว่าเห็นแล้วภูดิศก็ยิ่งหน้าบึ้งเข้าไปอีก..ก็เขายังไม่เคยได้รับยิ้มอย่างนั้นจากเธอสักครั้งเลยนี่นะ!

    "ผมเดินออกไปก่อนแล้วกัน..ขี้เกียจรอ!"
    ส่งเสียงห้วนปิดท้ายแล้วชายหนุ่มก็หันหลังเดินอ้าวจากไปในทันที นิพาดาที่เพิ่งคว้ากระเป๋าถือและออกมาสวมรองเท้าอย่างเร็วที่สุดแล้วจึงถึงกับชะงักกึก

    "ต่อไปนิพคงต้องดูดวงให้ตัวเองทุกเช้าเสียแล้วมั้งเนี่ย ถ้าวันไหนมีดวงต้องเจออีตานี่อีกนิพจะหนีไปให้ไกลๆเลย ผู้ชายบ้าอะไรไม่รู้..เจ้าอารมณ์ที่สุด!"

    "ไปเถอะ..." พิมพิตาบอกแกมหัวเราะ "ระหว่างทางก็อย่าลืมจับยามสามตาไปด้วยแล้วกัน เผื่ออีตานั่นของขึ้นขึ้นมานิพจะได้รู้ล่วงหน้าแล้วป้องกันได้ทันไง"


    --------------------------------------------------


    "คุณเป็นบ้าไปแล้วหรือถึงได้นั่งยิ้มอยู่คนเดียวน่ะ?"

    "แล้วคุณล่ะ..เป็นบ้าหรือไงถึงได้หน้าบูดบึ้งได้ทุกวัน?" นิพาดาที่กำลังยิ้มขำเมื่อนึกถึงคำพูดของเพื่อนสาวหันมาสวนกลับให้บ้าง "คุณคงเป็นผู้บริหารได้เพราะอาศัยบารมีที่บ้านสินะ ไม่งั้นลำพังนิสัยขี้วีนของคุณน่ะคงไม่มีทางเป็นใหญ่เป็นโตได้หรอก เอ๊ะ! แล้วนี่คุณเลี้ยวเข้ามาทางนี้ทำไมกันน่ะ!?"
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×