ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฎีการักจากพระชายาบ้านนอก

    ลำดับตอนที่ #52 : 52. เจ้าไม่เข้ามายุ่งสักเรื่องจะได้หรือไม่!?

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 9.74K
      669
      25 พ.ย. 63

    "เจ้าคงเผลอไปกินอะไรที่มันระคายคอเข้าน่ะสิ!" ท่านอ๋องจ้าวตรัสด้วยเสียงเข้มราวจะตำหนิ..ทว่าพระเนตรคมที่ทอดมองมากลับระคนด้วยความขบขันเด่นชัด
    "เพคะ..เมื่อกี้เป็นหม่อมฉันที่ตะกละมากไปเอง!"
    น้ำเสียงหวานใสเอ่ยโต้ขึ้นทันใด..แม้แต่ดวงตาหงส์คู่งามนั้นก็ยังเจือด้วยความฉุนเฉียวสายหนึ่งอย่างเห็นได้ชัด หากเมื่อเอ่ยจนจบคำแล้ว..ใบหน้าเล็กของหวางเย่หลิงก็กลับเผือดสีลงอย่างกะทันหัน... คล้ายกับว่านางจะรู้สึกถึงความกล้าหาญจนเกินควรของตนขึ้นมาในฉับพลัน "คะ..คือ.. เอ่อ..ขอ.. ขอประทานอภัยเพคะ... หม่อมฉัน..."

    "อืม... เจ้าคงจะตะกละมากไปจริงๆนั่นล่ะ อย่างเช่น..เผลอกินอะไรเข้าไปคราวละมากๆพร้อมกันก็เลยติดคอจนถึงกับไอขึ้นมาสินะ! ต่อไปก็อย่าได้ทำเช่นนี้อีกเล่า..รู้หรือไม่!?"

    จ้าวฝูหมิงตอบกลับด้วยน้ำเสียงติดห้วนนิดๆหากแต่แววตาที่ทอดมองมากลับยิ่งดูรื่นรมย์กว่าเดิมมิรู้กี่เท่า ก็แน่ล่ะสิ! ต่อให้ตอนท้ายนางจะตระหนกจนถึงกับเอ่ยขอโทษออกมาอีกแล้ว แต่ที่สุด..นางก็ยอมพูดอะไรอื่นกับเขามากกว่าเดิมแล้วนี่นะ! ไหนจะดวงตาขุ่นเคืองคู่นั้นอีกเล่า!

    "เพคะ" แล้วเสียงตอบรับสั้นๆดุจที่ท่านอ๋องบางพระองค์ทรงคาดไว้ก็ดังขึ้นเบาๆก่อนที่คน 'ตะกละ' จะก้มหน้างุดลงไปพร้อมปากเล็กที่เม้มแน่นขึ้นจนจ้าวฝูหมิงต้องลอบยิ้มขำอีกครั้ง

    "พี่หญิงคงจะตื่นเต้นกระมังเพคะ..จึงมิได้ทันระวัง แล้วนี่ประเดี๋ยวเข้าไปในงานพิธี..ได้เห็นสิ่งอื่นอีกมากมายที่ในชีวิตมิเคยมีโอกาสได้พบเจอมาจะมิยิ่งตื่นตกใจไปมากกว่านี้หรอกหรือเพคะ?" หม่าชิงอี๋ถามขึ้นด้วยสีหน้าเป็นห่วงเป็นใยทั้งที่ถ้อยคำแฝงนัยดูแคลนไว้อย่างชัดเจน "ถ้าอย่างไร..ให้รุ่ยเสียของหม่อมฉันคอยช่วยดูแลอยู่ข้างๆดีไหมเพคะ? รุ่ยเสียติดตามอยู่ข้างกายหม่อมฉันมานาน... อย่างไรก็พอจะรู้ธรรมเนียมปฏิบัติในวังอยู่บ้าง ให้นาง..."

    "ให้นางคอยช่วยดูแลชายารักมิดีกว่าหรือ? ส่วนเย่..ส่วนหวางเย่หลิงนั้น ดูเหมือนฉานเหยาจะฝากคนของนางมาแล้วนี่นะ"

    จ้าวฝูหมิงบอกพลางปรายตาไปทางหลัวจิ้งหยี่ที่ยอบกายคำนับให้เห็นอีกครั้งจนหม่าชิงอี๋ได้แต่อึ้ง เห็นน่ะเห็นอยู่หรอกว่านางกำนัลนั่นเป็นคนสนิทของเหยาไท่จื่อเฟยผู้นั้น..ก็นางยังมาพร้อมกับตนตั้งแต่อยู่ที่วังอ๋องแล้วด้วยซ้ำ แถมเมื่อกี้ท่านอ๋องก็ทรงเรียกให้ไปดูแลพระชายาบ้านนอกผู้นั้นอีก เพียงแต่นึกไม่ถึงว่านางกำนัลผู้นี้จะถูกฝากฝังให้มาอยู่กับหวางเย่หลิงในช่วงงานพิธีด้วย เช่นนี้แล้ว..เรื่องที่นางสั่งให้คนเตรียมไว้เล่า..จะมีปัญหาอันใดหรือไม่นะ!?

    "คารวะท่านอ๋อง พระชายาเอกและพระชายารองพ่ะย่ะค่ะ"

    ยังไม่ทันที่หม่าชิงอี๋จะได้เอ่ยอะไรออกไป รองเจ้ากรมยุทธการหม่าในชุดขุนนางเต็มยศที่ยืนรออยู่อีกด้านมาพักใหญ่แล้วก็พลันก้าวเข้ามาคำนับพลางเอ่ยคำด้วยท่าทีสุภาพขึ้นเสียก่อน

    "อ้อ! หม่าจือฉิน ไม่สิ..เราต้องเรียกท่านว่าพระสัสสุระสินะ? ทราบว่าเมื่อไม่นานมานี้ท่านได้แวะไปที่วังของเราอย่างนั้นหรือ?"

    จ้าวฝูหมิงพยักหน้าให้ก่อนจะเอ่ยถามด้วยท่าทีปกติคล้ายกำลังสนทนาด้วยเรื่องทั่วๆไปที่มิได้สลักสำคัญอะไรนัก แต่คำว่า 'พระสัสสุระ' ที่เขาใช้ก็เพียงพอที่จะทำให้สองบิดาและบุตรียกยิ้มไปถึงดวงตาด้วยความปลื้มปิติยิ่งแล้ว

    "กระหม่อมมิกล้ารับหรอกพ่ะย่ะค่ะ" หม่าจือฉินกล่าวด้วยท่าทีนอบน้อม "ส่วนเรื่องไปที่วังนั้น... เนื่องจากหลายวันก่อนญาติของกระหม่อมที่มาจากทางใต้นำข้าวของมาฝากมากมาย... กระหม่อมเห็นว่ามีของที่พระชายารองเคยโปรดหลายอย่างจึงได้นำไปถวายพ่ะย่ะค่ะ"

    "เป็นพวกของบำรุงน่ะเพคะ หม่อมฉันยังได้แบ่งไปให้พี่หญิงด้วยเลยเพคะ" หม่าชิงอี๋รีบกล่าวเสริม

    "ดี! ชายารักของเราช่างมีน้ำใจงดงามนัก กลับวังไปคราวนี้เราคงต้องหาโอกาสตอบแทนน้ำใจของเจ้าให้จงหนักเสียแล้วสิ"
    จ้าวฝูหมิงเอ่ยด้วยสีหน้ายิ้มแย้มขณะกุมมือเล็กของหม่าชิงอี๋ขึ้นมาบีบกระชับราวจะบ่งบอกความนัยบางอย่าง และสีหน้ากับท่าทีเช่นนั้นก็ทำให้หม่าชิงอี๋ถึงกับหน้าแดงก่ำด้วยความขัดเขินจนพูดไม่ออกไปทันใด

    "เอาล่ะ เราคงต้องเข้าไปด้านในก่อน ท่านก็ต้องไปดูแลความเรียบร้อยในส่วนการแสดงของเหล่านายกองทหารด้วยนี่นะ งั้นเราแยกกันตรงนี้เถอะ..เดี๋ยวค่อยเจอกันช่วงเริ่มงานอีกที"

    "พ่ะย่ะค่ะ"


    ----------------------------------------------------


    "เย่หลิง... พี่สาวกับพี่ชายกำลังรอเจ้าอยู่พอดี!" เพียงเดินเข้ามายังตำหนักรับรองด้านในไม่นาน เสียงเรียกอย่างดีใจของหลิวฉานเหยาก็ดังขึ้นอีกครั้งก่อนที่องค์ไท่จื่อเฟยจะรีบดำเนินเข้ามาหาน้องสะใภ้คนงามด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

    "เหยาเอ๋อร์..อย่าได้วิ่งเร็วนัก!" จ้าวจื่อหานเอ่ยขึ้นไม่ดังนักขณะรีบก้าวตามมาติดๆ "ฝูหมิง..ทำไมถึงมาช้านักเล่า?"

    "ทูลเสด็จพี่ไท่จื่อ... เมื่อครู่ท่านอ๋องทรงเผลอหลับไปในรถม้าน่ะเพคะ หม่อมฉันเองก็เพิ่งทราบเช่นกัน" หม่าชิงอี๋รีบชิงบอกขึ้นก่อนใคร

    "อ้อ! วันนี้พระชายารองก็มาด้วยนี่นะ..ถ้าไม่เอ่ยออกมาเมื่อครู่เราก็เกือบจะลืมไปเสียแล้ว..." หลิวฉานเหยาหันมาส่งเสียงบ้าง ระหว่างเดินไปกุมมือหวางเย่หลิงที่ยืนเยื้องไปทางด้านหลังด้วยท่าทีสนิทสนม "แต่เท่าที่เราได้ฟังจากหลี่อี้..เหมือนว่าคนที่หลับไปจนฝูหมิงมีคำสั่งให้ใครต่อใครเงียบเสียงลงจะไม่ใช่เขานี่นะ... หรือว่าอย่างไรกันเย่หลิง? พระสวามีของเจ้าหรือว่าเจ้ากันแน่ที่นอนหลับสบายอยู่ในรถม้านั่นน่ะ?" เอ่ยพลางชำเลืองแลไปทางสตรีอีกตนด้วยท่าทางที่เหนือกว่า

    "เจ้าไม่เข้ามายุ่งสักเรื่องจะได้หรือไม่!? หลิวฉานเหยา!"

    จ้าวฝูหมิงสะบัดเสียงห้วนกลับไปด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ แม้จะนึกพอใจอยู่ลึกๆกับสีหน้าที่เรื่อขึ้นด้วยความขัดเขินของหวางเย่หลิง หากเขาก็ไม่ต้องการให้เรื่องส่วนตัวของตนมาเป็นประเด็นในการสนทนาของใครหรอกนะ! อย่าว่าแต่ยังมีสายตาสงสัยของหม่าชิงอี๋ที่ชำเลืองมาทางนี้อีก..ทั้งที่เขาอุตส่าห์ข่มกลั้นความอึดอัดสารพัดกว่าจะยอมเอ่ยวาจาเลี่ยนๆพวกนั้นกับนางได้ แถมยังต้องกุมมือนางราวกับรักใคร่เสียเต็มประดาเช่นนี้อีก! แล้วจะยอมให้สหายปากสว่างอย่างฉานเหยามาทำลายแผนการของตนไปได้อย่างไรกัน!?

    "เอาเถอะๆ..วันนี้เป็นสำคัญของเรานะ พวกเจ้าจะต้องทะเลาะให้เราเห็นจนได้ถึงจะพอใจหรือไง?"

    จ้าวจื่อหานแสร้งขมวดคิ้วกล่าวคำเช่นนั้น สหายเก่าทั้งสองถึงได้ยอมยุติศึกของตนลงชั่วคราว องค์ไท่จื่อจึงได้หันมารับสั่งกับ 'น้องสาว' คนงามที่ชายาของพระองค์ทรงกุมมืออยู่บ้าง "เย่หลิง..เสด็จแม่ทรงรอพบเจ้ามาได้สักพักแล้ว ยังไงเดี๋ยวเสร็จจากงานนี้เจ้าก็อย่าเพิ่งรีบกลับเลยนะ อยู่สนทนาเป็นเพื่อนพระองค์สักครู่ก่อนเถิด"

    "นั่นสิ! หรือไม่เช่นนั้นก็มิต้องกลับเลยยิ่งดี..." หลิวฉานเหยารีบคว้าโอกาสด้วยรอยยิ้มหมายมาด "เจ้ายังมิเคยไปชมตำหนักงามๆของพี่สาวกับพี่ชายในวังตะวันออกเลยนี่นะ อย่างไรเสียพี่สาวก็จะให้เจ้าอยู่ค้างที่นี่ด้วยสักคืนสองคืนให้จงได้!"

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×