ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฎีการักจากพระชายาบ้านนอก

    ลำดับตอนที่ #15 : 15. "เอาล่ะ! ทีนี้เราก็พูดกันตรงๆได้เสียทีนะ หวางเย่หลิง!"

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 15.47K
      631
      25 พ.ย. 63

    "เราทนไม่ไหวแล้ว! เราจะต้องไปดูหวางเฟยบ้านนอกผู้นั้นให้รู้แน่ชัดให้ได้ว่านางเป็นอะไรกันแน่!? ป่วยจริงหรือแกล้งป่วย? และถ้านางทำเป็นเสแสร้งเสียจนเราและท่านอ๋องมิได้เข้าพิธีคำนับฟ้าดินจริงๆล่ะก็..เป็นได้เห็นดีกันแน่!"

    "แต่พระชายาเพคะ..เมื่อครู่ก่อนท่านอ๋องเพิ่งตรัสว่า..."

    "ให้เราพักอยู่แต่ในตำหนักเช่นนั้นหรือ!? ฮึ!" หม่าชิงอี๋ส่งเสียงหัวเราะแหลมระคนด้วยแววย่ามใจนิดๆยามได้ยินเสียงบอกคล้ายจะพยายามทักท้วงของบ่าวรับใช้คนสนิทที่ติดตามมาจากตระกูลเดิมของตน "เจ้าไม่เห็นหรือว่าท่านอ๋องทรงชังน้ำหน้าหวางเฟยจากบ้านนอกผู้นั้นเพียงใด อันที่จริง.. ที่เราไปเยี่ยมเยียนนางคราวนี้อาจจะเป็นสิ่งที่ท่านอ๋องทรงคาดหวังไว้ก่อนแล้วก็เป็นได้!"


    ------------------------------------------------


    "คุณหนูเจ้าขา..ท่านไม่สบายอยู่เช่นนี้แล้ว..ไยจะต้องออกไปพบกับนางอีกเล่าเจ้าคะ? ไล่ๆไปให้พ้นเสียก็สิ้นเรื่อง! อย่างไรเสียนางก็เป็นแค่เพียงอนุ..."

    "ลี่เอ๋อร์!" หวางเย่หลิงเอ่ยปรามด้วยน้ำเสียงเข้มกว่าที่เคยแม้จะยังฟังดูไม่ปกตินัก และทั้งที่ใบหน้าสะคราญยังดูซีดเซียวเช่นนั้น..ร่างบางก็ยังคงพยายามขยับกายลุกขึ้น... "ช่วยพยุงข้าที..."

    "เจ้าค่ะ!"

    บ่าวรับใช้ตัวน้อยส่งเสียงขุ่นกลับในทันใด หากก็รีบเข้ามาประคองคุณหนูของตนและคว้าเสื้อคลุมตัวนอกมาสวมให้อย่างเป็นห่วง ก่อนจะเกาะแขนประคองกันออกไปด้านนอกที่มีใครคนหนึ่งรออยู่แล้ว...

    "พี่หญิง..มาแล้วหรือเพคะ...?"

    หม่าชิงอี๋ทักด้วยเสียงหวานแหลมขึ้นทันทีที่เห็นผู้ที่ตนรอคอยเดินเข้ามาถึง ก่อนจะแย้มยิ้มส่งให้อย่างหวานฉ่ำตามมาอีกครั้ง ในระหว่างนั้น..นัยน์ตาคมก็ลอบสำรวจสตรีตรงหน้าอย่างถี่ถ้วนด้วยแววปรามาส

    "หม่อมฉันรีบแวะเข้ามาดูทันทีที่ปลีกตัวได้... เป็นห่วงเหลือเกินว่าพี่หญิงจะทรงเป็นอะไรไป..จึงมิทันได้เตรียมของเยี่ยมใดๆมาเลยเพคะ"

    "ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ขอบคุณท่านมาก..." เสียงเล็กที่เอ่ยออกมานั้นเบาหวิว แม้แต่ยามเดินก็ยังดูคล้ายหายใจหอบๆขัดๆอย่างประหลาด ทว่าสำหรับผู้มาเยือนแล้ว..นั่นคือนิมิตหมายที่ดียิ่ง!

    "หม่อมฉันยังมีอีกเรื่องที่ใคร่อยากสนทนากับพี่หญิงตามลำพังเพคะ... มิทราบว่าจะได้หรือไม่?" หม่าชิงอี๋แสร้งไม่สนใจถ้อยคำเยี่ยงสาวชาวบ้านทั่วไปที่ได้ยินแม้จะนึกดูแคลนอยู่ลึกๆ เพียงเอ่ยนำในสิ่งที่ตนต้องการขึ้นมาก่อน

    "ไม่ได้เจ้าค่ะ!"

    จูชุนลี่แทรกขึ้นทันที ดูจากสายตานั่นก็รู้ว่ามิได้ปรารถนาดีชัดๆ! แล้วจะปล่อยให้นางอยู่กับนายของตนได้อย่างไรกัน!?

    "คุณหนูยังอ่อนแรงอยู่มาก สนทนานานไปมิได้เจ้าค่ะ!"

    "บังอาจ! ตั้งแต่เมื่อไรกันที่บ่าวอย่างเจ้ามีสิทธิ์มาโต้เถียงแทนนายเช่นนี้!"

    เอ็ดกลับไปทันควันด้วยเสียงดังลั่น แล้วพระชายารองผู้ทรงปั้นยิ้มหวานเมื่อครู่ก่อนก็หันไปถลึงตาใส่บ่าวหญิงคนสนิทของตนพร้อมกับออกคำสั่งในทันใด "จับนางไว้! เราจะสั่งสอนให้นางรู้เสียบ้างว่าใครเป็นใคร!"

    "เดี๋ยวเจ้าค่ะ..." หวางเย่หลิงลุกขึ้นเดินซวนเซเข้ามาตรงหน้าอย่างร้อนใจเมื่อเห็นสตรีตรงหน้าเงื้อมือขึ้น "เห็นแก่ข้า.. เห็นแก่หม่อมฉัน.. โปรดอภัยให้นางด้วยเถิดเจ้าค่ะ.. นางเพียงเห็นว่าหม่อมฉันยังป่วยอยู่จึงได้เอ่ยเช่นนั้นออกไป..ไว้หม่อมฉันจะสั่งสอนนางเอง..."

    "สั่งสอน!?" หม่าชิงอี๋เชิดหน้าขึ้นพร้อมด้วยรอยยิ้มเหยียดเยาะอีกครา "พี่หญิงจะสั่งสอนนางด้วยวิธีใดกัน!? นางเป็นบ่าวของท่านที่เป็นถึงพระชายาเอก..ก็ย่อมมีฐานะไม่ต่างจากนางกำนัลรับใช้ทั่วไป แต่กิริยามารยาทที่เห็นกลับป่าเถื่อนไร้การอบรมได้ถึงเพียงนี้ก็น่าจะเห็นชัดกันอยู่แล้วว่ามิได้รับการสั่งสอนที่ดีมามากนัก!"

    "ขอโทษด้วยเจ้าค่ะ... ต่อไปข้า..หม่อมฉันจะทำให้ดีขึ้น..."

    "เอาเถิด... เห็นแก่ที่ท่านยอมขอโทษและอ้อนวอนมา..หม่อมฉันจะละเว้นโทษคราวนี้ไว้ก่อน... แต่ว่านางต้องออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้! รุ่ยเสีย!"

    "เพคะ..พระชายา"

    "พานางบ่าวสามหาวผู้นั้นออกไป และอย่าให้ใครเข้ามารบกวนที่นี่ได้เด็ดขาด!"

    "เพคะ!"

    "แต่ว่า..คุณหนูเจ้าคะ..คุณหนู!"

    ทว่า..แม้จะส่งเสียงทักท้วงเพียงใด และแม้จะยังไม่วางใจแค่ไหน สาวใช้ตัวน้อยก็ยังคงถูกกระชากลากถูออกไปด้วยแรงของสาวใช้ติดตามอีกนางที่มีรูปร่างใหญ่และหนากว่า ขณะที่หวางเย่หลิงได้แต่เพียงยืนนิ่งอยู่เช่นนั้น แน่นอนว่า..ส่วนหนึ่งเพราะลี่เอ๋อร์แสดงกิริยาไม่สมควรขึ้นมาก่อนจริงๆ ทว่า.. อีกส่วนนั้นเล่า?
    "เอาล่ะ! ทีนี้เราก็พูดกันตรงๆได้เสียทีนะ หวางเย่หลิง!"

    "เจ้าคะ?" ผู้ถูกเอ่ยนามตรงๆด้วยกิริยาท่าทีและน้ำเสียงที่ต่างไปจากเดิมหลุดจากภวังค์ขณะเงยหน้าขึ้นมองสตรีอีกนางด้วยความสงสัย

    "เป็นอย่างไร? แค่นี้ก็มิเข้าใจแล้วหรือ?" หม่าชิงอี๋เอ่ยด้วยน้ำเสียงเยาะหยัน "เราไม่แปลกใจเลยที่ท่านอ๋องมิพอพระทัยเจ้า เพราะแม้แต่เราที่เพิ่งพบหน้าเจ้าเป็นครั้งแรกในวันนี้ก็ยังรู้สึกขัดหูขัดตาเสียเหลือเกิน!"

    "ท่าน..มิใช่บอกว่ามีเรื่องจะพูดกับข้าหรอกหรือเจ้าคะ..?"

    "ใช่! 'เรา' มีเรื่องจะบอกกับ 'เจ้า' จริงๆ!" หม่าชิงอี๋เน้นเสียง "เราอยากให้เจ้ารีบ 'ไสหัว' ออกไปจากวังนี้โดยเร็วที่สุดไงล่ะ! มิรู้หรือไรว่าการดำรงอยู่ของสตรีบ้านนอกอย่างเจ้าทำให้ชื่อเสียงของท่านอ๋องและวังแห่งนี้แปดเปื้อนเพียงใด!?"

    "ท่าน..เหตุใดจึงได้กล่าวเช่นนี้เล่าเจ้าคะ..?" หวางเย่หลิงที่ยังอึ้งกับท่าทีใหม่ของสตรีตรงหน้าเอ่ยขึ้นเบาๆ ใบหน้างดงามคล้ายจะเผือดสีลงกว่าเดิมอีกครั้ง

    "แล้วเหตุใดเราจะพูดไม่ได้กัน? ยิ่งกว่าที่พูดนี้เราก็ยังทำได้! เจ้าจะลองดูไหมเล่า!?" หม่าชิงอี๋เอ่ยด้วยน้ำเสียงดูแคลน "แต่ถ้าเจ้าฉลาด..ก็จงรีบถอนตัวออกไปเสีย!"

    "ข้า..ไม่เข้าใจ... ระหว่างข้ากับท่านอ๋อง.. นี่เป็นสมรสพระราชทานมิใช่หรือเจ้าคะ? แล้ว...?"

    "เจ้าก็กราบทูลผ่านทางฮ่องเต้กับฮองเฮาอย่างไรเล่า แค่นี้ก็มิเข้าใจแล้วหรือไร?" หม่าชิงอี๋ย้อนถามกลับอย่างเยาะหยันในความเขลาของคนตรงหน้า "เมื่อไรที่เจ้าได้เข้าไปเฝ้าในวังอีก..ก็จงบอกความต้องการนั้นไปเสีย!"

    "แต่ว่า..ข้ากับท่านอ๋องเพิ่งจะ..."

    "เจ้ากับท่านอ๋องเพิ่งจะสมรสกันเช่นนั้นรึ? แล้วอย่างไรเล่า!? หรือจนป่านนี้เจ้ายังมิรู้ตัวอีกว่าตนเป็นที่รังเกียจมากเพียงใด? สตรีอย่างเจ้าที่แสนจะบ้านนอกและทึ่มทื่อเช่นนี้จะยังมีหน้าอะไรมาเป็นหวางเฟยของท่านอ๋องเจ็ดผู้สง่างามแห่งแคว้นเยว่ได้!? หรือเจ้ายังคิดว่าจะปีนขึ้นเตียงของพระองค์.. ให้ทรงมองเจ้าในแง่ดีขึ้นมาได้อีกงั้นหรือ? เช่นนั้นเราก็ขอบอกไว้ตอนนี้เลยว่า 'อย่าได้หวัง!' "
    "ท่าน..เหตุใดจึงได้กล่าวเช่นนั้น...? ข้าไม่..."
    ใบหน้าสะคราญยิ่งดูตระหนกกว่าเดิมอีกหลายเท่ากับวาจาระคายหูแกมด้วยนัยเหยียดหยามที่ได้ฟัง ร่างบางที่ยืนมิใคร่มั่นคงอยู่แต่เดิมก็คล้ายจะซวนเซไปจนต้องเอื้อมมือไปเกาะพนักเก้าอี้ตัวหนึ่งไว้แน่น แต่สำหรับหม่าชิงอี๋แล้ว.. เพียงถ้อยคำเหล่านี้กับท่าทางตกใจที่ได้เห็นนั้นหาใช่ทั้งหมดที่นางต้องการไม่!

    "เราจะบอกให้เข้าใจอีกครั้งนะหวางเย่หลิง! บิดาของเราเป็นถึงรองเจ้ากรมยุทธการที่มีอำนาจโยกย้ายข้าแผ่นดินได้ทุกผู้ทุกนาม นั่นหมายความว่าอย่างไรรู้หรือไม่?" พระชายารองผู้มาเยือนแย้มพระโอษฐ์ขึ้นด้วยแววพระเนตรมุ่งร้าย "มันหมายความว่าตำแหน่งนายอำเภอเล็กๆของบิดาเจ้า..สำหรับเราแล้วมันก็ไม่ต่างอะไรจากน้ำชาถ้วยนี้เลย!"

    สิ้นคำนั้น น้ำชาอุ่นจัดในถ้วยข้างตัวที่ถูกรินให้เพื่อต้อนรับการมาเยือนของนางในครู่ก่อนก็ถูกสาดเข้าใส่สตรีตรงหน้าในทันใด

    "โอ๊ะ! ท่าน..."

    น้ำชาอุ่นร้อนถูกสาดกระจายเข้ามาจนเกือบเต็มท้องแขนข้างหนึ่งที่ยกขึ้นกั้นกลาง และแม้จะมีแขนเสื้อขวางไว้บ้าง..หากความร้อนที่ได้รับก็สร้างความปวดแสบปวดร้อนไม่น้อย หวางเย่หลิงที่เพียงชั่วสองวันก็ถูกทำร้ายด้วยเหตุการณ์คล้ายๆกันนั้น..ขณะนี้ได้แต่กุมแขนอันปวดแปลบของตนพลางขยับถอยสตรีตรงหน้าที่ยังย่างเท้าตรงเข้าหานางอย่างช้าๆด้วยรอยยิ้มหยัน

    "ท่าน..ท่านจะทำอะไร...?"

    "ยังหรอก! ตอนนี้ยังไม่! แต่นี่คือคำเตือนว่าหากเจ้าไม่รีบถอนตัวออกไป..บิดาของเจ้าก็จะต้องเป็นเหมือนน้ำชาในถ้วยนั้น..อย่างแน่นอน!" หม่าชิงอี๋ส่งยิ้มร้ายออกมาอีกครั้ง "ส่วนเจ้า..ก็คงไม่มีจุดจบที่ดีไปกว่ากัน!"

    "ท่าน..เพราะเหตุใดกัน? เหตุใดจึงต้องทำเช่นนั้น...?"

    "ก็เพราะเราเกลียดเจ้าไงล่ะ!" หม่าชิงอี๋ตอบกลับในทันใด "เจ้ามีคุณสมบัติใดเทียบเราได้บ้าง? แล้วเหตุใดเราจะต้องมาเป็น 'รอง' ในขณะที่เจ้าได้เป็น 'เอก' เช่นนี้!? ยังมีมารยาของเจ้าในวันนี้อีก! คิดว่าเราไม่รู้หรือว่าเจ้าเสแสร้งแกล้งทำตัวให้ดูน่าสงสารต่อหน้าใครๆ คงหวังสินะว่าท่าทีเช่นนั้นจะจับใจท่านอ๋องได้..ไม่มีวันเสียหรอก! ท่านอ๋องทรงเป็นของเราผู้เดียวเท่านั้น!"

    "เช่นนั้นหรือหม่าชิงอี๋? เหตุใดเราจึงมิเคยรู้มาก่อนเลยว่าตัวเองเป็นของเจ้า!?"

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×