ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ท่านอ๋องเจ้าขา..ข้ามาเข้าฝันท่านอีกแล้ว!

    ลำดับตอนที่ #93 : 93. จัดการจูลี่ถิง(3)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.69K
      148
      27 พ.ย. 62

    "ฮองเฮา... จะว่าหม่อมฉันคุกคามแม่นางผู้นั้นก็ได้..แต่ตัวนางเล่าเพคะ?" จูลี่ถิงยังพยายามดิ้นรนเฮือกสุดท้ายเพื่อจะดึงใครอีกสักคนเข้ามาถูกลงโทษไปพร้อมกันกับตนเองให้ได้ "ที่แม่นางจ้าวเอ่ยเรียกไท่จื่อว่าพี่และเรียกฮ่องเต้ว่าเสด็จพี่อย่างมิสมควรในวันก่อนนั้นมิใช่การลบหลู่หรือไรเพคะ?"
    "บังอาจ!"
    "สามหาวนัก!"
    เสียงตวาดของเฉินหงหมิงและเฉินจิ้งหลินดังลั่นขึ้นพร้อมกันและนั่นก็ทำให้จูลี่ถิงที่ใบหน้ากำลังเลอะเทอะไปด้วยหยาดน้ำตาสะดุ้งเฮือกไม่ต่างจากจูหมิงเทาผู้เป็นบิดาและคนอื่นๆที่อยู่รายรอบ
    "อู๋เหวินจวี้! ไหนเจ้าลองบอกให้สตรีแซ่จูผู้นี้ฟังสิว่าโทษของการให้ร้ายเบื้องสูงเป็นอย่างไร!?" เฉินหงหมิงที่ดูเหมือนจะยิ่งโกรธมากขึ้นทุกทีเอ่ยด้วยเสียงข้น ถึงยามนี้แม้แต่มือเล็กของจ้าวเมิ่งเจี๋ยที่คอยกระตุกแขนเสื้อของเขาอยู่เป็นพักๆก็ดูจะมิอาจทำให้ใจของเขาเย็นลงได้เสียแล้ว
    "เอ่อ..ผู้ที่ลบหลู่..ดูหมิ่นหรือให้ร้ายต่อราชวงศ์นั้นมีโทษทัณฑ์ที่หนักเบาแตกต่างกันออกไปพ่ะย่ะค่ะ" เสนาบดีผู้ยืนอย่างสงบนิ่งมาพักใหญ่เอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่ใคร่สบายใจนัก แม้จูลี่ถิงจะเอ่ยพาดพิงถึงอู๋หย่าจิ้งบุตรสาวของเขา..แต่เขาก็รู้ดีว่าจิ้งเอ๋อร์ไม่มีวันทำร้ายใครแน่ๆ ที่น่าเป็นห่วงจึงเป็นสาวน้อยที่นั่งคุกเข่าน้ำตานองอยู่บนพื้นยามนี้มากกว่า "มีตั้งแต่โทษโบย..จำคุก..เนรเทศ..ไปจนถึงประหารชีวิตด้วยการตัดหัวเสียบประจานพ่ะย่ะค่ะ..."
    "ได้ยินแล้วหรือไม่จูลี่ถิง!? เราจะสั่งโบยเจ้ากระทั่งไล่ออกไปจากเมืองหลวงเสียตอนนี้เลยก็ยังทำได้! หากเราก็ยังยั้งเอาไว้ด้วยเห็นแก่ที่บิดาของเจ้าเคยสร้างคุณความดีไว้กับบ้านเมือง แต่เจ้ากลับได้คืบจะเอาศอก..เพียงโทษตบปากเท่านี้ก็ยังไม่ยอมรับ..เอาแต่อ้างนั่นอ้างนี่ไปเรื่อย! คิดว่าเราจะทนคนอย่างเจ้าไปได้ถึงไหนกัน!?" เฉินหงหมิงตวาดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว รังสีอันตรายที่เก็บงำไว้เริ่มแผ่ซ่านออกมาจนบรรยากาศเคร่งเครียดโดยรอบถูกปกคลุมไปด้วยไอเย็นยะเยือกชนิดหนึ่งที่ทำให้ผู้คนยากจะทนทาน... แม้แต่จูหมิงเทาก็รู้ดีว่า..นี่คือขีดสุดของความอดทนของท่านอ๋องเฉินผู้นี้แล้ว
    "ท่านอ๋อง... โปรดเห็นแก่กระหม่อม.. เห็นแก่ที่กระหม่อมรับใช้ราชวงศ์มานานหลายสิบปีด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ ขอโปรดลงโทษสถานเบาตามเดิมแล้ว..กระหม่อมจะกลับไปอบรมนางให้ดี..มิให้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องในวังหลวงได้อีกเด็ดขาด..."
    "ท่านพ่อ..." น้ำตาไหลราวกับสายน้ำไปอีกครั้งแล้วสำหรับจูลี่ถิงที่บัดนี้มิกล้าเอ่ยวาจาโต้แย้งใดๆอีก เหมือนนางจะเข้าใจได้เสียทีว่าทักท้วงอย่างไรต่อไปก็ไม่มีประโยชน์ จะมีก็แต่แววตาลึกๆเท่านั้นที่ยังดูไม่ยินยอมพร้อมใจเหมือนท่าทีที่แสดงออกมา
    "และเผื่อว่าหูของเจ้าจะมีปัญหา..เราจะยอมบอกให้ฟังอีกครั้ง ตอนนี้เจี๋ยเอ๋อร์มีฐานะเป็นคู่หมายของเรา..ดังนั้นนางจะเรียกเสด็จพี่กับหลานชายของเราอย่างใกล้ชิดดังที่แล้วมาก็ย่อมทำได้!" เฉินหงหมิงส่งเสียงดุดันออกไปอีกคราขณะกระชับมือเล็กข้างหนึ่งของแมวสาวตัวน้อยไว้แน่น ถ้าไม่เพราะเขายังอารมณ์กรุ่นอยู่กับวาจาน่าชังที่บุตรสาวของเจ้ากรมจูขยันเอ่ยออกมา..เขาก็คงไม่อาจกล่าวถ้อยคำทั้งหลายข้างต้นได้ด้วยท่าทีเรียบเฉยทั้งที่ใจเต้นรัวอย่างนี้แน่! "อีกอย่าง..เจ้าควรจะได้รู้ว่าที่เราชินอ๋องสู้อดทนมาได้ถึงป่านนี้โดยมิลุแก่โทสะแล้วลงทัณฑ์เจ้าด้วยตัวเองไปเสียก่อนก็เพราะเจี๋ยเอ๋อร์ได้ขอไว้! หาไม่แล้วสตรีอย่างเจ้าหรือจะมีโอกาสมาพูดพล่ามไร้สาระต่อหน้าเราได้นานถึงขนาดนี้!"

    -----------------------------------------------------------------------------------

    "น่าเบื่อนัก!" เฉินหงหมิงที่เพิ่งพาจ้าวเมิ่งเจี๋ยกลับมาถึงวังของตนเอ่ยขึ้นอย่างไม่ชอบใจ "เจี๋ยเอ๋อร์..เพราะเจ้าทีเดียวเลยที่ใจอ่อน! ไม่รู้จะห้ามทำไมกันนักหนา!? นางกำนัลเพิ่งจะตบปากจูลี่ถิงไปได้เพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น เลือดยังไม่ทันจะกบปากนางให้สาสมใจของเราเลยสักนิด!"
    ".........."
    "ทำไม? เราพูดไม่ถูกหรือไร? เราอุตส่าห์เจ็บแค้นแทนเจ้าแล้วแท้ๆนะ!" ท่านอ๋องเฉินที่พระพักตร์ยังดูบึ้งตึงไม่คลายสาวพระบาทเข้าหาแม่นางน้อยที่กำลังหน้างอใส่ตนอย่างเคืองนิดๆก่อนจะทรงคว้ากุมมือเล็กของนางไว้เมื่อร่างบางทำท่าจะเดินหนี "แล้วมันเรื่องอะไรเจ้าถึงต้องมาทำหน้าบึ้งใส่เรา..แถมยังจะหันหลังให้เราอย่างนี้ด้วยเล่า?"
    "ก็ท่านทำไม่ถูกนี่เจ้าคะ ท่านอ๋อง.. ไม่เห็นจะยุติธรรมเลย... ท่านน่ะเป็นผู้ใหญ่กว่าแม่นางพวกนั้นเสียอีก..ส่วนพวกนางก็เป็นสตรี แต่ท่านกลับลงโทษเช่นนั้นมิสงสารพวกนางบ้างหรือเจ้าคะ? พวกนางคงต้องอายมากแน่ๆ..แถมนางกำนัลแต่ละคนที่กงกงท่านนั้นเรียกมาลงมือก็ล้วนแต่น่ากลัวทั้งสิ้น ป่านนี้มิรู้ว่าพวกนางจะเป็นอย่างไรบ้าง?" สาวน้อยเมิ่งบ่นด้วยสีหน้าไม่ค่อยดีนักขณะเบือนหน้าหนีมือใหญ่ที่เริ่มหันมายึดคางของตนไว้อีกต่อ
    "เจี๋ยเอ๋อร์..หรือว่าเจ้าไม่ได้ยินที่สตรีผู้นั้นพยายามดึงเจ้ากับอู๋หย่าจิ้งเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยตลอดเวลา? ต่อให้เรามิได้ใกล้ชิดสตรีเท่าไรก็ยังดูออกเลยว่าจูลี่ถิงผู้นั้นมีนิสัยเจ้าคิดเจ้าแค้น..นางอยากจะให้เจ้าและอู๋หย่าจิ้งถูกลงโทษไปพร้อมกับตัวเองด้วย แล้วก่อนหน้านี้นางก็ทั้งตำหนิและพยายามจะทำร้ายเจ้า..เจ้าจำไม่ได้แล้วหรือ?"
    "........."
    "อะไรกัน? มองหน้าเราแล้วเงียบไปไม่พูดไม่จาอย่างนี้..เราพูดอะไรไม่ถูกหูเจ้าอีกแล้วหรือไร?"
    "ท่านพูดปด!"
    "หืม?" เฉินหงหมิงส่งเสียงในลำคออย่างประหลาดใจ โดยเฉพาะเมื่อเห็นปากยู่ๆกับสายตาไม่พอใจอย่างชัดเจนของสาวน้อยตรงหน้า "ตอนไหนกัน? เราเคยไปพูดปดเจ้าเมื่อไรหรือแมวน้อย?"
    "ท่านคงทำบ่อยเสียจนแม้แต่ตัวเองก็ยังจำไม่ได้แล้วสินะเจ้าคะ!" น้ำเสียงฉุนๆถูกส่งกลับมาทันควัน ขณะที่ร่างเล็กขยับตัวจนหนีจากการเกาะกุมได้และเดินถอยห่างออกไปด้วยท่าทางมึนตึงยิ่งกว่าเก่า
    "ก็..คงมีเพียงครั้งนั้นครั้งเดียวกระมัง? ที่เราเคยบอกว่าคิดกับเจ้าเป็นเพียงน้องสาว..แต่ที่จริงแล้วไม่ใช่..." เฉินหงหมิงเอ่ยรับอย่างกระดากนิดๆ "แต่ถ้าจะพูดไปล่ะก็..จะนับว่านั่นเป็นคำโกหกมิได้หรอกนะ ตอนนั้นเราแค่ไม่รู้ใจตัวเองมากกว่า"
    "ฮึ!" สาวน้อยเมิ่งส่งเสียงขึ้นจมูก "ใช่เพียงเรื่องนั้นเสียที่ไหนกันล่ะเจ้าคะ!"
    "แล้วเรื่องไหนกันเล่าที่ทำให้คู่หมั้นของเราหน้าหงิกหน้างอเสียขนาดนี้?"
    "เอ๊ะ! ท่านอ๋อง!" จ้าวเมิ่งเจี๋ยซึ่งสองแก้มขึ้นสีเรื่อถลึงตาข้นใส่บุรุษรูปงามตรงหน้าที่ยังส่งยิ้มยั่วเย้ามาให้ตนไม่หยุด "เรื่องนี้ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งไงล่ะเจ้าคะ! ท่านน่ะพูดปดคนอื่นเขาไปทั่ว..เที่ยวได้เอ่ยปาวๆออกไปต่อหน้าฮองเฮากับใครๆว่าข้าเป็นคู่หมั้นของตนทั้งๆที่ไม่ใช่เรื่อง..."
    "เป็นความจริงอย่างที่สุด!" เฉินหงหมิงพลันเอ่ยแทรกขึ้นทันควัน "ที่เราเอ่ยไปล้วนเป็นความจริงทั้งสิ้น ก่อนหน้านี้ระหว่างที่เจ้าคุยกับเหอมามาเรื่องที่ปวดท้องอยู่..เราก็ได้ฝากสี่เย่นำสารไปทูลต่อเสด็จพี่แล้ว ที่เจ้าได้ยินหวังกงกงประกาศออกมานั่นน่ะไม่ผิดหรอก เราบอกกับเสด็จพี่แล้วว่าเราเลือกเจ้า..เป็นหวาง เฟยของเรา"
    ".........."
    ป๊อก!
    "โอ๊ย!"
    "ยังจะอ้าปากค้างอีก!" ชินอ๋องที่ยามนี้พระพักตร์กำลังขึ้นสีเข้มเสียยิ่งกว่าแก้มของสาวน้อยตรงหน้าตนตรัสดุเบาๆหลังจากดีดหน้าผากของนางไปอีกครั้ง "อย่าบอกนะว่าอาการปวดท้องเช่นนั้นของเจ้ากำเริบจนอารมณ์เริ่มแปรปรวนขึ้นมาอีกแล้ว"
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×