ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ท่านอ๋องเจ้าขา..ข้ามาเข้าฝันท่านอีกแล้ว!

    ลำดับตอนที่ #35 : 35. เมื่อแมวน้อยต้องเลือกคู่(4)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.27K
      386
      27 ก.ค. 63

    "บ้าที่สุด! เจ้ามีความคิดบ้างหรือไม่!? จะเลือกหมั้นหมายกับใครเพียงเพราะเขามีขนมอร่อยๆให้เจ้าได้กินเช่นนั้นมันสมควรแล้วหรือไร!? แล้วขนมชั้นเลิศที่ใดจะมีมากเท่ากับในวังอีก! ที่ตำหนักของเรามีพอให้แมวน้อยอย่างเจ้าเสพไปได้ทั้งเก้าชีวิตเลยด้วยซ้ำ!"

    "ว่า..ว่าอย่างไรนะเจ้าคะ?" สาวน้อยตระกูลจ้าวถึงกับอึ้ง

    "ก็เจ้าเป็นแมวมิใช่หรือไร? แมวน่ะมีได้เก้าชีวิตมิใช่รึ?" ท่านอ๋องเฉินที่สีพระพักตร์เข้มขึ้นอย่างแปลกๆเสรับสั่งเลี่ยงไปเรื่องอื่นเมื่อนึกขึ้นได้ว่าตนเผลอกล่าวอะไรบางอย่างที่มีความนัยชวนคิดออกไปเสียแล้ว

    "อ้อ! เจ้าค่ะ" แมวน้อยเมิ่งส่งเสียงตอบรับอย่างงงๆ ทั้งที่รู้สึกคล้ายกับว่าถ้อยคำเมื่อครู่จะมีความหมายแปลกๆแฝงอยู่.. แถมยังทำให้นางรู้สึกหน้าร้อนขึ้นด้วยสิ! ทว่า.. เพราะเหตุใดกันเล่า? ช่างประหลาดเสียจริง!

    "เจ้า..ปักปิ่นแล้วรึ?"
    ครู่ต่อมา เฉินหงหมิงก็แสร้งถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย ทว่า ขณะที่รอคอยคำตอบ..ในใจก็กลับเต้นรัวขึ้นเป็นจังหวะแปลกๆไม่หยุด ในระหว่างนั้น.. ดวงตาคมเข้มสีนิลก็ลอบสังเกตกิริยาของสาวน้อยไปพร้อมๆกัน

    "เจ้าค่ะ.."

    จ้าวเมิ่งเจี๋ยซึ่งยังไม่คลายจากอาการงุนงงกับเรื่องก่อนหน้าที่เหมือนนางจะเข้าใจในสิ่งที่ได้ยินได้ฟัง..หากก็คล้ายจะไม่เข้าใจไปด้วยเอ่ยตอบตามความจริง "ท่านพ่อท่านแม่เพิ่งจัดพิธีไปเมื่อราวสองเดือนก่อนนี้เองเจ้าค่ะ วันเดียวกับที่พี่...พี่ชายคนหนึ่งกลับมาจาก..." แล้วสาวน้อยก็ชะงักไว้เพียงนั้น พลางกลอกตาไปมาขณะมองสีหน้าดุๆของอีกฝ่ายคล้ายกำลังใคร่ครวญข้อดีข้อเสียของการเอ่ยเรื่องบางอย่างออกไป

    "กลับจาก..!?" บุรุษหน้าตาบึ้งตึงบนเตียงขมวดคิ้วยุ่ง

    "คือ..ที่จริงเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกันเลย..ท่านเสือใหญ่มิต้องรู้ก็ได้กระมังเจ้าคะ?" สาวน้อยเมิ่งอึกอักนิดหน่อยด้วยไม่อยากให้ข้อมูลใดๆที่บุรุษตรงหน้าจะสืบสาวราวเรื่องไปถึงตัวนางได้ หากแต่สาวน้อยหารู้ไม่ว่าการปิดบังเช่นนี้เองที่ยิ่งกระตุ้นให้ชินอ๋องแห่งเว่ยเหนือเกิดพระอาการ 'เดือดจัด' ขึ้นมาอีก

    "เพราะเหตุใด!? ไยเราจึงรู้เรื่องของเจ้าและพี่ชายผู้นั้นมิได้!? หรือมีลับลมคมในอะไรที่ไม่อาจบอกผู้คนได้อย่างนั้นรึ!?" เฉินหงหมิงมิได้รู้ตัวเลยว่าน้ำเสียงของตนในยามนี้ทั้งฟังดูโหดเหี้ยมและแฝงการขู่กรรโชกรุนแรงเสียจนสาวน้อยเมิ่งถึงกับผงะเมื่อได้ยิน

    "ท่าน..ฉุนเฉียวเรื่องอันใดอีกแล้วเล่า?" จ้าวเมิ่งเจี๋ยหน้าเสียไปนิด แม้จะรู้ว่ายามนี้บุรุษตรงหน้ามีปัญญาเพียงถลึงตาและส่งเสียงข้นใส่นางได้เท่านั้น หากก็ยังอดหวาดหวั่นกับพลังแห่งอำนาจที่มีมาแต่กำเนิดของเขามิได้อยู่ดี ประกอบกับนางมีบางเรื่องในใจที่ยังตัดสินไม่ได้ สีหน้าแม่นางน้อยยามนี้จึงคล้ายจะกล้าๆกลัวๆผิดแผกจากครั้งก่อนไปมาก และนั่นก็ทำให้ผู้มีอำนาจเช่นท่านอ๋องเฉินยิ่งกริ้วเข้าไปใหญ่!

    "มานี่! จะต้องให้เราเรียกอีกกี่ครั้งกัน!?" ชินอ๋องที่วันนี้ดูจะเจ้าอารมณ์ผิดปกติส่งเสียงกร้าวออกมาอีก

    "ท่านก็อย่าดุนักสิ! แมวน้อยก็กำลังมีปัญหาเหมือนกันนะเจ้าคะ!" เอ่ยติดห้วนไปนิดๆแต่สาวน้อยเมิ่งก็ยังเดินเข้าไปใกล้เตียงที่มีร่างสูงใหญ่นอนอยู่อีกหน่อยอย่างเสียไม่ได้

    "นั่งลง!"

    เฉินหงหมิงสั่งอีกครั้งด้วยเสียงที่แม้เจ้าตัวจะพยายามลดทอนความโหดห้วนลง หากก็ยังฟังเข้มงวดเสียจนสาวน้อยเมิ่งเบ้หน้า

    " 'พี่ชาย' คนใดกลับจากที่ใดกัน แล้วเกี่ยวอะไรกับพิธีปักปิ่นของเจ้าด้วย!?" ท่านอ๋องเฉินที่พระอารมณ์กำลังกรุ่นทรงเน้นเสียงบางคำอย่างดุดันขณะถามไปพลาง ในใจก็นึกทบทวนชื่อที่เคยได้ยินไปพลาง ดูเหมือนจะมีจิ้นเจี๋ย ห้าวหยาง และยู่ถงกระมัง? เห็นทีคงต้องให้สี่เย่สืบเรื่องของบุรุษน่าตายเหล่านี้เสียแล้ว!

    "เล่าได้จริงๆนะเจ้าคะ..? ท่านจะไม่เอาเรื่องนี้ไปสืบค้นต่อแล้วย้อนมาแก้แค้นแมวน้อยอีกใช่หรือไม่..?" จ้าวเมิ่งเจี๋ยลองพูดหยั่งเชิงขณะนั่งลงอย่างช้าๆ ที่จริงนางก็กำลังอยากมีคนคอยให้คำปรึกษาเรื่องที่จะเลือกใครมาหมั้นหมายอยู่เหมือนกัน เรื่องพวกนี้ใช่ว่าไม่เคยเอ่ยหารือกับพี่ชิงเอ๋อร์ ทว่าพี่สาวคนนั้นก็ยังโยนมาให้นางคิดอยู่ดีว่าชอบใครมากกว่ากัน ซึ่งจนบัดนี้ก็ยังมิเห็นว่าจะมีใครที่ตนรู้สึกพิเศษด้วยเลย ครั้นเริ่มสนใจพี่ถิงเวยขึ้นมานิด ท่านเสือใหญ่ก็พลันดุกลับมาเสียอีก..แล้วจะให้นางทำอย่างไรดีเล่า!?

    "เปิ่นหวางต้องการรู้เรื่องทั้งหมดก่อนจึงจะตัดสินใจต่อได้!" เฉินหงหมิงนิ่งไปก่อนจะออกคำว่า 'เปิ่นหวาง' อะไรนั่นมาอีกครั้ง แต่ก็คล้ายจะรู้ว่าแมวน้อยตรงหน้ายังเกรงๆตนอยู่ ถ้อยคำต่อมาจึงยอมลดน้ำเสียงดุห้วนลง ตามด้วยการเอ่ยปากรับรองเป็นมั่นเหมาะอีกครั้ง "แต่สัญญาว่าจะไม่ใช้โอกาสนี้คิดบัญชีกับเจ้าหรือใครๆรอบตัว.. แค่นี้พอหรือไม่?"

    "เจ้าค่ะ!" เมิ่งเจี๋ยน้อยเสียงใสขึ้นมาทันทีเช่นกัน นางรู้มาว่าพระอนุชาแห่งองค์เฉินจงฮ่องเต้ผู้นี้ทรงถือสัจจะยิ่งชีพ ถ้าเช่นนั้น.. นางก็คงเล่าความจริงบางเรื่องได้อย่างสบายใจขึ้นแล้วสินะ!

    "คือพี่ห้าว..เอ่อ..พี่ชายคนหนึ่งที่ให้แม่สื่อมาทาบทามแมวน้อยน่ะเจ้าค่ะ ที่จริงแล้วเขาเคยเป็น..."

    -----------------------------------------------

    "ท่านพี่..ท่านว่าแปลกหรือไม่เจ้าคะ?" จ้าวจินอิ๋งเอ่ยขึ้นมาในสายวันหนึ่งหลังจากที่นางและสามีรับอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว

    "เรื่องอันใดรึ?" คหบดีจ้าวเงยหน้าขึ้นจากกองบัญชีกองหนาบนโต๊ะก่อนจะก้มหน้าลงไปจดอะไรยุกยิกอีกครั้ง

    "ก็หมู่นี้พวกบ่าวไพร่รายงานว่าคล้ายจะมีทหารกับคนแปลกหน้าจำนวนหนึ่งวนเวียนอยู่รอบเรือนของเราแทบทั้งวัน บางครั้งก็มีชายท่าทางประหลาดๆมาสอบถามนั่นนี่อยู่เสมอ.."

    "อืม..อาจจะเป็นเพราะหลายวันมานี้ชินอ๋องเสด็จมาพำนักอยู่ที่จวนเจ้าเมืองของเรากระมัง การตรวจตราอะไรจึงได้เข้มงวดขึ้นเช่นนี้"
    "แต่เราเป็นแค่พ่อค้าวาณิชนะเจ้าคะ หาได้เกี่ยวข้องอันใดกับทางการไม่" ฮูหยินจ้าวยังไม่คลายกังวล "อีกอย่าง..เรื่องที่มาถามนั้นเหมือนจะเกี่ยวข้องกับเจี๋ยเอ๋อร์อยู่เสมอ.. ท่านพี่ยังว่าเรื่องนี้ไม่ยิ่งแปลกหรอกหรือเจ้าคะ?"

    "เจี๋ยเอ๋อร์? ลูกเราไปเกี่ยวอะไรด้วย?" จ้าวหลงเซิ่งมุ่นคิ้วยุ่งขึ้นมาทันใดก่อนที่จะค่อยคลายลงเมื่อคิดถึงความเป็นไปได้บางอย่างขึ้นมา "หรืออาจเป็นเพราะเรื่องที่เคยทาบทามหมั้นหมายนั่นกระมัง? บางทีพวกทหารที่เห็นอาจจะเป็นกลุ่มเพื่อนหรือคนที่ห้าวหยางดูแลอยู่ก็เป็นได้ เด็กคนนั้นเป็นถึงหัวหน้านายกองธงมิใช่หรือไร? เพื่อนฝูงก็คงมีไม่น้อยอยู่หรอก" คหบดีจ้าวเอ่ยชื่อบุรุษหนุ่มที่มีเรือนอยู่ติดกับตนด้วยท่าทีที่คล้ายจะสบายใจขึ้น

    "ก็อาจเป็นได้เจ้าค่ะ.. ข้าคงคิดมากไปเองจริงๆ" จ้าวฮูหยินอือออตามก่อนจะนิ่งเงียบไปอีกคน

    ----------------------------------------------------

    "เจ้าว่าอย่างไรนะ!? บุรุษผู้นั้นเคยเป็นคู่หมายตอนเด็กของเจ้าเช่นนั้นรึ!?" เฉินหงหมิงหน้าตาบึ้งตึงด้วยความโกรธขึ้นมาอีกแล้วกับเรื่องที่ได้ยิน! ชินอ๋องผู้ยิ่งยงยามนี้กำลังนอนถลึงตาถมึงทึงใส่สตรีตรงหน้าด้วยแรงโทสะอันมหาศาลที่ไม่อาจระบายออกมาได้

    "เจ้าค่ะ" เมิ่งเจี๋ยน้อยตอบรับด้วยหน้าตายุ่งๆ "แต่บ้านของเราทั้งสองยกเลิกสัญญากันไปนานแล้วด้วยพี่ชายท่านนั้นสมัครไปร่วมสงครามเมื่อสามปีก่อน ครั้นกลับมาช่วงปลายปีที่ผ่านมาก็เริ่มส่งคนมาทาบทามแมวน้อยอีกน่ะเจ้าค่ะ..."

    "แถมกลับจากทัพชายแดนมาถึงก็รีบมาเข้าร่วมพิธีปักปิ่นของเจ้า! ทั้งยังมอบปิ่นมุกให้ด้วยอย่างนั้นรึ!?"

    "เจ้าค่ะ เดิมทีพี่ชายท่านนั้นบอกว่าเพราะเขา..."

    "ทิ้งไปให้หมด!"

    "เจ้าคะ!?"

    "บอกว่าให้ทิ้งไปให้หมดไงเล่า!" ชินอ๋องกระชากเสียงห้วนตอบขณะเพ่งมองใบหน้าเหรอหราของสตรีน้อยข้างกายที่ยังแสดงอาการงงงวยในคำสั่งของตนด้วยความรู้สึกพลุ่งพล่าน ด้านหนึ่งก็นึกทวนชื่อที่เจ้าแมวตัวยุ่งเผลอเอ่ยออกมาไปด้วย! 'ชื่อห้าวอย่างนั้นรึ? คงจะเป็นห้าวหยาง..หนึ่งในบุรุษที่เคยกล่าวถึงนั่นสินะ! แถมเพิ่งมาจากทัพทหารด้วยงั้นรึ? ดี! ดีจริงๆ!'

    "ใช่ปิ่นที่เจ้าใช้ตอนนี้หรือไม่!?" บุรุษตาดีนึกโกรธกรุ่นอยู่ในใจขณะมองสำรวจพลางส่งเสียงขุ่นจัดอีกครั้งเมื่อเห็นประกายมุกงามจับตาของ 'สิ่งนั้น' บนผมยาวดำขลับของเจ้าแมวน้อยชัดตา

    "ทะ..ทำไมเล่าเจ้าค่ะ?"

    "ปลดออกมา! แล้วโยนทิ้งต่อหน้าเราเดี๋ยวนี้!"

    "หา!?" สาวน้อยเมิ่งตาโตใส่ทันควันขณะมือเล็กข้างหนึ่งเลื่อนขึ้นจับปิ่นมุกแสนสวยที่ตนเลือกใช้ก่อนเข้านอนด้วยท่าทางทะนุถนอมระคนหวงแหน "มิได้หรอกเจ้าค่ะ!"

    "เหตุใดจึงมิได้!?" เสียงกร้าวด้วยไฟโทสะปะทุดังขึ้นอีก แต่แม้จะแอบสะดุ้งเล็กๆ สาวน้อยก็ยังคงส่ายศีรษะอย่างขึงขัง

    "มิได้จริงๆเจ้าค่ะ ปิ่นนี้เป็น..."

    "บอกว่าให้ทิ้งไปไงเล่า!" ไม่ทันฟังความให้จบ เสียงห้วนดุดันก็เอ่ยออกมาอย่างวางอำนาจเมื่อได้ยินคำยืนกรานของสตรีตรงหน้า "จำมิได้รึว่าเจ้าเคยกล่าวเยี่ยงไรไว้! หากถ้อยคำในบทกลอนนั้นเป็นจริง.. เช่นนั้นเจ้าก็คือว่าที่หวางเฟยของเรา แล้วเจ้ายังจะรับปิ่นปักผมที่เป็นตัวแทนของหมั้นหมายจากชายอื่นอีกได้อย่างไร!?"

    "........" จ้าวเมิ่งเจี๋ยอ้าปากค้างอีกครั้ง สองตางดงามดุจนัยน์ตากวางกะพริบถี่กับความนัยแปลกๆจากถ้อยคำของเสือใหญ่ตาดุเสียงดังตรงหน้า "ก็..ท่านมีแม่นางอู๋เป็นคู่หมายอยู่แล้วนี่เจ้าคะ แล้วก็..หากถ้อยคำในบทกลอนนั้นมิใช่ความจริง เช่นนั้นแล้วเราก็ไม่..."

    "ถึงอย่างไรเจ้าก็ยังรับปิ่นหรือของหมั้นหมายจากผู้ใดมิได้อยู่ดี!" เฉินหงหมิงเอ่ยตัดบทด้วยหน้าตาขึ้งเคียดไม่หยุด รู้สึกทั้งโกรธทั้งโมโหสาวน้อยตาใสตรงหน้านัก โกรธแม้กระทั่งตัวเองที่ทำได้เพียงส่งเสียงปาวๆอยู่เช่นนี้ด้วย!

    "ลองคิดดู หากเรื่องนี้ไม่มีมูลความจริงอยู่บ้างแล้ว..เจ้าจะมาปรากฏตัวในฝันของเราได้อย่างไร? และถ้าเป็นเช่นนั้น.. หากว่าเรากับเจ้า..จะต้องมีอนาคตร่วมกันเช่นที่เคยเอ่ยมาจริง..." ชินอ๋องเม้มปากแน่นสนิทขณะพยายามข่มใจมิให้ใบหน้าที่กำลังรู้สึกร้อนวูบวาบเพราะคิดไปถึงบทกลอนบางบทแสดงพิรุธอะไรออกไป "เจ้าก็ไม่ควรมีเรื่องติดต่อหรือหมั้นหมายกับชายอื่นให้ใครมาครหาหรือดูแคลนมาถึงเราได้ หวางเฟยของเราควรต้องบริสุทธิ์ผุดผ่องและ..เกิดมาเพื่อเราเพียงผู้เดียวเท่านั้น!"
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×