ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    At the end of summer ♡ LayChen

    ลำดับตอนที่ #7 : Rest light! : By extrarovvx

    • อัปเดตล่าสุด 22 พ.ค. 58


         


    Rest Light!
    yixing x jongdae

    | extrarovvx |

     

     

                เสียงบทสนทนาโต้ตอบในโทรทัศน์ดูเหมือนจะเป็นสิ่งเดียวที่ถูกอนุญาตให้มีเสียงได้ในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆนี้ บนหน้าจอปรากฏร่างของผู้หญิงขวัญใจชาวเกาหลีครึ่งประเทศกำลังร้องห่มร้องไห้ฟูมฟายถึงเรื่องราวเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับตนเอง ตามบทแล้วคนทั้งประเทศควรที่จะเห็นใจเธอที่เกิดมาแล้วต้องเจอกับเรื่องราวทุกข์ทนมากมายแม้กระทั่งมีลูกชายที่เป็นหัวแก้วหัวแหวนแล้วก็ต้องเสียเขาไปด้วยความเห็นแก่ตัวของใครบางคน แต่ดูเหมือนบทนั่นจะไม่ได้ผลอะไรกับต่อมรับความรู้สึกของคนที่นอนแผ่บนโซฟาในห้องสี่เหลี่ยมนี่เลยซักนิด

              ถ้าตอนเด็กๆมีการประกวดเขียนเรียงความเรื่องเหตุผลสิบข้อทำไมคุณถึงเกลียดหน้าร้อน คิมจงแดคนนี้คงจะได้รางวัลชนะเลิศอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะเขามีเหตุผลมากมายเป็นล้านล้านอย่างที่พูดได้เลยว่าจัดเป็นการพูดสุนทรพจน์ก็คงพูดไม่หมด เขาไม่ชอบหน้าร้อน มันทั้งอบอ้าว แห้งผาก แถมยังชื้นแฉะเมื่อบางวันก็นึกครึ้มฝนตกซะอย่างนั้น เขาจะยิ่งไม่ชอบเข้าไปใหญ่เมื่อหน้าร้อนที่เขาเกลียดนักเกลียดหนากลายมาเป็นช่วงเวลาที่คนมาวุ่นวายกับชีวิตของเขามากที่สุด

              แต่มันก็คงต้องบอกว่าช่วยอะไรมากไม่ได้ในเมื่อบ้านของเขาดันอยู่ริมทะเลที่ขึ้นชื่อว่าหาดสวยไม่แพ้ที่ไหนบนเกาะขึ้นชื่อของเกาหลี นอกจากนั้นพ่อก็ยังมองเห็นรายได้หลักๆที่จะฟู่ฟ่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนหน้าร้อนที่ทุกคนแห่กันมาที่เกาะแห่งนี้ พ่อก็เลยเปิดเป็นที่พักเล็กๆที่จะเปิดให้เช่าเฉพาะทางอินเตอร์เน็ต ราคาก็ไม่แพง ของก็สะดวกครบครันทุกอย่าง ใครโชคดีกดจองทันตอนที่เปิดให้เช่าก็ถือว่าเก่งไม่น้อย เพราะนอกจากจะให้เช่าเฉพาะในอินเตอร์เน็ตแล้วเวลาที่เปิดให้เช่าก็ไม่เคยตรงกันซักครั้ง เรียกได้ว่าอยากเปิดให้เช่าตอนไหนก็เปิด และแต่อารมณ์ของ(ลูก)เจ้าของและจำนวนห้องว่าง

              รีสอร์ทของพวกเราเป็นบ้านพักแยกออกเป็นส่วนๆ แต่ละบ้านจะมีของใช้ครบครันมีสองห้องนอนสองห้องน้ำ แต่ละบ้านจะมีส่วนที่เป็นห้องรับแขกโดยเฉพาะและมีมุมสำหรับห้องครัวเล็กน้อย เป็นมุมที่เอาไว้แก้หิวตอนดึกๆ ทางเดินหน้าบ้านของแต่ละบ้านจะเชื่อมเข้าสู่ส่วนครัวตรงกลางรีสอร์ทที่เป็นทั้งครัว ฟร้อนท์ และมุมพักผ่อนของแขกที่ต้องการบริการร่มรื่น ตรงช่วงหลังครัวนั้นเองจะเป็นบ้านของพวกเรา บริการระหว่างทางเดินนั้นจะเป็นสวนร่มรื่นที่คุณชายคิมเขาบรรจงปลูกเองทุกต้นกับมือ พิถีพิถันสุดๆ ถัดจากส่วนครัวและส่วนรับแขกเดินตรงไปเรื่อยๆจะเป็นชายหาดที่มีทั้งน้ำใสสีเขียวมรกตและหาดทรายสีขาวเนื้อละเอียดขึ้นชื่อของเกาะที่นี่

              แล้วไอ่ที่โด่งดังสุดๆก็เห็นจะเป็นตารางการเปิดจองที่ไม่เคยตรงกันซักครั้ง คงจะไม่ต้องบอกก็น่าจะรู้ว่าเป็นฝีมือของใคร มันก็คงไม่พ้นผมอยู่ดีที่ครอบครองทุกอย่างเกี่ยวกับเทคโนโลยีในรีสอร์ทแห่งนี้ โทษฐานที่พวกเขาจะมาทำลายวันหยุดผม การที่ผมจะกวนประสาทเล่นด้วยการเปิดจองตอนไหนก็ได้แล้วแต่อารมณ์ก็ไม่แปลก เพราะนั่นหมายความว่าจะเป็นการคัดคนที่อยากเข้ามาอยู่จริงๆ และเป็นการแก้แค้นไปในตัวอีกด้วย(แน่นอนว่าคุณชายคิมเขาไม่สามารถพูดอะไรได้เพราะนี่ก็กลายเป็นเสน่ห์ของการจองรีสอร์ทแห่งนี้ไปซะแล้ว)

              สิ่งหนึ่งที่เป็นของขึ้นชื่อของอุตสาหกรรมของครอบครัวของเขาก็คือแพ็คเกจนำทัวร์ท่องเที่ยวไปทั่วเกาะที่สามารถเหมารวมไปกับราคาห้องพัก หรือจะไม่เหมาก็ได้ในกรณีที่มีจุดหมายในการเดินทางอยู่แล้ว บรรดาพวกรีวิวที่พักของเขาในอินเตอร์เน็ตต่างก็พูดถึงข้อดีของแพ็คเกจทัวร์ที่ถูกเหมารวมไปด้วยทั้งนั้นเพราะหนึ่งมันสะดวก และสองเขาว่ากันว่าไกด์ของพวกผมก็นำทางได้ดีสมกับราคา

              มันไม่แปลกนักหรอกถ้าไกด์ที่พวกเขาหมายถึงจะเป็นผมกับไอเจ้าก้อนที่กองอยู่ปลายเท้าผมในตอนนี้เนี่ย เพราะพอหยุดเรียนหน้าร้อนทีไร ผมกับเจ้าน้องชายคนสนิท(อย่างน้อยก็ยังพอสนิทแบบใช้เท้าคุยกันได้)ที่เป็นญาติห่างๆก็จะมารับงานพิเศษเป็นไกด์นำเที่ยวเสมอ ถ้าหากในกรณีที่มีคนมาขอเช่าแล้วเขาดันต้องการตัวพวกผมแต่พวกผมดันไม่ว่าง คุณชายคิมเจ้าของรีสอร์ทก็ต้องรับหน้าที่ไปโดยปริยาย แต่ถึงอย่างนั้นรีวิวส่วนใหญ่ที่พูดถึงข้อดีของการเหมาไกด์ของรีสอร์ทก็จะหมายถึงพวกผมอยู่ดี ความจริงข้อนี้ผมมั่นใจได้เลย เพราะไม่มีใครพิศวาสและมองว่าพ่อผมน่ารักได้ลงคอหรอก

              “นี่! เลิกดูซี่รี่ย์แล้วไปรับแขกได้แล้วลูก เรือจะจอดแล้วนะ”

              เสียงตะโกนจากฝั่งครัวแทบจะไม่ส่งผลอะไรเลยกับสองร่างที่พาร่วมใจกันนอนแผ่เพื่อไล่ดูซี่รี่ย์เรื่องดังย้อนหลังกันในวันหยุด ผมที่มีศักดิ์เป็นพี่และได้อภิสิทธิ์นอนบนโซฟาใช้เท้าเขี่ยร่างผอมแห้งของญาติห่างๆที่นอนหมดสภาพอยู่ปลายเท้าให้ลุกตามคำเรียกร้องของแม่ที่อยู่ในครัว

              “ไปซะสิ แม่เขาเรียกมึงอ่ะเซฮุน”

              เจ้าเด็กเหลือขอร้องฮืออย่างขัดใจ ทำไมผมจะไม่รู้ล่ะว่ามันชอบซี่รี่ย์เรื่องนี้มากแค่ไหน และมันก็คงจะยอมไม่ได้ซักนิดถ้าหากถูกใครขัดจังหวะเข้าระหว่างการฉาย ผมเองก็ไม่เข้าใจว่ามันจะจริงจังอะไรนักเพราะยังไงก็นั่งไล่ดูย้อนหลังได้อยู่แล้ว

              “พี่ก็ไปสิ ไม่เห็นหรอว่าผมกำลังดูอยู่ นี่มันไคลแมกซ์แล้ว”

              “ทำไมกูต้องไป”

              “แล้วพี่จะอยู่แย่งอากาศผมหายใจทำไมเล่า! ดูก็ไม่ดู บ่นแม่ งทั้งเรื่อง”

              นอกจากจะแวดใส่ผมเรื่องที่กวนจังหวะมันตลอดทั้งเรื่องแล้ว มันก็ยังถือวิสาสะกระชากข้อเท้าข้างที่ผมยังใช้เขี่ยมันอยู่ลงจากโซฟาทันทีทั้งที่ผมยังไม่ทันได้ตั้งตัว จนทำให้ผมต้องกลิ้งตกลงมาทั้งที่ข้อเท้ายังอยู่ในมือของเด็กเวรนั่น และสายตาของมันก็ไม่ได้ละไปจากจอซักเสี้ยววินาทีเดียว

              โอโห รักกันมากเลยครับ กระชากข้อเท้าแทบหลุดแล้วยังมีการมาลอยหน้าลอยตาทำทองไม่รู้ร้อนทั้งที่หลักฐานยังคามือคาตีนขนาดนี้

              ผมสะบัดๆข้อเท้าให้หลุดจากการจับกุมของเด็กนั่นได้อย่างง่ายดาย แล้วพลิกตัวไปอีกฝั่งพลางใช้มือทั้งสองข้างยันตัวให้ลุกขึ้นนั่งแล้วยืนขึ้นตามสเต็ป อาศัยจังหวะทีเผลอตอนที่เซฮุนยังคงจ้องหน้าจอไม่เลิกเดินไปกดปิดหน้าจอโทรทัศน์มันซะเลย อยากกระชากเท้าดีนัก ไม่ต้องดูมันทั้งคู่นี่แหละ

              “เห้ยพี่! ทำไรอ่ะ!? นางเอกกำลังจะกระโดดน้ำเลยนะพี่!”

              มันโวยวายพร้อมปาหมอนแถวนั้นอัดเข้าหน้าผมเต็มๆ นี่ไม่บอกก็คงไม่รู้กันซินะว่าผมอายุมากกว่าไอ่เด็กเวรนี้ถึงเกือบสองปีเต็ม

              “ใครเขาบอกมึงว่าการฆ่าตัวตายอยู่ในหมวดของหนังรักโรแมนติกหรอ ประสาทนะมึงอ่ะ”

              ผมพูดในขณะที่กำลังคีบหมอนนุ่มออกจากหน้าแล้วปากลับไปใส่เซฮุนด้วยความแรงที่เพิ่มขึ้นสิบเท่าตัวได้ เจ้านั่นร้องโอดโอยก่อนจะลุกขึ้นได้ซักที มันแสร้งทำปากเบะแล้วบิดขี้เกียจ คิดว่าทำตัวน่ารักแล้วจะผมสงสารหรอ คิดผิดล่ะ

              “ไป ไปเอากุญแจรถ แล้วอย่าให้ต้องพูดซ้ำรอบสอง”

              มันตวัดสายตามาทางผมแล้วก็ทำปากขยับล้อเลียนตามคำพูดของผม แต่ถึงจะทำตัวกวนตีนแต่ใจยังกลัวตีนมันก็เลยยอมเดินไปหยิบกุญแจรถที่วางอยู่ตรงโต๊ะตามคำสั่งผมแต่โดยดี เป็นน้องมันต้องเชื่อฟังพี่แบบนี้สิถึงจะน่ารัก

             

              ถ้าบนโลกนี้มีธนาคารคำพูด ผมขอถอนคำพูดเรื่องชมเจ้าโอเซฮุนว่าน่ารักได้ไหมครับ? ไอตอนแรกที่มันเดินไปหยิบกุญแจ ก็น่ารักจริงๆนั่นแหละที่รู้หน้าที่ว่าต้องเดินไปตรงรถตู้เพื่อเป็นสารถีในครั้งนี้ แต่พอย้ายสารร่างพร้อมของใช้ที่จำเป็นขึ้นรถกันเรียบร้อย เจ้าเด็กเวรก็เริ่มอ้าปากสีแดงๆที่เลี้ยงสุนัขไว้หลากหลายพันธุ์ออกมาทีละตัว ค่อยๆปล่อยแต่กัดเจ็บทุกตัว อะไรแบบนั้นเลย

              “พี่นี่ก็ประสาท อายุจะเข้าเบญจเพสอยู่รอมร่อ ถอยรถมอ’ไซค์ยังไม่เป็นเลย”

              ผมเอาหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นประจำวันที่เพิ่งอ่านเสร็จพับให้เป็นสี่เหลี่ยมแนวยาวแล้วฟาดเข้าที่ด้านข้างของมัน ถึงจะเป็นญาติกันห่างๆแต่ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับโอเซฮุนก็เหมือนรักกันด้วยฝ่าเท้า อาจจะรักกันแต่ก็ต้องมีเรื่องให้ได้ปะทะคารมกันบ่อยๆ แต่ก็มันก็อดปฏิเสธตัวเองไม่ได้หรอกว่ามันเองก็ติดผมใช่ย่อย ไปไหนต้องมีผมไปด้วย ถึงจะอยู่ด้วยกันทีไรได้กินตีนแทนข้าวกันทุกรอบก็ตามที

              “ก็ไม่จำเป็นต้องหัดปะวะ ยังไงก็ยังมีมึงเป็นสารถีให้ตลอดอยู่แล้ว”

              ผมพูดจริง เพราะตั้งแต่เด็กแล้วเซฮุนเองก็เป็นคนขับรถให้ผมตลอด ยิ่งตอนนำทัวร์เนี่ยยิ่งแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน มันขับผมแนะนำทาง เข้าขากันเหมือนสพอนจ์บ๊อบกับแพทริคชะมัด

              “ถ้าวันไหนมีลูกมีเมียแล้วไม่มีผมจะรู้สึก”

              มันพูดเชิงมั่นใจในตัวเอง อ่อครับ พ่อโอเซฮุนคนหน้าตาดีที่ไม่ว่าใครก็ขาดคุณไม่ได้ คิดว่าผมจะงอมืองอเท้าพอไม่มีมันหรอ ผมเองก็ยังคิดเป็นอยู่นะว่าพอไม่มีเซฮุนก็ต้องหัดขับรถเอง เป็นคนคิดเองได้ไม่ต้องบอกเว้ย ไม่โง่

              “พอกูมีลูกมีเมียเดี๋ยวมึงก็ต้องตามมาเป็นลูกคนโตกูอยู่ดีเพราะนิสัยขาดกูไม่ได้ของมึงไง”

              ผมพูดทำลอยหน้าลอยตา ก็มั่นใจในตัวเองระดับหนึ่งอะนะ แบบว่าเป็นคนดีมากจนเด็กเวรตามติดมาตั้งแต่เด็ก แล้วอีกอย่างการที่มันยังตามมาเป็นขี้ข้าผมทั้งที่ตัวเองโตเป็นควายขนาดนี้ก็สามารถยืนยันได้นะว่าเด็กนี่มันติดผมแค่ไหน

              เซฮุนส่งเสียงหึขึ้นจมูกอย่างขัดใจ คงจะขัดใจที่ผมดันไปจี้จุดเข้าให้อีกแล้วล่ะสิ มันถอยรถเข้าที่จอดรถที่ประจำของเราก่อนจะปลดล็อคเซฟตี้เบล์ทในขณะที่ผมก็ปลดล็อคเซฟตี้เบล์ทของตัวเองพร้อมเอื้อมมือไปหยิบป้ายชื่อรีสอร์ทออกมาพอดี วันนี้เป็นวันแรกที่ลูกค้าล็อตแรกผู้โชคดีจะเข้ามาใช้บริการรีสอร์ทของเราเป็นเวลาสามวันพร้อมกับการเหมาแพ็คเกจทัวร์ และนั่นก็หมายความว่านับจากวันนี้ไปอีกสามวัน คิมจงแดและโอเซฮุนจะไม่มีเวลามานั่งดูซี่รี่ย์น้ำเน่าในวันหยุดแสนสบายอีก มันไม่ลำบากเซฮุนเท่าไหร่หรอกเพราะหมอนั่นถ้าไม่ได้ดูซี่รี่ย์มันก็หาอย่างอื่นทำได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว แต่คือมันจะลำบากผมที่เป็นคนไม่ชอบให้ชาวบ้านมายุ่งวุ่นวายกับชีวิตซักเท่าไหร่เนี่ยซิ

              ลำบากนิดหน่อยแต่แลกกับเงินตลอดทั้งอาทิตย์ก็ยอมวะ ถือว่าหยวนๆกันไป

              หลังจากที่กระโดดลงจากรถตู้ของรีสอร์ทที่คุณชายคิมยอมทุ่มเงินซื้อเพื่อลูกค้าคนพิเศษทั้งหลายแล้ว พวกเราก็เดินมาเจอกันตรงมุมหน้ารถตู้เพื่อสะสางถึงรายชื่อแขกที่จะเข้าพักในวันนี้ รีสอร์ทของเรามีบ้านพักทั้งหมดห้าหลัง ส่วนใหญ่ก็จะมาเป็นครอบครัว หรือไม่ก็มาเป็นคู่รัก น้อยคนนักที่จะตัดใจมาสถานที่ท่องเที่ยวสุดโรแมนติกแบบนี้ด้วยตัวคนเดียวได้

              เพราะมีทั้งหมดห้าหลัง วันนี้เลยมีแขกคร่าวๆประมาณสิบสองคน มีประมาณเก้าคนที่ตกลงใช้บริการเหมาแพ็คเกจทัวร์ด้วย ส่วนอีกสามคนก็เป็นครอบครัวที่มีจุดมุ่งหมายท่องเที่ยวที่อื่นเลยไม่ได้ใช้บริการเหมาทัวร์กับเรา ผมอ่านรายชื่อทั้งหมดสิบสองคนแล้วก็ไม่ได้ติดใจอะไรเท่าคุณห้องหมายเลขสามที่ตัดสินใจมาคนเดียวเนี่ยแหละ ถึงจะไม่ใช่เรื่องแปลกที่มาคนเดียวแต่เพราะชื่อและนามสกุลที่ดู’ต่างชาติจ๋ามากนี่สิที่ทำให้ผมรู้สึกแปลกใจ ไม่คิดมาก่อนนะเนี่ยว่ารีสอร์ทของเราจะดังจนมีต่างชาติผู้โชคดีสามารถจองห้องพักได้ทัน ถึงว่าคุณชายคิมช่วงนี้อารมณ์ดีเป็นพิเศษ ตีตลาดชาวต่างชาติได้แล้วนี่เอง

              “ได้ข่าวว่าวันนี้มีคนมาเดี่ยวซะด้วย สงสัยผมต้องไปตีสนิทด้วยซะและ”

              เหมือนจะเป็นธรรมเนียมของเจ้าเซฮุนไปซะแล้วเมื่อรู้ว่ามีแขกมาพักคนเดียว มันก็มักจะไปชวนเขาคุยนู่นนี่จนสนิทกับเขาไปทั่ว ถ้าเป็นผู้หญิงก็อาจจะชวนคุยพอให้คุณหล่อนคลายเหงา แต่ถ้าเป็นผู้ชายมันก็จะตีสนิทจนสามารถไปนอนห้องเขาได้ภายในเวลาไม่ถึงสามวัน ซึ่งมันก็นับว่าดีเพราะเซฮุนจะได้ไม่ต้องมาแย่งอากาศในห้องเขาหายใจอีกหลายวัน

              “รอบนี้ก็รีบทำลายสถิติแล้วไปนอนห้องเขาไวๆนะ”

              ผมส่งยิ้มให้เป็นกำลังใจ มันทำหน้าอย่างกับผู้กำชัยชนะไว้ในมือแล้วเดินนำหน้าผมไปรอตรงจุดรับผู้โดยสารของท่าเรือ กฎหลักของที่นี่คือสามารถเอารถมาใช้ในเกาะได้ก็จริง แต่ผู้คนส่วนใหญ่ก็นิยมมาด้วยตัวเองมากกว่าไม่ค่อยเอารถมาด้วยเท่าไหร่ อาศัยเดินกินลมชมวิวกันเท่าที่ผมได้ยินลูกค้าส่วนใหญ่พูดๆกันนะ

              พวกเรายืนรอแขกของรีสอร์ทได้สิบนาทีกว่าก็เริ่มทยอยกันมาทีละคนสองคน มีครอบครัวใหญ่มาเพียงแค่ครอบครัวเดียวคือสามคนที่ไม่ได้เหมาทัวร์กับพวกผมนั่นแหละพวกเขาได้ครองบ้านหมายเลขหนึ่งไปแบบชิวๆ แล้วก็มีเพื่อนกลุ่มเดียวกันที่มาพักผ่อนที่อาศัยอยู่บ้านหมายเลขสอง ดูจากการแต่งตัวแล้วข้าวของที่ใช้ก็น่าจะมีฐานะพอสมควร แล้วก็คู่รักที่อยู่บ้านหมายเลขสี่ กลุ่มที่มาถัดไปก็คือกลุ่มเพื่อนอีกกลุ่มที่มาด้วยกับกลุ่มก่อนหน้า คงจะวางแผนกันมาดีมากเลยจองห้องได้ใกล้กันพอดี เอ๊ะ หรือคราวนี้ผมเปิดจองได้ง่ายไปนะ ไม่สนุกเลยอ่ะ

              รออยู่ต่อได้อีกประมาณห้านาที คุณต่างชาติจ๋าที่ว่าก็ยังไม่ได้โผล่หน้ามาให้ผมเห็นซักครั้ง ผมเลยให้เซฮุนพาแขกทั้งหมดไปนั่งรอในรถตู้ส่วนผมจะรับหน้าที่พาแขกคนนั้นไปที่รถเอง เซฮุนพยักหน้าอย่างเข้าใจแล้วก็นำทางพวกเขาไปที่รถตู้ เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ่อยตลอดนั่นแหละ มาเที่ยวครั้งแรกก็หลงทาง ยิ่งมาคนเดียวยิ่งเป็นชาวต่างชาติยิ่งหลงทางได้ง่าย แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าการที่จงแดมารอนานๆจะไม่มีน้ำโหนะ นี่ก็เริ่มหงุดหงิดกับเขาบ้างแล้วเหมือนกัน

              ผมยืนรอได้อีกประมาณห้านาที คนที่ทยอยเดินขึ้นจากเรือข้ามฝากก็เริ่มหมดไป ผมชักคิ้วกระตุกเมื่อยังไม่มีวี่แววว่าจะมีใครเดินมาทางนี้ซักคน มันไม่ใช่ว่าผมไม่มีเอกลักษณ์อะไรที่บ่งบอกถึงชื่อรีสอร์ทนะ แค่ป้ายอันเท่าตัวผมที่ถืออยู่นี่ก็มองเห็นตั้งแต่เรืออยู่ห่างออกไปสิบกิโลแล้ว! กดโทรศัพท์ดูเวลาก็เลยรู้ว่ามันเลยเวลาข้าวเที่ยงผมมาได้เกือบชั่วโมง ตอนแรกที่ขับรถมาก็หิวนิดหน่อยเพราะเลยมาแค่ครึ่งชั่วโมง แล้วนี่เจ้าตัวยังไม่โผล่หน้ามาอีก ถ้าอีกสิบนาทียังไม่มีคนเดินมาผมจะปล่อยให้เขาไปรีสอร์ทผมด้วยตัวเองแล้วนะ เก่งจองห้องทันก็เก่งไปเองให้ได้แล้วกันเว้ย!

              ผมนับถอยหลังอีกสิบวิเมื่อพบว่าเวลามันเกิดขีดจำกัดที่ผมวางเอาไว้ อารมณ์ตอนนี้เรียกว่าเดือดสุดๆจนเอาไก่มาต้มก็สุกภายในสิบนาที ปกติผมก็เป็นคนขี้รำคาญอยู่แล้วนะ ยิ่งถ้าอารมณ์เสียเนี่ย

     
             เก้า แปด เจ็ด หก ห้..

              “รอผมอยู่หรอครับ?”

              สำเนียงประหลาดที่ดังขึ้นทำให้ผมละออกจากหน้าจอโทรศัพท์เพื่อมามองคนที่อยู่ตรงหน้า เขาเป็นคนที่มีผิวละเอียดค่อนข้างไปทางขาว จมูกโด่งเป็นสันได้รูป ริมฝีปากสีแดง แววตาที่มีแต่เค้าโครงความอบอุ่น แต่ทั้งหมดนั่นก็ดึงความสนใจแทบไม่ได้เลยเมื่อเทียบกับรอยบุ๋มที่ข้างแก้ม

              เหอะ หน้าตาดีจะไปมีประโยชน์อะไร้ถ้าจะมาสายให้ชาวบ้านเขาคอยขนาดนี้ เก็บหน้าหล่อๆนี่เอาไว้ใช้กับคนอื่นซะเถอะ อย่างน้อยกับจงแดคนนี้ก็ไม่มีประโยชน์อยู่แล้ว หล่อไปก็เท่านั้น กินก็ไม่ได้

              “ถ้าคุณชื่อจาง อี้ชิงล่ะก็ใช่”

                “แล้วถ้าผมบอกว่าผมชื่ออี้ชิง จางละ?”

                “ก็ไปกระโดดลงน้ำตายซะไป!”




     

    by. extrarovvx

    ขอบคุณที่ให้กำลังใจและติดตามเสมอมานะคะ♥
    ขอบคุณธีมสวยๆจาก Michelle Jean

     

             


     
    Micelle Jean
       
      
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×