ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    RE-World เกิดใหม่เป็นตัวร้ายก็ร้ายเเบบมีสไตล์ละกัน (เปิดให้อ่านฟรีหมดเเล้วนะครับ)

    ลำดับตอนที่ #6 : วันที่ 4 ตัวร้ายกับการเข้าเรียนวันเเรก เเละ พูดคุยกับอดีตคู่หมั้น

    • อัปเดตล่าสุด 6 พ.ค. 66


    วันที่ 4 ของการมาต่างโลก หน้าอาคารเรียน โรงเรียนเวทย์มนต์ฟอร์จูน่า

    ความเดิมจากตอนที่เเล้วทุกคนต่างตกตะลึงกับสิ่งที่เอ็ดเวิร์ดสามารถเล่นงานสตีเวนจนลงไปนอนได้ หลังจากสถานการณ์ก็พลิกกลับสตีเวนที่เลือดขึ้นหน้าจากการถูกเอ็ดเวิร์ดเล่นงาน เรียกดาบในตำนานออกมาเพื่อสังหารเอ็ดเวิร์ด ซึ่งเอ็ดเวิร์ดก็ถูกเล่นงานที่เผลอจนบาดเจ็บสาหัส เเละเขาก็กำลังถูกฆ่านั้น ซาช่าที่ดูท่าทีอยู่นาน เธอก็ได้เข้ามาช่วยเหลือเอ็ดเวิร์ดทำให้เขารอดจากเหงื่อมือมัจจุราชได้ทันเวลา ซึ่งการปะทะของดาบศักดิสิทธิ์ทั้งสองเล่มก็ได้เกิดขึ้นเเล้ว

    เป้งงงง ฟริงงงงง ตึงงงง เสียงของดาบศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองเล่มปะทะกันจนเกิดเสียงกรีดร้องขึ้นมา ดาบที่ได้รับการประทานพรจากเทพเจ้านั้นต่างกรีดร้องให้ผู้กล้าทั้งสองหยุดต่อสู้กัน ซึ่งสตีเวนที่โกรธจนขาดสติก็ไม่ได้มีสติอะไร เเม้สาวงามเช่นซาช่าจะเข้ามาห้ามก็ตาม ซึ่งเธอถึงกับเรียกดาบศักดิ์สิทธิ์ออกมาป้องกันมันยิ่งทำให้สตีเวนไม่พอใจเข้าไปใหญ่อีก

     

    “ ซาช่าอย่ามาขว้างชั้นจะฆ่ามัน ถ้ามันตายโลกนี้จะได้น่าอยู่ขึ้น ”

    สตีเวนพูดขึ้นด้วยความไม่พอใจ เขามีความคิดที่จะฆ่าเอ็ดเวิร์ดจริงๆ ซึ่งในตอนนี้ไม่มีใครสามารถหยุดเขาได้ หากซาช่าไม่เข้ามาหยุดสตีเวนไว้ เอ็ดเวิร์ดก็คงจะตายไปเเล้ว ซึ่งในตอนนี้ทุกคนก็รอดูว่าการต่อสู้ของผู้กล้าทั้งสองคนจะเกิดขึ้นไหม

     

    “ สตีเวนพอได้เเล้ว นายไม่เห็นหรือไงว่าเขาไม่อยากสู้นะ มิเลน่าช่วยเอ็ดเวิร์ดเร็วเข้า ”

    ซาช่าพูดขึ้นให้สตีเวนได้สติ ก่อนจะเรียกให้มิเลน่ามาช่วยเหลือเอ็ดเวิร์ดที่กำลังจะตายจากการถูกดาบผู้กล้าฟันกลางลำตัวจนเกิดเป็นเเผลฉกรรจ์ ผู้กล้าสาวคิดว่าสตีเวนทำเกินไป เธอมองดูสถานการณ์อยู่ห่างๆ ซึ่งเอ็ดเวิร์ดไม่ได้เป็นคนหาเรื่องเขาก่อนเลย เเถมพยายามหลีกเลี่ยงการต่อสู้ด้วยซ้ำ เเต่สตีเวนนั้นกัดเอ็ดเวิร์ดไม่ปล่อย เเถมมีเจตุนาฆ่าชัดเจนอีกมันทำให้เธอต้องยืนมือเข้ามาช่วยเหลือ

     

    " เเฮก เเฮก เเฮก เจ็บชะมัด นี้ชั้นกำลังจะตายอีกเเล้วเหรอ ฮาๆๆ ”

    เอ็ดเวิร์ดพูดขึ้นตัวเขาเริ่มเกิดอาการหน้ามืดจากการเสียเลือดมาก ตอนนี้เขากำลังหัวเราะให้กับโชคชะตาอันโหดร้ายของตัวเอง ความรู้สึกหนาวเย็นที่เขากำลังสัมผัสอยู่นั่นคือสิ่งที่พิสูจน์ว่าโลกเกมเเห่งนี้คือโลกความเป็นจริง มันไม่ใช่สิ่งที่จะทำตัวเล่นๆเเล้วจะรอดมาได้ บุตรดยุคหัวเราะออกมา เขาคิดว่าตัวเขานั้นยังจริงจังกับโลกนี้ไม่พอ ผลก็คือมันทำให้เขาต้องมามีสภาพเช่นนี้

     

    “ นี้นายอย่างพึ่งเป็นอะไรนะ ทำใจดีๆไว้ ”

    มิเลน่าเข้ามาปฐมพยายามบาลให้กับเอ็ดเวิร์ด เเต่ว่าเธอพบว่าบาดเเผลของเอ็ดเวิร์ดนั้นถูกพลังจากดาบเเห่งเเสงทำลายไปทำให้เลือดของเขาไหลไม่หยุด ซึ่งเธอต้องใช้สมุนไพรที่มีพลังธาตุความมืดมารักษา เพื่อลดพลังธาตุเเสงที่ทำลายร่างกายของเอ็ดเวิร์ดอย่างรุนเเรง ซึ่งโชคดีที่มิเลน่ามียาที่ผลิตจากสมุนไพรต้นนี้อยู่พอดี เพราะงั้นเธอจึงรีบเอายามาให้เอ็ดเวิร์ดดื่มเพื่อขับพลังธาตุเเสงที่กำลังทำลายร่างของเขาออกไป ซึ่งมันก็ได้ผลเพราะเลือดของเอ็ดเวิร์ดจะได้หยุดไหลในทันที 

     

    “ นายทำเกินไปเเล้วนะสตีเวน  ”

    ซาช่าพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจ ตัวเธอพร้อมทีจะบวกกับสตีเวนได้ทุกเมื่อ เเม้ว่าเธอจะอ่อนเเอกว่าสตีเวนก็ตาม เเต่อย่างน้อย เธอก็มั่นใจว่าสามารถท่วงเวลาจนผ.อ.ต้องออกมาลงมือหยุดพวกเขาด้วยตัวเองได้เเน่ๆ เเละพอถึงตอนนั้นจะเป็นสตีเวนเองที่จะได้รับโทษทัณฑ์ เพราะถึงเป็นผู้กล้าเเห่งเเสงในตอนนี้ก็ยังไม่อาจเทียบกับมหาจักรพรรดิจอมเวทย์เเห่งยุคได้

     

    “ ทำไมเธอต้องมาขว้างชั้นด้วยซาช่า ถ้ามันตายมันก็น่าจะดีต่อตัวเธอด้วยนิ ”

    สตีเวนไม่ได้พลีพล่ามโจมตีใส่ซาช่า เขาใช้กลยุทร์เกลียกล่อมให้ซาช่าถอยไป เขาจะได้ลงมือสังหารเอ็ดเวิร์ด ไอ้ตัวชื่อโรคของโรงเรียนเวทย์เเห่งนี้ โลกจะได้น่าอยู่ขึ้น 

     

    “ นายเสียสติหรือไง ที่นี้มันโรงเรียนนะไม่ใช่สนามรบ นายจะฆ่าใครพล่ำเพลือเเบบนี้ไม่ได้ อีกเรื่องนายจะฆ่าเขาเพราะเขาลือที่พวกโง่ๆที่ปล่อยออกมาทำลายชื่อเสียงของเอ็ดเวิร์ดไม่ได้นะ นายต้องมีหลักฐานที่ชัดเจนถึงจะเอาผิดเขาได้ อีกเรื่องการเอาผิดไม่ใช่การประหาร นายไม่สิทธิไปฆ่าเขาส่งเดชเช่นนี้ ”

    ซาช่าต่อว่าสตีเวน ก่อนที่จะอธิบายว่าการฆ่าเอ็ดเวิร์ดมันไม่ถูกต้องเลย หากเขาทำผิดจริงก็ควรจะมีหลักฐานเอาผิดเขาได้ ซึ่งตัวเขาก็ควรจะถูกลงโทษตามกฏหมาย ถูกจับเข้าคุก ถูกถอดยศ ถูกเนรเทศก็ว่ากันไป เเต่ไม่ใช่การประหารเเบบศาลเตี้ยเช่นนี้ ผู้กล้าสาวไม่อาจยอมรับการกระทำอันป่าเถื่อนของสตีเวนได้

     

    “ น่าประหลาดใจจังที่เห็นว่าซาช่า เข้ามาช่วยเอ็ดเวิร์ดเเบบนี้ ไม่ใช่ว่าเธอเกลียดหมอนั้นหรอกเหรอ ”

    ลิเลียพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าซาช่าปกป้องเอ็ดเวิร์ดมันก็ดูเเปลกประหลาดในสายตาของเธอ ไม่ใช่ว่าซาช่าเกลียดชังเอ็ดเวิร์ด จนไม่เเม้เเต่อยากจะอยู่ใต้ชายคาเดียวกันหรอกเหรอ ซึ่งเพราะปฎิเสธที่อยู่ในคฤหาสน์ของเอ็ดเวิร์ด ทำให้ซาช่าต้องไปเช่าบ้านพักอยู่ ซึ่งมันก็ไม่ได้ลำบากสำหรับเธอมากมายนะ เเค่มันไม่สมกับฐานะของเธอที่เป็นถึงองค์หญิงของอาณาจักรอควาเรียก็เท่านั้น

     

    “ ถึงจะเเปลกใจที่ซาช่ามาช่วยเจ้าสวะนั้น เเต่ชั้นก็ได้เห็นอะไรสนุกๆอย่างสวะไร้พลังเวทย์ที่สามารถสู้เสมอกับสตีเวนที่เป็น เอสของห้อง A ได้ดูเหมือนว่าปีนี้จะมีอะไรสนุกๆนะ อลิเซีย ”

    องค์ชายอเล็ครู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เเต่ดวงตาของเขานั้นกับเเตกต่างจากคำพูดของเขา ในดวงตาขององค์ชายรองเเห่งราชวงค์เเห่งเเสงมันเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา ความโกรธที่เเม้เเต่ไอ้ขยะนั้นกลับมาอยู่ในจุดที่ทัดเทียมกับสตีเวน มันทำให้เขารู้สึกริษยาเป็นอย่างมาก เเละเขาจะต้องทำอะไรสักอย่างเพื่ิอที่จะดับไฟริษยาของเขานี้

     

    “ ….. ”

    องค์หญิงอลิเซียไม่ได้พูดอะไร เธอเลือกที่จะละความสนใจเรื่องของเอ็ดเวิร์ด เเละเดินจากไปทันที ในใจขององค์หญิงเเห่งเเสงนั้นกำลังคิดอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ 

     

    “ ฮาๆๆ สมน้ำหน้าสุดท้ายผู้กล้าเเห่งเเสงยังไงก็ต้องชนะ ว่าเเต่ยัยนั้นมันอะไรของมัน ตัวเองเสียหายเเท้ๆยังไปช่วยเขาอีก หรือว่าติดใจรสสวาทของเจ้าชั่วนั้นกันนะ ไหนจะยัยผู้กล้าวารีคนนั้นอีก ให้ท่านสตีเวนฆ่ามันไปซะก็จบเรื่อง ”

    เพื่อนสาวของอาเซียหัวเราะชอบใจเมื่อเห็นว่าคนน่ารังเกลียดอย่างเอ็ดเวิร์ดนั้นกำลังนอนจมกองเลือดใกล้ตาย ซึ่งเธอก็รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยที่ มิเลน่าเจ้าทุกข์ของเรื่องราวพยายามยื่อชีวิตของเอ็ดเวิร์ด เเละซาช่าที่พยายามปกป้อง มันก็ทำให้หญิงสาวคนนี้รู้สึกไม่พอใจ เเต่เธอก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เธอทำได้เเต่นินทาเหมือนกับพวกนกกาเท่านั้น

     

    ( ทำไมเขาต้องมาเจอกับอะไรเเบบนี้มันไม่ยุติธรรมเลย ไม่ยุติธรรมจริงๆ )

    อาเซียเห็นต่างกับเพื่อนของเธอ บุตรดยุคสาวนั้นรู้สึกเห็นใจเอ็ดเวิร์ดมาก เพราะเธอสังเกตุมาตั้งเเต่ตนว่าเขาไม่ได้คิดร้ายกับใครเลย เเต่ตรงกันข้ามผู้กล้าเเสงต่างหากที่คิดจะฆ่าเขาตรงๆ ซึ่งเอาจริงๆ หากเอ็ดเวิร์ดซ้ำสตีเวนในตอนที่ถูกโจมตีด้วยฝ่ามือครั้งนั้น ผู้กล้าเเสงก็คงจะสิ้นชื่อไปเเล้ว อาเซียรู้สึกว่ามันไม่เป็นธรรมกับตัวของเอ็ดเวิร์ดเลย

     

    “ ยังไงมันต้องลุกขึ้นมาขอโทษให้ได้ไม่ว่ายังไงก็ตาม ”

    สตีเวนพูดขึ้นก่อนที่จะเดินเตรียมจะไปปลุกเอ็ดเวิร์ดให้ลุกขึ้นมาขอโทษ เเต่ซาช่าได้ใช้ได้เข้ามาขว้างไว้ ทำให้สตีเวนต้องชักศาตราผู้เข้าของเขาป้องกันไว้

    ฟริงงง ศาตราผู้กล้าทั้งสองเล่มชี้ใส่กัน ปลายของดาบศักดิ์สิทธิ์จ่ออยู่ที่คอหายของกันละกัน ซึ่งสตีเวนนั้นมีความใจอ่อนลงมาเมื่อเห็นว่าคู่ต่อสู้เป็นซาช่า ส่วนซาช่าเองก็เเค่ขู่สตีเวนเท่านั้น เเต่หากอีกฝ่ายยังคงไม่หยุด ตัวเธอคงต้องตัดใจลงมือจริงๆ

     

    “ สตีเวนนายไม่เห็นหรือไงว่าเขาบาดเจ็บอยู่นะ ”

    ซาช่าพูดขึ้นด้วยความไม่พอใจ ก่อนที่จะชี้ให้สตีเวนเห็นว่าเอ็ดเวิร์ดตอนนี้กำลังจะตาย ซึ่งมิเลน่าก็พยายามที่จะช่วยชีวิตของเขาอยู่

     

    “ ใช่ถ้าปล่อยไว้เเบบนั้นเขาตายเเน่ๆ หยุดได้เเล้วสตีเวน ”

    มิเลน่าพูดขึ้นพยายามห้ามสตีเวนด้วยอีกเเรง หญิงสาวเจ้าทุกข์พยายามที่จะหยุดสตีเวนให้ได้ เเต่ผู้กล้าเเห่งเเสงในตอนนี้เหมือนกับโดนผีเข้าตัวเขาเเทบจะไม่สนใจใคร นอกจากที่จะฆ่าเอ็ดเวิร์ดให้ได้

     

    “ ชั้นไม่สนยังไงมันก็ต้องมาขอโทษ เเม้ว่ามันจะต้องตายก็ตาม ”

    สตีเวนมองมิเลน่าด้วยสายตาที่เเตกต่างออกไป มันเต็มไปด้วยความรู้สึกหลายอย่าง ก่อนที่มันจะหายไป สตีเวรพยายามทำตัวหน้าด้านไม่สนเหตุผล ไม่รู้ว่าทำไมผู้กล้าเเห่งเเสงถึงต้องการจะฆ่าเอ็ดเวิร์ดให้ได้ ซึ่งมันไม่สมเหตุผลเลย

     

    “ สตีเวน นี้มันไม่ใช่เรื่องของนายเลยนะ มันเป็นเรื่องของชั้นกับเอ็ดเวิร์ด ทำไมนายต้องเป็นเดือดเป็นร้อนเเทนชั้นด้วย ”

    มิเลน่าที่ห้ามเลือดของเอ็ดเวิร์ดเสร็จ ลุกขึ้นมาประจันหน้ากับผู้กล้าเเห่งเเสงอย่างไม่เกรงกลัว ตัวเธอเป็นเเค่นักปรุงยาตัวน้อยๆเเท้ๆ เเต่กล้าพูดประจันหน้ากับสตีเวน มันก็ถือว่าเธอมีความกล้าไม่น้อย

     

    “ ก็มันทำเเบบนั้นกับเธอไม่ใช่เหรอ นี้ชั้นทำไปทั้งหมดก็เพื่อเธอเลยนะ ”

    สตีเวนพูดขึ้นอย่างไม่เข้าใจ สีหน้าของเขารู้สึกว่ามันไม่เป็นเเบบที่เขาคิดไว้ ทั้งซาช่า เเละมิเลน่าต่างไม่เข้าข้างเขา ซึ่งผู้กล้าเเห่งเเสงก็ไม่เข้าใจว่าทำไม ผู้หญิงทั้งสองคนถึงได้ปกป้องไอ้สวะอย่างเอ็ดเวิร์ดด้วย

     

    “ เเต่การทำเเบบนี้มันก็เกินไป เเบบนี้มันไม่ทำให้ชั้นรู้สึกดีขึ้นเลยนะ ”

    มิเลน่าพูดขึ้นพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมา เด็กสาวพยายามกลั่นมันเต็มที่เเล้ว ตัวเธอรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก หากต้องมีคนมาตายก็เพราะเธอ ซึ่งความจริงนั้นเธอรู้อยู่เเล้วว่าใครกันที่เป็นคนสั่งให้ลักพาตัวเธอมา เเต่มิเลน่าตระหนักดีว่า เอ็ดเวิร์ดคนนี้ไม่ใช่คนเดียวกับเอ็ดเวิร์ดที่ลักพาตัวเธอมา นี้จึงเป็นสาเหตุที่เธอเเกล้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะเธอไม่อยากให้เอ็ดเวิร์ดคนนี้ ที่ช่วยพาเธอออกมาจากกระท่อมกลางป่าต้องมาถูกฆ่าตายอย่างไม่ยุติธรรมเช่นนี้

     

    “ พอเเค่นั้นละ ผู้กล้าเเห่งเเสง ”

    เสียงของชายปริศนาดังขึ้น ก่อนที่ทุกคนจะหยุดการกระทำของตัวเอง เเละหันไปมองว่าบุคคลที่ 3 ที่ปรากฏตัวขึ้นคือใคร รูปลักษณ์ชายผู้มาใหม่นั้นเป็นชายผู้สูงศักดิ์มีหน้าตาที่หล่อเหล่า เรือนผมสีขาวยาวเเสดงให้เห็นถึงสายเลือดของราชินีของอาณาจักรไลท์เทอร์ ใบหน้าที่ยิ้มเเย้มเเต่สุขุมนั้นเป็นตัวบ่งบอกว่าชายผู้นี้ไม่ธรรมดา ซึ่งเขาก็ไม่ใช่ใครนอกจากองค์ชายลำดับที่ 1‘อลัน เอ ไลท์เทอร์’รัชทายาทของอาณาจักรไลท์เทอร์นั้นเอง 

     

    “ อะ องค์ชายอลัน ”

    ทุกคนต่างตกใจ เเละจะทำความเคารพให้กับองค์ชายอลัน ฐานะองค์รัชทายาทของเขานั้นไม่ใช่สิ่งที่สามารถดูเเคลนได้ เเต่องค์ชายอลันได้ยกมือห้ามไว้ ด้วยความเป็นกันเองของเขา

     

    “ ก็บอกเเล้วไงว่าที่โรงเรียนให้เรียกประธานนักเรียนนะ ว่าเเต่พวกเธอมาก่อเรื่องเเต่เช้าเลยนะ ”

    องค์ชายอลันพูดขึ้น ด้วยน้ำเสียงที่สบายๆ ทุกคนต่างตื่นตัว เพราะองค์ชายผู้นี้เเม้ว่าจะมีสีหน้าสบายๆ เเต่เขานั้นเคยสร้างวีรกรรมในตอนปี 1 โดยการเขี่ยประธานนักเรียนคนก่อนที่เป็นนักเรียนปี 3 ทิ้งไปตั้งเเต่ที่เขาเข้าเรียนในตอนปี 1 เพราะงั้นก็เเสดงให้เห็นถึงความสามารถ เเละอำนาจขององค์ชายอลันได้เป็นอย่างดี 

    ใบหน้าของเขาในตอนนั้นก็ยังคงสบายๆ เเต่ก็ไม่มีใครเดาได้เลยว่าองค์ชายคนนี้คิดอะไรอยู่ เพราะตอนที่เขาเขี่ยประธานนักเรียนคนก่อนซึ่งเป็นนักเรียนปี 3 ของโรงเรียน ตัวเขาก็มีสีหน้าสบายๆเช่นนี้ มันทำให้เขาต่างเป็นที่จับตามอง ต่อบุตรขุนนางที่มาเรียนที่โรงเรียนเวทย์มนต์เเห่งนี้ 

    ซึ่งดูเหมือนว่าองค์ชายอัจฉริยะผู้นึ้จะสนใจ ชายผู้ที่ถูกเรียกว่าขยะไร้ค่าอย่างเอ็ดเวิร์ดเข้าซะเเล้ว ซึ่งองค์ชายอลันนั้นมีความมั่นใจพอที่จะหยุดสตีเวนได้ เพราะตัวเขานั้นเรียกได้ว่าเป็สัตว์ประหลาดอย่างเเท้จริง พลังของเขานั้นอยู่ในระดับจักรพรรดิ 5 ดาวขั้นสูงสุด ซึ่งเเข็งเเกร่งกว่าสตีเวนเป็นอย่างมาก เเละนอกจากนี้ฐานอำนาจนั้นช่างน่ากลัวอย่างยิ่ง เพราะงั้นเเม้เเต่สตีเวนก็ยังคิดหนัก เพราะองค์ชายลำดับที่ 1 ออกหน้าช่วยเอ็ดเวิร์ดเเบบนี้ ทำให้วันนี้สตีเวนไม่อาจฆ่าเอ็ดเวิร์ดได้เเล้ว

     

    “ เเต่เจ้านี้มัน ”

    สตีเวนที่กำลังทำเเผนของตัวเองได้สำเร็จก็พูดด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าเขาวางเเผนอะไรเอาไว้กันเเน่ เเต่ที่เเน่ๆ องค์ชายอลันก็ไม่ยอมให้สตีเวนฆ่าเอ็ดเวิร์ดอย่างเเน่นอน

     

    “ ไม่มีเเต่ทั้งนี้ทั้งนั้น กฏยอมเป็นกฏ เรื่องราวที่เกิดขึ้นนอกโรงเรียนควรจะไปเคลียที่นอกโรงเรียน หากเหตุไม่เกิดในโรงเรียน ไม่มีใครมีอภิสิทธิเรียกร้องทั้งนั้น นักเรียนสตีเวน รีฟาเรียหลังจบเรื่องเเล้วมาหาชั้นที่ห้องสภานักเรียนด้วยละ มีบทลงโทษสำหรับนาย ส่วนนักเรียนซาช่า วาเลนเซีย ชั้นจะถือว่าเธอไม่ได้ทำอะไรผิดก็เเล้วกันนะ ”

    องค์ชายอลันใช้อำนาจของประธานนักเรียน ลงโทษสตีเวนในทันทีเพราะว่าเขานั้นทำอะไรรุนเเรงเกินไป ถ้าเอ็ดเวิร์ดยังคงมีสติเขาคงจะทราบว่าองค์ชายผู้นี้คงจะยืนดูเขาสู้มาตั้งเเต่ต้น ซึ่งองค์ชายอลันออกหน้าช่วยเอ็ดเวิร์ดด้วยเหตุผลเเอบเเฝงบางอย่าง ส่วนซาช่านั้นรอดจากการทัณฑ์บน เพราะเธอเเค่เข้ามาหยุดให้สถานการณ์มันไม่เเย่ลงไปกว่านี้ องค์ชายจึงไม่ได้ลงโทษอะไรเธอ

     

    “ ขอบคุณค่ะประธาน ”

    ซาช่าพูดขึ้นขอบคุณองค์ชายอลัน ซึ่งการมาถึงของเขานั้นก็ทำให้สถานการณ์มันดีขึ้นจริงๆ ในตอนนี้เรื่องทุกอย่างก็จบลงเเล้ว เเละนี้ก็เป็นการเน้นย้ำถึงอำนาจขององค์ชายอลัน ซึ่งทุกคนต่างตื่นเต้นว่าหากเขาขึ้นเป็นราชาได้ เขาจะมีอำนาจมากมายขนาดไหนกัน

     

    “ คะ ครับ ”

    สตีเวนยอมฟังคำสั่งขององค์ชายอลันในทันที เขาต้องยอมเพราะสตีเวนไม่มั่นใจว่าจะชนะองค์ชายอลันได้ ตัวเขายอมรับว่าองค์ชายอลันนั้นสมบูรณ์เเบบ ไม่ว่าจะเป็นอำนาจมีมีจนล้นฟ้าจากการสนับสนุนจากราชาไลท์เทอร์ เเละเหล่าขุนนางใหญ่ การเป็นศัตรูกับเขานั้นนับว่าอันตรายอย่างมาก เพราะเขาไม่อาจคาดเดาได้ว่าการเป็นศัตรูกับองค์รัชทายาทนั้นจะมีผลร้ายอะไรตามมา ซึ่งก็ถือว่าเป็นโชคของเอ็ดเวิร์ดที่มีเจ้าชายขี่ม้าขาวมาช่วยเขาเเบบนี้

     

    “ ช่วยพาเขาไปห้องพยาบาลด้วยละ รับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเองหน่อยผู้กล้าเเห่งเเสง ”

    องค์ชายอลันพูดขึ้นสั่งให้พวกสตีเวนพาเอ็ดเวิร์ดไปห้องพยาบาลด้วย องค์รัชทายาทยิ้มออกมาด้วยสีหน้าที่สบายๆ เเต่ความรู้สึกของสตีเวนนั้น เขากลับรู้สึกถึงเเรงกดดันที่เเพร่ออกมาเหมือนเป็นการบอกว่า เเกไม่ได้เป็นคนเดียวที่อยู่บนยอดปิรามิดหรอกนะผู้กล้าเเห่งเเสง

     

    “ หึยยย ”

    สตีเวนได้เเต่กัดฟัน เขาไม่สามารถทำอะไรองค์ชายอลันได้ เหมือนเขาจะรู้ว่าตัวเขาในตอนนี้ไม่มีอำนาจ เเละความเเข็งเเกร่งพอที่จะเทียบกับองค์ชายอลันได้ ผู้กล้าเเห่งเเสงจึงทำได้เเต่ทำตามคำสั่งขององค์ชายอลันเท่านั้น

     

    “ สตีเวน ”

    มิเลนน่าพูดขึ้นด้วยความเป็นห่วง สตีเวนในตอนนี้เหมือนกับไม่ใช่ตัวเขาเอง เธอสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับสตีเวนกันเเน่นะ ทำไมเขาถึงต้องการที่จะฆ่าเอ็ดเวิร์ดขนาดนั้น ซึ่งหญิงสาวเจ้าทุกข์ก็ไม่รู้ว่าผู้กล้าเเห่งเเสงคิดอะไรอยู่

     

    “ ไปกันเถอะ ซาช่า มิเลน่า ”

    สตีเวนพูดขึ้นก่อนที่ซาช่าจะมองไปที่ร่างของเอ็ดเวิร์ด ก่อนที่สตีเวน , มิเลน่า เเละซาช่าจะช่วยกันเเบกร่างของเอ็ดเวิร์ดไปห้องพยาบาลนั้นเอง เเละเเล้วเหตุการณ์ความไม่สงบในวันเเรกที่เอ็ดเวิร์ดมาโรงเรียนก็จบลงที่ความพ่ายเเพ้อย่างไม่ยุติธรรมของเอ็ดเวิร์ดนั้นเอง

     

    “ อาเซียไปกันเถอะ เรื่องสนุกจบเเล้วละพวกเราไปเข้าห้องเรียนกันดีกว่านะ ”

    เพื่อนสาวของอาเซียที่เห็นว่าเรื่องจบเเล้วเธอก็ช่วยอาเซียให้ไปเข้าห้องเรียนกัน เเม้ว่าผลลัพธ์จะไม่เป็นที่น่าพอใจ เเต่พอได้เห็นสุดหล่ออย่างองค์รัชทายาท สาวน้อยที่หลายใจคนนี้ก็รู้สึกพึงพอใจกับความเท่ขององค์ชายอลันในทันที ซึ่งทั้งๆที่เมื่อกี้เธอยังด่ามิเลน่า เเละซาช่าว่ามายุ่งเรื่องของสตีเวนอยู่เเท้ๆ ผู้หญิงคนนี้นับว่าเปลี่ยนสีได้ไวจริงๆ

     

    “ จ่ะ ”

    อาเซียรับคำไปก่อนที่จะมองไปยังจุดที่สตีเวนพาตัวของเอ็ดเวิร์ดจากไป หลังจากนั้นอาเซีย เเละเพื่อนของเธอก็เข้าห้องเรียนไป โชคดีที่ตอนนี้ยังเช้า เพราะงั้นการเรียการสอนจึงยังไม่เริ่มต้นขึ้น

     

    หลังจากนั้น 1 ชั่วโมง ห้องพยาบาลของโรงเรียน

    เอ็ดเวิร์ดฟื้นขึ้นมาหลังจากที่สลบไปจากความเจ็บปวด เเละอาการเสียเลือด เอ็ดเวิร์ดก็ตรวจสอบร่างกายจองตัวเอว ก่อนที่เขาจะพบว่ามิเลน่ากำลังปลุงยาอยู่ที่โต๊ะปรุงยาของเธอ ทำให้เอ็ดเวิร์ดต้องเรียกเธอ เพราะตอนนี้เขางงไปหมดเเล้วว่าเขามาอยู่ที่นี้ได้ยังไง

     

     “ มิเลน่า เธอ อึกกก ” 

    เอ็ดเวิร์ดพูดขึ้นก่อนที่จะล้มตัวลงไปนอนอีกครั้ง เรื่องจากเจ็บที่เเผลซึ่งในตอนนี้บาดเเผลของเอ็ดเวิร์ดก็ทุเลาลงไปบ้างเเล้ว เเต่ว่าเสียงขยับเพียงเล็กน้อยก็ทำให้สาวน้อยผมน้ำตาล หันมาที่เตียงเธอก็พบว่าเอ็ดเวิร์ดนั้นได้สติเเล้วนั้นเอง

     

    “ ฟื้นเเล้วงั้นเหรอ เอานี้ดื่มน้ำก่อนนะ ”

    มิเลน่าเข้ามาดูอาการของเอ็ดเวิร์ดซึ่งเธอก็ดูเเลเขาอย่างดี ซึ่งในตอนนี้เด็กสาวคิดว่าเอ็ดเวิร์ดจะต้องหิวน้ำมากเเน่ๆ เธอจึงเอาน้ำมาให้บุตรชายดยุคดื่มซึ่งเขาก็รับมันมาดื่มด้วยความเต็มใจ

     

    “ นี้ชั้นยังไม่ตายงั้นเหรอ อึกกก ”

    เอ็ดเวิร์ดพูดขึ้นหลังจากที่ดื่มน้ำเสร็จ ซึ่งเขาก็รู้สึกเจ็บเเผลอีกครั้ง ก่อนที่จะนอนลงไป ซึ่งมิเลน่าก็ได้พูดเตือนเอ็ดเวิรฺดเรื่องอาการบาดเจ็บของเขาในตอนนี้

     

    “ อย่าพึ่งลุกสินายพึ่งถูกฟันมานะ บาดเเผลที่ถูกดาบฟันยังไม่สมานตัวเลย ชั้นเย็บเเผลเบื่องต้นให้เเล้วคิดว่าพักสัก 2 สัปดาห์อาการก็น่าจะดีขึ้น ”

    มิเลน่าพูดขึ้น บอกอาการของเอ็ดเวิร์ด ตัวเธอนั้นมีพรสวรรค์ด้านการปรุงยา เเละการเเพทย์เป็นอย่างมาก เเตกต่างกับพลังการต่อสู้ของเธอที่เเทบไม่มีเลย เพราะเธอเป็นผู้ที่ไม่มีเวทย์มนต์ เเต่ก็ได้ทักษะหมอเทวดา กับพรสวรรค์ด้านการปรุงยามาเเทน ทำให้ในเกมมิเลน่าถือว่าเป็นซัพพอร์ตประจำทีมที่จำเป็น อีกเรื่องเธอยังเป็นคนขายโพชั่นราคาถูก ซึ่งเหมาะสมสำหรับการฟอร์มในช่วงต้นเกม จนถึงกลางเกมอีกด้วย

    หลังจากที่เอ็ดเวิร์ดซึ่งพอเอ็ดเวิร์ดลองโคจรพลังเพื่อตรวจสอบร่างกายเขาก็พบว่าร่างกายมีเเผลฉกรรจ์อยู่กลางลำตัว ซึ่งมิเลน่าเย็นเเผลเป็นอย่างดีเเล้วทำให้บาดเเผลไม่เปิดอีกเเต่มันก็ยังปิดไม่สนิท ส่วนอีกเรื่องคือจิตวิญญาณของเขาได้รับความเสียหายจากดาบเเห่งเเสงคงต้องใช้เวลาเป็นสัปดาห์ถึงจะสามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ เขาสบถในใจด่าคนเขียนอีกครั้งที่ไปให้ของเทพๆกับตัวละครไร้สมองอย่างสตีเวน

     

    “ ช่วยพยุงให้ชั้นขึ้นมานั่งหน่อยได้ไหม ” 

    เอ็ดเวิร์ดพูดขึ้นบอกให้มิเลน่าพยุงให้เขามานั่งในท่านั่งสมาธิ เพราะเขาต้องรีบปิดบาดเเผลอย่างเร่งด่วน ด้วยพลังปราณของเขานั้นการปิดบาดเเผลพวกนั้นง่ายมากๆ เเต่เขาต้องอยู่ในท่านั่งสมาธิ เพื่อรวบรวมพลังปราณมารักษาตัวเอง

     

    “ ก็ได้ เเต่อย่าขยับมากละเดียวเเผลเปิด ”

    มิเลน่าพูดขึ้นก่อนที่จะช่วยพยุงเอ็ดเวิร์ดให้นั่งในท่านั่งสมาธิ ก่อนที่เอ็ดเวิร์ดจะหลับตาลง เเละนั่งโคจรพลัง ซึ่งมิเลน่าก็สงสัยว่าเอ็ดเวิร์ดคิดจะทำอะไรกันเเน่

     

    “ เเฮกๆๆ ชั้นต้องรีบรักษาเเผลก่อน ”

    เอ็ดเวิร์ดหอบหายใจออกมาก่อนที่จะฟื้นความเจ็บปวด ตั้งสมาธิ เเละฟื้นฟูตัวเอง ซึ่งการใช้ปราณในการรักษานั้นจะทำให้เขาไม่ต้องไปนอนซมอยู่ในคฤหาสน์ของเขาเป็นสัปดาห์ เขาคิดว่าเเค่ 2 วันก็น่าจะฟื้นตัวจนหายดีเเล้ว

     

    “ รักษาเเผล ”

    มิเลน่าทำสีหน้างง เพราะเธอไม่เข้าใจว่าเอ็ดเวิร์ดกำลังทำอะไร ตัวเธอสงสัยว่าเอ็ดเวิร์ดที่ไร้พลังเวทย์จะรักษาเเผลได้ยังไง ในเมื่อพลังประหลาดของเขานั้นเป็นพลังประเภทโจมตี เเต่เรื่องมหัศจรรย์ก็บังเกิดขึ้น

    วูบบบ ครื่นนนนน เกิดการสั่นสะเทือนของพลังธรรมชาติรอบตัวของเอ็ดเวิร์ด ก่อนที่บาดเเผลของเอ็ดเวิร์ดจะเริ่มรักษาตัวเอง เอ็ดเวิร์ดมีสีหน้าที่ทรมานมาก เเต่เขาก็อดทนจนการรักษาเสร็จสิ้น เขาไม่ปวดบาดเเผลเเล้ว เเต่ตัวเขาก็ยังคงรู้สึกอ่อนเพลียจากการถูกทำลายจิตวิญญาณไป ตัวเขาต้องนอนพักประมาณ 2 ถึง 3 วันเพื่อฟื้นฟูจิตวิญญาณให้กลับมาดั่งเดิม

     

    “ บ้าน่าทำไมเเผลถึงหายสนิทไปเลยเเบบนั้นละ มันไม่น่าเป็นไปได้ ”

    มิเลน่านั้นชะงักไปเล็กน้อยก่อนที่จะสำรวจบาดเเผลตั้งเเต่อกจนมาถึงท้องที่ปิดสนิทดีเเล้ว ซึ่งเพราะเมื่อมาดูดีๆ เอ็ดเวิร์ดนั้นเป็นคนที่กล้ามเนื้อดีมาก ซึ่งกล้ามเนื้อของเขานั้นไม่ได้ใหญ่เหมือนสตีเวน เเต่มันเป็นกล้ามเนื้อเล็กๆ ที่ถูกเรียงตัวมาอย่างดี นอกจากนี้เธอสังเกตุเห็นว่ากล้ามเนื้อทั้งหมดนั้นเเข็งเเกร่งอย่างมาก เด็กสาวจึงเเปลกใจว่าเอ็ดเวิร์ดฝึกยังไงถึงทำให้กล้ามเนื้อออกมาในรูปเเบบนี้

     

    “ ขอบคุณนะถ้าไม่ได้ยาของเธอ กับการปฐมพยาบาลละก็ เเผลของชั้นก็คงจะไม่สมานเร็วเช่นนี้ อะ เเล้วสตีเวน กับซาช่าละ ”

    เอ็ดเวิร์ดพูดขึ้นขอบคุณมิเลน่า ก่อนที่จะตบที่เเผลเบาๆ หากไม่ได้ ซึ่งการที่เขาตบไปที่เเผล เเละไม่มีสีหน้าเจ็บปวด เเปลว่าเเผลทั้งหมดได้สนามตัวดีเเล้ว เเต่ถึงเเบบนั้นเอ็ดเวิร์ดก็ต้องพัก 2 วันอยู่ดี เนื่องจากเขาถูกเล่นงานจิตวิญญาณทำให้เขาต้องนอนอยู่บ้าน 2 ถึง 3 วันอยู่ดี เเต่มันก็ดีกว่านอนอยู่บ้านครึ่งเดือนเพื่อรักษาเเผลให้หายสนิท

     

    “ สตีเวนถูกประธานนักเรียนลงโทษนะ ส่วนซาช่ารออยู่ข้างนอก เห็นว่าไปเเจ้งเรื่องขอลาป่วยกับทางโรงเรียนนะ เเต่ดูจากบาทเเผลของนายที่หายสนิท พักสองสองวันก็น่าจะมาโรงเรียนได้เเล้วละ ”

    มิเรน่าบอกเรื่องของสตีเวน เเละซาช่าให้เขาฟัง โดยเธอไม่เอะใจเรื่องพลังในการรักษาตัวเองของสตีเวน เเม้ในใจเธอจะสนใจก็ตาม เเต่ว่าตัวเธอกับเอ็ดเวิร์ดยังไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น เพราะงั้นสาวน้อยจึงไม่อยากเสียมารยาทขออะไรง่ายๆจากอีกฝ่าย

     

    “ งั้นเหรออย่างน้อยทุกอย่างก็เป็นไปด้วยดีสินะ ”

    เอ็ดเวิร์ดพูดขึ้นด้วยความโล่งอก เพราะตัวปัญหาอย่างสตีเวนคงจะไม่สามารถมากวนใจเขาได้สักพัก เเละเขายังได้เวลาพักผ่อนที่บ้านอีก ซึ่งมันทำให้เขามีเวลาเตรียมตัวสำหรับการมาลงเรียนอีกครั้งในอนาคต

     

    “ ว่าเเต่นายไปทำอะไรมานะ มัดกล้ามเนื้อนั้น เเละไหนจะวิชาประหลาดๆพวกนั้นอีก ”

    เอลิน่ารู้ว่าวิชาที่เอ็ดเวิร์ดฝึกนั้นไม่ธรรมดา เธอจึงถามเอ็ดเวิร์ดอย่างสงสัยเกี่ยวกับเทคนิคที่เอ็ดเวิร์ดใช้ในการต่อสู้ เพราะใครๆต่างก็รู้ว่าเอ็ดเวิร์ดนั้น ไร้ซึ่งเวทย์มนต์มันทำให้เธอสงสัยว่าพลังที่เอ็ดเวิร์ดใช้คืออะไรกันเเน่       

     

    “ ชั้นคงจะบอกอะไรไม่ได้หรอก เพราะชั้นเองก็ไม่รู้เหมือนกัน เเค่ฝึกมั่วไปตามตำราเเปลกๆที่ได้มาก็เท่านั้น ”

    เอ็ดเวิร์ดพูดขึ้นตีมึนโกหกมิเลน่าไป เพราะเขาจะให้ความลับเรื่องเทคนิคพลังปราณรู้ถึงหูคนอื่นไม่ได้ เพราะมันจะนำพาความวุ่นวายมาให้กับเขาในอนาคต จะมีกรณียกเว้นที่เขาถูกจับได้ตัวเขาก็จำเป็นต้องเผยความลับนี้ เเต่ในตอนนี้ยังก่อน เพราะมันยังไม่ถึงเวลาที่โลกจะรู้เรื่องนี้

     

    “ อ้าวนี้ไปฝึกวิชามั่วๆเเบบนั้นเดียวก็ตายหรอกโถ่ ”

    มิเลน่าพูดบ่นเรื่องของเอ็ดเวิร์ด ในฐานะเเพทย์ฝึกหัด เเละนักปรุงยาเธอย่อมเป็นห่วงคนไข้ของเธออยู่เเล้ว เเม้ว่าเอ็ดเวิร์ดจะมีชื่อเสียงที่ไม่ดีสักเท่าไรก็ตามที

     

    “ ฮาๆๆ ขอโทษละกันนะ ”

    เอ็ดเวิร์ดหัวเราะออกมาก่อนที่จะขอโทษด้วยอารมณ์ขำขัน ซึ่งความจริงเกี่ยวกับข้อนี้ไม่มีใครรู้ดีเท่าตัวเขาหรอก มันเป็นของที่ได้จากระบบหลังจากที่เกิดใหม่ เพราะงั้นเขาไม่กังขาในวิชาที่ระบบเเสวงโชคชะตามอบให้กับเขาหรอก อันที่จริงเขาไม่มีทางเลือกนอกจากจะต้องพึ่งพามันด้วยซ้ำ ไม่งั้นตัวเขาอาจจะตายไปก่อนก็เป็นได้ ถ้ามั่วเเต่ชักช้าลังเลที่จะฝึกวิชานี้

     

    “ นายนอนพักไปก่อนเถอะ เดียวซาช่าคงจะส่งให้รถม้ามารับเเล้ว บาดเเผลปิดเเล้วคิดว่าคงจะไม่เป็นไร ”

    มิเลน่าพูดขึ้นให้เอ็ดเวิร์ดพักผ่อน เพราะถึงเเม้ว่าเขาจะสามารถรักษาตัวเองได้ เเต่ว่าความเจ็บปวดที่ได้รับจากการถูกพลังธาตุเเสงกัดกร่อน มันก็ทำให้เอ็ดเวิร์ดเหน็ดเหนื่อยอยู่ดี เพราะงั้นเธอจึงเเนะนำให้เขาพักผ่อนเพื่อพักฟื้นร่างกายให้กลับมาเป็นปกติ

     

    “ เข้าใจเเล้วขอบคุณมากนะ ”

    เอ็ดเวิร์ดขอบคุณมิเลน่าก่อนที่จะนอนลงอย่างว่าง่าย ซึ่งในระหว่างที่เขากำลังจะหลับอยู่นั้นก็ได้มีเสียงของระบบดังขึ้น พร้อมกับหน้าจอที่เหมือนกับเเสดงว่าเขาได้สำเร็จภารกิจลับบ้างอย่าง

     

    ภารกิจ : ท่านสำเร็จภารกิจเอาตัวรอดจากผู้กล้าเเห่งเเสง ผลลัพธ์คือ เสมอ 

    รางวัล : ท่านได้รับเเต้มสุ่ม 10 ครั้ง เเละ สิทธิการันตีอาวุธระดับ SSR 4 ดาว  1 ใบ

     

    ( อ้าวมันเป็นภารกิจบังคับหรอเหรอ เเถมของ SSR 4 ดาวถ้าเป็นไปได้ก็อยากได้อาวุธดีสักชิ้นจังนะ ฮาๆๆ เเต่คงยากละนะ เพราะกาชามันมีความเสี่ยงคงจะสุ่มไม่ได้ง่ายๆหรอก )

    เอ็ดเวิร์ดคิดในใจอย่างปลงๆ เขาไม่ได้รับของเเบบระบุ เเต่เป็นเเบบสุ่มทั้งหมด ซึ่งมันทำให้เขาถอนหายใจในใจ เพราะโชคของเขานั้นเรียกได้ว่าดวงซวยเรียกพ่อเลย เพราะงั้นการจะสุ่มให้ได้ของดีๆในครั้งนี้มันคงจะเป็นเรื่องที่ห่างไกลสำหรับเขาจริงๆ

     

    “ เอ็ดเวิร์ด รถม้ามารับเเล้วนะ ไปกันเถอะเดียวชั้นช่วยพยุง”

    ซาช่าที่ทำธุระเสร็จก็เขามาเเจ้งเอ็ดเวิร์ดที่กำลังจะนอนหลับไป ดูเหมือนว่าเรื่องจะเสร็จเร็วกว่าที่คิดรถม้าถึงได้มาถึงเร็วเช่นนี้ มันก็ทำให้เอ็ดเวิร์ดลืมตาขึ้นมา เเละพร้อมที่จะกลับคฤหาสน์ตัวเอง

     

    “ ไม่ต้องหรอกซาช่าชั้นพอจะเดินได้ อะ ฮาๆๆ ลุกไม่ไหวเเฮะ ”

    เอ็ดเวิร์ดพูดขึ้นก่อนที่จะพยายามลุกขึ้นเพื่อเเสดงความเข้มเเข็ง เเต่ว่าตัวเขากลับไม่มีเเรงพอที่จะลุกเลย ดูเหมือนว่าถึงปิดบาดเเผลได้ เเต่กล้ามเนื้อภายในเขาเขาถูกทำลายโดยพลังธาตุเเสง ทำให้ในตอนนี้เขาไม่มีเเรงเเม้เเต่จะลุกด้วยซ้่ำ ซึ่งมันก็ต้องยืมมือซาช่าในการช่วยเขาไปยังรถม้า

     

    “ นายเจ็บอยู่นะไม่ต้องมาทำเท่เลย มาชั้นช่วยพยุง ”

    ซาช่าพูดขึ้นพร้อมกับยิ้มออกมาเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าพ่อบุตรดยุคพยายามจะทำเป็นเข้มเเข็ง เเต่ก็ไม่สำเร็จตัวเธอจึงเข้าไปช่วยพยุงเขา ซึ่งเอ็ดเวิร์ดก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร ทั้งสองคนก็กล่าวลามิเลน่า เเละออกจากห้องพยายามบาลไป

     

    หลังจากนั้นซาช่า เเละเอ็ดเวิร์ดก็เดินทางออกมาจากห้องพยาบาลเพื่อที่จะไปยังรถม้า ซึ่งอยู่ค่อนข้างไกลจากห้องพยาบาล เอ็ดเวิร์ดจึงต้องถ่อสังขารเดินไกลสักหน่อย ซึ่งในตอนนี้พละกำลังของเขาก็ค่อยฟื้นฟูกลับมาเเล้ว ทำให้เขาพอที่จะเดินเหินได้ เเต่ก็ต้องพึ่งพาซาช่าอยู่ เพราะสภาพของเขาที่เดินโซเซมันไม่น่าดูจริงๆ ซึ่งในระหว่างที่พวกเขากำลังเดินผ่านตึกเรียนเพื่อไปยังทางเดินหน้าโรงเรียนเรียนซึ่งเป็นทางออกของโรงเรียนเเห่งนี้ ก็ได้มีเสียงของหญิงสาวคนหนึ่งทักเอ็ดเวิร์ดให้หยุดก่อน

     

    “ เอ็ดเวิร์ด วิลฟอร์ด หยุดก่อน ”

    เสียงของหญิงสาวคนนึงดังขึ้นทำให้ทั้งสองหันกลับไปมอง พวกเขาก็พบว่าคนที่บอกให้พวกเขาหยุด ซึ่งคนที่กำลังทักทายเขานั้นเป็นหญิงสาวผมสีขาว พร้อมกับผูกโบว์สีดำไว้ที่กลางหลัง มีนัยตาสีน้ำเงิน มีใบหน้างดงามจนดอกไม้ยังต้องอาย เพียวเเต่ใบหน้าของนางนั้นเเข็งกระดั่งไร้ซึ่งความรู้สึกเหมือนกับปฎิมากรรมน้ำเเข็งที่สลักรูปของเทพธิดา เธอสวมชุดนักเรียนหญิงของโรงเรียนนี้ เเละตรงอกประดับไปด้วยตัวอักษรตัวเอสีทองที่ ที่เป็นสัญลักษณ์ว่าเธออยู่ห้องเอนั้นเอง เธอคือองค์หญิงอลิเซีย นางเอกหลักของเกมตำนานผู้กล้าเเห่งเเสง

     

    “ องค์หญิงอลิเซียงั้นเหรอ ”

    เอ็ดเวิร์ดพูดขึ้นด้วยความตกตะลึงเล็กน้อย เมื่อพบเจอกับนางเอกเกมเป็นครั้งเเรก สำหรับเอ็ดเวิร์ดนั้นองค์หญิงอลิเซียนั้นมีความสวยที่โดดเด่นทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เเต่เนื่องจากเป็นเป็นองค์หญิงของราชวงค์ มันทำให้ความรู้สึกข่วยเขินกับความงามเธอนั้นหายไปในกลีบเมฆ ซึ่งพอพูดถึงราชวงค์มันก็ทำให้เขานั้นไม่ได้มีปฎิกริยามากนัก เหมือนกับว่าตัวของเขานั้นพยายามปฎิเสธพวกราชวงค์ เเละมองพวกราชวงค์เป็นศัตรูในใจลึกๆของเขา 

    ซึ่งตัวของเอ็ดเวิร์ดก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมตัวเขาถึงคิดเช่นนั้น มันอาจจเป็นเจตุจำนงค์เสรีจากชาติก่อนของเขาก็ได้ หรือไม่ก็เป็นเพราะสัญชาติญาณจากสกิลสุดยอดสัญชาติญาน เตือนเขาว่าอย่าเข้าไปยุ่งกับพวกราชวงค์ก็ได้ ตัวเขาถึงได้รู้สึกมีความปฎิปักษ์กับพวกราชวงค์เล็กน้อย

     

    “ ไม่ต้องมากมารยาทหรอก ที่โรงเรียนฟอร์จูน่าเราก็เป็นนักเรียนคนหนึ่งเท่านั้น หาใช่องค์หญิงไม่ ”

    องค์หญิงพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา เเละห่างเหินเห็นได้ชัดว่าเธอรังเกลียดเอ็ดเวิร์ด ซึ่งบุตรชายดยุคก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร เพราะเขาไม่คิดที่จะเเต่งกับเจ้าหญิงอยู่เเล้ว เพราะการเมืองภายในหวังหลวงนั้นอันตราย หากเขาเดินเกมพลาดตัวเขาอาจจะตายเเบบโง่ๆได้ ทางที่ดีพยายามหลีกเลี่ยงกับพวกราชวงค์นั้นจะทำให้เขาปลอดภัยมากกว่า

     

    “ ไม่ทราบว่าธุระอะไรเหรอ องค์หญิง ”

    เอ็ดเวิร์ดพูดขึ้น ถามองค์หญิงอลิเซียด้วยความสงสัย ในตอนนี้ตัวเขาปรับสภาพให้พูดคุยกับองค์หญิงอลิเซียได้อย่างปกติ บุตรชายดยุคสงสัยว่าองค์หญิงมีธุระอะไรถึงได้มาพูดคุยกับเขา

     

    “ ทำไมอยู่นายถึงเลือกที่จะต่อสู้กับสตีเวนละ ปกตินายไม่ใช่คนเเบบนี้นิน่า ”

    องค์หญิงอลิเซียพูดขึ้นถามเอ็ดเวิร์ดด้วยความสงสัย เพราะปกตินั้นเอ็ดเวิร์ดเป็นพวกปากร้าย เเต่ในใจกลับขี้ขลาด ตัวเขานั้นก็เป็นเเค่พวกปากเก่งเท่านั้น เวลาต้องสู้จริงส่วนมากก็มักจะวิ่งหนีหางจุกตูด ซึ่งมันเเตกต่างกับเอ็ดเวิร์ดในตอนนี้ที่พูดได้มีเหตุผล พยายามหลีกเลี่ยง เเถมเป็นการโจมตีปริศนาซึ่งทำให้สตีเวนบาดเจ็บได้อีก ซึ่งเธอมีอะไรสงสัยมากมาย เเต่เธอไม่ได้พูดมันออกมาก็เท่านั้น

     

    “ อะ เออเอาจริงๆผมก็ไม่ได้อยากจะสู้หรอกนะ เเต่หมอนั้นต่างหากที่มาหาเรื่องผมก่อน ”

    เอ็ดเวิร์ดอธิบายถึงจุดประสงค์ของเขาด้วยความสุภาพ ซึ่งมันก็เป็นเเบบนั้นจริงๆ อยู่ๆสตีเวนก็เหมือนจะเป็นบ้า เเละอยากที่จะฆ่าเขาให้ได้เหรอเกิน ซึ่งตัวของเอ็ดเวิร์ดก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าผู้กล้าเเห่งเเสงทำไมถึงได้อยากจะฆ่าเขาถึงขนาดนั้น

     

    “ องค์หญิงเอาจริงสตีเวนคิดจะฆ่าหมอนี้ด้วยนะ ดิชั้นคิดว่าท่านไม่ควรจะเข้าข้างสตีเวนมาเกินไปนะ ”

    ซาช่าช่วยพูดเสริมให้กับเอ็ดเวิร์ด ตัวเธอนั้นหากเอาจริงๆย่อมพูดเข้าข้างญาติของตัวเองอยู่เเล้ว หากเขาไม่ได้ทำอะไรผิด เเถมเอ็ดเวิร์ดพยายามพูดกันดีๆด้วนสันติเเท้ๆ มันเเสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ใครผิด เเละผู้กล้าสาวก็คิดว่าองค์หญิงไม่ควรเข้าข้างสตีเวนมากเกินไป

     

    ( ประโยคสนทนาเเบบนี้ มันไม่ใช่เอ็ดเวิร์ดเลย )

    องค์หญิงอลิเซียคิดในใจอย่างสับสน ตัวเธอไม่ใช่ว่าไม่รู้จักนิสัยใจคอเอ็ดเวิร์ดซะทีเดียว อันที่จริงองค์หญิงเเห่งเเสงรู้จักกับเอ็ดเวิร์ดมานานจนรู้สันดานของเขา ซึ่งนิสัยของเอ็ดเวิร์ดในตอนนี้มันเเตกต่างกับเอ็ดเวิร์ดที่เธอรู้จักอย่างชัดเจน

     

    “ ก็ไม่ใช่ว่าเจ้าหรือไงที่ทำเรื่องไม่สมควร ก็เลยถูกลงทัณฑ์นะ ”

    องค์หญิงอลิเซียพูดขึ้นถามเอ็ดเวิร์ดด้วยความสงสัย ปกติเเล้วเอ็ดเวิร์ดเป็นคนเเบบไหนทำไมเธอจะไม่รู้ การที่เขาจะจับมิเลน่ามาเล่นสนุกมันก็มีโอกาสที่จะเป็นไปได้ เเต่ว่าองค์หญิงอลิเซียก็รู้สึกว่ามันมีบางอย่างผิดปกติ เพราะนิสัยของเอ็ดเวิร์ดนั้นเปล่ี่ยนไป เเละมันเกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ที่มิเลน่าถูกจับไป ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นนี้มันน่าสงสัยสำหรับองค์หญิงอลิเซียว่ามันเกิดอะไรขึ้นในวันนั้นกันเเน่

     

    “ องค์หญิงเเต่ถึงเเบบนั้นก็ไม่น่าจะถึงขั้นฆ่าเเกงกันเลยนะ อีกเรื่องหนึ่งเรื่องพวกนี้มันก็เเค่ข่าวลือ มันไม่ได้มีหลักฐานชัดเจน เเละเจ้าทุกข์ก็ไม่ได้เอาเรื่องผมด้วย ผมคิดว่ามันเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุนะ ”

    เอ็ดเวิร์ดพูดขึ้นเเก้ต่างเรื่องของตัวเอง ก่อนที่จะพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนเช้าว่ามันไม่ถูกต้อง ถึงเขาจะทำผิดเเต่มันก็ต้องดำเนินการตามกฏหมาย ไม่ใช่อยู่ก็จะฆ่ากันเเบบศาลเตี้ยเเบบนี้ ซึ่งมันไม่ถูกต้องในความคิดของเขา ตัวเขาจึงพยายามอธิบายว่ามันไม่ถูกต้องยังไงในฐานะผู้เสียหายที่เกือบถูกสตีเวนฆ่าตาย

     

    ( เอ็ดเวิร์ด หมอนี้มันพูดได้มีเหตุผลเเบบนี้ตั้งเเต่เมื่อไรเนี้ย )

    ซาช่าที่ได้ฟังก็รู้สึกอึ้ง เเละคิดในใจว่าเอ็ดเวิร์ดมันเป็นคนพูดได้ดีมีเหตุผลเเบบนี้ตั้งเเต่เมื่อไร ตั้งเเต่ที่รู้จักกันมา เขาไม่น่าจะเป็นคนที่พูดได้ดีเเบบนี้นิน่า ส่วนใหญ่ก็มักจะใส่อารมณ์ เเละพูดออกมาเหมือนกับเด็กที่ไม่มีเหตุผล ซึ่งคำพูดเเก้ตัวของเขานั้นเเถบจะไม่มีที่ติ

     

    ( พูดไม่ออกเลย คำพูดของเอ็ดเวิร์ดมีเหตุผลเเบบสุดๆ เเล้วเเบบนี้เราจะพูดอะไรต่อดีละเนี้ย )

    องค์หญิงอลิเซียคิดในใจ ตัวเธอเองก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร เพราะเอ็ดเวิร์ดพูดได้มีเหตุผลเเบบสุดๆ ในตอนนี้ตัวของเอ็ดเวิร์ดนั้นเป็นเจ้าทุกข์จริงๆ เพราะเกือบถูกสตีเวนฆ่าตาย ซึ่งตามจริงเเล้วเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นมันก็ยังไม่เป็นที่เเน่นอนว่าเอ็ดเวิร์ดทำผิดจริง มันกลายเป็นว่าสตีเวนทำเกินกว่าเหตุเกินไป ซึ่งมันอาจจะทำให้มีปัญหาตามในอนาคต หากเอ็ดเวิร์ดยื่นเรื่องนี้กับราชาเเห่งเเสง ยังไงตัวของเอ็ดเวิร์ดก็มีเหตุผลมากกว่า เเละจะเป็นตัวของสตีเวนเองที่ถูกลงโทษ ซึ่งในระหว่างที่องค์หญิงเเห่งเเสงกำลังคิดอยู่ว่าจะพูดอะไร

     

    “ เเก เอ็ดเวิร์ด ”

    เสียงของสตีเวนดังขึ้นในสถาพที่ทำให้เอ็ดเวิร์ดอดที่จะหัวเราะออกมาในใจไม่ได้ เพราะสตีเวนอยู่ใส่เสื้อยืดธรรมดาๆโดยถอดเสื้อนอกออก พร้อมกับถือผ้าสำหรับเช็ดทำความสะอาดโรงเรียนนั้นเอง

     

    “ สตีเวน ”

    ซาช่าพูดขึ้นด้วยความตกใจก่อนที่จะเอาตัวเขามาบังเอ็ดเวิร์ดไว้ ผู้กล้าสาวกลัวว่าสตีเวนจะบ้าเลือดเเละพุ่งเข้ามาทำร้าย ซึ่งหากเอ็ดเวิร์ดถูกทำร้ายในตอนนี้ เขาคงจะได้กลับบ้านเก่าจริงๆเเน่ๆ

     

    “ ไม่เป็นไรซาช่า ”

    เอ็ดเวิร์ดพูดให้ซาช่าคลายความระวังลง เพราะไม่ว่ายังไงตอนนี้สตีเวนก็ทำอะไรเขาไม่ได้อีกเเล้ว เพราะถึงหมอนี้จะบ้าเลือดเเค่ไหน เเค่หากสตีเวนจะฆ่าเอ็ดเวิร์ดในตอนนี้ต่อให้เป็นผู้กล้าเเห่งเเสงยังไงก็ต้องรับโทษกับสิ่งที่เขาทำต่อจากนี้

     

    “ ทำไมเเกถึงได้ไม่เป็นอะไรเลยละ ทั้งที่โดนการโจมตีจากดาบศักดิ์สิทธิ์ ”

    สตีเวนพูดขึ้นถามเอ็ดเวิร์ดด้วยความสงสัย อันที่จริงสตีเวนไม่คิดจะเข้ามาหาเรื่องเอ็ดเวิร์ดหรอก เเต่เขารู้สึกสงสัยว่าทำไมเอ็ดเวิร์ดถึงดูไม่เป็นอะไร ทั้งที่ถูกดาบเเห่งเเสงฟันใส่ที่กลางลำตัวไปเเท้ๆ เเต่เขาก็ยังสามารถเดินเหินได้ปกติเหมือนกับไม่ได้รับบาดเเผลฉกรรจ์

     

    " พูดอะไรนะสตีเวน พูดเบบนี้มันเหมือนกับว่านายตั้งใจจะฆ่าเขานะ "

    องค์หญิงอลิเซียเตือนสตีเวน เพราะคำพูดของสตีเวนมันทำให้ตัวเขาดูไม่ดี เเบบนี้มันก็เหมือนกับว่าสตีเวนตั้งใจฆ่าเอ็ดเวิร์ดจริงๆ เเบบนั้นมันจะไม่ดีต่อตัวของสตีเวนเองในอนาคต

     

    “ เออ ชั้นไม่ได้ตั้งใจนะ ชั้นเเค่รู้สึกประหลาดใจนะว่าโดนไปขนาดนั้นทำไมถึง ”

    สตีเวนพูดเเก้ตัว เพราะเขาไม่ได้ตั้งใจจะพูดเเบบนั้น เเต่มันก็น่าสงสัยจริงๆที่เอ็ดเวิร์ดใช้ลูกไม้อะไรเขาถึงได้มีสภาพดีกว่าที่ควรจะเป็น พลังทำลายล้างของดาบเเห่งเเสงไม่ใช่เล่นๆเลยนะ ส่วนใหญ่คนที่ถูกฟันไปขนาดนั้นต่อให้้เป็นจอมเวทย์ระดับสูงก็ยังตายเลย จากการถูกพลังจากดาบเเห่งเเสงทำลายจากภายใน เเต่ว่าเอ็ดเวิร์ดที่เป็นคนธรรมดากลับยังไม่ตาย เเถมยังดูไม่ได้บาดเจ็บปากตายเเบบนั้น

     

    “ เออ ขอโทษนะ ถึงเเผลของผมจะปิดเเล้ว เเต่ผมก็เป็นคนเจ็บนะ ผมขอตัวไปพักผ่อนก่อนจะได้ไหมครับ ”

    เอ็ดเวิร์ดพูดขึ้นขอทางจากสตีเวน เเละองค์หญิงอลิเซีย เพราะตอนนี้เขารู้สึกว่าเสียเวลามากเกินไปเเล้ว ตัวเขาคิดว่าหากยังพูดคุยกันอยู่เเบบนี้ตัวเขาไม่ไปถึงรถม้าสักที เพราะงั้นเขาจึงขอตัวจากองค์หญิงอลิเซีย เเละสตีเวนด้วยความสุภาพ

     

    “ ใช่ๆ ไว้ค่อยคุยกันที่หลังก็ได้ ให้เอ็ดเวิร์ดไปพักผ่อนเถอะ ”

    ซาช่าพูดขึ้นช่วยเอ็ดเวิร์ดอีกเเรง เพราะเธอก็รู้สึกว่าถ้ายังคุยอยู่เเบบนี้เรื่องไม่จบเเน่ๆ เธอจึงคิดที่จะใช้โอกาศนี้พาเอ็ดเวิร์ดออกจากสถานการณ์น่าอึดอัดในตอนนี้ ซึ่งตัวขององค์หญิงอลิเซียก็ได้อนุญาติให้เอ็ดเวิร์ด กับซาช่าไปได้ เพราะยังไงเอ็ดเวิร์ดก็เป็นคนเจ็บจะให้เขายืนคุยกับเธอเเบบนี้มันก็เป็นการรังเเกเขามากเกินไป ส่วนสตีเวนก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เขาจึงได้เเต่เก็บความเเค้นเอาไว้

     

    ( เจ้าหมอนี้ใช่เอ็ดเวิร์ดจริงๆเหรอ )

    องค์หญิงอลิเซียคิดในใจด้วยความสงสัย เธอคิดว่าเอ็ดเวิร์ดที่เธอคุยอยู่นั้นไม่ใช่เอ็ดเวิร์ดเเน่ๆ เพราะถึงจะกลับตัวกลับใจยังไงสันดานนั้นเปลี่ยนได้ยาก ซึ่งเอ็ดเวิร์ดในตอนนี้มันเปลี่ยนไปจนกระทั่งสันดานซึ่งจริงๆมันเป็นไปไม่ได้เลยที่คนเราจะเปลี่ยนเเปลงได้ในระดับนั้นในคืนเดียว องค์หญิงอลิเซียจึงสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้นในคืนนั้นกันเเน่

     

    ( เอ็ดเวิร์ดสักวันหนึ่งชั้นจะต้องฆ่าเเกให้ได้ )

    สตีเวนคิดในใจก่อนจะมองตามหลังเอ็ดเวิร์ดที่กำลังเดินไปขึ้นรถม้าด้วยความเเค้น ตัวเขามีความต้องการที่จะฆ่าเอ็ดเวิร์ดให้ได้ ซึ่งก็ไม่อาจรู้ได้ว่าเอ็ดเวิร์ดได้ไปทำอะไรสตีเวนไว้ ทำให้เขาต้องการที่จะฆ่าเอ็ดเวิร์ดมากขนาดนั้น

     

    “ หมอนั้นเป็นอะไรของมันนะ พร้อมจะหาเรื่องชั้นตลอดเวลา มันดูเเปลกๆนะว่าไหม ”

    เอ็ดเวิร์ดพูดขึ้นถึงเรื่องของสตีเวนว่าหมอนี้มันอาฆาตเขาอะไรนักหนา เขาสัมผัสได้ถึงจิตสังหารของอีกฝ่ายว่ามันจงใจจะฆ่าเขาอย่างชัดเจน ซึ่งตัวของเขาก็ไม่รู้ว่าทำไมผู้กล้าเเห่งเเสงถึงได้จงเกลียดจงชังเขาถึงขนาดนั้น

     

    “ ไอ้ที่เเปลกนะมันนายต่างหากละ ”

    ซาช่าพูดขึ้นบอกเรื่องความเเปลกของเอ็ดเวิร์ด ซึ่งซาช่าเองก็เป็นคนหนึ่งที่อยู่กับเอ็ดเวิร์ดมานาน เธอรู้สึกว่าเอ็ดเวิร์ดนั้นเเปลกไปตั้งเเต่เหตุการณ์ที่มิเลน่าถูกลักพาตัวไป ซึ่งเธอก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้นในคืนนั้น 

     

    “ เเปลกชั้นเเปลกตรงไหนกัน นี้ก็ปกติของชั้นนิ ”

    เอ็ดเวิร์ดพูดขึ้นถามด้วยความสงสัย เเต่มีเหงื่อออกมาที่ใบหน้าของเขาเล็กน้อย ซึ่งเขาก็พยายามพูดตีมึนไป เพราะไม่อยากให้ใครรู้ว่าตัวเขานั้นไม่ใช่เอ็ดเวิร์ด เพราะมันจะนำพาความวุ่นวายมาให้กับเขาในอนาคต บุตรชายดยุคก็เเค่อยากให้ทุกคนคิดว่าเขาเเค่กลับตัวกลับใจก็เท่านั้น 

     

    ( ไอ้การพูดเเบบมีเหตุผลจนคนอย่างองค์หญิงอลิเซีย เเละสตีเวนพูดไม่ออกนะ นั้นละที่เเปลกนะ )

    ซาช่าคิดในใจ เพราะการที่เอ็ดเวิร์ดพูดได้มีเหตุผลมันดูยังไงเอ็ดเวิร์ดที่เธอรู้จักก็ไม่น่าจะทำได้ มันทำให้เธอสงสัยว่าเอ็ดเวิร์ดที่อยู่ตรงหน้าเป็นตัวปลอมรึเปล่า ซึ่งหากเขาเป็นตัวปลอมจริงๆวอลเตอร์ก็น่าจะรู้ตัวได้ในทันที การที่เอ็ดเวิร์ดไม่ถูกวอลเตอร์ฆ่าไปซะก่อน เเปลว่าเขาน่าจะเป็นตัวจริงเเน่นอน เเต่ทำไมนิสัยของเอ็ดเวิร์ดถึงได้เปลี่ยนไปนั้นคือสิ่งที่ผู้กล้าสาวสงสัย

     

    “ ช่างเถอะน่า คนเจ็บอย่างนายเงียบไปเถอะ ”

    ปักกก ซาช่าพูดขึ้นตัดรำคาญเพราะเถียงสู้เอ็ดเวิร์ดไม่ได้ ก่อนที่เธอเผลอใช้มือตบไปที่อกของเอ็ดเวิร์ดทำให้ความเจ็บปวดจากบาดเเผลของเอ็ดเวิร์ดไหลทะลักออกมาจนตัวของเขาทรุดลงไป

     

    “ โอ็ยเจ็บ เจ็บๆๆ ”

    เอ็ดเวิร์ดทรุดลงไปนั่งกับพื้นพร้อมกับร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด การตบไปที่หน้าอกของเขาในครั้งนี้มันทำให้ความเจ็บปวดภายในจากบาดเเผลของเขากำเริบ ซึ่งซาช่าก็ตกใจ เเละรีบไปดูอาการของเอ็ดเวิร์ดในทันที

     

    “ เป็นอะไรรึเปล่านะ นี้ๆ ”

    ซาช่าตกใจเป็นอย่างมาเมื่อเห็นว่าเอ็ดเวิร์ดทรุดตัวลงไป มันทำให้เธอรู้สึกผิดเป็นอย่างมากที่เผลอไปตบเเผลของเอ็ดเวิร์ด ซึ่งวอลเตอร์ที่รออยู่นานก็เข้ามาดูอาการของนายน้อยของตน ก่อนที่วอลเตอร์ กับซาช่าจะพาเอ็ดเวิร์ดขึ้นรถม้ากลับบ้านไปในทันที โดยที่พวกเขาไม่รู้ว่ากำลังมีคนจับตาดูพวกเขาอยู่

     

     “ เห็นเขาสบายดีเเบบนี้ชั้นก็หมดห่วงละนะ ”

    อาเซีย ฟอลสตาร์ เด็กสาวที่ตะโกนเตือนเอ็ดเวิร์ดตอนที่เขากำลังถูกสตีเวนฟันพูดขึ้นเบาๆ เมื่อเห็นว่าเอ็ดเวิร์ดปลอดภัยเธอก็รู้สึกดีใจ ที่คนน่าสนใจเเบบเขานั้นยังไม่ตาย บุตรีดยุคคิดว่าคนอย่างเอ็ดเวิร์ดน่าจะสร้างสีสันให้กับโรงเรียนนี้อย่างเเน่นอน

     

    “ อาเซียทำอะไรอยู่นะกลับกันเถอะ ”

    เพื่อนของอาเซียที่ไปทำธุระพูดขึ้นถามอาเซียด้วยความสงสัยเมื่อเห็นว่าอาเซียกำลังดูอะไรบ้างอย่างอยู่ มันทำให้ต๋อมขึ้สงสัยของเพื่อนสาวคนนี้กำเริบ

     

    “ จ่ะ ”

    อาเซียหยักหน้าพร้อมกับขานรับด้วยคำสั้น ก่อนที่ทั้งสองจะเดินไปขึ้นรถม้าของอาเซีย ซึ่งเพื่อนสาวคนนี้บ้านอยู่ใกล้กับอาเซียทำให้พวกเขานั้นกลับบ้านด้วยรถม้าคันเดียวกัน

     

    “ เธอดูอารมรณ์ดีนะมีอะไรพิเศษรึเปล่าเอ๋ย ”

    เพื่อนสาวของอาเซียพูดขึ้นอย่างขึ้เล่น เธอรู้สึกสงสัยว่าทำไมอาเซียดูมีความสุขจัง มันทำให้เธอรู้สึกสงสัยว่าอาเซียได้พบกับอะไรดีรึเปล่า บุตรีดยุคถึงได้อารมรณ์ที่ดีเเบบนี้

     

    “ ความลับจ่ะ หีๆๆๆๆ ” 

    อาเซียพูดขึ้นพร้อมกับหัวเราะออกมาเบาๆ วันนี้ก็ถือว่าเป็นวันหนึ่งที่เธอไม่รู้น่าเบื่ออีกต่อไป ซึ่งตัวเธอไม่รู้ว่าชะตาของเธอนั้นได้ถูกผูกไว้กับเอ็ดเวิร์ด ชานหนุ่มผู้ไม่ยอมเเพ้ต่อคำครหา เเละยืนยัดต่อสู้กับความไม่ยุติธรรมในวันนี้

     

    พระราชวังราชวงค์ไลเทอร์ ปราสาทส่วนตัวขององค์ชายอเล็ค

    องค์ชายอเล็คได้รอการมาของเพื่อนเพียงไม่กี่คนของเขา ซึ่งเพื่อนคนนี้เป็นถึงอันดับ 2 ของห้องเอ ปี 1 ซึ่งเเข็งเเกร่งรองจากสตีเวนเท่านั้น ซึ่งเหตุผลที่เขานัดมาก็เพื่อทดสอบเอ็ดเวิร์ด วิลฟอร์ดอีกครั้งว่าที่ชนะเสมอกับสตีเวนได้นั้นเป็นเรื่องบังเอิญหรือไม่ องค์ชายรองคิดว่าการเปลี่ยนเเปลงของเอ็ดเวิร์ดนั้นอาจจะมีผลต่อเเผนการของเขาได้ เพราะพี่ชายของเขาเริ่มสนใจในตัวของเอ็ดเวิร์ดเเล้วนั้นเอง มันจึงทำให้ตัวเขาร้อนรนว่าบรรลังก์ของเขาจะหลุดลอยไปหาพี่ชายของตน

     

    “ เฮ้ อเล็ค ได้ข่าวว่าสตีเวนโดนเล่นงานงั้นเหรอ ”

    ชายผมเเดงคนนึงได้เดินเข้ามาหาองค์อเล็คด้วยความเดือดดาลดุจเปลวเพลิง เอกลักษณ์ของเขาเเค่มองไกลๆก็รู้เเล้วว่าชายคนนี้เป็นธาตุเปลวเพลิง ซึ่งดูจากชุดของเขาเเล้วเขาน่าจะเป็นอัศวินเวทย์ในระดับสูง ซึ่งน่าเเปลกที่เขาสามารถพูดคุยกับ องค์ชายอเล็คได้อย่างเป็นกันเอง เเปลว่าสถานะของเขาคงจะไม่ต่ำไปกว่าองค์ชาย

     

    “ รู้ผลเเล้วละ พวกเขาเสมอกันนะ ”

    องค์ชายอเล็คพูดขึ้นพร้อมกับยิ้มออกมา เขารู้ดีว่าสหายคนนี้ของเขานั้นบ้าการต่อสู้ เเละเลือดร้อนเเค่ไหน ซึ่งเขาก็รู้สึกสงสัยว่าหากเพื่อนของเขาเป็นคนลงมือ เอ็ดเวิร์ดยังจะสามารถเอาตัวรอดมาได้เหมือนกับวันนี้หรือไม่

     

    “ เสมอใครนะที่เสมอกับเจ้าสตีเวนได้ ”

    ชายผมเเดงพูดขึ้นอย่างสนใจ ใครกันที่สามารถต่อสู้กับคู่เเข่งฟ้าประทานของเขาได้ ซึ่งชายผมเเดงดูเหมือนจะเริ่มสนใจขึ้นมาเเล้วว่า ผู้เเข็งเเกร่งคนใหม่ที่ได้ปรากฏตัวขึ้นที่โรงเรียนในวันนี้คือใครกันเเน่

     

    “ เอ็ดเวิร์ด วิลฟอร์ด ”

    องค์อเล็คพูดขึ้นพร้อมกับยิ้มออกมาเล็กน้อย ในใจเขาคิดว่าการให้สหายคนนี้ไปทดสอบก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะถ้ามันร้ายเกินกว่าที่สหายของเขาจะรับมือไหว เขาจะได้ปรับเเผนการให้เหมาะสมเพื่อจัดการกับเอ็ดเวิร์ด ซึ่งการทำเเบบนี้มันก็เหมือนกับสังหารเอ็ดเวิร์ดทางอ้อมโดยที่องค์ชายรองไม่ต้องเปลื้องเเรงอะไร

     

    “ เอ็ดเวิร์ด ไอ้หื่นได้โล่นั้นนะอะนะ นายพูดผิดรึเปล่า หรือชื่อคล้าย ”

    ชายผมเเดงตกตะลึง เพราะไม่คิดว่าคนที่สามารถเสมอกับคู่เเข่งของเขาได้ คือชายผู้อ่อนเเอ เเละน่ารังเกลียดที่สุดอย่าง เอ็ดเวิร์ด วิลฟอร์ด อดีตคู่หมั้นขององค์หญิงอลิเซีย ที่มีดีอย่างเดียวเเค่เกิดมาเป็นลูกดยุคเท่านั้นเอง  โชคดีที่การหมั้นหมายนั้นถูกยกเลิกเเล้วซึ่งมันก็ทำให้ดีใจ เพราะหญิงสาวที่เขาชอบจะได้ไม่ต้องไปอยู่กันคนเเย่ๆเเบบเอ็ดเวิร์ด

     

    “ เป็นเขานั้นเเหละ น่าเเปลกที่เวลาเพียงเเค่ 3 วันเขากับเเข็งเเกร่งขึ้นได้อย่างก้าวกระโดด เเละถึงจะดูเหมือนไม่มีประสบการณ์ในการต่อสู้ เเละติดประมาทนิดหน่อย เเต่ว่าในตอนนั้นหากไม่ได้มิเลน่ารักษาสตีเวนเอาไว้ ชั้นคิดว่าเขาก็คงจะเป็นฝ่ายที่นอนห้องพยาบาลไปเเล้ว  ”

    องค์ชายอเล็คอธิบายลายละเอียดการปะทะกันของสตีเวนกับเอ็ดเวิร์ด ซึ่งเขาสงสัยเกี่ยวกับความเเข็งเเกร่งของเอ็ดเวิร์ด ซึ่งหลังจากที่มิเลน่าถูกลักพาตัวไป มันเป็นไม่ได้เลยที่อยู่ๆเอ็ดเวิร์ดจะเก่งขึ้นภายใน 3 วัน ซึ่งความเเข็งเเกร่งที่เขาเเสดงออกมามันก็ควรจะฝึกอย่างน้อยก็ต้อง 1 ปี ซึ่งมันเป็นไม่ได้เลยสำหรับเอ็ดเวิร์ดที่เป็นไอ้กระจอกไร้เวทย์มนต์มาตั้งหลายปี

     

    “ ฮาๆๆน่าสนุกดีนิ ชั้นฟอร์น ลูซิส ผู้กล้าเพลิง สาบานเลยว่ามันจะต้องชดใช้ที่มาเล่นงานเพื่อนของชั้น ไหนจะเรื่องของมิเลน่าด้วย เอ็ดเวิร์ด วิลฟอร์ดมันจะต้องชดใช้กับเรื่องที่เกิดขึ้น ”

    ชายผมเเดงพูดชื่อของตัวเองออกมา เขาคือ'ฟอร์น ลูซิส'ผู้กล้าเเห่งเปลวเพลิง ชายผู้เเข็งเเกร่งเป็นอันดับ 2 ของปี 1 ห้องเอ ผู้เป็นรองเพียงเเค่ผู้กล้าเเห่งเเสงสตีเวนผู้เป็นพระเอกของเกมนั้นเอง 

     

    ( เเกนี้มันบ้าการต่อสู้ซะจริงนะไอ้โง่ เอาเถอะถ้าใช้งานได้ ก็พอเเล้วละนะ หึๆๆๆ )

    อเล็คคิดในใจพร้อมกับยิ้มอย่างยินดี ยังไงซะทุกคนนั้นก็เป็นเเค่เบี้ยของเขาเท่านั้น ใช่เเล้วทุกสิ่งทุกอย่างจะต้องเป็นของเขา สำหรับคนอื่นนั้นมันก็เป็นเเค่เบี้ยที่มีไว้ให้องค์ชายรองขึ้นสู่การครอบครองอำนาจเท่านั้น

     

    วันที่ 6 ของการมาต่างโลก คฤหาสถ์วิลฟอร์ด สวนหลังคฤหาสถ์ 

    หลังจากที่เอ็ดเวิร์ดเเบกสังขารไปส่งที่รถม้าประจำตระกูล โดยมีซาช่าญาติสาวเเสนสวยค่อยช่วยเหลือ จากนั้นเป็นพ่อบ้านที่นำเขาไปพักผ่อนที่ห้องนอน ซึ่งเอ็ดเวิร์ดก็ไม่รอช้าเขานอนหลับพักผ่อนในทันที เพราะตอนนี้ร่างกายของเขาต้องการฟื้นฟู เพราะงั้นการนอนหลับนั้นฟื้นฟูร่างกายของเขาได้ดีที่สุด โดยเอ็ดเวิร์ดใช้เวลาทั้งวันของวันที่ 5 ในการฟื้นฟูร่างกายที่เสียหายจากพลังของดาบศักดิ์สิทธิ์ ทำให้เขานอนอยู่บ้านกินซุปทั้งวัน

    หลังจากนั้นวันที่ 6 ของการมาต่างโลก เอ็ดเวิร์ดตรวจสอบสภาพร่างกาย เขาก็พบว่าร่างกายของเขานั้นหายดีเเล้ว เเละสิ่งที่เขาได้มาเป็นการเเลกเปลี่ยนนั้นก็คือพลังภายในที่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ดูเหมือนว่าการเสียพลังวิญญาณไปทำให้ร่างกายเร่งการฟื้นฟูทำให้พลังของเพิ่มขึ้น เเละอาจจะเพราะบ้านของเขานั้นมีพลังธรรมชาติอยู่มากมาย พลังปราณของเขาถึงได้พุ่งขึ้นอย่างก้าวกระโดดเเม้ว่าการพัฒนามันอาจจะไม่เท่าที่โรงเรียนก็ตามที เเต่เอ็ดเวิร์ดได้ทำกิจวัตรประจำวันของตัวเองต่อไป

     

    “ วิชาคลื่นวารีถลายภูผากระบวนท่าที่ 10 อนันตะวารี ”

    เอ็ดเวิร์ดได้ทำการทดสอบการใช้พลังปราณเพื่อดูความพร้อมของร่างกาย ดูเหมือนว่าจิตวิญญาณที่ได้รับความเสียหายจะฟื้นฟูกลับมาสมบูรณ์เเล้ว เขาก็คิดว่าอาจจะเพราะที่นี้พลังธรรมชาติเยอะรึเปล่า มันจึงทำให้เขาฟื้นฟูพลังได้อย่างรวดเร็วเเบบนี้ เขาจึงทดสอบโดยการใช้กระบวนท่าสุดอนันตะวารีในทันที

     

    * คลื่น กราสสสสส *

    สายน้ำก่อนตัวเป็นร่างของมังกรขนาดยักษ์ ใช่เเล้วเเท้จริงอนันต์วารีที่เขาใช้กับสตีเวนเป็นเเค่กระบวนท่าที่ไม่วสมบูรณ์เท่านั้น หากเขาใช้กระบวนท่าเเท้จริง เกรงว่าสตีเวนอาจจะไม่ได้มีลมหายใจอีกต่อไป เขาไว้ชีวิตสตีเวนเพราะอีกฝ่ายมีภาระหน้าที่ที่ต้องไปปกป้องทวีปไกอา เขาจึงทำเป็นเอาหูไปนาเอาตาไปไร่
     

    “ ว้ายยยย ”

    เสียงร้องของหญิงสาวอันคุ้นเคยดังขึ้นก่อนที่มังกรวารีขนาดยักษ์จะคลายออก กลายเป็นมวลน้ำขนาดใหญ่สลายกลายเป็นพลังธาตุเข้าไปในตัวของเอ็ดเวิร์ดทำให้บริเวณโดยรอบไม่ได้เปียกปอน จากมวลน้ำมหาศาลที่ปรากฏขึ้นจากการใช้อนันต์วารีเลยเเม้เเต่น้อย

     

    “ โรซี่ไปเเอบทำอะไรอยู่ตรงนั้นนะ ”

    เอ็ดเวิร์ดที่ขยายประสาทสัมผัสตรวจจับออกไปทำให้เขารู้ว่ามีคนกำลังเเอบมองเขาอยู่ ซึ่งก็ไม่ใช่ใครเธอคือเมดเอลฟ์สาวโรซี่ เมดส่วนตัวของเขานั้นเอง

     

    “ คะ ขอโทษค่ะนายท่าน คือดิชั้น ”

    โรซี่พูดขอโทษอย่างกล้าๆกลัวๆ พลางเหลือบมองกล้ามเนื้ออันสมบูรณ์ของเอ็ดเวิร์ดอย่างตกตะลึง เธอนอนกับเอ็ดเวิร์ดมาหลายครั้งเเต่เธอจำไม่ได้ว่าไอ้เเห้งนั้นจะมีรูปร่างที่น่าหลงใหลนี้ได้ยังไงกัน

     

    “ อาช่างเถอะ ไปเตรียมเสื้อผ้าให้ชั้นด้วยนะเดียวชั้นจะไปโรงเรียนวันนี้ ตลอด 5 วันที่ผ่านมาชั้นยังไม่ได้เข้าเรียนเลย ถึงเวลาที่จะชั้นจะต้องเข้าเรียนบ้างเเล้ว ”

    เอ็ดเวิร์ดไม่ได้คิดอะไรเขาสั่งให้โรซี่ไปเตรียมเสื้อผ้าให้กับเขา เพราะเขาคิดจะไปโรงเรียนในวันนี้ หลังจากที่พักฟื้นวันหนึ่งเขาก็คิดว่าวันนี้เขาน่าจะไปโรงเรียนไหว หากไม่เจอกับอะไรที่ไม่คาดฝัน เขาไม่คิดว่าการไปโรงเรียนวันนี้จะมีปัญหาอะไร

     

    “ ค่ะ ถ้ายังไงดิชั้นขอตัวก่อนนะค่ะ ”

    โรซี่ที่ไม่อาจทนอยู่ต่อได้ขอตัวไปทำตามคำสั่งของเอ็ดเวิร์ดในทันที เมดเอลฟ์สาวรีบเดินจ้ำอ้าวไปอย่างรวดเร็วจนเอ็ดเวิร์ดหัวเราะให้กับความล่กๆของเธอ

     

    “ เธอดูอ่อนต่อโลกเกินกว่าจะเป็นสายลับนะ หรือว่าชั้นคิดไปเองเกี่ยวกับเธอกันนะ  ”

    เอ็ดเวิร์ดพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าโรซี่รู้สึกอ่อนไหวกับร่างกายของเขา ซึ่งตามหลักการของสายลับเเล้ว โรซี่ไม่ควรจะมีอาการเช่นนี้ ซึ่งมันทำให้เอ็ดเวิร์ดเลิกสงสัยในตัวของโรซี่ในเรื่องที่เป็นสายลับ เเต่ถึงเเบบนั้นเขาก็ยังไม่ได้ไวใจเธอเท่ากับวอลเตอร์ เพราะงั้นงานส่วนใหญ่เขาจึงให้วอลเตอร์เป็นคนจัดการตามปกติ

     

    “ นายน้อยครับ พวกเราได้จัดเตรียมน้่ำอาบ เเละเสื้อผ้าเรียบร้อยเเล้วขอรับ ”

    วอลเตอร์ได้เดินมาเรียกนายน้อยของเขาด้วยตัวเอง ตามความจริงเขาเเอบสังเกตุการณ์นายน้อยของเขาอยู่ ซึ่งกระบวนท่าที่เอ็ดเวิร์ดใช้นั้นสร้างความประหลาดใจให้กับเขาเป็นอย่างมาก

     

    “ โอเคเดียวชั้นไปเดียวนิละ เออจริงสิ! ช่วยจัดเตรียมพื้นที่สำหรับการฝึกให้ใหญ่กว่านี้หน่อยนะ ที่นี้มันเล็กไปหน่อยสำหรับชั้นนะ วอลเตอร์ ”

    เอ็ดเวิร์ดพูดขึ้นสั่งให้วอลเตอร์จัดการเตรียมสนามสำหรับฝึกซ้อมใหม่ เนื่องจากสนามฝึกนี้มันเล็กไปหน่อย ทำให้เขาต้องการพื้นที่สำหรับฝึกที่ใหญ่มากขึ้นกว่านี้

     

    “ รับทราบครับกระผมจะจัดเตรียมให้ท่านอย่างเร่งด่วนครับ ”

    วอลเตอร์พูดขึ้นรับคำสั่งของเอ็ดเวิร์ด ก่อนที่เอ็ดเวิร์ดจะเดินไปอาบน้ำอย่างสบายใจ ถ้าเรื่องถึงมือของวอลเตอร์เเล้ว ทุกอย่างจะต้องเรียบร้อยอย่างเเน่นอน

     

    “ อาเป็นคนรวยนิมันดีจังนะ เเต่จะวางใจไม่ได้ เราเองก็ต้องตั้งใจให้มากกว่านี้ สมบัติพวกนี้มันเป็นของตระกูล หากเราไม่มีความสามารถพอ ทุกอย่างที่ต้นตระกูลทำมาก็จะสูญปล่าว เพราะงั้นเราต้องทำตัวให้เหมาะสมกับการเป็นบุตรชายของดยุค ไอ้สิ่งที่เเกทำไม่ได้ชั้นจะทำให้เอง เอ็ดเวิร์ด วิลฟอร์ด ”

    เอ็ดเวิร์ดพูดขึ้นอย่างสบายใจ เมื่อเห็นว่าตัวเขานั้นเกิดใหม่เป็นคนรวยมันก็ทำให้ชีวิตของเขานั้นค่อนข้างสบายๆ เเต่ว่าเอ็ดเวิร์ดก็ไม่ได้วางใจ เขาคิดว่ายังไงเขาก็เป็นภาพลักษณ์ของเขานั้นมันดูเเย่เกินไป ในอนาคตหากเขาไม่คิดเเผนเตรียมเอาไว้ตัวเขาต้องลำบากเเน่ในอนาคตๆ เพราะงั้นตัวเขาจึงจำเป็นต้องเตรียมพร้อมเพื่อให้ตัวเขาเป็นผู้สืบทอดตำเเหน่งดยุคได้อย่างภาคภูมิ เเต่ก่อนหน้านั้นความเเข็งเเกร่งคือสิ่งที่เขาต้องทำเป็นอันดับเเรกๆ

     

    ( กล้ามเนื้อน่าหลงไหลนั้นมันอะไรนะ เเค่ 5 วันทำไมถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ ว้ายนี้เราคิดอะไรอยู่เนี้ย มันคือคนที่ทำอะไรกับเราอย่าลืมสิ โรซี่ จูเลีย )

    โรซี่พยายามรวบรวมสติของตัวเอง ให้อย่าไปหลงใหลกับกล้ามเนื้ออันสมบูรณ์ของเอ็ดเวิร์ด เมดเอลฟ์สาวต้องตั้งสติเเละนึกให้ออกว่าชายคนนี้คือคนที่ทำลายชีวิตของเธอ ซึ่งโรซี่จะต้องล้างเเค้นเขาให้ได้สักวันนึง 

    เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไปเอ็ดเวิร์ดจะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขตามที่วางเเผนไว้ได้ไหม เเละการไปโรงเรียนครั้งต่อไปตัวเขาจะประสบกับปัญหาเหมือนกับวันเเรกหรือไม่ โปรดติดตามตอนต่อไป

     

    จบตอน

     

    จบเเล้วนะครับสำหรับตอนนี้เป็นยังไงบ้างครับ ต้องบอกว่าการที่จะให้คนที่พึ่งฝึกปราณเเค่ 1 ปีต้องมามาเจอกับระดับผู้กล้าเลยเเบบนี้ผลอลัพธ์อกมาเเบบนี้ก็ถือว่าสวยเเล้วละครับ อีกเรื่องคือที่เอ็ดเวิร์ดไม่โจมตีจุดตาย เพราะเขายังไม่เคยฆ่าคนมาก่อนครับ เเละเขาก็ไม่อยากทำด้วย ส่วนเรื่องนางเอกนั้น มีครับอวยใครชอบใครก็อวยไปเลยครับ เพราะทุกคนมีสิทธิเป็นนางเอกได้หมดครับ

    ป.ล.สำหรับคนที่รู้เเล้วก็อุปไว้หน่อยนะครับ เอาจริงๆก็เฉลยในอีกไม่กี่ตอนนะครับ ประมาณตอนที่ 10 ขึ้นไปก็น่าจะรู้เเล้วนะครับว่านางเอกเป็นใคร 55555

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×