คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : 셋.(100%)
3.
.
แสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาในห้องนอนสีเข้ม ทำให้คนตัวสูงตื่นขึ้นมาโดยไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่ คริสพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียงสักพักก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นมา ดวงตาคมคู่สวยก็อดเผลอปรายมองไปยังร่างขาวโพลนที่เปรอะเปื้อนไปด้วยรอยจูบของเขาไม่ได้
“อือ..”
แม้แต่เสียงครางยามละเมอยังดูอ่อนเพลีย ไม่รู้ว่าเมื่อคืนคริสเล่นแรงเกินไปรึเปล่า
แต่ก็คงจะแรงไปจริงๆ จุนมยอนหลับไม่รู้เรื่องรู้ราวไปหนึ่งวันเต็มๆ ..
มือหนาเอื้อมไปนวดไหล่ตัวเอง ก่อนจะลุกไปห้องน้ำ ชำระร่างกายของตัวเองทันที สาบานว่าไม่ได้รังเกียจคนตัวเล็ก แต่กลัวจุนมยอนตื่นมาแล้วอยากกอดเขาจะเหม็นเอาต่างหาก
10:36
คริสเพิ่งได้ดูเวลาก่อนอาบน้ำเสร็จ ดูเหมือนวันนี้จะเป็นเช้าวันแรกที่คริสตื่นเช้า ดวงตาคมทอดมองร่างบอบบางที่สลบไสลอยู่ข้างๆเพราะบทรักร้อนที่เพิ่งผ่านพ้นไป มือหนาลูบลาดไหล่แคบเบาๆผ่านเสื้อเชิตสีดำตัวใหญ่ของเขาก่อนจะดึงผ้าห่มมาคลุมจุนมยอนจนถึงคอ
ยังรู้สึกสับสนไม่หาย
เขาเพิ่งมีอะไรกับนายเอกหนังจีวีมา
จะว่าตกใจก็ไม่ใช่ จะว่ารู้สึกดีก็ไม่เชิง
เรือนกายขาวเนียนที่เห็นอยู่ในจอโทรทัศน์จะนุ่มลื่นมือขนาดไหนหากได้ลองสัมผัสจริงๆ
เสียงครางกระเส่าจะฟังชื่นใจแค่ไหนหากมันมาดังอยู่ข้างๆหู
แม้คริสจะได้ทดลองของจริง แต่ก็อดคิดไม่ได้ที่จะไปหาซื้อมาไว้ดูสักเรื่อง
บุหรี่ถูกจุดขึ้นจนเกิดแสงสีแดงริบหรี่ลุกวาบมอดไหม้ที่ปลายมวน ไฟแช็กในมือถูกสะบัดปิดฝาลง คริสโยนมันไถลงกับพื้นโดยไม่ใส่ใจนัก ก่อนจะสูดอัดเอาสารพิษเข้าไปจนเต็มปอด
ควันขาวหม่นลอยประปรายอยู่รอบๆกาย เหมือนกับอารมณ์ของเขาที่กำลังหลุดลอย
“แค่ก.. แค่ก”
เสียงไอแห้งๆเรียกความสนใจของร่างสูงไปได้ไม่น้อย คริสก้มมองเรือนร่างที่นอนอดอู้อยู่ข้างกาย จุนมยอนกำลังไอจนตัวโยนทั้งๆที่ยังไม่ทันได้ลืมตา
“เป็นอะไร”
“เหม็น.. แค่ก”
“เอาผ้าห่มปิดจมูกซะสิ”
จุนมยอนลืมตาขึ้นมาถลึงตาใส่ คริสจับคางอีกฝ่ายให้เชิดขึ้นสูงกว่าเดิมก่อนจะพ่นควันบุหรี่ร้อนระอุใส่ใบหน้าหวานอย่างหยาบคาย คนโดนกระทำได้แต่เบี่ยงหน้าหนีเท่าที่จะทำได้ ดวงตาพร่ามัวมองเห็นเพียงแต่ควันที่ถูกพ่นออกมาจากระบบหายใจของคนไร้มารยาท
“ถอยออกไปห่างๆ”
“ทำไมไม่เห็นจะพูดเหมือนเมื่อคืน ไอ้เอาลึกๆเอาอีกๆน่ะ” ควันบุหรี่ถูกพ่นใส่หน้าจุนมยอนอีกคราวราวกับต้องการจะรมเขาให้ตายลงตรงนี้
“แค่กๆ”
จุนมยอนไม่สนใจ ร่างบางพยุงตัวเองให้ลุกขึ้น เขาไม่อยากทนรวมเตียงกับคนแบบคริสอีกต่อไป แต่ไม่ว่าจะพยายามยังไง กี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็ต้องล้มลงมานอนอยู่บนเตียงเพราะความเจ็บปวดที่สะโพกอยู่ดี
“จุนมยอน”
“อะไรอีก”
“ปกติเรียกค่าตัวเท่าไหร่”
ยอมรับเลยว่าคำถามของคริสและน้ำเสียงที่ใช้เอ่ยถามเขานั้นมันทำให้จุนมยอนรู้สึกหงุดหงิดอยู่ไม่น้อย ตวัดสายตามองเจ้าของประโยคด้วยความไม่พอใจ
“ถามทำไม”
“อย่ามองแบบนั้นสิเด็กน้อย”
“24ปีแล้ว”
“ฉัน32 จะเรียกแค่ไหนก็ว่ามา ฉันรวยพอที่จะจ่ายค่าตัวดาวค้างฟ้าแบบนาย”
“พอดีบ้านผมก็รวยเหมือนกันว่ะ”
ร่างสูงหันไปทางอื่น บุหรี่ถูกดับลงกับที่เขี่ยบุหรี่ข้างเตียง พยายามทำตัวไม่ใส่ใจกับคำพูดของคนอวดเก่ง หยุดความคิดที่จะต่อปากต่อคำกับจุนมยอน ขืนทำไปก็ปวดหัวเปล่าๆ คริสหลับตาลงช้าๆ สะกดความอยากเอาชนะของตัวเองไว้
“งั้นจะไปไหนก็ไปสิ”
“..”
จุนมยอนรู้สึกหงุดหงิดมากกว่าเดิม เมื่อสมองดันนึกถึงเรื่องราวเมื่อคืนที่ทำเอาใบหน้าร้อนผ่าว แล้วก็ต้องอายจนอยากแทรกแผ่นดินหนีเพราะคำพูดที่ไม่สนใจใยดีตัวเองหลุดออกมาจากปากร่างสูง คนตัวเล็กกัดริมฝีปากตัวเองแน่น ก่อนจะลุกผลุงออกจากเตียงทันที
แต่ยังไม่ทันจะลุกพ้นเตียง ข้อมือเล็กก็ถูกคว้าไว้ด้วยแรงของคนที่นอนอยู่
“จะไปจริงๆเหรอ?”คริสถาม ก่อนจะลืมตาขึ้นแต่ยังคงจับมือของจุนมยอนไว้แน่น
“เออ ปล่อยนะ!”
จุนมยอนหวีดเสียงคล้ายกับคนกำลังโมโห ตาของเขาแดงเหมือนคนกำลังจะร้องไห้ คริสไม่พูดอะไร เขาทำเพียงแค่ขยับตัวเลื่อนมาอยู่ด้านเดียวกับร่างบาง คนตัวสูงลุกขึ้นจากเตียงก่อนจะพยุงตัวจุนมยอนเดินไปที่ห้องน้ำอย่างทุลักทุเล
เพราะคนโดนช่วยเหลือไม่ให้ความร่วมมือสักเท่าไหร่..
“อาบน้ำดีๆล่ะ”คริสผละตัวออกจากร่างบางช้าๆเมื่อถึงอ่างอาบน้ำ
“แล้วจะไม่อาบเหรอ?”
“เดี๋ยวจะขับรถไปส่ง”
เจ้าของบ้านส่ายหน้าก่อนจะต่อประโยคของตนเองให้จบ คริสรู้สึกเหมือนโนสายตาของคนตัวเล็กไล่ให้ออกไปจากห้องน้ำ จึงหันหลังกลับไปนอนรอที่เตียงเหมือนเดิม
การขับรถในวันที่ทั้งหนาวทั้งฝนตกแบบนี้มันไม่ใช่เรื่องดีนัก แต่คนตัวสูงยังดั้นด้นจะมาส่งจึนมยอนให้ได้ และการเปิดเพลงแบบเอาแต่ใจของคริสทำให้จุนมยอนเบื่อหน่าย อากาศเย็นๆก็ควรจะเปิดเพลงโรแมนติกสักหน่อยสิ!!
นอกจากการเลือกแบรนด์เสื้อผ้าและยี่ห้อรถยนต์แล้ว
รสนิยมของคริสอู๋ก็ดูแย่ไปหมดในสายตาของจุนมยอน
“ใกล้ถึงบ้านนายรึยัง” คริสละริมฝีปากแห้งกร้านออกจากม้วนบุหรี่ม้วนที่สิบของวัน
“เลี้ยวข้างหน้า”
จุนมยอนบอกทางไปเรื่อยๆโดยไม่มองหน้าคนขับ ไม่นานนักรถยนต์คันหรูก็แล่นฝ่าสายฝนเข้ามาจอดถึงลานคอนกรีตหน้าคฤหาสน์ที่ดูโอ่อ่าสมฐานะอย่างที่จุนมยอนคุยไว้ มองภายนอกเป็นอาคารก่ออิฐแบบโบราณ แต่มีการตกแต่งให้ดูดีตามสถาปัตยกรรมปัจจุบัน
มีน้ำพุสไตล์ยุโรปตั้งอยู่หน้าคฤหาสน์ พื้นที่สวนโดยส่วนมากเป็นสนามหญ้า จัดแต่งเรียบง่าย ตรงกันข้ามอีกด้านนึงเป็นโรงจอดรถ ซึ่งดูคลับคล้ายคลับคากับโชว์รูมรถซะมากกว่า เพราะเหมือนจะมีรถสปอร์ตครูเกือบสิบคัน
คริสรู้สึกว่ารถปอร์เช่ คาร์เรร่า จีทีสีบรอนซ์เงินของตัวเองดูด้อยไปถนัดตา
ผู้ดีเก่า.. ?
“คริส เปิดประตูสิ”
“..”
“คริส!!”
คริสหันไปมองคนเรียกที่นั่งทำหน้ามุ่ยอยู่ข้างๆ ก่อนจะปลดล็อคประตูให้อีกคนที่แสดงท่าทีอยากไปจากตรงนี้เต็มแก่ จุนมยอนพ่นลมหายใจออกน้อยๆแล้วก้าวขาลงจากรถ
มือเล็กๆเกาะอยู่ที่ปลายประตูรถ ก่อนจะหมุนตัวกลับมามองคนขับ
“..ไว้เจอกันใหม่”
สิ้นเสียงของจุนมยอน คนตัวเล็กก็เปิดประตูโครมใหญ่ โดยไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะโวยวายหรือตอบอะไรมา ทว่าแผ่นหลังบางห่างออกไปได้ไม่ไกลนัก กระจกรถที่ถูกเลื่อนลงพร้อมกับเสียงทุ้มที่ตะโกนเรียกทำให้เขาต้องเอี้ยวตัวกลับมาอย่างช่วยไม่ได้ก่อน คริสเพียงแค่ยักคิ้วใส่จุนมยอน
รถสปอร์ตหักขับกลับเข้าไปในสายฝนอีกครั้ง
กลิ่นกายหอมหวานอวบอวลอยู่รอบตัว แม้จะพยายามไม่สนใจยังไงมันก็คงยังติดอยู่ที่ปลายจมูกร่างสูงอยู่ดี ตอนนี้บนท้องถนนใหญ่โตไม่ได้เงียบสงัด แต่คริสกลับใช้เวลาที่ติดไฟแดงนึกถึงเรื่องของกลิ่นของจุนมยอน
มันไม่ได้หอมหวานเหมือนน้ำหอมที่สุภาพสตรีใช้ เหมือนกับเป็นกลิ่นที่ติดตัวมาอยู่แล้ว ติดของจุนมยอนจะน่าหลงใหลมากขึ้นยิ่งในเวลาที่เจ้าตัวมีความสุข หรือมีเซ็กส์กับใครต่อใคร เป็นกลิ่นที่เขาไม่อยากให้มันจางหายไปจากเตียงหรือรถคันนี้เลย
คริสอู๋รู้สึกว่าตัวเองหลงใหลในกลิ่นของจุนมยอน
ถ้าเจอกันครั้งหน้า
มันจะตลกรึเปล่า ถ้าจะถามว่าเขาใช้น้ำหอมยี่ห้ออะไร
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านครับคุณหนู"
หนุ่มวัยกลางคนอยู่ในชุดสูเรียบร้อยท่าทางภูมิฐานโค้งให้จุนมยอน พร้อมบอริการ์ดที่ทำท่าทางจะเข้าไปช่วยถือสัมภาระที่คุณหนูของเขาถือมา แต่จะต้องกลับไปยืนขนาบข้างพ่อบ้านแทนเพราะจุนมยอนไม่ได้หอบอะไรมาด้วยเลย
“พ่อกับแม่อยู่มั้ยครับ”
“ไม่ครับ นายท่านทั้งสองไปดูงานที่ต่างประเทศ ไม่ทราบกำหนดการกลับครับ”
“..”
“คุณแบคฮยอนนั่งรออยู่ที่ห้องโถงครับ”
“ขอบคุณครับ ลุงไปทำงานอื่นเถอะ” จุนมยอนถอดเสื้อโอเวอร์โค้ทตัวนอกออกก่อนจะยื่นมันให้กับพ่อบ้านประจำตระกูล
“จุนมาร์”
เสียงคุ้นเคยกว่าเสียงไหนๆดังขึ้น คุณหนูผู้มาใหม่หันไปมองต้นเสียง รอยยิ้มกว้างผุดขึ้นมาบนใบหน้าหวานทันที นอกจากการถ่ายทำเรื่องอย่างว่าแล้ว การคุยกับแบคฮยอนถือเป็นเรื่องสนุกอีกอย่างของจุนมยอน
“มาทำไมเนี่ย”
“มีเรื่องจะฟ้องนะสิ”
แบคฮยอนยอมลงทุนเดินมาลากจุนมยอนออกไปที่ห้องนั่งเล่นกลางบ้าน ดวงตาสวยเหม่อมองสภาพอากาศหนาวเย็นด้านนอก ตั้งแต่เช้ามืดจนถึงตอนนี้มีหิมะตก ในสวนย่อมมีหิมะปกคลุมเต็มไปหมด บ่อปลาคราฟดูไร้ความหมายไปเลยเมื่อมันไม่มีปลา
ก่อนที่จะได้คิดอะไรไปมากกว่านี้ แบคฮยอนผลักจุนมยอนลงไปนั่งกับโซฟา ก่อนที่ตัวเองจะทิ้งตัวลงนอนบนโซฟาด้านตรงข้ามแบบสบายใจ
“พี่รู้เปล่ามันเกิดอะไรขึ้น”
“จะไปรู้ด้วยมั้ยละ”
หมอนอิงที่ควรจะถูกจัดวางอยู่บนโซฟาถูกโยนลงมาบนหน้าแบคฮยอนอย่างแม่นยำ ยังคิดโกรธแค้นไม่หายที่อีกฝ่ายวานให้ช่วยเมื่อวันก่อน
“เห็นมั้ย มันเป็นเพราะพี่เงียบหายจากพี่ไปตั้งสองวัน”
“อะไรสองวัน?”
“พี่เงียบไปสองวัน นี่โหมถ่ายหนังกันรึไง”
“..อ่อ”จุนมยอนทำหน้าเอออ่อกับอีกคนไปแบบนั้น
พอจะตีความได้ว่าเขาหายไปสองวัน
นี่เขานอนอยู่บนเตียงคริสข้ามวันเลยเหรอเนี่ย
อีกฝ่ายคิดจะบอกกันบ้างมั้ย??
“พี่รู้มั้ย ผมโดนเบี้ยวค่าตัวด้วย” แบคฮยอนกอดหมอนไว้พร้อมกับทำสายตาออดว้อน จุนมยอนเบะปากให้กับความน่าหมั่นไส้ของแบคฮยอนก่อนจะเอ่ยถามออกมาว่าใคร
“ปาร์ค ชานยอล”
“ไปเอาคืนสิ เรียกสองเท่าเลย”
“พี่คิดว่าผมจะปล่อยไปเฉยๆรึไง”
“อ่าว ที่แจ้นมาหานี่ไม่ได้จะให้ช่วยเหรอ”
“จะให้น้องให้นุ่งมาหาเลยไม่ได้ใช่มั้ย” แบคฮยอนส่งสายตาหงอยๆมาให้ มือบางจึงคว้าหมอนอิงโยนไปเข้าหน้าขาวใสนั่นอีกที
.
.
.
"แบคฮยอน!!"
.
.
.
.
“...กวนตีน”
...แบคฮยอนถึงกับเปลี่ยนกลับไปสีหน้าเจียมๆแทบไม่ทัน
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
เม้นต์ให้เค้าหน่อยตัวเอง5555555555555555
เราอยากมีแท็กฟิค เลือก #ficSarsuay มา แต่เพื่อนไม่เห็นด้วย
....เรื่องแท็กฟิคเลยแห้วตามระเบียบ
.
ความคิดเห็น