ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ชำระหนี้ซาตาน

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 3

    • อัปเดตล่าสุด 18 พ.ย. 53




            

    ตอนที่  3

     

    ก่อนที่จะเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ ทั้งเธอและเขาได้ทำสัญญาเพื่อเป็นหลักฐาน ในสัญญาระบุไว้ว่าเมื่อครบกำหนด 1 ปี หญิงสาวจะได้รับอิสระและเขายังจะจ่ายค่าเสียเวลาให้ด้วยเงินก้อนหนึ่ง ซึ่งมันสามารถที่จะทำให้เธอตั้งหลักได้

    และเมื่อเธอได้เข้ามาอยู่ยังคฤหาสน์หลังใหญ่ในวันแรกเธอรู้สึกชอบสวนดอกไม้ของบ้าน เช้านี้เธอลุกขึ้นเดินมายังระเบียงบ้าน ภายในรอบบริเวณบ้าน มีพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับหลากหลาย มีทั้งโมกดอกซ้อน แก้วเจ้าจอม  เทียนหยดสีขาว  กล้วยไม้ดิน ดอกกุหลาบ แต่ที่แน่ๆ เจ้าของบ้านคงจะชอบดอกกุหลาบน่าดู สังเกตได้จากบริเวณรอบบ้านมีทั้ง พันธุ์ดอกสีแดง เป็น พันธุ์บราโว   พันธุ์ดอกสีเหลือง ก็จะมีพวก พันธุ์คิงส์แรนซัม ซันคิงส์  พันธุ์ดอกสีส้ม เป็น พันธุ์ซันดาวน์เนอร์  แซนดรา พันธุ์ดอกสีชมพู พันธุ์มิสออลอเมริกาบิวตี้ หรือมาเรีย ซูซานแฮมเชียร์  และที่ขาดไม่ได้พันธุ์ดอกสีขาว ที่ดูจะมากกว่าพันธุ์อื่น คือ พันธุ์ไวท์คริสต์มาส เอทีนา ที่ออกดอกบานสะพรั่ง ต้นเอนไหวไปตามแรงลม ถิรดาชักจะเริ่มชอบบรรยากาศของบ้านหลังนี้ซะแล้ว เพราะมันเป็นบ้านที่เธอใฝ่ฝัน ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใหญ่ขนาดนี้ก็ตาม ถิรดากำลังเพลิดเพลินในการชมหมู่มวลแมกไม้ ในระหว่างที่เธอกำลังชื่นชมกับความสวยงามของดอกไม้อยู่นั้น 
    ก็พลันได้ยินเสียงเหมือนมีคนเปิดประตูเข้ามา เธอจึงหันไปมอง กลับพบว่าเป็นหญิงสาววัยรุ่น คาดเดาน่าจะอ่อนกว่าเธอหลายปีสังเกตได้จากหน้าตาของเจ้าหล่อน

                   เออ...คุณผู้หญิงตื่นแล้วเหรอค่ะ...หนูชื่อสร้อยค่ะ คุณผู้ชายบอกว่าถ้าคุณตื่นแล้วให้ไปพบท่านที่เรือนดอกไม้ด้วยค่ะ           

    อืม... ถิรดาหันมาพยักหน้า

                   คุณผู้หญิงมีอะไรให้สร้อยช่วยมั้ยค่ะ...ส่วนเสื้อผ้าของคุณอยู่ในตู้ค่ะ สร้อยพึ่งมาจัดไว้ให้เมื่อเช้านี้เด็กสร้อยพูดขึ้นแล้วเริ่มสำรวจหญิงสาวตรงหน้า 

                   ขอบใจมากจ๊ะ...เรียกฉันว่ารดาเฉยๆ ก็พอ หญิงสาวพูดขึ้น เพราะเธอคิดว่าตัวเธอเองคงไม่มีค่าพอที่จะให้ใครเขาเรียกเธอแบบนั้นได้ เธอทราบดีว่าเธออยู่ในฐานะอะไร และควรที่จะวางตัวเช่นไร เมื่อต้องอยู่ที่นี่

                   ว่าแต่สร้อยมาอยู่ที่นี่นานหรือยังจ๊ะเธอหันมาถามสาวใช้ที่ดูเอาการเอางานอย่างสร้อย

    อยู่มานานแล้วค่ะ สร้อยเป็นหลานของป้าจันทร์ ซึ่งเป็นแม่บ้านอยู่ที่นี่ค่ะ

                   แล้วที่ตรงนี้มันตั้งอยู่ที่ไหนของกรุงเทพฯหรือจ๊ะสร้อย ที่เธอถามเพราะเธอจะได้ทราบเอาไว้ เผื่อวันดีคืนดีเขาเกิดเปลี่ยนใจไล่ตะเพิดเธอออกจากบ้าน เธอจะได้หาทางกลับบ้านถูก

    เจ้านายไม่ได้บอกคุณเหรอค่ะแทนที่เจ้าหล่อนจะตอบคำถาม กลับถามหญิงสาวกลับซะงั้น

                   เปล่า เธอพูดพร้อมกับการส่ายหัวประกอบ

                   นายมีคำสั่งว่าห้ามพวกหนูบอก...ถ้าอยากรู้ให้ไปถามนายเอง สร้อยก็คันปากอยากจะบอกหญิงสาวเหมือนกันมันติดตรงที่ โดนป้าจันทร์คาดโทษเอาไว้ ไม่รู้ทำไมป้าจันทร์ถึงได้กำชับสั่งห้ามไม่ให้เธอบอก ในเมื่อมันก็ไม่ได้เป็นความลับอะไรสักกะหน่อย

                   คุณรดาไม่มีอะไรให้สร้อยช่วยจริงๆ นะค่ะ

                   ฮือ...ไม่มี

                   ถ้าไม่มีสร้อยขอตัวลงไปช่วยงานป้าจันทร์ด้านล่างก่อนนะค่ะ หลังจากนั้นสร้อยสาวใช้ก็สาวเท้าเดินออกไปจากห้องทันที ปล่อยให้หญิงสาวได้จัดการธุระของตนเองให้เสร็จ

                   ส่วนในห้องครัวตอนนี้ ป้าจันทร์กำลังง่วนอยู่กับการจัดเตรียมอาหารให้เจ้านายหนุ่ม ซึ่งนานทีปีหนถึงจะแวะมาที่บ้านหลังนี้ เพราะน้อยนักที่คนอย่างเขาจะปลีกตัวมาได้ แต่คราวนี้ยิ่งต้องสงสัยหนักขึ้นไปอีก  เพราะคนอย่างศิลาดลไม่เคยคบใครจริง ผู้หญิงที่เข้ามาก็ได้แต่เข้ามาแล้วก็ผ่านเลยไป แต่ก็ไม่เห็นมีใครจะอยู่ยืนยงคงกะพันได้เหยียบย่างเข้ามายังบ้านหลังนี้สักราย ก็มีแต่แม่สาวน้อยคนนั้น คงจะมีอะไรพิเศษแน่นอนถึงทำให้เจ้านายหนุ่มถึงกับต้องพาเข้าบ้านแบบนี้

                   แล้วนี่นางสร้อยมันขึ้นไปทำอะไรของมันถึงได้นานจังว่ะ ป้าจันทร์นางได้แต่ยืนบ่นคนเดียว จนกระทั่งคนที่นางบ่นถึงก็กำลังเดินเข้ามาพอดี

     ป้าจันทร์...ป้ามีอะไรให้ฉันช่วยมั้ย

                   มี...ข้ามีงานที่จะให้เอ็งทำเยอะแยะเลย...แล้วนี่...ข้าให้เอ็งขึ้นไปดูคุณเขา ทำไมเอ็งขึ้นไปนานนักว่ะฮึ

                   นานที่ไหนกันป้า...ถึงฉันจะโง่แต่ฉันก้รู้เวลา

                   ไม่ต้องมาเถียง...รีบมาช่วยข้าเตรียมกับข้าวให้นายท่านเร็วๆ

                   ทราบแล้วค๊า...

                   และจากนั้นไม่นานอาหารก็ถูกจัดวางบนโต๊ะอย่างเรียบร้อย และตอนนี้ก็ดูเหมือนว่าเจ้าของบ้านได้ย้ายตัวเองเข้ามานั่งยังห้องรับประทานอาหารเรียบร้อยแล้ว และเขาก็กำลังนั่งรออะไรบางอย่าง และนั่นถ้าเดาไม่ผิดก็คงต้องรอหญิงสาวที่ยังไม่ลงมาแน่นอน และเสียงแข็งกร้าวก็ดังขึ้น

     ใครก็ได้ขึ้นไปเชิญคุณรดาและบอกเธอว่าได้เวลาทานอาหารแล้ว

     ค่ะ ป้าจันทร์นางขานรับแล้วหันมาพยักเพยิดหน้าให้สร้อยขึ้นไปตาม สร้อยรีบขึ้นไปทันที และก่อนทีเธอจะทันขึ้นไป ถิรดาก็กำลังลงมาพอดี

     สร้อยมีอะไรหรือเปล่า ถิรดาถามขึ้น เพราะเธอเห็นสีหน้าของสร้อยไม่ค่อยจะสู้ดี

     นายให้มาตามค่ะ

                   ฮืม...ขอบใจมาก แล้วถิรดาก็เดินตามหลังสร้อยเข้ามายังห้องรับประทานอาหาร ซึ่งมีชายหนุ่มนั่งรออยู่ก่อนแล้ว เธอมองเห็นเพียงแผ่นหลังที่ดูสง่า ไหล่ผึ่ง ศีรษะที่ปกคลุมด้วยผมสีดำคลับ นั่งเป็นสง่า ถ้าดูจากด้านหลังมันก็โอเคอยู่หรอก แต่ถ้าให้ดูจากด้านหน้าเธอไม่อยากจะมอง เพราะเขาคนเดียวที่ต้องทำให้เธออยู่ในสภาพเช่นนี้ เมื่อถิรดาเดินเข้ามาถึง ชายหนุ่มที่ทนนั่งรอถึงกับปรายตามอง ด้วยสายตาดุๆ เพราะว่าคนอย่างเขาไม่เคยที่จะต้องมานั่งรอใครแบบนี้ 

                   ทุกคนออกไปได้...ทางนี้มีคนจัดการแล้ว เจ้านายหนุ่มพูดขึ้น กอรปกับน้ำเสียงที่ดูดุกร้าวจึงทำให้ทุกคนถึงกับแยกย้ายกันออกไป ภายในห้องยังคงมีเพียงเขากับเธอเท่านั้น ท่ามกลางบรรยากาศดูจะไม่เป็นใจสักเท่าไหร่ เพราะจากสีหน้าท่าทางของเขาคงจะไม่พอใจเธอเป็นอย่างมาก

     ตักข้าวได้...ฉันหิวแล้วเสียงเข้มพูดขึ้น ถิรดาปรายตามองเขาแว็บหนึ่งแล้วเธอก็เดินอ้อมไปตักข้าวจากในโถ่มาใส่จานที่วางไว้ตรงหน้าของเขา โดยที่ตัวเธอเองก็ไม่มีทีท่าว่าจะตักใส่จานตัวเองสักนิด และยิ่งไปกว่านั้นเธอก็ไม่ได้อยากนั่งร่วมโต๊ะกับเขาด้วย แต่เธอกลับยืนเพื่อที่จะรอดูว่าเขาจะสั่งให้เธอทำอะไรอีก

                   แล้วเธอจะยืนแบบนั้นอีกนานมั้ย...ฉันหิวข้าวมิวายที่เขาจะหันมาทำเสียงดุใส่เธอ

                   ไม่เป็นไรค่ะ....ฉันไปทานในครัวก็ได้

                   ใครสั่ง เสียงเข้มเค้นเสียงถามหญิงสาว ที่บัดนี้ใจเริ่มสั่นขึ้นมาแบบกระทันหัน

                   ฉันถาม...ไม่ได้ยินที่ฉันถามหรือไง เสียงดุกร้าวถามขึ้นอีกครั้งเพราะเขาถามครั้งแรก เธอก็ไม่ยอมตอบ

                   ฉันสั่งตัวฉันเอง ถิรดาพูดขึ้น เธอหารู้ไม่ว่าคำตอบของเธอมันเป็นผลร้ายต่อตัวเธอมากที่สุด ศิลาดลถึงกับทะลึ่งพรวดเข้ามากระชากตัวเธอเข้ามาปะทะกับอกกว้างอย่างแรง

                   เธอไม่มีสิทธิ์สั่งตัวเธอเอง คนที่มีสิทธิ์คือฉันคนเดียว ส่วนเธอมีหน้าที่รับคำสั่งเท่านั้นแล้วก็ทำตามเขาพูดตะคอกใส่หน้าเธอ พร้อมกับลงน้ำหนักมือของเขาไปยังแขนเรียวของเธอ ถิรดาเจ็บแต่เธอก็ไม่ยอมเอ่ยร้องขอจากเขา คนอย่างเขาไม่เคยปราณีใครและไม่เคยมีน้ำใจกับใคร

                   ฉันจะต้องอยู่แบบนี้อีกนานเท่าไหร่ ฉันถึงจะได้ใช้หนี้คุณหมดและฉันถึงจะมีสิทธิ์เป็นตัวของตัวเอง เธอถามกลับพร้อมประสานสายตากับดวงตาดุกร้าวของเขาที่ตอนนี้มันกำลังจะลุกเป็นไฟได้แล้ว

                   แล้วเธอต้องการโปรโมชั่นแบบไหนฉันมีให้เธอเลือก

                   คุณมีอะไรให้ฉันเลือก

                   แน่ใจนะว่าจะทำได้ เพราะฉันดูลักษณะของเธอแล้วไม่น่าที่จะทำได้

                   วิธีไหนก็ได้ที่มันจะทำให้ฉันหลุดออกไปจากที่นี่ 

                   ศิลาดลก้มหน้าลงมาพูดกระซิบใกล้ๆ ข้างหูหญิงสาวพร้อมกับขบเม้มเบาๆ มันยิ่งทำให้เธอถึงกับขนลุกซู  เพราะไม่คิดว่าเขาจะทำแบบนี้กับเธอ

                   สามเวลาหลังอาหารทุกวัน เมื่อจบคำพูดของเขา หญิงสาวถึงกับตัวชาอยู่กับที่ ใบหน้าเริ่มแดง ที่แดงเป็นเพราะความโกรธ โมโหอยากหาอะไรมาตั้นหน้าหล่อนี้นัก

                   ถ้าเธอปรนนิบัติฉันดี ฉันก็มีทิปให้เธอต่างหาก เธอไม่ต้องกังวลว่าเมื่ออยู่กับฉันแล้วเธอจะไม่มีรายได้อะไร เห็นมั้ยอยู่กับฉันมีแต่ได้กับได้

                   ใครว่ามีแต่เสียกับเสียสิ ฉันไม่เคยได้อะไรเลย ถิรดารีบแย้งกลับทันที

                   ใครว่าเธอไม่ได้อย่างน้อยก็ความสุขจากฉันที่มอบให้เธอต่างหากล่ะ ว่าแล้วเขาก็เดินกลับมานั่งที่เดิม แต่ก็ไม่วายปรายตามามองหญิงสาวที่ยังยืนอยู่ และถิรดาก็เหมือนทำเป็นไม่สนใจเขา มันทำให้ชายหนุ่มเกิดเปลี่ยนใจที่จะไม่ทานข้าวแบบกระทันหัน เขาฉีกยิ้มที่มุมปากงาม แล้วลุกขึ้นจัดการดึงลากร่างหญิงสาวให้เดินตามตนเองขึ้นไปยังห้องชั้นบนทันที ถิรดาพยายามขื่นตัวเองไว้ให้ได้มากที่สุด แต่ก็ไม่สามารถที่จะต้านทานแรงที่เขามีไว้ได้ มือเรียวใหญ่รวบมือของเธอทั้งสองไว้ในอุ้งมือเดียว ส่วนอีกมือจัดการตวัดรัดร่างบางแบกขึ้นไปยังชั้นบนของห้อง เจ้าหล่อนได้แต่ทั้งเตะและถีบไปกลางอากาศส่วนปากน้อยๆ ของเธอก็พร่ำด่าทอเขามาตลอดทาง

                   คนเลว...ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ...คุณจะทำอะไรฉัน และทันทีเมื่อเขาเดินเข้ามายังภายในห้องคนเลวอย่างที่เธอว่า ก็ผลักเธอกระเด็นลงกลางพื้นห้องทันที เสียงดัง...ตุ๊บ...เธอถึงกับเห็นดาวเห็นเดือนลอยอยู่กลางอากาศ สะโพกของเธอมันจะหักร้าวหรือเปล่าก็ไม่รู้ คนบ้า...โยนมาได้ไง! 

                   นี่คือโทษของคนที่ต้องทำให้ฉันนั่งรอ เสียงกร้าวพูดขึ้น หลังจากที่ต้องนั่งข่มอารมณ์อยู่เป็นนานกับการต้องรอหญิงสาว แต่ก็ไม่เห็นวี่แววว่าเจ้าหล่อนจะทำตามคำสั่งของเขาเลยสักนิดเดียว ขื่นปล่อยไว้ไม่ทำอะไรเลยหล่อนก็จะได้ใจ

                   นี่คุณฉันเจ็บนะเธอตวาดตอบกลับไป

                   มันเรื่องของเธอ...ฉันไม่ได้เจ็บกับเธอ แล้วก็กรุณาลุกขึ้นมา อย่ามาสำออย เธอมันด้านมาหมดแล้วแค่นี้ไม่ถึงตายหรอก และช่วงเวลานี้ฉันจะเพิ่มเงินให้เธอเป็นพิเศษ อ้อ...อีกอย่างฉันไม่ชอบรอใครนานๆคำพูดที่เขาพยายามทิ่มแทงจิตใจเธอได้พรั่งพรูออกมาจากปากของเขา

                   คุณดลฉันขอร้องเถอะ...ให้ฉันทำงานอย่างอื่นก็ได้ที่มันไม่ใช่แบบนี้ เธอพูดแกมขอร้องกับเขา

    ทำงานอย่างอื่นเหรอได้ ถ้างั้นไปเตรียมน้ำให้ฉันอาบ และดูแลเตรียมชุดให้ฉันด้วย เดี๋ยวบ่ายนี้ฉันจะต้องไปให้สัมภาษณ์กับนักข่าว

    ถิรดาเมื่อเขาพูดจบเธอถึงกับถอนใจอย่างโล่งอก แค่เตรียมน้ำให้เขาอาบ และจัดเตรียมเสื้อผ้าแค่นี้มันจิบๆ สำหรับเธอ  แต่เธอหารู้ไม่ว่าคนเจ้าเล่ห์อย่างเขามีหรือจะให้เธอได้ทำงานสบายๆ นั่นมันไม่ใช่ศิลาดล  ถิรดารีบเดินเข้าไปจัดการผสมน้ำในอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ให้เขาอย่างรวดเร็ว ไม่นานเธอก็ออกมา

     ฉันเตรียมน้ำอุ่นให้คุณเรียบร้อยแล้วจากนั้นเธอก็เดินไปเปิดดูตู้เสื้อผ้าแล้วจัดการหยิบชุดสูทสีเทาออกมาวางเตรียมไว้ให้เรียบร้อย อ้อมแขนแข็งแรงโอบกอดเธอจากเบื้องหลัง ถิรดาเริ่มไม่แน่ใจว่าคนอย่างเขาคิดจะมาไม้ไหนกับเธออีก

    ฉันอยากอาบน้ำกับเธอ เธอจะต้องอาบกับฉันว่าแล้วเขาก็จัดการลากเธอเข้าไปยังห้องอาบน้ำทันที ร่างบางดิ้นรนตีขาพับๆ อยู่เหนือกลางอากาศหวังจะให้เขาปล่อยเธอ ร่างสูงเดินเข้ามาในห้องน้ำ ในขณะที่หญิงสาวกำลังดิ้นรนเอาตัวรอด

     

    ไม่นะ...ฉันอาบแล้ว ถิรดาพูดตะกุกตะกักขึ้นมาอย่างรวดเร็ว หวังว่าเขาจะปล่อย แต่คิดผิด มันยิ่งกระตุ้นอารมณ์ดิบของเขามากขึ้น ศิลาดลก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า เมื่ออยู่ใกล้เธอทีไรเขายับยั้งชั่งใจตนเองเอาไว้ไม่ได้สักที ใช่ว่าเธอจะร้อนแรง แถมไม่ประสาอีกต่างหาก มือของเขาถ้าเปรียบแล้วก็เหมือนหนวดปลาหมึก ยุ่มย่าม ลูบไล้ไปหมดทุกสัดส่วน  ยิ่งมาอยู่ในพื้นที่แคบๆ อย่างอ่างอาบน้ำด้วยแล้ว เขามีแต่จะได้เปรียบ ริมฝีปากหยักได้รูปของเขารีบฉกเข้ามายังริมฝีปากหวานของเธออย่างรวดเร็ว ลิ้นเรียวของเขาเริ่มกระหวัดเข้าหาความหวานภายในอุ้งปากหวาน ส่วนมือนั้นไม่ต้องพูดถึงเพราะมันทำหน้าที่ประสานกันเป็นอย่างดี  เสื้อผ้าของเธอเปียกและแนบลู่ไปกับร่างงาม มือเรียวใหญ่รีบจัดการถอดเครื่องแต่งกายออกจากตัวหญิงสาวอย่างรวดเร็ว และไม่วายที่จะจัดการกับตนเอง ไม่นานร่างเปลือยเปล่าทั้งสองก็สัมผัสกันได้อย่างถนัดถนี่ ไม่มีช่องว่างตรงไหนที่เขาจะไม่สัมผัสตัวเธอ  ทรวงอกทั้งสองกำลังโดนมือใหญ่บีบขย้ำสลับกันไปมา หล่อนปัดมือเขาออก และพยายามกระถดกายถอยหนีให้ห่างจากตัวเขาแต่ก็ไปไหนได้ไม่ไกล ส่วนปากก็ทำหน้าที่สำรวจตั้งแต่ลำคอเรียวระหงไล้ลงเรื่อยๆ จนกระทั่งมาหยุดอยู่ที่ทรวงอกอวบสวยของเธอ

    ศิลาดลใช้ความชำนาญที่เหนือกว่าชักจูงเธอไปสู่จุดหมายปลายทางครั้งแล้วครั้งเล่า สุขสมไปด้วยกัน ถ้าไม่ติดตรงที่จะต้องไปสัมภาสณ์กับสื่ออย่าหวังว่าแม่กระต่ายน้อยจะได้พัก แต่พักผ่อนก็ดีแม่กระต่ายน้อยจะได้มีแรงมารับมือกับเขาต่อ............

     

    *************************************

         

                 รถสปอรต์เมอรซิเดสเบนซ์ คันหรูคู่ใจพุ่งทะยานเข้ามาจอดยังลานจอดรถบริเวณด้านหน้าอาคารสถานีโทรทัศน์ ยักษ์ใหญ่ ซึ่งวันนี้เขามีนัดสัมภาษณ์จากสำนักงานข่าวจากต่างประเทศ เพราะชายหนุ่มขึ้นชื่อว่าเป็นผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน อีกทั้งสไตล์การทำงานที่หลายคนต้องการรู้จักตัวตนที่แท้จริงของเขา  ศิลาดล ชายหนุ่มที่ผู้หญิงค่อนประเทศต้องการชิดใกล้ หนุ่มหล่อ รวย สมาร์ท และเป็นทายาทคนเดียวของหัทยาภักดิ์ เขาไหลลื่นได้ทุกเรื่องโดยเฉพาะเรื่องสาวๆ เขามักจะหาทางออกได้ดีเสมอ

                   และเมื่อมาถึงเขาก็ตรงไปยังห้องที่นัดสัมภาษณ์ทันที โดยได้มีนักข่าวจากต่างประเทศ มารออยู่ก่อนหน้านี้แล้ว การให้สัมภาษณ์ดำเนินการไปเรื่อยๆ จนกระทั่งท้ายสุดนักข่าวได้วกกลับมาถามเรื่องส่วนตัวกับเขาอีกครั้งว่า เขาจะครองตัวเป็นหนุ่มโสดอีกนานเท่าใด คำตอบที่ได้คือ รอยยิ้มที่เขาส่งยิ้มแบบเก๋ๆ ให้กับนักข่าว การสัมภาษณ์เสร็จสิ้นลง
    ศิลาดลก็กล่าวขอบคุณกับนักข่าว และหันมาบอกกับผู้จัดการให้เลี้ยงอาหารขอบคุณแขกด้วย ส่วนตัวเขานั้นไม่ต้องพูดถึง จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวนานแล้ว แต่จะให้กลับตอนนี้ก็เป็นไปไม่ได้ เพราะว่าจะต้องเข้าไปเซ็นต์เอกสารที่ธนาคารสาขาใหญ่ที่เขารับหน้าที่จากผู้เป็นบิดาอีกหน้าที่หนึ่ง

                   การทำงานที่ต้องมีความรับผิดชอบสูง ทำให้ชายหนุ่มต้องเป็นเจ้านายที่ทั้ง โหด ดุ เนียบ เจ้าระเบียบ ผสมผสานความใจดีไปในตัว พร้อมๆ กัน ยิ่งโดยเฉพาะเรื่องเอกสารและตัวเลข แล้ว เขาเปรียบเสมือนคอมพิวเตอร์ จำได้ทุกอย่าง และทุกเรื่อง ห้ามผิดพลาด เพราะนั่นหมายถึงว่าคุณมีโอกาสที่จะได้รับซองขาวเชิญให้ออกจากงานได้ง่ายๆ 

                   หลังจากที่เสร็จธุระแล้ว ด้วยความเร็วในการขับรถของอนุชา เขาก็ได้พาเจ้านายหนุ่มมาถึงยังสถานที่ทำงานอีกที่หนึ่งภายในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง แต่ว่ามันก็ปาเข้าไปเป็นเวลาเกือบบ่ายสามโมงกว่าแล้ว ศิลาดลรีบสาวเท้ามุ่งหน้าเดินตรงเข้าไปยังห้องทำงานท่านประธานใหญ่ทันที  เอกสารหลายกองที่ถูกวางตั้งไว้ทำให้ชายหนุ่มถึงกับถอนหายใจ  เมื่อเข้ามาอยู่ในห้องสิ่งแรกที่เขาทำคือ การโทรศัพท์ไปเช็คข่าวคราวของแม่กระต่ายน้อยของเขาเอง ว่าตอนนี้เจ้าหล่อนเป็นอย่างไรบ้าง และคำตอบที่ได้รับคือ เจ้าหล่อนกำลังช่วยป้าจันทร์ทำงานอยู่ในครัว ทำให้เขาถึงกับฉีกยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว และเมื่อได้รับคำตอบแล้วชายหนุ่มก็รีบวางสายโทรศัพท์ แล้วตนเองก็รีบลงมือตรวจงานที่อยู่ในแฟ้มต่อไปทันที  ส่วนสร้อยนั้นก็ได้แต่ งงกับเจ้านายหนุ่มว่าโทรมามีเรื่องอันใด

                   เจ้านายโทรมาถามแค่เนี๊ยะ...ไอ้เรานึกว่าเรื่องอะไร ที่แท้ก็เรื่องคุณรดานี่เอง สร้อยเดินพึมพำพูดคนเดียวแล้วเดินเข้าไปในห้องครัว จนทำให้ป้าจันทร์ถึงกับต้องหันมาถาม

                   นางสร้อย...แกเดินพึมพำอะไรของแกคนเดียว...แล้วเมื่อตะกี้ใครโทรมา

                   นาย โทรมาถามเรื่องคุณรดา สร้อยตอบโดยไม่ได้หันไปมองดูคนข้างๆเธอที่ตอนนี้วูบวาบไปหมดทั้งตัว ตั้งแต่รับรู้ว่าใครโทรมา

                   แล้วนายท่านจะกลับมาทานข้าวหรือเปล่า ป้าจันทร์หันมาถามสร้อย

                   ไม่เห็นนายพูดอะไรเลย...จู่ๆก็วางสายไปซะงั้น ฉันยังงงอยู่เลยนะป้า ร้อยวันพันปีนายไม่เคยเป็นอย่างนี้ ยิ่งเรื่องพาผู้หญิงเข้าบ้านนายไม่เคยพาใครเข้าบ้านแบบนี้เลยนะป้า...นี่ก็มีแต่คุณรดา นี่แหละคนแรกที่นายพาเข้าบ้าน เสียงสร้อยพูด ทำให้รดาถึงกับทำอะไรไม่ถูก ใช่ว่าเธอจะดีใจที่เป็นผู้หญิงคนแรกที่เขาพาเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ แต่เธอกลับรู้สึกว่าตนเองเปรียบเสมือนผู้หญิงมักง่าย ไร้ค่า ไม่มีศักดิ์ศรี และเหมือนสร้อยจะนึกอะไรขึ้นได้ เธอก็เลยต้องรีบพูดขอโทษหญิงสาว

                   คุณรดา...สร้อยไม่ได้ตั้งใจที่จะว่าคุณนะคะ สร้อยขอโทษ

                   ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ ถิรดาพูดขึ้น จากนั้นเธอก็หันมาให้ความสำคัญกับการล้างผักและผลไม้ต่อไป

                   คุณรดา...ไม่ต้องมาทำก็ได้...เดี๋ยวป้ากับสร้อยล้างเองค่ะ ป้าจันทร์ซึ่งเป็นแม่บ้านของที่นี่พูดขึ้น

                   ไม่เป็นไรค่ะ...รดาอยู่เฉยๆ ดีซะอีกมีงานให้ทำด้วยความที่เป็นคนอัธยาศัยดี จึงทำให้หญิงสาวเข้ากับทุกคนได้ง่าย

     

                   ภายนอกตัวอาคารต่างปกคลุมไปด้วยความมืดของราตรีกาลที่บัดนี้ ล่วงเลยเข้าสู่เวลา 4 ทุ่มกว่า แต่ดูเหมือนคนที่อยู่ในห้องขณะนี้ จะไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น ศีรษะทุยได้รูปที่ปกคลุมด้วยเส้นผมสีดำคลับ ตอนนี้กำลังก้มหน้าก้มตาทำงานที่อยู่ตรงหน้า ซึ่งบัดนี้จากเดิมทีแฟ้มวางตั้งเป็นชั้น แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเหลืออยู่แค่แฟ้มเดียวซึ่งเป็นแฟ้มที่เขากำลังดูอยู่ขณะนี้ เสียงเคาะประตูจากด้านนอกดังเข้ามาเป็นสัญญาณให้เจ้าของห้องรับรู้ว่ากำลังมีคนเข้ามา เสียงเปิดประตูและปิดตามหลัง แต่เสียงที่ว่าก็ไม่ได้ทำให้เจ้าของห้องเงยหน้าขึ้นมองสักนิด จนกระทั่งผู้มาเยือนในยามตรีกาลทนไม่ไหว จำเป็นที่จะต้องเอ๋ยทำลายความเงียบลงแทน

                   มึงไม่คิดจะสนใจบ้างเลยหรือว่ะว่าใครมา เสียงพริษฐ์ เพื่อนหนุ่มเอ๋ยขึ้น และก้าวเข้ามาลากเก้าอี้ที่อยู่ตรงหน้าโต๊ะท่านประธานใหญ่นั่ง ส่วนเพื่อนหนุ่มอีกคนก็กำลังเดินเข้ามาที่ไม่เดินเข้ามาพร้อมกันเพราะกำลังติดพันกับการคุยโทรศัพท์กับหยาหยีสุดเลิฟอยู่ เขาคนนั่นก็คือ ยุติวิชญ์ หนุ่มวิศวกรชื่อดัง หล่อ รวย

                   เฮ้ย...นี่มึงกะจะทำงานจนถึงเช้ารึไงกัน...ป๊ะๆไปเที่ยวกันเถอะ คนที่พึ่งก้าวมาถึงเอ๋ยชวนขึ้นทันที

                   พวกมึงมาได้ไง...แล้วทำไมถึงรู้ว่ากูอยู่ที่นี่ศิลาดลเงยหน้าขึ้นมาถามเพื่อนทั้งสอง แล้วก้มหน้าทำงานต่อไป

                   เรื่องไหนที่กูอยากรู้กูก็ต้องรู้ โดยเฉพาะเรื่องของมึง ว่าแต่งานใกล้เสร็จยังเพื่อน พริษฐ์ถามขึ้น

                   ทำไมจะไปไหนกัน ศิลาดลถามต่อ

                   ก็ไปสถานที่ที่เราเคยไปไง...แต่คราวนี้เปลี่ยนที่ใหม่โว๊ย... วันก่อนกูไปลองมาแล้วเด็ดๆ กันทั้งนั้นเลย นี่มึงรู้มั้ย...หน้ามัธยมแต่อกมหาลัยเลยว่ะ เสียงพริษฐ์เอ๋ยขึ้น ตาเริ่มเคลิ้มคิดถึงภาพสาวๆ ขึ้นมา

                   ระวังเถอะมึงกรงเจ้าขุนทองจะถามหา ทีนี่ล่ะมึงกูไม่ไปเยี่ยมนะ ยุติวิชญ์พูดขึ้น

                   เออใช่...ถึงกูจะชอบ...แต่ไม่เอาด้วยหรอกนะมึง ศิลาดลรีบพูดเสริมขึ้นมา เพราะเขาเห็นด้วยกับคำพูดของ
    ยุติวิชญ์ และที่สำคัญเขามีคนที่เขาติดใจอยู่แล้ว คิดๆแล้วเขาก็อยากจะไปหาเธอตอนนี้เลย ติดแต่ไอ้ตัวยุ่งสองคนที่มันพากันโผล่หัวมาไม่รู้เวลาล่ำเวลา

                   แปลกว่ะไอ้ดล...ปกติมึงชอบเด็กไม่ใช่เหรอ พริษฐ์ถามขึ้นอย่างแปลกใจ ปกติถ้าเขาชวน มีหรือคนอย่างมันจะชักช้า แต่นี่วันนี้หมอนี่กลับปฏิเสธ นี่เพื่อนเขาสติดีอยู่หรือเปล่า

                   กูชอบแต่ไม่ใช่เด็กมัธยม....กูชอบเด็กมหาลัย ศิลาดลรีบพูดขึ้นทันที ก่อนจะก้มลงสนใจงานที่ยังค้างอยู่ในแฟ้ม ปล่อยให้ไอ้เพื่อนตัวดีสองคนมันพล่ามกันเองแล้วกัน

                   เออ...ถ้างั้นไปมหาลัยก็ได้คืนนี้ถึงเช้า พริษฐ์พูดขึ้น ที่ถึงเช้าเพราะเขาทราบว่าเพื่อนเขาทั้งสองไม่ได้ไปทำงาน จึงทำให้พวกเขาสามารถที่จะอยู่เที่ยวถึงเช้าได้

                   เช้าเลยหรือว่ะมึง ศิลาดลถามขึ้น

                   ทำไมมึงมีปัญหาเหรอคราวนี้ยุติวิชญ์ เป็นผู้ถามบ้าง

                   พวกนายอยู่เถอะถึงเช้าน่ะแต่กูขอบาย...ไม่เอากับพวกมึงด้วยหรอกกูจะกลับบ้าน

                   เฮ้ย...ไอ้วิชญ์...หูกูฝาดไปหรือเปล่าว่ะ...ปกติจะได้ยินมันพูดว่า ไม่เช้าไม่กลับแต่นี่วันนี่มันจะรีบกลับบ้าน

                   เออ...หูพวกมึงไม่ฝาดหรอก...กูจะกลับบ้าน ศิลาดลพูดจบเขาก็จัดการปิดแฟ้มที่เปิดอยู่ลงและเก็บเข้าที่อย่างเรียบร้อย แล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูงพร้อมกับหันมาคว้าเอาเสื้อสูทที่วางพาดไว้กับเก้าอี้มาถือและเดินออกมายืนรอลิฟท์ เพื่อที่จะลงมายังลานจอดรถด้านหน้า โดยมีอนุชายืนรออยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว ศิลาดลดูเหมือนไม่ค่อยสนใจกับเพื่อนหนุ่มเท่าไรนัก แต่ก็ไม่เชิงจะละทิ้งมันแบบนั้นเดี๋ยวพวกมันจะเคือง เขาจึงได้แต่หันมาคุยกับเพื่อนหนุ่มทั้งสองว่า

                   ขอบายว่ะเพื่อน...วันนี้ไม่ไหว...ขอตัวกลับบ้านก่อน

                   เอ้า...เป็นงั้นไป เอางี้ดีกว่าถ้ามึงไม่ไป เดี๋ยวพวกกูไปบ้านมึงแทนก็ได้ ดีเสียอีกเมาเสร็จแล้วก็นอนมันซะที่นั้นเลย ไง...มึงว่าดีหรือเปล่ายุติวิชญ์ เสนอหนทางอีกทางหนึ่ง ซึ่งเป็นหนทางที่พริษฐ์เห็นดีด้วย แต่เจ้าของบ้านกลับไม่
    เห้นด้วยอย่างที่เพื่อนหนุ่มว่า ถ้าให้มันไปมันสองคนนี้จะต้องรู้เรื่องของเขากับแม่กระต่ายน้อยอย่างแน่นอน  

                   กูไม่ได้เชิญ คำเดียวสั้นๆห้วนๆ เหมือนมะนาวไม่มีน้ำจากศิลาดลที่หันมาพูดกับเพื่อนทั้งสองอย่างรวดเร็ว

                   กูว่ามันแปลกๆ นะมึง ร้อยวันพันปี มึงไม่เคยนึกที่จะกลับบ้านนี่หว่า กูว่าจะต้องมีอะไรซุกซ่อนไว้ที่บ้านอย่างแน่นอน ไม่งั้นมึงไม่ห้ามพวกกูไว้แบบนี้หรอกใช่มั้ยไอ้วิชญ์ เขาหันมาถามแนวร่วมอย่างยุติวิชญ์ และแนวร่วมถึงกับเออออห่อหมกผสมโรงไปกับเขาด้วย

                   ไม่มีอะไรแต่กูอยากพักผ่อน...พวกมึงไปไหนก็ไปเถอะวันนี้กูขอตัว ว่าแล้วเขาก็หันหลังเดินขึ้นรถกลับทันที ส่วนเพื่อนหนุ่มทั้งสองได้แต่มองตามหลังท้ายรถที่ลาลับจากไปแล้ว จากนั้นสองหนุ่มก็ขึ้นรถแล้วมุ่งหน้าไปยังสถานที่เที่ยวยามราตรีต่อไป

                  

    ภายในห้องที่มืดสลัว บนเตียงนอนขนาดใหญ่ยังคงมีร่างบางนอนคดคู้ ผ้าห่มขนาดใหญ่ที่หุ้มโอบรอบร่างบางไว้ ตอนนี้ได้ร่นลงมาอยู่ที่ปลายเท้า ทำให้มองเห็นเรือนร่างที่งดงามของเธอ ทั้งส่วนเว้าส่วนโค้ง เพราะชุดนอนที่แนบเนื้อ ทำให้ผู้ที่เข้ามาใหม่ถึงกับหายใจสะดุด ศิลาดลก้าวเท้าเข้าไปยืนใกล้ๆ และเพ่งมองร่างบางอย่างกับจะกลืนกินเธอเข้าไปทั้งตัว มันยิ่งทำให้ส่วนกลางเกิดความตื่นตัวขึ้นมาอีกครั้ง นับครั้งไม่ถ้วนที่เจอผู้หญิงก็ไม่ถึงกับมีความต้องการมากมายขนาดนี้ แต่นี่เจ้าหล่อนแค่นอนเฉยๆกลับทำให้เขาตื่นตัวขึ้นมาได้อย่างง่ายๆ ถ้าเจ้าหล่อนยั่วเขามากกว่านี้ เขาคงจะมิต้องตายคาอกสาวเจ้าเป็นแน่แท้ ว่าแล้วเขาก็ขึ้นคร่อมร่างเธอเอาไว้ทั้งตัว ทั้งมือ ปาก จมูก ช่วยกันประสานการทำงานเป็นอย่างดี มือหนาเริ่มเคลื่อนเข้าไปในร่มผ้า และเริ่มครอบครองบีบเคล้นคลึงจนมันเป็นตุ่มไตชูชันขึ้นมา ยิ่งเป็นการตอกย้ำกับความรู้สึกของชายหนุ่มเป็นอย่างมาก ปากหนาสวยของเขาเริ่มสำรวจตั้งแต่หน้าผากมนลงมาสู่เรียวปากงามของเธอ ลิ้นสากเริ่มรุกรานเข้าไปสำรวจความหอมหวานจากภายใน และดูเหมือนจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากเรียวปากอุ่นนุ่ม ลิ้นต่างเกี่ยวกระหวัดหยอกเย้ากันอย่างนัวเนีย

                   ถิรดานั้นเธอรู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังฝันหวาน ได้พบกับธารลำน้ำที่มันทั้งหอมหวานและรัญจวน ความรู้สึกเธอคือขอตักตวงความสุขที่มีอยู่ ณ ตอนนี้ให้สมกับที่ตั้งตารอคอย ความสุขที่เธอก็ยากจะบรรยาย  ส่วนคนที่ก่อกวนเธออยู่ในขณะนี้ก็กำลังสาละวนกับการถอดชุดนอนตัวสวยของเธอออกจากร่างบาง ส่วนหญิงสาวนั้นนอนหลับตาพริ้มปากสวยได้รูปกระจับฉีกยิ้มหวานออกมา มันยิ่งทำให้ศิลาดลถึงกับชะงักและหยุดมองเธออยู่ชั่วครู่

                   แม่กระต่ายน้อยของฉันเธอรู้ตัวบ้างมั้ยว่าตัวเธอน่าหม่ำไปทั้งตัว แล้วแบบนี้เธอจะให้ฉันปล่อยเธอไปได้ง่ายๆ ได้ยังไงกัน ยิ่งอยู่ใกล้ก็ยิ่งอยากได้ อยากครอบครอง ไม่อยากให้เธอต้องตกไปเป็นของใคร

    ศิลาดลได้แต่พูดพึมพำอยู่คนเดียว ศีรษะทุยได้รูปเริ่มก้มต่ำหาเป้าหมายที่ต้องการทันที นั่นคือ ทรวงอกอวบงาม ปากหนานุ่มเริ่มทำการสำรวจไปทีละข้างอย่างไม่รีบร้อนนัก แต่ดูเหมือนคนที่อยู่ใต้ร่างเขาตอนนี้เธอจะเริ่มขยับตัว เพราะความเสียวซ่านที่เขาได้มอบให้ ถิรดานั้นเธอรู้สึกเหมือนว่ากำลังมีอะไรสักอย่างมาทับตัวเธอเอาไว้ จนเธอไม่สามารถที่จะกระติกตัวไปไหนได้ และในที่สุดดวงตาคู่สวยก็รีบลืมตาตื่นขึ้นมาทันที และส่งเสียงร้องตะโกนพร้อมกับเริ่มลงมือทุบตีเขาขึ้นมา ศิลาดลเริ่มทนไม่ได้ และเริ่มไม่พอใจที่เมื่อเธอตื่นขึ้นมา...ก็เอาแต่ร้องและทำร้ายเขาแบบนี้ จนกระทั่งเขายอมตัดใจละริมฝีปากออกจากทรวงอกอวบทั้งคู่ แล้วเงยขึ้นมาสบตาเธอ แทน แล้วเขาก็พูดขึ้นว่า

                   ตะโกนอย่างกับหมูถูกเชือด...เธอจะแหกปากร้องทำไมเสียงเข้มดุเธอกลับไป

                   แล้วคุณเข้ามาในห้องฉันทำไม...แล้วยังมาทำแบบนี้กับฉันอีกเมื่อเธอตั้งสติได้ก็รีบว่าเขาออกไปทันที

                   ก็ตัวเธอมันเป็นสิทธิ์ของฉัน...ฉันต้องการเธอเมื่อไรฉันก็ต้องได้...อย่าลืมว่าเงินที่ฉันเสียไปฉันยังได้จากเธอไม่คุ้มเลย แล้วอย่าลืมว่าเธอมีหน้าที่บำเรอให้ฉันมีความสุข ...ไม่ใช่มาแหกปากร้องตะโกนอยู่แบบนี้

    ฉันว่าที่ฉันเสียไปมันคุ้มเกินคุ้มเสียอีก...คนเลวเธอว่าเขาแล้วน้ำตาเจ้ากรรมก็พาลรินไหลจนอาบแก้มทั้งสองข้าง

                   หยุดร้องเดี๋ยวนี้ถิรดา...ฉันไม่ชอบผู้หญิงร้องไห้เสียงคมเข้มตวาดขึ้น มันทำให้หญิงสาวถึงกับสะดุ้ง

                   ดี...ฉันจะร้องแบบนี้ ร้องไห้มันทั้งคืนทั้งวันไปเลย มันน้ำตาของฉันมันไม่เกี่ยวกับคุณ

                   เกี่ยวเพราะฉันรำคาญเขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แสดงความไม่พอใจต่ออีกฝ่าย

                   ถ้ารำคาญก็ออกไปซิ...

                   เรื่องอะไร...ฉันต้องทำตามที่เธอบอกด้วย...เธอไม่มีสิทธิ์มาสั่งฉัน...เธอแค่ทำตามความต้องการของฉันก็เป็นพอ คนอย่างเธอไม่มีค่าพอที่จะมาสั่งฉัน มือหนาของเขากระชับเข้าบีบข้อมือเล็กๆ ของเธอ เพื่อให้เธอรู้ว่าเขาเท่านั้นที่มีอำนาจเหนือเธอ

                   ผู้ชายอย่างคุณ ก็ดีแต่แต่ฉกฉวยเอาแต่ได้

                   หุบปากของเธอไว้ซะ แล้วไอ้ผู้ชายแบบไหนที่มันจะไม่ฉกฉวยเอากับสินค้าของมันบ้าง  รู้ไว้ว่าผู้ชายทุกคนมันก็เป็นแบบนี้แหล่ะ เธอตายอีกสักสิบชาติเธอก็ยังหาไม่เจอเลย แล้วไม่มีผู้ชายคนไหนหรอกที่ได้ผู้หญิงมาแล้วเก็บไว้บนหิ้งนะ ได้มาแล้วมันต้องใช้งาน มันจะได้คุ้นเคยกับสนามรบ เวลาออกไปมันจะได้กร้านโลก

                   เลว...ผู้ชายอย่างคุณมันไม่ตายดีแน่

                                   ขอบคุณนะ...คำชมของเธอซึ้งไปถึงใจฉันเลย แต่ฉันว่าคนที่จะตายก่อนตอนนี้ฉันว่าน่าจะเป็นเธอมากกว่า                      จบคำพูดแล้วเขาก็ไม่ปล่อยให้เธอได้ตั้งตัว ศิลาดลเริ่มทำการจู่โจมเชลยศึกทันที การลงโทษทัณฑ์ในครั้งนี้นับว่ามันช่างโหดร้ายเหลือเกิน ความบุ่มบ่าม กักขฬะ บวกความเอาแต่ใจ มันยิ่งทำให้เนื้อนวลของเธอช้ำหนักขึ้นไปอีก หนวดไรเคราที่เริ่มขึ้นน้อยๆ มันครูดไปกับเนื้อเนียนสวย มือเขาจับต้องไปส่วนใด ตรงส่วนนั้นมักจะแดงเป็นรอยปรากฏขึ้นให้เห็นทันตา แต่เขาก็หาสนใจไม่ ตอนนี้เขาสนเพียงแต่ว่าหญิงสาวจะต้องได้รับบทลงโทษจากเขา  และดูเหมือนว่าโทษที่เขามอบให้เธอนั้น ถิรดาเริ่มรู้แล้วมันเป็นยังไง มันทั้งโหดร้าย ผสมความข่มขื่น ความรุนแรงที่ถาโถมเข้าไปนั้น ถิรดาถึงกับกรีดเสียงร้องอย่างหนัก  เธอเริ่มที่จะรับมือเขาไม่ไหว แต่ด้วยความเอาแต่ใจเขาจึงไม่สนใจเสียงกรีดร้องของเธอแต่อย่างใด ดังได้ก็เงียบได้ ที่เงียบได้ก็เพราะปากหนาเข้าครอบครองเรียวบางนุ่มนั่นเอง..... บทรักยังคงดำเนินไปเรื่อยๆ ความอ่อนโยนเริ่มแทรกเข้ามาผสมกับความอ่อนหวาน ผลักกันรุกผลัดกันรับ จากเดิมทีหญิงสาวไม่เป็นอะไรเลยแต่ตอนนี้เธอเริ่มที่จะเรียนรู้ มือที่เคยอยู่นิ่ง แต่ตอนนี้กลับตวัดขึ้นโอบรอบลำคอของชายหนุ่ม จูบที่ไม่ประสาตั้งแต่ตอนแรก ต่อมาก็เริ่มรู้ที่จะหยอกล้อเล่นลิ้นกับเขาได้ ………….

                  

                   เช้าวันใหม่ของวัน  เริ่มขึ้นอย่างสวยสดงดงาม  ศิลาดลตื่นขึ้นมาก็เริ่มออกลวดลายเอากับหญิงสาวอีกครั้ง  และดูเหมือนว่าครั้งนี้เขาตั้งใจที่จะมอบความอ่อนโยนให้กับเธอเป็นพิเศษ ความสุขกำลังมาเยือน ถ้ามันไม่มีมารมาผจญซะก่อน จะเป็นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่ไอ้เพื่อนตัวดีของเขาสองคน ที่พากันโผล่หัวมาแต่เช้า ศิลาดลได้แต่อารมณ์หัวฟัดหัวเหวี่ยง เมื่อสร้อยขึ้นมาเคาะประตูตั้งแต่เช้า และบอกว่าเพื่อนเขาสองคนมาหาและต้องการพบชายหนุ่มด่วน ศิลาดลถึงกับกัดฟันกรอดเพราะความแข็งตัวของส่วนตรงกลางใจของเขามันบีบรัดจนชายหนุ่มเกือบจะทนไม่ได้ แต่ในที่สุดเขาก็ยอมตัดใจผละร่างออกจากร่างบาง

                   คอยดูนะพวกมึงถ้าไม่มีธุระอะไรสำคัญ เพื่อนก็เพื่อนเถอะมึงตายแน่ เขาพึมพำออกมา แล้วเดินเข้าไปจัดการชำระคราบไคลทันที ไม่นานเขาก็ออกมาในสภาพการนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียว ดวงตาคมเข้มไม่วายที่จะปรายตาไปมองแม่กระตายน้อยที่ยังคงนอนหลับตาพริ้มเพราะความอ่อนเพลีย จากศึกหนักเมื่อคืนยันเช้า ศิลาดลเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าและจัดการแต่งตัวอย่างรวดเร็ว และไม่ลืมที่จะเดินเข้ามาหาร่างบางที่กำลังนอนหลับ

                   แม่กระต่ายน้อยของฉันลืมตามาคุยกันก่อน ปากไม่พูดเปล่าแต่มือก็ใช่ย่อยเริ่มซุกซนกับเนื้อนวลที่ตอนนี้มันช้ำไปหมดทุกสัดส่วนของร่างกายสาว เมื่อเห็นรอยต่างๆ ที่เกิดขึ้นเขาถึงกับตกใจ นี่เขากลายเป็นเสือร้ายตั้งแต่เมื่อไหร่ ปกติเขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน แล้วนี่เขา....ความสำนึกผิดเริ่มเกิดขึ้น มือเรียวใหญ่ค่อยบรรจงคว้าร่างบางเข้ามากอดไว้แนบอก ริมฝีปากหนาเริ่มพรมจูบไปตามรอยแผลต่างๆ หนวดเคราของเขาเริ่มทิ่มแทง ทำให้เรียวปากบางถึงกับครางออกมาเบาๆ ด้วยความเจ็บ

                   เจ็บใช่มั้ยคนดี....นอนนิ่งๆนะเดี๋ยววันนี้ไม่ต้องลงไปข้างล่าง คนในอ้อมแขนได้แต่งึมงำในลำคอ เพราะในตอนนี้ร่างกายของเธอต้องการการพักผ่อนเป็นอย่างมาก หลังจากนั้นเขาก็จัดการวางหญิงสาวให้นอนในท่าที่สบาย ผ้าห่มผืนหนาถูกรวบขึ้นมาห่มให้ร่างบางทันที แล้วหลังจากนั้นร่างสูงเพรียวก็ก้าวออกจากห้องทันที .................

                    

     

    ******************************************

     

                   ศิลาดลเดินลงมายังชั้นล่างด้วยสีหน้าที่บ่งบอกว่ากำลังอยู่ในภาวะอารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เมื่อเขาลงมาถึงยังกลางห้องโถงขนาดใหญ่ ชายหนุ่มก็รีบเดินไปยังส่วนที่เป็นห้องรับแขกทันที  ซึ่งพริษฐ์และยุติวิชญ์นั่งรออยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว ศิลาดลเดินเข้ามาใกล้ยังคนทั้งสองด้วยสีหน้าบึ้งตึง แต่เห็นทีครั้งนี้สองหนุ่มหาได้สนใจในพฤติกรรมทางสีหน้าของเขาไม่ กลับพากันยิ้มหน้าระรื่นแทน พร้อมทั้งสภาพที่ดูไม่ได้ของพวกเขา มันทั้งยับยู้ยี่เหมือนผ่านศึกการใช้งานมาอย่างหนัก ทรงผมที่เคยดูดี ตอนนี้มันกลายเป็นรังให้นกมาศัยอยู่ได้เลย

                   อ้าว...ไอ้ดลเพื่อนร๊ากกกกก....ทำไมมึงลงมาช้าจังว่ะ....มัวทำอะไรอยู่...อย่าบอกนะว่ามึงพึ่งตื่นนอน เสียงของพริษฐ์ ดังขึ้น

                   แล้วมันเกี่ยวอะไรกับมึงด้วย ว่าแต่พวกมึงพากันมาบ้านกูอะไรตั้งแต่เช้า...บ้านช่องทำไมไม่รู้จักกลับกัน มึงเห็นบ้านกูเป็นอะไรนี่ศิลาดลตอบกลับ พร้อมกับยิงคำถาม.... ถามเพื่อนทันที แท้จริงแล้วใจของเขาอยากจะไล่มันสองคนกลับซะตอนนี้เลย

                   โอ๊ยไอ้พ่อบ้านพ่อเรือน...ทุย...ทำมาเป็นพูดดี เมื่อก่อนกูไม่ยักกะเห็นมึงจะอยู่ติดบ้านสักที สติดีอยู่หรือเปล่า ยุติวิชญ์ โต้กลับเพื่อนเจ้าของบ้านทันที

                   เออ...กูดีทุกอย่าง แล้วพวกมึงมีธุระอะไรกับกู ถึงบุกมาถึงบ้านกูนี่ เจ้าของบ้านหนุ่มพูดขึ้น

                   ไม่มีอะไร...พวกกูก็แค่คิดถึง ที่มึงไม่ได้ไปเที่ยวด้วยกันเมื่อคืน เช้านี้ก็เลยตั้งใจ แวะมาหา พริษฐ์ พูดขึ้นด้วยเสียงอ้อแอ้

                   กูไม่กินหรอกเช้าแบบนี้ เชิญพวกมึงสองคนตามสบาย กินเสร็จ แล้วก็ไสหัวไปไกลๆ ศิลาดลพูดขึ้น เขาทั้งสามคนเป็นเพื่อนที่สนิทสนมกันมาก ไปไหนต้องไปด้วยกัน ขนาดเรื่องผู้หญิงยังแบ่งพลัดกันชมได้ 

                   ปายได้ไงว่ะ...มึงไม่กินมึงก็ไปไกลๆเลยป๊ะ ...ทำหน้าเหมือนกับจะไปฆ่าใครเขาแบบนั้น...หน้าหรือตูดว่ะนั่น พริษฐ์ พูดว่าให้เจ้าของบ้านหนุ่ม 

                   เออ...ตกลงนี่มันบ้านใครกันแน่ว่ะ...เชิญตามสบายนะครับท่าน ศิลาดลว่าแล้วก็หันหลังเดินกลับ แต่เหมือนว่าเขาจะทันนึกอะไรได้ ก็เดินเลยไปยังห้องครัวเพื่อสั่งให้แม่บ้านจัดทำข้าวต้มให้สองที่ เสร็จแล้วให้เอาขึ้นไปให้ยังชั้นบน เพราะวันนี้เขาจะทานข้าวที่นั่น ส่วนเรื่องของหญิงสาวนั้นเขาสั่งห้ามกับทุกคนไม่ให้พูดอะไรทั้งสิ้น ถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากเขา เมื่อสั่งเสร็จแล้วศิลาดลก็เดินขึ้นตรงไปยังห้องที่หญิงสาวนอนอยู่ทันที ในมือของเขามีกล่องยาขนาดกลางพกถือติดมือเข้าไปด้วย  

                   และช่วงจังหวะนั้นถิรดากำลังจะลุกเดินไปเข้าห้องน้ำ ประตูห้องก็ถูกผลักเปิดเข้ามาพร้อมร่างสูง ถิรดาได้แต่ก้มหน้าไม่อยากมองหน้าคนใจร้าย  เธอเลยเบือนหน้าไปมองทางอื่น มันพลอยทำให้คนที่ตั้งใจจะมาทำแผลให้ถึงกับบดกรามกรอด

                   จะลุกขึ้นไปไหน... เสียงคมเข้มตวาดถามเธอขึ้นมา เธอได้แต่เม้มปากตัวเองไว้แน่น

                   ฉันถามก็ตอบมาว่าจะไปไหน

                   ไปเข้าห้องน้ำ เธอตอบโดยไม่ยอมหันกลับไปมองเขา

                   เธอพูดกับใคร...ฉันถามเธอนะ ...ไม่ใช่หน้าต่างถาม ถึงได้หันไปพูดกับมันแบบนั้น เออ เอากับเขาสิพาลอยู่ได้ ก็ฉันไม่อยากจะมองหน้าคุณมันก็เท่านั้น น่าจะรู้ดี ฉลาดไม่ใช่เหรอ คำพูดนี้เธอไม่กล้าพูดออกไปหรอก เพราะกลัวคอจะหัก และตายคาที่ซะก่อน 

                   เหรอ...ฉันนึกว่าหน้าต่างมันถามฉันซะอีก ถิรดาพูดประชดประชัน

                   ดูท่าน่าจะมีแรงแล้ว ถึงได้เสียงดีขนาดนี้ ทีเมื่อคืนไม่เห็นเป็นแบบนี้เลย ร้องเหมือนโดนอะไรถูกเชือด คำพูดที่เผ็ดร้อนโดนสาดใส่เธอทันที มันยิ่งทำให้ถิรดาอยากเอาโคมไฟโยนใส่หน้าเขานัก หน้าตาก็ดี แต่ความคิดสกปรก และเธอก็ไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับเขา ถึงเถียงไปก็ไม่มีประโยชน์ สู้เงียบๆ ไว้ เป็นดีที่สุด เมื่อคิดได้ดังนั้นแล้วเธอก็เดินเข้าห้องน้ำทันที เขาไม่พอใจอย่างแรง ที่เธอเดินหนีเขาเข้าห้องน้ำไปดื้อๆ เขาจึงเดินมาขวางหญิงสาวไว้ทันที แล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง

                   เธอมีสิทธิ์อะไรมาเดินหนีฉันแบบนี้ถิรดา

                   ฉันอยากเข้าห้องน้ำคุณศิลาดล ขอฉันเข้าห้องน้ำนะค่ะ ถิรดายอมพูดจาดีๆ กับอีกฝ่าย เพราะเธอขี้เกียจที่จะมายืนเถียงกับเขาแบบนี้ มันรังแต่จะทะเลาะกันหนักขึ้น

                   จะอาบน้ำเหรอ เสียงเข้มเริ่มอ่อนลงเป็นอย่างมาก

                   ค่ะ...ฉันอยากอาบน้ำ

                   ก็ดีจะได้มาทานข้าว เพราะฉันสั่งคนข้างล่างให้ยกมาทานข้างบนนี้ หญิงสาวได้แต่ยืนจ้องคนพูด นับว่าครั้งนี้เขาพูดดีกับเธอเป็นอย่างมาก และเมื่อเป็นเช่นนั้นเธอจึงเดินเข้าไปจัดการชำระทำความสะอาดร่างกายทันที ระหว่างที่เธอกำลังอาบน้ำอยู่นั้น ข้าวต้มร้อนๆ ก็ถูกยกนำมาเสริฟโดยสร้อยเป็นคนยกเข้ามา เมื่อสร้อยทำหน้าที่เสร็จ แล้วเธอก็เดินหันหลังกลับทันที แต่เดินไปยังไม่เท่าไหร่ เสียงห้าวของเจ้านายหนุ่มก็ดังขึ้น

                   เดี๋ยวสร้อย...บอกให้ป้าจันทร์ดูแลคุณวิชญ์ และคุณพริษฐ์ด้วยนะ

                   ค่ะ เมื่อรับคำสั่งจากเจ้านายเสร็จสร้อยก็รีบเดินลงไปบอกป้าจันทร์ตามที่นายสั่งมาเมื่อสักครู่ ส่วนแขกของเจ้านายนั้นตอนนี้สลบเหมือดไปทั้งสองคนแล้ว โดยได้รับการดูแลจากอนุชาซึ่งถูกประคองไปพักยังห้องพักรับรองแขก

                  

                   ศิลาดลระหว่างที่เขากำลังนั่งรอหญิงสาวอาบน้ำอยู่นั้นเขาก็นั่งจิบกาแฟพร้อมกับตรวจเช็คเอกสารที่
    นำติดมาจากที่ทำงาน เพื่อทบทวนตัวเลขบางส่วน ที่มันยังไม่ลงตัวดีนัก ไปพลางๆก่อน  จิบแล้วจิบเล่าที่เขาได้ยกกาแฟขึ้นมาจ่อที่ริมฝีปาก สายตาก็คอยแต่จะมองไปในส่วนที่เป็นห้องอาบน้ำ ป่านนี้หญิงสาวยังไม่ออกจากห้องน้ำ เขาจึงไม่รอช้ารีบเดินเข้าไปยืนหน้าห้องแล้วยกมือเคาะประตู รัวถี่ยิบ บ่งบอกได้ถึงอารมณ์ของคนเคาะว่าเป็นอย่างไร

                   ส่วนถิรดานั้นเธอกำลังเพลินกับการแช่น้ำนานๆ เพราะว่ามันทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลาย จนเผลอหลับคาอ่างอาบน้ำ เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้น มันไม่ได้ช่วยทำให้เธอตื่นขึ้นมาเลยสักนิด  ฟองสบู่ที่ฟูฟ่องมันเริ่มจางหาย เสียงผลักประตูอย่างแรงถูกเปิดเข้ามาพร้อมร่างสูง ที่บัดนี้กำลังยืนจังก้าเท้าสะเอวมองเธออยู่ ดวงตาคมเข้มเริ่มกวาดไล้ตั้งแต่ปลายเท้าจนถึงใบหน้างามที่ตอนนี้กำลังหลับตาพริ้ม ศิลาดลเห็นท่าไม่ดีจึงรีบช้อนตัวหญิงสาวขึ้นมา  แต่ตอนที่กำลังอุ้มเธอขึ้นมานั้น ดวงตากลมโตก็เบิกกว้างอ้าปากค้าง เตรียมประทุษร้ายเขาขึ้นมาทันที  และลืมไปว่าตนเองอยู่ในสภาพที่ไม่ดีต่อฝ่ายตรงข้าม แต่ก่อนที่เธอจะทำร้ายเขาเสียงห้าวก็ดุขึ้น

                   ลองตีดูซิ...ฉันจะโยนเธอลงพื้นตรงนี้นี่แหล่ะและสายตาของเขาก็เริ่มสำรวจมองร่างบางตรงหน้าด้วยสายตาที่เธอไม่อยากให้เขามองเลยจริงๆ ทั้งตัวมีแต่รอยฝีมือของเขา รอยจ้ำเป็นจุดๆ บางรอยก็เป็นสีเขียวเข้มๆ จางๆ บ้าง และบางรอยก็ยังเป็นรอยแดงใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น ถิรดาเริ่มไล้สายตาตามแววตาของเขา เมื่อเห็นว่าเขากำลังจ้องอะไร เธอก็รีบยกมือปิดในส่วนที่ล่อตาล่อใจเขาทันที อย่าบอกนะว่าเขาจะทำแบบนั้นเหมือนที่ผ่านมากับเธอ

                   ไม่อย่านะ... เสียงถิรดารีบร้องขอเขาขึ้นมาทันที ร่างหนารีบจัดการอุ้มเธอไปล้างน้ำสะอาดทันที มือหนาเริ่มไล้ครีมอาบน้ำลงบนตัวเธออย่างแผ่วเบา ส่วนเธอได้แต่ยืนแข็งและเกร็งอยู่กับที่ หน้าตาเริ่มร้อนและแดงตามมา ด้วยความอาย ตั้งแต่โตมาเธอไม่เคยจะอายอะไรได้มากเท่าครั้งนี้เลย จนในที่สุดเสียงแผ่วๆ ของเธอจึงดังขึ้น

                   คุณศิลาดล พอเถอะค่ะ แค่นั้นแหล่ะ ชายหนุ่มก็หยุดลูบไล้และเริ่มเปิดน้ำจากฝักบัวราดรดลงมายังตัวเธอทันที ไม่นานร่างบางก็ถูกเขาห่อตัวออกมาเหมือนตุ๊กตาล้มลุก ส่วนศิลาดลนั้นไม่ต้องพูดถึง เขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าเขายอมลดตัวเองลงไปทำแบบนั้นได้อย่างไร ร่างบางเริ่มดิ้นเพื่อที่จะให้เขาปล่อย เธอสามารถที่จะเดินเองได้ แต่คนตัวโตกว่าดูท่าจะไม่ยอม เขาก้าวเท้ายาวๆ แล้ววางเธอลงบนเตียงนอน การที่เธอถูกเขาใช้ผ้าพันเหมือนดักแด้มันทำให้เธอถึงกับล้มกลิ้งลงไปไม่เป็นท่า ส่วนเขานั้นได้แต่ยืนหัวเราะ ฮึ ฮึ ฮึ กับท่าทางของเธอ

                   คนบ้า...คุณแกล้งฉันเหรอเสียงหวานเหวใส่เขาทันที

                   เปล่า เธอทำตัวของเธอต่างหาก ฉันจะวางเธอดีๆ แล้วเธอไม่ยอมเอง แล้วเป็นไงกลิ้งไม่เป็นท่าเลยเขาพูดขึ้นส่วนเธอได้แต่เม้มปาก แล้วมองค้อนเขา ชายหนุ่มเก้ายาวๆ ไปหยิบกล่องยาแล้วเดินกลับมาหาหญิงสาวที่เตียง ซึ่งกำลังตะเกียกตะกายช่วยเหลือตนเองอยู่

                   มานี่...แล้วก็อยู่นิ่งๆ เดี๋ยวฉันจะได้ทายาให้เธอ

                   คุณทาทำไม...ฉันไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย เธอรีบแย้งเขาขึ้นมาทันที

                   ก็รอยที่ฉันทำไว้บนตัวเธอไง...ไหนกระเถิบเข้ามาใกล้ๆซิ เขาพูดขึ้นเหมือนมันเป็นเรื่องธรรมดา แต่สำหรับเธอมันไม่ธรรมดา แค่เขาอาบน้ำให้เธอก็จะตายอยู่แล้ว นี่จะมาทายาให้กันเลยเหรอ ไม่เอาเธอไม่เอาด้วยหรอก

                   ฉันไม่ทา เธอพูดขึ้นแล้วขยุ้มผ้ากำไว้ในมือเน้น เพราะเธอกลัวว่ามันจะหลุด

                   ฉันไม่ได้ให้เธอมาปฏิเสธ...แต่ฉันให้เธอทำตาม ขยับเข้ามาถิรดา อย่าต้องให้ฉันต้องใช้กำลังกับเธออีกหรือว่ายังๆไม่เข็ด เสียงเขาพูดขึ้น

                   ไม่...ถ้าฉันอยากทาดี๋ยวฉันจัดการของฉันเองได้เมื่อเธอพูดจบ เรียวขางามก็ถูกมือหนาจับที่ข้อเท้าแล้วออกแรงดึงร่างงามเข้ามาใกล้ๆ แล้วมือหนาที่ว่างอีกข้างก็จัดการดึงผ้าเช็ดตัวที่ห่อร่างของเธออยู่ออก แต่มือบางรีบตะบบผ้าเช็ดตัวเอาไว้ เพราะกลัวมันหลุดออกมา

                   คุณศิลาดล คุณอย่าทำแบบนี้นะ

                   ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเธอสักหน่อย เธอนี่มันจริงๆ เลย บอกให้อยู่นิ่งๆ ไงล่ะ หรือว่าชอบให้ใช้กำลัง เขาพูดขึ้นพร้อมทั้งจ้องหน้าเธอ หญิงสาวได้แต่ส่ายหัวจนผมนุ่มสวยกระจายพริ้ว เธอไม่ชอบวิธีการลงโทษของเขาเลยสักนิด

                   ดี...ถ้าไม่อยากให้ใช้กำลังก็ทำตามที่ฉันบอก เอามือของเธอออกจากผ้าสิ ถ้าเธอไม่อยากเห็นว่าฉันทำอะไรกับเธอ ก็หลับตา เขาสั่งขึ้น แต่มือเล็กบางยังไม่ยอมทำตามที่ชายหนุ่มบอก จนมือใหญ่ต้องลงมือจัดการดึงมือของเธอออก และเริ่มคลี่ปมผ้าออกจากร่างเธอ ผ้าผืนใหญ่ร่นลงมาอยู่ที่บั้นท้ายงามงอนของเธอ เผยให้เห็นทรวงอกทรวงอกอวบอิ่มเคลื่อนลงตามจังหวะการหายใจของเจ้าตัว สายตาคมเข้มจ้องมองภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า ใบหน้าคมเข้มก้มลงแล้วใช้ริมฝีปากจูบละเลงไปรอบๆ ปทุมทันคู่งาม ถิรดานั้นถึงกับขนลุกซู  มือเล็กเรียวของเธอรีบดันร่างเขาออกทันที แต่คนตัวใหญ่ดูท่าจะไม่ยอม จัดการจับมือทั้งสองข้างของเธอไพล่หลัง ส่วนเขานั้นยังคงหยอกเย้ากับทรวงอกอวบอิ่มของเธอ 
    ถิรดาได้แต่นั่งกัดริมฝีปากตนเองเพื่อไม่ให้มันส่งเสียงครางออกไป

                   ฮือ...คุณปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ...คนฉวยโอกาส เสียงหวานพูดขึ้นอย่างยากลำบาก และปากนุ่มแดงของเขาก็ยอมผละออกจากทรวงอกคู่งามอย่างว่าง่าย

                   ก็เธออยากยั่วฉันเองทำไมล่ะ เขาพูดขึ้นด้วยสีหน้าเรียบๆ ส่วนถิรดานั้นได้แต่แค้นเคืองในใจ ใครเขาไปยั่วมีแต่คนอย่างคุณแหล่ะที่ชอบวางอำนาจใส่ฉัน ข่มแหงรังแกกันแบบนี้ เชอะมาหาว่าเรายั่ว แล้วมือบางก็ทำท่าจะรวบผ้าขึ้นมาปกปิดเนื้อตัวที่เปลือยเปล่า แต่เสียงเข้มดันมาห้ามเอาไว้ก่อน

                   ถ้าเธอปิด...ต่อไปเธอจะไม่ได้ใส่มันอีก ปากก็พูด ตาก็จ้อง มีสักครั้งมั้ยที่เธอจะได้อยู่สงบสุขกับเขาบ้าง อยู่ใกล้เขาเธอไม่เคยรู้สึกว่ามันจะปลอดภัยสักที ศิลาดลรีบจัดการทายาให้เธอจนทั่วทั้งตัว และเขายังช่วยเธอแต่งตัวจนเรียบร้อย จากนั้นจึงได้มานั่งทานอาหารที่โต๊ะริมระเบียงด้วยกัน ระหว่างที่นั่งทานอาหารอยู่ด้วยกันนั้น เสียงของเขาก็พุดขึ้นว่า

                   เดี๋ยวช่วยจัดกระเป๋าให้ฉันสัก 4-5 ชุดนะ เพราะฉันจะต้องเดินทางไปดูงานที่ต่างประเทศพรุ่งนี้

                   ค่ะ ถิรดาขานรับอย่างดีใจ ส่วนภาย ในใจเธอนั้นอยากจะให้เขาไปนานๆ เลยยิ่งดี เป็นปีเธอยิ่งชอบ

                   แต่ในระหว่างที่ฉันไม่อยู่...ฉันไม่อนุญาตให้เธอออกไปไหน...ถ้าขาดเหลืออะไรก็สั่งคนของฉันได้ หลังจากที่เขาพูดสั่งการกับเธอเรียบร้อยแล้ว เขาก็หันมาให้ความสำคัญกับข้าวต้มที่ตั้งวางเอาไว้ตรงหน้าเขาต่อ ส่วนหญิงสาวนั้นได้แต่นั่งเข้นเขี้ยวเขาในใจ

     

    *******************************************

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×