ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Sweet Serial Killer.

    ลำดับตอนที่ #31 : Ghost of You

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.26K
      161
      26 เม.ย. 63

    https://78.media.tumblr.com/c54463427cadd12772a0499e5d73f5fa/tumblr_oyv4zm1M8V1u8xq26o1_1280.jpg






    เขายืนอยู่ตรงนั้นราวกับรอการมาถึงของเธออยู่ก่อนแล้ว ทั่วทั้งตัวเปียกชุ่มโชกไปด้วยสายฝนไม่ต่างจากตัวเธอ ทั้งรูปร่างและหน้าตาล้วนเป็นบิลไม่ผิดเพี้ยน โดยเฉพาะดวงตาสีดำคู่นั้นที่เธอได้สบตาด้วยเมื่อเจ็ดปีที่แล้ว ทุกอย่างเกี่ยวกับเขาเป็นสิ่งโดโลเรสจำได้ขึ้นใจแม้จะอยากลืมแค่ไหนก็ตาม เขาเป็นคนเดียวกับที่เธอมองเห็นอยู่ทุกค่ำคืน เป็นเงามืดที่อยู่ในบ้าน เป็นปีศาจที่อยู่ในฝันร้าย และเป็นเนื้อร้ายที่แฝงอยู่ในจิตวิญญาณของเธอมาเนิ่นนาน


    ไม่จริง นายไม่มีอยู่จริง


    หญิงสาวพึมพำอย่างแผ่วเบา แม้ใจจะหวาดหวั่นแต่ก็ไม่คิดถอยหนี ดวงตาจ้องมองภาพหลอนตรงหน้าเขม็งราวกับว่ามันกำลังจะหายไปในอีกไม่ช้าเหมือนกับทุกครั้ง


    แต่เธอคิดผิด


    ภาพหลอนไม่ได้จางหายไป ตรงกันข้ามมันกับยิ้มเยาะ เสมือนหนึ่งรอยยิ้มของปีศาจร้ายที่กำลังประกาศชัยชนะของตนต่อมนุษย์ผู้โง่เขลา


    ไม่ค่อยเข้าใจที่เธอพูดเท่าไร แต่อยากบอกว่าฉันนี่แหละของจริงเลยที่รัก


    เสียงฟ้าร้องยังคงดังต่อเนื่องอยู่เป็นระยะ หากแต่เวลานี้ทุกอย่างช่างดูเงียบงันในความรู้สึก โดโลเรสสูดลมหายใจถี่รัวประหนึ่งคนกำลังจมน้ำ ความกลัวโหมกระหน่ำเหมือนไฟลามทุ่ง เธอนึกถึงภาพข่าวของบิลที่ได้เห็นผ่านหนังสือพิมพ์ พาดหัวข่าวเด่นหรา นักโทษฉกรรจ์หนีคุกลอยนวล ตำรวจยังตามจับไม่ได้ และเสียงของนักข่าวชายจากรายการข่าวภาคค่ำที่กำลังรายงานข่าวนักโทษหลบหนี พร้อมด้วยรูปของบิลที่ฉายขึ้นมุมซ้ายล่างของจอโทรศัพท์เก่ากึก ทั้งหมดนี้ย้ำเตือนให้เธอรู้ว่าครั้งนี้ไม่ใช่ภาพหลอน ไม่ใช่สิ่งที่เธอคิดไปเอง มันคือความจริง มันสิ่งที่เธอนึกกลัวอยู่ตลอด แต่ไม่เคยคาดคิดว่ามันจะเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้ รวดเร็วเหมือนงูเห่าที่แฝงตัวในพุ่มไม้หนาแล้วพุ่งเข้าฉกกัดเราเวลาที่เผลอไผล กว่าจะรู้ตัวอีกทีพิษก็ลามเข้าหัวใจถึงตายไปเสียแล้ว


    บิลเป็นงูเห่าตัวนั้น และเธอก็จะต้องตายโดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ ทั้งสิ้น


    นายหาฉันเจอได้ยังไง


    ก็ไม่ยากเท่าไร ไม่ค่อยมีคนอเมริกาคนไหนมีชื่อว่าโดโลเรส วินสตันหรอก บิลขยับตัวพิงกับตู้เย็นแล้วยกมือขึ้นกอดอก ในจังหวะนั้นเองที่โดโลเรสมองเห็นปืนพกที่เหน็บอยู่ตรงขอบกางเกงของเขาเต็มตา อย่างน้อยเธอก็ควรจะเปลี่ยนชื่อบ้างนะ


    เขาจ้องมองมาที่เธออย่างพินิจพิจารณา ราวกับสังเกตว่าตลอดหลายปีมานี้เธอเปลี่ยนไปยังไงบ้าง ดวงตาที่เหมือนจะมองอย่างทะลุปรุโปร่งทำให้โดโลเรสอึดอัด แต่ก็ไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว อันที่จริงเธอไม่กล้าแม้กระทั่งหายใจด้วยซ้ำเมื่อยืนอยู่ต่อหน้าสิ่งที่อันตรายที่สุดในโลกอย่างฆาตกรต่อเนื่อง จนกระทั่งตอนที่บิลทำเหมือนว่าจะเดินเข้ามาหา นั่นแหละที่ทำให้โดโลเรสชะงักพลัน และสองเท้าเผลอถอยหนีอย่างไม่รู้ตัว ภาวนาให้มีอะไรก็ตามมาขัดจังหวะชายหนุ่มไว้เสียที ซึ่งก็ดูเหมือนพระเจ้าจะยังพอมีความเมตตาอยู่บ้างที่ส่งใครบางคนเดินเข้ามาในห้องครัวของเธอ แต่เป็นความเมตตาที่สารเลวสิ้นดีเมื่อคน ๆ นั้นกลับเป็นลูกชายของเธอเอง


    โดโลเรสเคยคิดว่าการที่บิลปรากฏตัวต่อหน้าเธออีกครั้งเป็นความกลัวอย่างถึงที่สุดแล้ว แต่ในทันทีที่เห็นลูคัสยืนอยู่ต่อหน้าบิล เธอกลับนึกกลัวยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ ที่ผ่านมาเธอพยายามอย่างถึงที่สุดที่จะไม่ให้ลูคัสรับรู้ถึงการมีตัวตนของพ่อตัวเอง หลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงประหนึ่งเป็นคำต้องห้าม และบิลเองก็ไม่ได้รับรู้เช่นกันเรื่องที่เธอตั้งท้องหลังจากเขาถูกตำรวจจับ แต่ในทันทีที่ทั้งสองฝ่ายยืนอยู่ตรงหน้ากันและกัน เธอรู้ว่าบิลต้องรู้แน่ เพราะลูคัสเหมือนเขายังกับแกะ เหมือนมากเสียจนทำให้เธอกลัวที่จะมองหน้าลูกตัวเองบางครั้งเลยด้วยซ้ำ และบิลไม่ใช่คนโง่ เขาย่อมปะติดปะต่อเรื่องราวได้ง่าย ๆ และนั่นไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการให้เกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย ลูคัสไม่สมควรจะถูกลากเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องเลวร้ายเช่นนี้


    ภายในใจของเธอกรีดร้องโหยหวน กู่ก้องตะโกนให้ลูกชายหันหลังกลับไปซะ วิ่งออกไปจากบ้านนี้ให้ไว้ที่สุดอย่าได้หันหลังกลับมา แต่ทุกอย่างกลับพลิกกลับตรงกันข้าม เมื่อลูคัสไม่ได้มีท่าทีตื่นตกใจกับการเห็นคนแปลกหน้าแล้วรีบหนีออกไปอย่างที่โดโลเรสคาดไว้ แต่เขากลับยิ้มกว้างก่อนจะตรงรี่เข้าไปกอดชายอายุมากกว่าอย่างสนิทสนม


    โดโลเรสถลึงตามองสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไม่เชื่อสายตาแม้แต่น้อย นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันวะ?


    แม่ครับ ลูคัสหันมามองหน้าเธอ แล้วส่งเสียงเจื้อยแจ้วอย่างตื่นเต้น นี่ไงฮะพี่ชายที่ผมบอก


    เพียงเท่านี้โดโลเรสก็เข้าใจอย่างกระจ่างแจ้ง ทั้งหมดนี่ล้วนเป็นการวางแผนอย่างแนบเนียนของบิล เขารู้เรื่องราวทั้งหมดอยู่ก่อนตั้งแต่แรก เขารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเธอ รวมไปถึงเรื่องลูกที่เกิดมาจากเขา และเขาเองก็อยู่รอบ ๆ ตัวเธอและลูกมาตลอด โดยที่เธอไม่ได้รู้ตัวเลยสักนิดว่าฆาตกรที่เธอหวาดกลัวทุกลมหายใจอยู่ใกล้เพียงแค่เอื้อม เฝ้ามองดูเธอไม่วางตา และหยอกเย้าเล่นกับลูกของเธอใกล้ชิด หญิงสาวอดคิดไม่ได้ว่าสิ่งที่เธอเข้าใจมาตลอดว่าเป็นภาพหลอน แท้จริงแล้วอาจจะบิลตัวจริงมาตลอดก็เป็นได้ เขาอยู่ใกล้ตัวเธอเสมอ ถ้าเพียงแต่เธอใส่ใจกับสิ่งที่เห็นและใส่ใจกับสิ่งที่ลูคัสเล่าให้ฟังมากกว่านี้อีกนิด บางทีจุดจบอาจจะไม่ต้องกลายมาเป็นแบบนี้ก็ได้


    นี่เป็นความผิดพลาดที่โง่เง่าและไม่อาจให้อภัยได้เลย


    ลูคัส เข้าห้องไปซะ


    น้ำเสียงแข็งกร้าวจากผู้เป็นมารดาทำให้เด็กชายเริ่มรู้สึกกลัว ตรงกันข้ามกับบิลที่ยกยิ้มคล้ายกับว่ารู้สึกสนุก ฝ่ามือใหญ่โอบไหล่ลูกของตัวเองเอาไว้ ก่อนจะมองไปที่โดโลเรสอย่างท้าทายอยู่ในที


    จะไม่ให้ฉันได้มีโอกาสแนะนำตัวหน่อยเหรอโดโลเรส? ไม่สิ..ต้องเรียกว่าคุณแม่สินะ


    ไม่!”


    โดโลเรสตวาดอย่างเหลืออด และนั่นก็ทำให้เด็กชายวัยห้าขวบสะดุ้งโหยง ก่อนจะเบะปากราวกับจะร้องไห้ นั่นทำให้หญิงสาวที่กำลังโมโหในตอนแรกต้องใจหายวาบ เธอไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ลูคัสกลัวจนต้องร้องไห้ออกมาแบบนี้ หญิงสาวอยากจะเข้าไปปลอบลูกชายตัวเอง แต่ก็ตระหนักได้ว่าลูคัสกำลังยืนอยู่ข้าง ๆ กันกับชายที่เธอหวาดกลัวมาตลอด ชายที่เธอไม่แม้แต่จะอยากเฉียดเข้าใกล้เสียด้วยซ้ำ การเข้าไปหาลูกตัวเองจึงกลายเป็นเรื่องยากเย็นกว่าที่โดโลเรสคิดเอาไว้


    เธอครุ่นคิดอย่างลังเล แต่แล้วก็ตัดสินใจข่มความกลัวของตัวเองเอาไว้ ไม่ว่าอย่างไรเธอก็ไม่อาจปล่อยให้บิลดึงลูคัสเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องราวทั้งหมดอย่างเด็ดขาด และเธอก็ยินดีจะทำทุกอย่างให้ลูกชายของตัวเองปลอดภัยที่สุด หญิงสาวก้าวย่างเข้าไปหาลูคัสที่กำลังเสียขวัญจนน้ำตาคลอเบ้า ก่อนจะคุกเข่าแล้วสวมกอดเด็กชายเอาไว้แน่น โดโลเรสจูบขมับอีกฝ่ายแผ่วเบาอย่างปลอบโยน แล้วตระหนักได้ว่าบางทีนี่อาจจะเป็นการจูบลาครั้งสุดท้ายของเธอกับลูกก็เป็นได้


    แม่อยากให้ลูกกลับไปห้องนอนตัวเอง ล็อกประตูแล้วอยู่แต่ในห้อง ไม่ว่าจะได้ยินอะไรก็อย่าออกมาจนกว่าแม่จะไปหา โอเคมั้ย?” หญิงสาวกระซิบข้างหูเด็กน้อย และพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่หลุดร้องไห้ออกมาให้เขาต้องเสียขวัญไปกันใหญ่ โชคดีที่ลูคัสยังคงเป็นเด็กที่ว่าง่าย เขาพยักหน้ารวดเร็วก่อนจะออกไปจากห้องครัวทันที เหลือเพียงแค่เธอกับบิลตามลำพังเท่านั้น


    ตลอดเวลาโดโลเรสไม่แม้แต่จะเหลือบมองไปที่บิลแต่อย่างใด ถึงจะรู้ดีแก่ใจว่าเขายังคงจ้องเธออยู่ไม่วางตาก็ตาม เธอเพียงแค่มองดูลูกชายเงียบ ๆ จนมั่นใจแล้วว่าลูคัสจากไปแล้วจริง ๆ หญิงสาวถึงจะค่อยขยับตัวอีกครั้ง ร่างเล็กเดินตรงไปที่โต๊ะไม้ที่ถูกทาสีขาวสะอาดตาที่ตั้งอยู่กลางห้องครัว ที่จริงแล้วทุกอย่างในบ้านหลังนี้ล้วนสะอาดสะอ้านและเป็นระเบียบอยู่เสมอ เพราะเธอชอบที่จะให้ทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของตัวเอง จนกระทั่งวันนี้ทุกอย่างได้อยู่เหนือการควบคุมของเธอไปแล้วอย่างสิ้นเชิง ทั้งรอยเปื้อนน้ำบ้า ๆ ที่มีอยู่เต็มบ้าน ทั้งเรื่องของบิล หรือแม้กระทั่งอาการสั่นเทาของขาที่ยังคงไม่หยุดสักที ไม่มีอะไรที่เธอสามารถควบคุมได้อีกต่อไป โดโลเรสคิดอย่างเหนื่อยใจก่อนจะดึงเอาเก้าอี้สีเดียวกันกับโต๊ะออกมาแล้วนั่งลงอย่างสงบที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เธอไม่อยากให้บิลรู้ว่าเธอกำลังเข่าอ่อนเสียจนไม่มีแรงจะยืนได้อีกต่อไปแล้ว


    ไม่มีความจำเป็นต้องเอ่ยปากเชื้อเชิญ บิลก็ตรงไปนั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามโดยทันที ทั้งคู่ถูกขวางกั้นไว้เพียงแค่โต๊ะขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ภายในห้องนี้ ปืนสีดำมะเมี่ยมถูกวางลงบนโต๊ะ โดโลเรสเหลือบมองมัน เธอรู้ว่าเขาตั้งใจวางไว้เพื่อข่มขู่เธอ อย่าคิดตุกติกถ้ายังไม่อยากตาย


    หากยังเป็นเมื่อก่อน เธอคงมั่นใจว่าเขาไม่มีทางฆ่าเธอได้ แต่หลังจากการทรยศหักหลังครั้งสำคัญที่ส่งให้เขาต้องไปนอนในคุกหลายปี เธอก็ไม่มั่นใจเสียแล้วว่าชายคนนี้จะยังเป็นบิลคนเดิมหรือเปล่า และเธอก็ไม่คิดจะคาดหวังอะไรกับฆาตกรโรคจิตหรอก เพราะเขาทำได้ทุกอย่างที่ใครก็คาดไม่ถึงเสมอ ทั้งการฆ่าคนไปหลายศพ การแหกคุกด้วยการแสร้งทำเป็นฆ่าตัวตาย หรือแม้กระทั่งการที่เขาโผล่มาที่บ้านของเธอวันนี้ก็ตาม


    เธอดูมีความสุขดีนี่ บิลพูดด้วยน้ำเสียงธรรมดาทั่วไป เสมือนคนรู้จักที่ไม่ได้พบหน้ากันนานกำลังถามความเป็นอยู่ของอีกฝ่ายตามมารยาท โดโลเรสนิ่งเงียบ มันเป็นการแสดงการขัดขืนเล็กน้อยเท่าที่เธอจะทำได้ แสดงออกว่าไม่ได้เต็มใจจะอยู่ในการสนทนาครั้งนี้แม้แต่น้อย


    มีลูก มีบ้าน มีงานทำ และมีแฟนใหม่ น้ำเสียงเปลี่ยนไปแล้ว มันฟังดูเย้ยหยันชอบกล ดูไม่น่าเชื่อเลยว่าทั้งหมดนี่เป็นเธอ


    ถึงตรงนี้หญิงสาวก็ไม่อาจรักษาความสงบไว้ได้แล้ว เผลอหลุดแสดงอาการสั่นไหวเล็กน้อย ไม่ใช่เพราะความกลัว แต่เป็นเพราะโดโลเรสพึ่งจะตระหนักได้ว่าดีแลนจะต้องกลับมาที่บ้านนี้ในอีกไม่นาน ชั่ววูบหนึ่งโดโลเรสรู้สึกเหมือนมีความหวังขึ้นมา แต่ปืนกระบอกนั้นที่อยู่บนโต๊ะทำให้เธอหวั่นใจอีกครั้ง บิลไม่ใช่คนประมาท เขาฆ่าคนเป็นงานอดิเรกมาจนชำนาญเสียแล้ว เพียงแค่ปืนกระบอกเดียวในมือฆาตกร ฆาตกรก็สามารถทำได้ทุกอย่าง เธอจะรอความช่วยเหลือจากคนอื่นไม่ได้ เธอต้องช่วยเหลือตัวเองด้วย


    นานเท่าไรแล้วที่นายแอบดูฉันเธอตัดสินใจยืดเวลาด้วยการยอมเข้าบทสนทนา


    ก็นานพอจะเห็นทุกอย่างนั่นแหละ สีหน้าเขาเรียบเฉย ชั่ววูบหนึ่งโดโลเรสรู้สึกเหมือนได้กลับไปเห็นเขาเมื่อก่อนอีกครั้ง ชายที่เธอไม่อาจคาดเดาอะไรได้เลยผ่านสีหน้าเช่นนั้นเห็นแม้กระทั่งตอนที่เธอเอากับมันด้วย


    เวรเอ๊ย! หญิงสาวนึกอยากจะเป็นบ้าเสียให้ได้ เมื่อรู้ว่าคืนนั่นมันไม่ใช่ภาพหลอนอย่างที่เข้าใจไปเอง บิลยืนอยู่ตรงนั้นจริง ๆ อยู่ที่ริมหน้าต่างด้านนอกนั่น กำลังมองเธอกับดีแลนที่กำลังมีเซ็กส์กัน และสิ่งที่เธอทำก็คือการจ้องมองเขาอย่างไม่แยแส และยังท้าทายด้วยการครางให้เสียงดังเข้าไปอีก


    ไม่แปลกใจเลยที่บิลเลือกจะแสดงตัวออกมาตอนนี้ เพราะเธอเป็นคนที่ทำให้เขาเกิดอาการเหลืออดขึ้นมา เขาคงไม่ปล่อยให้เธอรอดไปได้เป็นครั้งที่สองแน่ และครั้งนี้ก็อาจจะรวมไปถึงดีแลนด้วย


    เมื่อรู้ว่าอย่างไรก็เลี่ยงไม่ได้ โดโลเรสจึงเลือกที่จะยอมรับมัน หญิงสาวพยักหน้าเชื่องช้า ราวกับจำนนต่อหน้าเขา และจำนนต่อชะตากรรมที่จะเกิดขึ้น ฉันไม่ใช่โดโลเรสคนเดิมอีกต่อไปแล้ว นายก็รู้ดีว่าเรื่องทั้งหมดมันเปลี่ยนไปตั้งนานแล้ว ตอนนี้ฉันมีลูก มีบ้าน มีงานทำ และมีแฟนใหม่ นี่คือชีวิตใหม่ของฉัน


    คำพูดของเธอก็ทำให้คนที่อยู่ตรงข้ามหลุดหัวเราะเสียงเบาราวกับว่าสิ่งที่ได้ยินช่างเป็นเรื่องไร้สาระจนไม่น่าเชื่อว่าจะมีใครพูดออกมา นิ้วยาวบรรจงหยิบปืนบนโต๊ะขึ้นมาอีกครั้ง ควงกระชับไว้ในมือ ดวงตาสีดำจ้องเขม็งมาที่เธอ เธอเคยเห็นดวงตาแบบนี้มาก่อน ดวงตาของจ่าฝูง


    เธอคิดว่าทั้งหมดนี่เป็นจุดจบแล้วเหรอโดโลเรส คิดว่านี่คือตอนที่แฮปปี้เอนดิ้งที่สุดเหรอ เขาหัวเราะอีกครั้ง คราวนี้มันฟังดูบ้าคลั่งเหมือนเสียงหัวเราะของปีศาจ เสียงหัวเราะในแบบที่เธอได้ยินในวันแรกที่เขาจับเธอขังอยู่ในชั้นใต้ดิน เรื่องนี้มันยังไม่จบง่าย ๆ หรอกที่รัก


    เธอควรจะรู้สึกกลัวหัวหดเมื่อตระหนักได้ถึงสิ่งที่เคยทำต่อตั้งแต่บัดนั้นมาจนบัดนี้ และรู้ว่าเขาพร้อมจะลั่นไกปืนปลิดชีวิตเธอได้ทุกขณะ เพื่อลงโทษให้สาสม เพื่อแสดงว่าตัวเองเป็นจ่าฝูง แต่ตอนนี้โดโลเรสกลับสงบกว่าที่คิดไว้ เพราะแม้จะตั้งตัวไม่ติดไปบ้าง แต่ก็รู้ว่าสักวันหนึ่งเหตุการณ์ทำนองนี้จะต้องเกิดขึ้น ใช่เธอรู้ ในส่วนลึกของจิตใจเธอรู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้วนับตั้งแต่ตอนที่เห็นเขาถูกจับขึ้นรถตำรวจวันนั้นแล้ว


    นั่นไม่ใช่จุดจบ นี่ต่างหากคือจุดจบ


    นี่คือจุดจบแท้จริง นี่คือโศกนาฏกรรม


    ช่วงเวลานั้นสายตาของหญิงสาวได้สบประสานกับคนตรงหน้า บัดนี้เธอไร้ซึ่งความหวั่นเกรงต่อความมืดมิดในดวงตาคู่นั้นอย่างสิ้นเชิง ไม่มีสิ่งใดให้เธอหวาดกลัวอีกต่อไป มันไม่ใช่การท้าทาย แต่เป็นการยอมรับต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้น ยอมรับต่อจุดจบที่มาถึง


    งั้นก็ลงมือเลยสิ ฆ่าฉันซะ


    เกิดความเงียบพักใหญ่ถัดจากนั้น ไม่มีการสนทนาอะไรต่อกัน นอกจากสายตาของคนทั้งคู่ที่ทดแทนคำพูดนับร้อยพัน จู่ ๆ สีหน้าของชายหนุ่มคล้ายกับว่าจะสับสน ก่อนที่มันจะกลายมาเป็นความว่างเปล่า ดวงตาสีดำคู่นั่นกำลังเหม่อลอย มีบางสิ่งบางอย่างกำลังอยู่ในความคิดของเขา พัวพันยุ่งเหยิงเหมือนกับสายหูฟังที่ถูกยัดลวก ๆ ใส่กระเป๋า และเขาก็พยายามอย่างหนักที่จะแก้ปมเงื่อนเหล่านั้นออก และในชั่วขณะที่ปมนั้นได้หลุดจากกัน บิลก็กลับมาเหมือนเดิมอีกครั้งหนึ่ง


    ว้าว เธอทำให้ฉันประหลาดใจได้เสมอเลยนะเขาลดปืนลง แต่ยังไม่ยอมปล่อยมัน รอยยิ้มคาดเดาไม่ได้พาดผ่านบนใบหน้าชั่วครู่ และโดโลเรสก็ไม่ชอบรอยยิ้มแบบนั้นเสียเลย แต่เธอก็รู้นี่น่าว่าฉันฆ่าเธอไม่ได้


    แน่นอนว่าเธอย่อมรู้สาเหตุนั้นเป็นอย่างดี อันที่จริงต้องเรียกว่าจดจำได้อย่างแม่นยำเลยด้วยซ้ำ แต่เพราะว่าตั้งตัวไม่ทันกับการแสดงออกของอีกฝ่าย โดโลเรสจึงเอ่ยออกไปโดยไม่รู้ตัว ทำไม?”


    ฉันมาที่นี่เพื่อที่จะมารับเธอคราวนี้บิลลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เงาร่างใหญ่โตของชายหนุ่มยืนค้ำหัวพาให้เธอรู้สึกเหมือนตัวเองเล็กจ้อยนิดเดียว เราจะหนีไปด้วยกัน


    ไม่ หญิงสาวส่ายหน้าฉับพลัน ก่อนจะลุกขึ้นบ้างแล้วถอยห่างจากอีกฝ่าย ความตื่นตกใจฉายชัดในสีหน้าเมื่อตระหนักได้ว่าสิ่งที่เขาต้องการคืออะไร


    เขากำลังจะพาเธอกลับไปลงนรกอีกครั้ง นรกที่เธอพยายามแทบตายในการหลีกหนีออกมา


    อย่าทำให้มันเป็นเรื่องยากไปหน่อยเลยน่าโดโลเรส


    ใช้เวลาเพียงครู่เดียว ชายหนุ่มอ้อมผ่านโต๊ะตรงมาที่เธออย่างง่ายดาย โดโลเรสยังคงถอยหนีอย่างลนลาน จนกระทั่งแผ่นหลังชนเข้ากับกำแพงห้องครัว ไม่มีหนทางให้หลบหนีต่อไปแล้ว


    และในตอนนั้นเองที่ร่างสูงใหญ่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ จดจ้องเธอประหนึ่งเป็นลูกไก่ในกำมือ


    ฉันรักเธอ และฉันรู้ว่าเธอก็รักฉัน เราจะหนีไปด้วยกัน ไปอยู่ในที่ที่เราสามารถรักกันได้โดยไม่ต้องมีใครขัดขวาง ไปสร้างครอบครัวใหม่ ทั้งเธอ ทั้งฉัน และก็ลูกด้วย


    ฉันทำแบบนั้นไม่ได้ จบประโยคนี้เสียงสะอื้นก็หลุดมาจากลำคอ แต่โดโลเรสก็แข็งใจกลั้นเอาไว้ พยายามอย่างที่จะควบคุมสติอารมณ์อันอ่อนไหวของตัวเองในเวลานี้ ไม่ จะร้องไห้ตอนนี้ไม่ได้เด็ดขาด เขากำลังล่อลวงเธอ และเธอจะให้ปีศาจชนะไม่ได้ ฉันไม่ได้รักนาย


    บิลไม่ได้ดูผิดหวังกับคำตอบ ตรงกันข้ามชายหนุ่มเผยรอยยิ้มออกมาอีกครั้ง มันเป็นเหมือนรอยยิ้มของผู้ใหญ่ที่กำลังเอ็นดูเด็กคนหนึ่ง เธอแน่ใจแล้วเหรอโดโลเรส


    เธออยากจะตอบคำถามนั้นด้วยการตะโกนใส่หน้าเขาว่าแน่ใจเสียยิ่งกว่าอะไรดี เธอไม่มีทางรักคนสารเลวอย่างเขาได้ลงหรอก ใช่ เธออยากพูดอย่างนั้นเหลือเกิน แต่เหมือนมีอะไรบางอย่างจุกอยู่ที่คอ อุดในหลอดลม ปิดกั้นความคิดไปถึงความคิดในสมอง ไม่ปล่อยให้เธอได้ส่งคำพูดออกไปได้


    โดโลเรสรู้ว่าเธอกำลังลังเลที่จะตอบคำถามของเขา


    เธอยังรักฉันไหม?”


    เขาพูดขึ้นท่ามกลางความเงียบงันอันน่าอึดอัด ดวงตาสีดำสนิทคู่นั้นเหมือนกับดวงตาของซาตานที่กำลังจ้องมองราวกับเธอเป็นลูกแกะตัวน้อย ๆ แต่ท่ามกลางสีสันแห่งความมืดมนอันไร้ที่สิ้นสุดในตาของเขา เธอสัมผัสได้ถึงความรู้สึกบางอย่างที่แฝงอยู่ในนั้น เป็นความรู้สึกอันลึกลับของเขาที่เธอไม่เคยเข้าใจได้เลยตลอดหลายปีที่ผ่านมา


    เธอเลือกที่จะหลบตาเขา ไม่ใช่เพราะความหวาดกลัว แต่เพราะเธอกำลังสับสน ว่าที่ผ่านมาสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับเธอเป็นความรักจริง ๆ หรือมันเป็นเพียงแค่ภาพลวงตา เหมือนสายลมอ่อน ๆ ในยามฤดูร้อนที่พัดผ่านมาเพียงครู่เดียวแล้วเลือนหายไปทิ้งไว้เพียงความหนาวเหน็บที่ทรมาน บางทีพระเจ้าอาจจะอยากลงโทษเธอกับบาปที่เคยกระทำด้วยการส่งปีศาจตัวนี้เข้ามาในชีวิตของเธอก็ได้


    หลังจากเผชิญกับความเลวร้ายทั้งหลายที่เขาได้เคยกระทำกับเธอ หลายครั้งที่เธอต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาในยามดึกจากฝันร้ายที่ตามหลอกหลอนด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเปจนแยกไม่ออกว่ารู้สึกอย่างไรกันแน่ จนทำให้ต้องตั้งคำถามกับตัวเองในใจว่า เธอยังรักเขาหรือว่าเกลียดเขากันแน่?


    แต่เธอก็ไม่เคยให้คำตอบกับตัวเองได้เลยสักครั้ง


    เธอหลับตาลง คิดคำนึงถึงช่วงเวลาอันงดงามก่อนหน้านี้ ช่วงเวลาก่อนที่ชีวิตของเธอจะเข้าสู่ความทุกข์ทรมานแสนสาหัส ช่วงเวลาที่ได้พบเจอกับเขาครั้งแรก มันเนิ่นนานจนเธอหลงลืมมันไปหมดแล้ว บางทีการนึกถึงอีกครั้งอาจทำให้เธอเข้าใจได้สักทีว่าภายในใจของเธอนั้นรู้สึกอย่างไรกันแน่


    ทุกเรื่องราวล้วนแจ่มชัดในก้นบึ้งแห่งความทรงจำ ไม่เคยถูกลบเลือนแม้จะพยายามมากแค่ไหนก็ตาม และกำลังไหลย้อนกลับไปสู่จุดเริ่มต้น ก่อนจะเผยส่วนออกมาทีละอย่างเหมือนรูปถ่ายในกล้องฟิล์ม เหตุการณ์ตั้งแต่วันแรกที่ได้พบเจอ ตั้งแต่ที่ได้พูดคุย ตั้งแต่ที่ได้จูบกัน ตั้งแต่ที่ได้เป็นแฟน เป็นความทรงจำของรักครั้งแรกที่งดงามเหมือนความฝัน ก่อนที่ทุกอย่างจะดิ่งลงสู่เหวนรก ในวันที่เธอรู้ว่าเขาคือฆาตกร ในวันที่เขาฆ่าคนทั้งโรงเรียน ในวันที่เขาขังเธอเอาไว้ที่ชั้นใต้ดิน


    เธอสมควรจะเกลียดชังเขากับทุกสิ่งที่เขาได้ทำลงไป และสาบานต่อพระเจ้าได้เธอพยายามอยู่เสมอที่จะเกลียดเขา เฝ้าตอกย้ำกับตัวเองทั้งทางความคิดและการกระทำตลอดเวลา เพื่อให้ตัวเองรู้สึกดีที่ได้แสดงออกว่าเกลียดชังและขยะแขยงคนสารเลวอย่างเขามากมาย เหมือนกับที่คนทั่วไปควรจะเป็นเมื่อได้เจอเหตุการณ์เลวร้ายเช่นเธอ แม้ที่จริงแล้วมันจะเป็นเพียงการปกป้องตัวเองจากความจริงที่เธอรู้ดีแก่ใจมาตลอด แต่ไม่เคยคิดจะยอมรับมัน


    ...เธอรักเขา


    ดวงตาสีดำสนิทคู่นั่นยังคงจ้องมองมาที่เธอ ดวงตาที่เหมือนกับล้วงลึกเข้าไปถึงข้างในจิตใจของเธอ รอยยิ้มยังคงประดับอยู่บนใบหน้าเขา เพราะเขารู้คำตอบทั้งหมดดีอยู่โดยไม่จำเป็นต้องให้เธอเอ่ยปาก


    และในอีกไม่ช้าเธอก็กำลังจะยอมแพ้ต่อปีศาจอีกครั้งหนึ่งแล้ว


    เสียงความเคลื่อนไหวดังแผ่วเบาจากประตูบ้าน และนั่นก็เพียงพอที่จะทำให้โดโลเรสได้สติกลับคืนมาอีกครั้ง ก่อนจะตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่าตอนนี้ดีแลนกลับมาถึงบ้าน เธอเรียนรู้ในเสี้ยววินาทีนั้นว่านี่เป็นโอกาสเดียวที่เธอมี โอกาสที่จะเอาตัวรอดไปจากบิล และทันทีที่คิดได้หญิงสาวก็ใช้ทีเผลอรีบผลักชายหนุ่มตรงหน้าออกไปทันที ก่อนจะวิ่งสุดฝีเท้าไปที่ประตูหน้าบ้าน หนีไปให้พ้นจากปีศาจ หนีให้พ้นจากขุมนรก


    บานประตูเปิดอ้าออก เธอมองเห็นสีหน้าที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจของดีแลนเบื้องหลังประตูนั้น โดโลเรสพยายามอย่างมากที่จะร้องบอกถึงอันตรายภายในบ้านกับอีกฝ่าย แต่ดูเหมือนทุกอย่างรอบตัวเชื่องช้าเหลือเกิน ประหนึ่งเทปเสียงที่ถูกกรอฟังซ้ำไปซ้ำมาจนยืดยาดฟังไม่ได้ศัพท์ เธอไม่ได้ยินแม้กระทั่งเสียงจากปากตัวเองด้วยซ้ำ สิ่งที่ได้ยินมีเพียงแค่เสียงอื้ออึงที่ดังอยู่ในหู


    จนกระทั่งเสียง ‘ปัง!’ ดังขึ้น



    _____________________


                 
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×