ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The love the dream to be.

    ลำดับตอนที่ #3 : [CHAPTER-3] เรื่องในอดีต

    • อัปเดตล่าสุด 15 มี.ค. 57


    [CHAPTER-3] 

    [b]เรื่องในอดีต[/b]   
          


                  ผมคิดทบทวนเรื่องนี้ซ้ำไปซ้ำมา ผมก็ไม่ใช่คนที่เชื่ออะไรง่ายๆ แต่หลังจากผมฝัน ฝันถึงเขาคนนั้น ผมเป็นคนมีเซ้นส์เรื่องความฝันตั้งแต่เด็กแล้วครับ เวลาฝันถึงอะไรมันมักชอบเป็นไปตามที่ฝัน  เหมือนกับรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า 
    ในใจผมแอบหวัง ... หวังว่าจะได้เจอเค้าจริงๆ
     

    "เราจะได้เจอกันไหมนะ รอยยิ้มอันอบอุ่นนั่นได้รับเท่าไหร่ก็ไม่รู้จักพอ"

     


    คุณเคยมีอาการอยากให้ฝันกลายเป็นจริง และอยากให้เรื่องจริงกลายเป็นฝันบ้างไหมล่ะครับ ?

     


    ผมเดินเข้าไปในห้องนอนแสนกว้างใหญ่ของผม แม่ผมกลัวว่าผมจะไม่มีที่นอนกลิ้งหรือยังไงกัน ลองเอาคนมานอนเรียงกันคงนอนได้เป็นเกือบสิบยี่สิบคน   ผมหยิบโทรศัพท์เปิดดูข้อความ พบว่า แฟนของผมโทรหาผมเป็นสิบสาย ผมจึงรีบโทรกลับ

     

     

    " ตื๊ด......ตื๊ด.......” ผมรอให้ปลายสายรับ


    “ ฮัลโหล เวล เป็นยังไงบ้าง อาการไม่สบายดีขึ้นหรือยัง ? "\


    "คุณรู้ได้ยังไงครับ ว่าผมไม่สบาย ?"


    "ก็คุณแม่บอก คุณแม่ของเวล มาถึงที่นี่ตั้งแต่เมื่อค่ำวานแล้วหนิ่ครับ เวลไม่รู้หรอ "


    "แม่ไม่เห็นบอกผมเลย อ่อ ขอบคุณนะครับจีซัส ที่เป็นห่วง " แก้มผมยิ้มแทบปริ เนื่องจากได้รับความเป็นห่วงของอีกคนที่รู้สึกเหมือนมันขาดหายไปนาน


    "พรุ่งนี้ว่างมั้ยครับ ... ผมจะชวนมาทานข้าวที่บ้านผม พรุ่งนี้.. " ผมเอ่ยถามสุดที่รักของผม


    " แค่นี้ก่อนนะครับเวล ผมต้องรีบเคลียร์งาน  ตู๊ด...ตู๊ด...ตู๊ด..." พรุ่งนี้วันครบรอบของเรานะครับ...


    “เห้อ เป็นแบบนี้อีกแล้วสิ่นะ ปีที่แล้วก็ไม่ว่าง “ ผมแค่อยากได้อะไรๆเหมือนเดิมกลับมา  

     


                   หลังๆมานี่ผมเริ่มชิน ชินกับการกระทำและงานที่ไม่ว่างของเขา ผมคิดว่าเค้ากำลังสร้างอนาคตของเราอยู่ พอนึกถึงอนาคตของเรามันก็ทำให้ผมยิ้ม 
    วันครบรอบของผมกับเขาคือวันคริสต์มาสนี่แหล่ะครับ เรารู้จักกันมานานแล้วที่มาที่นี่เค้ามาทำงาน ส่วนผมมาเรียน เราสัญญาว่าจะอยู่ด้วยกันหลังผมเรียนจบ แล้วก็เมื่อเค้ามีความก้าวหน้ามากกว่านี้

     

                  ย้อนกลับไปตอนนั้น  ตอนที่เราเจอกันครั้งแรกๆ ผมยังจำได้ดี   แถวโรงเรียนของผมสมัยมัธยม ชอบมีเรื่องยกพวกตีกันบ่อยๆ  เวลาผมเดินกลับบ้านผมก็ต้องระมัดระวังตัวอย่างดี   บ้านผมก็ไม่ใช่ร่ำรวยถึงขั้นมหาเศรษฐี  แต่ก็ถือว่ามีอันจะกินอย่างมากเลยทีเดียว  คุณแม่ผมจะให้คนขับรถขับไปรับไปส่งผมไปโรงเรียน  แต่ผมไม่อยากทำตัวเป็นคนพิเศษต่างจากพวกเพื่อนๆ  แล้วอีกอย่าง  บ้านผมก็อยู่ใกล้โรงเรียนซะด้วย   เค้าเป็นรุ่นพี่ของผมที่โรงเรียน

     


                  วันนั้นมีเหตุการณ์โรงเรียนข้างๆ  ยกพวกตีกับอีกโรงเรียนหนึ่ง  แล้วบังเอิญเพื่อนสนิทผม  อยู่ในกลุ่มนั้นด้วย  เป็นเพื่อนสนิทที่สนิทกันมาตั้งแต่สมัยอนุบาล  กำลังโดนรุมด้วยอีกฝ่าย  ผมจึงรีบวิ่งเข้าไปช่วยเพื่อนผม ฝ่ายพวกมัน 3 – 4 คนเข้ามาล้อมพวกผมทั้งสองคน 


                  หมัดหนักของมันซัดเปรี้ยง!    เข้าหน้าผม ในขณะที่ผมยืนกันเพื่อนไว้ พวกมันเริ่มเข้าใกล้มาเรื่อยๆ จนผมต้องเอามือป้องกันใบหน้า  ผมรู้แล้วว่ายังไงผมก็สู้ไม่ได้  เอาหล่ะวะ  ยอมรับชะตากรรม  ผมกอดกับเพื่อนผมแน่น แล้วจีซัสเค้าก็เข้ามาช่วยผมและเพื่อนจากพวกนั้นได้ 

     

                  นั่นคือความประทับใจแรกที่เกิดขึ้นกับผม หลังจากนั้นผมและเค้าก็เริ่มสนิทกันขึ้นมาเรื่อยๆ  เมื่อก่อนเค้าอยู่กับผมตลอดเวลา คอยไปรับไปส่ง แต่ผมก็ไม่ได้ว่าถึงเรื่องการเปลี่ยนแปลงหรอกนะครับ คนเราก็เปลี่ยนแปลงกันทั้งนั้น อยู่ที่ว่าเปลี่ยนแปลงมากหรือน้อยก็เท่านั้นเอง

     


    [center]ตอนนี้ผมได้คำตอบกับเรื่องของเมื่อเช้าแล้ว
    สรุปผมคงฝันละเมอเดินไปห้องครัว
    ข้าวต้มถ้วยนั่นแม่ก็คงเป็นคนทำนั่นแหล่ะครับ  คงเป็นคนอื่นไปไม่ได้

     

    ถ้าผมมีคนดูแลเหมือนในฝันก็คงดีหน่ะสิ่  ฝันของผมอาจจะเป็นแค่ความต้องการส่วนลึกในใจของผมก็ได้…[/center]

     


                  ป่านนี้คุณแม่ของผมคงชอปกระหน่ำแล้วหล่ะครับ เธอมาทีไรเธอชอบออกไปชอปปิ้งซื้อนู่นนี่ตามสไตล์แล้วก็ชอบเอามาอวดผม  ถ้าคุณจอแม่ผมไปคุณจะติดใจ ผมนึกถึงภาพแม่ผมแล้วผมก็อดขำไม่ได้


                  มาพูดถึงอาการไม่สบายของผมบ้างดีกว่าครับ  อาการไม่สบายของผมดีขึ้นแล้ว แต่ยังมีอาการปวดหัวเล็กน้อย ผมนั่งกอดเข่ามองหิมะที่ยังคงตกอยู่ที่หน้าต่าง ทำไมผมเหงาจัง.. รู้สึกเหงา ...  ถ้าผมมีใครซักคนให้แนบอิงพิงไหล่ก็คงดี

     

     

    ระหว่างที่ผมคิดอะไรเพลินๆ และฟุ้งซ่านอยู่นั้นคุณนายอิงอรก็เข้ามา

     

     

    " เวลคัม สุดที่รักของแม่ คิดถึงจังเลยจ้ะ นั่งคิดอะไรอยู่เนี่ยเหม่อลอยเชียว  " คุณแม่ของผมเข้ามาพร้อมกับหอมแก้มผมฟอดใหญ่


    " แม่มาทำไมไม่บอกผมเลยล่ะครับ ผมก็คิดถึงแม่เหมือนกัน " ผมพูดพลางสวมกอดคุณนายอิงอรของผมแน่น


    "เวล นี่แม่ซื้อกระเป๋ามาใหม่ สีนี่สวยจับใจแม่มาก" เธอพูดพลางโพสต์ท่าแบบนางแบบในปกนิตยสาร


    "สวยมากเลยครับ คุณนายอิงอร " ผมแซวแม่   แม่ทำให้ผมหัวเราะได้ทุกครั้ง


    "ข้าวต้มที้แม่ทำไว้ให้ทานยังจ้ะ ลูกที่น่ารักของแม่ "  แม่พูดพลางหยิกแก้มผมทั้งสองข้าง


    “ยังเลยครับแม่  ผมทานไม่ค่อยลงเท่าไหร่ ผมกะจะออกไปข้างนอกด้วย ”


    “อ้าว  จะออกไปไหนล่ะลูก  ไม่สบายยังไม่หายดีเลยนะ”


    “ จุ้บจุ้บครับแม่  ”  ผมพูดพลางจุ้บแก้มคุณแม่  แล้วลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วออกไปข้างนอก

    ไว้ผมจะมาเล่าเรื่องของผมต่อนะครับตอนนี้ผมต้องออกไปทำธุระข้างนอกซะก่อน คิดถึงผู้อ่านทุกคนนะครับจุ้บพันครั้ง #เวลคัม


         [color=red]ป.ล.อยากได้คอมเม้นต์อะคอมเม้นต์ ...  อยากได้กำลังใจจากคนอ่านนน <3 #ไรท์เตอร์[/color]

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×