คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : กลับบ้าน
สนามบินสุวรรณภูมิ, ประเทศไทย, 2021 เวลา 13:30 น.
หญิงสาวรูปร่างสูงโปร่งที่ส่วนสูงราวๆ 170 เซนติเมตรสวมกางเกงยีนเข้ารูปกับเสื้อยืดสีขาวดูธรรมดาคอเสื้อเธอถูกเกี่ยวไว้ด้วยแว่นตายี่ห้อหนึ่งแขนข้างซ้ายถูกพาดด้วยเสื้อโค้ตตัวใหญ่ในมือจับกระเป๋าลากใบโต หญิงสาว ใบหน้าเรียวถูกปิดไว้ด้วยแมสก์และบนหัวเธอสวมหมวกแก๊ปธรรมดาแต่ทุกอย่างบนตัวเธอนั้นดูก็รู้ว่ามาจากแบรนด์ดัง เธอที่เดินออกมาจากฝั่งผู้โดยสารขอเข้านั้นเป็นที่สะดุดตาผู้คนที่ผ่านไปผ่านมายิ่งนัก
หญิงสาวคนนี้นั้นเธอคือ “ลักขณา พรเพ็ญพิระยะ หรือ ฟางเซียน” อายุ 26 ปี หลานสาวคนโตของตระกูลสืบเชื้อสายผู้ดีเก่าที่ไม่ได้มียศถาบรรดาศักดิ์ใดๆ ในสังคมที่สืบทอดมา สิ่งที่เธอมีคือตำราทำอาหารชาววังเท่านั้น แต่ครอบครัวเธอก็ยังเป็นที่นับหน้าถือตาของคนที่รู้จักกันในสังคมอยู่ด้วยฐานะครอบครัวและบิดามารดานั้นเป็นนักธุรกิจ
ครอบครัวของเธอประกอบไปด้วย น้องชายฝาแฝดของเธอ “รชานนท์ พรเพ็ญพิระยะ หรือ อี้หลง” ทั้งสองเป็นบุตรของคุณไรวินทร์และคุณยลรดี (ฟางหรง คุณแม่เธอเป็นลูกครึ่งไทยจีน) พรเพ็ญพิระยะ หลานคุณย่า กชมล พรเพ็ญพิระยะ เจ้าของร้านอาหารชาววังชื่อดังในกรุงเทพมหานคร
โดยเธอนั้นสนใจด้านอาหารและขนม ทั้งอาหารทั่วไปและอาหารชาววังเรียนรู้กับคุณย่าและฝั่งอาหารจีนที่เรียนรู้จากคุณแม่ของเธอมาตั้งแต่ยังเด็ก ด้วยความชอบด้านอาหารอีกทั้งยังมีความสนใจในอาหารและหลากหลายสัญชาติเธอจึงตัดสินใจไปเรียนด้วนการอาหารที่ฝรั่งเศส Le cordon bleu หรือ เลอ กอร์ดอง เบลอ เป็นสถาบันที่เธอเลือที่จะไปเรียนต่อ เป็นสถาบันสอนทำอาหารที่เป็นที่รู้จักในลำดับต้นๆ ของโลกเลยก็ว่าได้ โดยที่เปิดสอนการทำอาหารฝรั่งเศสให้แก่ผู้ที่สนใจมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1895 ที่กรุงปารีส ปัจจุบันมีอยู่ 35 แห่ง ใน 20 ประเทศทั่วโลกเป็นเครือข่ายสถาบันการศึกษาชั้นนำของโลก ที่มุ่งมั่นถ่ายทอดศาสตร์ด้านการประกอบอาหารและการโรงแรม ผ่านหลักสูตรการเรียนการสอนที่เปี่ยมด้วยคุณภาพและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล
ส่วนน้องชายเธอนั้นเป็นพี่น้องที่ไม่มีความเหมือนกันแม้แต่น้อยทั้งความชอบและอื่นๆ ยกเว้นหน้าตาที่มีความคล้ายกันมากที่สุดแล้ว แต่คล้ายที่ไม่ได้แปลว่าเหมือนละน่ะ น้องของเธอเลือกเรียนด้านบริหารซึ่งด้วยชอบเป็นส่วนตัวอยู่แล้วและก็เพื่อผิดชอบในส่วนของบริษัทต่อจากคุณพ่อคุณแม่
“ถึงบ้านแล้วสินะ”
เสียงใสที่เปล่งออกมาบอกกับตัวเอง เธอจากบ้านเกิดเมืองนอนไปศึกษาและหาประสบการณ์อยู่ต่างประเทศหลายปีเนื่องจากอยากรีบเรียนให้จบและหลายอย่างที่เธอเลือกที่จะศึกษาจากที่นั่นจึงไม่มีเวลาบินกลับมาประเทศบ้านเกิดเลยจนวันนี้เธอเรียนจบกลับมาแล้ว โดยที่ไม่ได้บอกคนที่บ้านว่าเธอจะกลับมาวันนี้
“เรียบร้อยนะครับ”
“ค่ะ ออกรถได้เลยค่ะ” หลังจากใช้บริการเรียกรถสาธารณะพร้อมปักหมุดสถานที่ที่เธอต้องการจะไปเรียบร้อยแล้วหลังจากที่คนขับช่วยยกกระเป๋าเธอขึ้นรถเธอก็บอกให้เขาออกรถในทันทีส่วนสัมภาระอื่นๆ นั้นเธอจัดการให้ส่งไปที่บ้านโดยตรงซึ่งจะถึงในภายหลัง
คฤหาสน์ตระกูลพรเพ็ญพิระยะ
“คุณหนู คุณหนูฟางเซียนหรือคะ” หญิงสาวลากกระเป๋าใบโตที่พกมาด้วยเข้ามาในเขตประตูก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคย
“ใช่ค่ะนมสายใจ ฟางเองคิดถึงนมจังเลยไม่เจอกันตั้งนาน” หญิงสาววิ่งเข้าไปกอดแม่นมของเธอคนที่เลี้ยงเธอมาตั้งแต่เล็กๆ ด้วยความคิดถึงแม่นมสายใจเป็นคนที่อยู่กับคุณย่ามานานตั้งแต่แม่นมยังสาวๆ อีกทั้งเป็นแม่นมที่เลี้ยงคุณพ่อของเธอมาและยังเลี้ยงเธอกับน้องชายของเธอด้วยเช่นกันว่าได้ว่าเลี้ยงตั้งแต่พ่อจนถึงลูกกันเลยทีเดียว
“แล้วนี่มาได้ยังไงคะ ไม่เห็นคุณท่านพูดถึงเลยว่าคุณหนูจะมาวันนี้”
“นมสายใจไม่ต้องสงสัยหรอกค่ะ ฟางไม่ได้บอกใครว่าจะกลับวันนี้เซอร์ไพรส์ทุกคนไงคะ”
“คุณหนูนะคุณหนู มันน่าตีจริงๆ เลย ถึงว่าพวกคุณ คุณไม่มีใครอยู่บ้านเลยสักคนเดียวทานอะไรมารึยังค่ะ”
“ฟางทานรองท้องมาบ้างแล้วล่ะค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นคุณหนูขึ้นไปพักผ่อนก่อนนะคะห้องคุณหนูนมให้คนทำความสะอาดไว้ตลอดเลย ของเดี๋ยวนมมาเรียกคนยกขึ้นไปให้”
“ขอบคุณค่ะนมเจอกันตอนเย็นนะคะ นมอย่าเพิ่งบอกใครนะคะ”
“ได้ค่ะ หนึ่งทุ่มตรงนะคะคุณหนูเดี๋ยวเย็นนี้นมทำของโปรดคุณหนูรอเลย” นมสายใจไม่ลืมย้ำเวลาตั้งโต๊ะให้คุณหนูฟัง
“ได้เลยค่ะ ฟางขึ้นไปก่อนนะคะ” ทั้งสองแยกย้ายกันโดยที่แม่นมของเธอเรียกสาวใช้ที่อยู่ใกล้ๆ ให้มายกช่วยกันของขึ้นไปข้างบนให้เธอ
.
.
ณ โต๊ะอาหารเย็นครอบครัวพรเพ็ญพิระยะ เวลาหนึ่งทุ่มตรงเป็นเวลาตั้งโต๊ะปกติของบ้านหากใครที่กลับมาช้ากว่านี้ถ้าไม่กินมาจากข้างนอกคงต้องไปรบกวนเหล่าแม่ครัวให้จัดเตรียมอาหารให้
“อ่าวคุณพ่อ คุณแม่วันนี้กลับมาเร็วนะครับ” บุตรชายคนเดียวของบ้านไม่วายเอ่ยขึ้นหลังจากที่เห็นบิดามารดาเดินเข้ามาในห้องอาหาร ปกติสองคนนี้ชอบถูกเชิญไปงานเลี้ยงจนแทบจะไม่มีเวลามากินข้าวที่บ้านอยู่แล้ว
“ว่าแต่พ่อกับแม่ แกก็เหมือนกันนั่นแหละ” ไรวินทร์ เดินเข้ามานั่งฝั่งขวามือของมารดาที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ ส่วนภรรยาเขานั้นนั่งลงข้าง ๆ ไม่วายเอ่ยตอบบุตรชายที่นั่งอยู่โต๊ะฝั่งซ้ายมือซึ่งเป็นที่นั่งของบุตรชายและบุตรสาว โดยตอนนี้มีเพียง รชานนท์ พรเพ็ญพิระยะ หรือ อี้หลง เนื่องจากบุตรสาวของเขานั้นอยู่ต่างประเทศยังไม่กลับมา
“เอาเถอะๆ กลับเร็วกันก็ดีแล้วนานๆ จะได้กินข้าวกินปลาพร้อมหน้ากัน”
“ใช่ค่ะคุณแม่ สองพ่อลูกนี่จริงๆ เลยเป็นต้องเถียงกันทุกที”
“เอาเถอะๆ ได้เวลาตั้งโต๊ะแล้ว สายใจจัดการเถอะ”
“ได้ค่ะคุณท่าน” "พวกเธอน่ะยกอาหารเข้ามา อาหารต่างๆ ที่สาวใช้ยกเข้ามาวันนี้นั้นทำให้ทุกคนบนโต๊ะอาหารแปลกใจเพราะมีทั้งแกงรัญจวน ต้มกะทิสายบัว แกงขี้เหล็ก ต้มยำกุ้งและอีกหลายอย่าง ซึ่งทุกอย่างนั้นเป็นของโปรดของคุณหนูฟางเซียนเกือบทั้งหมดเลยด้วยซ้ำ
“ทำไมวันนี้มีแต่ของโปรดยัยฟางทั้งนั้นเลยล่ะนมสาย” ผู้เป็นแม่อดสงสัยไม่ได้เมื่อเห็นอาหารที่วางตรงหน้านี้มีแต่ของบุตรสาวของเธอ
“นมคงคิดถึงพี่ฟางมากแน่ๆ เลยครับคุณแม่ ถึงทำแต่ของโปรดมาขนาดนี้ แบบนี้ผมน้อยใจนะครับ”
“เอ๊ะ เอ๊ะ เอ๊ะ ได้ยินว่าใครน้อยใจกันนร่าาาา มานี่พี่สาวจะกอดปลอบใจเอง”
“ยัยฟาง/ฟาง/ฟางเซียน”
“ทุกคนไม่ต้องเรียกหนูพร้อมกันขนาดนั้นก็ได้ค่ะ รู้ว่าคิดถึงกัน เป็นไงคะเซอร์ไพรส์ไหมคะ”
“ยังจะเล่นอยู่อีกกลับมาไม่บอกย่าบอกใครสักคน”
“งื้อออออ คุณย่าขา”
“ไม่ต้องมาอ้อนย่าโตจนหมากัดก้นไม่ถึงแล้ว นั่งลงกินข้าวก่อนเลยเวลามามากแล้วค่อยคุยกัน”
“รับทราบค่ะคุณหญิงกชมล พรเพ็ญพิระยะ”
“ตักข้าวเถอะ”
“ค่ะ คุณท่าน”
หลังจากที่ทานอาหารเสร็จทุกคนจึงพากันมานั่งที่ห้องรับแขกของบ้านเพื่อที่จะพูดคุยกับหญิงสาวที่กระทำการเซอร์ไพรส์ทุกคนโดยการกลับบ้านแบบไม่บอกไม่กล่าวใครเลยสักคน
“คิดถึงคุณย่าที่สุดเลยค่ะ” ตั้งแต่นั่งลงเธอก็กอดคุณย่าไม่ปล่อยเลยในใจคงคิดกลัวว่าผู้อาวุโสของบ้านจะน้อยใจเอาได้ที่เธอกลับมาแล้วแต่ไม่ได้บอกว่าท่านเลยต้องรีบง้อไว้เสียก่อน
“อ้อนคุณย่าเชียวนะพี่ฟาง กลัวคุณย่าดุให้ล่ะสิท่า”
“นั่นก็ส่วนหนึ่งเถอะ แต่หนูคิดถึงคุณย่าจริงๆ นะคะ”
“คิดถึงแต่คุณย่าแล้วแม่กับพ่อล่ะ ไม่คิดถึงเลยหรอยัยตัวแสบ”
“แสบที่ไหนกันค่ะคุณแม่ ฟางก็คิดถึงคุณแม่ คุณพ่อแล้วก็ทุกคนมากเหมือนกันนั่นแหละค่ะแต่ว่า…”
“แต่ว่าอะไรฮึ” คุณพ่อ
“ใช่ๆ แต่ว่าอะไรพี่ฟาง” รชานนท์
“แต่ว่า….หนูต้องการไปสมัครงานที่ร้านคุณย่าเลยกลัวคุณย่าไม่รับเข้าทำงานน่ะสิคะ”
“ถ้าคุณย่าไม่รับหนูเข้าทำงานหนูต้องกลายเป็นคนตกงานแน่ๆ เลยค่ะ”
“ลูกก็พูดไปเรื่อยอย่างคุณย่าของลูกน่ะหรอจะไม่รับลูกเข้าทำงาน กลัวหลานสาวไปร่อนใบสมัครงานที่อื่นเสียมากกว่าน่ะสิ”
“เอาเถอะๆ พูดเล่นเป็นเด็กไปได้แล้วนี่หลานมาถึงตั้งแต่ตอนไหนกลับบ้านมายังไง”
“ลงเครื่องตอนบ่ายค่ะคุณย่า แล้วก็เรียกรถรับจ้างให้มาส่งที่บ้าน”
“จะลำบากทำไมก็ไม่รู้ เกิดเป็นอะไรอันตรายขึ้นมาจะทำยังไงน้องชายเราก็มีทำไมไม่โทรหา”
“ก็หนูตั้งใจเซอร์ไพรส์นี่หน่า แต่คราวหลังจะไม่ทำให้ทุกคนเป็นห่วงแล้วค่ะ”
“รู้ตัวก็ดีแล้ว”
“ใช่ครับพี่ไม่ควรทำให้ทุกคนเป็นห่วง”
“จร่าๆ คุณน้องชายสุดหล่อคราวหลังพี่สาวจะไม่ทำอีกจร่า”
“พ่อว่าแยกย้ายกันไปนอนเถอะ ดึกแล้วคุณย่าจะได้พักผ่อนด้วย”
“ค่ะพ่อ ครับพ่อ”
“พ่อกับแม่ขึ้นไปพักผ่อนเลยนะคะเดี๋ยวหนูกับอี้หลงไปส่งคุณย่าเข้านอนเอง”
“ฝันดีค่ะ/ฝันดีครับ คุณพ่อคุณแม่”
“จร่ะ ลูกก็เช่นกัน ไปกับเถอะค่ะคุณ” “ครับ”
สองหนุ่มสาวหลังจากบอกลาบิดามารดาแล้วก็หันมาประคองคุณย่าเข้าห้องโดยที่มีแม่นมสายใจเดินเข้ามาด้วย
“คุณหนูก็ไปพักผ่อนเถอะค่ะ วันนี้เหนื่อยมาทั้งวันแล้วเดี๋ยวคุณท่านนมจัดการต่อเอง”
“ก็ได้ค่ะงั้นฝากนมจัดการด้วยนะคะ หลับฝันดีค่ะคุณย่ารักคุณย่านะคะ/หลับฝันดีครับคุณย่าผมขอตัวก่อนนะครับ”
“จร่ะ หลานไปพักเถอะ”
“เจอกันพรุ่งนี้ค่ะ ฝันดีนะคะนมสาย”
“ค่ะคุณหนู”
…………
ความคิดเห็น